ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    หักเหลี่ยมสวาทคาสโนวา

    ลำดับตอนที่ #7 : ตอนที่ 2 แม่จอมยั่ว (40%)

    • อัปเดตล่าสุด 17 พ.ค. 60


    2 แม่จอมยั่ว

     

    “แล้วเธอคิดว่าฉันเป็นใครล่ะ?” เทพกานต์ถามกลับ ดวงตาคมกริบเป็นประกายสะท้อนกับแสงไฟนีออนค่อยๆ ไล่มองไปทั่ววงหน้าขาวนวลสวยที่กำลังตื่นตระหนกแล้วก็ยิ่งถูกใจ รอยยิ้มเล็กๆ ผุดขึ้นตรงมุมปากด้านหนึ่ง

    “ถ้าฉันไม่ออกไป เธอจะทำอะไรล่ะ?” ชายหนุ่มถามกลับ และสาวเท้าแข็งแกร่งไปด้านหน้าอย่างเชื่องช้า แต่เหมือนกับราชสีห์กำลังตะครุบเหยื่อสาวแสนสวยและน่าจะหวานฉ่ำเหมือนกับได้ลิ้มรสน้ำผึ้งจากสรวงสวรรค์

    “คะ...คุณจะทำอะไรคะ ถะ...ถอยออกไปนะ” เท้าเรียวยาวก้าวถอยไปด้านหลังอย่างรวดเร็ว แต่เพราะสถานที่นั่งนั้นอยู่ชิดกับกระจกแต่งหน้า ซึ่งมีแก้วหนายื่นออกมา ไหนยังจะมีเก้าอี้ตัวใหญ่อีกตัวขวางอยู่ทำให้ถอยไปไหนไม่ได้ แต่เพราะความคุ้นเคยกับห้องแต่งตัวซึ่งใช้งานมาเกือบจะสองอาทิตย์แล้ว นลินจึงพาตัวเลี่ยงไปทางด้านซ้าย ซึ่งมีที่ว่างให้สามารถพาร่างโปร่งบางถอยหนีไปได้

    ร่างโปร่งบางสะดุดกึกเมื่อแขนใหญ่ยื่นไปกางกั้นไว้ อีกทั้งมือใหญ่อีกข้างหนึ่งยื่นไปจับปลายคางมน แต่หญิงสาวกลับเบี่ยงหนี

    “หยุดนะ คุณจะทำอะไรกันแน่ ถอยไปนะคนเลว” มือเรียวยกขึ้นยันแผ่นอกกว้าง น้ำเสียงที่เคยติดอ่างกลับกลายเป็นเกรี้ยวกราดและขุ่นเขียว ดวงตากลมโตซึ่งตกแต่งอย่างสวยงามค่อยๆ เปลี่ยนเป็นแดงก่ำ ลมหายใจหอบแรงจนสองบัวตูมที่มีเปลือกสีสวยห่อหุ้มอยู่เพียงเล็กน้อยเกือบจะหล่นออกมา

    “ทำไมฉันต้องถอยด้วยล่ะแม่สาวน้อย” เทพกานต์พูดด้วยน้ำเสียงยิ้มๆ มือใหญ่จับรั้งปลายคางมนและกดลงไปแรงๆ เมื่อเธอขัดขืนด้วยการดึงใบหน้าหนีน้ำตาอุ่นร้อนเอ่อล้นในขอบตาคู่สวยเพราะเจ็บที่เขามองยังไงก็ยิ่งน่าปรารถนา

    ปลายนิ้วยาวไล้บนปลายคางมน พลางโน้มใบหน้าคมคร้ามลงไปอย่างเชื่องช้า จนลมหายใจอุ่นร้อนเป่ารดระหว่างหน้าผากกว้างและดั้งจมูกโด่งเป็นสัน

    “จะหนีไปไหนล่ะแม่ตัวดี เธอเป็นคนยั่วให้ฉันต้องตามมาถึงห้องนี้เองไม่ใช่หรือ ถ้าไปพบฉันที่โต๊ะ เรื่องมันอาจไม่เป็นแบบนี้ก็ได้นี่นา”

    นลินถึงกับกัดฟันเสียงดังกรอดๆ กับคำพูดเห็นแก่ตัวเห็นแก่ได้ของชายหนุ่มตรงหน้า มือเรียวควานหาอุปกรณ์ทุ่นแรงที่คิดว่าน่าจะพอมีอยู่บ้าง เพื่อจะเอามาฟาดปากสุนัขๆ ให้ไอ้คนเอาแต่ใจได้รู้เสียบ้าง การกล่าวหาเพศแม่อย่างเธอนั้นไม่สมควรจะทำ ไม่ว่าคนเราจะทำอาชีพอะไร ก็มีเกียรติมีศักดิ์ศรีในตัวทั้งสิ้น ขอเพียงแค่อาชีพที่ทำไม่ผิดกฎหมายและทำให้คนอื่นต้องเดือดร้อนเท่านั้นเอง หญิงสาวได้แต่หงุดหงิดในหัวใจร้อนเหมือนกับมีเปลวเพลิงกำลังลุกไหม้ เพราะหาเครื่องทุ่นแรงไม่ได้สักชิ้น

    ดวงตากลมโตเป็นประกายแวววาวเหมือนดวงตาเสือตัวเมียยามกำลังกางปีกปกป้องลูกตัวน้อยให้พ้นภัย มือเล็กเรียวยกขึ้นวางบนนิ้วมือใหญ่ พร้อมรอยยิ้มเล็กๆ ที่ผุดขึ้นตรงริมฝีปากด้านหนึ่ง

    “คุณจะถอยไปดีๆ หรือว่าจะให้ฉันเรียกพนักงานมาไล่ออกไป” หญิงสาวเอ่ยถามมือก็ลูบไล้ปลายนิ้วเล็กๆ ที่เคลื่อนไหวอยู่บริเวณปลายคางอย่างแผ่วเบาและนุ่มนวล หูก็รอคอยฟังว่าชายหนุ่มจะตอบกลับมาอย่างไร

    “โอ๊ย!! ฤทธิ์มากใช่เล่นเลยนะคุณนี่” เทพกานต์ต่อว่าเมื่อโดนเธอหักนิ้วเอา ใบหน้าคมคร้ามแย้มยิ้ม ดวงตาคมกริบเป็นประกายแวววาวระยับ รู้สึกสนุกที่จะต่อปากต่อคำกับแม่สาวสวย มือใหญ่จับบิดพลิกเพียงแค่นิดเดียวมือเล็กเรียวก็ตกอยู่ในมือใหญ่

    “แต่แบบนี้ก็ดีนะ ทำให้เรื่องระหว่างเรามีรสมีชาติมากขึ้น” ปลายนิ้วยาวใหญ่ลากไปบนใบหน้าขาวสวยและจับรั้งปลายคางมนให้ขยับเคลื่อนเข้าหา

    นลินรีบพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส ใบหน้าขาวสวยค่อยแย้มยิ้มทีละน้อยๆ จนเต็มทั้งใบหน้าและดวงตา ค่อยๆ ดึงเอาแขนเรียวยาวออกจากมือใหญ่อย่างช้าๆ และเคลื่อนไปลากไล้บนอกกว้าง จิกทึ้งไกล่เกลี่ยกระดุมเสื้อชายหนุ่มเล่น

    “แหม...คุณนี่อารมณ์ร้อนจริงๆ นะคะ หลินก็แค่...”

    เพียงแค่ได้ยินหญิงสาวเรียกตัวเองว่าหลินเทพกานต์ถึงกับสะดุ้ง แม้เวลาจะเนิ่นนานผ่านไปหลายปีแล้วก็ตาม แต่ความรู้สึกผิดที่ทำไว้กับรมย์นลินก็ยังคงเกาะอยู่ในใจและคอยกัดกร่อนความรู้สึกทุกครั้งที่มีใครเอ่ยชื่อหรือพูดคุยสิ่งใดที่พาดพิงไปถึงหญิงสาว

    ร่างหนาใหญ่ค่อยๆ ขยับเคลื่อนตัวออกห่าง หวังจะมองดูใบหน้าขาวสวยให้ชัดเจนอีกครั้ง จะเหมือนหรือคล้ายคลึงกับรมย์นลินบ้างหรือเปล่า แต่ดูเหมือนว่าหญิงสาวเองก็รู้เลยบดเบียดเรือนกายนุ่มนิ่มและหอมกรุ่นจากกลิ่นเนื้อสาวและกลิ่นน้ำหอมที่ใช้หันเหความสนใจของเขาแทน

    รอยยิ้มเล็กๆ ผุดขึ้นบนริมฝีปากด้านหนึ่งของเรียวปากสวย “คุณเป็นอะไรไปหรือเปล่าคะ รังเกียจหลินแล้วหรือคะถึงได้ขยับตัวหนีแบบนี้” นลินแสร้งถามเสียงหวานนุ่ม ปลายนิ้วเล็กๆ ขยับเคลื่อนไหวตามแผ่นอกกว้าง และค่อยๆ เคลื่อนไปตามลำคอแกร่ง สิ้นสุดบนใบหน้าคมคร้าม

    “เปล่าๆ ” เทพกานต์รีบตอบปฏิเสธอย่างเร็วไว

    ปลายนิ้วยาวเรียวไล้ไปตามกลีบปากหนาและนุ่ม “ถ้าไม่รังเกียจ ทำไมถึงได้ขยับตัวหนีล่ะคะ หรือว่าโกรธที่หลินไม่ไปพบ พอเจอหน้าก็ยังทำรังเกียจและตื่นกลัวด้วย”

    รู้ไว้ด้วยนะนายเทพกานต์ อรุณสนิทชัยวงศ์ ฉันทั้งรังเกียจและเกลียดนายเป็นที่สุด ในชีวิตนี้นอกจากไอ้อาสารเลวที่จ้องจะงาบฉันอยู่ทุกเมื่อเชื่อวันแล้ว นายคือคนที่สองที่ฉันเกลียด!’

    ดวงตากลมโตเป็นประกายวาววับและแข็งกร้าว เมื่อนึกถึงอาหนุ่มปากว่ามือถึงที่จ้องจะงาบเธอหลังอาหารเช้า กลางวันและเย็น ปลอดคนเป็นไม่ได้คอยแต่จะลวนลามเอาท่าเดียว ดีว่าเธอมีเพื่อนแสนดีและเก่งอย่างแพรพนัส ที่สามารถช่วยเหลือจนเอาตัวหนีรอดจากเงื้อมมือหมาป่าจอมเจ้าเล่ห์มาได้อย่างหวุดหวิดเกือบจะเสียโฉมและเสียตัว

    ริมฝีปากอวบอิ่มขบเม้มเข้าหากัน ผ่อนเอาลมหายใจร้อนผ่าวในอกออกมาอย่างเชื่องช้าและระมัดระวัง พร้อมพยายามปรับเปลี่ยนอารมณ์แห่งความโกรธเกรี้ยวให้เป็นอ่อนหวาน ออดอ้อนและช่างยั่วเหมือนนางหมาป่าเจ้าเสน่ห์ ใบหน้าขาวสวยค่อยๆ แหงนหงายขึ้นพร้อมรอยยิ้มหวานฉ่ำเชื่อม ดวงตากลมโตเป็นประกายอ่อนหวานระคนออดอ้อนและเว้าวอน

    “ขอโทษด้วยนะคะ พอดีว่าหลินเพิ่งโดนลวนลามด้วยสายตาและการกระทำ รวมถึงพูดจาดูถูกหยามเหยียดต่างๆ นานาเมื่อไม่ยอมไปกับเขานะค่ะ”

    เทพกานต์ที่สามารถปรับอารมณ์ให้คืนกลับมาได้เลิกคิ้วขึ้นสูง ดวงตาคมกริบสบกับดวงตากลมโตที่เป็นประกายสะท้อนกับแสงไฟ ตอนแรกไม่อยากเชื่อเท่าไหร่ แต่เมื่อเห็นในดวงตาคู่นั้นเต็มไปด้วยความหวาดหวั่นและหวาดกลัว เพลิงโทสะในกายก็พุ่งขึ้นมา ในหัวใจเหมือนกับปรอทที่ได้รับความร้อนจัด ขบกัดฟันกรามจนนูนเด่น

    “คะ...คุณโกรธหลินหรือคะ?” นลินแสร้งถามออกไป ขอบตาร้อนผ่าวและในดวงตากลมโตเริ่มมีน้ำตาคลอเบ้า ใบหน้าขาวสวยซีดเผือด ริมฝีปากขบเม้มเหมือนกำลังสะกดกลั้นเสียงสะอื้นเอาไว้อย่างสุดความสามารถ

    “เปล่าหรอกหลิน ฉันโกรธผู้ชายคนนั้นที่กล้าทำร้ายผู้หญิงสวยๆ อย่างเธอต่างหากล่ะ” ชายหนุ่มตอบกลับเสียงนุ่ม ปลายนิ้วยาวใหญ่ยกขึ้นมาลากไล้บนใบหน้าขาวนวลสวย  

    เสียดายค่ำคืนนี้หญิงสาวแต่งหน้าค่อนไปทางจัดจ้าน ทำให้มองไม่เห็นผิวเนื้อแท้จริง แต่คิดว่าผิวแก้มคงจะนวลเนียนนุ่ม ขาวและใสจนเห็นเส้นเลือดฝาด ใบหน้าคมคร้ามแย้มยิ้มอย่างถูกอกถูกใจกับพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงไปจากหน้ามือเป็นหลังมือ ดวงตาคมกริบค่อยๆ ไล่มองไปเรื่องๆ อย่างพินิจพิเคราะห์

    ท่าทางของหญิงสาวที่ดูเหมือนเก่งกล้าและจัดจ้าน แต่ภายในใจเขากลับสัมผัสได้ถึงความไม่ประสา และรับรู้ด้วยสัญชาตญาณของชายหนุ่มผู้รู้จักผู้หญิงเป็นอย่างดี ทำให้รู้ว่าเธอพยายามปรุงแต่งนิสัยให้เป็นคนกล้าและช่างยั่วเย้า แต่ไม่ว่าจะอยู่ในลักษณะใดก็ยังเรียกร้องและดึงรั้งให้อารมณ์เขากระเจิดกระเจิงจนกู่แทบไม่กลับแล้ว ใบหน้าคมคร้ามโน้มลงไปอย่างเชื่องช้า

    นลินรู้ว่าชายหนุ่มกำลังจะทำอะไร มือเล็กยกขึ้นปิดปากหนา รอยสีแดงค่อยๆ แต่งแต้มจากปลายจมูกโด่งและลามไปถึงพวงแก้มนุ่ม ใบหูเล็กและลำคอระหง ใบหน้านวลรีบหลบหลีกอย่างว่องไวและถือโอกาสที่ชายหนุ่มพลั้งเผลอหลบฉากออกมา พร้อมเสียงหัวเราะนุ่มนวลและแผ่วพลิ้ว

    “แหม...เจอกันครั้งแรกก็จะลวนลามกันเสียแล้ว” หญิงสาวต่อว่ายิ้มๆ “ดูซิยังมาทำหน้าเป็นอยู่ได้ ชื่ออะไรก็ไม่ยอมบอกให้รู้จักด้วย”

    “อ้าว...นึกว่าเธอรู้จักฉันนะนี่ ถึงได้รู้ว่าผู้ชายอย่างฉันถ้ายอมง่ายๆ ก็คบกันได้ไม่นาน แต่ถ้าเล่นตัวสักหน่อยก็อยู่กันยืด”

    “แหม...คุณนี่ปากเสียจริงๆ ปากอย่างนี้น่าจะให้จุมพิตฝ่าเท้าสักทีสองทีจะได้รู้จักพูดให้เกียรติผู้หญิงเขาเสียบ้าง” น้ำเสียงคนพูดดูเหมือนจะทีเล่นทีจริง วงหน้าขาวนวลบึ้งตึงแต่ดวงตากลมโตกลับแพรวพราวระยับ จมูกโด่งเป็นสันยู่ย่น แถมยังสะบัดค้อนส่งให้อีกวงโต

    “ถึงจะเป็นนักร้อง แต่หลินก็ขายแต่เสียงเพลง ไม่คิดจะขายตัวอย่างที่คุณหรือคนอื่นๆ เขาคิดกันหรอกนะคะ” ดวงตากลมโตฉ่ำน้ำเล็กน้อย ปลายนิ้วเล็กๆ รีบยกขึ้นซับอย่างรวดเร็วแล้วค่อยๆ ช้อนดวงตาโศกขึ้นมองเทพกานต์อย่างตัดพ้อต่อว่า แล้วก็พูดต่อด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ

    “หลิน...หลินเองไม่ได้อยากที่จะทำอาชีพเป็นคนกลางคืนแบบนี้หรอกนะคะ แต่เพราะครอบครัวมีฐานะยากจน พ่อกับแม่ก็มีลูกหลายคน ไม่มีปัญญาที่จะส่งให้เรียนสูงๆ เพื่อจะได้หางานดีๆ ทำ” นลินรีบหันหน้าเข้าผนังห้อง พร้อมทำเสียงสะอื้นจนตัวสั่นคลอน แต่บนใบหน้าและในแววตากลับไม่มีร่องรอยโศกเศร้าแม้แต่น้อย

    “หลินต้องต่อสู้ ปากกัดตีนถีบ เกือบถูกผู้ชายหลอกไปปล้ำไปขายเสียก็หลายครั้ง มันทำให้กลัวที่จะต้องเข้าใกล้ แล้วคุณยังจะมาทำแบบนี้อีก หลิน...หลิน...โฮๆ ” นลินปล่อยน้ำตาให้ไหลอาบแก้ม ส่งเสียงแผดร้องให้ดังยิ่งขึ้นไปอีกและไม่ลืมที่จะเอียงหน้าปรายสายตาไปมอง หลังจากเทพกานต์ได้ฟังคำที่เธอโกหกไปแล้วจะเชื่อและรู้สึกสงสารบ้างหรือเปล่า

    ปลายนิ้วใหญ่ยกขึ้นลูบไล้ปลายคาง เรื่องที่ได้ฟังเหมือนกับละครทีวีและนิยายเล่มสิบบาทที่เคยได้ยินพวกคนรับใช้ในบ้านเคยพูดแว่วเข้าหูมาบ้าง

    “แน่ใจหรือว่าที่เธอพูดมาเป็นความจริงหลิน”

    “ทำไมหรือคะ คุณไม่เชื่อในสิ่งที่เล่าใช่ไหมคะ?” ร่างโปร่งบางหันมา ปลายมือเล็กยกขึ้นซับน้ำตาบนใบหน้า

    “รู้อยู่แล้วละว่าเรื่องที่เล่าคุณคงไม่เชื่อ แต่ก็ช่างเถอะ ยังไงเส้นทางชีวิตของเราก็คงจะเจอกันเพียงแค่คืนนี้ เพราะผู้ชายอย่างคุณก็ทำเหมือนหมาหยอกไก่ ถ้าได้ก็เอาไม่ได้ก็ไม่สนใจ หรือไม่ถ้าได้แล้วก็แล้วกันไป จะสนใจไปทำไมผู้หญิงง่ายๆ สมใจก็ต้องทิ้งไปอย่างไม่ใยดี ใช่ไหมคะ?”

    นลินเอ่ยถามอย่างคนที่เข้าใจนิสัยผู้ชาย อะไรได้ยากก็จะยิ่งพยายามเอามาครอบครองให้ได้ เพราะถือว่าเป็นศักดิ์ศรี และเมื่อได้ครอบครองแล้วคนที่รู้จักคุณค่าก็จะรักษาไว้อย่างดี นำมาประดับชีวิตตลอดไป แต่ใครที่ไม่รู้คุณค่าก็เหมือนวานรได้แก้ว ที่คอยแต่จะทิ้งขว้าง จนเมื่อสูญเสียไปนั่นแหละถึงได้รู้ค่า แต่สำหรับอะไรที่ได้มาง่ายก็จะทิ้งง่ายๆ เพราะว่ามันไร้ค่าไร้ราคา

    ร่างโปร่งบางก้าวเดินไปหาร่างหนาใหญ่อย่างเชื่องช้า สองมือเล็กวางบนอกกว้างขยับลูบไล้เบาๆ และเคลื่อนไปตามบ่ากว้าง ก่อนจะโอบรอบลำคอแกร่ง มือเล็กเรียวข้างหนึ่งลูบไล้หยอกล้อกับติ่งหูและใบหน้าคมคร้าม ดวงตากลมโตเป็นประกายแพรวพราวระยับสบกับดวงตาคมกริบ ใบหน้าขาวสวยแย้มยิ้มหวานฉ่ำเชื่อม

    “ผู้ชายอย่างคุณ เป็นแบบไหนหรือคะ?” ปลายนิ้วเล็กๆ ลากไล้ปลายคางหนาและไปหยุดที่ริมฝีปากหนา ขนตามเรือนกายโปร่งบางลุกชันเมื่อริมฝีปากหนาขบเม้มปลายนิ้ว

    “แบบไหนล่ะ?” เทพกานต์เอ่ยถาม ปลายลิ้นสากระคายยื่นออกมาตวัดไล้หยอกล้อกับปลายนิ้วยาวเรียว 

    “ก็แบบว่ายิ่งยากก็ยิ่งอยากได้ หรือว่าเป็นพวกไม่ว่าได้ยากหรือง่ายในเมื่อฉันเบื่อฉันก็ทิ้งง่ายๆ ไงคะ”

    “แหมเธอนี่ปากดีจริงๆ ฉันอยากรู้เสียแล้วซิ ไอ้ปากอวบอิ่มนี่จะหวานเหมือนคำพูดช่างต่อว่าต่อขาลหรือเปล่า” ใบหน้าคมคร้ามโน้มไปด้านหน้าอย่างเชื่องช้าจุดหมายปลายทางคือริมฝีปากอวบอิ่มที่กำลังขยับยั่วยุอารมณ์ปรารถนาให้ลุกโพลงตลอดเวลา

    “แหม...จะรีบไปไหนละคะคุณขา...” นิ้วยาวเรียวยกขึ้นวางบนริมฝีปากหนาและค่อยๆ ดันใบหน้าคมคร้ามให้ถอยห่าง แขนเสลายกขึ้นโอบรอบลำคอแข็งแร่ง ลูบไล้ต้นคอและเส้นผมหนานุ่ม ริมฝีปากอวบอิ่มเผยออ้าเล็กน้อยและส่งเรียวลิ้นเล็กสีชมพูออกมาไล้เลียริมฝีปากพลางเขย่งเท้าจากพื้นจนปลายจมูกโด่งเป็นสันสัมผัสกับปลายคางหนา ดวงตากลมโตเหลือบขึ้นไปจนสบกับดวงตาคมกริบที่มองการกระทำของเธออย่างอยากรู้และรอคอยด้วยหัวใจเต้นระทึก

    มือใหญ่ยกขึ้นวางบนสองลำแขนเสลา ขยับเคลื่อนไปตามลาดไหล่กว้างแล้วเคลื่อนไปบีบนวดลำคอระหง ผิวเนื้อเนียนนุ่มและมีกลิ่นหอมจากทั้งกลิ่นกายสาวและกลิ่นน้ำหอมอ่อนๆ คล้ายกลิ่นของดอกไม้ชนิดหนึ่งซึ่งเขาจำชื่อไม่ได้ แต่เป็นหนึ่งในไม่กี่กลิ่นที่เขาโปรดปราน

    ปลายนิ้วยาวใหญ่ลากไล้บนหน้าอกกว้างและนุ่มนิ่มแล้วเคลื่อนไปตามลำคอระหงอย่างเชื่องช้า พร้อมบีบนวดไปด้วยจนถึงท้ายทอย ซึ่งวันนี้นลินเกล้าผมเป็นมวยและปล่อยปลายผมให้ลงมาคลอเคลียไหล่ทำให้ยิ่งเพิ่มความเซ็กซี่ที่กระตุ้นให้กายหนุ่มเร่าร้อนเร็วยิ่งขึ้น

    “จะไม่อยู่สนุก...” นิ้วเล็กลากไล้บีบนวดลำคอแข็งแกร่ง ใบหน้าขาวสวยแหงนหงายไปด้านบนให้ชายหนุ่มได้เห็นการยั่วยวนอารมณ์ปรารถนาให้ยิ่งลุกลามเหมือนไฟที่กำลังไหม้กองฟาง ปลายลิ้นเล็กสีชมพูลากไล้ไปตามเรียวปากนุ่ม ริมฝีปากแย้มยิ้ม ดวงตาเป็นประกายหวานเชื่อมและเชิญชวน นิ้วเล็กลากไล้ลงมาตามข้างแก้มตอบและเคลื่อนกลับขึ้นไปพร้อมกดน้ำหนักมือให้ใบหน้าคมคร้ามโน้มลงมาจนริมฝีปากของทั้งสองคนแนบชิดกัน

    “กันก่อนหรือคะ” หญิงสาวถามเสียงหวานนุ่มและเว้าวอน บดเบียดเรือนกายนุ่มนิ่มกับร่างหนาใหญ่ กดคลึงริมฝีปากนุ่มกับปากหนาร้อน ปลายลิ้นเล็กๆ ยื่นออกไปไล้เลียทำเหมือนจะสอดแทรกเข้าไปหาความอบอุ่นในโพรงปากนุ่ม แต่แล้วก็เปลี่ยนใจ

    เทพกานต์ไม่ยอมให้หญิงสาวทำดังต้องการ มือใหญ่ลากไล้ไปบนผิวกายเนียนและนุ่ม แขนแกร่งสอดระหว่างลำตัวระหงดึงรั้งเข้ามาจนแนบชิด ริมฝีปากหนาขบเม้มบดคลึงเรียวปากนุ่ม ปลายลิ้นสากระคายลากไล้พลางแยกสองเรียวปากออกจากกันและสอดแทรกปลายลิ้นไปกระเซ้าเย้าแหย่ช่องปากเล็กอยู่สองสามครั้งก่อนจะสอดแทรกปลายลิ้นเข้าไปในโพรงปากนุ่ม

    “อืม...หลิน...” ความหวานเชื่อมที่ได้รับและการตอบสนองอย่างฉ่ำนุ่มแต่ไม่ประสาทำเอาเรือนกายหนุ่มร้อนผ่าวและปั่นป่วน ส่งปลายลิ้นสากร้อนซอกซอนแต่งแต้มตามกระพุ้งแก้มและไรฟัน เที่ยวท่องไปในความนุ่มนิ่มและหอมหวานเหมือนได้เจอท้องทุ่งดอกไม้สวยสดที่มีน้ำเลี้ยงดอกไม้ทิพย์

    สัมผัสร้อนผ่าวทำเอาขนในเรือนกายลุกชัน เหมือนมีเปลวไฟร้อนผ่าวเคลื่อนไหวอยู่ตรงกึ่งกลางท้องน้อย สร้างความป่วนปั่นและสยิวซ่านทรวง แต่นลินต้องรีบขจัดเพลิงไฟที่เริ่มลุกลามให้ดับมอดสนิทในเร็วไว ด้วยในหัวใจมีเพียงความร้อนรุ่มและเจ็บปวด เมื่อเห็นเทพกานต์กำลังเผลอ เพราะหลงใหลในรสเสน่หาจนไม่รู้เลยว่ากำลังจะมีบางสิ่งบางอย่างเกิดขึ้นกับตัวเอง

     

    หักเหลี่ยมสวาทคาสโนวา (ฉบับปรับปรุง)
    รัตน์วรา
    www.mebmarket.com
    รมย์นลิน...ต้องพากายที่บอบช้ำ ใจที่แหลกสลายจากการกระทำของคนที่บอกรัก...เทพกานต์ความเจ็บปวดที่ได้รับในวันนี้จะเป็นบทเรียนราคาแพง และคนที่สร้างขึ้นมาจะต้องได้รับการเอาคืนอย่างสาสม!นลิน...นักร้องสาวที่แรกเห็นหน้าก็เรียกเสือร้ายอย่างเทพกานต์ให้อยากครอบครอง แต่เธอไม่ใช่หมูในอวยให้เขาเคี้ยวเล่นได้ง่ายๆ เหมือนบางคนหรอกนะ เขี้ยวเล็บน่ะมันมีเยอะ“พี่เทพอยู่นิ่งๆ ซิคะ” ร่างโปร่งบางเคลื่อนตัวขึ้นไปนั่งบนตักกว้าง สองมือเล็กจับแขนแข็งแกร่งและชูขึ้นเหนือศีรษะ“ตอนนี้หลินมัดพี่เทพเอาไว้แล้วนะคะ มัดด้วย...” นิ้วเล็กชี้ตรงหัวใจตัวเองซึ่งกำลังเต้นอยู่ และเคลื่อนไปหาแขนใหญ่ขยับวนเวียนอยู่สองสามครั้ง ก่อนจะกระซิบเสียงหวานเบาข้างใบหูใหญ่ แต่มันก็ดังเข้าไปถึงหัวใจเทพกานต์จนเต้นแรงและเร็วเหมือนกำลังจะทะลุออกมาจากทรวง“หลินมัดมือพี่เทพด้วยสายใยแห่งรักที่ถักทอมาจากหัวใจของหลินเอง”และอีกหนึ่งที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับชีวิตของเทพกานต์อย่างที่ชายหนุ่มอยากจะ...บ้าตาย เมื่อเขาดันเผลอไปมีอะไรกับ...“ผมรู้ว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนทำให้เจ้านายไม่สบายใจ อึดอัดคับแค้นใจเป็นอย่างมาก เมื่อคนที่เจ้านายมีอะไรด้วยไม่ใช่ผู้หญิงที่ชื่อหลินคนนั้น เจ้านายไม่ต้องกลัวหรือกังวลใจอะไรนะครับ ผมให้สัญญาว่าจะไม่เรียกร้องอะไร”แค่ขอเป็นคนของเจ้านายนับแต่วันนี้จนตลอดไป ใบหน้าหล่อหวานแย้มยิ้มอย่างหวานเชื่อม ดวงตากลมโตเป็นประกายระยิบระยับและมีเลศนัย ถ้าหากเทพกานต์ได้เห็นคงจะหนาวสั่นยิ่งกว่าที่เจอมาเมื่อคืนอีกเป็นแน่“ขอเพียงแค่เจ้านายไม่ทอดทิ้งและให้ผมได้อยู่รับใช้ใกล้ชิด แล้วก็ไม่ไล่ผมออกจากงานเท่านั้นเองฮะ” หนุ่มน้อยหน้าหวานเอ่ยพูดน้ำเสียงหวานนุ่ม ทั้งอ่อนหวานและเว้าวอน ดวงตากลมโตกะพริบปริบๆ ให้อย่างน่ารัก
    เล่ห์รักไฟพิศวาส
    ปูณ ปูริดา
    www.mebmarket.com
    ยึดถือคำมั่นสัญญา เฝ้ารอคอยเขากลับมา แต่...ความรักที่ให้กลับได้เป็นความเจ็บปวดชอกช้ำกลับมา เธอจึงต้องตัดสินใจ...“ไม่นึกว่าเธอจะยังมีหน้ามาหาฉันอีกเมษา เสร็จธุระแล้วก็รีบไปซิ จะมัวรีรออะไรอยู่อีก รู้ก็รู้อยู่ว่าคนไม่รัก ยังจะตามตื้ออยู่ได้ ไม่รู้เมื่อไหร่จะไปให้พ้นๆ หน้าซะที” เบนนิโต้กัดฟันพูด เพราะต้องการให้เมษาตัดใจจากเขาซะที ถ้าเป็นอยู่อย่างนี้ คนที่เจ็บปวดก็คือตัวเมษาเองนั่นแหละ แต่ทำไมพอคิดทำอย่างนี้...เขาถึงรู้สึกปวดใจอย่างบอกไม่ถูก มันเหมือนถูกควักหัวใจออกจากร่างเลย “ดิฉันทราบแล้วค่ะคุณเบนนิโต้ ดิฉันทราบว่าคุณไม่ต้องการที่จะเห็นหน้าหรือพูดจาเสวนากับดิฉัน ตัวดิฉันเองก็ไม่ได้คิดอยากจะมาที่นี่เหมือนกัน ถ้าไม่ติดว่าจะต้องเอาความทรงจำที่มี...ความรักที่เคยใช้หล่อเลี้ยงหัวใจนำมาคือคุณและรับเอาความรักและหัวใจของตัวเองคืนกลับมา เพื่อจะได้รักตัวเองให้มากกว่ารักคนอื่น! เสียที”เธอไม่ได้ย้ำให้เขารู้ แต่ย้ำกับใจตัวเอง นับจากนี้ไป ควรรักตัวเองให้มาก ไม่ควรหลงละเมอเพ้อพกไปกับคำลมลวงและความรักจอมปลอมที่เขาเคยมอบให้ไว้ ยิ่งเขาใจดำเพียงนี้...ก็สมควรแล้วที่เธอจะตัดใจ...หยุดรักเขา! เสียที“คุณเบนนิโต้ไม่ต้องห่วงอีกแล้วละคะ” เมษาเงยหน้ามองเบนนิโต้ ในดวงตายังคงมีน้ำตาคลอหากเต็มไปด้วยความปวดร้าวที่ยังปิดไว้ไม่มิด แต่มันก็มั่นคงและเข้มแข็ง บอกให้เขารู้ว่า...“เมื่อรัก ดิฉันทุ่มเททั้งใจ แต่เมื่อต้องตัดใจ ดิฉันก็จะทำให้คุณรู้เหมือนกัน สามารถทำได้อย่างที่พูดจริงๆ นับตั้งแต่นี้ไป ดิฉันจะไม่ตามติดให้คุณรำคาญอีกแล้ว แต่ที่จำเป็นต้องมาที่นี่อีกครั้ง เพราะต้องนำของมาคืนคุณ” ให้ทิ้ง...เธอยังตัดใจทำไม่ได้ แต่ถ้าส่งคืนแล้วเขาทิ้งโดยเธอไม่รู้ มันก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×