ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic บุพเพสันนิวาส] กิจรักข้ามภพ - การะเกด x จันทร์วาด [เกศจันทร์วาด]

    ลำดับตอนที่ #1 : ริษยา

    • อัปเดตล่าสุด 18 มี.ค. 61


    ตอนที่ ๑ : ริษยา



           นามจันทร์วาดสดสวยประกายส่อง
           ยืนจับจ้องดูชายคู่หมายข้า
           ออเจ้าแลสุขฤทัยทุกเพลา
           แต่กับข้ามิใช่ดั่งนั้นเลย
           ตาดุดันกรีดกรายหาส่ายส่อง
           ละเมียงมองด้วยจิตริษยา
           งามชะม้อยมิด่างพร้อยเลยนา
           อ้ายอีใดกล้าชิงไปกูมิยอม!


          ดวงตากลมจิกแววคมกริบด้วยใบหน้าหยิ่งผยอง การะเกดจ้องสาวน้อยชะม้อยตายืนเคียงข้างชายร่างสูง พลันเชิดหน้าขึ้นอย่างอัดอั้น ความคิดตอนนี้มีเพียงความริษยาและเจ็บแค้น


         "อีผิน..อีแย้ม มึงสองคนมานี่!" สาวร่างสูงโปร่งเรียกบ่าวของตนโดยไม่ยอมละสายตาที่มองคู่ชายหญิงกำลังเจรจาคำหวานแก่กันตรงทางเดินจากบนเรือน พลางขยับมือเรียวกำหมัดแน่น


          "กะไรเจ้าคะ..แม่นาย" บ่าวสองคนเดินเข่าเข้าหานายของพวกตนก่อนจะนั่งพับเพียบเรียบร้อยประสานมือก้มหน้าอยู่ข้างๆการะเกด


          "แม่จันทร์วาดนะ แม่จันทร์วาด..เพลาอยู่กับคุณพี่พรายยิ้มอย่างมีความสุข..แต่กับข้าทำอย่างกับรังเกียจข้ามาแต่ชาติปางไหน เพราะเหตุใด!?" หญิงสาวที่แต่งทรงผมเป็นทรงมหาดไทยยาว โอดด้วยความขุ่นเคือง สายตาแม้จะไม่ได้จ้องไปที่ใครแต่ก็แลดุร้ายอย่างกับเสือ "ถ้าเช่นนั้น..ข้าจะทำให้นางกลายเป็นของข้า ไม่ว่านางจะเต็มใจหรือไม่"


            อีผินกับอีแย้มผงะอ้าปากค้างมองหน้ากันแวบหนึ่งก่อนพร้อมใจกันกอดขาแม่นายหมายอ้อนวอน


            "ม..แม่นายไม่เอานะเจ้าคะ!" อีแย้มเอ่ยพลางสะอื้นไห้ "มันผิดผี ผิดจารีตนะเจ้าคะ"


            "ทูลหัวของบ่าว เป็นอย่างอีแย้มมันว่า อย่าทำเลยเจ้าค่ะ" อีผินช่วยเสริมด้วยอีกคนแต่ไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้น กลับทำให้แม่การะเกดที่อยู่ในอารมณ์ขุ่นเคืองอยู่เดิมแล้วยิ่งทวีความเกรี้ยวกราดมากขึ้น


             ผลัก! ตุบ!


            เสียงเนื้อถูกกระทบตบตี ฝ่ามือฝ่าเท้าที่ไม่เคยทำงานหนักกระหน่ำฟาดลงตามร่างกายของสองบ่าวด้วยความเกรี้ยวกราดและรุนแรง ก่อนหยุดลงเมื่อนางสาแก่ใจ


            "มึง! มึงสองคนบังอาจมายั้งกู!" เจ้าของเสียงดุจ้องเขม็งที่ใบหน้าฟกช้ำของอีผินอีแย้ม พร้อมชี้นิ้วตวาดด่าทอ จนตัวผู้ด่าเองยังรู้สึกเหนื่อย "พวกมึงรีบตามกูไปที่คลอง "


            "ฮึก..ฮือ...เจ้าค่ะแม่นายการะเกด" แม้นจะถูกทารุณเจ็บเจียนตายบ่าวสองคนยังคงประสานมือก้มหน้ารับคำสั่งอย่างเคารพในตัวแม่นายของพวกตน ถึงการะเกดจะกระทำรุนแรงมากเพียงใด


            สามนาย-บ่าวเดินย่องตามกันไปยังริมคลองที่แม่จันทร์วาดต้องนั่งเรือผ่านเพื่อกลับเรือน การะเกดใช่ผ้าคลุมศีรษะปกปิดใบหน้า ตาคมมองซ้ายขวาอย่างระแวดระวัง


             "อีผิน..อีแย้มมึงสองคนไปนำตัวนางมาให้ข้า" การะเกดมองหญิงสาววัยละอ่อนไม่วางตา พลางเผยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ที่มุมปาก ถึงจะจิตใจหยาบกระด้าง แต่ส่วนลึกก็พร้อมจะมอบความรักให้กับใครสักคนเหมือนกัน เป็นเพราะกำพร้ามาแต่เด็ก ไม่เคยได้รับความรัก การะเกดโหยหาความอบอุ่นที่ไม่เคยสัมผัส นางจึงสามารถแสดงออกถึงความรักได้เพียงในรูปแบบของการได้ครอบครองเท่านั้น


             "ม..แม่นาย..อย่าเลยนะเจ้าคะ มันผิดจารีตนะเจ้าคะทูลหัว" นังผินรีบคุกเข่าก้มกอดขาการะเกดอ้อนวอนให้เลิกล้มความคิดผิดบาปเสีย


             "มึง! อีผิน มึงฟังกู กูสั่งกระไรมึงก็ทำ อย่าทำเสียเรื่อง!" มือแข็งแรงจิกทึ้งดึงผมของนังผินสุดแรงจนหน้าหงายไปตามแรงและตวัดมาชิดตัว ก่อนการะเกดจะผลักร่างนังผินไปใส่นังแย้มจนล้มลงไปกองกับพื้น เกลือกกับดินเปียกและใบไม้แห้งทั้งคู่ "พวกมึงไป..เอาตัวแม่หญิงจันทร์วาดมา ส่วนพวกบ่าวของนางฆ่าให้หมด"


              "ฮือ...เจ้าค่ะ"  บ่าวสองคนจำใจทำตามสิ่งที่แม่นายสั่ง ดำน้ำว่ายไปตามคลองมุ่งหน้าเข้าหาเรือที่สาวน้อยใสซื่อนั่งอยู่


              "ว..ว๊าย!!? " เสียงใสกรีดร้องอย่างตื่นตระหนก เมื่อเรือที่นั่งอยู่เกิดสั่นโคลงเคลงผิดธรรมชาติ มือน้อยสองข้างจับขอบเรือไว้แน่นแต่ก็ไม่ช่วยอะไร เรือทั้งลำถูกทำให้คว่ำ บ่าวของนางตกลงน้ำจมลึกลงไป มีเพียงแม่หญิงจันทร์วาดที่มีคนมาประคองแขนสองข้างไว้ แต่เพลาก็ค่ำมากแล้วจึงมองไม่เห็นได้ว่าเป็นผู้ใด


               ร่างเล็กถูกพยุงขึ้นมาจนอยู่บนฝั่ง ส่วนคนที่พานางขึ้นมากลับหายไปไหนก็ไม่รู้ ร่างกายบอบบางเหนื่อยล้าจากพยายามตะกายให้พ้นน้ำและความตกใจ จันทร์วาดซึ่งนอนหมอบอยู่บนพื้นค่อยๆลุกขึ้นนั่ง ก่อนจะได้พบกับสิ่งที่นางไม่คาดคิดมาก่อนว่าชีวิตนี้ นางจะได้ประสบพบเจอ


               ภาพแรกที่ตานางเห็นคือร่างของหญิงสาวสูงโปร่งยืนอยู่ตรงหน้า ด้วยความมืดจึงดูยากว่าเป็นใครหรืออะไร และในทันใดนั้นแขนเล็กๆที่อ่อนแรงข้างหนึ่งของจันทร์วาดก็ถูกบีบเข้าอย่างแรง


                "โอ๊ย! ออเจ้าเป็นใคร?" จันทร์วาดถามด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ ผมโซงโขดงทีาเกล้าไว้หลุดออกยาวคลุมไปทั้งแผ่นหลังของนาง "แล้ว..แดง..กับเหมือนล่ะ!? บ่าวของข้าปลอดภัยดีรึไม่"


                "ข้าเป็นใครงั้นรึ " อีกคนพูดด้วยความสะใจและเมินเฉยต่อคำถามทั้งหมด ก่อนใช้อีกมือปลดเข็มขัดทอง และดึงสายสังวาลย์คาดสไบทองที่ประดับกายแม่หญิงจันทร์วาดออกอย่างไม่รอช้า ซึ่งสร้างความวิตกให้กับเด็กสาวที่นั่งตัวเปียกชุ่มอยู่


                  "ห..หากออเจ้าอยากได้เครื่องประดับเหล่านี้ ก็เอาไปเถิด อย่าทำร้ายข้าเลย" แววตาใสซื่อมองอ้อนวอนคนตรงหน้า "ออเจ้าจะเอากำไลแขนของข้าไปด้วยก็ย่อมได้"


                 "ของพวกนี้ข้ามิได้ต้องการดอกแม่หญิง" การะเกดเอ่ยพลางไล้หลังมือสัมผัสเรียวหน้ารูปไข่ของผู้หญิงอายุมากกว่าตรงหน้า ความรู้สึกอ่อนไหวมันมากเสียจนกานะเกดหายใจกระเส่าออกมาโดยไม่ตั้งตัว เพียงสัมผัสเนื้อเนียนใจของนางก็เหมือนกับถูกละลาย นี่น่ะหรือคือความรัก

     
                 "อือ..อึก" จันทร์วาดสะบัดหน้าหนีมือที่ให้สัมผัสคล้ายโลมเลียนาง ใจคิดว่าเป็นหญิงเหมือนกันไม่น่าจะมีอะไรนอกจากการปล้นเครื่องประดับ


                 การะเกดไม่พอใจที่ถูกปฏิเสธ มือแข็งแรงบีบเข้าที่หน้าของจันทร์วาดสุดแรง ก่อนปล่อยให้ความรู้สึกนำพานางไป หน้าเรียวซอกไซร้คอของอีกคนด้วยกระหาย อยากครอบครอง กลิ่นหอมของน้ำอบถูกน้ำล้างออกไปจนเหลือเพียงกลิ่นจางๆยวนใจให้เคลิิบเคลิ้ม  ร่างเล็กดิ้นขัดขืนในขณะที่สไบของนางถูกกระชากออกไปเหลือเพียงผ้าคาดและผ้าซิ่นไหมที่ปิดบังเรือนร่างนวลเนียน


                  "หยุดนะ! ออเจ้าเป็นหญิง จะทำเช่นนี้ได้เช่นไร!? ว้าย!" จันทร์วาดขัดขืนสุดกำลังขณะเดียวกันตาก็พยายามมองว่าคนตรงหน้าคือใคร มือและเท้าตอนนี้ถูกใช้สะบัดไปมาแต่ก็ถูกคนที่แข็งแรงกว่าจับไว้ได้


                  "ก็ทำอยู่นี่อย่างไรเล่า! เหตุใดจักทำมิได้!?" 


                     ตึก! ตึก! ตึก!


                  "แม่หญิงจันทร์วาด! แม่หญิงจันทร์วาด!" เสียงเท้าของคนกลุ่มใหญ่ดังขึ้นพร้อมกับเสียงเรียก บางคนถือคบเพลิง บางคนก็ถือตะเกียง เพราะมืดมากแล้วหากจะตามหาก็ต้องใช้แสงสว่างมาก 


                   การะเกดตกใจกับเสียงนั้น เผลอหันหน้าไปมองกลุ่มคนที่เดินมาแต่ไกล และนั่นทำให้จันทร์วาดมองเห็นหน้าของเธอลางๆด้วยแสงไฟจากตะเกียงของคนที่ออกมาตามหานาง


                   "แม่การะเกด?.." จันทร์วาดไม่อยากเชื้อสายตาตัวเอง ได้แต่นั่งนิ่ง งุนงงกับสิ่งที่เห็น การะเกดเห็นท่าไม่ดีจึงรีบผละตัววิ่งหนีออกจากจุดนั้นอย่างไม่รอช้า


                    บ่าวไพร่กลุ่มใหญ่มองเห็นเงาคนนั่งอยู่ริมคลองจึงรีบวิ่งเข้าไปสำรวจทันที และเมื่อเห็นว่าเป็นแม่หญิงจันทร์วาดที่พวกเขาตามหา ก็รีบสั่งบ่าวผู้หญิงให้เข้าไปประคองแม่หญิงทันที


                    "แม่หญิงเจ็บตรงไหนหรือไม่เจ้าคะ? เหตุใดผ้าสไบจึงได้หลุดออกมาเช่นนี้" บ่าวหญิงคนหนึ่งถาม


                    "ข้าไม่เป็นอันใดดอกหนา..แล้วแดง..กับเหมือนล่ะ?" จันทร์วาดถามอย่างกังวล ร่างที่เปียกชุ่มถูกคลุมด้วยผ้าหนาอีกชั้นเพื่อกันไอเย็นในยามวิกาล


                    "ตอนนี้อีเหมือนปลอดภัยเจ้าค่ะ ..แต่อีแดง" บ่าวหญิงก้มหน้า

                    "โถ..แดง..ไม่น่าเลย" จันทร์วาดพูดด้วยใบหน้าหม่นหมอง

                     "เอาเถิดเจ้าค่ะ แม่หญิงปลอดภัยก็ดีแล้วเจ้าค่ะ ขึ้นเรือ..กลับเรือนเถิดนะเจ้าคะ"


                    "อืม ข้าไม่เป็นอันใดดอก" จันทร์วาดพูดกลบเกลื่อนด้วยสีหน้าไม่สู้ดีนัก ก่อนจะก้าวลงนั่งบนเรืออีกลำอย่างระวัง ใจนางคิดถึงแต่เพียงภาพใบหน้าของคนที่พยายามล่วงเกินนางซึ่งมันคล้ายกับแม่การะเกด คู่หมายของหมื่นสุนทรเทวาเหลือเกิน
     
                     "แม่การะเกด..."
             

    **จบตอนที่ ๑ : ริษยา**                   

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×