ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Yaoi] You who came from the stars :: LuBaek

    ลำดับตอนที่ #3 : ตอนที่ 2 .. [Yaoi] You who came from the stars :: LuBaek

    • อัปเดตล่าสุด 26 มี.ค. 57


     

    ต้องขอบคุณมันสมองอันชาญฉลาดของตัวเองที่ทำให้สามารถคิดหาทางออกที่ดีงามได้อย่างมีไหวพริบ แต่ที่มากไปกว่านั้นสิ่งต่อมาที่แบคฮยอนจะต้องรับมือคือการหาหนทางทำสิ่งที่เป็นนามธรรมให้กลายเป็นรูปธรรม




                    ...ควรให้ค่ายติดต่อ?...




                    ความคิดแรกที่ผุดขึ้นมาแต่ก็ทำเอาแบคฮยอนหงุดหงิดเมื่อมาคิดได้ว่า ขนาดตัวเองยังติดต่อคนในค่ายไม่ได้ มีหรือจะหาโอกาสให้เขาเข้ามาทาบทามคนไร้มารยาทนั้นเพื่อมาเป็นเมเนเจอร์หลอกๆ





                    ...เดินไปขอร้องให้ยอมเป็นเมเนเจอร์ให้พร้อมให้ค่าจ้างที่แพงกว่าคนอื่นๆสามเท่าตัว...





                    ความคิดที่สองดูหล่อรวยมีฐานะมากเสียทีเดียว เล่นเอาแบคฮยอนอยากจะเอาหัวตัวเองโขกผนังห้อง เนื่องจากที่นี่ราคาแพงลิบลิ่ว และมีแต่คนมีฐานะเท่านั้นที่อยู่อาศัย เรื่องใช้เงินฟาดหัวเป็นค่าจ้างดูท่าจะต้องใช้เงินจ้างกันหมดบัญชีแบคฮยอน เพราะฉะนั้น..ข้าม





                    ...มัดมือชกประกาศต่อหน้าสื่อ ให้สื่อตีข่าวแล้วค่อยว่ากันอีกที?...




                    ความคิดสุดท้ายนี่ดูจะโอเคที่สุดแล้วจริงๆสำหรับแบคฮยอน ก็ในเมื่อให้ค่ายเจรจาไม่ได้ จะให้ไปขอร้องเองหมอนั่นก็คงปิดประตูกระแทกหน้าใส่อีก ฉะนั้นแบคฮยอนจะใช้มารยาหนุ่มน้อยน่ารัก
    ฟรุ้งฟริ้งเข้าสู้ ด้วยการมัดมือหมอนั่นชกและประกาศบอกโลก






                    “เลิศ
    !!! แบคฮยอนตบเข่าดังฉาดก่อนจะลุกขึ้น คิดหาเรื่องให้ได้ขอความช่วยเหลือจากชายข้างห้อง ในหัวตอนนี้สาบานว่ากลวงไปหมด เอาหละนาทีนี้ตัวช่วยต้องมี บทละครเก่าๆที่ใช่อ่านเมื่อสมัยแบคฮยอนยังเด็ก คงต้องพึ่งมันเสียแล้วหลังจากที่ปล่อยทิ้งเอาไว้ในห้องใต้ดินหลายปี






                    วงการมายาของแบคฮยอนมีหรือเรื่องพวกนี้จะรอดพ้นเงื้อมือ หนังสือบทเล่มหนาที่ถูกจัดเรียงเอาไว้บนชั้นหนังสือถูกหยิบขึ้นมา
    ให้หนุ่มน้อยเจ้าบทบาทได้เลือกเป็นตัวช่วยให้แผนนี้สำเร็จ







                    นิ้วเล็กกรีดตามเนื้อกระดาษสีหม่นนั้นเร็วๆ จำได้ว่าบทที่ต้องการนี้อยู่ตอนที่นางเอกของเรื่องต้องการขอร้องให้พระเอกพาตนเองไปส่งยังโรงพยาบาล
    โดยที่บอกกับญาติของตนเองว่าพระเอกคือคู่รัก นี่แหละบทที่แบคฮยอนต้องการ







    แต่ต้องออกตัวก่อนว่าไม่ได้ประกาศให้ใครๆรู้ว่าเป็นคนรักลวงๆอย่างที่บนเขียนไว้หรอก หนุ่มชาญฉลาดแบบแบคฮยอนต้องรู้จักปรับใช้ ก็แค่บอกทุกคนว่าคนนี้เป็นเมเนเจอร์แทนที่จะบอกว่าเป็นแฟนก็เท่านั้น ส่วนเรื่องนักข่าวไม่ต้องกังวลใจ เพราะยิ่งเป็นเรื่องเจ็บป่วยใกล้ตายละก็นั กข่าวพวกนี้วิ่งมาไว้กว่าเรื่องชู้สาวอีก






                    ดวงตาเรียวรีกวาดตามเนื้อตัวอักษรอย่างช้าๆเพื่อท่องจำบทในหน้ากระดาษนั้นอย่างใจเย็น ริมฝีปากสวยค่อยๆท่องมันด้วยแอคติ้งเต็มเปี่ยม






                    “อ...โอ้ย...ปวด....ป...ปวดท้อง...ใครก็ได้...ช...ช่วยด้วย...” น้ำเสียงแผดดัง
    มือสองข้างเกาะกุมหน้าท้องประกอบราวกับไม่สบายจริงๆ แบคฮยอนค่อยๆทิ้งตัวลงบนพื้นห้องใต้ดินประกอบการซ้อมนี้ คิ้วเรียวเล็กขมวดเข้าหากันแนนเพื่อให้สีหน้าสมจริงมากที่สุดเท่าที่จะทำได้





                    “ฮ...ฮึก...ปวด...แม่ฮะ...เซฮุน...ช...ช่วยด้วย...แบคฮยอน...ไม่ไหว...ปวด...”แสดงออกมาได้อย่างไม่ขาดตก
    กายที่ทอดลงบนพื้นเย็นประหนึ่งมีกล้องสักสามสี่ตัวโฟกัสภาพของตนเองอยู่ ใบหน้าขาวที่หมอบราบลงบนพื้นกระเบื้องสีเข้มยิ่งทำให้แบคฮยอนอินกับบทที่ตนเองกำลังทดลองแสดงอยู่มากขึ้นไปอีก






                    งานทุรนทุรายมาแล้ว งานนอนบิดตัวปวดท้องกับพื้นก็มาแล้ว การโวยวายเสียงดังก็มาแล้ว งานน้ำตาเองก็ไม่รอช้า หล่นลงมาเหมือนสั่งได้








                    ต้องขอบคุณแม่ที่ส่งไปเรียนแอคติ้งคลาสตั้งแต่สมัยยังเด็ก ไม่งั้นล่ะก็บทเรียกร้องความสนใจรวบรัดตัดความคุณว่าที่เมเนเจอร์คงไม่เยี่ยมมากขนาดนี้







                    “ช...ช่วย....ช่วยด้วย
    !!! แบคฮยอนตะโกนลั่นเพื่อความสมจริง แน่นอนว่าผนังที่นี่เรื่องเก็บเสียงจัดว่าชั้นหนึ่ง เพราะฉะนั้นแหกปากเท่าไหร่ก็ไม่มีใครได้ยิน ไว้เดี๋ยวออกไปหน้าห้องคุณเพื่อนบ้านค่อยลองเล่นใหม่อีกรอบเอาแบบเต็มเม็ดเต็มหน่วย นี่แค่ทดลองเป็นผู้ปวดนะ บอกเลยถ้าเป็นละครหลังข่าวของเคบีเอสล่ะก็เรทติ่งแตะ20แบบไม่ต้องสงสัยชัวร์






                    “แบคฮยอน!!! เสียงเรียกชื่อด้วยน้ำเสียงเป็นกังวลดังขึ้นทำเอาแบคฮยอนสะดุ้งไปเล็กน้อย ใบหน้าที่อาบเอาไว้ด้วยน้ำตาเอียงขึ้นมองเจ้าของเสียงนั้นก่อนจะหยุดชะงักครู่หนึ่งเมื่อเห็นร่างของเพื่อนบ้านปรากฏออกมาห่างออกไปเพียงไม่กี่ก้าว








                    “ค....คุณ....” แต่ไหวพริบของแบคฮยอนก็จัดว่าดีไม่แพ้บทบาทการแสดง เพราะต่อให้ตกใจกับภาพของคนข้างบ้านที่จู่ๆก็โผล่มามากแค่ไหน อย่างไรเสียแบคฮยอนก็จะต้องให้อีกคนอุ้มตนเองไปส่งโรงพยาบาลให้จงได้ และสุดท้ายก็บอกกับทุกคนว่าคนที่พามาคือเมเนเจอร์เท่านั้นทุกอย่างก็จบ นอกจากจะได้แก้ข่าวเรื่องตำนานรัก
    18+ อันน่าขนลุกแล้ว ยังไม่ต้องเสียศักดิ์ศรีก้มลงขอร้องให้ใครนิสัยเสียอย่างหมอนี่ช่วยเหลืออีกด้วย (เพราะต่อให้ขอร้องจริงหมอนี่คงไม่ยอม)







                    “ป...ปวดท้อง...ช่วยด้วย...ฮะ” เสียงแหบ
    ร่าที่เค้นออกมาผ่านลำคอ จนแบคฮยอนรู้สึกแสบเล็กๆ ถ้าพรุ่งนี้ไปซ้อมร้องเพลงแล้วเสียงหาย จะโทษนายแล้วกันคุณเมเนเจอร์ แต่ไม่เป็นไรหรอก ยังไงถ้าประกาศต่อโลกเมื่อไหร่ คุณก็ต้องตกที่นั่งลำบากทำหน้าที่ดูแลผมจนหายอยู่ดี เพราะฉะนั้นเจ็บคอนิดๆหน่อยๆถือว่าคุ้ม








                    “ปวดตรงไหน? ตรงนี้เหรอ?” ลู่หานถามก่อนจะค่อยๆกดนิ้วสามนิ้วของตนเองลงบริเวณหน้าท้องที่ถูกกุมเอาไว้แรงๆ







                    “ปวด...โอ้ยคุณ...อย่า...” แบคฮยอนร้องลั่นเมื่อถูกแรงกดจากลู่หานบริเวณท้องด้านซ้าย น้ำตาที่คลออยู่บริเวณหางตาใกล้จะหยดยิ่งทำให้คนคนเจ็บดูน่าสงสารมากขึ้นอีกหลายเท่า







                    “ตรงนี้ปวดรึเปล่า?” ถามต่อเมื่อย้ายมือมากดอีกฝั่งของช่องท้องเพื่อสำรวจอาการของอีกคนเพิ่มเติม ลู่หานรู้ดีว่าอาการปวดบริเวณไหนเกิดจากสาเหตุอะไร เพราะเขาเองเคยเรียนเรื่องพวกนี้มาตั้งแต่สมัยมาอยู่บนโลกในช่วงแรกๆ






                    “ป...ปวด...คุณ...ปวดจะแย่อยู่แล้ว...ช่วยพาไปโรงพยาบาลหน่อยได้มั้ย...ก่อนที่ผมจะ....ฮึก...จะตาย...” เสียงวอนขอด้วยความยากลำบาก ในขณะที่ลู่หานยังคงวุ่นอยู่กับการสำรวจ
    อาการปวดของแบคฮยอน เขาพยายามกดท้องของคนเจ็บไปทั่วเพื่อหาสามารถที่แท้จริง แต่ดูท่าไม่ว่าจะกดตรงไหนแบคฮยอนก็ร้องไปเสียหมด จนสุดท้ายเขาเองก็จนปัญญา








                    “คุณเคยเป็นไส้ติ่งมั้ย? เคยผ่าตัดรึเปล่า? บอกผมหน่อย” ลู่หานถามคนที่เจ้าตัวกำลังอุ้มหลังจากที่ไม่สามารถรู้
    ที่มาของอาการปวดครั้งนี้ได้อย่างที่เจ้าตัวหวังไว้ แบคฮยอนที่บัดนี้ถูกอุ้มเอาไว้ด้วยสองแขนของลู่หานได้แต่ส่ายหน้าเบาๆเหมือนกำลังกลั้นความปวดของตนเองเอาไว้เงียบๆ








                    “คุณไหวใช่มั้ย? อดทนนะ เดี๋ยวผมจะรีบพาคุณไปโรงพยาบาล ถ้าปวดจนทนไม่ไหวรีบบอก เผื่อคุณจะเป็นไส้ติ่งอักเสบ” ลู่หานย้ำอย่างร้อนใจ ก่อนจะวางแบคฮยอนลงบริเวณที่นั่งด้านข้างคนขับ คนเจ็บ(ปลอมๆ)รีบพยักหน้ารับคำอย่างรู้งาน ดวงตาเรียวยังคงมีหยาดน้ำใสๆเอ่อคลออยู่ตลอดเวลา








                    ...แม่จ๋า
    แบคฮยอนของแม่ควรได้ออสก้า...







                    ว่าแล้วก็อดไม่ได้ที่จะอมยิ้มกับความเก่งกาจของตัวเอง แต่เพราะกลัวอีกคนเห็นรอยยิ้มนี้จึงหันหนีไปอีกฝั่ง
    เพื่อไม่ให้ลู่หานที่รับหน้าที่เป็นคนขับจำเป็นเห็นมันและจับได้ก่อนทุกอย่างจะสำเร็จ






                    “ปวดมากมั้ย? ปวดแบบไหน
    ยังปวดแบบเมื่อกี้รึเปล่า? มันมากขึ้นมั้ย?” คนที่ทำหน้าที่ขับรถยังคงถามอยู่เรื่อยๆเพราะเห็นว่าแบคฮยอนเบี่ยงหน้าหลบและไม่โวยวายเหมือนในตอนแรก ลู่หานเอื้อมมือไปแตะหลังมือขาวที่วางอยู่บนหน้าท้องของแบคฮยอนก่อนจะบีบมันเบาๆราวกับอยากให้อีกคนเข้มแข็ง








                    ...แหมะ...ที่
    ตอนนี้มาอ่อนโยน อย่าทำให้หลงกลหน่อยเลยคุณเพื่อนบ้าน...








                    แบคฮยอนได้แต่คิดในใจก่อนจะกรอกตาเป็นเลขแปดประมาณเจ็ดรอบครึ่ง จำได้ว่าก่อนหน้านี้นางปิดประตูอัดหน้าอยู่แถมยังตะโกนด่าปาวๆแบบไม่เป็นมิตร ทีแบบนี้ล่ะก็มาจับมือให้กำลังใจ อย่าว่างั้นงี้เลยพยอนแบคฮยอนคนนี้ไม่ได้เจ้าคิดเจ้าแค้นหรอกนะ ก็แค่
    จำแม่น







                    “ม...ไม่ฮะ...ไม่...” เจ้าคนปวดท้องหันกลับมาด้วยใบหน้าที่น่าสงสารไม่ลดน้อยลง สีหน้าชัดเจนขนาดนี้แบคฮยอนจะเอาถ้วยนักแสดงแห่งปี~







                    “อดทนอีกนิดนะแป๊บเดียว” ลู่หานบีบมือของอีกคนเบาๆ ก่อนจะเร่งความเร็วมากขึ้นกว่าเดิม แม่เจ้าแบคฮยอนไม่ชอบรถที่วิ่งเร็วๆแบบนี้เลยจริงๆ แต่เอาเถอะหลับหูหลับตาไปก่อน คิดซะว่าตัวเองเป็นนางเอกเดอะฟาสภาคล่าสุดก็แล้วกัน







                    ไม่นานรถยนต์ของคุณว่าที่เมเนเจอร์ก็จอดลงด้านหน้าของโรงพยาบาลอันดับหนึ่งของประเทศ ขอบคุณที่ระยะทางมันไม่ได้ไกลมากนัก เพราะแบคฮยอนจะได้ไม่ต้องแสดงละครยาวๆโดยไม่มีเสียงคัทจากผู้กำกับแบบที่เคยชิน





                    ลู่หานลงจากรถก่อนจะรีบวิ่งไปอุ้มแบคฮยอนออกจากที่นั่ง วิ่งตรงไปยังห้องฉุกเฉินโดยไม่รอช้า แบคฮยอนได้แต่ก้มหน้าเข้ากับอกของอีกคนเพราะไม่อยากแอบยิ้มให้คนรอบตัวเห็น จะให้อดได้อย่างไรในเมื่อสีหน้าของคนไร้มารยาทตอนนี้มันดูเต็มไปด้วยความกังวลจนรู้สึกได้







                    “เขาปวดท้องมากครับรบกวนคุณหมอช่วยตรวจอาการให้ด้วย” ทันทีที่ลู่หานพาแบคฮยอนมาถึงห้องฉุกเฉิน ชายหนุ่มก็รีบบอกกับพยาบาลหน้าห้องพร้อมวางแบคฮยอนลงบนเตียงคนไข้ สีหน้าที่เต็มไปด้วยความกังวลทำเอาแบคฮยอนรู้สึกผิดนิดๆ แต่ด้วยคำที่ว่า บอร์นทูบีเดอะสตาร์ ทำให้แบคฮยอนหยุดการแสดงลงก่อนจะจบไม่ได้จริงๆ






    ....................................................................




                     กว่าชั่วโมงที่ลู่หานได้แต่เดินวนไปวนมาหน้าห้องฉุกเฉิน หลายครั้งที่อยากจะพุ่งเข้าไปดูอาการอีกคนเพราะเป็นห่วง แต่ก็ต้องหยุดเอาไว้เนื่องจากกลัวรบกวนการทำงานของเจ้าหน้าที่ จนสุดท้ายบานประตูก็เปิดออกอีกครั้งพร้อมกับแบคฮยอนที่นั่งอยู่บนรถเข็น ลู่หานรีบเดินเข้าไปหาอีกคนด้วยสีหน้าคลายกังวลก่อนถาม






                    “หมอครับอาการของแบคฮยอนเป็นยังไงบ้างครับ” เพราะเห็นว่าอีกคนดูดีขึ้นจนเห็นได้ชัด เจ้าตัวจึงเอ่ยถามเพื่อให้คลายความกังวลลง






    ชายร่างสูงในชุดกาวน์อมยิ้มเมื่อได้ยินคำถามนั้นพลางหันกลับไปมองร่างที่กำลังนั่งเบียงหน้าหลบสายต่อล้อๆของคุณหมอก่อนบอก






                    “อาการทั่วไปปกติดีครับ ที่ปวดท้องหนักอาจจะเพราะท้องผูกน่ะครับ” ถึงตรงนี้แบคฮยอนอยากจะมุดดินหนีให้รู้แล้วรู้รอด ตอนแรกไม่มีหรอกนะอาการป่วย แต่พอหมอตรวจเท่านั้นแหละเจอเลย เรื่องขับถ่ายหมออย่าเอามาล้อได้มั้ย มันน่าบันเทิงตรงไหนตอบ
    !!!






                    “อ่อ...เหรอครับ...”







                    “ขอโทษครับ คุณแบคฮยอนนี่มาโรงพยาบาลกับคนที่เป็นข่าวใช่มั้ยครับเนี่ย” เสียงดังแทรกขึ้นมาขณะที่ลู่หานยังไม่ทันได้พูดอะไรต่อ เจ้าตัวรีบหันกลับไปหาเสียงของคนแปลกหน้า ก่อนจะมองบุคคลเหล่านั้นด้วยแววตาเรียบเฉยผิดไปจากเมื่อครู่






                    อยากจะยิ้มแล้วชูสองนิ้วให้กล้องจริงๆ แต่ทำได้เพียงแสดงสีหน้าสลดไปให้กลุ่มบุคคลที่วิ่งเข้ามาหาพร้อมกล้องในมือ มาแล้วซีนที่สองของวันนี้ จะได้ปิดจ็อบกลับบ้านไปนอนสบายๆโดยไม่ต้องแถลงข่าวให้เปลืองแรง






                    รอยยิ้มเบาบางถูกส่งออกไปให้แก่ผู้คนที่รายล้อมอยู่ตรงหน้า ก่อนที่แบคฮยอนจะหันไปหาคนที่ยืนอยู่ข้างๆแล้วยกยิ้มอย่างน่ารักให้แก่ลู่หานก่อนตอบ






                    “ลู่เมเนเจอร์น่ะฮะ พี่เค้ามาอยู่เป็นเพื่อน แย่จังเลยนะฮะ อยู่ๆก็มีข่าวไม่ดีจริงมั้ยฮะพี่” แบคฮยอนบอกขณะที่คว้าแขนของลู่หานเข้ามาเกี่ยวเอาไว้ประกอบ ใบหน้าที่แสร้งแสดงออกมาอย่างน่าเอ็นดูทำเอาคนมองอดไม่ได้ที่จะหลงเชื่อ





                    ลู่หานที่ยืนนิ่งเพราะไม่รู้จะพูดอะไรต่อหน้าคนเหล่านี้ ก้มลงมองเจ้าตัวร้ายที่เกาะแขนของตนเองเอาไว้เหมือนลังเลที่จะแก้ต่าง ก่อนถอนหายใจออกมาเพราะไม่สามารถเลี่ยงได้




                    “ครับ...ยังไงผมขอตัวพาแบคฮยอนกลับไปพักก่อนนะครับ ขอบคุณพี่ๆสื่อมวลชนทุกท่านมากเลยที่ให้ความสนใจอาการป่วยของแบคฮยอน” เอ่ยก่อนจะโค้งขอบคุณอย่างนอบน้อมในตอนท้าย พร้อมทั้งเดินอ้อมไปเข็นรถเข็นของคนป่วยมุ่งหน้าไปยังรถยนต์ที่จอดรออยู่ด้านหน้า โดยไม่ยอมให้สัมภาษณ์ใดๆกับสื่อที่มาทำข่าว





                    ...ขอบคุณนะคุณเพื่อนบ้าน...





                    แบคฮยอนที่ได้แต่บอกในใจเนื่องจากไม่สามารถแสดงท่าทางมีความสุขนี้ได้มากเท่าที่ต้องการ อยากจะกระโดดฟัดซักสองฟอดเป็นรางวัลที่คุณเพื่อนบ้านไร้มารยาทใจดีและยอมออกหน้าให้จนข่าวดังถูกแก้ภายในไม่กี่ชั่วโมง จะว่าไปก็ใจดีอยู่นี่นาคุณคนนิสัยไม่ดี ไม่เสียแรงที่อุตส่าห์ลากกลับมาดูแลที่ห้อง แม้ความจริงแล้วจะทำไปเพราะกลัวต้องอยู่ข้างบ้านผีสิงก็เถอะ






                    สุดท้ายลู่หานก็พาแบคฮยอนมาส่งที่บ้านพร้อมกับสีหน้าที่บอกบุญไม่รับ เขาไม่พูดอะไรเลยแม้แต่คำเดียวแม้ว่าจะเดินมาส่งถึงหน้าห้องก็ตามที เงียบเสียจนแบคฮยอนอยากจะหันไปถามให้รู้แล้วรู้รอดไป





                    ...ลืมปากไว้หน้าห้องฉุกเฉินเหรอ?...





                    แต่ความดีของหมอนี่มันค้ำคอเพราะฉะนั้นจะยอมใจดีด้วยและทำตัวดีๆให้สมกับการเป็นนักร้องอันดับหนึ่งของเกาหลีก็แล้วกัน ถือซะว่าเป็นแฟนเซอร์วิสให้เป็นของขวัญแล้วกันนะ





                    “กินยาถ่ายด้วยล่ะ...เดี๋ยวปวดท้องอีก” เหมือนผีเจาะปากให้พูดก็ไม่ปาน ว่าจะเอ็นดูแล้วนะ เจอคำลาแบบนี้ขอดีดปากซักทีได้มั้ย หน้าที่เคยยิ้มกลับมาบึ้งอีกครั้ง นี่จะไม่เลิกพูดเรื่องท้องผูกใช่มั้ย...





                    “รู้แล้ว” แบคฮยอนตวัดเสียงใสก่อนจะหันหลังเตรียมเข้าบ้านตัวเอง




                    “เดี๋ยว
    !





                    “อะไรอีก..ไม่เซลก้าด้วยนะ เดี๋ยวบริษัทดุ ลายเซ็นถ้าจะเอาก็เอากระดาษมาเร็วๆเวลาผมเป็นเงินเป็นทอง” บอกก่อนจะหันหลับมามองลู่หานด้วยหางตา แน่สิแบคฮยอนน่ะดังจะตาย นี่ถ้าหมอนี่เป็นผู้หญิงนะรับรองเกาะต้อยๆเข้าห้องไปแล้ว น่าเสียดายเหลือเกินที่เป็นผู้ชาย





                    “เปล่า แค่จะบอกว่า..”




                    “ว่า?” เลิกคิ้วมองเมื่อเห็นอีกคนลังเล





                    “ทีหลังจะออกจากห้องแปรงฟันก่อนนะ กลิ่นมันฟ้องว่าเมื่อคืนนายกินปลาหมึกย่างมา” ขอย้อนเวลากลับไปสองนาทีได้มั้ย แบคฮยอนจะถอนคำพูดไม่ควรใจดีกับงูพิษแบบหมอนี่จริงๆ





                    “เออ
    !!!! เหมือนถูกแหกหน้าจนยันเยิน จะสู้ก็ดูท่าจะไม่คุ้ม เอาเถอะวันนี้หมอนี่มีความดีหลงเหลืออยู่ แม้มันจะน้อยนิดแล้วก็ตามถ้าเทียบกับตอนแรก แต่ก็ถือว่ามันพอมี ไม่งั้นนะ ได้เจอลูกเตะพลังพยอนหน้าหงายแน่





                    เหมือนถูกลูบคมเพราะนอกจากจะโดนคนที่ไม่ชอบขี้หน้าล้อเรื่องท้องผูกแล้วยังโดนว่าไม่แปรงฟันอีก หมอนั่นกล้ามากนะที่ทำแบบนี้กับคุณชายพยอน กลิ่นปลาหมึกย่างแล้วยังไง นี่มันปลาหมึกย่างจากอลาสก้าเลยนะ ไม่รวยจริงซื้อไม่ได้นะโว้ย
    ! ไม่มีปัญญาซื้ออย่ามาทำปากดี





                    “ว่าแต่กลิ่นมันยังอยู่อีกเหรอ?” คิดถึงคำพูดสุดท้ายแบคฮยอนก็อดไม่ได้ที่จะลองดมดู โมเม้นที่ว่ากินอาหารแล้วกลิ่นติดปากมันดีงามจะตายไป จ่ายเงินทีเดียวมีกลิ่นกลับไปฟินต่อตั้งหลายชั่วโมง แม้ว่ากลิ่นมันจะไม่ได้เกิดจากการตกค้างจริงๆ แต่เป็นเพราะแบคฮยอนไม่แปรงฟันก็เถอะ โดยรวมแล้วมันก็ยังโอเคอยู่ดี





                    “อื้อหือ...ติดทนนานเกินกาลเวลาจริงๆ” เพียงยกมือขึ้นป้องปากแล้วเป่าลมให้กสะท้อนเข้าหน้า แบคฮยอนก็พบกับความสดชื่อกลิ่นมาดาม ไม่ธรรมดาจริงๆแบคฮยอนเอ๋ย...กลิ่นแบบนี้จัดว่าไม่ธรรมดาบอกได้คำเดียว






                    ...อ้วกแปร๊บ...





                    เพราะถูกตัวเองทำร้ายด้วยตัวของตัวเอง เล่นเอาอะไรต่อมิอะไรที่ซัดเข้าไปในท้อง ออกมาเซย์ฮัลโหลกับชักโครกจนหมดสิ้น เหลือก็แต่ไอ้ที่มันไม่ออกมาตามที่หมอบอกที่โรงพยาบาลนั่นแหละ เห็นทีจะต้องพึ่งยาอย่างที่คนไร้มารยาทนั่นว่า







                    “โอ้ย
    !!!! ชีวิตพยอน” แบคฮยอนโวยวายเสียงดัง เมื่อรู้สึกเสียหน้าที่สุดตั้งแต่เกิดมา แม้จะชื่นชมตัวเองเล็กๆกับบทบาทการแสดงระดับเหรียญทองในตอนแรก แต่สุดท้ายก็เหมือนถูกเอาน้ำสาดด้วยอาการท้องผูกจากปากหมอ และซ้ำร้ายเจอระลอกที่สองจากคำบอกของลู่หานเรื่องกลิ่นปลาหมึก






                    ...ถามว่านี่ใคร? พยอนแบคฮยอนมั้ย? พยอน-แบค-ฮยอน ที่ใครๆก็หลงใหลนะ
    !!!...







                    ถึงกระนั้นก็ทำได้เพียงหงุดหงิดอยู่คนเดียวเงียบๆ อย่างน้อยๆแผนก็ไม่ได้ล่ม เพราะฉะนั้นไม่น่าเสียใจมากเท่าไหร่ เนื่องจากได้แก้ข่าวเรื่องความสัมพันธ์
    18+ กับคนข้างบ้าน แล้วยังได้คะแนนสงสารจากพี่ๆสื่อ ปิดท้ายด้วยการทบทวนบทบาทการแสดงของตัวเอง ทั้งหมดทั้งมวลหักลบกันแล้วยังถือว่ากำไรนิดหน่อย เช่นนั้นจึงไม่น่าเสียใจ

                    






     



    โปรดติดตามตอนต่อไป


    ฮะ..อริ๊งงงงง


    บ่นคอมเม้นติชมได้ที่แท็ก

    #ฟิกต่างดาว

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×