ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [END]Bad Boy ถึงร้ายแค่ไหนฉันก็จะรัก

    ลำดับตอนที่ #5 : ✔แผนการ 2

    • อัปเดตล่าสุด 21 ก.ค. 65


     

     

     

    ตอนที่ 5...แผนการ 2

     

     

     

            “เป็นยังไงบ้างหวาน” เมย์ถามขึ้นทันทีที่เห็นฉันเดินมา เพราะตั้งแต่เกิดเรื่องฉันก็ไม่ได้คุยกับใครเลยนอกจากพี่ไม้คนเดียว

     

            “ไม่เป็นไรแล้วละ” ฉันส่ายหน้าเบาๆ ไม่อยากจะเอ่ยถึงเรื่องนั้นอีก ถึงแม้มันจะติดอยู่ในหัวสมองอยู่ทุกลมหายใจ

            “ฉันไปสั่งข้าวก่อนนะ” ฉันรีบเดินไปสั่งข้าวก่อนที่เมย์จะถามเยอะไปกว่านี้ บอกตรงๆ สถานะภาพฉัน ตอนนี้ย่ำแย่มาก ไม่อยากให้เพื่อนเห็นต้องมาเห็นฉันอ่อนแอ เพราะรู้ว่าเมย์กับธันวาเป็นห่วงฉันมากแค่ไหน

     

            “นี่เธอๆ คนนี้ใช่ป่ะ” คนข้างหน้าฉันชี้มือชี้ไม้มาที่ฉัน ฉันมองกลับอย่างงงๆแต่ก็ไม่ได้ว่าอะไร ทำเป็นไม่สนใจ แต่หูตั้งคอยฟังตลอดแหละ 

            “ข้างหลังฉันเนี้ย”

     

            “ใช่จริงๆด้วยแก คนอะไรไม่รู้เนอะ” อีกคนหนึ่งเริ่มพูดเสียงดัง ทำให้คนละแวกนั้นหันมามองเป็นตาเดียว ฉันเองที่ทำเป็นไม่สนใจก็อดที่จะหันไปมองด้วยไม่ได้

     

            “นั่นสิหน้าตาก็ดี ไม่น่าทำตัวแบบนี้เล้ยย~” นางลากเสียงยาว มองหน้าฉันอย่างเหยียดๆ

     

            “ใช่ๆ ทำให้คนที่เขารักกันต้องแยกทาง เพราะว่าความหวงไม่ใช่เรื่อง! ทั้งๆ ที่ไม่มีสิทธิ์!!" คนที่ยืนข้างหน้าฉันตะคอกใส่ฉันทันทีที่พูดจบ

     

            “นี่พวกเธอว่าใครไม่ทราบ” ฉันสวนกลับทันที เพราะคงอยู่นิ่งอยู่ต่อไปไม่ได้แล้ว

     

            “โอ้ย~ ตายแล้ว~~~” คนที่ยืนถัดไปเดินลอยหน้าลอยตามายืนข้างฉัน

            “ทำไงดีล่ะมินนี่ นางไม่รู้ตัวเองเลยอ่ะ” พูดจบก็เอามือมาจับคางพร้อมกับยิ้มเหยียดส่งมาให้อีก ฉันสะบัดออกแล้วมองสองคนนั้นตาขวาง แต่นางทั้งสองไม่มีทีท่าว่าจะสะทกสะท้านเลยสักนิด

     

            “งั้นเดี๋ยวฉันจะเตือนความจำให้นางเองแล้วกันนะ ลูกหมี” คนที่ชื่อลูกหมีอะไรนั่นเอานิ้วจิ้มหน้าผากแล้วผลักฉันออกก่อนที่เธอจะเดินออกไปจากตรงนี้เล็กน้อย

            “ขอโทษนะทุกๆ คน ใครที่ไม่เคยเห็นผู้หญิงที่ไม่มียางอายบ้างค่ะ มาทางนี้เลยค่า~~~” เสียงตะโกนดังขึ้น ทำให้ผู้คนที่อยู่ในโรงอาหารพากันแห่มาดูเกือบทั้งหมด

     

            “ใช่เลยค่ะ ผู้หญิงไม่มียางอายคนนี้นะค่ะ” เธออีกคนพูดจบก็ผลักฉันล้มลงไปกองกับพื้นตรงกลางที่ผู้คนล้อมอยู่

            “นางไปยุยงให้คนที่เป็นแฟนกันให้เขาต้องเลิกรา ด้วยสาเหตุที่แสนจะงี่เง่า ว่านางท้องกับผู้ชายคนนั้นค่ะ ทั้งๆ ที่เรื่องทั้งหมดเป็นเพียงแค่สิ่งที่นางคนนี้กุขึ้น"

     

            ฉันไม่โต้ตอบอะไรทั้งนั้นได้แต่นั่งนิ่งให้คนนับสิบๆคนมองฉันอย่างเยียดหยาม น้ำตาที่เริ่มเออคลอก็ค่อยๆ ไหลออกมาท่ามกลางความน่าสมเพชของเหล่าไทยมุง เมย์กับธันวาวิ่งฝ่าเข้ามาเห็นฉันนั่งร้องไห้อยู่ในวงล้อมของผู้คนก็รีบเข้ามาประคองให้ฉันลุกขึ้น

     

            “นี่มันเกิดเรื่องอะไรขึ้น หวาน” ธันวาถามขึ้นทันทีที่เห็นสภาพฉัน ก่อนจะมองไปรอบๆ อย่างเคืองๆ

     

            ฉันไม่รู้จะตอบเพื่อนยังไงได้แต่นั่งร้องไห้เงียบๆไม่ได้ลุกหนีไปไหน ทำให้เมย์โมโหขึ้นมาทันที หันไปมองผู้คนรอบๆ ด้วยสายตาที่แข็งกร้าวกว่าปกติอย่างไม่เกรงกลัว

     

            “หมาตัวไหนมันทำเพื่อนกูร้องไห้ห๊ะ!” เมย์ตะโกนลั่นด้วยความโกรธ จนทุกคนตะลึงมองใบหน้าหวานที่ไม่น่าจะใช้คำพูดกูมึงอย่างหวาดๆ ก่อนที่จะพากันสลายตัวไปกันคนละทิศละทางจนหมด ยกเว้นสองคนที่ต้องการจะประจานฉันเท่านั้นที่ยังยืนอยู่ไม่ห่าง

     

            “ทำไมเธอไม่บอกเพื่อนเธอละ ว่าที่ทุกคนรู้ ที่ทุกคนได้ยินน่ะ เธอทำมันจริงๆ ใช่มั้ยลูกหมี" ผู้หญิงหนึ่งในสองพูดขึ้น

     

     

            ...พรึ่บ!!!...

     

     

            ฉันยกมือขึ้นปิดหูตัวเองทันทีเพื่อไม่ต้องการที่จะได้ยิน ฉันไม่อยากรับรู้เรื่องนี้อีกแล้ว เพราะมันทำให้ฉันเห็นแต่ใบหน้าของพี่บูมที่พร่ำบอกว่าเกลียดฉันดังก้องอยู่ในหู ฉันเจ็บ เจ็บมากจริงๆ

     

            “หวาน!!!” เสียงเมย์ กับธันวาร้องขึ้นด้วยความตกใจ

     

            “มันคงต้องมีเรื่องเข้าใจผิดกันแล้วล่ะครับ” สิงหาที่มาจากไหนไม่รู้เข้ามาช่วยประคองฉันอีกแรง

     

            “จะเข้าใจผิดอะไรตรงไหน ขนาดยัยนี้ยังไม่ปฏิเสธเลยนะ!! จริงมั้ยมินนี่”

     

            “ใช่!”

     

            “แมร่ง! นี่ถ้าไม่เห็นเป็นผู้หญิงโดนต่อยคว่ำไปแล้ว” ธันวาสบถออกมาอยากหัวเสีย สายตามองไปที่ผู้หญิงสองคนนั้นราวกับจะจับกิน ในแง่ที่คนละอย่างกับที่มันกินทุกวันน่ะนะ

     

            “ที่น้ำหวานไม่ปฏิเสธเพราะเขารู้ไงครับว่ามันไม่ใช่เรื่องจริง แล้วถ้าคุณบอกว่าไอ้ที่เล่ามามันเป็นจริงผมขอดูหลักฐานหน่อยได้มั้ยครับ ถ้าพวกคุณไม่มีผมว่าคงตรงไปโรงพักกันนะครับ” สิงหาพยายามช่วยฉันทุกอย่าง คืออยากจะบอกเขาจังเลยว่าที่ยัยกินขี้กับลูกหมาพูดน่ะมันถูกแล้ว แต่ฉันไม่มีแรงแค่จะปาดน้ำตาทิ้งมันยังยากลำบากมากสำหรับฉันในตอนนี้เลย

     

            “พอเถอะคุณ เราไปกันดีกว่านะ ยัยกินขี้...” เมย์พูดขึ้นเพราะอยากจะพาฉันออกไปจากตรงนี้ให้เร็วที่สุด แต่ก็ยังไม่วายแขวะ

     

            “มินนี่ย่ะ! เรียกให้มันถูกๆด้วย!!” เสียงแหลมสวนกลับทันควัน

     

            “เออๆ นั่นแหละ กับยัยลูกหมา...”

     

            “ลูกหมี!!!”

     

            “นั่นแหละ! หน้าถอดสีกันหมดแล้ว” เมย์พาฉันออกมาจากตรงนั้น พร้อมกับสิงหาและธันวา

     

            “ที่จริงน้ำหวานน่าจะเอาเรื่องทั้งสองนั่นนะ” สิงหาพูดขึ้น เมื่อออกมาได้ไกลแล้ว

     

            “นั่นสิหวานถึงมันจะจริงหรือไม่จริงยังไงพวกนั้นก็ไม่ควรเอาเราไปประจานแบบนี้ป่ะ” ธันวาผสมโรง แต่ฉันสายหน้าไปมาเบาๆ ทำให้เมย์ถอนหายใจอย่างเซ็งๆ

     

            “จะเอาเรื่องยังไงล่ะค่ะ ในเมื่อสิ่งที่สองคนนั้นพูดเนี้ย...” ฉันพูดขึ้นเสียงอ่อยๆ หลังจากคลายสะอื้น

            “มันเป็นเรื่องจริงนี่” ฉันพูดเสียงเบาแทบจะไม่มีใครได้ยิน แต่ทุกคนกลับได้ยินกันชัดเจน แต่สิงหาไม่ปฏิกิริยาใดๆ ว่าจะตกใจสักนิด จนฉันแปลกใจ

            “ทำไมไม่ตกใจเลยล่ะสิงหา” ฉันถามออกมาตรงๆ ด้วยความข้องใจ

     

            “ผมไม่แปลกใจหรอกครับ ผมรู้เรื่องหมดแล้ว” เขาพูดบอก ก่อนจะรีบเดินหนีไป

     

            “เดี๋ยว! สิงหา นายรู้เรื่องนี้ได้ยังไง กลับมาตอบก่อน” ฉันตะโกนถาม แต่สิงหาไม่คิดที่จะหันกลับมา กลับรีบเดินจากไปด้วยเสียด้วยซ้ำ เขารู้ได้ยังไงนะ เมย์กับธันวาก็หันมามองหน้ากันอย่างงงๆ แต่ก็ไม่พูดอะไร

      

     

            อีกมุมตึกฝั่งตรงข้ามกลับโรงอาหารที่มีเรื่องกันเมื่อสักครู่นั้น สองสาวหน้าตาดีสองคนมายืนหลบอยู่ที่ซอกตึก ไม่นานก็มีชายร่างกายสูงโปร่งเดินเข้าพร้อมกับซองสีน้ำตาล

     

            “ทำงานได้ดีนะ อ่ะเอาไปค่าเหนื่อยของพวกเธอ” ชายคนนั้นยืนซองสีน้ำตาลให้กับสองสาว

     

            “ไม่เป็นไรค่ะพี่ มีงานแบบนี้อีกบอกหนูสองคนได้เลยนะ” มินนี่ยืนมือออกมารับ ดวงตาวาวระยับเมื่อมองซองสีน้ำตาลนั่น

     

            “ใช่พี่ แต่พี่ไม่ต้องพูดถึงขนาดขึ้นโรงพักก็ได้นะ พวกหนูกลัวหมด” ลูกหมีเสริมขึ้นหน้างอเง้า สำหรับคนอื่นอาจจะมองมาน่ารักแต่สำหรับเขาแล้วมันไม่ใช่

     

            “พวกเธอไปได้แล้ว” ชายคนนั้นพูดเสียงเรียบ

     

            “งั้นพวกหนูลานะค่ะ” สองสาวเดินออกไปหน้าตาชื่นมื่น หัวเราะกันอย่างสบายอารมณ์

     

            “หวังว่าเธอคงจะจำนะแล้วเลิกยุ่งกับมันนะ น้ำหวาน” ชายคนนั้นถอนหายใจเบาๆ ก่อนจะเดินออกไปจากตรงนั้นด้วยสีหน้าแววตาเศร้าสร้อย

     

     

            ฉันเดินลงมาจากตึกเรียนหลังจากหมดวิชาเรียนตอนบ่าย โดยที่พยายามจะไม่สนใจสายตาที่มองมาที่ฉันมากจนผิดปกติ เพราะรู้อยู่แล้วว่ามันคือเรื่องอะไร

     

            “หวานวันนี้ไปกินหมูกะทะกันมั้ย แก้เบื่อไง” ธันวาเอ่ยชวน แต่เน้นคำสุดท้ายแล้วหันไปหาเมย์

     

            “ฉันเห็นด้วยกับคำว่าแก้เบื่อของแกนะ แต่ไม่เข้าใจว่าทำไมต้องหันมาทางฉันด้วย มันหมายความว่าไงว่ะ” เมย์แวดใส่ทันควัน

     

            “ก็~ ไม่รู้สินะ ฮ่าๆ” ธันวาบอกอย่างไม่สะทกสะท้าน

     

            “ไอ้ธัน! กวนตีนหรอห๊ะ!” เมย์เดินมาใกล้ธันวาหมายจะเตะ ธันวารีบมาหลบหลังฉันทันที

     

            “เตะให้ได้ดีว้า~~” ธันวาแลบลิ้นล้อเลียนที่เมย์เตะไม่โดน

     

            “พอเลยๆ ทั้งคู่อ่ะ” ฉันห้ามทัพทั้งสองก่อนที่ฉันจะโดนลูกหลงไปด้วย

     

            “ว่าแต่ไปกินหมูกะทะกันก็ดีนะ ไม่ได้กินนานล่ะ” ฉันบอกตอบธันวา ที่กำลังแยกเขี้ยวใช้สายตาฟาดฟันกันอยู่กับเมย์

     

            “ฉันไม่ไป!” เมย์พูดเสียงติดงอนๆ ก่อนจะรีบเดินไปทันที

     

            “อ่าวธัน ง้อเลยๆ ความผิดแก” ฉันโบยหน้าไปที่เมย์ที่ตอนนี้หน้าตาบึ้งตึง

     

            “เกี่ยวไร ใครไม่ไปก็ไม่ต้องไปสิ” ธันวาบอกอย่างไม่สนใจ

     

            “อ่าว~ ก็ถ้าเมย์ไม่ไปหวานก็ไม่ไปเหมือนกันนะ” ธันวายกมือขึ้นมาตบหน้าผากตัวเองเบาๆ ทันทีก่อนจะเดินไปง้อเมย์ ช่วงเวลาแค่เพียงแปบเดี๋ยวทั้งคู่ก็เดินกอดคอกันกลมตรงมาหาฉัน

     

            “ไปกันได้ยัง หิวแล้วอ่ะ” เมย์พูดขึ้นทันที ทำให้ฉันส่ายหน้าไปมาอย่างเอือมๆ

     

            “ไหนเมื่อกี้บอกไม่ไปไงล่ะจ๊ะ” ฉันแขวะออกมาตรงๆ แต่เมย์ทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้

     

            “ใครพูดไม่มี้~~” เมย์ว่าเสียงสูง

     

            “หรา~~~~~~~” ฉันกับธันวาร้องออกมาพร้อมกัน

     

            “เดี๋ยวโทรรายงานพี่ไม้ก่อนนะ” ฉันหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา ก่อนจะกดโทรออกทันที

     

            (“ว่าไงยัยหวาน นี่ถ้ามันไม่จำเป็นนะฉันฆ่าแกแน่!”) เสียงปลายสายรับอย่างไม่สบอารมณ์

     

            “หวานจะโทรมาขออนุญาตพี่ไม่ไปกินหมูกระทะกับ ธันและเมย์อ่ะ”

     

            (“จะไปก็ไป จะกลับตอนไหนก็โทรบอกล่ะกันเดี๋ยวไปรับ”)

     

            “ได้จ๊ะ ว่าแต่พี่ไม้ไปด้วยกันมั้ย”

     

            (“แค่นี้นะเรียนอยู่ ตี๊ด”) ให้มันได้อย่างนี้สิพี่ชายฉัน คิดจะวางก็วาง คิดจะโทรก็โทร เฮ้ยยยยย อย่าให้หวานเจอนะเดี๋ยวปัดเตะหัวหลุด ก็ได้แค่คิดล่ะว้า~~

     

            “ไปกันเหอะ” ฉันเก็บโทรศัพท์แล้วเดินกอดคอเพื่อนทั้งสองออกไป

     

     

     

    ............................................................TBC.

     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×