ตอนที่ 3 : ตอนที่ 3. หัวขโมย!? 1/2
3. หัวขโมย!? 1/2
ฝ่ายหญิงสาวที่ถูกศรศิลป์ไม่กินเส้นของคุณชายพระเพลิงเริงโลกันตร์ปักเข้าให้จังๆ ทั้งที่ยังไม่รู้ตัว ก็กำลังนั่งสนทนากับครอบครัวด้วยความแช่มชื่น เมื่อสามารถแก้ปัญหาหนักเหมือนยกภูเขาออกจากอกไปได้เป็นผลสำเร็จ ซ้ำยังกล่าวสรรเสริญนายพลพงษ์เทพเสียยกใหญ่ให้สมาชิกในครอบครัวฟังเสียด้วยว่า
“ดีนะจ๊ะที่เราได้คนประเสริฐอย่างคุณท่านช่วยไว้ ไม่อย่างนั้นบ้านเราคงแย่แน่ๆ”
“พวกเรานี่โชคดีจังเลยนะจ๊ะพี่น้ำ” แก้วใสพูดขึ้นบ้างด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม
“นั่นสิลูก ท่านเหมือนพ่อพระมาโปรดพวกเราในยามยากจริงๆ” สายชลเอ่ยสำทับต่อ
“เรารอดมาได้ก็เพราะน้ำแท้ๆ เลยนะลูก” คนเป็นพ่อเลยพลอยรู้สึกซาบซึ้งไปด้วย แต่อีกใจก็รู้สึกละอายในความไม่ได้เรื่องของตน “พ่อมันเป็นพ่อที่แย่จริงๆ ปล่อยให้ลูกทั้งสองต้องตกระกำลำบาก แถมยังให้น้ำบากหน้าไปเผชิญปัญหาคนเดียวอีก พ่อขอโทษนะลูก”
“โธ่! พ่ออย่าคิดแบบนั้นสิจ๊ะ เท่าที่พ่อกับแม่ยอมส่งเสียเลี้ยงดูพวกเรามานี่ก็ดีที่สุดแล้วจ้ะ เพราะฉะนั้นอะไรที่น้ำกับแก้วพอจะช่วยได้ พวกเราก็จะทำกันเต็มที่จ้ะ” ธารน้ำบอกกับบิดาด้วยความรักและเทิดทูน
“แต่ว่าพ่อ...” ยังไม่ทันที่คนฟังจะได้เอื้อนเอ่ยคำพูดอัดอั้นอันใดต่อไป คนที่ใช้ชีวิตร่วมเรียงเคียงคู่กันมามากกว่ายี่สิบปีก็กล่าวแทรกขึ้น
“พี่กรณ์... ลูกพูดถูกแล้วนะ เราเป็นคนครอบครัวเดียวกัน ก็ต้องรัก ต้องสามัคคี ช่วยเหลือกันในยามยากสิจ๊ะ พี่อย่าโทษตัวเองไปเลย”
น้ำเสียงที่เอ่ยมาอย่างอ่อนโยนทำให้กรณ์เกิดความปลื้มอกปลื้มใจเป็นที่สุด เขาอดที่จะดึงร่างบางอันผายผอมเข้ามาสวมกอดไว้ด้วยความรักใคร่เหมือนเมื่อครั้งที่เขาและเธอยังจีบกันอยู่ใหม่ๆ มิได้
“ขอบคุณนะสายชล ขอบคุณที่น้องคอยอยู่เคียงข้างพี่มาตลอด”
คนพูดบรรจงมอบจุมพิตลงกลางกระหม่อมของหล่อนอย่างหวานซึ้ง เพื่อถ่ายทอดความรักความอบอุ่นกลับคืนไปสู่อีกฝ่ายดังเช่นที่เขากำลังได้รับ พลางหยอดคำหวานบอกคนในอ้อมกอดราวกับเขาและเธอยังเป็นคู่ข้าวใหม่ปลามัน ที่เพิ่งจะดื่มด่ำความหวานหยดของน้ำผึ้งเดือนห้าโดยไม่อายบุตรีทั้งสองเลยสักนิด
“รู้ไหมว่าพี่มีความสุขมากแค่ไหน เวลาตื่นนอนขึ้นมาทุกเช้าแล้วได้เห็นน้องนอนอยู่ข้างๆ ไม่เคยทอดทิ้งคนจนๆ อย่างพี่ไปเหมือนกับที่เมียคนอื่นๆ เขาทำกัน”
“ชลจะทำอย่างนั้นได้อย่างไรกันล่ะจ๊ะ พี่ก็รู้ว่าชลรักพี่จะตายไป ยิ่งพี่เป็นทั้งพ่อและสามีที่ดีของชลด้วยแล้ว ชลยิ่งทำแบบนั้นไม่ได้ใหญ่เลยจ้ะ” คนเป็นเมียก็พร่ำพลอดบอกคำรักไม่ต่างกัน
“ชล...” ถ้อยคำขอบคุณซึ่งหวังจะกลั่นออกมาจากใจ เลือนหายไปพร้อมกับหยาดน้ำตาที่รินหลั่งออกมาคลอหน่วยแทน คนฟังรู้สึกตื้นตันจนไม่สามารถเอื้อนเอ่ยสิ่งใดออกมาได้อีก นอกเสียจากกระชับวงแขนให้แน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้น เพื่อเป็นการแสดงถึงความภักดีที่มีต่อคู่ทุกข์คู่ยากของเขาผ่านทางภาษากาย
“แหม... พ่อกับแม่เล่นหวานใส่กันไม่เกรงใจเราเลยเนอะพี่น้ำ” แก้วใสเอ่ยแซว พร้อมทั้งหันไปพยักพเยิดบอกพี่สาวที่ยืนยิ้มหน้าบานอยู่ใกล้ๆ
“งั้นแก้วขอกอดแม่บ้างนะจ๊ะ ไม่อย่างนั้นเดี๋ยวพ่อจะได้เปรียบอยู่คนเดียว” สาวน้อยพูดอย่างทะเล้น ทำเอาทุกคนส่งเสียงหัวเราะกันอย่างครื้นเครง ก่อนที่เธอจะควักมือเรียกคนเป็นพี่หยอยๆ “มาเร็วๆ เข้าพี่น้ำ”
ธารน้ำเฝ้ามองครอบครัวเปี่ยมสุขของเธอด้วยหัวใจอิ่มเอิบ สองเท้าก้าวตรงเข้าไปสวมกอดบุพการีด้วยความรักใคร่อบอุ่น ทุกอย่างบนโลกใบนี้ ไม่มีสิ่งใดอีกแล้วจะมอบความสุขใจให้แก่เธอได้เท่ากับความรักความเมตตาที่พ่อและแม่ รวมไปถึงที่คนในครอบครัวของเธอมีให้แก่กัน
วันรุ่งขึ้น แก้วใสเริ่มต้นเดินทางมาเรียนมหาวิทยาลัยชื่อดังด้วยความภาคภูมิใจ หลังจากทุกคนในครอบครัวของเธอได้เสียสละกำลังทรัพย์ทั้งหมด รวมกับเงินทุนที่ได้รับในฐานะนักเรียนดีเด่นจากการสอบเข้ามหาวิทยาลัยรัฐแห่งนี้ได้ด้วยคะแนนนำอันดับหนึ่ง จึงช่วยสานฝันของเธอให้กลายเป็นจริงขึ้นมา
แก้วใสตั้งใจเอาไว้นับแต่วินาทีแรกที่ก้าวผ่านประตูเข้ามาว่า จากนี้ไปจวบจนอีกสี่ปีข้างหน้า เธอจะขอมุมานะตั้งหน้าตั้งตาเรียนเพียรศึกษาจนจบให้จงได้
แล้วเมื่อก้าวออกจากรั้วสถาบันแห่งนี้ไป เธอจะยืดอกพกความมั่นใจนี้นำไปประกอบอาชีพการงานที่ดีในอนาคต ไม่ต้องเป็นภาระให้ครอบครัวคอยเหนื่อยยาก เพราะเธอนี่แหละจะเป็นคนเลี้ยงดูบุพการีทั้งสองบ้าง ส่วนพี่สาวของเธอก็จะได้ไม่ต้องตรากตรำทำงานงกๆ เหมือนดังเช่นทุกวันนี้...
โปรดติดตามตอนต่อไป...
ใครยังอ่านไม่จุใจ สามารถโหลดได้ที่ร้านอีบุ๊คชั้นนำ หรือตามลิงก์นี้ไปเลยค่า
![]() |
|
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

19 ความคิดเห็น
-
#7 sirotan (จากตอนที่ 3)วันที่ 5 กันยายน 2554 / 11:51รออ่านต่อนะคะ สนุกมากเลยค่ะ พระเอกนี่ร้ายได้ใจจริงๆ >__#70