ตอนที่ 28 : แกลลอนที่ 13 (100%)
สองหนุ่มสาวที่ยื้อยุดฉุดลากกันมาตั้งแต่บนตัวเรือน จนหยุดยืนอยู่ตรงข้างรถแวนคันหรูสีดำก็เปิดปากฉะกันทันทีไม่ให้เป็นการเสียเวลา เมื่อไม่มีผู้หลักผู้ใหญ่คนไหนยืนอยู่ให้ลัลนาต้องคอยสำรวมกิริยามารยาทอีกต่อไปแล้ว
“นี่! เลิกยุ่งเลิกตอแยกับฉันซะทีได้ไหม น่ารำคาญ!” เธอตะเบ็งเสียงใส่เขาอย่างเหลืออด สองมือก็พลางยกขึ้นกอดอกมองเขาอย่างเอาเรื่อง หากว่าชายหนุ่มยังไม่เลิกวุ่นวายกับเธอเสียที
“ไม่ได้!” จิรเมธพูดเสียงดังฟังชัด “เธอเป็นหนี้ฉันอยู่ตั้งเยอะ จะให้ปล่อยไปง่ายๆ ได้ไงละ เพราะถ้าเกิดเธอหาเงินมาใช้ไม่ทัน ฉันก็แย่น่ะสิ”
เหตุผลที่เจ้าตัวหยิบยกมากล่าวอ้างนั้น ฟังดูไม่ค่อยตรงกับใจที่คอยห่วงหาใครบางคนสักเท่าไหร่นัก
“เคี่ยว!” ลูกหนี้สาวกระแทกเสียงเหน็บ “ถามจริงๆ เถอะ จะงกไปถึงไหน ไอ้เงินที่นายให้ฉันยืมมาก็เป็นแค่เศษเงินของนายเท่านั้นเอง ทำอย่างกับว่าถ้าไม่ได้คืน บ้านนายจะล้มละลายอย่างนั้นแหละ”
“เพราะไม่เห็นค่าของเม็ดเงินนี่แหละ เธอถึงได้จนอยู่อย่างทุกวันนี้ไงละ จะบอกให้นะ...แม้แต่สตางค์แดงเดียว ก็มีค่าสำหรับฉันเสมอ”
“เค็ม! อยากรู้จริงๆ ว่าเวลาขี้ นายจะให้หมากินไหม?”
“อย่าว่าแต่หมาเลย ถ้าเธอกินได้ ฉันก็ให้”
“นาย!”
เป็นลัลนาเองที่โกรธจนตัวสั่น เมื่อถูกชายหนุ่มยอกย้อนเข้าให้เสียจนแสบทรวง หญิงสาวจึงหมุนตัวตั้งท่าจะเดินหนีด้วยความรำคาญแกมเหนื่อยใจ สาวร่างบางคงจะได้หลบหน้าคนไม่พึงประสงค์สมใจ ถ้าไม่มีมือหนาใหญ่เอื้อมมาคว้าข้อแขนของเธออย่างถือวิสาสะเอาไว้เสียก่อน เท้าที่กำลังจะก้าวขาเดินจึงหยุดชะงักลงทันควัน ก่อนจะหันขวับมายังตัวกีดขวางเช่นเขา
“ปล่อย! ไม่อย่างนั้นอย่าหาว่าฉันไม่เตือนนะ” คนพูดขู่ฟ่อราวกับนางแมวป่า
“ไม่ปล่อย! จนกว่าเธอจะสงบสติอารมณ์ลงบ้าง แล้วหันมาคุยกับฉันด้วยเหตุผลดีๆ” จิรเมธเองก็เอ่ยด้วยสีหน้าขึงขังเอาจริง
“แต่ฉันไม่อยากจะคุยกับนาย” สาวแสบบอกปัดไม่ยอมท่าเดียว เขาเลยต้องงัดไม้เด็ดขึ้นมาขู่
“แต่เธอต้องคุย! เพราะนี่มันเรื่องของคนทั้งหมู่บ้าน ไม่ใช่เรื่องของเธอแค่คนเดียว!!”
นั่นแหละ... คิ้วเรียวยาวดกดำ แถมโก่งดังคันศรจึงขมวดมุ่นใช้ความคิดอย่างหนัก เมื่ออารมณ์และเหตุผลภายในใจกำลังห้ำหั่นกันเองอย่างดุเดือดว่า
‘จะหยุด’ หรือ ’จะเถียงต่อ’
แล้วสำนึกด้านดีก็เป็นฝ่ายกำชัยสามารถต้านทานแรงขึ้งโกรธ ทำให้ลูกสาวผู้ใหญ่บ้านยอมทำตัวสงบเสงี่ยมลงได้ จิรเมธจึงรีบอาศัยจังหวะนี้เอ่ยอย่างเป็นการเป็นงาน
“ฟังนะลัลนา ที่ฉันบอกว่าอย่าเพิ่งทำอะไร เพราะฉันอยากให้เธอรอจนกว่าฉันจะหาแพ็กเก็จสวยๆ จากกรุงเทพมาได้เสียก่อน ไม่อย่างนั้นก็จะเกิดปัญหาสินค้าขายไม่ออก เพราะรูปลักษณ์มันไม่ชวนซื้อแบบที่เธอกำลังเจออยู่นี่แหละ”
ลัลนาได้แต่ยืนนิ่งๆ ฟังสิ่งที่อีกฝ่ายกล่าวมา โดยไม่โต้เถียงสักคำ จริงอย่างที่เขาพูด เพราะเธอเอาแต่ดื้อรั้น คิดเพียงแค่ว่าในเมื่อของทำไปแล้ว จะทิ้งให้สูญเปล่าไปทำไมกัน เธอเลยดันทุรังจะขายของโดยไม่ฟังคำเตือนของเขา แล้วผลก็เป็นไปตามที่เขาคิดอีกเหมือนกัน ตอนนี้ทั้งน้ำมันไบโอดีเซลและสบู่ขายไม่ได้เลยสักอย่าง จนเธอต้องมานั่งกลุ้มอกกลุ้มใจอยู่อย่างนี้
ทั้งๆ ที่รู้และเข้าใจในเหตุผลของชายหนุ่มดี แต่ลัลนาก็อดขัดเคืองเรื่องที่โดนเขาย้ำหัวตะปูอยู่หลายรอบไม่ได้ ดวงคาคมโตจึงจ้องมองเขาด้วยแววขุ่นเขียวพาลพาโล ซึ่งดูเหมือนว่าจิรเมธเองก็พอจะรู้ถึงข้อนี้ดี เขาจึงพยายามใช้ไม้นวมกับหญิงสาวแทนว่า
“แต่ตอนนี้เธอไม่ต้องกลัวแล้วนะ เพราะฉันจัดการแก้ปัญหาทุกอย่างให้เธอเรียบร้อยแล้ว มีทั้งกล่องสีเขียวสีเหลืองเอย แกลลอนสวยๆ หลายขนาดเอย เธอเห็นรึยังล่ะ?”
หนุ่มขี้เล่นแย้มยิ้มบอกสาวใต้อย่างใจเย็น หวังให้คนตรงหน้าอารมณ์ดีขึ้นบ้าง ซึ่งมันก็ได้ผลดีทีเดียว เมื่อสาวขี้โมโหฉายแสงในแววตาอ่อนลงมาอย่างเห็นได้ชัด
“ยังไม่ได้ดูเลย” เธอพูดเสียงเบาหวิว
“งั้นจะไปดูก่อนไหม?” จิรเมธรีบคะยั้นคะยอให้เจ้าตัวรู้สึกตื่นเต้น “เสร็จแล้วเราค่อยไปเก็บของคืน แล้วก็เอามาใส่กล่องกับแกลลอนสวยๆ กัน จะได้เอาไปขายใหม่ไงละ”
“อื้อ” ลัลนาส่ายหัวปฏิเสธ ยามที่ได้ยินถ้อยคำสะกิดใจ แต่ก็หาได้โทษคนตรงหน้าไม่ เพราะคนที่ทำให้เขาต้องมาเหน็ดเหนื่อยไปช่วยเก็บของก็คือตัวเธอเองนี่แหละ
“ทำไมล่ะ ไปดูสักหน่อยสิ ฉันอุตส่าห์เอามาไว้ที่ใต้ถุนบ้านเธอเมื่อวานนี้เองนะ” ชายหนุ่มไม่ละความพยายาม
“อย่าเพิ่งเลย เรารีบไปเอาของคืนมาก่อนดีกว่า จะได้ทำใหม่ทั้งหมดทีเดียว” คนพูดบอกเสียงเหี่ยว รู้สึกผิดขึ้นมาจับใจ
ถึงเวลานี้ลัลนาไม่มีข้อโต้แย้งอันใดในความหวังดีของคนตรงหน้าแล้ว เพราะบางทีการที่มีเขาคอยช่วยเหลืออยู่ข้างๆ อาจจะดีกว่าการที่เธอต้องนั่งคิดเองทำเองเพียงลำพัง
ที่สำคัญ...ถ้าเธอเชื่อเขาเสียตั้งแต่ทีแรก เธอคงไม่ต้องขาดทุนป่นปี้ขนาดนี้หรอก
“เอาอย่างนั้นเหรอ?” จิรเมธถามเสียงแผ่วเจือแววอาทรอย่างเปี่ยมล้น รู้สึกสงสารเจ้าหล่อนเสียเหลือเกิน
“อือ” เธอพยักหน้ารับ
“เอ้า... เอาอย่างนั้นก็ได้” คนฟังเลยยอมตามใจหล่อนโดยดี “แต่ก่อนจะไป เธอต้องเปลี่ยนเสื้อก่อนนะ”
หนุ่มทะเล้นบอกข้อแม้เล็กๆ ก่อนจะเดินไปเปิดประตูหลังรถ หยิบถุงกระดาษใบหนึ่งยัดใส่มือของลัลนา เขาเพียรหาโอกาสจะมอบให้หล่อนมาตั้งแต่เมื่อวานนี้แล้ว แค่ปรารถนาจะกระเซ้าเหย้าแหย่ให้แม่สาวแสบทำหน้าบึ้งใส่ตนเสียบ้าง ไม่อย่างนั้นนายจิมแห่งบ้านเขากะหมอกคงได้เฉาตายกันพอดี เพราะต้องทนเห็นแต่สีหน้าซึมเศร้าของเจ้าตัวทั้งวัน
ลัลนามองหน้าจิรเมธสลับกับถุงในมือด้วยความสงสัย แล้วพลันเอ่ยปากถามทันที
“ทำไมต้องเปลี่ยนด้วยล่ะ?”
คนตัวสูงยืดอกพลางชี้นิ้วไปยังตัวอักษรขนาดใหญ่ที่สกรีนอยู่บนเสื้อยืดสีชมพูอ่อนที่เขาสวมใส่มาในวันนี้ เพราะอีกฝ่ายนั้นมัวแต่ตกอยู่ในภาวะเครียดจัด จนลืมสังเกตเห็นความน่ารักบางอย่างของเขาไปเสียสนิท
‘นายหน้าหล่อ’
ดวงตาคมโตหรี่มองเขาอย่างอนาถใจในพฤติกรรมแบบเด็กๆ ที่เจ้าตัวภูมิใจนำเสนอเหลือเกิน
‘ติ๊งต๊องซะไม่มี...
นี่ถ้าคนใส่ไม่บ้าหรือหลงตัวเองจนเข้าขั้นละก็... คงไม่กล้าทำแน่ๆ’
“เหมาะกับฉันดีไหมล่ะ?”
ยิ่งพอได้ฟังอีกฝ่ายพูดออกมาอย่างกระหยิ่มใจด้วยแล้ว คนฟังก็ยิ่งส่ายหน้าร้องยี้
“อึ๊ย! ไม่เอา ฉันไม่ใส่หรอก” ลัลนารีบปฏิเสธ เพราะคิดไปว่าสงสัยเขาคงจะให้เธอใส่เสื้อพวก ‘แม่คนสวย’ หรือ ‘น่ารักเสมอ’ เหมือนกันแน่ๆ แต่ตัวเธอเองไม่ได้พกพาความมั่นอกมั่นใจจนเกินงามเหมือนคนแถวนี้ซะด้วยสิ จะได้ยอมทำตามเขาง่ายๆ
แต่ไอ้ครั้นจะให้เธอคืนของชายหนุ่มก็ดูจะเป็นการเสียน้ำใจ อีกทั้งความอยากรู้อยากเห็นก็มีอำนาจเหนือกว่า ลัลนาเลยหยิบเสื้อยืดสีเดียวกัน หากต่างไซส์ ขึ้นมาคลี่ดูสักหน่อย เพื่อมิให้เขาเสียความรู้สึก
“กรี๊ดดด” แล้วสาวแสบก็ต้องกรีดร้องด้วยความหัวเสียเป็นที่สุดในรอบสองสามวันที่ผ่านมา
‘ยายคนบ้า’ กับ ‘นายหน้าหล่อ’ อย่างนั้นหรือ!?
‘โอ๊ย! อยากตบคนหลงตัวเองแถวนี้จัง’
“ฮะฮ่าๆๆ”
ยิ่งได้ยินเสียงหัวเราะร่า ลัลนาก็ยิ่งพานออกอาการกะบึงกะบอนไปกันใหญ่
“ทำไม... ไม่ชอบเหรอ ฉันอุตส่าห์ซื้อมาฝากจากกรุงเทพเลยนะ” คนตัวสูงเลิกคิ้วถามอย่างยียวน
“ชอบกับผีน่ะสิ!” คนฟังแหวกลับเสียงเขียว เบะปากอย่างหมั่นไส้ “ใครจะไปใส่เดินคู่กับนายยะ ทีของตัวเองละเป็นนายหน้าหล่อ ส่วนของฉันกลับเป็นยายคนบ้า ทุเรศที่สุด ฉันไม่ใส่หรอก”
ยิ่งลัลนาแสดงท่าทีกระฟัดกระเฟียดมากเท่าไร จิรเมธก็ยิ่งหัวเราะชอบใจที่เขาสามารถยั่วให้หล่อนโมโหจนเลิกทำหน้าบูดแบบเมื่อกี้ได้เสียที
“โอ๊ย! ไม่ใส่ไม่ได้หรอกนะ อย่ามาเลือกที่รักมักที่ชังสิ”
“เลือกอะไร ตรงไหน พูดมาให้ชัดๆ นะ” คนถูกกล่าวหาเค้นคอถามพ่อตัวดี
“เอ้า...ก็ทีเป็นกล่องสวยๆ ละรับเอาไว้ขาย แต่พอเป็นเสื้อถูกๆ กลับโยนทิ้ง แล้วจะไม่เรียกว่าเลือกมากได้ยังไงล่ะ?”
“ก็เสื้อนายมันน่าใส่นักนี่” ลัลนายื่นปากเถียงมุบมิบ เพราะมันก็จริงดังที่เขาพูด
“ทำไมล่ะ... ฉันอุตส่าห์ไปเดินเฟ้นมากับมือเลยนะ สีออกจะสวย แถมพอใส่คู่กันแล้วก็ดูแนวดีออก”
พ่อนักหว่านล้อมเพียรพูดจาโฆษณาชวนเชื่อเสียจนเธอเกือบจะหลงกลอยู่รอมร่อ หากไม่เหลือบไปเห็นข้อความบนเสื้อที่เธอเพิ่งปาไปให้เขาอยู่หยกๆ ละก็ ป่านนี้เธอคงเอื้อมมือไปรับมันกลับคืนมาแล้ว
“อย่ามาพูดเลย นายตั้งใจเลือกมาด่าฉันน่ะสิ ไม่อย่างนั้นคงไม่เลือกตัวที่มันน่าเกลียดแบบนี้มาหรอก”
ลัลนาบอกคนกะล่อนอย่างรู้ทัน ทว่าพ่อปลาไหลก็ยังแถไปได้เรื่อยๆ หนำซ้ำยังไม่วายแขวะเธอเข้าให้อีกว่า
“เปล่าสักหน่อย ฉันแค่เห็นว่าเราทำงานกันเป็นทีม ก็น่าจะใส่เสื้อที่มันเหมือนๆ กันหน่อยเท่านั้นเอง เธอนี่ชอบมองโลกในแง่ร้ายเสมอเลยนะ”
ลัลนาเลยหมดข้อโต้แย้งที่จะเอาไว้งัดข้อกับพ่อคนมีจริตที่แกล้งตีหน้าซื่อตาใสไปโดยปริยาย เพราะไม่เกิดประโยชน์อันใดขึ้นมา แต่เธอก็ยังคงยืนกรานอย่างแน่วแน่ว่า...
หัวเด็ดตีนขาดยังไงก็จะไม่ยอมใส่ไอ้เสื้อบ้าตัวนี้เด็ดขาด!
“แหม... ใส่ให้หน่อยแค่นี้ก็ไม่ได้เหรอ ถือว่าแทนคำขอบคุณก็ยังดี คนเขารึอุตส่าห์แบกของเยอะแยะมาให้ตั้งไกลจากกรุงเทพโน่นแน่ะ มันลำบากมากเลยน้า ไหนจะต้องเดินเบียดกับฝูงชนที่สำเพ็งเสียจนเหงื่อตก แถมยังต้องฝ่าผู้คนที่สนามบินมาอีก” จิรเมธแกล้งสาธยายถึงความเหนื่อยยากของตนออกมาลอยๆ พร้อมกับเพียรสะกิดต้นแขนเธอเบาๆ เพื่อยื่นเสื้อตัวนั้นให้ ประหนึ่งจะวอนขอ
ในที่สุดลัลนาก็ทนให้เขามานั่งรำเริบบุญคุณไม่ไหว เธอจึงเอื้อมมือไปรับเสื้อยืดมาถือไว้อย่างเสียมิได้
“รู้แล้วๆ ใส่ก็ได้ เลิกพล่ามเสียที”
แล้วสาวแสบก็เดินกระแทกกระทั้นกลับขึ้นเรือนไปเปลี่ยนเสื้ออย่างตัดรำคาญ ทิ้งให้คนหนุ่มยืนอมยิ้มมองตามร่างบางไปด้วยความสมใจ
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ดีค่าาาาาา
คนเขียนหายไปนาน แต่...!
เขากลับมาพร้อมกับความน่ารักน่าหยิกของหนูนากะตาจิมน้า
หายงอนเขาอะยัง อิอิ
ตอนหน้าน่ารักยิ่งกว่านี้อีก ไม่เชื่อ...มาตามส่องเลยค่า
ใครอดใจรอไม่ไหว อยากรู้เรื่องก่อนใคร แวะไปโหลดได้ที่เมพและร้านอีบุ๊คชั้นนำทั่วประเทศค่า เค้ารับประกันความน่ารักนะจ๊ะ
![]() |
|
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ
