คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : ตอนที่ 2 แม่จอมยั่ว (40%)
2 แม่จอมยั่ว
“แล้วเธอคิดว่าฉันเป็นใครล่ะ?”
เทพกานต์ถามกลับ ดวงตาคมกริบเป็นประกายสะท้อนกับแสงไฟนีออนค่อยๆ
ไล่มองไปทั่ววงหน้าขาวนวลสวยที่กำลังตื่นตระหนกแล้วก็ยิ่งถูกใจ รอยยิ้มเล็กๆ
ผุดขึ้นตรงมุมปากด้านหนึ่ง
“ถ้าฉันไม่ออกไป เธอจะทำอะไรล่ะ?” ชายหนุ่มถามกลับ และสาวเท้าแข็งแกร่งไปด้านหน้าอย่างเชื่องช้า
แต่เหมือนกับราชสีห์กำลังตะครุบเหยื่อสาวแสนสวยและน่าจะหวานฉ่ำเหมือนกับได้ลิ้มรสน้ำผึ้งจากสรวงสวรรค์
“คะ...คุณจะทำอะไรคะ ถะ...ถอยออกไปนะ”
เท้าเรียวยาวก้าวถอยไปด้านหลังอย่างรวดเร็ว
แต่เพราะสถานที่นั่งนั้นอยู่ชิดกับกระจกแต่งหน้า ซึ่งมีแก้วหนายื่นออกมา ไหนยังจะมีเก้าอี้ตัวใหญ่อีกตัวขวางอยู่ทำให้ถอยไปไหนไม่ได้
แต่เพราะความคุ้นเคยกับห้องแต่งตัวซึ่งใช้งานมาเกือบจะสองอาทิตย์แล้ว
นลินจึงพาตัวเลี่ยงไปทางด้านซ้าย ซึ่งมีที่ว่างให้สามารถพาร่างโปร่งบางถอยหนีไปได้
ร่างโปร่งบางสะดุดกึกเมื่อแขนใหญ่ยื่นไปกางกั้นไว้
อีกทั้งมือใหญ่อีกข้างหนึ่งยื่นไปจับปลายคางมน แต่หญิงสาวกลับเบี่ยงหนี
“หยุดนะ คุณจะทำอะไรกันแน่ ถอยไปนะคนเลว” มือเรียวยกขึ้นยันแผ่นอกกว้าง
น้ำเสียงที่เคยติดอ่างกลับกลายเป็นเกรี้ยวกราดและขุ่นเขียว
ดวงตากลมโตซึ่งตกแต่งอย่างสวยงามค่อยๆ เปลี่ยนเป็นแดงก่ำ
ลมหายใจหอบแรงจนสองบัวตูมที่มีเปลือกสีสวยห่อหุ้มอยู่เพียงเล็กน้อยเกือบจะหล่นออกมา
“ทำไมฉันต้องถอยด้วยล่ะแม่สาวน้อย” เทพกานต์พูดด้วยน้ำเสียงยิ้มๆ
มือใหญ่จับรั้งปลายคางมนและกดลงไปแรงๆ เมื่อเธอขัดขืนด้วยการดึงใบหน้าหนีน้ำตาอุ่นร้อนเอ่อล้นในขอบตาคู่สวยเพราะเจ็บที่เขามองยังไงก็ยิ่งน่าปรารถนา
ปลายนิ้วยาวไล้บนปลายคางมน พลางโน้มใบหน้าคมคร้ามลงไปอย่างเชื่องช้า จนลมหายใจอุ่นร้อนเป่ารดระหว่างหน้าผากกว้างและดั้งจมูกโด่งเป็นสัน
“จะหนีไปไหนล่ะแม่ตัวดี
เธอเป็นคนยั่วให้ฉันต้องตามมาถึงห้องนี้เองไม่ใช่หรือ ถ้าไปพบฉันที่โต๊ะ เรื่องมันอาจไม่เป็นแบบนี้ก็ได้นี่นา”
นลินถึงกับกัดฟันเสียงดังกรอดๆ กับคำพูดเห็นแก่ตัวเห็นแก่ได้ของชายหนุ่มตรงหน้า
มือเรียวควานหาอุปกรณ์ทุ่นแรงที่คิดว่าน่าจะพอมีอยู่บ้าง เพื่อจะเอามาฟาดปากสุนัขๆ
ให้ไอ้คนเอาแต่ใจได้รู้เสียบ้าง การกล่าวหาเพศแม่อย่างเธอนั้นไม่สมควรจะทำ
ไม่ว่าคนเราจะทำอาชีพอะไร ก็มีเกียรติมีศักดิ์ศรีในตัวทั้งสิ้น ขอเพียงแค่อาชีพที่ทำไม่ผิดกฎหมายและทำให้คนอื่นต้องเดือดร้อนเท่านั้นเอง
หญิงสาวได้แต่หงุดหงิดในหัวใจร้อนเหมือนกับมีเปลวเพลิงกำลังลุกไหม้ เพราะหาเครื่องทุ่นแรงไม่ได้สักชิ้น
ดวงตากลมโตเป็นประกายแวววาวเหมือนดวงตาเสือตัวเมียยามกำลังกางปีกปกป้องลูกตัวน้อยให้พ้นภัย
มือเล็กเรียวยกขึ้นวางบนนิ้วมือใหญ่ พร้อมรอยยิ้มเล็กๆ
ที่ผุดขึ้นตรงริมฝีปากด้านหนึ่ง
“คุณจะถอยไปดีๆ หรือว่าจะให้ฉันเรียกพนักงานมาไล่ออกไป”
หญิงสาวเอ่ยถามมือก็ลูบไล้ปลายนิ้วเล็กๆ
ที่เคลื่อนไหวอยู่บริเวณปลายคางอย่างแผ่วเบาและนุ่มนวล
หูก็รอคอยฟังว่าชายหนุ่มจะตอบกลับมาอย่างไร
“โอ๊ย!! ฤทธิ์มากใช่เล่นเลยนะคุณนี่”
เทพกานต์ต่อว่าเมื่อโดนเธอหักนิ้วเอา ใบหน้าคมคร้ามแย้มยิ้ม
ดวงตาคมกริบเป็นประกายแวววาวระยับ รู้สึกสนุกที่จะต่อปากต่อคำกับแม่สาวสวย
มือใหญ่จับบิดพลิกเพียงแค่นิดเดียวมือเล็กเรียวก็ตกอยู่ในมือใหญ่
“แต่แบบนี้ก็ดีนะ ทำให้เรื่องระหว่างเรามีรสมีชาติมากขึ้น”
ปลายนิ้วยาวใหญ่ลากไปบนใบหน้าขาวสวยและจับรั้งปลายคางมนให้ขยับเคลื่อนเข้าหา
นลินรีบพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส ใบหน้าขาวสวยค่อยแย้มยิ้มทีละน้อยๆ
จนเต็มทั้งใบหน้าและดวงตา ค่อยๆ ดึงเอาแขนเรียวยาวออกจากมือใหญ่อย่างช้าๆ
และเคลื่อนไปลากไล้บนอกกว้าง จิกทึ้งไกล่เกลี่ยกระดุมเสื้อชายหนุ่มเล่น
“แหม...คุณนี่อารมณ์ร้อนจริงๆ นะคะ หลินก็แค่...”
เพียงแค่ได้ยินหญิงสาวเรียกตัวเองว่าหลินเทพกานต์ถึงกับสะดุ้ง
แม้เวลาจะเนิ่นนานผ่านไปหลายปีแล้วก็ตาม แต่ความรู้สึกผิดที่ทำไว้กับรมย์นลินก็ยังคงเกาะอยู่ในใจและคอยกัดกร่อนความรู้สึกทุกครั้งที่มีใครเอ่ยชื่อหรือพูดคุยสิ่งใดที่พาดพิงไปถึงหญิงสาว
ร่างหนาใหญ่ค่อยๆ ขยับเคลื่อนตัวออกห่าง
หวังจะมองดูใบหน้าขาวสวยให้ชัดเจนอีกครั้ง จะเหมือนหรือคล้ายคลึงกับรมย์นลินบ้างหรือเปล่า
แต่ดูเหมือนว่าหญิงสาวเองก็รู้เลยบดเบียดเรือนกายนุ่มนิ่มและหอมกรุ่นจากกลิ่นเนื้อสาวและกลิ่นน้ำหอมที่ใช้หันเหความสนใจของเขาแทน
รอยยิ้มเล็กๆ ผุดขึ้นบนริมฝีปากด้านหนึ่งของเรียวปากสวย
“คุณเป็นอะไรไปหรือเปล่าคะ รังเกียจหลินแล้วหรือคะถึงได้ขยับตัวหนีแบบนี้”
นลินแสร้งถามเสียงหวานนุ่ม ปลายนิ้วเล็กๆ ขยับเคลื่อนไหวตามแผ่นอกกว้าง และค่อยๆ
เคลื่อนไปตามลำคอแกร่ง สิ้นสุดบนใบหน้าคมคร้าม
“เปล่าๆ ” เทพกานต์รีบตอบปฏิเสธอย่างเร็วไว
ปลายนิ้วยาวเรียวไล้ไปตามกลีบปากหนาและนุ่ม “ถ้าไม่รังเกียจ
ทำไมถึงได้ขยับตัวหนีล่ะคะ หรือว่าโกรธที่หลินไม่ไปพบ
พอเจอหน้าก็ยังทำรังเกียจและตื่นกลัวด้วย”
‘รู้ไว้ด้วยนะนายเทพกานต์ อรุณสนิทชัยวงศ์
ฉันทั้งรังเกียจและเกลียดนายเป็นที่สุด
ในชีวิตนี้นอกจากไอ้อาสารเลวที่จ้องจะงาบฉันอยู่ทุกเมื่อเชื่อวันแล้ว
นายคือคนที่สองที่ฉันเกลียด!’
ดวงตากลมโตเป็นประกายวาววับและแข็งกร้าว
เมื่อนึกถึงอาหนุ่มปากว่ามือถึงที่จ้องจะงาบเธอหลังอาหารเช้า กลางวันและเย็น
ปลอดคนเป็นไม่ได้คอยแต่จะลวนลามเอาท่าเดียว
ดีว่าเธอมีเพื่อนแสนดีและเก่งอย่างแพรพนัส ที่สามารถช่วยเหลือจนเอาตัวหนีรอดจากเงื้อมมือหมาป่าจอมเจ้าเล่ห์มาได้อย่างหวุดหวิดเกือบจะเสียโฉมและเสียตัว
ริมฝีปากอวบอิ่มขบเม้มเข้าหากัน ผ่อนเอาลมหายใจร้อนผ่าวในอกออกมาอย่างเชื่องช้าและระมัดระวัง
พร้อมพยายามปรับเปลี่ยนอารมณ์แห่งความโกรธเกรี้ยวให้เป็นอ่อนหวาน ออดอ้อนและช่างยั่วเหมือนนางหมาป่าเจ้าเสน่ห์
ใบหน้าขาวสวยค่อยๆ แหงนหงายขึ้นพร้อมรอยยิ้มหวานฉ่ำเชื่อม
ดวงตากลมโตเป็นประกายอ่อนหวานระคนออดอ้อนและเว้าวอน
“ขอโทษด้วยนะคะ พอดีว่าหลินเพิ่งโดนลวนลามด้วยสายตาและการกระทำ
รวมถึงพูดจาดูถูกหยามเหยียดต่างๆ นานาเมื่อไม่ยอมไปกับเขานะค่ะ”
เทพกานต์ที่สามารถปรับอารมณ์ให้คืนกลับมาได้เลิกคิ้วขึ้นสูง
ดวงตาคมกริบสบกับดวงตากลมโตที่เป็นประกายสะท้อนกับแสงไฟ ตอนแรกไม่อยากเชื่อเท่าไหร่
แต่เมื่อเห็นในดวงตาคู่นั้นเต็มไปด้วยความหวาดหวั่นและหวาดกลัว เพลิงโทสะในกายก็พุ่งขึ้นมา
ในหัวใจเหมือนกับปรอทที่ได้รับความร้อนจัด ขบกัดฟันกรามจนนูนเด่น
“คะ...คุณโกรธหลินหรือคะ?” นลินแสร้งถามออกไป
ขอบตาร้อนผ่าวและในดวงตากลมโตเริ่มมีน้ำตาคลอเบ้า ใบหน้าขาวสวยซีดเผือด
ริมฝีปากขบเม้มเหมือนกำลังสะกดกลั้นเสียงสะอื้นเอาไว้อย่างสุดความสามารถ
“เปล่าหรอกหลิน ฉันโกรธผู้ชายคนนั้นที่กล้าทำร้ายผู้หญิงสวยๆ
อย่างเธอต่างหากล่ะ” ชายหนุ่มตอบกลับเสียงนุ่ม
ปลายนิ้วยาวใหญ่ยกขึ้นมาลากไล้บนใบหน้าขาวนวลสวย
เสียดายค่ำคืนนี้หญิงสาวแต่งหน้าค่อนไปทางจัดจ้าน ทำให้มองไม่เห็นผิวเนื้อแท้จริง
แต่คิดว่าผิวแก้มคงจะนวลเนียนนุ่ม ขาวและใสจนเห็นเส้นเลือดฝาด
ใบหน้าคมคร้ามแย้มยิ้มอย่างถูกอกถูกใจกับพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงไปจากหน้ามือเป็นหลังมือ
ดวงตาคมกริบค่อยๆ ไล่มองไปเรื่องๆ อย่างพินิจพิเคราะห์
ท่าทางของหญิงสาวที่ดูเหมือนเก่งกล้าและจัดจ้าน แต่ภายในใจเขากลับสัมผัสได้ถึงความไม่ประสา
และรับรู้ด้วยสัญชาตญาณของชายหนุ่มผู้รู้จักผู้หญิงเป็นอย่างดี ทำให้รู้ว่าเธอพยายามปรุงแต่งนิสัยให้เป็นคนกล้าและช่างยั่วเย้า
แต่ไม่ว่าจะอยู่ในลักษณะใดก็ยังเรียกร้องและดึงรั้งให้อารมณ์เขากระเจิดกระเจิงจนกู่แทบไม่กลับแล้ว
ใบหน้าคมคร้ามโน้มลงไปอย่างเชื่องช้า
นลินรู้ว่าชายหนุ่มกำลังจะทำอะไร มือเล็กยกขึ้นปิดปากหนา รอยสีแดงค่อยๆ
แต่งแต้มจากปลายจมูกโด่งและลามไปถึงพวงแก้มนุ่ม ใบหูเล็กและลำคอระหง ใบหน้านวลรีบหลบหลีกอย่างว่องไวและถือโอกาสที่ชายหนุ่มพลั้งเผลอหลบฉากออกมา
พร้อมเสียงหัวเราะนุ่มนวลและแผ่วพลิ้ว
“แหม...เจอกันครั้งแรกก็จะลวนลามกันเสียแล้ว” หญิงสาวต่อว่ายิ้มๆ
“ดูซิยังมาทำหน้าเป็นอยู่ได้ ชื่ออะไรก็ไม่ยอมบอกให้รู้จักด้วย”
“อ้าว...นึกว่าเธอรู้จักฉันนะนี่ ถึงได้รู้ว่าผู้ชายอย่างฉันถ้ายอมง่ายๆ
ก็คบกันได้ไม่นาน แต่ถ้าเล่นตัวสักหน่อยก็อยู่กันยืด”
“แหม...คุณนี่ปากเสียจริงๆ
ปากอย่างนี้น่าจะให้จุมพิตฝ่าเท้าสักทีสองทีจะได้รู้จักพูดให้เกียรติผู้หญิงเขาเสียบ้าง”
น้ำเสียงคนพูดดูเหมือนจะทีเล่นทีจริง วงหน้าขาวนวลบึ้งตึงแต่ดวงตากลมโตกลับแพรวพราวระยับ
จมูกโด่งเป็นสันยู่ย่น แถมยังสะบัดค้อนส่งให้อีกวงโต
“ถึงจะเป็นนักร้อง แต่หลินก็ขายแต่เสียงเพลง ไม่คิดจะขายตัวอย่างที่คุณหรือคนอื่นๆ
เขาคิดกันหรอกนะคะ” ดวงตากลมโตฉ่ำน้ำเล็กน้อย ปลายนิ้วเล็กๆ
รีบยกขึ้นซับอย่างรวดเร็วแล้วค่อยๆ ช้อนดวงตาโศกขึ้นมองเทพกานต์อย่างตัดพ้อต่อว่า
แล้วก็พูดต่อด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ
“หลิน...หลินเองไม่ได้อยากที่จะทำอาชีพเป็นคนกลางคืนแบบนี้หรอกนะคะ
แต่เพราะครอบครัวมีฐานะยากจน พ่อกับแม่ก็มีลูกหลายคน
ไม่มีปัญญาที่จะส่งให้เรียนสูงๆ เพื่อจะได้หางานดีๆ ทำ” นลินรีบหันหน้าเข้าผนังห้อง
พร้อมทำเสียงสะอื้นจนตัวสั่นคลอน
แต่บนใบหน้าและในแววตากลับไม่มีร่องรอยโศกเศร้าแม้แต่น้อย
“หลินต้องต่อสู้ ปากกัดตีนถีบ
เกือบถูกผู้ชายหลอกไปปล้ำไปขายเสียก็หลายครั้ง มันทำให้กลัวที่จะต้องเข้าใกล้
แล้วคุณยังจะมาทำแบบนี้อีก หลิน...หลิน...โฮๆ ” นลินปล่อยน้ำตาให้ไหลอาบแก้ม
ส่งเสียงแผดร้องให้ดังยิ่งขึ้นไปอีกและไม่ลืมที่จะเอียงหน้าปรายสายตาไปมอง หลังจากเทพกานต์ได้ฟังคำที่เธอโกหกไปแล้วจะเชื่อและรู้สึกสงสารบ้างหรือเปล่า
ปลายนิ้วใหญ่ยกขึ้นลูบไล้ปลายคาง
เรื่องที่ได้ฟังเหมือนกับละครทีวีและนิยายเล่มสิบบาทที่เคยได้ยินพวกคนรับใช้ในบ้านเคยพูดแว่วเข้าหูมาบ้าง
“แน่ใจหรือว่าที่เธอพูดมาเป็นความจริงหลิน”
“ทำไมหรือคะ คุณไม่เชื่อในสิ่งที่เล่าใช่ไหมคะ?” ร่างโปร่งบางหันมา
ปลายมือเล็กยกขึ้นซับน้ำตาบนใบหน้า
“รู้อยู่แล้วละว่าเรื่องที่เล่าคุณคงไม่เชื่อ แต่ก็ช่างเถอะ ยังไงเส้นทางชีวิตของเราก็คงจะเจอกันเพียงแค่คืนนี้
เพราะผู้ชายอย่างคุณก็ทำเหมือนหมาหยอกไก่ ถ้าได้ก็เอาไม่ได้ก็ไม่สนใจ
หรือไม่ถ้าได้แล้วก็แล้วกันไป จะสนใจไปทำไมผู้หญิงง่ายๆ
สมใจก็ต้องทิ้งไปอย่างไม่ใยดี ใช่ไหมคะ?”
นลินเอ่ยถามอย่างคนที่เข้าใจนิสัยผู้ชาย อะไรได้ยากก็จะยิ่งพยายามเอามาครอบครองให้ได้
เพราะถือว่าเป็นศักดิ์ศรี และเมื่อได้ครอบครองแล้วคนที่รู้จักคุณค่าก็จะรักษาไว้อย่างดี
นำมาประดับชีวิตตลอดไป แต่ใครที่ไม่รู้คุณค่าก็เหมือนวานรได้แก้ว
ที่คอยแต่จะทิ้งขว้าง จนเมื่อสูญเสียไปนั่นแหละถึงได้รู้ค่า
แต่สำหรับอะไรที่ได้มาง่ายก็จะทิ้งง่ายๆ เพราะว่ามันไร้ค่าไร้ราคา
ร่างโปร่งบางก้าวเดินไปหาร่างหนาใหญ่อย่างเชื่องช้า
สองมือเล็กวางบนอกกว้างขยับลูบไล้เบาๆ และเคลื่อนไปตามบ่ากว้าง ก่อนจะโอบรอบลำคอแกร่ง
มือเล็กเรียวข้างหนึ่งลูบไล้หยอกล้อกับติ่งหูและใบหน้าคมคร้าม
ดวงตากลมโตเป็นประกายแพรวพราวระยับสบกับดวงตาคมกริบ
ใบหน้าขาวสวยแย้มยิ้มหวานฉ่ำเชื่อม
“ผู้ชายอย่างคุณ เป็นแบบไหนหรือคะ?” ปลายนิ้วเล็กๆ
ลากไล้ปลายคางหนาและไปหยุดที่ริมฝีปากหนา
ขนตามเรือนกายโปร่งบางลุกชันเมื่อริมฝีปากหนาขบเม้มปลายนิ้ว
“แบบไหนล่ะ?” เทพกานต์เอ่ยถาม ปลายลิ้นสากระคายยื่นออกมาตวัดไล้หยอกล้อกับปลายนิ้วยาวเรียว
“ก็แบบว่ายิ่งยากก็ยิ่งอยากได้
หรือว่าเป็นพวกไม่ว่าได้ยากหรือง่ายในเมื่อฉันเบื่อฉันก็ทิ้งง่ายๆ ไงคะ”
“แหมเธอนี่ปากดีจริงๆ ฉันอยากรู้เสียแล้วซิ
ไอ้ปากอวบอิ่มนี่จะหวานเหมือนคำพูดช่างต่อว่าต่อขาลหรือเปล่า” ใบหน้าคมคร้ามโน้มไปด้านหน้าอย่างเชื่องช้าจุดหมายปลายทางคือริมฝีปากอวบอิ่มที่กำลังขยับยั่วยุอารมณ์ปรารถนาให้ลุกโพลงตลอดเวลา
“แหม...จะรีบไปไหนละคะคุณขา...”
นิ้วยาวเรียวยกขึ้นวางบนริมฝีปากหนาและค่อยๆ ดันใบหน้าคมคร้ามให้ถอยห่าง แขนเสลายกขึ้นโอบรอบลำคอแข็งแร่ง
ลูบไล้ต้นคอและเส้นผมหนานุ่ม ริมฝีปากอวบอิ่มเผยออ้าเล็กน้อยและส่งเรียวลิ้นเล็กสีชมพูออกมาไล้เลียริมฝีปากพลางเขย่งเท้าจากพื้นจนปลายจมูกโด่งเป็นสันสัมผัสกับปลายคางหนา
ดวงตากลมโตเหลือบขึ้นไปจนสบกับดวงตาคมกริบที่มองการกระทำของเธออย่างอยากรู้และรอคอยด้วยหัวใจเต้นระทึก
มือใหญ่ยกขึ้นวางบนสองลำแขนเสลา
ขยับเคลื่อนไปตามลาดไหล่กว้างแล้วเคลื่อนไปบีบนวดลำคอระหง
ผิวเนื้อเนียนนุ่มและมีกลิ่นหอมจากทั้งกลิ่นกายสาวและกลิ่นน้ำหอมอ่อนๆ
คล้ายกลิ่นของดอกไม้ชนิดหนึ่งซึ่งเขาจำชื่อไม่ได้ แต่เป็นหนึ่งในไม่กี่กลิ่นที่เขาโปรดปราน
ปลายนิ้วยาวใหญ่ลากไล้บนหน้าอกกว้างและนุ่มนิ่มแล้วเคลื่อนไปตามลำคอระหงอย่างเชื่องช้า
พร้อมบีบนวดไปด้วยจนถึงท้ายทอย
ซึ่งวันนี้นลินเกล้าผมเป็นมวยและปล่อยปลายผมให้ลงมาคลอเคลียไหล่ทำให้ยิ่งเพิ่มความเซ็กซี่ที่กระตุ้นให้กายหนุ่มเร่าร้อนเร็วยิ่งขึ้น
“จะไม่อยู่สนุก...” นิ้วเล็กลากไล้บีบนวดลำคอแข็งแกร่ง
ใบหน้าขาวสวยแหงนหงายไปด้านบนให้ชายหนุ่มได้เห็นการยั่วยวนอารมณ์ปรารถนาให้ยิ่งลุกลามเหมือนไฟที่กำลังไหม้กองฟาง
ปลายลิ้นเล็กสีชมพูลากไล้ไปตามเรียวปากนุ่ม ริมฝีปากแย้มยิ้ม
ดวงตาเป็นประกายหวานเชื่อมและเชิญชวน นิ้วเล็กลากไล้ลงมาตามข้างแก้มตอบและเคลื่อนกลับขึ้นไปพร้อมกดน้ำหนักมือให้ใบหน้าคมคร้ามโน้มลงมาจนริมฝีปากของทั้งสองคนแนบชิดกัน
“กันก่อนหรือคะ” หญิงสาวถามเสียงหวานนุ่มและเว้าวอน
บดเบียดเรือนกายนุ่มนิ่มกับร่างหนาใหญ่ กดคลึงริมฝีปากนุ่มกับปากหนาร้อน
ปลายลิ้นเล็กๆ ยื่นออกไปไล้เลียทำเหมือนจะสอดแทรกเข้าไปหาความอบอุ่นในโพรงปากนุ่ม แต่แล้วก็เปลี่ยนใจ
เทพกานต์ไม่ยอมให้หญิงสาวทำดังต้องการ มือใหญ่ลากไล้ไปบนผิวกายเนียนและนุ่ม
แขนแกร่งสอดระหว่างลำตัวระหงดึงรั้งเข้ามาจนแนบชิด
ริมฝีปากหนาขบเม้มบดคลึงเรียวปากนุ่ม ปลายลิ้นสากระคายลากไล้พลางแยกสองเรียวปากออกจากกันและสอดแทรกปลายลิ้นไปกระเซ้าเย้าแหย่ช่องปากเล็กอยู่สองสามครั้งก่อนจะสอดแทรกปลายลิ้นเข้าไปในโพรงปากนุ่ม
“อืม...หลิน...”
ความหวานเชื่อมที่ได้รับและการตอบสนองอย่างฉ่ำนุ่มแต่ไม่ประสาทำเอาเรือนกายหนุ่มร้อนผ่าวและปั่นป่วน
ส่งปลายลิ้นสากร้อนซอกซอนแต่งแต้มตามกระพุ้งแก้มและไรฟัน
เที่ยวท่องไปในความนุ่มนิ่มและหอมหวานเหมือนได้เจอท้องทุ่งดอกไม้สวยสดที่มีน้ำเลี้ยงดอกไม้ทิพย์
สัมผัสร้อนผ่าวทำเอาขนในเรือนกายลุกชัน เหมือนมีเปลวไฟร้อนผ่าวเคลื่อนไหวอยู่ตรงกึ่งกลางท้องน้อย
สร้างความป่วนปั่นและสยิวซ่านทรวง แต่นลินต้องรีบขจัดเพลิงไฟที่เริ่มลุกลามให้ดับมอดสนิทในเร็วไว
ด้วยในหัวใจมีเพียงความร้อนรุ่มและเจ็บปวด เมื่อเห็นเทพกานต์กำลังเผลอ เพราะหลงใหลในรสเสน่หาจนไม่รู้เลยว่ากำลังจะมีบางสิ่งบางอย่างเกิดขึ้นกับตัวเอง
|
|
ความคิดเห็น