คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : เริ่มต้น
ตอนที่ 1...เริ่มต้น
“กรี๊ดด~~~~...กรี๊ดด~~~~”
เสียงกรี๊ดดังขึ้นกันอย่างต่อเนื่องในบริเวณสนามบาสเก็ตบอล ซึ่งตอนนี้ได้มีการแข่งขันกีฬาภายในรั้วมหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่ง
ชายหนุ่มหน้าตาเกลี้ยงเกลา ผมสีบอล สูง 180 ปลายๆ กำลังเดาะลูกบาสในท่าทางที่สามารถทำให้สาวๆที่เข้ามาเชียร์ต่างพากันลมจับ เพราะความเขาดูโดดเด่น สง่า หล่อ เก่ง และเขาก็ยังเป็นคนเดียวที่ชู๊ดบาสเกือบทั้งหมดให้กับทีมเขาเอง ในบรรดาสาวๆที่หลงใหลได้ปลื้มเหล่านั้นก็มีฉันด้วย
ฉันชื่อน้ำหวาน หน้าตาดี หุ่นเป๊ะ ผมยาวดำ และที่สำคัญฉันชอบเขามากขนาดอยากให้เขาเป็นพ่อของลูกเลยทีเดียว เขาเป็นพี่รหัสฉันเอง ชื่อบูม แต่ทำไมไม่รู้พี่บูมถึงไม่ชอบฉัน แต่ก็เถอะฉันยึดแค่ว่า ตื้อเท่านั้นที่ครองโลก กับ ด้านได้อายอดครับผม ฮี่ๆ
และวันนี้ฉันก็วางแผนเข้าใกล้พี่บูมอีกแล้วแหละ แต่ฉันต้องรอเกมจบก่อน ฉันถึงจะเริ่มแผนการที่วางไว้ได้ อดใจรอไม่ไหวแล้วสิ ฮิฮิ
“เมย์ ธันวาเดี๋ยวเลิกการแข่งขันแกสองคนไปซื้อน้ำกับฉันก่อนนะ” ฉันหันไปตะโกนคุยกับเพื่อน
“แกหิวน้ำหรอ? ไปตอนนี้เลยม่ะ ฉันไปเป็นเพื่อน” เมย์พูดจบก็ลุกขึ้นแต่ฉันจับแขนไว้ก่อน
“ไม่!! แกไม่เห็นหรอว่าพี่บูมยังแข่งอยู่”
“ก็เห็น” เมย์ตอบงงๆ
“เห็น! แล้วจะให้ฉันไปได้ยังไง พี่บูมเขารอกำลังใจจากฉันอยู่นะ ถ้าเขาไม่เห็นฉันหน้าฉันสักนาทีเนี้ย พี่บูมเขาต้องชู้ดบาสไม่ได้แน่เลย T_T เพราะฉะนั้นฉันต้องอยู่ เรื่องซื้อน้ำเอาไว้เลิกแข่งขันแล้วค่อยไปซื้อ!” ฉันพูดจบก็หันไปมองพี่บูมต่อ
เมย์ถึงกับอ้าปากค้างกับเหตุผลที่โคตรไม่เป็นจริงของฉัน เพราะถ้าเอาจริงๆแล้วมันกลับกันทุกอย่าง เวลาที่พี่บูมหันมาเจอฉันที่ไรเขาพลาดทุกที แต่ช่างเหอะก็คนมันรักให้ทำไงได้ล่ะ คอยดูนะถ้าพี่บูมเผลอฉันจะจับรวบหัวรวบหางซะเลยจะได้หมดปัญหา คนอะไรยิ่งมองยิ่งน่าฟัด
“น่ารักอ่ะ กรี๊ดดดดด”
“ตื่นยังอ่ะหวาน ฝันกลางวันนานไปนะ ฮ่าๆๆๆ” ธันวาเอานิ้วมาจิ้มที่หน้าผากแล้วผลักออก จนฉันเกือบหน้าหงาย
“ชิ!! ไอ้เพื่อนบ้า” ฉันค้อนใส่
“นี่หวาน ฉันไปก่อนนะนัดน้องใบตองไว้ แล้วเดี๋ยวตอนบ่ายสามก็น้องชะพลูอีก ฉันกลัวจะไปไม่ทันว่ะ รถไฟชนกันล่ะก็ฉันตายพอดี ไปนะบาย~~” ธันวาพูดอย่างยิ้มแย้มแล้วรีบวิ่งออกไป
“เห้ออ~~ คนหนึ่งก็เจ้าชู้ อีกคนก็รักรันทด อนาถใจจริงจริ้ง” เมย์บ่นงุบงิบแล้วสายหน้าไปมา
“ไปซื้อน้ำกันได้แล้วยัยเมย์” ฉันหันไปดึงแขนเมย์แล้วรีบวิ่งออกจากโรงยิมหลังจากการแข่งขันจบทันที
“ป้าค่ะ เอาน้ำเปล่าสามขวดค่ะ” ฉันตะโกนบอกแม่ค้าที่กำลังเล่นเกมในโทรศัพท์อย่างเมามัน แต่ป้าแกไม่มีทีท่าว่าจะลุกเลยนี่สิ
“ป้าค่ะ!!!” ฉันตะโกนดังกว่าเดิมจนป้าแกสะดุ้ง
“จ้าาา เอาอะไรจ๊ะ”
“น้ำเปล่าสามขวดค่ะ ขอเย็นๆเลยนะคะ”
“จ้าๆ” ป้าแกตอบแล้วหยิบให้ ฉันรีบจ่ายเงิน แล้วยื่นขวดน้ำให้หนึ่งขวด ก่อนที่จะวิ่งไปทางหลังโรงยิม
“เดี่ยวๆ นั่นแกจะไปไหน” เมย์ดึงแขนฉันไว้ก่อน แต่ฉันก็สะบัดออกเบาๆแล้วเปลี่ยนมาเท้าเอวแทน
“ฉันก็จะเอาน้ำไปให้ว่าที่พ่อของลูกฉันอ่ะดิ แกรอนี่แหละฉันจะไปเร็วๆแต่ไม่รับปากว่าจะรีบกลับมั้ยนะ ฮ่าๆๆ” แล้วฉันก็วิ่งไปตามที่ตั้งใจไว้ด้วยความเร่งรีบ
ฉันวิ่งมาใกล้ถึงห้องแต่งตัวของนักกีฬา ก็เปลี่ยนเป็นเดินนิ่งๆผ่านนักกีฬาที่เดินสวนออกมา พวกนั้นต่างหยุดมองฉันเป็นตาเดียว แต่ฉันพยายามไม่สนใจกวาดสายตามองหาพี่บูมทุกซอกทุกมุม จนเห็นว่าพี่บูมกำลังยืนพิงพนังคุยกับเพื่อนอยู่ คนอะไรหล่อที่สุด ฉันเดินเข้าไปใกล้จนพี่บูมรู้ตัวหันมามองฉัน สายตาเขาดูดุมาก ต่างจากเมื่อกี้ที่เขายังกำลังยิ้มแย้ม หัวเราะกับเพื่อนอย่างสนุกสนาน
“มาที่นี่ทำไม! นี่มันห้องแต่งตัวนักกีฬาเธอไม่มีสิทธิ์!” พี่บูมตะคอกใส่ก่อนที่ฉันจะเดินเข้าไปถึง
“หวานเอาน้ำเย็นๆมาให้ เสร็จแล้วหวานก็จะกลับ” ฉันยิ้มให้แทนที่จะโกรธที่เขาไล่ เพราะอะไรน่ะหรอ ก็เพราะว่าฉันชินซะแล้วน่ะสิ เข้าใกล้พี่เขาทีไรเป็นอันต้องปากจัดซะทุกที
“ฉันไม่เอา!” พี่บูมพูดเสียงแข็ง
“รับหน่อยเถอะนะ พี่บูมนะ~ รับน้ำที่หวานให้ก่อนนะ แล้วก็ไม่ต้องมาทำหน้าดุแบบนั้นเลย ถ้ารับน้ำที่หวานให้ หวานก็จะไปแล้วเนี้ย แต่ถ้าพี่ไม่ยอมรับไปล่ะก็ คราวนี้หวานจะตามพี่ให้ถึงบ้านจนกว่าพี่จะรับเลยคอยดูสิ” ฉันลอยหน้าลอยตาเพื่อกวนเขา เพราะครั้งหนึ่งฉันตามพี่บูมจนเกือบถึงบ้านแล้ว แต่ติดที่พี่ไม้พี่ชายฉันเข้ามาขวางไว้ก่อนซะก่อน
“ดูปากฉันให้ชัดๆนะ” พี่บูมชี้มือไปที่ปากของตัวเอง
“อือ หึ~” ฉันยื่นหน้าเข้าไปใกล้เพื่อมองริมฝีปากอันแสนเย้ายวนนั้นให้ชัดๆ
“ฉัน - ไม่ - เอา!!!” พี่บูมตะคอกกลับมาเสียงดัง
“ก็แค่น้ำเองรับไปเหอะนะ แล้วหวานรับรองด้วยว่าครั้งนี้หวานจะตามพี่ให้ถึงที่สุดโดยที่พี่ไม้มาขัดขวางไม่ได้ด้วยถ้าไม่รับน้ำไป” ฉันต่อรองอีกครั้ง แล้วครั้งนี้ก็ไม่เสียเปล่าพี่บูยื่นมือมารับขวดน้ำที่ฉันเอามาให้ ใบหน้าบ่งอกถึงความไม่อยากได้ถึงที่สุด
“ก็แค่เนี้ย ทำเป็นเรื่องมากไปได้” ฉันยื่นขวดน้ำให้ แล้วหันหลังกลับทันที เพื่อรักษาสัญญาที่ให้ไว้
“เดี๋ยว!” พี่บูมจับแขนฉันไว้ก่อนที่ฉันจะเดินกลับ โอยยยย~ แค่แตะไฟฟ้าแห่งรักก็สถิต
“แหม่ๆ เริ่มใจอ่อนให้หวานแล้วล่ะสิ” ฉันหันไปยิ้มหวานให้ แล้วพี่บูมก็ยิ้มให้ฉันด้วยเหมือนกันนะ เขินอ่ะ แต่ทำไมรอยยิ้มมันทำให้รู้สึกแปลกๆ เหมือนจะไม่ใช่เรื่องดี แต่ช่างเหอะ ไม่สนอยู่แล้ว ฮุฮุ
“ก็เธออุตส่าห์ไปซื้อน้ำเย็นๆให้ทั้งๆที่ฉันไม่ต้องการ อย่างนี้ฉันก็ต้องงง...” พี่บูมพูดค้างไว้แล้วเปิดขวดน้ำทำท่าเหมือนจะดื่ม แต่กลับเปลี่ยนมาเทรดบนหัวฉันแทนจนหมดขวด แล้วบอกเลยว่าน้ำที่ฉันซื้อคือขวดลิตรครึ่งและเย็นมากด้วย!
“กรี๊ดดดดด!! พี่บูม” ฉันร้องด้วยด้วยความตกใจ
“ทำไม! ก็ฉันบอกเธอไปแล้วว่าไม่เอา ไม่เอา แต่เธอก็ยังอยากดันทุรังให้ฉันเองนะ ทำตัวเองทั้งนั้น ฮ่าๆๆ” พี่บูมพูดท่าทางสบายๆแล้วหันไปหัวเราะกับเพื่อนเหมือนเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องสนุก แต่บอกเลยว่าฉันไม่สนุกด้วยสักนิด!
“ไม่เป็นไรคะ หวานไม่ถือ เพราะถ้าหวานถือมันก็หนักเปล่าๆ” ฉันยิ้มสู้ ทำให้พี่บูมหุบยิ้มทันที แล้วเปลี่ยนมาเป็นหน้าแดงด้วยความโกรธอย่างฉับพลัน เพื่อนๆของเขาที่หัวเราะอยู่ก็พากันหน้าเสียไปตามๆกันที่ฉันยังยิ้มอยู่ เจอเจ้าชายใจร้ายฉันก็สตรองคะ ถึงมันจะเปียกสกก็เถอะ
“นี่เธอ!! เลิกยุ่งกับฉันสักทีได้มั้ย! ฉันเริ่มจะหมดความอดทนกับเธอแล้วนะน้ำหวาน ต่อให้เธอทำดีกับฉันแค่ไหนมันก็ไม่ได้ทำให้เธอมีค่าในสายตาฉันได้เข้าใจมั้ย!” พี่บูมเดินเข้ามาบีบไหล่ฉันทั้งสองข้าง
“..........” เจ็บคะ แต่ต้องยิ้ม
“ฉันเกลียดเธอ เกลียดจนเข้ากระดูกดำของฉันแล้วในตอนนี้ จำไว้ด้วย!!!” พี่บูมบีบไหล่แน่นกว่าเดิมแล้วก็ปล่อยฉันจนล้มลงไปกับพื้น
“..........” ฉันน้ำตาคลอเอามือจับที่ไหล่ด้วยความเจ็บ แต่ฉันก็กระพริบตาถี่เพื่อไม่ให้น้ำตามันไหลออกมา
“พี่บูมเนี้ยเหมาะจะเป็นพ่อของลูกหวานจริงๆเลยนะคะ หวานล่ะช้อบชอบพี่บูมมากๆเลย” ฉันยิ้มน้อยยิ้มใหญ่เพื่อให้พี่บูมรู้ว่าที่ทำเมื่อกี้มันไม่มีผลอะไรเลย
“นี่เธอ!!!!” พี่บูมทำท่าจะเข้ามาบีบคอฉันแต่เพื่อนเขาเข้ามาจับไว้ก่อน
“หวานไปก่อนนะคะ แล้ววันหลังจะเอาน้ำเย็นๆมาให้ใหม่ แต่รอบหน้าห้ามทำแบบนี้แล้วนะคะ จะอดกินซะเปล่าๆนะ” ฉันยิ้มแล้วหันหลังกลับแต่ก็ต้องหันมาหาพี่บูมอีกครั้ง
“..........”
“อ่อ! เกือบลืมไปเลย หวานไม่พอแค่นี้หรอกนะคะ บ่าย~~ My Boyfriend” ฉันโบกมือให้แล้วรีบวิ่งกลับไปหายัยเมย์
“โธ่เว้ย!!!” พี่บูมสะบัดเพื่อนออกด้วยความโมโห
“เธอก็ไม่มีทางชนะฉันเหมือนกัน ครั้งหน้าเธอเจอหนักกว่านี้แน่ จำไว้!!!” พี่บูมตะโกนไล่หลังมาด้วยความโกรธ
ฉันห้ามน้ำตาที่กำลังไหลออกมาหลังจากที่เดินออกมาจากตรงนั้นได้อีกต่อไป แต่ฉันก็ต้องปาดมันทิ้งเพื่อไม่ให้มันไหลมามากไปกว่านี้
“เฮ้ย!! หวานไปทำอะไรมาเนี้ย ตัวเปียกมาเชียว หรือว่าพี่บูม พี่บูมเขาทำอะไรแกบอกฉัน ฉันจะไปฟ้องพี่ไม้” เมย์พูดเองเสร็จสรรพแล้วก็จะวิ่งออกไปแต่ฉันคว้าแขนเมย์ไว้
“ไม่ต้องนะเมย์ หวานไม่เป็นอะไรหรอก เดี๋ยวหวานกลับบ้านเลยนะ หนาวมากตอนนี้”
ฉันบอกก่อนที่จะเดินไปโบกแท็กซี่หน้ามหาวิทยาลัยทันที โดยไม่รอให้เมย์ได้ทักท้วงอะไร พอกลับถึงบ้านได้ก็รีบวิ่งขึ้นห้องไม่อยากให้แม่เห็นสภาพแบบนี้ ไม่อย่างนั้นโดนซักยาวแน่ๆ
“หวาน กลับมาแล้วหรอลูก” แม่เดินออกมาจากห้องครัวทำให้ฉันชะงัก
“คะ...คะแม่”
“ตายแล้วหวาน!!! ไปทำอะไรมาลูก ทำไมตัวเปียกขนาดนี้” แม่เดินจับตัวฉันหมุนไปหมุนมาด้วยความเป็นห่วง
“ยังไม่ตายคะแม่~ หวานแค่เล่นกับเมย์เท่านั้นเอง ตอนนี้หวานขอไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนนะ หนาววว~” ฉันพูดจบก็วิ่งขึ้นห้อง
...ปัง...
“เฮ้อ!! เกือบไม่รอด พี่บูมนะพี่บูม เล่นซะไปเปียกหมดเลย” ฉันพิงประตูไว้ แล้วถอนหายใจด้วยความโล่งอก
พอหายเหนื่อย ฉันก็อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าใหม่ ก่อนจะลงมาช่วยแม่ทำกับข้าว ผ่านไปสักพักก็ได้ยินเสียงแตรรถดังอยู่หน้าบ้าน สงสัยจะเป็นรถรับส่งเกสร น้องฉันแน่ๆ ฉันเลยเดินไปเปิดประตูให้ และก็เป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้
“พี่หวานหวัดดีคะ ทำไมวันนี้กลับบ้านเร็วจัง” เกสรยกมือไหว้แล้วยิงคำถามใส่ฉันทันทีที่เห็นหน้าฉันออกมาเปิดประตู
“พี่จะกลับเร็วบ้างไม่ได้รึไง” ฉันย้อนกลับทันที
“ไม่รู้สิ ปกติพี่หวานกับพี่ไม้ไม่เคยกลับบ้านก่อนหกโมงสักที” เกสรเดินเกาหัวแล้วเดินเข้าบ้านไป
ฉันปิดประตูรัว ก่อนจะเดินเข้าบ้านตามหลังน้องไป กลับเข้ามาก็เห็นเกสรกกำลังคุยอยู่กับแม่ ฉันเดินไปหาทั้งสองคนนั้นแต่ไม่วายแอบกระตุกผมน้องเบาๆ ด้วยความหมั้นไส้
“แกล้งน้องนะเรา เดี๋ยวแม่จะตีให้”
“ก็เกสรอยากทำตัวน่าแกล้งทำไมล่ะแม่ แล้วเมื่อกี้น้องก็ยังสงสัยหวานอีก หวานแค่กลับบ้านไวแค่นี้เอง” ฉันบอกกลับไปไม่ได้จริงจังอะไร
“แล้วน้องเราเขาพูดผิดซะทีไหนล่ะ” แม่เอามือมาตีฉันเบาๆ
“แม่อ่า~ หวานงอน~~” ฉันเดินหนีแม่ไปนั่งเล่นที่สวนหลังบ้านแทน
“เป็นเพราะพี่คนเดียวเลย พี่บูม!” ฉันนึกถึงหน้าคนที่ทำให้เกิดเหตุการณ์วันนี้ ถ้าฉันไม่เจอพี่เรื่องคงไม่เป็นแบบนี้
...สามเดือนก่อนหน้านี้...
ฉันเพิ่งเข้ามหาลัยใหม่ๆ ก็ได้เจอผู้ชายอยู่คนหนึ่งที่หลังตึกเรียน เขากำลังยืนนิ่งหลังติดกำแพง สายตาเหมือนจ้องอะไรอยู่ ฉันเลยมองตามก่อนจะเห็นว่าสิ่งที่เขามองอยู่มันเป็นงูตัวเล็กๆ แต่รู้สึกเหมือนเขากำลังกลัวอยู่ ทำไมถึงรู้น่ะหรอ ก็เขาเล่นยืนนิ่งเป็นหินนั้นไง และความที่ฉันเป็นคนดีก็เลยกะว่าจะเดินเข้าช่วยพาเขาออกมา แต่บังเอิญว่าเขาตัดสินใจที่จะหนีพอดี ฉันเห็นเขาค่อยๆขยับออกมาทีละนิดๆ
‘พี่...’
...ตุ๊บ!!!...
‘โอ้ยยย~’
‘เฮ้ย!! มาได้ไงว่ะเนี้ย!!’ เขาเผลออุทานออกมาทันที ที่เห็นฉันอยู่ตรงหน้า ก็เขาเล่นออกตัวมาซะแรงจนเราทั้งคู่นอนเล่นกันบนพื้นเลยทีเดียว แล้วตอนนี้หน้าเราสองคนก็ยังกันห่างไม่ถึงคืบ ก็ยิ่งทำให้เขาตกใจเข้าไปใหญ่
แต่ฉันนี่สิ แค่เห็นใบหน้าหล่อๆของคนตรงหน้า ถึงกับทำให้ฉันหายใจติดขัด จมูกโด่งคมสัน ดวงตารีเรียวดูน่าค้นหามันสะกดสายตาและจิตใจฉันทุกอย่าง ทำให้ฉันไม่สามารถรับรู้สิ่งที่เขาพูดได้แม้แต่น้อย เอาแต่จ้องเขาอย่างเดียว ความรู้สึกมันเหมือนกับว่าโลกกำลังหยุดหมุน โอ้ยยย~ หล่อโคตรพ่อโคตรแม่เลยอ่า~~
‘เป็นอะไรไปล่ะ’ เขาเขย่าตัวฉัน และนั่นทำให้ฉันได้รู้ตัวว่าเสียมารยาทมากแค่ไหน ฉันรีบผลักเขาออกห่างแล้วจะลุกขึ้นยืน แต่ทว่าเท้าฉันดันเจ็บทำให้ต้องล้มลงไปกับพื้นอีกครั้ง
‘จะวิ่งออกมาก็ไม่บอก เจ็บเลยเห็นมั้ย!’ ฉันเริ่มโวยวาย ก็มันเจ็บอ่ะ
‘แล้วจะรู้มั้ยว่ามีคนอยู่ตรงนี้อ่ะ มา! เดี๋ยวพาไปห้องพยาบาล’ เขาพยุงฉันขึ้นแล้วพาไปห้องพยาบาลตามที่บอกไว้ทันที อาจารย์เห็นก็ให้ยาฉันมาทาแล้วสั่งให้นั่งพักก่อน หายเจ็บเมื่อไหร่ค่อยออกไป
‘เธอไปทำอะไรตรงนั้น’ เขาถามขึ้นทันควันที่อาจารย์เดินออกไป
‘แค่จะไปหาที่ที่เงียบๆนั่งเฉยๆ พอดีเจอคนที่กำลังกลัวงู แล้วงูที่แบบว่าเล็กมาก เล็กมากๆด้วยนะ ก็เลยจะไปพาออกมา แต่กลับโดนชนจนเจ็บข้อเท้านี่แหละ’ ฉันพูดอย่างประชดประชัน โดยไม่กล้าที่จะสบตาหรือมองหน้า ไม่อย่างนั้นไอ้อารมณ์ขุ่นมัวอาจจะแพ้พ่ายให้กับความหล่อดังเจ้าชายก็เป็นได้
‘เธอเห็น?’ ฉันพยักหน้าน้อยๆ
‘ฉันไม่ได้กลัวมันสักหน่อย ฉันแค่...แค่กำลังจะจำหน้าตามันไปวาดรูปต่างหาก แต่ฉัน...ฉัน...อ่อ! ฉันจำไม่ได้ก็เลยจะรีบออกไปเอากล้องมาถ่ายไว้ เดี๋ยวมันจะหนีไปซะก่อนต่างหาก อยากเข้าใจผิด และกรุณาเข้าใจตามนี้ด้วย!’ น้ำเสียงกับคำบอกเล่าช่างต่างกันแท้~ แต่เพราะหล่อยังเลยไม่ผิด
‘ค่ะ จะจำไว้นะ เอาเป็นว่าพี่ชื่ออะไรล่ะ ปีไหน อะไรยังไง ไม่งั้นฉันจะไม่เข้าใจตามที่บอกนะ ส่วนนี่ชื่อน้ำหวานนะ หรือเรียก หวานก็ได้’ ฉันเงยหน้ามองเขา แล้วแกล้งขู่เล่นๆ เขาทำท่าทีฮึดฮัดแต่ก็ยอมบอก ว่าเขาชื่อบูม อยู่ปีสอง และอยู่คณะเดียวกับฉัน และก็พี่ไม้ด้วย อย่างนี้สินะที่เรียกว่าบุพเพอาละวาด เอ้ย! บุพเพสันนิวาส
‘งั้นหวานควรจะเรียกว่าพี่สินะ ว่าแต่พี่ก็ต้องรู้จักพี่ไม้น่ะสิ อยู่คณะเดียวกันพี่เลย ปีเดียวกันด้วย ที่เขาดูเจ้าชู้ๆน่ะ รู้จักมั้ย’ พี่เขาดูชะงักไปนิดก่อนจะพยักหน้ารับ นี่ฉันไม่ได้คิดไปเองใช่มั้ยว่าดูหน้าเขาจะนิ่งกว่าก่อนหน้านี้
‘งั้นหวานขอวานพี่ไปตามให้หน่อยนะ บอกว่า หวานเจ็บอยู่ห้องพยาบาลให้เขามาหา แล้วบอกพี่เขาด้วยนะว่ามาให้เร็วๆ’ ฉันเห็นพี่เขามองฉันด้วยสายตาแปลกๆ แต่คงไม่มีอะไรหรอกมั้ง
‘หน้าตาก็ดีอยู่นะ ไม่น่าเลือกคบคนผิดแบบนั้นเลย รู้ทั้งรู้ว่ามันเจ้าชู้ก็ยังจะคบกับมันอีก’ พี่เขาพูดจบก็ส่ายหน้าไปมาแล้วเดินออกไป ปล่อยให้ฉันงงกับคำพูดของเขาที่ทิ้งไว้
‘อะไรของเขา’ ฉันไม่ได้สนใจอะไรมาก นวดเท้าด้วยยาที่อาจารย์ให้มาต่อ จนพี่ไม้มาถึง
‘ยัยหวาน!!!! ทำไมถึงเป็นแบบนี้’ พี่ไม้วิ่งเข้ามาหาฉันแล้วรีบปรี่เข้ามาดูที่เท้า
‘แกไปเล่นอะไรของแกเนี้ย กลับบ้านเดี๋ยวนี้เลยไป’ พี่ไม้พยุงฉันขึ้นแล้วพาออกจากห้องพยาบาลมานั่งที่หน้าอาคารอะไรสักอย่าง ที่อยู่ไม่ไกลจากห้องพยาบาลเท่าไหร่นัก
‘เดียวพี่มา ไปบอกเพื่อนก่อน รอตรงนี้นะ’ พี่ไม้บอกจบก็รีบวิ่งไป
‘มันดูเป็นห่วงเธอดีเนอะ’ เสียงผู้ชายดังขึ้น ทำให้ฉันเงยหน้าขึ้นมองก็เห็นพี่หล่อคนนั้น เขาเดินมานั่งเก้าอี้ตัวเดียวกับฉัน แต่เป็นริมของอีกฝั่ง
‘มันแน่อยู่แล้ว ก็พี่ไม้รักหวาน ก็ต้องห่วงหวานสิ’ ฉันตอบไปอย่างไม่ต้องคิดอะไร เพราะมันเป็นเรื่องจริง
‘มันคงไม่ได้รักเธอคนเดียวหรอกมั้ง หึ’
‘พี่หมายความว่ายังไง’ ฉันงงกับสิ่งที่พี่บูมพูด
‘ก็หมายความตามที่บอกนั้นแหละ แค่จะมาบอกว่าเรื่องก่อนหน้านี้ เธออย่าเอาไปบอกใครก็เท่านั้น’ พี่บูมบอกเสียงเรียบ
‘ฟอร์มเยอะชะมัด เอาเป็นว่าหวานจะเก็บมันมาเข้าหีบเลยแล้วกันนะ ไม่ต้องห่วงรับรองว่าไม่มีใครรู้ ยกเว้นพี่ไม้’ ฉันชู้สามนิ้วเพื่อให้พี่เขาเชื่อ
‘ไอ้ไม้? ไอ้ไม้มันก็รู้ไม่ได้เหมือนกัน’ พี่บูมหันมาบอกเสียงเข้มคล้ายๆกับโมโห อ่าวอารมณ์ขึ้นซะงั้น
‘ไม่รู้สิ หวานไม่เคยโกหกพี่ไม้ได้เลยสักครั้งด้วย แต่ก็จะพยายามนะ’
‘ขอบคุณ’ พี่บูมลุกขึ้นเดินออกไปแต่ก็หยุด ก่อนจะหันกลับมา
‘หายไวไวแล้วกัน’ แล้วก็รีบเดินออกไปพอดีกับที่พี่ไม้กลับมาพอดี
‘ไปหวาน’ พี่ไม้พยุงฉันแล้วพากลับบ้าน หลังจากนั้นพี่บูมก็ลอยมาลอยไปอยู่ในหัวใจฉันมาตลอด ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเพราะอะไร แต่ฉันก็ชอบพี่เขาไปแล้วอ่ะ
และฉันก็เพิ่งรู้หลังจากนั้นไม่นานว่าพี่บูมเข้าใจผิดคิดว่าฉันกับพี่ไม้เป็นแฟนกัน แล้วก็เป็นฉันนี่แหละที่ทำให้เขาเข้าใจถูก จากนั้นฉันก็พยายามทำทุกอย่างให้เขาสนใจฉัน แต่หลายครั้งฉันต้องถูกเขาแกล้งกลับมา พร้อมกับคำพูดที่ไม่ดี กลับมาด้วยทุกครั้ง พอพี่ไม้รู้เรื่องนี้ก็คอยขัดขวางฉันตลอดแต่ฉันก็ไม่เคยยอมแพ้
“สักวันหวานจะทำให้พี่รักหวานให้ได้ คอยดูสิ!!” ฉันรักพี่บูมมาก จึงไม่อยากให้ใครเข้ามาใกล้แต่ฉันก็ทำอะไรไม่ได้เลยสักอย่าง คิดมาถึงตอนนี้มันก็ทำให้ฉันเดินเตะหญ้า เพื่อคลายโมโห
“น้ำหวาน!! เรามีเรื่องต้องคุยกัน!” เสียงพี่ไม้ตะโกนมาตั้งแต่ยังอยู่ที่โรงจอดรถของบ้าน
“พี่ไม้!!!”
............................................................
ความคิดเห็น