คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #8 : Chapter 7
Fic’Because you’re my FrienD
{Baekhyun x D.O}
#FicBD
::Chapter 7::
ภายใต้รอยยิ้มที่สดใส..
อาจมีความรู้สึกบางอย่างซ่อนอยู่ข้างใน..
ความรู้สึกบางอย่างที่พูดออกมาไม่ได้..
วันนี้เป็นวันที่คยองซูมาทำงานพิเศษเหมือนทุกๆครั้ง..
ท้องฟ้าในเช้าวันพุธกลับมีสีเทาถึงแม้ว่าตอนนี้จะเป็นเวลาเกือบเที่ยงแล้วก็ตาม คนตัวเล็กเดินออกมาจากเคาท์เตอร์ร้านพร้อมหยิบผ้าเช็ดโต๊ะกับถาดใบใหญ่ขึ้นมาก่อนจะตรงไปเช็ดทำความสะอาดโต๊ะที่ลูกค้าเพิ่งลุกออกไป
“ตั้งใจทำงานดีจังเลยนะคยองซู” ผู้จัดการร้านมองลูกน้องที่กำลังตั้งใจทำงานก็อดเอ่ยปากชมไม่ได้ คนถูกชมยิ้มกว้างให้ก่อนจะหันไปทำงานต่อ
“อ้อ..วันนี้คนที่ชื่อ..อะไร..แบคๆยอนๆอะไรสักอย่างจะมาฝึกงานนะ พี่ฝากเราด้วยล่ะ” มือเล็กหยุดชะงักแทบจะในทันทีที่ได้ยินชื่อนั้น..
“แบคฮยอน..หรอครับ”
“อื้มๆ นั่นแหล่ะ พี่ฝากเราสอนงานให้เขาด้วยนะ”
“แล้วทำไมไม่ให้พี่หนักงานประจำเป็นคนสอนล่ะครับ คือผม..”
“เอาน่าคยองซู..ช่วยพี่หน่อยนะ รายนี้เขาฝึกเพื่อจะได้แสดงละครได้สมจริง พี่ก็ต้องหาคนเก่งๆมาสอนสิจริงมั้ย ?”
“แต่ว่า..”
“เจ้าของร้านเขาจะเพิ่มค่าแรงให้เราด้วย เอาน่า..ช่วยพี่หน่อยนะคยองซู ขอบใจมาก” พูดเองเออเองพร้อมกับยิ้มกว้างแล้วเดินจากไปหลังร้าน ทิ้งให้คนตัวเล็กยืนอึ้งอยู่คนเดียวในร้าน..
จะว่ายังไงก็เถอะ แต่ช่วงนี้เขาไม่อยากใกล้แบคฮยอนเลยจริงๆ..พอใกล้กันแล้วมันรู้สึกใจเต้นแรงแปลกๆ.. แล้วนี่จะให้เขาสอนงานให้แบคฮยอนอย่างนั้นเหรอ ให้ตายสิ..
“เออนี่คยองซู นี่ก็จะเที่ยงแล้ว..ไปกินข้าวได้แล้วนะ ตอนนี้ไม่มีลูกค้าพอดี” พี่พนักงานอีกคนพูด “อ่า..ครับ” พูดพร้อมกับโค้งศีรษะก่อนพนักงานคนนั้นจะหายเข้าไปหลังร้านเหมือนกัน คยองซูถอนหายใจออกมาน้อยๆพลางมองออกไปทางด้านนอกร้านผ่านกระจกใส
ฝนกำลังจะตกอีกแล้วสินะ...
ติ๊ง ~
เสียงข้อความโทรศัพท์ดังขึ้นคนตัวเล็กจึงหลุดจากภวังค์ วางถาดและผ้าในมือลงบนโต๊ะก่อนจะหยิบเครื่องมือสื่อสารดังกล่าวขึ้นมาจากกระเป๋ากางเกง
บยอนแบคฮยอน : คยองซูอยู่ร้านใช่มั้ย? ตอนนี้ฉันใกล้ถึงร้านแล้วล่ะ...ออกมารับหน่อยนะ ถ้าไม่ออกมาฉันงอน แล้วเจอกันนะ
อ่าให้ตายสิ..ผู้ชายคนนี้ไปเอานิสัยเผด็จการนี้มาจากไหน
ซ่า..
ยังไม่ทันที่คยองซูจะได้ทำอะไรฝนห่าใหญ่ก็ตกลงมาอย่างบ้าคลั่ง โชคดีที่เวลานี้ยังไม่มีลูกค้าบรรยากาศในร้านจึงไม่วุ่นวาย ร่างเล็กเก็บกวาดโต๊ะจนเสร็จก่อนจะไปนั่งที่เคาท์เตอร์ต่อ หยิบหนังสือเตรียมสอบเข้ามหา’ลัยขึ้นมาเปิดอ่านผ่านๆ แต่ตอนนี้เขาไม่ค่อยมีสมาธิเอาเสียเลย..
ตอนนี้ฝนกำลังตกหนัก... แบคฮยอนกำลังจะมาที่ร้าน...ถ้าเดินเข้าร้านมาจะเปียกฝนหรือเปล่านะ
ผ่านมาหลายนาทีแต่ฝนก็ยังตกหนักอย่างไม่มีทีท่าว่าจะหยุด คยองซูเป็นห่วงอีกคนจนต้องยอมปิดหนังสือแล้วถือร่มมารอที่ประตูร้าน
แต่พอคยองซูมานั่งรอได้แค่ไม่กี่นาที รถบีเอ็มคันสีดำก็มาจอดที่หน้าร้านพร้อมกับคนที่คยองซูกำลังรอก็เดินลงมาเช่นกัน ร่างเล็กเบิกตาโตเพราะอีกคนไม่มีร่มอยู่ในมือและไม่มีเสื้อคลุมอะไรสักนิด เพราะกลัวว่าแบคฮยอนจะเป็นหวัดคยองซูจึงรีบกางร่มออก..ผลักประตูร้านแล้วตรงไปที่แบคฮยอนที่เพิ่งลงมาจากรถทันที อีกคนปิดประตูรถก่อนจะหันมาเจอคนตัวเล็กยืนกางร่มให้อยู่ แบคฮยอนจึงยิ้มกว้าง
แต่ว่า..ร่มคันนี้มันเล็กเกินไปหรือยังไงนะ ทำไมหน้าของเราสองคนมันถึงใกล้กันจัง..
“นึกว่าจะไม่ออกมารับซะอีก”
“ค่อยคุยกัน..เข้าไปในร้านได้แล้ว” ไม่ได้กลัวว่าตัวเองจะเปียกฝนหรืออะไรหรอกนะ...แต่เพราะหน้าคยองซูกับแบคฮยอนมันใกล้กันเกินไปต่างหาก มันก็เลยรู้เลยรู้สึกอึดอัดแปลกๆ ร่มคงคันเล็กเกินไปจริงๆนั่นแหล่ะ
“คราวหลังออกมารับก็เลือกร่มหน่อยก็ได้ เอาอันเล็กมาเชียว..จะให้สิงคยองซูเข้าร้านหรอครับ ?” แบคฮยอนเอ่ยแซวทันทีที่เดินเข้ามาถึงข้างในร้าน ..เจอหน้าคยองซูก็ขอแกล้งหน่อยแล้วกัน
“นี่ฉันก็อุตส่าห์เป็นห่วงนาย ทีแรกว่าจะไม่ออกไปด้วยซ้ำฝนตกหนักขนาดนี้..ทำคุณบูชาโทษแท้ๆ” คนถูกแซวทำหน้าหงอย ก่อนจะทำเป็นเดินหนีไปประจำที่หลังเคาท์เตอร์ต่อ
“โอ๋ๆ งอนหรอ..ขอโทษ ล้อเล่นเฉยๆ ให้สิงคยองซูเข้าร้านแบคฮยอนก็ยอมครับ”
“บ..บ้าหรอ” แบคฮยอนทำให้คยองซูใจเต้นแรงอีกแล้ว..
รู้ว่าแบคฮยอนไม่ได้ตั้งใจจะพูดให้คิดลึก แต่แน่นอนว่าตอนนี้ใจของคยองซูมันเต้นแรงจนแทบจะหลุดออกมาอยู่แล้ว...ความจริงมันเต้นแรงตั้งแต่ที่พี่ผู้จัดการบอกเลยต่างหากว่าแบคฮยอนจะเข้ามา..
“เขินเลย เขินเลย” แบคฮยอนชี้หน้าขึ้นสีของอีกคนพลางหัวเราะร่วน
“ข..เขินอะไร หยุดแซวเลยนะ..แล้ว..วันนี้พี่จงอินไม่เข้ามาด้วยหรอ” คยองซูตัดสินใจเปลี่ยนเรื่องทันที ถ้ายอมให้แบคฮยอนแซวต่อไปละก็..อาจจะเห็นหัวใจคยองซูหลุดออกมาจากหน้าอกข้างซ้ายเลยก็ได้
“จะมาทำไมกันเล่า คนฝึกงานน่ะแค่ฉันคนเดียว ที่สำคัญรายนั้นงานเขาก็เยอะ..ไม่ค่อยมีเวลาว่างหรอก” แบคฮยอนหุบยิ้มทันทีที่ได้ยินคำถาม เขาก็แค่ไม่ชอบให้คยองซูพูดถึงคนอื่นในเวลาที่เรากำลังพูดถึงกันอยู่แบบนี้
จะหงุดหงิดทำไมแบคฮยอน..เมื่อกี้ยังอารมณ์ดีอยู่เลยนะ
“อืม..งั้นเราเริ่มฝึกงานกันเลยมั้ย อะ..นี่ผ้ากันเปื้อน ใส่ซะจะได้เริ่มงาน” คยองซูหันไปด้านหลังก่อนจะหยิบผ้ากันเปื้อนของร้านที่เตรียมไว้แล้วยื่นให้อีกคน
“เดี๋ยวก่อนสิ รีบหรือไง..นี่มันก็เที่ยงแล้ว กินข้าวกันก่อนดีกว่านะ” แบคฮยอนหยิบผ้ากันเปื้อนจากมือเล็กมาวางไว้ที่เคาท์เตอร์ข้างๆก่อนจะจูงมืออีกคนมานั่งที่โต๊ะและจัดการหยิบข้าวกล่องในกระเป๋าออกมา
“ฉันให้แม่บ้านเตรียมจาจังมยอนไว้ให้นายโดยเฉพาะ ดูก็รู้ว่านายคงทำงานจนไม่ยอมกินข้าวแน่ๆ”
“แต่ว่า..”
“กินเลยๆ เห็นนายบ่นว่าอยากกินไม่ใช่หรอ รีบกินจะได้รีบทำงานไง” แบคฮยอนพยักหน้าเป็นเชิงคะยั้นคะยอให้อีกคนรีบเปิดกล่องข้าวทาน คยองซูถอนหายใจออกมาให้กับความดื้อรั้นของแบคฮยอนแต่สุดท้ายก็ยอมกินบะหมี่ดำในกล่องนั่น
“อร่อยมั้ย ? แม่บ้านคนนี้เพิ่งมาทำงานที่บ้านฉันได้ไม่กี่เดือน แต่ฉันชอบมากเลยล่ะ..ป้ามินยองทำอาหารอร่อยที่สุดในสามโลกเลย” แบคฮยอนพูดอวยพร้อมกับยิ้มกว้าง แม่บ้านคนที่แบคฮยอนพูดถึงก็คือแม่ของคยองซู.. คนตัวเล็กจำรสชาติจาจังมยอนที่แม่ของเขาทำให้กินบ่อยๆได้ ทั้งหน้าตาทั้งรสชาติแบบนี้นี่แหล่ะฝีมือแม่คยองซูไม่ผิดแน่ๆ
“นายชอบ..เอ่อ..แม่บ้านคนนั้นหรอ หน้าตาตอนเล่านี่มีความสุขเชียว” คนตัวเล็กถามพลางเคี้ยวจาจังมยอนในปากอย่างเอร็ดอร่อย
ถ้าแบคฮยอนชอบแม่ของคยองซู..แสดงว่าแบคฮยอนก็ไม่ได้ไม่ชอบเขา
แล้วที่แบคฮยอนมาเป็นเพื่อนกับคยองซูก็อาจจะเป็นเพราะอยากเป็นเพื่อนกันจริงๆก็ได้
ทีนี้คยองซูก็จะได้เลิกคิดมาก...แล้วจองกุกก็คงจะเลิกแกล้งได้เสียที
“ใช่ ฉันชอบมากเลยล่ะ..ป้ามินยองใจดีมากๆ ฉันเคยกอดด้วยนะ อุ่นสุดๆ” แบคฮยอนนึกถึงตอนที่ป้ามินยองเอาอาหารเย็นขึ้นมาให้บนห้องในวันนั้น...วันที่คยองซูเกือบจมน้ำ แบคฮยอนเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้ป้ามินยองฟัง สิ่งที่ได้กลับมาคือคำพูดให้กำลังใจและอ้อมกอดที่แสนจะอบอุ่น
แต่แบคฮยอนไม่รู้ว่าป้ามินยองคือแม่ของคยองซู
และคยองซูเองก็ไม่รู้ว่าแบคฮยอนมีโรคประจำตัวเหมือนกัน
“ถ้าอย่างนั้น..แบคฮยอน นายก็ไม่ได้เกลียดคนจนๆใช่มั้ย..” คยองซูรีบกินจาจังมยอนให้หมดก่อนจะเอ่ยปากถามช้าๆอย่างกล้าๆกลัวๆ
“เฮ้ย ! นี่ฉันจะไปเกลียดพวกเขาทำไม ไม่ได้รวยล้นฟ้าก็ไม่ได้ผิดอะไรหนิ บางคนรวยๆต่างหากที่ฉันไม่ชอบ..อย่างไอ่จองกุกที่มันชอบมาแกล้งนายไง” คนถูกถามรีบส่ายหน้าทันที แบคฮยอนคิดว่าคยองซูคงต้องเข้าใจอะไรผิดไปแล้วแน่ๆที่คิดว่าคนมีฐานะต้องคบกับคนมีฐานะด้วยกันเท่านั้น
แต่ก็อย่างว่า..เพราะคยองซูเป็นเด็กทุนจึงโดนคนอื่นในโรงเรียนไม่ชอบด้วยเหตุผลตลกๆอย่าง‘จน’ แล้วเด็กพวกนั้นที่บ้านก็ล้วนแต่มีฐานะกันทั้งนั้น เพราะแบบนี้สินะ..คยองซูถึงเข้าใจว่าคนมีฐานะต้องไม่อยากคบกับคนจน..
“อื้ม ! เข้าใจแล้วล่ะ ถ้าอย่างนั้น..ไปฝึกงานกันนะ” พูดพร้อมกับยิ้มกว้างจนตายี
“เดี๋ยวๆ” แบคฮยอนคว้าข้อมือเล็กของคยองซูไว้เมื่ออีกคนเก็บกล่องจาจังมยอนเสร็จแล้วลุกขึ้น แบคฮยอนหันหลังไปหยิบทิชชู่บนโต๊ะมาสองสามแผ่นก่อนจะลุกขึ้นตามคนตัวเล็ก
“ยืนอยู่เฉยๆก่อนนะ ซอสจาจังมยอนเปื้อนปากนายอ่ะ” พูดแค่นี้ก่อนจะเอากระดาษทิชชู่ในมือซับซอสสีเข้มที่ติดอยู่มุมปากของคนตัวเล็ก คยองซูสะดุ้งนิดๆกับสัมผัสบางเบานั่นแต่คนตัวเล็กก็ยอมให้แบคฮยอนช่วยเช็ดซอสออกจนหมด
“โอเคเรียบร้อยแล้ว นี่กินยังไงให้เปื้อนเนี่ย”
“ขี้บ่นไปได้ ฉันขอให้นายมาเช็ดหรือไง” คยองซูยู่ปาก
“ฮ่ะๆ ขอโทษครับ ไม่บ่นแล้วครับ ไปครับฝึกงานๆ” แบคฮยอนหยิบกล่องข้าวใส่กระเป๋าสะพายข้างแล้วสะพายมันไว้ที่บ่าก่อนจะดันหลังเพื่อนตัวเล็กให้เดินไปที่เคาท์เตอร์พร้อมกัน แบคฮยอนหยิบผ้ากันเปื้อนที่คยองซูเตรียมไว้ให้ขึ้นมาใส่อย่างลวกๆ
“แล้วนี่ในซีรีย์นายต้องทำอะไรบ้างเนี่ย จะได้สอนได้ถูก” คยองซูถาม เวลานี้ในร้านมีแค่แบคฮยอนกับคยองซูสองคนเท่านั้น ลูกค้าไม่มีน่ะไม่ว่าหรอกนะ..แต่พนักงานคนอื่นเนี่ยสิ หายไปไหนกันหมด
“ที่อ่านบทมาก็มีแค่กวาดๆถูๆร้าน แล้วก็ทำกาแฟให้ลูกค้าอะไรทำนองนี้แหล่ะ”
“อื้ม..โอเค อ๊ะ..ลูกค้ามาพอดี เดี๋ยวทำให้ดูนะ”
“ได้ๆ” พูดแค่นั้นก่อนจะเขยิบตัวให้ห่างจากคนตัวเล็กเพื่อที่อีกคนจะได้ทำงานได้สะดวก คยองซูพูดยิ้มแย้มกับลูกค้าก่อนจะทำเครื่องดื่มตามที่สั่งอย่างชำนาญ จัดการคิดเงินตามออเดอร์ที่สั่งแล้วยิ้มกว้างเป็นการส่งลูกค้า
“ขอบคุณที่มาอุดหนุนร้านเรานะครับ” คยองซูพูดก่อนจะหันมายิ้มกว้างให้แบคฮยอน อีกคนเดินเข้ามาใกล้ๆก่อนจะเอ่ยปากชมเพราะไม่คิดว่าคยองซูจะทำงานเก่งขนาดนี้
“ว้าววว คยองซูของฉันทำงานเก่งจัง”
“หืม?..ใครบอกว่าฉันเป็นของนาย” ถ้าแบคฮยอนจะพูดประโยคล่อแหลมแบบนี้นะ..
“ก็ฉันนี่แหล่ะที่บอก” พูดพลางคว้าคอคนตัวเล็กเข้ามากอดโดยที่คยองซูไม่ทันทีตัว
“อ๊ะ..ท..ทำอะไรเนี่ย”
“แสดงความเป็นเจ้าของไง”
“โอ๊ย นี่ปล่อยเลยนะ” คยองซูแกะแขนของอีกคนที่พาดบ่าของเขาไว้อยู่ออก แบคฮยอนทำหน้าล้อเลียนทันที่ที่เห็นว่ายั่วโมโหคยองซูได้สำเร็จ คนตัวเล็กรีบหันหลังให้เพราะกลัวว่าแบคฮยอนจะเห็นว่าตัวเองกำลัง..ยิ้ม
ใจเย็นแรงอีกแล้ว..
เป็นอะไรอีกเนี่ยโดคยองซู
“อ..อย่าเล่นแบบนี้อีกนะแบคฮยอน” มันเขิน..
“...ทำไมล่ะ โกรธหรอ”
“ไม่ได้โกรธนะ คือ..มันหายใจไม่ออกเฉยๆ ไม่มีอะไรหรอก แฮ่ะๆ” คยองซูรีบหันหน้าไปหาอีกคนทันทีเพราะน้ำเสียงแบคฮยอนดูเศร้าๆเพราะคยองซูบอกว่าไม่ชอบเล่นแบบนี้ แล้วนี่ถ้าจะให้บอกว่าตัวเองกำลังเขินมันก็ยังไงๆอยู่นะ..
แล้วจะเขินทำไมล่ะคยองซู..โอ๊ย !! พอแล้วๆ เลิกคิดๆ
“หรอ นึกว่าโกรธซะอีก ดีใจจังที่เตี้ยไม่โกรธ” พูดพลางยิ้มกว้างแล้วใช้มือมาบี้จมูกคนตัวเล็ก
แต่เดี๋ยวนะ...
“เมื่อกี้ว่าใครเตี้ย ?” คยองซูปัดมืออีกคนออกทันที ขมวดคิ้วมุ่นกับสิ่งที่ได้ยิน..เตี้ย!?!?
“เอ้า ! ตัวเองเตี้ยยังไม่รู้อีกหรอครับคุณโด” แบคฮยอนหัวเราะร่าทันทีที่แกล้งอีกคนสำเร็จอีกครั้ง
แต่เวลาคยองซูโกรธนี่ก็..น่ารักดีนะ
“หืมมม ! แล้วคุณบยอนสูงมากเลยหรอครับ ตัวเท่าๆผมป่ะครับได้ข่าว”
“สำนักไหนทำข่าวครับเนี่ย ผิดแล้วครับๆ ผมสูงกว่าคุณนะ”
“นี่ ! แบคฮยอนหยุดเลยนะ เรื่องความสูงเอามาพูดเล่นได้หรือไง !!” คยองซูยู่ปากอีกแล้ว..ให้ตายสิครับ น่ารักจัง
“โอเคๆ ไม่แกล้งแล้วก็ได้ นี่เพิ่งรู้นะเนี่ยว่านายก็เถียงเป็นเหมือนกัน”
“เฉพาะกับนายแค่นั้นแหล่ะ” คยองซูพูดพร้อมกับแลบลิ้นให้ในตอนท้ายก่อนหันหน้าเข้าเคาท์เตอร์เหมือนเดิม
“โห รู้สึกเป็นคนสำคัญ”
ก็สำคัญจริงๆนั่นแหล่ะ..บยอนแบคฮยอน
“พอๆ เลิกเล่นได้แล้ว มาใกล้ๆฉัน..เดี๋ยวสอนทำคาปูชิโน่สูตรเด็ด” พูดแค่นั้นก่อนจะหยิบส่วนผสมและอุปกรณ์มาไว้ใกล้ๆมือ แบคฮยอนเองก็เขยิบเข้ามาใกล้ๆจนบางทีคยองซูก็คิดว่ามันอาจจะใกล้เกินไปหรือเปล่า...เพราะหัวใจของเขามันเต้นแรงตลอดเลยเนี่ยสิ
คนตัวเล็กอธิบายและสอนการทำคาปูชิโน่ไปอย่างไม่นึกรีบร้อนอะไร มือเล็กหยิบจับอะไรก็ชำนาญไปหมด แบคฮยอนเองก็ตั้งใจ...ตั้งใจมองคยองซูนี่แหล่ะ ไม่ได้ตั้งใจฟังหรอก
ก็เพิ่งมารู้วันนี้ตอนมองใกล้ๆว่าคยองซูน่ารักนี้..
“แล้วนายก็จะได้คาปูชิโน่ตามที่ต้องการ อะ...ลองชิมดู อร่อยแน่ๆ” คนตัวเล็กพูดพร้อมกับยื่นแก้วกาแฟที่เพิ่งทำเสร็จใหม่ๆให้ แบคฮยอนรับแก้วนั่นมาพร้อมกับค่อยๆชิมคาปูชิโน่...มันอร่อยจริงๆนั่นแหล่ะครับ
“อื้ม..อร่อยมากเลย”
“ฮ่าๆ เห็นมั้ย..บอกแล้ว”
“คยองซู...ถ้าอยากได้คาปูชิโน่ต้องใช้สูตรนี้ แล้ว ..”
“...”
“ถ้าแบคฮยอนอยากได้คยองซู..ต้องใช้สูตรไหนหรอ ?”
ตึกตัก..ตึกตัก
นาฬิกาดิจิตอลบนผนังสีครีมบอกเวลาสองทุ่มตรง ผู้จัดการเดินมาบอกให้คนตัวเล็กเลิกงานเหมือนอย่างทุกวัน คยองซูยิ้มกว้างให้ก่อนจะเดินไปหาแบคฮยอนที่นอนใส่หูฟังฟุบลงกับโต๊ะ
“แบคฮยอน” คนตัวเล็กเรียก ทว่าแบคฮยอนกลับไม่ไหวติงไหนๆทั้งสิ้น ยังนอนทับท่อนแขนของตัวเองอยู่อย่างนั้น
“บยอนแบคฮยอน” คยองซูเรียกอีกครั้งพร้อมกับใช้มือสะกิดไหล่อีกคนที่กำลังนอนหลับอยู่ แต่มันก็เหมือนเดิม..แบคฮยอนไม่ยอมตื่น
เฮ้อ...บอกให้กลับไปตั้งแต่เย็นแล้วก็ไม่ยอม
“แบคฮยอนนา..ตื่นเถอะน้า อยากกลับบ้านแล้ว”
“….”ยังคงเงียบเหมือนเดิม แบคฮยอนไม่กระตุกหรือครางอืออะไรออกมาเลยทั้งนั้น อะไรจะไปหลับลึกขนาดนั้นกันพ่อคุณ
สุดท้ายคยองซูก็ยอมแพ้ ร่างเล็กดึงเก้าอี้มานั่งลงข้างๆก่อนจะนอนทับท่อนแขนของตัวเองเหมือนแบคฮยอน หันหน้ามองอีกคนที่หลับสนิทปลุกยังไงก็ไม่ยอมตื่น..
“ตื่นได้แล้ว อยากกลับบ้าน..”
“...”
“นี่หลับจริงหรือแกล้งหลับเนี่ย” นอนนิ่งเกินไปแบบนี้มันก็น่าสงสัยเหมือนกันนะว่าแบคฮยอนจะแกล้งหลับหรือเปล่า คยองซูจึงตัดสินใจหยิบโทรศัพท์ในมือของอีกคนออกมาก่อนจะเพิ่มระดับความดังของเสียงเพลงจนสุด
“โอ๊ยๆๆๆ คยองซู...อูยย แกล้งกันเบาๆก็ได้ หูแทบแตกเลยนะเมื่อกี้อ่ะ” แบคฮยอนสะดุ้งพร้อมกับรีบดึงหูฟังออก ถอนใจช้าๆเมื่อเห็นว่าคนที่มาแกล้งก็ไม่ใช่ใครที่ไหน
“ถ้าง่วงก็กลับไปนอนที่บ้าน จะมาอยู่ร้านทำไม บอกให้กลับไปตั้งแต่เย็นแล้วก็ไม่เชื่อ” พูดแค่นั้นก่อนจะลุกไปเก็บของที่หลังร้าน แบคฮยอนรีบตามเข้าไปเพราะรู้สึกว่าคยองซูอาจจะกำลังโกรธอยู่
“ขอโทษ..หลับลึกไปหน่อย ก็มันเพลียอ่ะ”
“ก็บอกให้กลับไปตั้งแต่เย็นแล้วไง”
“ก็จะรอไปส่งคยองซู เลิกงานแล้วใช่มั้ย..เดี๋ยวฉันไปส่งนะ”
“ม..ไม่ได้นะ !” จากที่กำลังเก็บของใส่กระเป๋าอยู่คยองซูก็รีบหันหน้ากลับมาหาอีกคนทันที แบคฮยอนขมวดคิ้วกับท่าทีลุกลี้ลุกลนแปลกๆของอีกคน
“เป็นอะไร ? ไม่อยากให้ไปส่งขนาดนั้นเลยหรอ” พูดด้วยน้ำเสียงผิดหวัง
“เอ่อ..คือ ไม่ใช่” ถ้าให้แบคฮยอนไปส่งที่บ้าน..แบคฮยอนก็จะรู้ว่าบ้านคยองซูอยู่ที่ไหน แล้วจะเป็นไปได้มั้ยที่อีกคนจะมาหาที่บ้านโดยที่เขาไม่ทันตั้งตัว แบคฮยอนก็จะรู้ว่าคยองซูเป็นลูกของป้ามินยอง..แล้วอะไรจะเกิดขึ้นล่ะ แบคฮยอนอาจจะไม่คิดอะไรแต่คยองซูยังไม่พร้อมที่จะให้อีกคนรู้ตอนนี้ แล้วนี่เขาก็ต้องไปรับแม่ที่บ้านตระกูลบยอนด้วย..ให้ตายสิ
“แล้วทำไม..”
“ก็ถ้านายไปส่งฉันที่บ้านนายก็จะถึงบ้านช้าไง เพลียไม่ใช่หรอ..กลับไปแล้ว”
“อ๊ะ..แต่ว่า..” ยังไม่ทันจะพูดจบคยองซูก็สะพายกระเป๋าแล้วดันแผ่นหลังอีกคนให้ออกมายืนรอรถที่นอกร้าน
“งั้นฉันกลับก่อนนะ บ๊ายบ่ายยย ~”
“เดี๋ยว ! ...” ข้อมือเล็กถูกคว้าเอาไว้อีกครั้ง คยองซูมองข้อมือของตัวเล็กก่อนจะเงยมองหน้าอีกคนช้าๆ
“หืม..?”
“กลับยังไง ให้ฉันไปส่งเถอะนะ”
“แบคฮยอน” เสียงทุ้มเข้มของผู้มาใหม่เรียกให้ทั้งสองคนต้องหันไปมอง แบคฮยอนหันหลังไปก่อนจะพบเจ้าของเสียงเรียกนั้น...พ่อของเขาเอง.. คยองซูรีบแกะมืออีกคนออกเพราะดูจากสีหน้าของผู้มาใหม่แล้ว..เขากำลังไม่พอใจ
“ส..สวัสดีครับ” คยองซูโค้งศีรษะให้ผู้อาวุโสกว่าทันที ถ้าจะให้เดาคงจะเป็นพ่อของแบคฮยอนสินะ. “พ่อมาทำไมครับ” แบคฮยอนถามด้วยน้ำเสียงเย็นชา
“มารับแกไง ฉันโทรไปตั้งหลายรอบทำไมไม่รับ นึกว่าเป็นอะไรไป”
“ผมไม่ได้เป็นอะไร บอกแล้วครับว่าผมสบายดี”
“แกควรจะดูแลตัวเองบ้างนะ แค่ถ่ายละครก็หนักแล้ว ถ้าอาการกำเริบ..”
“มารับผมไม่ใช่หรอครับ งั้นเราก็กลับได้แล้วล่ะ” ยังไม่ทันที่คนเป็นพ่อจะพูดจนจบ แบคฮยอนก็พูดตัดบทขึ้นมาเสียอย่างนั้น
แบคฮยอนแค่ไม่อยากให้คยองซูรู้ว่าเขามีโรคประจำตัว..
แค่ไม่อยากให้คยองซูเป็นห่วง
“ไปก่อนนะคยองซู กลับบ้านดีๆล่ะ..ขอโทษนะที่ไม่ได้ไปส่ง” หันหลังกลับมาบอกลาเพื่อนตัวเล็กพร้อมกับยิ้มบางๆให้แล้วเดินขึ้นรถไป พ่อของแบคฮยอนมองหน้าคยองซูด้วยสายตาเรียบเฉยก่อนจะขึ้นรถตามหลังไปพร้อมๆกัน
นี่พ่อแบคฮยอนไม่ชอบคยองซูหรือยังไงกันนะ..
.
.
“เพื่อนเราหรอ” บยอนแทซองเอ่ยถามออกมาทำลายความเงียบในรถ แบคฮยอนแค่พยักหน้าตอบอย่างไม่ใส่ใจ
“ที่บ้านเขาทำธุรกิจอะไรล่ะ”
“ไม่ได้ทำธุรกิจอะไรหรอกครับ โดคยองซูเป็นเด็กทุนแล้วก็เป็นเพื่อนของผม” แบคฮยอนอธิบาย เข้าใจในทันทีที่พ่อของเขาถามว่าที่บ้านคยองซูทำงานอะไร จะให้คบคนที่ฐานะสินะ
เหอะ..
“อะไร เป็นแค่เด็กทุน แล้วแกกล้าไปคบ..”
“ผมบอกแล้วไงว่าผมจะคบใครมันก็เรื่องของผม ชีวิตผมผมจัดการเองได้”
“….”
“แล้วพ่อก็ไม่ต้องไปพูดป่าวประกาศว่าผมไม่ค่อยแข็งแรง อาการผมดีขึ้นกว่าเมื่อก่อนแล้วครับ” แบคฮยอนเถียงสุดใจ แทซองเองก็รู้ว่าลูกเป็นแบบไหน ชอบแบบไหน...แต่สุดท้ายก็ยังฝืน
“งั้นแกก็จำไว้ว่าพ่อไม่ชอบเพื่อนที่ชื่อโดคยองซูของแก อย่าให้เห็นว่าอยู่ด้วยกันอีก” พูดแค่นั้นก่อนที่บรรยากาศในรถจะกลับมาเงียบและอึมครึมอีกครั้ง แบคฮยอนมองออกไปข้างนอกโดยไม่นึกใส่ใจคำพูดพ่อของตัวเอง
แทซองคงลืมไปว่าไม่มีอะไรมาห้ามลูกของตัวเองได้..
งานนี้พี่แบคก็อุตส่าห์หยอดคยองซูไปตั้งหลายดอก
ตั้งใจอยากให้ฟินก็ได้แค่นี้จริงๆแหล่ะ ไม่ถนัดค่ะงานฟินฮ่าๆๆ
สุดท้ายนี้เม้น + แท็ก #FicBD เพื่อกำลังใจ ~ ให้เค้าด้วยน้า
จุ้บๆ
ความคิดเห็น