คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : ♔ LUCKY (ラッキー) : Chapter Two
Chapter Two
“กลับบ้านดีๆนะลู่หาน” เสียงของจางอี้ซิงเจ้าของร้านอาหารจีนที่ลู่หานทำอยู่ดังขึ้น ในขณะที่เจ้าของชื่อกำลังจะเดินออกจากร้าน ลู่หานหันไปมองอี้ซิงอีกครั้งพร้อมกับโบกมือให้น้อยๆ ขาเรียวก้าวออกจากร้านก่อนจะเดินไปตามทางที่เต็มไปด้วยผู้คน ร้านของอี้ซิงกับบ้านของเขาอยู่ไม่ไกลกันเท่าไหร่ การเดินกลับบ้านเลยไม่ใช่เรื่องยาก
เวลาหกโมงเย็นเป็นเวลาเลิกงานของลู่หาน เขาทำงานตอนเช้าเพราะเขาไม่มีภาระเรื่องการเรียน แต่ในอนาคตลู่หานก็คิดไว้เหมือนกัน ถ้าเก็บเงินพอที่จะเรียนต่อได้เขาคงต้องย้ายมาทำงานตอนเย็นแทน ชีวิตของเขาไม่เคยลำบากขนาดนี้หรอก แต่ตอนนี้คนตัวเล็กก็เริ่มชินซะแล้วกับการที่ต้องมีตัวเองเป็นที่พึ่ง ลู่หานเข้มแข็งขึ้นมากกว่าเมื่อก่อนเยอะ เขาดูแลคนอื่นได้ด้วยนะ อุนเซไง เด็กน้อยนั่นออกจะมีความสุขตอนที่อยู่กับเขา
“อุนเซอ่า ตอนนี้จะเป็นยังไงบ้างนะ? สามวันแล้วนะไม่ได้ข่าวเลย เห้อ” ลู่หานพูดขึ้นกับตัวเองเบาๆ จะว่าไปไม่มีอุนเซก็ทำให้คนตัวเล็กเหงาเหมือนกันนะ ไม่มีเด็กน้อยมาคอยก่อกวน ชีวิตก็กลับไปเป็นเหมือนปกติทุกวันไม่มีอะไรสนุกเลย บอกตามตรงเขาเป็นห่วงอุนเซมากหลังจากที่ได้พบกับพี่ชายตัวร้ายก็กลัวว่าเด็กน้อยอาจจะถูกพี่ชายรังแกเอาอีก
เพียงเวลาผ่านไปไม่นานลู่หานก็เดินมาถึงหน้าบ้านตัวเองจนได้ เขายังคงยืนนิ่งอยู่หน้าบ้านพร้อมกับจ้องมองไปยังสิ่งแปลกปลอมที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อน รถบีเอ็มสีดำคันหรูจอดขวางทางประตูรั้วทำให้เจ้าของบ้านไม่สามารถเดินผ่านเข้าไปได้ คนตัวเล็กยังคนยืนงงพร้อมกับส่องซ้ายส่องขวาเพื่อหาเจ้าของรถคันนี้
“ใครกันนะที่มาจอดรถขวางประตูบ้านคนอื่นแบบนี้”
“พี่ลูลู่!!!” เพียงลู่หานบ่นไปได้ไม่นานก็ปรากฏเสียงแจ้วที่คุ้นเคยพร้อมกับเด็กน้อยอุนเซที่วิ่งลงมาจากรถบีเอ็มสีดำคันนั้น เด็กน้อยวิ่งตรงเข้ามากอดลู่หานอย่างไม่รีรอ รอยยิ้มหวานปรากฏขึ้นบนใบหน้าของลู่หานอย่างไม่รู้ตัว เขานั่งยองๆเพื่อให้อุนเซกอดได้ถนัดขึ้น
“อุนเซ เป็นยังไงบ้าง? พี่เป็นห่วงอุนเซมากเลยนะ”
“อุนเซหายดีแล้วฮะป๋ม คิดถึงพี่ลูลู่จะแย่ละนา โอ๊ะโอ แผลที่พี่ชายตีพี่ลูลู่ยังช้ำอยู่เลยนะ” เด็กน้อยอุนเซพูดก่อนจะมองแผลที่มุมปากของลู่หาน เขาเอามือแตะปากตัวเองน้อยๆ ถ้าเจ้าเด็กอุนเซไม่ทักก็ลืมไปเลยนะว่าตัวเองมีแผลอยู่
“พี่ไม่เป็นอะไรหรอก เดี๋ยวก็หายแล้ว ว่าแต่มาได้ยังไงเนี่ยหื้ม?” พูดพลางลูบหัวเด็กน้อยเบาๆ
“ก็วันนี้คุณพ่อจะกลับบ้านแล้วฮะ คุณพ่อบอกว่าจะกลับมาอยู่กับอุนเซสักพัก อุนเซเลยจะมาชวนพี่ลูล่ไปหม่ำๆข้าวเย็นด้วยกัน คุณพ่ออยากเจอพี่ลูลู่ม๊ากมาก”
“จะดีหรอครับอุนเซ? พี่ว่าไม่เป็นไรหรอกนะ”
“ดีสิคะคุณหนูลู่หาน คุณท่านอยากเจอคุณหนูนะคะ” เสียงที่ฟังดูมีอายุของผู้หญิงคนหนึ่งดังแทรกขึ้นมา ลู่หานตกใจมาก รีบหันไปมองตามเสียงก็พบกับหญิงที่มีอายุอยู่ในชุดฟอร์มเรียบร้อย หน้าตาดูใจดีมากๆคนหนึ่งยืนอยู่ข้างรถบีเอ็มคันนั้น
“เอ่อ เรียกผมลู่หานเฉยๆก็ได้ครับ” คนตัวเล็กพูดพลางก้มหัวให้ด้วยความเคารพ
“ดิฉันชื่อยองฮา เป็นคนดูแลคุณหนูอุนเซค่ะ”
“คุณป้ายองฮานี่เอง อุนเซพูดถึงคุณป้าบ่อยมากๆเลยครับ”
“คุณหนูอุนเซก็พูดถึงคุณหนูลู่หานบ่อยๆค่ะ คุณหนูอุนเซบอกว่าได้พี่คนสวยคอยดูแลตอนที่ออกจากบ้านใหญ่มา ทำเอาคนในบ้านอยากเจอคุณหนูลู่หานมากนะคะ โดยเฉพาะคุณท่าน พ่อของคุณหนูอุนเซ พอทราบข่าวว่าคุณหนูอุนเซหายออกจากบ้านก็รีบทำเรื่องกลับมาเกาหลีทันที ท่านอยากจะขอบใจที่ช่วยดูและคุณหนูอุนเซ เพราะถ้าคุณหนูอุนเซไม่ได้คนใจดีอย่างคุณหนูลู่หานก็คงจะแย่”
แม่บ้านยองฮาพูดพร้อมกับมีอุนเซคอยพยักหัวตามเหมือนกับจะแสดงว่าเจ้าตัวเล็กเห็นด้วยกับทุกคำพูด ลู่หานยิ้มให้ทั้งกับทั้งสองคน เขาไม่รู้ว่าต้องทำยังไง คนตัวเล็กวางตัวแทบไม่ถูกเลยด้วยซ้ำ ก็เพราะคำว่าเกรงใจมันค้ำคอคนตัวเล็กอยู่น่ะสิ
“ผมเกรงใจน่ะครับคุณป้า”
“ไม่ต้องเกรงใจหรอกหน่าพี่ลูลู่ บ้านอุนเซนะ จะเกรงใจทำไมกันฮะ” เด็กน้อยอุนเซพูดพร้อมกับกอดอกทำหน้าเหมือนกำลังจะงอนลู่หานเอาให้ได้
“ไปเถอะนะคะคุณหนูลู่หาน”
ไม่มีทางเลือกแล้วสินะลู่หานเจ้ากวางโง่
“ก็ได้ครับ” คนตัวเล็กพูดพร้อมกับเด็กน้อยอุนเซที่กระโดดโลดเต้นดีใจยกใหญ่ แม่บ้านโบยองก็ยิ้มออกมาก่อนจะพาคนตัวเล็กเดินไปขึ้นรถ ชายคนขับรถกับอีกคนที่นั่งข้างกันหันมามองลู่หานก่อนจะพูดประโยคที่ทำเอาทุกคนถึงกับขำออกมาเสียงดังโดยเฉพาะอุนเซที่เหมือนจะพอใจมาก
“ยินดีต้อนรับเข้าสู่ รถเวทย์มนต์ของคิมจงแดและคิมมินซอกแห่งแดนมหัจรรย์นะคร้าบ”
.
.
.
เวลาผ่านไปไม่นานขาเรียวของลู่หานก็ก้าวลงจากรถมายืนอยู่หน้าบ้านหลังใหญ่ บ้านหลังนี้มันใหญ่มากกว่าบ้านเก่าของเขากับพ่อแม่ที่อังกฤษเสียอีก คนตัวเล็กมองบ้านตรงหน้าอย่างไม่ละสายตาก่อนจะหันไปมองเด็กน้อยอุนเซอีกครั้ง เขาไม่ได้คิดมาก่อนเลยว่าเด็กน้อยตรงหน้าเขาจะมีฐานะดีขนาดนี้ ยิ่งเห็นแบบนี้ลู่หานก็ยิ่งคิดถึงชีวิตเมื่อก่อนของตัวเอง เขาก็เคยมี…เคยมีทุกสิ่งทุกอย่างแบบนี้เหมือนกัน
“เข้าไปข้างในกันฮะพี่ลูลู่” อุนเซจับมือพี่ลูลู่ของเขาก่อนจะเดินเข้าไปในบ้านหลังใหญ่ ลู่หานเองก็เดินตามอย่างว่าง่าย มีสาวใช้สองคนเดินผ่าน พวกหล่อนก็ก้มหัวให้คนตัวเล็กอย่างมีมารยาท คนในบ้านหลังนี้เค้าก็มีมารยาทมีจิตใจดีกันหมด ก็คงจะเว้นแต่คุณชายใหญ่ของบ้านอย่างโอ เซฮุนล่ะมั้ง
“มาพอดีเลยอุนเซของพ่อ” เสียงทุ้มใหญ่ที่ฟังดูมีอายุดังขึ้นเมื่อลู่หานและอุนเซเดินมาถึงโต๊ะอาหารที่หรูหรา ตอนนี้บนโต๊ะแทบไม่มีที่ว่าง เพราะถูกเติมเต็มไปด้วยจานอาหารมากมาย ลู่หานก้มหัวให้คนตรงหน้าอย่างเคารพ
“คุณพ่อฮะ อุนเซพาพี่ลูลู่มาแล้วนะฮะ พี่ลูลู่นี่คุณพ่อของอุนเซฮะป๋ม”
“สวัสดีครับคุณลุง”
“สวัสดีลู่หาน ฉันชื่อ โอ ซองกุก เป็นพ่อของเจ้าตัวน้อยอุนเซ เอ้า นั่งกันได้แล้ว” อุนเซกระโดดขึ้นไปนั่งข้างคุณพ่อของตัวเองก่อนจะเล่าเรื่องต่างๆที่เกิดขึ้นในขณะที่พ่อของเด็กน้อยไม่อยู่ ลู่หานเห็นแบบนั้นเลยนั่งลงที่ฝั่งตรงข้ามกับอุนเซ เขามองดูพ่อลูกที่คุยกันอย่างสนุกสนาน ช่างเป็นครอบครัวที่น่ารักมากจริงๆ คนตัวเล็กเห็นแล้วก็อดคิดถึงพ่อของตัวเองไม่ได้
“ขอบใจจริงๆนะลู่หาน ที่ช่วยดูแลอุนเซตอนหายออกไปจากบ้าน ตอนที่ฉันได้ข่าวครั้งแรก ฉันตกใจมากรีบทำเรื่องกลับมาที่นี่เร็วเท่าที่จะทำได้”
“ไม่เป็นไรหรอกครับคุณลุง อุนเซเป็นเด็กน่ารักครับดูแลไม่ยาก ไม่ได้ลำบากอะไรเลย”
“เจ้าหนูอุนเซเค้าชื่นชมเธอมากนะลู่หาน ถ้าลูกชายตัวดีของฉันเลิกเหลวไหล ไม่เอาไหน เป็นพี่ชายที่ดี เป็นคนดีได้ครึ่งของเธอก็คงจะดี”
“ใช่เลยฮะพ่อ ถ้าพี่ชายดีเท่าพี่ลูลู่คงจะดีกว่านี้มะ...”
ตึ้ง!!!
เก้าอี้ที่อยู่ข้างๆลู่หานล้มลงกระแทกกับพื้นหินอ่อนเสียงดัง ทำเอาอุนเซที่กำลังพูดอยู่ถึงกับชะงัก ทุกคนหันไปมองที่มาของเสียงพร้อมๆกัน ก็พบว่าไม่ใช่ใครที่ไหนแต่เป็นคนที่กำลังเป็นประเด็นในการสนทนาของพวกเขาอยู่ โอ เซฮุน คนตัวสูงจงใจเตะเก้าอี้เพื่อทำให้ทุกคนรู้ว่าเขาได้ยินทุกอย่างที่กำลังคุยกันอยู่และเขากำลังไม่พอใจ รู้ได้จากสายตาอันแข็งกร้าวที่มองมาที่ลู่หาน คนตัวเล็กเองก็จ้องกลับโดยไม่ละสายตา
“ไงครับคุณพ่อที่เคารพ กลับมาไม่คิดจะพูดถึงลูกชายคนนี้ดีๆบ้างเลยนะครับ” เซฮุนหันหน้าไปเผชิญหน้ากับผู้เป็นพ่อแทน เขาพูดพร้อมกับเหยียดยิ้มน้อยๆ ทำเอาอุนเซรีบขยับเข้าไปนั่งใกล้ๆคุณพ่อของตัวเอง
“แกยังไร้มารยาทเหมือนเดิมนะเซฮุน! เรื่องที่แกก่อไว้ฉันยังไม่ได้จัดการ แกควรจะทำตัวดีๆ!”
“ที่พ่อกลับมาก็เพราะเรื่องไอ้เด็กเวรนี่ใช่มั้ย? พ่อน่าจะจัดการลูกรักของพ่อมากกว่า ที่เสือกโง่หนีออกจากบ้านไปเอง!” การสนทนาระหว่างพ่อลูกเริ่มมีปากเสียงมากขึ้นเรื่อยๆทำเอาลู่หานเองก็หวั่นใจกับเหตุการณ์ไม่น้อย แต่เขาก็ทำได้เพียงนั่งอยู่เฉยๆ
“นี่แกว่าน้องแบบนั้นได้ยังไง ไอ้ลูกเลว!”
“อ่อ ผมลืมไป มันก็ได้เชื้อความโง่มาจากแม่มัน ลูกอีตัวผมไม่ถือว่ามันเป็นน้อง!”
ลู่หานตกใจมากกับคำพูดของเซฮุน แต่คนที่ตกใจกว่าก็คือพ่อของเขา ชายมีอายุที่นั่งอยู่ในตอนแรก ตอนนี้เขายืนขึ้นพร้อมที่จะสั่งสอนลูกชายตัวเองเต็มที่ เพราะเสียงทะเลาะกันที่ดังมากทำเอาอุนเซถึงกับร้องไห้ออกมา เด็กน้อยรีบวิ่งมากอดลู่หานเอาไว้ คนตัวเล็กทำได้เพียงกอดเด็กน้อยตอบ ตอนนี้คุณป้าแม่บ้านยองฮาและคนอื่นๆเริ่มเข้ามาดูแล้วว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ทุกคนก็ไม่กล้าทำอะไรเพราะตอนนี้ เซฮุนดูน่ากลัวเหลือเกิน
“เซฮุน! ไอ้ลูกชั่ว! ฉันไม่เคยสั่งสอนให้แกเป็นคนแบบนี้ แกพูดแบบนั้นออกมาได้ยังไง!”
“ผมพูดความจริง! เพราะพ่อหลงอีตัวแม่ของไอ้เด็กเวรนี่! แม่ของผม…แม่ของผมถึงทนไม่ได้…พ่อเองก็ชั่วไม่ต่างจากผมหรอก!!”
“เซฮุน! ฉันเกลียดแกไอ้ลูกทรพี!”
เพี๊ย!!!!!
สิ่งที่ไม่คาดฝันเกิดขึ้นต่อหน้าทุกคน คุณลุงซองกุกตบหน้าเซฮุนไปเต็มแรง ใบหน้าที่หล่อเหลาตอนนี้ขึ้นสีแดงเป็นรอยฝ่ามือ คุณป้าแม่บ้านยองฮาเห็นแบบนั้นเลยรีบวิ่งเข้าไปพยุงคนตัวสูงที่เอามือจับแก้มตัวเอง เซฮุนสะบัดแขนของคุณป้าแม่บ้านออกอย่างแรง ลู่หานสังเกตได้ แววตาของเซฮุนที่แข็งกร้าวและน่ากลัวก่อนหน้านี้ ตอนนี้มันกำลังสั่นไหวพร้อมกับม่านน้ำตาที่ถูกกลั้นเอาไว้ แต่เพียงไม่นานเซสีหน้าของเซฮุนก็เปลี่ยนไป ลู่หานบอกได้เลยว่าสีหน้าและแววตาของเซฮุนตอนนี้ น่ากลัวกว่าตอนแรกหลายเท่า
“พ่อจำใส่หัวของพ่อไว้! ว่าผมจะทำ ทำให้พ่อเจ็บปวดเหมือนที่แม่ของผมเป็น!! ไอ้เด็กเวรนี่แล้วก็แม่ร่านๆของมันจะไม่มีทางมีความสุข!!” เซฮุนยกมือขึ้นชี้หน้าพ่อของตัวเองก่อนจะพูดออกมาเสียงดังแม้เสียงจะสั่นเล็กๆ แต่ยังไงมันก็ยังฟังดูน่ากลัวมากอยู่ดี เมื่อคนตัวสูงพูดจบ เขาก็คว้าเอากุญแจรถที่วางอยู่ก่อนจะเดินฝ่าวงสาวใช้ออกไปจากบ้านทันที ทิ้งให้ผู้เป็นพ่อยืนช็อคกับคำพูดของลูกชายแท้ๆ อุนเซที่อยู่ในอ้อมกอดของลู่หานก็ร้องไห้ไม่ยอมหยุด จนคนตัวเล็กเองก็รู้สึกใจเสียกับเรื่องที่เกิดขึ้น ลู่หานไม่เคยพบเจอกับสถานการณ์แบบนี้มาก่อน ตอนที่พ่อแม่ของเขายังอยู่ พวกท่านไม่เคยทะเลาะกัน ตัวลู่หานเองก็ไม่เคยมีปากเสียงแบบนี้ก็พ่อแม่เช่นกัน
“คุณท่านคะ คุณท่านไปพักผ่อนก่อนดีกว่านะคะ เดี๋ยวคุณหนูอุนเซดิฉันจะดูแลให้เอง” คุณป้ายองฮาพูดก่อนที่จะเรียกให้จงแดกับมินซอกที่ยืนดูเหตุการณ์อยู่มาพาคุณลุงซองกุกเดินขึ้นไปพักบนห้อง
“คุณหนูอุนเซ ไปกับป้านะคะ ไม่กวนพี่ลู่หานเขานะ”
“ฮึก…ไม่ไปฮะ อุนเซ…จะอยู่กับพี่ลูลู่ ฮึก…” ทันทีที่คุณป้ายองฮาเข้ามาหาอุนเซก็รีบกอดลู่หานไว้แน่นไม่ยอมปล่อย
“ไม่เป็นไรครับคุณป้า เดี๋ยวผมจะอยู่ดูแลอุนเซให้นะครับ” ลู่หานพูดขึ้นพร้อมกับลูบหัวอุนเซเบาๆ คนตัวเล็กเข้าใจความรู้สึกของเด็กน้อยดีคงจะกลัวเรื่องที่เกิดขึ้นไม่ใช่น้อย ยิ่งเข้าใจเหตุผลที่เซฮุนเกลียดน้องชายมากขนาดนี้ ลู่หานก็ยิ่งสงสารอุนเซ เด็กน้อยที่ไม่รู้เรื่องอะไรด้วยเลย
“พี่ลูลู่ ฮึก…ค้างกับอุนเซได้มั้ยฮะ ฮือ..ฮึกๆ”
“ได้สิครับ โอ๋ๆ ไม่ร้องนะครับอุนเซ พี่อยู่นี่นะ งอแงเดี๋ยวตาบวมหมด”
“คุณหนูลู่หานป้าฝากด้วยนะคะ ต้องการอะไรเรียกป้านะคะ รบกวนคุณหนูด้วย” คุณป้ายองฮาพูดพร้อมกับแสดงท่าทีเกรงใจยกใหญ่
“ครับคุณป้า” ลู่หานรับคำก่อนจะอุ้มอุนเซเดินตามคุณป้ายองฮาไปที่ห้องนอนของเด็กน้อยในอ้อมแขน หลังจากเข้ามาในห้องลู่หานก็ปิดประตูบานหรูก่อนอุ้มอุนเซไปนอนบนเตียงที่มีผ้าปูลายการ์ตูนน่ารักปูทับอยู่ เขานั่งมองเด็กน้อยที่ยังร้องไห้ไม่หยุดก่อนจะลูบหัวทุยของอุนเซเบาๆ
“นอนนะครับอุนเซ ไม่ร้องแล้วนะ”
“ฮะป๋ม ฮึก…จะไม่ร้องแล้วฮะ แต่อุนเซยังไม่อยากนอน…” เด็กน้อยพูดพร้อมกับลุกขึ้นมานั่งก่อนจะกดเปิดทีวีพร้อมกับการ์ตูนเรื่องทอมแอนด์เจอร์รี่ที่ปรากฏขึ้นบนจอ
“งั้นพี่ดูเป็นเพื่อนเนอะ” ลู่หานพูดพร้อมกับขึ้นไปนั่งดูการ์ตูนบนเตียงข้างๆอุนเซ เหมือนการ์ตูนจะทำให้เด็กน้อยข้างๆรู้สึกดีขึ้นมาบ้างถึงได้หัวเราะไปเจ้าหนูกับเจ้าแมวที่ไล่จับกันอยู่บนจอทีวี
เวลาผ่านไปไม่นานความง่วงก็เริ่มเข้ามาปกคลุม ทำเอาลู่หานคอตก แต่เด็กน้อยอุนเซชิงหลับไปก่อนตั้งนานแล้ว เจ้าการ์ตูนบนจอทีวีก็ยังคงเล่นอยู่เรื่อยๆ คนตัวเล็กเลยจัดท่านอนให้เด็กน้อยอุนเซได้นอนสบายๆก่อนที่ลู่หานจะเดินไปปิดทีวีแล้วเดินกลับมานอนบนเตียงกับเด็กน้อย แม้จะรู้สึกแปลกที่ไปบ้างแต่ความง่วงก็ไม่เคยปรานีใครจริงๆ เพียงแค่หัวสวยๆของลู่หานแตะถึงหมอน สติของลู่หานที่เหลือน้อยนิดก็ดับหายไปในห้วงนิทรา
.
.
.
ลู่หานสะดุ้งตื่นขึ้นมากลางดึกเพราะได้ยินเสียงโหวกเหวงจากข้างล่าง เขาหันไปมองนาฬิกาปลาโลมาข้างเตียงบ่งบอกว่าเป็นเวลาตีสาม คนตัวเล็กขยี้ตาสองสามทีก่อนจะลุกขึ้นจากเตียงให้เบาที่สุดเพื่อไม่ให้อุนเซตื่น ลู่หานเดินออกมานอกห้องก่อนจะเดินไปเกาะที่ราวบันไดพร้อมกับชะโงกหน้าลงไปดูก็พบว่าไฟห้องโถงกว้างถูกเปิดไว้อยู่เขาเลยรีบเดินลงไปดู
“คุณชายคะ คุณชายเมาแล้วนะคะ ดิฉันว่าคุณชายไปนอนดีกว่านะคะ”
“อย่า…มายุ่งกับ…ฉัน ปล่อยเซ่!”
“ว้าย!” ลู่หานรีบวิ่งเข้าไปประคองป้ายองฮาที่ล้มลงไปกองอยู่กับพื้นเพราะแรงผลักของโอ เซฮุน กลิ่นเหล้าที่เซฮุนดื่มคละคลุ้งไปทั่วบริเวณทำเอาลู่หานปวดหัวไปด้วย
“คุณป้าไม่เป็นไรนะครับ”
“ไม่ค่ะคุณหนู คุณหนูดูคุณชายทีค่ะ ป้าเป็นห่วงคุณชายจริงๆ ไม่ยอมไปพักผ่อน ยังมัวแต่จะดื่มเหล้าต่ออีก” คุณป้ายองฮาพูดพร้อมแสดงสีหน้าที่เป็นห่วงจริงๆ คนตัวเล็กหันไปมองเซฮุนที่กระดกเหล้าเข้าปากอยู่บนโต๊ะไม่สนใจใคร ก่อนจะพยักหน้ารับคำพูดของคุณป้ายองฮา
“เซฮุน…พอได้แล้วนะ” ลู่หานเดินเข้าไปหาเซฮุนก่อนจะพูดออกมาเสียงแผ่วเบาเพราะความหวาดระแวง คนตัวสูงได้ยินแบบนั้นก็หันมามองคนตัวเล็กทันที
“…” เซฮุนไม่ตอบอะไรแต่กลับหันไปดื่มเหล้าต่อ
“พอได้แล้ว” ลู่หานยื่นมือไปจับมือของเซฮุนไว้ไม่ให้เขายกแก้วเหล้าดื่มได้อีก คนตัวสูงหันมามองด้วยความไม่พอใจ ใบหน้าที่แดงก่ำเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์ก็ทำให้ลู่หานรู้แล้วว่าเซฮุนเมาหนักเต็มที คนตัวสูงลุกขึ้นจากเก้าอี้เขาพยายามจะเดินแต่ก็ไม่ไหว เซฮุนเดินเซจะล้มแหล่ไม่ล้มแหล่ ลู่หานเลยเข้าไปพยุงร่างสูงเอาไว้แม้ตัวของเซฮุนจะสูงและใหญ่กว่าแต่ลู่หานก็ยังคงพยุงไหว
“เดี๋ยวป้าไปเตรียมน้ำอุ่นให้นะคะคุณหนู ห้องคุณชายขึ้นบันไดไปจะอยู่ทางขวามือนะคะ”
“ครับคุณป้า” ลู่หานตอบรับก่อนจะพยุงเซฮุนที่สติไม่ค่อยจะเหลือแล้วขึ้นไปข้างบนด้วยความยากลำบาก คนตัวเล็กค่อยๆเปิดประตูห้องเข้าไปก่อนจะควานหาสวิตช์เพื่อเปิดไฟ ห้องสีน้ำตาลเข้มของเซฮุนสว่างขึ้นก่อนที่ลู่หานจะประคองคนร่างสูงไปนอนที่เตียง เขายืนมองเซฮุนอยู่อย่างนั้น นึกแล้วก็สงสารเซฮุนเหมือนกันนะ ที่เค้าทำตัวก้าวร้าวแบบนี้ก็เพราะมีปมในใจ แถมยังเป็นเรื่องเกี่ยวกับแม่และคนในครอบครัว เรื่องวันนี้มันทำให้ลู่หานเข้าใจความรู้สึกของเซฮุนขึ้นมาบ้าง
นายคงจะเจ็บปวดมากสินะ…
“อึก…แม่” ลู่หานรีบหันกลับไปมองเซฮุนอีกครั้ง เมื่อได้ยินเสียงที่ดังรอดออกมาจากปากร่างสูง เขาเลยเดินไปนั่งลงข้างๆเตียงเพื่อดูว่าเซฮุนยังโอเคอยู่หรือเปล่า ลู่หานเอื้อมมือไปตบแก้มของเซฮุนเบาๆเพื่อให้รู้สึกตัว
“เซฮุน…”
“อ่อกกกก!”
เซฮุนที่นอนอยู่อ้วกออกมาเลอะเต็มเสื้อของตัวเอง ไม่พอมันเยอะเปื้อนเต็มแขนของลู่หานอีกด้วย คนตัวเล็กเพียงแค่ตกใจแต่ไม่ได้มีท่าทีรังเกียจอะไร เขาเองก็แปลกใจเหมือนกันว่าทำไม… ทำไมเขาถึงไม่ได้รู้สึกรังเกียจอ้วกของเซฮุนเลยสักนิด ลู่หานหยิบผ้าเช็ดหน้าของตัวเองออกมาก่อนจะเช็ดปากได้รูปของเซฮุนที่เลอะอยู่
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
“คุณหนูลู่หานคะ ผ้ากับน้ำอุ่นได้แล้วนะคะ” เสียงของคุณป้ายองฮาดังขึ้นหน้าห้อง ลู่หานเลยรีบลุกออกไปก่อนจะรับถาดที่มีอ่างน้ำอุ่นกับผ้าวางไว้อยู่ เขาก้มหัวขอบคุณหญิงที่มีอายุมากกว่า เธอยิ้มให้ลู่หานอย่างใจดี
“ฝากด้วยนะคะคุณหนูลู่หาน จงแดกับมินซอกก็หายตัวไปไหนไม่รู้ สงสัยจะแอบไปเที่ยว ลำบากคุณหนูลู่หานอีกรอบนะคะ”
“ไม่เป็นไรครับคุณป้า คุณป้าไปพักผ่อนเถอะครับ” คุณป้ายองฮาก้มหัวให้ลู่หานน้อยๆก่อนจะเดินจากไป คนตัวเล็กถือถาดมาวางไว้ข้างเตียง เขาไม่รู้ว่าจะเริ่มทำอะไรก่อนดี ตั้งแต่เกิดมากวางน้อยไม่เคยดูแลใครเวลาไม่สบายมาก่อนเลย เขาเป็นฝ่ายที่ถูกดูแลเสียมากกว่า
“ทำยังไงล่ะเนี่ยเจ้ากวางโง่” คนตัวเล็กบ่นกับตัวเองเบาๆ ก่อนจะมองร่างสูงที่หลับอยู่อีกครั้ง เขาตัดสินใจเอื้อมมือไปปลดกระดุมเสื้อที่เปื้อนอ้วกของเซฮุนก่อนจะถอดมันออกเผยให้เห็นแผงอกแกร่ง ทำเอาคนตัวเล็กรีบหันหน้าหนีด้วยความอายทันที
“บ้าจริงๆเลย” ลู่หานรู้สึกว่าหน้าของตัวเองร้อนผาวด้วยความอาย เขาเลยต้องรีบเอาผ้าชุบน้ำเช็ดตามใบหน้าที่สมบูรณ์แบบของเซฮุนเบาๆ ก่อนจะค่อยๆเปลี่ยนไปเช็ดตามตัวและหน้าท้องแกร่ง
“นายรู้มั้ย? ถ้าไม่เกิดเรื่องวันนี้ ฉันยังต้องโมโหนายที่นายต่อยฉันแน่ๆ แต่ตอนนี้ ฉัน…เข้าใจนายนะ” คนตัวเล็กหลุดคำพูดออกมาโดยที่ไม่ได้ตั้งใจหลังจากที่มองหน้าเซฮุนอยู่นาน ความรู้สึกสงสารมันถาโถมเข้ามาในใจของลู่หาน คนที่โดนพ่อตัวเองเกลียดคงจะเสียใจมากอยู่ไม่น้อย เพราะคนตัวเล็กเองก็คงจะรับไม่ไหวถ้าพ่อเกลียดเขา ตอนนี้ถึงลู่หานจะเสียพ่อแม่ไปแต่เขาก็ยังมีความสุข ที่รู้ว่ายังไงคนที่รักเขาที่สุดก็คือพ่อแม่ แม้พวกท่านจะไม่ได้อยู่ตรงหน้า แต่ลู่หานก็รู้สึกได้ด้วยใจของเขา
------------------------------------------------------------------------------------------
มาแล้วตอนที่สอง แบบว่ามีอะไรให้พระนางได้สวีทกันบ้างอ่ะนะ
ช่วงนี้อาจจะได้อัพถี่หน่อยเพราะว่า ยังไม่ขี้เกียจ ห้ะ? 555555555555
ขอกำลังใจหน่อยนะรีดเดอร์ผู้น่ารักทุกคน อย่าลืมนะติชมกันมาได้เต็มที่
เลิฟรีดเดอร์เสมอนะครัชชชชชชชช♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥
©Tenpoints!
ความคิดเห็น