ตอนที่ 20 : แกลลอนที่ 9 (100%)
“เธอจะเอาไง?” จิรเมธเหล่มองอีกฝ่าย หลังจากที่ทั้งคู่ยืนจดๆ จ้องๆ กันอยู่สักพัก
“แล้วนายล่ะจะเอาไง?” ลัลนาถามกลับเสียงเรียบ ลดอาการยียวนกวนประสาทลงไปได้เยอะ เมื่อได้รับฟังคำตักเตือนของมารดา
ซึ่งเป็นสิ่งที่จิรเมธเองก็ปรารถนาในตัวหล่อนมากที่สุดตอนนี้เช่นกัน
“ฉันเห็นด้วยกับพ่อแม่ของเธอ”
“ก็ดี...งั้นพวกเรามาสงบศึกกันชั่วคราว” หญิงสาวพยักหน้ารับ แล้วก้าวขาหลังหันจากไป ทำให้จิรเมธเกิดอาการงงงันที่อีกฝ่ายทำเหมือนกับจะเดินหนีเขาไปเสียดื้อๆ
“อ้าว... ไหนว่าเราเพิ่งดีกัน แล้วเธอจะเดินหนีฉันไปไหนอีกล่ะ?”
อาการเซ้าซี้กวนใจเป็นเหตุให้คนที่เพิ่งปลงใจหย่าศึกกลับมาหงุดหงิดอีกครั้ง ทว่าคำสอนเมื่อครู่ของมารดาก็ลอยแว่วเข้ามาในหู จนลัลนาต้องพยายามข่มใจให้เย็นลงและมีความอดทนมากกว่านี้
ลัลนาหยุดเท้าหันกลับมาตอบ
“ฉันไม่ได้หนี แต่จะเดินกลับไปเอาของที่บ้าน นายจะไปด้วยไหมล่ะ?”
สาวใต้มั่นใจล้านเปอร์เซ็นต์เลยว่าพ่อคนเจ้าสำอางท่าทางเหยาะแหยะแบบเขาคงจะรีบบอกปัดคำชวนทันควันแน่ๆ
“ไปสิ”
แต่... จิรเมธกลับพยักหน้ารับ แถมยังสาวเท้าเข้ามาเดินเคียงข้างเธออย่างหน้าตาเฉย ทำเอาดวงตาคมโตของคนฟังพลันเบิกกว้างจนแทบถลนอย่างผิดคาด ไม่น่าเชื่อว่าเจ้าตัวจะยอมลงมือลงแรงทำอะไรเพื่อคนอื่นก็เป็นด้วย
“อย่าเข้าใจผิดละ ฉันไม่ได้พิศวาสอยากจะช่วยอะไรเธอนักหรอก แต่มันก็ยังดีกว่านั่งพูดกับต้นไม้ใบหญ้าอยู่แถวนี้คนเดียวละนะ” คนที่อ่านสายตาของเจ้าหล่อนออกอ้างแก้เก้อ
เท่านั้นแหละ...อาการเป็นปลื้มเล็กๆ ของคนฟังก็พลันหดหาย เกิดความหมั่นไส้เข้ามาแทนว่า
‘โธ่เอ๊ย… ไอ้เราก็นึกว่ามีน้ำใจอยากจะช่วย
ที่แท้ก็กลัวน้ำลายบูดนี่เอง’
สองหนุ่มสาวก็ต่างคนต่างเดินไปด้วยกันอย่างเงียบเชียบ จนกระทั่งคนกลัวน้ำลายบูดทำลายความเงียบด้วยการชวนคุยไปพลางๆ ว่า
“นี่...ทำไมพ่อเธอถึงได้ลงทุนทำน้ำมันไบโอดีเซล แทนที่จะไปทำอย่างอื่นที่ได้กำไรกว่านี้ล่ะ?”
ลัลนาหยุดคิด แล้วทบทวนในสิ่งที่บิดาทำมาทั้งหมด เพื่อตอบคำถามให้คนข้างกายเข้าใจอย่างกระจ่างถึงความปรารถนาเดียวของท่าน
“เพราะพ่อจ๋าซาบซึ้งและประทับใจในพระราชกรณียกิจของพระองค์ท่าน ที่ทรงคิดและทำเพื่อราษฎรอย่างพวกเราทุกคน” คนเล่าบอกด้วยความปลื้มปิติอย่างล้นเกล้า ก่อนเอ่ยต่อไปด้วยน้ำเสียงเศร้าสร้อย “แต่คนที่รับและเห็นคุณค่านั้นมีน้อยมาก พ่อจ๋าเลยคิดอยากจะสานต่อสนองแนวทางตามพระราชดำริ เพราะหวังว่าอย่างน้อยในวันหนึ่งข้างหน้า คนไทยจะได้ตระหนักถึงความรักความห่วงใยของพระองค์ที่ทรงมีต่อปวงชน แล้วช่วยกันรักษาทรัพยากรธรรมชาติอย่างเช่นน้ำมันที่มีอยู่ไม่ให้หมดไป เพื่อที่ประเทศของเราจะได้ยังคงมีใช้... ไม่ลำบาก”
แม้จิรเมธจะยังไม่ซาบซึ้งถึงขนาดหยั่งรากฝังลึกในแก่นแท้ทื่เธอกล่าวออกมาก็ตามที แต่เขาก็พอเข้าใจ
“ก็จริงนะ เพราะทุกวันนี้ ผู้คนส่วนใหญ่ต่างก็ใช้ชีวิตอย่างฟุ้งเฟ้อและมองอะไรกันแค่ผิวเผินทั้งนั้น” เขายักไหล่บอก ก่อนจะนึกสะดุดใจในคำพูดของตนขึ้นมาว่า
‘ตัวเขาเองก็เป็นหนึ่งในคนพวกนั้นมิใช่หรือ?’
“เป็นอะไรไปล่ะ ทำไมถึงได้ทำหน้านิ่วคิ้วขมวดแบบนั้น?” คนมองร้องถาม
“เปล่าหรอก เพียงแต่พอลองกลับมาคิดดูดีๆ ฉันเองก็เป็นคนหนึ่งที่มองอะไรอย่างผิวเผินเหมือนกัน”
“ไม่เห็นจะเป็นอะไรนี่นา คนเราต่างก็ย่อมเคยผิดพลาดด้วยกันทั้งนั้นแหละ อยู่ที่ว่าใครจะทำใจยอมรับและหาทางแก้ไขได้รึเปล่า”
แปลก! จิรเมธนึกว่าหล่อนจะพูดจาดูถูกถากถางเขาเสียอีก
แต่ผิดคาด… เธอกลับให้กำลังใจเขา แถมยังมอบรอยยิ้มสดใสส่งมาให้ จนเขาต้องบอกกับตัวเองว่า
‘มันช่างเป็นยิ้มที่บาดตาบาดใจเขาเสียเหลือเกิน’
จิรเมธเลยชักมีไฟ อยากทำโครงการน้ำมันไบโอดีเซลของหมู่บ้านเขากะหมอกให้ประสบผลสำเร็จลุล่วงโดยเร็ว เพราะเขาเองก็อยากจะรู้นักว่า...
ตัวตนและความคิดของเขาจะเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางไหน?
“ฉันจะต้องทำโครงการนี้สำเร็จให้จงได้ เธอคอยดูนะ” แล้วเขาก็หันมาบอกกับสาวใต้อย่างมุ่งมั่น
“นายนี่ก็มีความคิดดีๆ เหมือนกันแฮะ”
ฟังดูเผินๆ เหมือนเจ้าตัวจะยียวนกวนประสาทเขา แต่ไม่รู้เพราะอะไรจิรเมธจึงกลับคิดว่า
‘มันเป็นสิ่งที่เจ้าหล่อนเอ่ยออกมาอย่างจริงใจ’
“แน่นอนละ ก็ฉันมันเป็นคนฉลาดนี่นา” พ่อหนุ่มหัวนอกเลยรีบพูดยกหางตัวเองทันที
‘ชมหน่อยละ ทำเป็นเหลิงเชียว’
คนฟังเลยขว้างค้อนส่งให้ด้วยความหมั่นไส้ขึ้นมาตงิดๆ แอบนึกขำแง่มุมดีๆ ที่เธอเพิ่งสัมผัสได้จากคนข้างกาย สองเท้าเร่งเดินนำเข้าไปใต้ถุนบ้านพร้อมรอยยิ้ม
จิรเมธเดินตามหลังสาวร่างบางมาติดๆ อย่างกระตือรือร้น ส่วนหนึ่งเป็นเพราะรอยปิติยินดีในหัวใจที่เพิ่งเกิดแก่เขาและเธอ ผลักดันให้คนที่ไม่เคยทำอะไรเพื่อใครอย่างเขารู้สึกถึงความอิ่มเอมใจเล็กๆ เมื่อได้เห็นว่าเขาเป็นคนสำคัญหรือมีส่วนช่วยทำให้หมู่บ้านแห่งนี้เติบโตขึ้น
“นั่นขวดอะไรน่ะ?” จิรเมธถาม เมื่อเห็นลัลนาถือลังที่บรรจุขวดพลาสติกใสๆ หลายใบเอาไว้ ดูยังไงก็น่าจะผ่านการใช้มาก่อนแล้ว
“ขวดใส่ไบโอดีเซล” ลัลนาตอบอย่างเป็นมิตรมากขึ้น “พอบรรจุเสร็จ ก็จะเอาไปวางฝากขายตามร้าน”
“ขวดน้ำมันเก่าๆ แบบนี้น่ะเหรอที่เธอจะเอาไปใช้” คนฟังร้องถามตาโต ราวกับเจอเรื่องประหลาดในจักรวาล
“ใช่!” ใบหน้างามงอง้ำขึ้นมาทันตา “ถึงมันจะเป็นของเก่ารีไซเคิล แต่ฉันก็ทำความสะอาดก่อนทุกครั้ง”
“แต่ยังไงมันก็เป็นขวดเก่า ดูสกปรก แล้วใครจะมาซื้อของเธอล่ะ? จิรเมธวิจารณ์ตรงๆ อย่างหัวพ่อค้า
แววตาที่แสดงออกถึงความรังเกียจเดียดฉันท์ในบรรจุภัณฑ์เหมือนกับเป็นเศษขยะไร้ค่า ทำให้ลัลนาลืมความรู้สึกดีๆ ที่เกิดขึ้นเมื่อครู่ทันควัน
“ไม่เข้าใจ!” คนที่ทำด้วยใจกระแทกเสียงตอบ ก่อนจะหยิบลังใบใหญ่ขึ้นอุ้มแนบอก แล้วเดินหนีเขากลับไปที่โรงศาลาน้ำมันทันที เพราะไม่อยากจะอยู่ทะเลาะกันอีก
จิรเมธเริ่มเห็นว่าบรรยากาศที่แลดูดีระหว่างกันชักจะไม่โสภาเสียแล้ว เพราะปากของเขาเป็นเหตุ จึงยอมโอนอ่อนผ่อนปรนไม่ต่อความยาวสาวความยืดให้เป็นเรื่องขึ้นมาอีก ก่อนที่เขาจะเลือกเดินไปช่วยยกลังขวดน้ำมันพืชเก่าๆ ขึ้นมาถือไว้ แล้วเดินตามเธอไปติดๆ
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------
เฮ้อออออออ ดีกันยังไม่ทันไร ก็ตั้งท่าจะงับหัวกันอีกแล้ว
พระเอก-นางเอกคู่นี้เขารักกันรุนแรงจริมๆๆ
คนอ่านอย่างเราก็ต้องตามลุ้นกันต่อไปนะคะ ว่าเขาจะลงเอยกันอีท่าไหน...คริคริ
อ่านแล้วคันมือคันปากอยากเม้า แวะมาทักทายกดโหวดหรือเม้นต์กันได้เต็มที่นะคะ
คนเขียนจะรอนาจาาาาา ^_^
ส่วนใครอดใจรอไม่ไหว อยากรู้เรื่องก่อนใคร แวะไปโหลดได้ที่เมพและร้านอีบุ๊คชั้นนำทั่วประเทศค่า เค้ารับประกันความน่ารักนะจ๊ะ
![]() |
|
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ
