คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : ตอนที่ 1 แรกพบ...หัวใจหวั่นไหว (100%)
1 แรกพบ...หัวใจหวั่นไหว
เทพกานต์ถึงกับหน้าตึงเปรี๊ยะ และหันไปถลึงตาใส่เพื่อนรักที่นั่งหัวเราะงอหงายอยู่ใกล้ๆ “หยุดหัวเราะเลยนะมึงไอ้ฉัตรถ้ายังไม่อยากถูกกูเอาเท้าเหยียบหน้า”
กรามหนาขบกัดจนนูนเด่นและแทบจะได้ยินเสียงดังกรอดๆ ถ้าไม่มีเสียงดนตรีและเสียงเพลงที่แว่วมา ดวงตาคมกริบวาววับเหมือนดวงตาพญาเหยี่ยวลุกโชนด้วยเพลิงโทสะ เพราะเสียหน้าที่ถูกปฏิเสธ แล้วชายหนุ่มก็โยนความผิดที่ถูกเพื่อนหัวเราะไปให้กับนักร้องสาวสวยที่เดินลับหายไปจากสายตา
“อ้าว...เฮ้ย...มึงโกรธแม่สาวนักร้องนั่นแล้วมาลงที่กูได้ไงวะ โกรธใครก็ไปลงกับคนนั้นซิโว้ยไอ้เทพ” ฉัตรจักรโวยวายเสียงดัง พร้อมความเสียดาย ด้วยตรงที่นั่งอยู่แสงไฟไม่สว่างเท่าไหร่ เลยทำให้เขาเห็นหน้าเพื่อนรักไม่ชัด แต่ก็คิดว่าคงจะแดงก่ำด้วยเพลิงโทสะที่กรุ่นอยู่เป็นแน่แท้ แล้วก็นึกกลัวระคนสงสารนักร้องสาว ซึ่งเพิ่งจะเดินจากไปเมื่อครู่ ที่กล้าหาญหักหน้าเทพกานต์อย่างไม่รู้เลยว่าชะตากรรมตัวเองจะต้องเจอกับเรื่องร้ายแรงอะไรบ้าง
มือใหญ่ยกขึ้นตบบ่ากว้างเบาๆ “หรือมึงจะหมดเสน่ห์แล้ววะไอ้เทพ ผู้หญิงเขาเลยไม่สนใจ” ฉัตรจักรถามน้ำเสียงยิ้มๆ ดวงตาคมตวัดมองไปยังมุมทางเดินที่ร่างโปร่งบางลับหายไปเมื่อครู่อย่างเสียดาย แรกเริ่มเขามาที่นี่ก็เป็นเพราะเรื่องงาน แต่เมื่อได้ยินเสียงร้องหวานเศร้าและไพเราะเพราะพริ้งช่างต่อว่าต่อขานนั่นเข้า มันตรงเข้าไปกระแทกตรงกึ่งกลางหัวใจอันแข็งแกร่งให้อ่อนยวบและละลายกลายเป็นเทียนไขถูกลนไฟในบัดดล
ใบหน้าคมคร้ามค่อยๆ หันไปมองอย่างเชื่องช้าแล้วก็ต้องตกตะลึง หัวใจเต้นแรงและเร็วไม่เป็นจังหวะ ยามสายตาได้ยลใบหน้าหวานปนเศร้าที่ตกแต่งไว้อย่างสวยงามซึ่งสะท้อนอยู่ในแสงไฟรำไร เหมือนกับตกอยู่ในมนต์สะกดแห่งความสวยเศร้า แต่อุปสรรคก็มี เมื่อได้เจอกับ...
ไม่รู้ว่าเขาจะเรียกอะไรดี ผู้หญิงห้าว ทอมบอย ผู้ชายในเพศหญิง หรือว่าผู้หญิงในเพศชาย เพราะบอกตรงๆ เขาดูไม่ค่อยจะออกจริงๆ
ร่างเล็กกะทัดรัดฉบับกระเป๋าในชุดเสื้อเชิ้ตกางเกงยีนส์รัดรูป สวมแจ็คเก็ตหนังสีดำสนิท และยังมีหมวกแก๊ปสีเดียวกับตัวเสื้อที่สวมทับ ทำให้ดูทะมัดทะแมง แข็งแกร่งแต่ก็บอบบางในคราวเดียวกัน
วงหน้าเรียวดวงตากลมโตขนตายาวและงอน จมูกโด่งเป็นสัน รับกับริมฝีปากรูปกระจับสีชมพูระเรื่อ จนเห็นครั้งแรกเขานึกว่าเป็นหญิง แต่พอได้ยินเสียงพูดเท่านั้นเองก็ต้องผงะ เพราะมันใหญ่ แหบและห้าวเหมือนกับเสียงผู้ชายเสียมากกว่า แล้วที่สำคัญที่สุดก็คือ...
มือใหญ่ยกขึ้นแตะใบหน้า รสหมัดหนักๆ สองสามหมัดที่ตรงเข้าปากกึ่งจมูกและเบ้าตายังติดตรึงในความรู้สึกจนถึงทุกวันนี้ เพราะมันทำให้เขาปากเจ่อ อดกินแกงเผ็ดๆ แถมดวงตาปูดบวมและแดงช้ำ จนไม่กล้าออกไปนอกบ้านเสียตั้งหลายวัน
คิดแล้วก็เจ็บใจจริงๆ ที่ให้ไอ้เด็กปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมทำร้ายเอาได้ พอจะเอาคืนก็กลัวจะถูกหาว่ารังแกเด็ก ถ้าใครเห็นเข้า เขาต้องโดนต่อว่าทั้งขึ้นทั้งล่อง
กรามหนาขบกัดบดเบียดจนนูนเด่น ดวงตาคมกริบเป็นประกายแข็งกร้าว ไม่ให้ไอ้หรือยัยบ้านั่นทำร้ายเขาแล้วลอยนวลไปได้หรอก สุภาษิตบทหนึ่งบอกว่า...สิบปีแก้แค้นก็ไม่สาย โลกมันกลม ยังไงเขาจะต้องเจอไอ้เจ้าวายร้ายนั่นอีกแน่นอน
ฉัตรจักรสะบัดศีรษะไล่ความคิดเรื่องไอ้วายร้ายที่ทำให้เขาต้องคิดถึงเรื่องการออกกำลังกายและฝึกฝนฝีมือการต่อสู้ขึ้นมาใหม่ ใบหน้าคมคร้ามหันไปมองเทพกานต์ คิ้วหนาเลิกขึ้นเล็กน้อยคล้ายกำลังไต่ถาม จะทำอย่างไรต่อไป
“งั้นมึงก็คอยดูไอ้ฉัตร กูจะเอายัยนักร้องนั่นมาเป็นของกูให้ได้” เทพกานต์พูดน้ำเสียงหนักแน่น
ฉัตรจักรถึงกับเสียววูบในอก เพราะจำน้ำเสียงแบบนี้ได้ดี เหตุการณ์ในวันวานย้อนกลับเข้ามาในความคิด วันที่เขาและเทพกานต์รวมถึงเพื่อนอีกสองสามคนนั่งทานอาหารและคุยสัพเพเหระกันในโรงอาหารของมหาวิทยาลัย แล้วมีหญิงสาวร่างสูงโปร่งเดินผ่านมา ในอ้อมแขนนั้นเต็มไปด้วยหนังสือหอบใหญ่เดินผ่านหน้าเขาและเพื่อนๆ ไปอย่างไม่แม้แต่จะสนใจคำแซว ไม่แม้แต่จะมองหน้าผู้ชายคนไหนและด้วยความคึกคะนองและปากเปราะ
ในตอนนั้นเขาได้เอ่ยพนันกับเพื่อนหนุ่มที่เจ้าเสน่ห์ที่สุด แต่ไม่คิดว่าเทพกานต์จะรับคำท้าและทำได้สำเร็จเสียด้วย และเรื่องราวในวันนั้นก็เป็นผลพวงให้เขารู้สึกเสียใจกับหญิงสาวคนนั้น...
รมย์นลิน ยมลภัทร จากวันที่เทพกานต์ทำตามคำท้าสำเร็จ เธอก็ได้หายออกไปจากวงจรชีวิตของทุกคน ราวกับไม่เคยมีตัวตนมาก่อน
“เฮ้ย!! มึงจะไปไหนไอ้เทพ”
เทพกานต์ไม่ตอบแต่กลับเดินลิ่วๆ ไปตามเส้นทางที่นักร้องสาวเดินลับหายไปเมื่อครู่ ด้วยรอยยิ้มหยามหยันและเคร่งเครียด ถ้าอยากจะเล่นตัวเขาก็ไม่ว่า แต่ก็ควรดูด้วย กำลังเล่นอยู่กับใคร ถึงไม่อยากไปกับเขา แต่ก็ควรมาคุยกันให้รู้เรื่อง ไม่ใช่ว่าเดินหนีไปแบบนี้
“เฮ้ย!! คุณครับ ทางนั้นไปไม่ได้นะครับ นั่นไม่ใช่...” พนักงานเสิร์ฟคนหนึ่งร้องทักและจะเดินไปดักทาง แต่เสียงนั้นก็ต้องเงียบหายไป เมื่อเทพกานต์ตวัดสายตาคมกริบและดุร้ายเหมือนกับพญาเสือโคร่งมองมา และมีเพื่อนอีกคนก็เข้าไปกระซิบบอกจนหน้าเจื่อนและซีดเผือด จึงต้องรีบถอยห่างไปอย่างรวดเร็ว
เทพกานต์เดินลิ่วๆ ไปจนถึงห้องหนึ่งซึ่งเขาคิดว่าน่าจะใช่ห้องที่สาวนักร้องจอมหยิ่งใช้เป็นที่พักกายและแต่งตัว ซึ่งเขาเองก็เคยใช้หาความสุขส่วนตัวกับนักร้องคนอื่นๆ มาแล้ว แต่เมื่อเปิดประตูเข้าไปก็พบแต่ความมืดมิด
“แม่ง...อยู่ห้องไหนวะ” ชายหนุ่มสบถเสียงเขียวด้วยความขุ่นเคืองใจ ดวงตาคมกริบตวัดมองไปรอบๆ ทางเดิน และก็สะดุดกับแสงไฟสลัวๆ ที่ลอดออกมาจากประตูห้องซึ่งอยู่ในสุด
หืม...ถ้าทางจะเส้นใหญ่ใช่เล่นเลยนะนี่ ถึงได้มีห้องส่วนตัวให้ด้วย รอยยิ้มมาดหมายผุดขึ้นบนใบหน้าคมคร้าม ดวงตาคมกริบพราวระยับมองไปยังห้องเล็กซึ่งเคยใช้เป็นห้องเก็บของอย่างมาดหมาย
‘นึกว่าจะหนีฉันพ้นหรือแม่ตัวดี’
ร่างหนาใหญ่เดินลิ่วๆ ไป มือใจับลูกบิดประตูและเปิดเข้าไปแล้วก็สมหวัง เมื่อเห็นแม่สาวนักร้องจอมหยิ่งนอนอิงเก้าอี้ตัวใหญ่
ชายหนุ่มหันไปปิดประตูและไม่ลืมกดล็อกให้เรียบร้อย ถ้าปากหวานๆ ของเขาทำงานสำเร็จ ก็จะรักแม่จอมหยิ่งเสียในห้องนี้ให้มันรู้แล้วรู้รอดไป แต่ถ้าไม่ใช่ถึงจะต้องลงมือลงไม้กันก็จะมาว่าหรือโทษกันไม่ได้ อยากยั่วเขาเองนี่นา
สองมือใหญ่กำหมัดแน่น ขบกัดฟันกรามจนนูนเด่น เพื่อระงับความปรารถนาที่เอ่อล้นมาจนกายเริ่มปวดร้าวที่ยากจะหักห้ามเอาได้
นลินรู้สึกตัวตั้งแต่ที่ยินเสียงลูกบิดประตูแล้ว แต่เลือกที่จะนอนหลับตาอยู่อย่างนั้น ด้วยอยากรู้ว่าคนที่เข้ามาอย่างเสียมารยาทนั้นต้องการสิ่งใด
รอยยิ้มเล็กผุดขึ้นตรงมุมหนึ่งของริมฝีปากอวบอิ่มได้รูป ถ้าให้เดา คิดว่าเดาไม่ผิด จะต้องเป็นนายเทพกานต์ อรุณสนิทชัยวงศ์ จอมหยิ่งที่หลงตัวเองซะเหลือเกิน คงจะคิดว่าเงินซื้อได้ทุกสิ่ง แต่ยังไงก็ซื้อชีวิต ความตาย ความรักและความเจ็บปวดไม่ได้อยู่ดี
ร่างหนาใหญ่เดินมาหยุดอยู่ตรงด้านหลังเก้าอี้ แสงไฟที่เปิดอยู่ส่องให้เห็นเค้าหน้าหญิงสาวรางๆ จนต้องรีบก้มศีรษะลงไป เพื่อมองดูให้ถนัดตายิ่งขึ้น
ดวงตาคมกริบกวาดมองไปทั่วใบหน้าขาวนวลผ่องซึ่งยังมีเครื่องสำอางปกปิดอยู่ แล้วก็รู้สึกแปลก เหมือนมีอะไรมาสะกิดใจกับวงหน้าสวยที่คุ้นตาคุ้นใจเหลือเกิน
คิ้วเข้มขมวดเข้าหากันเป็นปม พยายามคิดดูว่าเค้าหน้านี้เหมือนใครที่เขาเคยเจอหรือรู้จักบ้างไหม แต่ก็คิดไม่ออกว่าละม้ายคล้ายใคร จนต้องรีบสะบัดศีรษะทิ้งไปก่อน เพราะเชื่อ ถ้าเขาเคยเห็นหรือรู้จักหญิงสาวจริงๆ ไม่นานก็จะต้องนึกออก
ดวงตาคมค่อยๆ ไล่มองไปบนวงหน้าสวยอย่างช้าๆ ดูไกลๆ เขาก็ว่าสวยแล้ว แต่ยิ่งเห็นใกล้ๆ แบบนี้ก็ยิ่งทำให้หัวใจสั่นวูบไหว
เทพกานต์กลืนน้ำลายเหนียวๆ ลงคอ ความต้องการที่ถูกข่มเอาไว้ก็เริ่มพลุ่งพล่าน ริมฝีปากอวบอิ่มรูปกระจับมันช่างเย้ายวนให้อยากก้มหน้าลงไปแล้วบดคลึง ปลายลิ้นซอกซอนเข้าไปลิ้มรสความหวานภายในโพรงปากที่คิดว่าน่าจะหอมและหวานเหมือนกับได้กินน้ำผึ้ง
ลมหายใจหนุ่มหอบแรงเร็ว ตอนแรกที่เห็นไกลๆ ว่าหญิงสาวตรงหน้าสูงโปร่ง ทรวดทรงองเอวพอประมาณไม่เล็กไม่ใหญ่ แต่พอมาดูใกล้ๆ เทพกานต์ถึงกับร้องคราง
ผิวขาวนวลเหมือนกับไข่มุก หน้าอกหน้าใจที่ใหญ่ทะลักล้นออกมาจากขอบเสื้อเกาะอก สะเอวเล็กคอดจนคิดว่าจะใช้สองมือใหญ่กำรอบ และที่ทำให้ชายหนุ่มถึงกับกลืนน้ำลายลงคออย่างฝืดเคือง คือลำขาเสลายาวเรียวและขาวนวลผ่องที่อวดสายตา เพราะกระโปรงตัวเล็กสั้นถอยร่นขึ้นมาจนเกือบจะเห็นความงานของดอกไม้สาวอยู่รำไร
“อืม...” ปากสวยอวบอิ่มอ้าเล็กน้อยและส่งปลายลิ้นสีชมพูออกมาไล้เลียริมฝีปากนุ่ม กายโปร่งบางขยับเคลื่อนไปด้านหน้าเล็กน้อย ทั้งที่อยู่ในอาการหลับตา แต่ศีรษะทุยกลับขยับส่ายเบาๆ พร้อมสองมือเล็กประกบกันไว้และยื่นไปด้านบนเหมือนกำลังบิดขี้เกียจ ก่อนจะเอี้ยวตัวเล็กน้อยให้เนินเนื้ออวบอิ่มขยับไหวกระเพื่อมและเอนลงนอนตะแคงเล็กน้อยส่งให้ทรวงสล้างข้างหนึ่งโดดเด่นขึ้น
ดวงตากลมโตหรี่ขึ้นเล็กน้อย มือเล็กไม่วางไว้ที่โต๊ะเครื่องแป้ง กลับเลือกวางบนขาเรียวและถูไถเล็กน้อยเหมือนกำลังยั่วยวนอารมณ์คนที่แอบมองอยู่ ก่อนดวงตากลมโตก็รีบลืมขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยไม่ให้เทพกานต์ตั้งตัว
“ว้าย! ตายแล้ว...” มือเล็กเรียวข้างหนึ่งยกขึ้นวางบนทรวงขาวๆ และอีกข้างยกมาดึงกระโปรงตัวเล็กที่ถอยร่นขึ้นมาตามลำขาเรียวยาว ดวงตากลมโตเบิกกว้างเป็นประกายตื่นกลัว ริมฝีปากสั่นระริกจนต้องรีบขบกัดเอาไว้
“คะ...คุณเป็นใคร ละ...แล้วเข้ามาในห้องนี้ได้ยังไงกัน อะ...ออกไปนะ” นลินถามและขับไล่เสียงสั่น
ความคิดเห็น