ตอนที่ 45 : แกลลอนที่ 22 (50%)
ทันทีที่กลับถึงกรุงเทพ จิรเมธก็รีบตรงดิ่งกลับคฤหาสน์ เพื่อปรึกษาเรื่องสำคัญเกี่ยวกับการพัฒนาหมู่บ้านเขากะหมอกที่เขากำลังลงมือทำให้บิดาได้รับรู้
“คุณพ่ออยู่ไหนรู้ไหม?” เขาเดินปรี่เข้าไปถามหาท่านกับสาวใช้
“ตอนนี้คุณท่านอยู่ในห้องทำงานค่ะ ดิฉันเพิ่งจะยกของว่างไปให้เมื่อกี้นี้เอง”
“ขอบใจ”คนฟังพยักหน้ารับรู้ ก่อนจะเอ่ยสั่งหล่อนต่อไปว่า “ช่วยเอากระเป๋าเดินทางของฉันขึ้นไปเก็บบนห้องให้ทีนะ”
“ค่ะ”
พอสั่งปุ๊บ จิรเมธก็สาวเท้าผ่านหน้าหล่อนไปด้วยความรีบร้อน เพียงไม่นานก็มาหยุดยืนอยู่ที่หน้าห้องทำงานของผู้เป็นพ่อ ซึ่งอยู่ทางปีกขวาของคฤหาสน์หลังโต
ก๊อก ก๊อก ก๊อก...
เสียงสัญญาณที่ดังขึ้นหน้าห้อง ทำให้เกริกเกียรติรับรู้ว่ากำลังมีผู้มาเยือน น้ำเสียงแหบพร่าที่ร่วงโรยไปตามวัยจึงตะโกนถามกลับ
“ใครน่ะ?”
“ผมเองครับคุณพ่อ”
“เข้ามาสิ พ่อไม่ได้ล็อกประตู”
เมื่อเจ้าของห้องเอ่ยอนุญาต ร่างสูงโปร่งจึงก้าวเข้ามาปรากฏกายอยู่ต่อหน้าบิดาอย่างว่องไว เกริกเกียรติเงยหน้าขึ้นจากเอกสารกองโต พลางเอ่ยถามบุตรชาย
“ไง...ทำไมวันนี้ถึงโผล่มาหาพ่อได้ล่ะ ทุกทีฉันเห็นแกมัวแต่ไปคลุกอยู่ที่เขากะหมอก จนฉันแอบคิดว่าแกเห็นที่นั่นเป็นบ้านแทนซะแล้ว”
แม้ปากจะค่อนแคะ แต่ผู้เป็นพ่อก็อดอมยิ้มไม่ได้ เมื่อนึกย้อนไปถึงวันแรกที่จิรเมธรู้เรื่องราวที่ตัวเขาปกปิดเอาไว้มานานนับปี วันนั้นเขายังจำได้ดีว่าบุตรชายจอมหัวดื้อยืนกรานเสียงแข็งด้วยความไม่พอใจเสียขนาดไหน ที่ตนส่งเงินช่วยเหลือจุนเจือชาวบ้านที่นั่นเดือนละเป็นหมื่นๆ
แต่ลองดูเจ้าลูกชายของเขาในวันนี้สิ! จิรเมธเปลี่ยนแปลงไปมากทีเดียว...
จากคนที่เคยคัดค้านหัวชนฝา กลายมาเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงคอยพัฒนาหมู่บ้านอย่างจริงจังเสียเอง คนเป็นพ่อเช่นเขาเลยอดปลื้มใจไม่ได้ สายตาที่มองดูเจ้าตัวอยู่ในตอนนี้จึงเปี่ยมไปด้วยความภูมิใจจนปิดไว้ไม่มิด
“แหม คุณพ่อก็พูดเกินไปนะครับ ผมบินลงไปแค่เสาร์อาทิตย์เท่านั้นเอง แถมที่ไปก็เพราะเรื่องงานล้วนๆ ด้วย” คนเป็นลูกเอ่ยแก้ต่าง
“แน่ใจเหรอ?” คนฟังถามยิ้มๆ ทั้งที่เขารู้ความเคลื่อนไหวในสิ่งที่เจ้าตัวคิดจะทำจากเพื่อนรักหมดแล้ว
ทุกครั้งที่ธมโทร. มากล่าวชื่นชมบุตรชายว่าเป็นคนหนุ่มที่ฉลาดปราดเปรื่อง ขยันขันแข็ง เอาการเอางานให้เขาฟังเมื่อไหร่ เกริกเกียรติเป็นต้องจนยิ้มแก้มปริ หน้าบานไปทั้งวันซะทุกที ยิ่งเป็นเรื่องที่เขาและเพื่อนรักอาจจะได้เกี่ยวดองเป็นทองแผ่นเดียวกันในอนาคตอันใกล้นี้ด้วยแล้ว เกริกเกียรติก็ยิ่งทวีความยินดีปรีดามากขึ้นอีกหลายเท่าตัว
“แน่ใจสิครับ” จิรเมธย้ำเสียงดัง กลบเกลื่อนแววตาล้อเลียนของบิดาที่แสดงออกว่า
‘ท่านรู้อะไรๆ ในใจของเขาอย่างทะลุปรุโปร่ง’
หนุ่มฟอร์มจัดเลยต้องรีบกู้หน้า หาทางแก้ลำกลับไปว่า
“บ้านนอกคอกนาแบบนั้นจะมีอะไรให้ผมสนใจได้อีกล่ะครับ นอกจากโครงการไบโอดีเซลและหนี้ของเรา”
“พ่อก็ไม่ได้ว่าอะไรสักหน่อยนี่นา แล้วแกจะร้อนตัวไปทำไมล่ะ?” เกริกเกียรติพูดจี้จุดให้บุตรชายสะดุ้งเล่นๆ เพราะนานๆ ทีเขาจะมีโอกาสได้แก้เผ็ดไอ้หนุ่มจอมกะล่อนแบบนี้สักครั้ง
“ผมเปล่าร้อนตัวสักหน่อย” เขาแกล้งยักไหล่ทำเป็นไม่ใส่ใจ แถต่อไป “เพียงแต่ผมจะบอกว่าสิ่งที่ผมสนใจมีแค่จะพัฒนาหมู่บ้านเขากะหมอกให้เจริญได้ยังไง คนพวกนั้นถึงจะมีเงินมาใช้คืนเราได้ครบทุกบาททุกสตางค์เท่านั้นแหละครับ”
“แล้วคิดออกรึยังล่ะ?” เกริกเกียรติถามกลับอย่างหมั่นใส้ในความปากแข็งของลูกชาย
“ครับ” จิรเมธรีบตอบรับ ก่อนจะอาศัยจังหวะนี้เอ่ยขอร้องบิดา “แต่คงต้องขอความร่วมมือจากคุณพ่อสักหน่อยนะครับ
“เอาสิ เรื่องอะไรล่ะ?” คนฟังตอบรับด้วยความเต็มใจ
“คือผมกำลังจะซื้อตึกแถวในตัวเมืองตรังน่ะครับ”
“ฮ้า! แกจะซื้อตึก!!” เกริกเกียรติร้องเสียงหลงถาม “แกจะซื้อไปทำอะไร?”
สิ่งที่เขาเพิ่งจะรู้จากปากของบุตรชายสดๆ ร้อนๆ เป็นเรื่องที่เขายังไม่เคยได้รับทราบจากธมมาก่อน และเขาก็คิดว่าอีกฝ่ายเองก็คงยังไม่รู้เรื่องที่จิรเมธคิดจะทำเสียด้วยซ้ำ
“ก็ซื้อไว้ทำการค้าน่ะครับ” จริเมธตอบหน้าตาเฉย ราวกับว่าเรื่องที่เขากำลังจะทำเป็นเรื่องเล็กน้อยที่ใช้เงินเพียงแค่บาทสองบาทเท่านั้น แถมเจ้าตัวยังเอ่ยปากขอร้องบิดา โดยไม่มีท่าทีตื่นตระหนกไปกับความร้อนอกร้อนใจของท่านเลยสักนิด
“ผมอยากจะซื้อไว้ในนามของบริษัทน่ะครับ เลยอยากจะขอให้คุณพ่อช่วยส่งคุณปานสุดาไปจัดการทำสัญญาในวันอาทิตย์ที่จะถึงนี้สักหน่อย เพราะตัวผมติดธุระบางอย่าง เลยลงไปเองไม่ได้ครับ”
“ตาจิม! นี่แกจะบ้าไปแล้วเหรอ... แกจะซื้อตึกเอาไว้ขายอะไร?” ท่าทางเอาจริงเอาจังของคนหนุ่ม ทำให้คนแก่งุนงงระคนสงสัยขึ้นมาว่า
‘ลูกชายของเขายังสติดีอยู่รึเปล่า?’
“ผมจะเอาไว้ให้ผู้ใหญ่ธมเช่าน่ะครับ” จิรเมธตอบสั้นๆ
“เช่า!” คนถามนิ่วหน้า “แล้วไอ้ธมมันจะเช่าไปทำอะไรล่ะ ไหนแกลองอธิบายมาให้พ่อเข้าใจอย่างแจ่มแจ้งหน่อยสิ”
“คือตอนนี้ทางผู้ใหญ่ธมและชาวบ้านกำลังมีปัญหาหนักใจเรื่องหนึ่งอยู่ครับ คือไม่รู้ว่าจะผลิตสินค้าไปวางขายได้ที่ไหน เพราะไม่มีร้านไหนยอมให้ฝากวางสินค้าเลยสักที่ ทุกคนก็เลยพลอยกลุ้มอกกลุ้มใจกันยกใหญ่จนไม่มีกะจิตกะใจจะทำงาน ผมจึงเห็นว่าเราควรจะมีหน้าร้านเป็นของตัวเองครับ”
เมื่อดูท่าว่าบิดาคงจะไม่ยอมอนุมัติต้นทุนให้เขาง่ายๆ อย่างที่คิดเอาไว้ หนุ่มเจ้าเล่ห์จึงยืมชื่อเพื่อนรักของท่านขึ้นมาอ้างถึง แถมยังแอบใส่สีตีไข่ให้ดูน่าสงสารเข้าไปอีกหน่อย คนฟังจะได้ยอมใจอ่อน
“แกก็เลยซื้อตึกไว้ให้เขาซะเลย...ว่างั้น?”
เกริกเกียรติเอ่ยประชดลูกชายอย่างรู้ทัน แต่เจ้าตัวกลับยิ้มรับหน้าระรื่น แกล้งทำเป็นหน้าซื่อตาใส
“ครับ”
ไม่ว่าอย่างไรเขาจะต้องซื้อตึกแถวตรงนั้นให้ได้ แม้บิดาจะคัดค้านไม่เห็นด้วยก็ตาม เพราะผลิตภัณฑ์ทุกชิ้นของหมู่บ้านเขากะหมอกจะต้องมีที่ให้วางขาย ให้คนเห็นง่าย และเป็นที่รู้จักต่อไปในตลาดภายภาคหน้า
คนเป็นพ่อได้แต่นั่งส่ายหน้าพูดอะไรไม่ออก มิใช่เพราะเขามีความคิดเห็นแย้งกับการกระทำของลูกชายเสียทีเดียว แต่เรื่องที่จิรเมธนำมาบอกกล่าวมันช่างรวดเร็วกะทันหัน จนเขาแทบตั้งตัวไม่ทัน
และที่สำคัญกว่านั้น เขายังไม่แน่ใจนักว่าบุตรชายคิดจะพัฒนาที่นี่ไปอีกนานแค่ไหน...
เขากลัวมันจะเป็นเพียงแค่เกมทดลองสติปัญญาที่จิรเมธเล่นสนุกน่ะสิ แล้วพอเบื่อขึ้นมาเมื่อไหร่ ลูกชายของเขาก็โยนทิ้งไปอย่างไม่ไยดี ทิ้งเรื่องไว้ให้เขาต้องมานั่งเสียเงินเสียทองไปฟรีๆ ในภายหลัง
‘ไม่ได้แล้ว! เขาต้องลองทดสอบดูก่อนว่าตาจิมมีความจริงใจแค่ไหน?’
“แกคิดว่าซื้อตึก มันราคากี่บาทกันฮึ?”
“แค่ไม่กี่ล้านเองครับคุณพ่อ”
“แล้วแกยังจะกล้าเอาเงินมากมายขนาดนั้นไปแลกกับเงินแค่ไม่กี่แสนอีกเหรอ ฉันละอยากจะบ้า” คนพูดกรอกตาไปมาด้วยความหนักใจ
“ทำไมล่ะครับ เงินของเราก็มีออกเยอะแยะ ถึงจะเสียไปสักสองสามล้าน แต่เราก็ได้ทรัพย์สินกลับคืนมานี่ครับ แถมยังเอาไปทำประโยชน์ให้เขาเช่าต่อได้อีกด้วย เรียกว่าเรามีแต่ได้กับได้ทั้งนั้นเลยนะครับ ดีกว่าการที่คุณพ่อเอาเงินแสนไปให้พวกเขาฟรีๆ เป็นไหนๆ ไม่ใช่เหรอครับ?”
เกริกเกียรติได้แต่นั่งฟังบุตรชายสาธยายความดีของตัวเองเป็นฉากๆ ในใจก็คิดคล้อยตามไปว่า
‘ก็ถูกของมัน’
แต่พอนึกดูอีกที ก็อยากจะเขกกะโหลกไอ้ตัวดีนัก ที่ทำเป็นเจ้าสำบัดสำนวนมาหลอกด่าเขาเสียได้
อย่างเขานี่ไม่ได้เรียกว่า ‘โง่’ เอาเงินไปโปรยทานให้ใครต่อใครง่ายๆ ซะหน่อย แต่ที่เขาทำไปก็เพราะความใจบุญสุนทานต่างหากละ...ไอ้ลูกปากเสีย!
“ก็ไหนตอนแรกแกบอกว่า ต้องให้ชาวบ้านในเขากะหมอกยืนได้ด้วยลำแข้งตัวเองไงล่ะ แล้วที่แกเล่นมาซื้อของให้เป็นล้านๆ แบบนี้ มันจะต่างอะไรจากพ่อที่ให้เงินเขาฮึ” เกริกเกียรติย้อนถามบุตรชาย
“ต่างสิครับ ผมบอกแล้วไงว่าให้เช่า ไม่ได้ยกให้สักหน่อย” จิรเมธแก้ไขข้อกล่าวหาของบิดาเสียใหม่
“นั่นแหละ ไม่เห็นจะต่างกันตรงไหน” ผู้เป็นพ่อสะบัดเสียงกล่าว ยิ่งหมั่นไส้พ่อคนเล่นลิ้นเข้าไปใหญ่
‘หนอย!... ดูมันทำสิ ตอนแรกก็ตั้งท่าจะเอาเงินคืนให้ได้ท่าเดียว
ทีตอนนี้ละ... มาทำเป็นปากแข็งตูดอ่อน กระโจนลงไปช่วยคนอื่นทั้งตัวยิ่งกว่าเขาซะอีก’
เกริกเกียรติแกล้งก้มหน้าทำงานต่อโดยไม่ใส่ใจ ดูสิ! ไอ้หนุ่มนักพัฒนาผู้ยิ่งใหญ่จะทำยังไง ถ้าเขาเกิดไม่ยอมขึ้นมาซะอย่าง
‘โทษฐานที่ตอนนั้นแกทำให้ฉันเครียดดีนัก เพราะฉะนั้นขอเอาคืนซะหน่อยก็แล้วกัน’
คนมองที่คิดว่าตัวเองถูกปฏิเสธ ก็เพียรชักแม่น้ำทั้งห้าขึ้นมาหว่านล้อมบิดาอย่างไม่ยอมลดละ
“โธ่! คุณพ่อครับ ที่ดินตรงนั้นทำเลดีมากๆ เลยนะครับ รับรองว่าซื้อแล้วคุ้ม ได้กำไร ไม่มีขาดทุนแน่นอนครับ เผลอๆ เดือนๆ หนึ่งเราน่าจะได้ค่าเช่าจากพวกชาวบ้านไม่น้อยด้วยนะครับ”
“.....” ไร้ปฏิกิริยาตอบรับอันใด เพราะคนฟังเอาแต่พลิกหน้ากระดาษตรวจดูเอกสารบนโต๊ะเพียงอย่างเดียว ราวกับว่าตัวเขาหูหนวกเป็นใบ้ พูดไม่ได้และไม่ได้ยินอะไรอย่างนั้นแหละ
คนที่เป็นเดือดเป็นร้อนตอนนี้เลยกลายเป็นจิรเมธที่พยายามจะโน้มน้าวใจท่านจนน้ำลายแห้งเสียเอง เขาจึงต้องรีบสรรหาวิธีมาสยบคุณพ่อจอมเหลี่ยมจัดให้ยินยอมเป็นการด่วน หนุ่มหัวแหลมใช้แผนมัดมือชกอย่างที่เคยได้ผลมาโดยตลอด
“สรุปว่าคุณพ่อยอมอนุมัติแล้วใช่ไหมครับ งั้นผมจะไปดำเนินการเดี๋ยวนี้เลย”
“ไม่อนุมัติ” คนเป็นพ่อบอกเสียงห้วน ขณะที่มือและสองตายังคงสาละวนอยู่กับเอกสารตรงหน้า
‘เฮอะ! แกคิดจะมาไม้นี้กับฉันเรอะ ยังเร็วไปอีกร้อยปีนะ... ไอ้ลูกชาย’
เมื่อแผนแรกคว้าน้ำเหลว แผนเด็ดก๊อกที่สองจึงถูกงัดขึ้นมาต่อกรกับบิดาทันที
“ก็ได้ครับ ถ้าคุณพ่อไม่ยอมตกลง ผมจะลองเอาเรื่องนี้ไปปรึกษาคุณแม่ดูก็แล้ว”
จิรเมธเชิดหน้าอย่างเป็นต่อ เพราะคิดว่ายังไงซะเขานี่แหละจะต้องเป็นฝ่ายกำชัยแน่นอน หากเอ่ยอ้างชื่อมารดาที่เป็นเหมือนสิ่งศักดิ์สิทธิ์เคารพรักของคุณพ่อขึ้นมาข่มขู่ละก็
แล้วมันก็ได้ผลจริงๆ ในที่สุดบิดาก็เงยหน้าขึ้นมาทันที
“นี่แกขู่ฉันเหรอเจ้าจิม?” เกริกเกียรติต้องเพียรข่มความเอ็นดูเอาไว้ภายใต้ท่าทีเคร่งเครียดอย่างยิ่งยวด
‘แสบนักนะเจ้าจิม!
แต่แกคิดเหรอว่า... พูดแค่นี้แล้วฉันจะยอม’
“ก็เอาสิ ฉันคิดว่าแม่แกควรจะได้รู้เรื่องนี้เสียที” เขาร้องท้า ทำหน้าไม่รู้สึกรู้สากับความซวยที่อาจจะมาเยือนคนในเขากะหมอก หากผู้เป็นศรีภรรยาได้รู้ความจริงขึ้นมา
“คุณพ่อ!” จิรเมธถึงกับงงเป็นไก่ตาแตก นึกไม่ถึงว่าขนาดไม้เด็ดของเขายังใช้ไม่ได้ผล
“จะไปรึยังล่ะ?” คนตีหน้าตายยังแกล้งถาม ทั้งที่แทบจะกลั้นเสียงหัวเราะไว้ไม่อยู่
คนเป็นลูกเลยได้แต่ยืนหน้าตูมอย่างไม่สบอารมณ์ เพราะจนปัญญา
“ไม่ต้องมาทำหน้าแบบนั้นเลยนะ” คนมองกล่าวตำหนิเสียงเข้ม พลางอธิบายเหตุผล “คิดดูสิ ถึงพ่อจะให้เงินช่วยเหลือพวกเขาก็จริง แต่พ่อค่อยๆ ทยอยทำไปทีละนิด ไม่เหมือนกับแกที่เสียตู้มเดียวเป็นล้าน”
“แต่ที่ผมทำไปก็เพื่อชาวบ้านในเขากะหมอกนะครับ” เขาเอ่ยแย้งถึงความตั้งใจ
“พ่อรู้และพ่อก็เข้าใจ แต่แกเคยได้ยินบ้างไหมว่าทำอะไรทุกอย่างมันต้องเป็นขั้นเป็นตอน ค่อยเป็นค่อยไป อย่าผลีผลามใจร้อน ช้าๆ ได้พร้าเล่มงามนะ” บิดากล่าวเตือนสติ
“ก็ถ้าเรามัวแต่ชักช้า แล้วจะไปทันกินได้ยังไงล่ะครับ?”
“แต่ถ้าทำอะไรปรูดปราดตามอารมณ์ แป๊บเดี๋ยวก็เลิกแบบแก มันก็เสี่ยงไม่คุ้มทุนเหมือนกัน” คนพูดจงใจกล่าวย้อนศรบุตรชาย เขาอยากจะรู้นักว่าเจ้าตัวจะมีความตั้งใจจริงในการพัฒนาบ้านเกิดของตนสักแค่ไหน...
“ผมไม่เคยคิดจะทำอะไรเล่นๆ นะครับ ผมคิดถึงผลได้ผลเสียอย่างละเอียดถี่ถ้วนแล้ว ถึงตัดสินใจทำแบบนี้ และผมก็จะพัฒนาหมู่บ้านเขากะหมอกต่อไปจนกว่าจะเจริญด้วย”
น้ำเสียงหนักแน่นและแววตาเด็ดเดี่ยว ทำให้เกริกเกียรติปลื้มปิติเป็นยิ่งนัก ไม่เสียแรงจริงๆ ที่ตนเฝ้าฟูมฟักบุตรชายมากับมือ
แต่ยังก่อน... เขาขอแกล้งไอ้ตัวดีอีกสักหน่อยก็แล้วกัน หลังจากนั้นถึงจะยอมทำตามคำขอของเจ้าตัว
“แกจะพัฒนาอะไรพ่อไม่ว่า แต่ถ้าจะให้เสียเงินทีละเป็นล้านๆ แบบนี้ พ่อไม่เห็นด้วย” ผู้เป็นพ่อยืนยันเสียงแข็ง
บุตรชายจึงเงียบลงไปทันตา พลางใช้ความคิดอย่างหนักว่า
‘จริงอย่างที่พ่อเขาพูด... เงินล้านเชียวนะ ใครจะยอมให้ง่ายๆ กันล่ะ?’
จิรเมธเฝ้าขบคิดว่าควรจะแก้ไขสถานการณ์ตรงหน้าอย่างไร ขนาดใช้ชื่อมารดามาอ้างก็แล้ว คุณพ่อก็ยังใจแข็งอยู่ดี เห็นทีคราวนี้เขาคงต้องงัดมุขสุดท้ายออกมาแล้วจริงๆ และถ้ายังใช้ไม่ได้อีกละก็ เขาคงจะต้องเป็นฝ่ายยอมไปเอ่ยปากขอโทษลัลนาซะแล้วละ
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------
โหหหหหหหห!!!!
พระเอกของเราใจป๋ามาก เล่นทุ่มซื้อทั้งตึกซื้อทั้งที่ดินให้นางเอกของเราแบบฟรีๆ
อ๊ายยย 8>////<8 หล่อ รวย สปอร์ต & ใจดีแบบนี้ สาวๆ อยากได้ใช่ม้าาาา
แต่ก่อนจะเปย์สาว งานนี้พ่อยอดขมองอิ่มของชมจะงัดไม้ไหนมาถลุงเงินยอดคุณพ่อ
คงต้องตามมาลุ้นมาเชียร์กันต่อตอนหน้านะคะ
ใครอดใจรอไม่ไหว อยากรู้เรื่องก่อนใคร แวะไปโหลดได้ที่เมพและร้านอีบุ๊คชั้นนำทั่วประเทศค่า เค้ารับประกันความน่ารักนะจ๊ะ
![]() |
|
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ
