ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [END]Bad Boy ถึงร้ายแค่ไหนฉันก็จะรัก

    ลำดับตอนที่ #3 : ✔ครอบครัวที่อบอุ่น

    • อัปเดตล่าสุด 20 ก.ค. 65


     


     

     

    ตอนที่ 3...ครอบครัวที่อบอุ่น

     

     

     

           “น้ำหวาน! นั้นแขนคุณไปโดนอะไรมา!!” ดวงตารีเบิกกว้างทันทีที่เห็นรอยช้ำอันแสนน่ากลัวนั้นบนแขนขาวๆ ของฉัน

     

            “ไม่เป็นอะไรหรอก ยังไงก็ขอตัวก่อนนะ” ฉันดึงแขนตัวเองออกจากการจับกุมของสิงหา แล้วรีบเดินเข้าห้องพยาบาลไปทันที 

     

            หลังจากให้พยาบาลช่วยทายาเสร็จแล้ว ฉันก็เดินออกมาจากห้อง แต่พอออกมาก็พบเข้ากับสิงหาที่ยังนั่งอยู่ตรงเก้าอี้หน้าระเบียง ฉันเห็นดังนั้นก็เลยรีบก้มหน้าเดินต่อ

     

            “น้ำหวาน”

     

            “อะ...อ่าว สิงหายังอยู่อีกหรอ” ฉันยิ้มเจื่อนๆ อุตส่าห์ทำเป็นไม่เห็นเเล้วเชียว

     

            “คือว่าผม~...” สิงหาพูดเว้นไป

     

            “หืม?” ฉันทวนซ้ำอย่างสงสัย

     

            “ผมอยากชวนน้ำหวาน...ปะ...ไปกินข้าวน่ะครับ” เขาพูดออกมา

     

            “..........” O_O?

     

            “คือผมอยากจะเลี้ยงข้าวที่หวานช่วยพาผมมาที่ห้องพยาบาลน่ะครับ” สิงหารีบพูดต่อทันทีที่เห็นสีหน้าฉัน

     

            “อ๋อ~ เรื่องแค่นี้เอง ไม่เป็นไรหรอกหวานไม่ถือ ไม่ต้องเลี้ยงก็ได้” ฉันยิ้มแกลมหัวเราะกับท่าทีของเขา

     

            “ให้ผมเลี้ยงน้ำหวานเถอะครับ...นะ”สิงหาออกเสียงออดอ้อน

            “ผมนายสิงหาขอรับประกันว่าจะตามใจน้ำหวานทุกอย่างเลยครับผม ไปนะครับ” สิงหายืนตัวตรง คล้ายทหาร พูดจาหนักแน่น จนทำให้ฉันต้องพยักหน้ารับ

     

            “ก็ได้ค่ะ แต่เอาไว้วันหลังได้มั้ย คือหวานต้องรีบไปเรียนน่ะ” ฉันบอกกลับ

     

            “ได้ครับผม” สิงหาฉีกยิ้มกว้าง

     

            “งั้นผมขอเบอร์ หรือไลน์ไว้ติดต่อได้มั้ย จะได้นัดถูกเวลา” ฉันพยักหน้าเข้าใจ แล้วแลกไลน์กับเขาไว้ แล้วรีบเดินไปที่ตึกเรียนซึ่งเมย์กันธันวามารออยู่ก่อนหน้าแล้ว

     

            หลังจากเรียนเสร็จแล้ว พวกเราสามคนก็พากันมานั่งกันที่ม้าหินโต๊ะประจำ ฉันเล่าเรื่องสิงหาให้พวกนั้นฟัง โดยไม่ได้บอกเรื่องที่ไปเจอพี่บูมมา และคงจะเป็นโชคช่วยด้วยที่สิงหาเอาเสื้อนอกของเขามาให้ฉันใส่เอาไว้ปิดรอยช้ำที่ต้นแขน ทำให้เมย์กับธันวาไม่ทันสังเกตเห็นเรื่องนี้จะไม่ได้ถึงหูพี่ไม้ มันดีก็ตรงนี้แหละ คิกๆ

     

            “นี่หวานฉันขอดูขอดูรูปนายสิงหาอะไรนั่นของแกหน่อยสิ อยากรู้ว่าจะหล่อรึเปล่า” เมย์พูดจบก็หยิบโทรศัพท์จากมือฉันไปเปิดดูเอง ไม่นานใบหน้าที่ออกแนวทะเล้นๆหน่อยๆก็อ้าปากค้าง ดวงตากลมโตเบิกกว้าง ก่อนที่เจ้าตัวจะยกมือบางมาปิดปากตัวเองแล้วเงยหน้าขึ้นมามองฉัน

     

            “เป็นอะไรไปเมย์ เมย์!” ฉันเขย่าตัวเพื่อนแรงๆ เพราะดูเหมือนเมย์จะสติหลุดไปแล้ว

     

            “หล่อมากแก!!”  เมย์ตะโกนออกมาเสียงดังลั่น จนฉันรีบตะครุบปากเมย์ทันที

     

            “โอ้ยยย!!! แกเป็นอะไรเนี้ยจะตะโกนเพื่อ?” ฉันโวยวายใส่ ก่อนจะดึงมือของตัวเองออก

     

            “อุ๊บส์ ขอโทษที” เมย์ยิ้มเหยๆ ทำให้ฉันถึงกับส่ายหน้าอย่างเอือมระอา

     

            “แล้วตกลงเป็นอะไร” ธันวาที่กำลังคุยแชทกับสาวๆอยู่หันมาถามบ้าง

     

            “ก็นายสิงหาอะไรของไอ้หวานเนื่ย หล่อโคตรๆ เลย สเป็คฉันเลยอ่า~~” เมย์ตอบอย่างเพ้อๆ

     

            “ไหนเอามาดูบ้างดิ๊” ธันวาวางโทรศัพท์ของตัวเองแล้วคว้าเอาโทรศัพท์จากที่มือเมย์ไปแทน แล้วก็เริ่มมีอาการเดียวกัน

     

            “พอได้แล้วพวกแก ฉันว่าหน้าตาเขาก็เฉยๆนะ ไม่ได้หล่ออะไรมากขนาดนั้น พวกแกก็ตื่นตูมกันไปได้” ฉันเก็บโทรศัพท์เข้ากระเป๋าทันที อย่างไม่ใส่ใจ

     

            “เนี้ยนะไม่หล่อหวาน!!! ฉันว่าแกควรไปเช็คสายตาด่วนๆเลยแหละ” เมย์ว่าฉันกลับแทบจะทันทีที่ฉันไม่ได้สนใจ

     

            “รอบนี้ฉันเห็นด้วยกับเมย์นะ แกควรไปหาหมอเช็คสายตาด่วนเลยว่ะ” ธันวาเสริมพร้อมกับกดโทรศัพท์ยิกๆ

     

            “ฉันไม่ไป! เอาเป็นว่าถึงเขาจะหล่อหรือไม่หล่อฉันก็ไม่สนจบป่ะ ฉันกลับบ้านล่ะ บ่าย~” ฉันลุกขึ้น ไม่สนใจเสียงโวยวายของเมย์ที่ไล่หลังมา แล้วเดินตรงไปหาพี่ไม้ที่ลานจอดรถทันที

     

            “ป่ะกลับบ้านกัน” พี่ไม้บอกเมื่อเดินมาถึงที่รถพร้อมฉัน

     

            “อืม” ฉันตอบรับในลำคอ แล้วเดินเชิดหน้าเข้าไปนั่งในรถ ก่อนจะปิดประตูเสียงดังด้วยความหงุดหงิด

     

            “เห้ยๆ แกไปกินรังแตนจากไหนมา หน้าถึงได้ยับขนาดนี้เนี้ย!” พี่ไม้งงที่เห็นหน้าตาฉันบ่งบอกไม่รับบุญกุศล

     

            “บนหัวพี่มั้ง” ฉันตอบส่งๆอย่างไม่ใส่ใจ

     

            “อ่าวๆ ให้มันน้อยๆ หน่อยนี่ฉันเป็นพี่แกนะไอ้หวานเผื่อแกจะลืม ไอ้นี่หงุดหงิดแล้วพาล เดียวปัดโบกเลย" พี่ไม้ยกมือขึ้นมาเหมือนจะโบก แต่ก็ทำแค่ไปเพื่อขู่ฉันเท่านั้น

     

            “พี่ไม้ หวานจะกลับบ้าน” ฉันบอกอย่างไม่สบอารมณ์

     

            “เออๆ” พี่ไม้หน้างอ งอนฉันแทนทันที

     

            “โอ๋ๆ นิ่งเตะๆ นะ” ฉันหัวเราะออกมาเบาๆอารมณ์หงุดหงิดเมื่อกี้หายไปในพริบตา

     

            “ไม่ต้องเลย ไม่ต้องมายุ่งเลย เหอะ” พี่ไม้สะบัดหน้าหนี

     

            “โอ๋ๆ เดี๋ยวพรุ่งนี้หวานเลี้ยงไอติมเนอะ” ฉันทำหน้าล้อๆ

     

            “ไอ้หวาน นี่ฉันพี่แกนะ”

     

            “ก็เห็นอยู่ ว่าพี่ไม้เป็นพี่หวาน ไม่ได้บอกว่าไม่ใช่นี่น่า”

     

            “เหอะ คอยดูนะกลับบ้านไปเมื่อไหร่ ฉันจะบอกแม่ว่าแกขึ้นเสียงใส่ฉัน ไอ้น้องนิสัยเสีย” พี่ไม้ขู่ฉัน ก่อนจะออกรถเคลื่อนตัวไปในทิศทางที่คุ้นตา

     

            “ขี่ม้าสามศอกไปบอกเลย หวานไม่กลัวหรอก แบร่!” ฉันแลบลิ้นใส่

     

            ตลอดทางฉันกับพี่ไม้ก็โต้เถียงกันไม่หยุด ถึงขนาดเดินเข้าบ้านมาก็ยังไม่จบสิ้นสงคราม ทำให้แม่ได้ยินและก็โดนเอ็ดกันทั้งคู่ แต่ใช่ว่าจะยอมซะเมื่อไหร่ในเมื่อพูดไม่ได้เราก็ยังใช้สายตาฟาดฟันกันได้อยู่

     

            “แม่ก็ดูน้องดิ วันนี้น้องมาตะคอกใส่ไม้ด้วยนะ ไม้ไม่ยอมนะ แม่จัดการเลย” พี่ไม้ได้ทีฟ้องแม่ก่อน หลังจากที่จ้องตากันได้สักพัก

     

            “ไงเรามีอะไรจะแก้ตัวมั้ย” แม่หันมาถามฉันยิ้มๆ ไม่ได้อะไรมาก เพราะรู้อยู่แล้วว่าเราสองคนแค่แกล้งหยอกล้อกันเท่านั้น

     

            “หวานแค่แกล้งพี่ไม้เล่นเฉยๆเองนะแม่ พี่ไม้นั่นแหละงอนเอง หวานไม่เกี่ยวเลย” ฉันรีบเข้าไปกอดแม่อย่างอ้อนๆ

     

            “แม่อย่าไปเชื่อน้องมันนะ ไม้ไม่ได้งอนสักหน่อย” พี่ไม้มาจับตัวฉันออกแล้วกอดแม่แทนที่ฉันทันที

     

            “พอเลยๆ ทั้งคู่ ทะเลาะกันเป็นเด็กๆไปได้” แม่สายหน้าอย่างเอือมระอา

     

            “ไม้มานี่ มาช่วยพ่อทำงาน เดี๋ยวนี้หัดงอนเป็นตุ๊ดเหรอห๊ะ” พ่อพูดเสียงดุๆ

     

            “โธ่พ่อ ผมไม่ได้ทำอย่างที่น้องกล่าวหาสักหน่อย ทำไมไม่มีใครเชื่อไม้เลย” พี่ไม้ทำหน้าบึ้งตึงเดินปึงปังไปหาพ่อทันที

     

            “ดูมันๆ นี่นะบอกไม้ได้ทำ” พ่อแซว ทำให้พี่ไม้หน้าบึ้งเข้าไปอีก จนฉันหัวเราะร่วนกับท่าทางของพี่ชาย

     

            “เราก็เหมือนกันน้ำหวาน ไปช่วยเกสรล้างผักเลยไป จะได้ไม่ตีกันอีก พอกันทั้งคู่เลยให้ตายสิ” แม่หันมาดุฉันบ้าง ก่อนที่จะหัวเราะออกมาเบาๆ

     

            ฉันมายืนล้างผักกับเกสรตามที่แม่สั่ง พอได้เวลาแม่ก็เข้ามารับช่วงต่อ เพื่อเริ่มทำอาหารให้ทุกคนกินกัน โดยที่วันนี้มีฉันและก็เกสรคอยเป็นลูกมือหยิบจับอุปกรณ์ หรือทำอะไรง่ายๆ เพราะฉันไม่ค่อยถนัดเรื่องในครัวมากนัก แต่ก็ใช่ว่าจะทำไม่เป็น ส่วนมากฉันจะขี้เกียจทำซะมากกว่า 

     

            หลังจากทำอาหารเสร็จ ฉันกับเกสรก็ทยอยยกออกมาจัดเรียงที่โต๊ะ พอครบแล้วฉันก็ใช้ให้เกสรไปตามพ่อกับพี่ไม้ ทุกวันพวกเราก็จะมานั่งกินข้าวพร้อมกัน เฮฮาไปกับเรื่องนั้นเรื่องนี้เรื่อยเปื่อย จนฉันนึกไม่ออกเลยว่าถ้าวันหนึ่งถ้าเราไม่ได้อยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตาแบบนี้ฉันยังจะมีความสุขอีกรึป่าว

     

     

     

    .....................................................................................TBC.

     

     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×