ตอนที่ 70 : บทส่งท้าย...ปิดฝาแกลลอนรับความสุข (70%)
“หนูนา!” จิรเมธเอ่ยชื่อเธอเสียงขุ่น “ที่เธอพูดแบบนี้ เพราะตั้งใจเยาะเย้ยฉันรึไง?”
ชายหนุ่มมองหน้าเธอนิ่ง สิ่งที่เขาเห็นจากใบหน้าคมขำก็คือดวงตาแป๋วแหววที่จับจ้องเขาอย่างใจจดใจจ่อ คล้ายดังมิให้พลาดวินาทีแห่งความเจ็บปวดของเขาเลยแม้แต่ช็อตเดียว เจ้าตัวจึงยิ่งโกรธเคืองเข้าไปอีก
โกรธ... ที่ตัวเขาไม่สามารถทำใจแข็งกับเธอได้เลยสักที
เคือง... ที่เธอทำเหมือนไม่รับรู้ความรู้สึกของเขาเลยแม้เพียงเศษเสี้ยว
“ก็ได้! ในเมื่อเธออยากรู้นัก ฉันก็จะบอก” สองมือหนาคว้าหมับเข้าที่หัวไหล่มนอย่างแน่นหนา ด้วยแววตาขึงขังเอาจริง “ใช่! ฉันทั้งเจ็บทั้งเสียใจจนอยากจะหนีกลับกรุงเทพฯ วันนี้ เดี๋ยวนี้ให้รู้แล้วรู้รอดไปซะเลย ที่เห็นเธอทำตัวไม่รู้ร้อนรู้หนาว ไม่สนใจกับการที่ฉันจะอยู่หรือจะตาย เธอรู้ไหมลัลนาว่ามันเลือดเย็นเกินไปสำหรับฉัน คนที่รักเธอจนหมดหัวใจ!”
จิรเมธพรั่งพรูความรู้สึกทั้งหมดออกมาอย่างไม่อาย ตอนนี้อารมณ์น้อยเนื้อต่ำใจมันครอบงำจิตใจของเขาให้มืดมนไปหมดเสียแล้ว
“นายรักฉัน?” สาวใต้ร้องถามเสียงสูงอย่างไม่คาดฝัน ใบหน้าก็พลันแดงซ่านขึ้นมาจากกระแสโลหิตที่สูบฉีดมาจากหัวใจที่เต้นตึกตัก กระทั่งเธอต้องรีบยกฝ่ามือขึ้นมาบิดบังความเก้อเขินเอาไว้ให้มิดชิด
“ใช่! ฉันรักเธอ” คนตอบบอกเสียงหนักแน่น “จะหัวเราะเยาะฉันก็เชิญเลยนะ”
“ทำไมต้องหัวเราะเยาะนายด้วยล่ะ?” ลัลนาเอ่ยถามเสียงแผ่วลอดช่องว่างบนฝ่ามือของตน
“ก็หัวเราะเรื่องที่ฉันกลืนน้ำลายตัวเองยังไงละ ปากเคยบอกว่าไม่ชอบเธอแท้ๆ แต่ผลสุดท้ายฉันก็ดันมาตกหลุมรักยายลิงทโมนอย่างเธอเข้าซะได้ แบบนี้มันไม่น่าขำรึไง?”
ของมันแน่อยู่แล้ว... ที่หล่อนจะคิดเช่นนั้น!
และหล่อนก็คงจะไม่ช้า รีบกระหน่ำซ้ำเติมความเจ็บให้เขายิ่งรู้สึกแย่เข้าไปใหญ่ด้วย
“ไม่เห็นจะน่าขำเลยสักนิด” ลัลนาค่อยๆ เงยหน้าสบตาชายหนุ่มอย่างจริงใจ แม้จะยังรู้สึกขัดเขินอยู่ไม่น้อย แต่เธอตัดสินใจแล้วว่าจะเปิดเผยความรู้สึกที่มีต่อเขาบ้าง เพื่อความยุติธรรม เพราะขนาดจิรเมธเองยังกล้าที่จะเฉลยความในออกมาให้เธอได้รู้เลย แล้วไยเธอถึงจะต้องกลัวอีกเล่า...
“ฉันเองก็รู้สึกไม่ต่างกับนายเหมือนกัน”
“ฮะ!” คนไม่แน่ใจว่าตัวเองหูฝาดไปรึเปล่าร้องอุทานตาโต พร้อมกับถามย้ำ “เมื่อกี้เธอพูดว่าอะไรนะ?”
ทว่าครั้งนี้ลัลนากลับเอาแต่ยืนหลบตา ก้มหน้างุดไม่ยอมตอบ คนใจร้อนจึงต้องรีบเคลื่อนมือจากหัวไหล่มาเชยคางมนไว้อย่างนุ่มนวล เพื่อพิสูจน์ว่าสิ่งที่เขาได้ยินเมื่อครู่เป็นความจริงจากใจของเธอ แล้วดวงหน้าหวานที่แต่งแต้มสีแดงระเรื่อไปทั่วใบหน้ายามที่เขามองสบ กับแววตาคมซึ้งที่เต้นไหวระริกอยู่ข้างใน ก็ทำให้เขาล่วงรู้ถึงความตื่นเต้นที่ถูกซ่อนเร้นอยู่ภายในใจของเจ้าหล่อน ซึ่งเป็นเครื่องยืนยันได้ดีทีเดียวว่า...
...เขาคงจะฟังไม่ผิดจากที่ได้ยินเป็นแน่แท้!
“ฉันฝันไปรึเปล่าเนี่ย?” เขากระซิบบอกตัวเองราวกับคนละเมอ
“อื้อ...” กระนั้นคนแสนดีก็ยังอุตส่าห์ส่ายหน้าแทนคำตอบให้เขาชื่นใจ แม้จะอารมณ์ดีขึ้นแล้วก็ตาม แต่เจ้าตัวก็ยังคงงอนนิดๆ ไม่ได้
“แล้วทำไมตอนที่ฉันบอกว่าจะไป เธอถึงแกล้งทำเป็นไม่สนใจฉันล่ะ?”
“ฉันไม่ได้แกล้งสักหน่อย เพียงแต่ฉันรู้อยู่แล้วว่านายกำลังจะกลับกรุงเทพฯ”
“เธอรู้เรื่องนี้ได้ยังไง?” คนถามขมวดคิ้วอย่างสงสัย แล้วภาพเหตุการณ์ที่เขาสนทนากับมารดาเมื่อคราวก่อนก็แล่นปราดเข้ามาในสมอง ทำให้เจ้าตัวถึงกับร้องอ๋อ “เธอคงจะได้ยินเรื่องที่ฉันพูดกับคุณแม่หมดแล้วละสิ”
หญิงสาวพยักหน้ารับ แถมยังยิ่งก้มหน้าจนแทบจะมุดลงพื้นอย่างละอายใจ ที่ตัวเองทำเรื่องไร้มารยาท
“มิน่าละ...หลายวันมานี้เธอถึงดูแปลกๆ ไป ซึมกะทือยังไงชอบกล คงกลัวว่าฉันจะดุเอาใช่ไหม?”
คำตอบของอีกฝ่ายยังเป็นการพยักหน้าเหมือนเดิม
“โธ่เอ๊ย! ที่หลังอย่าทำอย่างนี้อีกนะ รู้ไหมว่าฉันใจหายหมดเลย” คนพูดเป่าปากโล่งใจเหมือนยกภูเขาออกจากอก ก่อนจะหันมาบอกกับคนผิดเสียงนุ่มว่า “ต่อให้เธอจะผิดมากกว่านี้อีกสักร้อยเท่า ฉันก็ไม่มีทางโกรธเกลียดเธอได้ลงคอหรอก เพราะฉะนั้นเวลามีเรื่องอะไร เราก็ควรจะพูดกันตรงๆ พวกเราจะได้ไม่ต้องเข้าใจผิดคิดน้อยใจไปคนเดียวแบบนี้อีก”
“ฉันขอโทษ ฉันไม่ได้ตั้งใจจะทำให้นายเสียใจเลยนะ” ลัลนาเอ่ยอย่างรู้สึกผิด ก่อนจะสูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ แล้วบอกถึงการใคร่ครวญตกลงปลงใจของเธอให้เขารับรู้อย่างกล้าหาญ “แต่ที่ฉันไม่ได้รู้สึกตกอกตกใจอะไร ก็เป็นเพราะฉันตัดสินใจแล้วว่าฉันจะตามนายไปทั่วทุกหนทุกแห่ง”
“เธอพูดจริงๆ เหรอ?” จิรเมธร้องถามสาวใต้ด้วยความปลาบปลื้ม แต่ก็อดเป็นกังวลแทนหล่อนไม่ได้อยู่ดี “ถ้าเธอไปกับฉัน แล้วเธอไม่เป็นห่วงที่นี่รึไง?”
“ห่วงสิ” ลัลนาตอบตามจริง “แต่ฉันคุยเรื่องนี้กับแม่จ๋าแล้ว และท่านก็บอกให้ฉันทำสิ่งที่หัวใจต้องการ เพราะที่นี่ยังมีชาวบ้านคอยช่วยดูแลโครงการอยู่อีกตั้งหลายคนแน่ะ”
รอยยิ้มเบิกบานไร้แววหวาดวิตกอวดโฉมอยู่ต่อหน้าเขา เพื่อบ่งบอกถึงความมั่นใจในสิ่งที่เธอครุ่นคิดตริตรองมาเป็นอย่างดีแล้ว เพราะฉะนั้นไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในอนาคต เธอก็จะไม่มีวันเสียใจอย่างเด็ดขาด!
“เพื่อฉัน...เธอถึงกับยอมทิ้งโครงการและบ้านเกิดที่เธอรักเลยเหรอ?” จิรเมธไม่รู้จะเปรียบความดีใจของเขากับอะไรดี เขารู้แค่ว่ามันมากล้นเสียจนน้ำทะเลในมหาสมุทรยังไม่อาจจะเทียบเคียงได้ มือข้างหนึ่งล้วงกำของที่ซุกอยู่ในกระเป๋ากางเกงอย่างหมายมั่น
ของขวัญ... ที่เขาตั้งใจจะขอหล่อนแต่งงานในไม่อีกกี่นาทีข้างหน้านี้
“ใช่”
แววตาแน่วแน่ถูกส่งมาให้เขายิ่งตื้นตันใจมากขึ้น ก่อนที่เจ้าตัวจะได้ยินเสียงหวานๆ ถามกลับมาบ้าง
“แล้วนายล่ะ ไม่ได้พูดเล่นใช่ไหม ที่บอกว่ารักฉันน่ะ?”
พูดยังไม่ทันจบ สาวใต้ก็รีบก้มหน้างุดลงตามเดิมด้วยความกระดากอาย คนฟังจึงขยับเข้าใกล้ร่างบางขึ้นอีกนิด ก่อนจะก้มหน้าลงกระซิบเสียงนุ่มอยู่ข้างแกมนวลของสาวเจ้าอย่างว่า
“ถ้าพูดแล้วยังไม่เชื่อ งั้นฉันคงจะต้องแสดงให้ดูซะแล้วละ”
คนขี้อายรีบเบือนหน้าหนีกันอุตลุด ตอนนี้หัวใจของเธอเต้นระส่ำจนแทบจะระเบิดอยู่รอมร่อ รีบร้องปรามด้วยความขัดเขินเกินจะกล่าว
“มะ...ไม่ต้องหรอก ฉันมะ...ไม่ติดจะ...ใจแล้วละ”
“แต่ฉันกลัวเธอไม่เชื่อนี่นา ก็เลยอยากให้เห็นจะจะกับตา”
“ฉันชะ...เชื่อแล้วละว่านะ...นายรู้สึกยังไง?” ลัลนาพูดเสียงสั่น เปี่ยมไปด้วยความหวั่นไหว จากสาวห้าว...บัดนี้กลับอ่อนระทวยเหมือนคนที่เพิ่งจะถูกกระแสไฟแห่งรักช็อตร่าง จนมือไม้ปวกเปียกไม่มีเรี่ยวมีแรงเสียดื้อๆ
“แต่เมื่อกี้เธอยังสงสัยฉันอยู่เลยนะ?” จิรเมธพูดยิ้มๆ อย่างเจ้าเล่ห์
“มะ...ไม่สงสัยแล้ว ก็ถ้านายไม่ได้รักฉัน นายจะยอมทำโน่นทำนี่เพื่อฉันตั้งมากมายเหรอ?”
จิรเมธมองท่าทางลนลานของหญิงสาวอย่างขำๆ ดูหน้าดูตาของหล่อนสิ แดงก่ำไปหมดทั้งตัวเชียว
แน่ะ! หล่อนก้มหน้างุดอีกแล้ว คงเขินมากละสิ ถึงได้ทำท่าทำทางยังกะจะหาเหรียญบาทอย่างนั้นแหละ
แม้จะนึกเอ็นดูความน่ารักน่าชังของหล่อนเป็นนักหนา แต่พอเขาไม่ได้เห็นหน้าหวานๆ ของสาวเจ้าแล้ว มันพานให้รู้สึกขัดจิตขัดใจเสียเหลือเกิน ครั้นจะใช้ปลายนิ้วเชยคางหล่อนขึ้นมาอีก เขาก็เบื่อจะทำ คนตัวสูงเลยกระหวัดเกี่ยวเอวกิ่วของอีกฝ่ายมาโอบเอาไว้อย่างหลวมๆ แล้วกระชับร่างน้อยเข้ามาแนบสนิทติดกายของเขา ให้ได้กลิ่นไออุ่นกรุ่นกายและเสียงหัวใจที่ดังสะท้อนขึ้นลงพร้อมๆ กัน เหมือนดังคำกล่าวที่ใครต่อใครชอบพูดว่า
‘นี่แหละ... ที่เขาเรียกว่าหัวใจตรงกัน’
“อุ๊ย!” ลัลนาอุทานออกมาเบาๆ กับการจู่โจมอันแสนหวานของเจ้าตัว เธอจึงจำใจต้องเงยหน้ามองเขา เพราะอยากจะรู้ว่าอีกฝ่ายจะพูดอะไรต่อไป
“ก็จริงอยู่ว่าเรื่องที่ฉันซื้อที่ซื้อตึกเป็นเพราะเธอ แต่รู้ไหมฉันยังทำอะไรเพื่อเธอได้มากกว่านั้นอีกนะ?”
“อะไรเหรอ?” สาวใต้เอ่ยถามด้วยความอยากรู้ จนลืมความขวยเขินไปขั่วขณะ
“ก็ทีเธอยังยอมตัดใจจะตามฉันกลับไปกรุงเทพเลย แล้วทำไมฉันจะยอมขัดใจคุณแม่ เพื่อมาอยู่กับเธอที่นี่บ้างไม่ได้ล่ะ?”
คนฟังถึงกับเบิกตากว้าง ไม่เคยรู้สึกตื่นเต้นดีใจและประหลาดใจเท่ากับครั้งนี้มาก่อนเลย ที่อีกฝ่ายยอมทำเพื่อเธอถึงขนาดนี้
“หมายความว่านายจะไม่กลับกรุงเทพฯ แล้วเหรอ?”
“ตอนนี้น่ะยังไม่กลับ”
“หมายความว่าไง ฉันงงไปหมดแล้ว”
“ก็หมายความว่าฉันมีเวลาอยู่กับเธอและพัฒนาหมู่บ้านเขากะหมอกต่ออีกสองปีไงละ แล้วหลังจากนั้นฉันจะต้องกลับกรุงเทพฯ ทันทีตามสัญญา” เขาอธิบายให้เธอเข้าใจ ก่อนจะเอ่ยถามย้ำอีกครั้งว่า “ถึงตอนนั้นเธอยังอยากจะไปอยู่กับฉันรึเปล่า?”
ไม่ต้องคิดให้มากความ หญิงสาวก็พยักหน้าตอบรับในสิ่งที่เขาร้องขอทันที อย่าว่าแต่กรุงเทพฯ เลย ต่อให้ไปไกลสุดหล้าฟ้าเขียวขนาดไหน เธอก็ยินยอมพร้อมใจตามติดเขาไปทุกแห่ง ในเมื่อเขาเป็นเพียงคนเดียวที่ทำให้เธอรู้สึกหวาดกลัวกับการใช้ชีวิตอยู่ตามลำพัง โดยปราศจากผู้ชายยียวนจอมยโสที่สุดในรอบปีคนนี้แล้วนี่นา
“ว่าแต่แล้วงานที่กรุงเทพฯ ของนายล่ะ ใครจะดูแล?” ลัลนายังอดเป็นกังวลแทนเขาไมได้
“เรื่องนั้นเธอไม่ต้องเป็นห่วงหรอก ที่บริษัทยังมีคุณพ่อคุณแม่ของฉันคอยช่วยดูแลอยู่ พอครบกำหนดเมื่อไหร่ เราค่อยกลับไปดูแลงานที่นู่นต่อด้วยกันนะ” จิรเมธทอดเสียงหวานบอกหล่อนอย่างออดอ้อน ทำเอาคนฟังรีบพยักหน้ารับ พร้อมกับส่งยิ้มให้เขาด้วยความเต็มใจ
“เอาละ ที่นี้หมดเรื่องวุ่นๆ ไปซะที จะเหลือก็แค่เรื่องของฉันนี่แหละที่เธอต้องเป็นห่วงให้มากๆ” คนพูดมองหญิงสาวด้วยแววตากรุ้มกริ่มมีเลศนัย
“ห่วงนาย! คนกะล่อนอย่างนายมีอะไรให้น่าห่วงกันล่ะ?” คนมองรีบหลบดวงตาหวานฉ่ำเป็นพัลวัน
“ก็ห่วงเรื่องที่ว่าต่อไปนี้ฉันจะใช้ชีวิตยังไง ในเมื่อฉันไม่สามารถหนีไปไหนได้ เพราะมีทั้งขุนเขา ทั้งน้ำมัน และลูกสาวของผู้ใหญ่ธมเล่นมายึดตัวยึดหัวใจจนฉันดิ้นไม่หลุดแล้วน่ะสิ”
คำพูดหวานๆ ถูกโปรยปรายดังคลอเคลียอยู่ข้างหูเธอไม่ห่าง ทำเอาลัลนาเขินจัด ต้องรีบก้มหน้าซุกลงกับอกกว้างเป็นการหลีกหนี อีกฝ่ายเลยได้โอกาสกระชับวงแขนให้แนบแน่นยิ่งขึ้น หมายจะถ่ายทอดความรักและความห่วงใยที่ตัวเขามีต่อเจ้าหล่อนอย่างเต็มตื้น
“นี่...อยากจะหันมาเปลี่ยนนามสกุลมาเป็นเดชาธรดูบ้างไหม มันเข้ากับชื่อของเธอมากๆ เลยนะ ลัลนา เดชาธร... เพราะออก” จิรเมธเอ่ยถามทีเล่นทีจริง
---------------------------------------------------------------------------------------------------------
อร๊ายยยยยยยย 8(>///<)8
ในที่สุดเขาก็สารภาพ "รัก" กันแล้วน้าาาาาา
สมใจแม่ยกกันมั้ยคะ???
แต่ยัง! ความหวานความฟินยังไม่หมดแค่นี้ ตอนนี้ชมเอามาลงให้เป็นน้ำจิ้ม
ตอนหน้าสิตอนหน้า จีบกันทั้งหวานทั้งเขินแทนหนูนาแน่
มาดูลีลาจีบสาวของตาจิมทิ้งท้ายทั้งทั้งตลก น่ารัก และสุดแสนจะประทับใจกันค่ะ
หลังจากลงตอนสุดท้ายจบ ไรเตอร์จะยืดเวลาให้นักอ่านซึมซับความประทับใจกัน 1 อาทิตย์เต็มๆ
แล้วหลังจากนั้นขออนุญาตลงให้ติดตามกัน 15 ตอนนะคะ
หลังจากนี้ใครอ่านไม่ทันหรืออยากอ่านต่อ ขอให้ตามกันในรูปแบบอีบุ๊คในราคาย่อมเยาว์แทนค่ะ
ใครอดใจรอไม่ไหว อยากรู้เรื่องก่อนใคร แวะไปโหลดได้ที่เมพและร้านอีบุ๊คชั้นนำทั่วประเทศค่า เค้ารับประกันความน่ารักนะจ๊ะ
![]() |
|
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ
