ตอนที่ 15 : ตอนที่ 9. ป่วน...จนเจอดี! 1/2
แป้งร่ำเดินจ้ำอ้าวตรงเข้ามาหลังตลาด เมื่อกระโดดลงจากรถมอเตอร์ไซค์รับจ้างแล้ว หล่อนนึกอยากจะเขกหัวตัวเองนัก อุตส่าห์หันเครื่องเตรียมของสำหรับอาหารเย็นให้เจ้านายจนเสร็จสรรพเรียบร้อยแล้วแท้ๆ แต่ดันลืมดูส่วนผสมสำคัญอย่างกระเทียมว่าหมด จนเป็นเหตุให้ต้องวิ่งโร่ออกมาซื้ออีกรอบ
ในขณะที่สองขาเร่งเดินผ่านฝูงชนจำนวนหนึ่งซึ่งกำลังยืนดูอะไรอยู่สักอย่าง เสียงซุบซิบนินทาก็ลอยเข้ามากระทบหูแป้งร่ำเป็นระยะๆ พลอยทำให้สาวใช้ชะลอฝีเท้าลง เพราะเกิดความอยากรู้อยากเห็นตามประสา
“ดูสิเธอ จับแขนผู้หญิงแน่นไม่ยอมปล่อยเลย”
“เฮ้อ! หน้าตาก็หล่อดีแท้ๆ แต่ทำไมถึงได้ทำตัวป่าเถื่อนแบบนี้นะ”
“อย่างว่าละ เป็นถึงลูกท่านนายพลท้ายซอยนี่นา พ่อใหญ่คับฟ้า ทำไมลูกจะไม่เบ่งล่ะ?”
แป้งร่ำมองเลยไปยังคนที่ถูกชาวบ้านโจษจัน จึงได้เห็นคุณชายเจ้าปัญหายืนยื้อยุดฉุดกระชากแขนของหญิงสาวผู้เคราะห์ร้ายรายหนึ่งไม่ยอมปล่อย รูปร่างสูงเปรียวด้านหลังนั้นมันช่างคุ้นตา จนสาวใช้ไม่ต้องเสียเวลาเดาก็ยังรู้ว่าเป็นใคร
“ขอร้องละค่ะคุณพระเพลิง ฉันยังมีงานที่ต้องทำอีกมาก ไม่มีเวลามายืนเถียงกับคุณเป็นเด็กๆ อยู่ตรงนี้หรอกนะ”
แป้งร่ำได้ยินเสียงธารน้ำอ้อนวอนคุณพระเพลิงอย่างน่าสงสาร ดูท่าทางเด็กสาวกำลังตกที่นั่งลำบากอยู่ไม่น้อย
“ฉันไม่ปล่อย!”
สีหน้าเกรี้ยวกราดที่มาพร้อมกับน้ำเสียงกระโชกของคนได้เปรียบ ทำเอาหัวใจแป้งร่ำกระตุกวูบอย่างนึกหวาดหวั่นแทนหญิงสาว ท่าทางดิบเถื่อนคุกคามเป็นสัญญาณเตือนภัยชั้นเยี่ยมให้คนที่คอยรับใช้บ้านสัจจะอมรกุลมาช้านานรู้ได้ในทันทีว่า เปลวไฟลูกใหญ่มหึมาตรงหน้าพร้อมแล้วที่จะแผดเผาทุกผู้ทุกนามที่ยืนเกะกะขวางหูขวางตา รวมถึงพร่าผลาญทำลายล้างคนที่เป็นชนวนเหตุให้เขาเกิดวิกฤตทางอารมณ์เยี่ยงนี้ด้วย
ฉะนั้นคนที่เคยปวารณาตนเป็นพี่สาวที่แสนดีของธารน้ำเช่นเธอ จึงต้องรีบเข้าระงับเหตุร้ายเสียก่อนที่จะมีใครตายหรือแหลกคามือเขา...ซึ่งใครคนนั้นคงหนีไม่พ้นคู่อริสาวนั่นแหละ
“อะ...อ้าว...คุณพระเพลิงนี่เอง โชคดีจังเลยที่แป้งเจอคุณพระเพลิงเข้า ไม่อย่างนั้นวันนี้แป้งต้องแย่แน่ๆ ค่ะ” สาวใช้ยิ้มแฉ่งเดินปราดเข้าไปยืนกระนาบข้างเจ้านายหนุ่มทันที แกล้งทำหน้าตาซื่อใส ไม่รู้ว่ากำลังเกิดเหตุอันใดขึ้นระหว่างหนุ่มผู้ร้อนระอุกับสาวผู้ใจเย็น
แต่เสียงแหลมๆ ของเธอคงดังก้องเข้าไปไม่ถึงหูชั้นในของอีกฝ่าย เพราะแววตาคมยังคงจ้องแต่จะเล่นงานสาวร่างบางในมือเขาเท่านั้น
ถึงกระนั้นสาวใช้ผู้มีมานะก็ยังไม่ละความพยายาม
“คือแป้งทำกระเป๋าสตางค์หายค่ะ เลยไม่มีเงินซื้อของ แป้งรบกวนขอยืมเงินจากคุณเพระเพลิงก่อนจะได้ไหมคะ และก็ขอติดรถกลับบ้านด้วยคน” คนพูดฉีกยิ้ม ฝืนทำใจดีสู้เสือ
“ไปให้พ้น! อย่ามาสอด!” คนฟังเอ่ยเสียงลอดไรฟังตอบกลับมา โดยไม่เหลือบแลหล่อนสักนิด
แป้งร่ำเลยจนปัญญาคิดจะถอดใจอยู่แท้ๆ เชียว หากว่าไม่ได้เห็นแววตาอ้อนวอนร้องขอให้ช่วยของสาวรุ่นน้องที่สนิทสนมกันละก็ ป่านนี้เธอคงเลิกพล่าม ตะลีตะลานเผ่นแนบกลับบ้านไปนานแล้ว
“คุณพระเพลิงอย่าพูดจาใจร้ายแบบนั้นสิคะ แป้งกำลังเดือดร้อนจริงๆ ขืนไม่รีบกลับไปทำอาหารเย็นให้คุณหญิงท่านทานเร็วๆ ละก็ มีหวังแป้งต้องถูกหักเงินเดือนแน่ๆ เชียวค่ะ คุณพระเพลิงช่วยแป้งหน่อยเถอะนะคะ”
สาวใช้ผู้มีไหวพริบจงใจเอ่ยชื่อคุณหญิงรุ่งฤดีขึ้นมาเบี่ยงเบนความสนใจของชายหนุ่ม ซึ่งก็ดูจะได้ผลดีตามคาด เมื่อใบหน้าบูดบึ้งหันมามองเธอย่างกระตือรือร้น เหมือนเพิ่งนึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้
“ยายแม่มดงั้นเหรอ?” พระเพลิงเอ่ยพึมพำ
ใช่สิ! เขายังมีหนี้แค้นที่ต้องชำระกับยายแก่เจ้าเล่ห์อยู่อีกนี่นา
เมื่อระลึกถึงความคับแค้นใจขุ่นเคือง ซึ่งใหญ่หลวงมากกว่าขึ้นมาได้ เขาก็พลันลืมเหยื่อสาวตรงหน้าไปซะสนิท สมองในตอนนี้เฝ้าคิดเพียงอย่างเดียวว่า
‘จะต้องเอาคืนยายแม่มดให้สาสม!’
“เมื่อกี้เธอบอกว่าจะไปซื้อกับข้าวให้ยายคุณหญิงนั่นใช่ไหม” พระเพลิงปล่อยมือจากท่อนแขนเล็ก แล้วหันมาตั้งหน้าถามสาวใช้ให้แน่ใจ จะได้รู้ว่าแผนดัดหลังที่เขาเพิ่งคิดขึ้นมาสดๆ ร้อนๆ จะบรรลุผลมากน้อยแค่ไหน
“ค่ะ” แป้งร่ำพยักหน้ารับอย่างงงๆ แม้จะไม่เข้าใจถึงจุดประสงค์ที่เขาเอ่ยถาม แต่เธอก็ต้องเล่นเกมตามน้ำไปก่อน เพื่อเปิดโอกาสให้ธารน้ำได้รับอิสระจากอุ้งมือมาร
สาวใช้แอบบุ้ยปากส่งซิกให้เด็กสาวค่อยๆ ขยับรถเข็นเดินถอยหลังออกห่างไปเรื่อยๆ ในขณะที่ตัวเธอยืนล่อเป้าให้พระเพลิงหันมาสนใจตนเพียงคนเดียว จนพ้นระยะอันตรายแล้ว ธารน้ำจึงหันมายกมือไหว้ขอบคุณเธอ ก่อนจะรีบเข็นผักหนีไปอย่างเร็วจี๋
“ยายแม่มดกลับถึงบ้านแล้วเหรอ?” พระเพลิงยังคงเอ่ยปากถามเธอ โดยไม่ทันผิดสังเกตอะไร
“ค่ะ” แป้งร่ำตอบรับ รู้สึกโล่งใจขึ้นมาเป็นอักโข เพราะดูท่าทางเจ้าตัวจะหลงลืมเรื่องของธารน้ำไปแล้ว
“งั้นดีเลย!” เจ้าตัวดีดนิ้วแสดงความพึงใจยามเมื่อซุกซ่อนแผนร้ายเอาไว้ “เดี๋ยวฉันจะพาเธอไปซื้อของก่อนกลับบ้านเอง”
พระเพลิงไม่รอช้า รีบฉวยข้อมือลากจูงสาวใช้เข้าไปในตลาดอย่างรวดเร็ว ท่ามกลางความงุนงงของแป้งร่ำที่เพิ่มมากขึ้นว่า คุณชายของเธอถูกอะไรหล่นใส่หัวมาหรือไง ถึงได้ใจดีผิดปกติวิสัยเช่นนี้ แต่เธอก็จำต้องเดินตามเขาไปโดยไม่กล้าเอ่ยถามสิ่งใด เพราะเกรงว่าจะเป็นการสะกิดต่อมโมโหของเจ้าตัวให้ปะทุขึ้นมาอีกระลอก
โครก... คราก...
เสียงท้องร้องจ๊อกๆ ของเจ้าบ้านหญิงสัจจะอมรกุล มาพร้อมกับริ้วรอยความหงุดหงิดงุ่นง่าน เมื่อสาวใช้ตัวดีเพียงคนเดียวที่เธอยอมลงทุนเสียเงินจ้าง ดันมาหายตัวไปซะดื้อๆ ทั้งที่ยังไม่ได้ทำอาหารเย็น รุ่งฤดีจึงเดินพล่านไปทั่วห้องโถงใหญ่อย่างฉุนเฉียว เพราะความหิวโหย จนกระทั่งสามีที่นั่งอยู่บนโซฟาต้องเปิดปากบอกให้ภรรยาใจเย็นๆ ลงบ้าง
“นั่งลงก่อนเถอะคุณหญิง เอาแต่เดินวนไปวนมาอยู่แบบนี้ก็ไม่ได้อะไรหรอก เวียนหัวเปล่าๆ เดี๋ยวแป้งมันก็กลับมาเองแหละ”
“แต่นี่มันจะทุ่มแล้วนะคะ ไม่รู้ว่านางแป้งมันมัวไปมุดหัวอยู่ที่ไหน แถมโทรศัพท์ก็ไม่เอาไปด้วย ละเลยหน้าที่แบบนี้ใช้ไม่ได้เลยจริงๆ” คุณหญิงผู้ดีบริภาษอย่างหัวเสีย
“ปกติแป้งร่ำก็ไม่เคยเหลวไหลนี่นา ไม่รู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นบ้างรึเปล่า” ท่านนายพลพยายามโน้มน้าวให้ภรรยามองโลกในแง่ดี
“มันไม่เกิดอะไรขึ้นหรอกค่ะ ดิฉันว่านางแป้งมันคงจะเมาท์กับพวกคนใช้บ้านอื่นจนเพลิน เลยลืมหน้าที่ซะมากกว่า คอยดูนะ ถ้ากลับมาเมื่อไหร่ละก็ จะหักเงินเดือนให้เข็ดเชียว” ท้ายเสียง รุ่งฤดีเอ่ยอย่างเข่นเขี้ยว
“เอาเถอะ ถึงจะบ่นไปก็ไม่มีประโยชน์ ผมว่าเราให้เจ้าขจรมันขับรถไปซื้ออาหารที่หน้าปากซอยมาทานกันก่อนดีกว่า”
“แล้วข้าวของที่นางแป้งมันหั่นทิ้งไว้ล่ะคะคุณพี่ ถ้าไม่ให้มันกลับมาทำ ดิฉันก็ต้องทิ้งน่ะสิ” คนขี้งกบ่นโอดครวญด้วยความเสียดาย “อีกอย่าง อาหารข้างทางมันจะสะอาดรึเปล่าก็ไม่รู้ ดิฉันกลัวคุณพี่จะท้องเสียเอาได้นะคะ”
“ไม่เป็นไรหรอกคุณหญิง ผมเป็นคนอยู่ง่ายกินง่าย” สามียิ้มรับในความหวังดีของภรรยา ก่อนจะเอ่ยถึงเรื่องที่ตนเคยพูดอยู่บ่อยครั้ง “ผมว่าเราน่าจะจ้างเด็กเพิ่มอีกสักคนสองคนนะ จะได้ไม่เกิดปัญหาแบบวันนี้ขึ้นอีก สงสารแป้งมันเถอะ ตัวคนเดียว ต้องคอยรับใช้พวกเรางกๆ มันก็ต้องมีช้าบ้าง ไม่ทันบ้าง เป็นธรรมดา”
“เออ...แล้วดิฉันจะลองหาดูนะคะ” รุ่งฤดีจำใจต้องรับปากอย่างเสียมิได้ เลยพานให้ยิ่งเดือดดาลสาวใช้เข้าไปใหญ่ เป็นเพราะมันคนเดียวที่ทำให้เธอเกือบจะต้องเสียเงินเสียทองเพิ่มโดยใช่เหตุ
‘นางแป้ง...ถ้าแกกลับมาเมื่อไหร่ละก็ ฉันจะไล่แกออก!’
ฝ่ายที่ถูกคุณหญิงคาดโทษเป็นร้อยรอบพันรอบอย่างแป้งร่ำ ก็กำลังนั่งทำหน้าซีดหน้าเซียวอยู่บนเบาะตอนหน้าของรถแท็กซี่ หลังจากพระเพลิงพาเธอไปซื้อกระเทียมตามที่ต้องการแล้ว แทนที่ชายหนุ่มจะมุ่งหน้าสู่คฤหาสน์ เขากลับบังคับพาเธอขึ้นรถแท็กซี่มาเสียเฉยๆ ก่อนจะจ่ายค่าโดยสารเป็นจำนวนสามพันบาท เพื่อแลกกับการขับรถทัวร์รอบเมืองสักสองสามชั่วโมง
แป้งร่ำเหลือบมองนาฬิกาดิจิตอลในรถบ่งบอกเวลาเกือบสองทุ่ม ก็ยิ่งออกอาการกระวนกระวาย ร้อนอกร้อนใจ เพราะไม่รู้ว่าป่านนี้คุณหญิงรุ่งฤดีจะออกอาการโมโหโกรธาตนเสียขนาดไหนแล้ว จึงตัดสินใจเอ่ยปากวิงวอนชายหนุ่มไปในที่สุด
“คุณพระเพลิงกลับบ้านเถอะค่ะ อย่าแกล้งแป้งอีกเลย แป้งขอร้อง”
“ฉันไปแกล้งอะไรเธอ” คนที่นั่งอยู่เบาะหลังตีหน้าตาย
“ก็คุณพระเพลิงเล่นให้พี่โชเฟอร์เขาขับรถตะลอนไปทั่วกรุงแบบนี้ แป้งก็กลับไปทำอาหารให้คุณท่านกับคุณหญิงไม่ทันพอดีน่ะสิคะ”
“ก็ดีน่ะสิ ผู้หญิงสองหน้าพรรค์นั้นมันต้องให้อดข้าวซะบ้างนั่นแหละดี จะไม่ได้ไม่มีแรงขยับปากใส่ไฟใครได้อีก” คนพูดหัวเราะร่าอย่างสาสมใจ
คนฟังเบิกตากว้าง พลันคาดเดาเรื่องราวได้ทันที
“หมายความว่าคุณพระเพลิงจงใจแกล้งคุณหญิงเหรอคะ”
“ใช่!”
“เฮ้อ...” สาวใช้นั่งถอนหายใจ เพราะไม่รู้จะเข้าข้างใคร
ในเมื่อฝ่ายคุณหญิงก็ร้าย ส่วนคุณชายของบ้านก็แรง!
ผลสุดท้ายกรรมเลยมาตกลงที่คนกลางอย่างเธอ ซึ่งอาจจะแปรสภาพเป็นกล้วยปิ้ง ถูกคุณหญิงซาดซัดอารมณ์ใส่ที แล้วก็ตีให้มึนด้วยการกลั่นแกล้งจากคุณพระเพลิง
โอ้ว่าอนิจจังหนอ... เกิดมาต่ำต้อยเป็นคนใช้เขาก็แบบนี้แหละ นอกจากต้องอดทน แล้วยังต่อหาทางแก้ผ้าเอาหน้ารอดไปให้ได้ในทุกๆ สถานการณ์อีกด้วย
“คุณพระเพลิงทำแบบนี้ ไม่นึกสงสารคุณท่านบ้างเหรอคะ ป่านนี้ท่านคงหิวแย่แล้ว” คนช่างจำนรรจาพยายามหว่านล้อมให้อีกฝ่ายเป็นห่วงบิดาของเขาบ้าง
“คุณท่านของเธอน่ะเป็นคนง่ายๆ เดี๋ยวท่านก็หาอะไรทานเองนั่นแหละ”
“โธ่! คุณพระเพลิงขา แล้วทำไมคุณจะต้องลากแป้งเข้ามามีเอี่ยวด้วยล่ะคะ มีหวังต่อให้แป้งมีเก้าชีวิตก็ไม่รอดต้องโดนไล่ออกแน่ๆ เลยค่ะ” สาวใช้โอดครวญอย่างน่าสงสาร
“ก็ช่างหัวเธอสิ” พระเพลิงยักไหล่อย่างไม่แยแส “ชอบทำตัวจุ้นจ้านสอดรู้เรื่องของฉันดีนัก มันก็ต้องโดนแบบนี้แหละ”
“แป้งไม่กล้ายุ่งเรื่องของคุณพระเพลิงหรอกค่ะ” คนถูกกล่าวหารีบลนลานปฏิเสธปากคอสั่น
“แน่ใจเหรอ” คนฟังถามเสียงเย็น “แล้วไอ้เรื่องที่เธอโกหกฉันว่าทำกระเป๋าสตางค์หาย เพราะต้องการจะช่วยยายเด็กธารน้ำนั่นล่ะ จะอธิบายยังไง”
“ปะ...แป้ง” คราวนี้คนยืนกรานเป็นกระต่ายขาเดียวถึงกับคลำหาลิ้นตัวเองไม่เจอเลยทีเดียว
“ตกใจล่ะสิที่ฉันรู้ทัน” พระเพลิงยิ้มเยาะ “จะบอกให้นะว่าไอ้แผนตื้นๆ ของเธอ มันใช้กับคนอย่างฉันไม่ได้ผลหรอก เพราะฉะนั้นคราวหน้าคราวหลังอย่าริอ่านส่งซิกข้ามหัวฉันอีก”
“คะ...คุณพระเพลิงรู้!?”
“เธอคิดว่าฉันตาบอดรึไง ถึงจะได้ไม่เห็นว่าแม่นั่นอาศัยช่วงที่ฉันเผลอ เผ่นหนีไปน่ะ”
วัวสันหลังหวะอย่างหล่อนเลยได้แต่นิ่งอึ้ง จนมุมด้วยความผิดที่ตัวก่อขึ้น ตอนนี้สาวใช้รู้ถึงจุดประสงค์ที่แท้จริงของเจ้าตัวแล้วว่า การที่เขายอมใจดีช่วยเธอนั้น ก็เพราะต้องการจะแก้เผ็ดทั้งเธอและคุณหญิงไปพร้อมๆ กันนั่นเอง เรียกว่า ยิงปืนนัดเดียวได้นกถึงสองตัวเลยทีเดียว
คิดแล้วก็อยากจะก้มหน้า ปิดตา ร้องไห้นัก เธอน่าจะนึกเอะใจบ้างสักนิดว่า คนระดับอย่างคุณชายพระเพลิงน่ะหรือจะยอมยื่นมือให้ความช่วยเหลือสาวใช้ตัวเล็กๆ อย่างเธอง่ายๆ ถ้าไม่ใช่เพราะมีแผน และเธอเองก็ดันหลงกลอีกฝ่ายเข้าไปเต็มเปา
“คุณพระเพลิง...แป้ง...แป้งขอโทษ อย่างเอาผิดแป้งเลยนะคะ นึกว่าสงสารลูกนกลูกกาเถอะค่ะ” คนที่รู้ถึงโทษทัณฑ์แสนสาหัสในครั้งนี้ รีบเปิดปากยอมสารภาพ เผื่อว่าเจ้านายหนุ่มจะยอมเห็นใจ
“เฮอะ! ลูกนกลูกกางั้นเหรอ?” คนฟังทำเสียงขึ้นจมูก “ขืนปล่อยมันไป วันหน้ามันจะได้แว้งกลับมาช่วยเหยื่อของฉันอีกน่ะสิ”
“แป้งสัญญาว่าจะไม่ยุ่งอีกแล้วค่ะ” คนที่กำลังเดือนร้อนรีบออกตัว
“แค่สัญญาไม่พอหรอก” พระเพลิงยักไหล่อย่างเป็นต่อ ก่อนจะยื่นข้อเสนอที่ฟังดูแล้วคล้ายกับเป็นการบังคับกลายๆ “เธอต้องช่วยฉันแก้เผ็ดแม่ธารน้ำด้วย”
“หา! แก้เผ็ด!!” สาวใช้มีสีหน้ายุ่งยากใจทันที “คุณพระเพลิงจะทำอะไรน้ำคะ?”
“ไม่ตอบ”
“โธ่... คุณพระเพลิงอย่าไปเอาเรื่องน้ำเลยค่ะ น้องเขาน่าสงสารออก”
“เอาตัวเองให้รอดซะก่อนจะริไปเห็นใจคนอื่นเถอะ”
สาวใช้ถึงกับสะอึก นั่งนิ่งเงียบอย่างปลงตก เพราะไม่ว่าจะพูดอะไรออกไป ก็ใช่ว่าคุณชายเจ้าปัญหาจะนึกเห็นใจ ขนาดยอมลงทุนแกล้งเธอ จนทำให้บิดามารดาของตนต้องอดข้าว เขายังทำได้อย่างหน้าตาเฉยแท้ๆ
....แล้วหล่อนเป็นใครหรือ ถึงจะได้มีอิทธิพลทำให้อีกฝ่ายยอมเชื่อฟัง
แต่ถึงอย่างนั้นความรักความเอ็นดูที่เธอมีต่อเด็กสาวมากกว่า ก็ก่อให้เกิดความกล้าแก่สาวใช้ผู้อารี
“แป้งขอเถอะค่ะ คุณพระเพลิงอย่าไปแกล้งหาเรื่องน้ำนักเลย เท่าที่เป็นอยู่ น้ำก็ลำบากมากแล้ว”
“ลำบากยังไง ฉันก็เห็นยายนั่นยังอยู่สบาย เที่ยวได้วิ่งรับจ๊อบทั่วราชอาณาจักรไม่ใช่เหรอ” พระเพลิงปรายตามองคนข้างหน้าเพียงนิด “เธอซะอีกที่น่าสงสารกว่า เอาตัวขวาง เสี่ยงเข้าช่วย แล้วเป็นไง ความซวยมันก็มาเยือนเอง อย่างนี้ยังจะมีหน้าไปห่วงคนอื่นอีก ไม่เจียมตัวเอาซะเลย”
“ไม่จริงหรอกค่ะ น้ำน่ะน่าสงสารกว่าแป้งเยอะ แป้งยังตัวคนเดียว ได้อาศัยใบบุญคุณท่านเลี้ยงดูอย่างสุขสบาย แต่คุณพระเพลิงไม่รู้หรอกค่ะว่าน้ำต้องทำงานสารพัด ทั้งช่วยแม่ขายขนม เข็นผัก ขี่มอเตอร์ไซต์รับจ้าง แถมยังต้องเจียดเวลามาทำความสะอาดเรือนหลังเล็กให้คุณท่านอีก ทั้งหมดก็เพื่อคนในครอบครัว แล้วแบบนี้คุณพระเพลิงยังจะใจจืดใจดำแกล้งเด็กสู้ชีวิตคนหนึ่งได้ลงคออีกเหรอคะ?”
แป้งร่ำเล่าถึงชีวิตลำเค็ญของเด็กสาวให้เจ้านายหนุ่มฟัง หวังเพียงแค่ให้เขาเข้าใจในตัวธารน้ำมากขึ้นสักนิดก็ยังดี จะได้เลิกดูถูกดูแคลนหล่อนสักที
ทว่าสิ่งที่เข้าหูพระเพลิงมีเพียงเรื่องเดียว นั่นคือ...
‘เด็กนั่นทำความสะอาดเรือนปั้นหยาริมน้ำของเขา’
รู้อย่างนี้...คนอย่างเขาคงจะต้องสนองตอบเรื่องที่ยายแป้งร่ำคาบข่าวมาบอกเสียหน่อยแล้ว ไม่เช่นนั้นจะเสียชื่อ ‘เด็กนรก’ แห่งบ้านสัจจะอมรกุลหมด
“หึๆ” เสียงหัวเราะที่ดังอยู่ในลำคอ ทำให้แป้งร่ำถึงกับเสียวสันหลังวาบ นึกรู้ทันทีว่าอาการแบบนั้น เป็นท่าทางที่ซุกซ่อนความสนุกหรรษาเอาไว้ภายใน ยามเมื่อคุณชายเจ้าปัญหาคิดจะก่อวีรกรรมครั้งใหม่ขึ้นมา
“มีอะไรเหรอคะคุณพระเพลิง?” สาวใช้ลองหยั่งเชิงถาม
“เปล่านี่ ไม่มีอะไร” พระเพลิงยักไหล่ “ถ้าเธอไม่เล่า ฉันก็คงไม่รู้ว่าเรื่องของคนจน ฟังแล้วมันก็เพลินดี”
เสียงหัวเราะของคนอารมณ์ดีดังขึ้นอีกครั้ง ตรงข้ามกับสีหน้าของแป้งร่ำที่เริ่มซีดเผือดลงเรื่อยๆ
“นี่ยายแป้งร่ำ ฉันจะยอมยกโทษให้เธอก็ได้ แถมจะพาเธอกลับบ้านด้วยเอาไหม?” จู่ๆ เขาก็ถาม
“จริงเหรอคะ!?” สาวใช้รีบเงยหน้าด้วยความอัศจรรย์ใจ แต่ก็ยังอดระแวงอีกฝ่ายไม่ได้
“จริงสิ” เขายิ้มรับอย่างมีเลศนัย “แต่ต้องมีข้อแม้นะ”
นั่นไงละ! นึกแล้วเชียว เวลาคุณพระเพลิงทำตัวดีทีไร เป็นต้องมีแผน
“ข้อแม้อะไรเหรอคะ?” สาวใช้เอ่ยถามอย่างหวาดๆ
“ก็ไม่เรื่องยากอะไรหรอก เธอต้องช่วยฉันขนข้าวของไปไว้ที่เรือนริมน้ำ และคอยโทรรายงานฉันทุกครั้งที่แม่น้องสาวคนดีของเธอไปทำความสะอาดเรือนหลังเล็กเท่านั้นแหละ”
สาวใช้ลอบกลืนน้ำลายเหนียวๆ ลงคออย่างยากเย็น ไม่รู้ว่าจะตัดสินใจเช่นไรดี
จะปฏิเสธก็ไม่ได้ จะตอบรับก็ไม่ดี
“ว่าไง จะยอมทำไหม?” แววตาคมกริบคาดคั้นมองมาราวกับใบมีดโกนที่จ่อลงบนคอหอย
แป้งร่ำจำต้องก้มหน้ารับคำอย่างมิอาจหลีกเลี่ยง ในใจก็เพียรร่ำร้องขอโทษขอโพยธารน้ำอยู่ตลอดเวลา เพราะถึงเธอจะบอกปัดเขา แต่เจ้าตัวก็ต้องหาทางกลั่นแกล้งเด็กสาวได้อยู่ดีนั่นแหละ ถ้ายังงั้นก็สู้เธอยอมรับปากไปก่อน แล้วคอยหาทางช่วยธารน้ำทีหลังมิดีกว่าหรือ...
เมื่อได้รับคำตอบเป็นที่น่าพอใจแล้ว ซาตานร้ายจึงคลี่ยิ้มกว้างอย่างยินดี พลางเอ่ยปากสั่งให้โชเฟอร์ขับรถมุ่งตรงสู่คฤหาสน์สัจจะอมรกุลต่อไป
โปรดติดตามตอนต่อไป...
เป็นไงคะ...ใครชอบวิธีแก้เผ้ดของคุณชายพระเพลิงบ้าง
สมกับฉายา เด็กนรก มั้ย??? 555
ไม่ต้องโปรย คราวหน้าคนอ่านคงรู้ว่าฮีจะหาเรื่องแกล้งใครอีก
หวยออกที่นางเอกสู้ชีวิตของเราแน่นอน
แต่คราวนี้จะเด็ดและเเซ่บแค่ไหน
บอกได้แค่ว่า อย่าพลาดนาจาาาาา อิอิ
เอาเป็นว่าใครสนใจหรือยังอ่านไม่จุใจ สามารถโหลดได้ที่ร้านอีบุ๊คชั้นนำนะคะ
รีบไปโหลดเก็บไว้ตามลิงก์นี้เลยค่า
![]() |
|
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ
