ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    { fic exo } . lucky ( ラッキー ) .hunhan

    ลำดับตอนที่ #2 : ♔ LUCKY (ラッキー) : Chapter One

    • อัปเดตล่าสุด 16 ต.ค. 56


    Chapter One


     

     

                    เวลาผ่านไปเข้าวันที่สาม ที่ลู่หานต้องคอยดูแลเด็กน้อยอุนเซ จะถามว่าลำบากหรือเปล่า? เขาไม่ได้ลำบากเลย เพราะอุนเซไม่ดื้อ ไม่เพียงเท่านั้นอุนเซยังช่วยลู่หานทำความสะอาดบ้านอีกต่างหาก แต่ก็มีบางเวลาที่ลู่หานต้องออกไปทำงานที่ร้านอาหารจีน เขาจำเป็นต้องทิ้งอุนเซไว้ที่บ้านคนเดียว แม้จะเป็นแบบนั้นอุนเซก็ยังคงเป็นเด็กดีและไม่ทำให้ลู่หานเดือดร้อนเลยด้วยซ้ำไป

     

                    “พี่กลับมาแล้วครับ” ลู่หานพูดพร้อมกับปิดประตูบ้านและใส่กลอนอย่างดี ไม่นานนักเจ้าเด็กตัวน้อยก็วิ่งออกมาจากในห้องน้ำพร้อมกับช่วยลู่หานถือข้าวของที่พึ่งซื้อมา ส่วนมากจะเป็นของสำหรับทำอาหาร ก็เจ้าตัวเล็กนี่กินเก่งอย่างกับอะไรดีน่ะสิ

     

                    “โหวววววววววว พี่ลูลู่ซื้อของมาเยอะเลย วันนี้อุนเซจะได้กินอะไรน้าา”

     

                    “วันนี้พี่มีปลานะ อุนเซจะได้เรียนเก่งๆ ว่าแต่มาอยู่กับพี่แบบนี้ก็ขาดเรียนน่ะสิใช่มั้ย?” ลู่หานพูดพร้อมกับแกล้งทำหน้าดุใส่เด็กน้อย แต่เจ้าอุนเซตัวดีกลับไม่ได้มีท่าทางว่าจะกลัวเขาเลยสักนิด

     

                    “ป่าวนะฮะพี่ลูลู่ อุนเซปิดเทอมแล้วนะ สบายใจได้เยยยย ฮิๆ วันนี้อุนเซจะได้กินปลาด้วยนา ปกติอุนเซได้กินฟักทองกับมันฝรั่งทุกวันเลย”  เด็กน้อยพูดออกมาฉะฉานก่อนจะวิ่งเอาของที่ลู่หานซื้อมาเข้าไปวางในครัว ไม่ว่าโต๊ะจะสูงกว่าตัวเองสักเท่าไหร่ แต่เด็กก็มีเก้าอี้เป็นตัวช่วย ถึงตัวจะเล็กนิดเดียวแต่ความสามารถในการปีนป่ายของอุนเซ ลิงต้องเรียกพี่เลยเชียว

     

                    “อาพี่ขอโทษนะ พี่ไม่ค่อยมีเงินที่จะซื้อของแพงๆได้นี่นา” ลู่หานพูดหน้าเศร้า เพราะวันนี้เป็นวันที่เงินเดือนออก เขาก็แค่อยากซื้อของดีๆให้ตัวเองและอุนเซได้กินบ้าง งานเด็กเสิร์ฟที่ร้านอาหารจีนที่เขาทำอยู่ประจำนี่ก็ไม่ได้มากมายอะไร พอได้มาก็ต้องแบ่งเก็บเพื่อใช้เรียนต่อมหาลัย

     

                    “โอ๋น้า โอ๋น้า อุนเซไม่ได้ว่าอะไรสักหน่อย ถึงมันจะเป็นแค่มันฝรั่งกับฟักทองแต่พี่ลูลู่ก็ทำให้มันอร่อยมากกกกกๆๆๆๆๆเลยฮะ อุนเซชอบจะตายยไป” เด็กน้อยอุนเซกระโดดลงจากเก้าอีกแล้ววิ่งเข้ามากอดเอวลู่หานทันทีที่ได้ยินน้ำเสียงเศร้าๆ

     

                    “เจ้าเด็กน้อย มัวแต่ประจบอยู่นี่ ไปทำอาหารเย็นกันดีกว่า”

     

                    “ได้เลยฮะ พี่ลูลู่เชฟกระทะเหล็ก คิคิ”

     

                    ลู่หานยิ้มให้กับความน่ารักของอุนเซ ก่อนที่เขากับเด็กน้อยจะเข้าไปทำอาหารในครัว ณ เวลานี้ในบ้านหลังเล็กๆเต็มไปด้วยบรรยากาศที่สนุกสนานและอบอุ่น ทั้งเด็กทั้งผู้ใหญ่หัวเราะแข่งกันเสียงดัง นานเท่าไหร่แล้วที่ลู่หานไม่ได้หัวเราะแบบนี้ นานเท่าไหร่แล้วที่เขาไม่ได้สัมผัสกับบรรยากาศแบบนี้ มองอุนเซกี่ครั้งๆ ลู่หานก็พลอยนึกถึงตัวเองตอนที่ยังเป็นเด็ก เขาก็มีความสุขแบบนี้ ยิ้มได้แบบนี้ แต่ความ โชคร้ายดันมาพรากเอาความสุขและรอยยิ้มของเขาไป หลังจากที่พ่อแม่ของเขาประสบอุบัติเหตุเมื่อ 1 ปีก่อน

                    ลู่หานเป็นคนจีน และเกิดที่จีน ครอบครัวของเขาอยู่ที่ประเทศจีน เขาเป็นเด็กที่เกิดมาในครอบครัวที่ร่ำรวยและอบอุ่น ไม่แปลกเลยที่ใครจะบอกว่าเขาอ่อนโยน เพราะเขาถูกพ่อกับแม่เลี้ยงมาอย่างดีไม่มีบกพร่อง จนกระทั่งวันหนึ่ง บริษัทของพ่อเขาล้มละลาย พ่อกับแม่จึงได้ย้ายเขาให้มาอยู่ที่เกาหลีพร้อมกับใช้เงินก้อนสุดท้ายซื้อบ้านหลังเล็กนี้ให้เขา จนถึงตอนนี้ลู่หานเองก็ไม่เข้าใจว่าทำไมพ่อกับแม่ต้องให้เขาย้ายมาอยู่ที่นี่ ตอนที่พ่อกับแม่จะตามเขามาที่เกาหลี ท่านสองคนเกิดประสบอุบัติเหตุเสียก่อน ตอนนั้นลู่หานเศร้าและเสียใจ ร้องไห้จนไม่มีน้ำตาเหลือให้ไหลออกมาอีก เขาไม่เหลือใคร ไม่มีใครคอยช่วยเหลือ มีเพียงตัวเองเท่านั้น เขาต้องยอมดรอปเรียนมหาลัยและออกมาหางานทำ แต่การที่เขามีเพียงวุฒิจบมัธยมปลายก็ช่วยเขาได้ไม่มากเท่าไหร่ นับจากนั้นมาเขาก็คิดเสมอว่าเขาต้องทำงานเก็บเงินเพื่อให้ใช้เรียนต่อให้ได้

     

     

                    “โหว เผ็ดจางงงงงงงงงงงง” ลู่หานนั่งมองอุนเซที่เผ็ดน้ำหูน้ำตาไหลเพราะกินน้ำจิ้มรสจัดที่เขาทำไว้ให้ตัวเอง แต่เจ้าตัวเล็กนี่บอกว่าอยากลอง พอลู่หานไม่อนุญาตก็งอแงท่าเดียวจนลู่หานต้องใจอ่อน

     

                    “พี่บอกแล้วว่าอย่ากินน่ะอุนเซ ดื้อจริงๆเลย ขนาดพี่ยังไม่กินน้ำจิ้มเยอะเท่าที่อุนเซกินเลยนะ”

                    “ก็อุนเซอยากลองนี่ฮะพี่ลูลู่ ตอนอยู่บ้านคุณป้าแม่บ้านยองฮา ไม่ยอมให้อุนเซแตะของเผ็ดเยยย ง่ำๆๆๆ” ลู่หานมองเด็กน้อยที่กินอย่างเอร็ดอร่อย

     

                    คอยดูเถอะนะเจ้าเด็กน้อยอุนเซ เดี๋ยวคืนนี้ได้ปวดท้องแน่ๆ ดื้อไม่เข้าท่าจริงๆเลย บอกก็ไม่ฟัง พอไม่อนุญาตก็ชอบงอแงให้เราใจอ่อนซะงั้น

     

                    “แล้วเมื่อไหร่เราจะยอมกลับบ้านเนี่ยหื้มเจ้าตัวเล็ก?

     

                    “งา พี่ลูลู่จะไล่อุนเซแล้วหรอฮะ ไม่น้า ขออุนเซอยู่ต่ออีกสองสามวันได้ป่าวฮะ นะฮะ น้าๆ พี่ลูลู่คนฉวยยย” อุนเซพูดพร้อมกับทำตาแป๋วใส่ลู่หาน

                   

                    เอาอีกแล้วเจ้าเด็กตัวกระเปี๊ยกนี่ TT

     

                    “เห้อ ก็ได้ อ้อนเก่งจริงๆเลยนะเจ้าเด็กตัวดี”  ลู่หานพ่นลมหายใจออกมาก่อนจะก้มหน้าก้มตาทานข้าวต่อ ไม่ใช่อะไรหรอก เขาแค่กลัวว่าเขาอยู่กับเจ้าเด็กอุนเซจนชินแล้วจะไม่อยากให้เจ้าเด็กน้อยนี่กลับบ้านไปต่างหาก

     

     

    2:20 AM

                    ในห้องนอนสีอ่อนของลู่หานกลางดึก เขาค่อยๆลืมตาขึ้นเพราะรู้สึกเหมือนว่ามีคนคอยกระตุกดึงเสื้อเขาอยู่ตลอดเวลา ลู่หานหันไปมองนาฬิกาสีสดใสข้างเตียงบงบอกว่าเป็นเวลาตีสองกว่าๆ ใครกันที่จะมาปลุกเขาตอนนี้ ในใจคนตัวเล็กเริ่มคิดฟุ้งซ่านไปหมดว่าสิ่งที่รังควานเขาอยู่ตอนนี้อาจจะไม่ใช่คนก็ได้ ยิ่งคิดได้อย่างนั้น ลู่หานก็รีบดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมโปง คนตัวเล็กน่ะขี้กลัวยิ่งกว่าเด็กเสียอีก

     

                    “พี่ลูลู่ ฮึก พี่ลูลู่ฮะ อุนเซ ปวดปวดท้องมากเลยฮะ ฮือๆ” พอได้ยินเสียงงอแงที่คุ้นเคย ก็ทำเอาลู่หานรีบดีดตัวขึ้นนั่งก่อนจะหันมามองเด็กน้อยที่นั่งกุมท้องตัวเองอยู่บนที่นอน ใบหน้าของอุนเซเปื้อนไปด้วยน้ำตา

     

                    “อุนเซ ปวดมากหรือเปล่า? คงเพราะกินของเผ็ดเมื่อตอนเย็นแน่ๆ พี่บอกแล้วไม่ฟังกันเลย”

     

                    “โอ้ยย พี่ลูลู่อุนเซปวดมากเลยฮะ ไม่ไหวแล้วฮะ ฮึก โอ้ย” อุนเซเริ่มร้องไห้หนักกว่าเดิมทำเอาลู่หานไม่รู้จะทำยังไง คนตัวเล็กรีบลุกขึ้นจากที่นอนก่อนจะเดินไปที่ชั้นเก็บของ หายาที่พอจะช่วยอุนเซได้

     

                    ว่าแต่ให้กินยาซี้ซั้วอย่างนี้คงไม่ดีแน่เลย จะทำยังไงดีนะให้ตายสิ

     

                    “คิดสิลู่หาน คิดๆๆ” ไม่นานนักลู่หานก็ตัดสินใจที่จะพาอุนเซไปโรงพยาบาล เขารีบสวมเสื้อกันหนาวทับชุดนอนลายก้อนเมฆของเขา จะให้เปลี่ยนก็คงจะไม่ทันการณ์หรอก ลู่หานหยิบเสื้อกันหนาวตัวเล็กอีกตัวไปใส่ให้อุนเซที่กำลังนั่งกุมท้องอยู่บนเตียงก่อนจะอุ้มเด็กน้อยขึ้นมาแล้วรีบวิ่งออกไปนอกบ้าน เขาปลดล็อกจักรยานสีขาวของเขาก่อนจะให้อุนเซขึ้นไปนั่งซ้อนท้าย

     

                    “จับพี่ดีๆนะอุนเซ พี่จะซิ่งแล้ว”

     

                    “พี่ลูลู่ซิ่งเลยฮะ อุนเซต้องการหมอมากเลยฮะ งืออออ” เด็กน้อยพูดพร้อมกับกอดเอวลู่หานแน่น

     

    คนตัวเล็กออกแรงถีบจักรยานเท่าที่จะทำได้เพื่อให้ไปถึงโรงพยาบาลเร็วที่สุด เวลาผ่านไปไม่นานนักลู่หานก็ปั่นจักรยานมาถึงโรงพยาบาลจนได้ ลู่หานบอกอาการและสาเหตุของอุนเซให้พยาบาลฟังก่อนจะมีพยาบาลอีกคนพาอุนเซเข้าไปห้องฉุกเฉิน ลู่หานเลยทำได้แค่นั่งรออยู่ข้างนอก คนตัวเล็กอ้าปากหาวเบาๆเพราะความง่วง เขาเอนหัวพิงกับกำแพงก่อนจะหลับตาลง แต่ยังไม่ทันที่ลู่หานจะได้หลับสนิท เขาก็ต้องตื่นขึ้นมาเพราะเสียงคนเดินมาหยุดอยู่ที่หน้าห้องฉุกเฉินพร้อมกับกลิ่นหอมของน้ำหอมที่กลบกลิ่นโรงพยาบาลไปซะหมด

     

                    ลู่หานค่อยๆลืมตาขึ้นก่อนจะหันไปมองบุคคลที่พึ่งมาเยือน เขาขยี้ตาก่อนจะมองคนที่พึ่งมาใหม่อีกครั้ง เรือนผมสีทองที่ถูกเซ็ตให้ตั้งขึ้นเผยให้เห็นผมที่ถูกไถข้างออกไป ใบหน้าที่ดูสมบูรณ์แบบแต่ว่าเรียบเฉยกลับดูมีเสน่ห์มากเหลือเกิน ไหนจะการแต่งตัวที่ดูเท่ๆนั้นอีก แต่เอ๊ะนี่มันตีสองกว่าแล้วนี่ ทำไมถึงได้แต่งตัวซะเต็มยศขนาดนี้ ไม่เหมือนลู่หานเลยที่ลากสังขารมาพร้อมชุดนอน T_T

     

                    “ขอโทษนะครับ ใครเป็นญาติของ เด็กชาย โอ อุนเซครับ?” เสียงของคุณหมอที่เดินออกมาจากห้องฉุกเฉินทำให้ลู่หานกลับมามีสติอีกครั้งก่อนจะรีบลุกขึ้นเพื่อนแสดงตัว

     

                    “ผมครับ/ผมเองครับคุณหมอ” เสียงสองเสียงขานรับขึ้นพร้อมกัน ทำเอาลู่หานหันไปมองเจ้าของเรือนผมสีทองคนนั้น เขาเองก็หันมามองลู่หานไม่ต่างกัน ลู่หานทำหน้าเหวอใหญ่ ส่วนผู้ชายคนนั้นไม่ได้สนใจอะไรมากนักเขาหันกลับไปหาคุณหมออีกครั้ง

     

                    “ผมเป็นพี่ชายครับ ผมชื่อ โอ เซฮุน”

     

                    อะไรนะ!!!! โอ เซฮุน!!! ไอ้พี่ชายปากไม่ดีที่ด่าน้องน่ะหรอ -[]-!                                                

     

                    เซฮุนหันมามองลู่หานด้วยความสงสัยก่อนจะเดินเข้าไปคุยกับหมอ คนตัวเล็กก็เลยทำได้เพียงแค่ยืนมอง เพราะถ้าเข้าไปแทรกตอนนี้อาจจะโดนผู้ชายตรงหน้าด่ากลับมาก็ได้ ก็จะให้คนตัวเล็กคิดยังไงล่ะ ก็แม้แต่น้องชายที่เป็นเด็กขนาดนั้นหมอนี่ยังด่าซะยับขนาดนั้นเลย ถ้าเป็นคนตัวเล็กอาจจะโดนกินหัวเอาก็ได้ ลู่หานหันไปมองคุณหมอที่เดินกลับเข้าไปในห้องฉุกเฉิน เขายืนคิดอยู่สักพักว่าควรจะเข้าไปถามเซฮุนดีมั้ย? ว่าอาการของอุนเซเป็นยังไงบ้าง

     

                    ใจกล้าๆหน่อยลู่หาน แค่ถามอาการอุนเซเองนะ คงไม่เป็นอะไรหรอก ฟู่ววววว

     

                    คนตัวเล็กยืนทำใจอยู่สักพักก่อนจะเดินเข้าไปหาคนตัวสูงที่ยืนอยู่โดยไม่สนใจสิ่งรอบข้างเลย เหมือนว่าเซฮุนจะรู้สึกได้ถึงพลังงานความประหม่าของลู่หาน เขาหันไปมองคนตัวเล็กด้วยสีหน้านิ่งเฉย ทำเอาคนตัวเล็กทำหน้าเหลอหลาก่อนที่ลู่หานจะตัดสินใจถามออกไปอย่างกล้าๆกลัวๆ ก็จะให้ทำไงได้ที่ปากเก่งก่อนหน้านี้ เขาก็ไม่ได้คิดว่าคนตรงหน้าจะมีรัศมีความโหดแผ่ออกมาขนาดนี้นี่นา ดูหน้าเซฮุนเข้าสิ นิ่งไปไหน ( ; _ ; )

     

                    “เอ่อเซฮุนพี่ของอุนเซใช่มั้ย?

     

                    “เมื่อกี้ก็ได้ยินอยู่แล้ว จะถามทำไม”

     

                    “นี่นาย ฉันถามนายดีๆนะ” คนตัวเล็กเหมือนถูกเอาค้อนทุบหัวเพราะโดนสวนกลับซะไร้มารยาทขนาดนั้น ให้ตายสิทำไมถึงได้หล่อแต่หน้านะโอเซฮุน

     

                    “แล้วฉันตอบไม่ดีตรงไหน? ไอ้เด็กเวรนั่นไปอยู่กับนายสินะ”

     

                    “นี่ เรียกน้องชายให้ดีๆหน่อยได้มั้ย? อุนเซเป็นเด็กดีทำไมถึงได้มีพี่ชายแบบนี้นะ”

     

                    “ว่าไงนะ?” ทันทีที่ลู่หานพูดจบเซฮุนแทบจะพุ่งเข้ามาหาคนตัวเล็กอยู่แล้ว แต่เหมือนเขายังคุมตัวเองได้อยู่ถึงได้ทำแค่เพียงจ้องมองลู่หานด้วยสายตาที่น่ากลัวขนาดนั้น คนตัวเล็กรู้สึกตัวว่าจะไม่ปลอดภัยแน่

     

                    “ปะ เปล่านี่ แล้วอาการอุนเซเป็นยังไงบ้าง?” คนตัวเล็กรีบพูดเปลี่ยนเรื่อง เพื่อเบี่ยงเบนเซฮุนไม่ให้สามารถหาเรื่องตัวเองได้ จุดนี้ถ้าปกป้องตัวเองได้ก็ต้องเพื่อความอยู่รอด T T

     

                    “มันไม่ตายหรอก นี่เงินค่าดูแลเด็กนั่น อย่าเข้าใจผิด พ่อฉันสั่งมา” เซฮุนพูดพร้อมกับยื่นซองสีขาวให้กับลู่หาน คนตัวเล็กมองคนตรงหน้าอย่างไม่เชื่อสายตา

                   

                    “ฉันไม่ได้ต้องการเงินนะ”

     

                    “ไม่ต้องแสร้งทำเป็นคนดีหรอก รับๆไปสักที ” เซฮุนทำหน้าหงุดหงิด แต่ไม่ใช่แค่เซฮุนคนเดียวเพราะลู่หานเองก็หงุดหงิดไม่แพ้กันหรอกนะ

     

                    “นายเก็บไว้เถอะ ที่ฉันช่วยอุนเซเพราะว่าอยากช่วยจริงๆ ยิ่งรู้ว่ามีพี่ชายแย่ๆแบบนาย อุนเซยิ่งเป็นเด็กที่น่าสงสารเข้าไปใหญ่!

     

                    “อยากโดนดีใช่มั้ย!” เซฮุนพูดเสียงดังก่อนจะเดินเข้ามาจับแขนเล็กๆของลู่หาน ทำเอาคนตัวเล็กตกใจจนแทบทำอะไรไม่ถูก เขาเลยทำได้เพียงใช่มืออีกข้างจับแขนของเซฮุนไว้เพื่อลดแรงบีบของเซฮุน

     

                    “พี่ชายทำอะไรพี่ลูลู่ฮะ?” เสียงของอุนเซดังขึ้นพร้อมกับพยาบาลที่เข็นรถเข็นของอุนเซออกมา เซฮุนเห็นแบบนั้นถึงได้ยอมปล่อยมือจากลู่หาน โชคดีของคนตัวเล็กจริงๆที่อุนเซและนางพยาบาลออกมาช่วยชีวิตไว้ทัน เกือบซวยแล้วสิลู่หาน ใครจะไปรู้ว่าโอ เซฮุน จะใจร้อนได้ขนาดนี้

     

                    “กลับบ้าน ถ้าพ่อไม่บอกว่าจะยึดรถฉัน ฉันไม่มาหรอกปล่อยให้แกตายไปแล้ว”

     

                    “พี่ชาย” ทันทีที่อุนเซได้ยินแบบนั้น เด็กน้อยก็เรียกพี่ชายของตัวเองออกมาด้วยเสียงสั่นเครือ ลู่หานเห็นอย่างนั้นเลยเดินไปเข็นรถเข็นแทนคุณพยาบาล เขาก้มให้นางพยาบาลก่อนที่เธอจะเดินออกไปอย่างรู้ความว่าตอนนี้คงเป็นเรื่องส่วนตัวระหว่างพี่น้องตระกูลโอ

     

                    “อย่ามาสำออย ฉันรำคาญ!

     

                    “โอ เซฮุน! นายหยุดพูดแบบนั้นกับน้องชายนายสักที” ลู่หานโพร่งออกไปทันทีเมื่อเห็นอุนเซกำลังเบะปากจะร้องไห้ ขนาดลู่หานยังทนฟังคำพูดของคนตัวสูงไม่ได้เลย นับประสาอะไรกับเด็กที่ขึ้นชื่อว่าเป็นน้องชาย

     

                    “เสือกอะไรวะ!

     

                    พลั่ก!!

     

                    ลู่หานเดินเข้าไปก่อนจะผลักเซฮุนจนคนตัวสูงถึงกับเซ เขาหันมามองลู่หานอย่างเอาเรื่อง เซฮุนสวนหมัดกลับเข้าที่หน้าของลู่หาน คนตัวเล็กรู้สึกถึงคาวเลือดที่ซิบออกมากจากมุมปาก ดวงตาสวยร้อนผ่าวพร้อมกับม่านน้ำตาที่เริ่มก่อตัวแต่เขาไม่ยอมแพ้ เขาพยายามปัดป้องมือของเซฮุนที่พยายามจะจับตัวเขา มีแวบหนึ่งที่สายตาคนตัวสูงสบเข้ากับดวงตาของคนตัวเล็ก เขาชะงักไปเพียงครู่เดียวแต่ก็พยายามไม่สนใจคนตัวเล็ก

     

                    “พี่ชาย หยุดนะ หยุดเซ่ หยุดนะ อุนเซจะฟ้องคุณพ่อ!

     

                    “โถ่ เว้ย!

     

                    เซฮุนสบถออกมาพร้อมกับเด็กน้อยอุนเซที่รีบลงจากรถเข็นก่อนจะเดินเข้าไปเกาะเอวคนที่เป็นพี่ชายเพื่อไม่ให้เซฮุนทำอะไรพี่ลูลู่ของเขาได้ พอเซฮุนได้ยินแบบนั้น เขาถึงกับชะงักก่อนจะหันมามองน้องชายของตัวเองสลับกับลู่หาน เขาตัดสินใจปล่อยมือจากคนตัวเล็กก่อนจะกระชากแขนน้องชายตัวดีให้เดินตามเขาออกไป

     

                    “พี่ลูลู่ฮะ อย่างอแงน้า อุนเซจะกลับไปหาพี่ลูลู่แน่ๆ” เด็กน้อยอุนเซตะโกนเสียงดังทั้งที่ยังโดนพี่ชายตัวเองลากออกไปเอายาที่หมอสั่ง เด็กน้อยทำหน้าเศร้าที่เห็นพี่ลูลู่ของเขาน้ำตาคลอ ลู่หานทำได้เพียงยิ้มน้อยๆก่อนจะโบกมือให้เจ้าเด็กตัวน้อยก่อนที่เขาจะตัดสินใจกลับบ้าน

     

                    “ไม่เป็นไรนะลู่หาน ก็แค่คนนิสัยไม่ดี” คนตัวเล็กพูดกับตัวเอง ยอมรับเลยว่าเรื่องที่เกิดขึ้นยังทำให้ลู่หานกลัวไม่หาย เขาแค่ไม่คิดว่าเซฮุนจะเป็นคนที่น่ากลัวขนาดนั้น เรื่องแบบนี้ไม่เคยเกิดขึ้นกับเขา นี่เป็นครั้งแรกที่ที่เขาจะต้องจำไปอีกนาน

     

                    ลู่หานกลับมาถึงบ้านตอนตีสี่ เขายังคงนั่งอยู่บนเตียงนอน ในหัวของเขายังสงสัยและไม่เข้าใจ ว่าอะไรที่ทำให้เซฮุนเกลียดอุนเซนัก ทั้งๆที่อุนเซเป็นเด็กที่น่ารักและพูดรู้เรื่องขนาดนั้น มันดูไม่มีเหตุผลเลยจริงๆกับสิ่งที่โอเซฮุนทำกับน้องชายตัวเอง ไม่ใช่อะไรอุนเซเป็นเด็กที่น่ารักมาก แม้แต่ลู่หานที่เป็นคนอื่นยังเอ็นดูมากขนาดนี้ ทำไมนะโอ เซฮุน ทำไมนายถึงเป็นคนที่ใจร้ายแบบนี้นะ?

     

                    “เสี่ยวลู่หาน นี่คิดถึงหมอนั่นได้ยังไง บ้าจริงๆ” คนตัวเล็กทึ้งหัวตัวเองเบาๆก่อนจะล้มตัวลงนอน เพียงเวลาผ่านไปได้ไม่นาน ดวงตาที่หนักอึ้งกับร่างกายที่อ่อนล้าของลู่หานก็ทำให้เขาผลอยหลับไปโดยที่ยังไม่รู้ตัว

                    



     




    -----------------------------------------------------------------------------------------------------------------
        

    ใครไม่เม้นจะโดนสติชพี่ลู่ ใครเม้นเน่รักเน่หลง (สติชพี่ลู่น่ากลัวน้อยกว่าฮุนอีกนี่บอกเลย) -__-

     
    ตอนแรกมาแล้วนะ คือแบบมีต่อยกันด้วย เหมาะกับพี่ลู่คนแมน(?) 
    โอเซโผล่มาแล้ว โผล่มาซะหล่อกระชากใจพี่ลู่ซะด้วย -/-
    ยังไงก็ขอบคุณรีดเดอร์ทุกคนที่เป็นกำลังใจให้ไรท์นะ เลิฟเสมอนะรีดเดอร์ผู้น่ารักทุกคน
    อย่าลืมนะติชมเราได้เลย ตอนมันสั้นมันยาวไปก็บอกได้นะเออ บัยยส์



    © Tenpoints!
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×