ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic Exo] Because you're my frienD [BaekDo]

    ลำดับตอนที่ #8 : Chapter 7

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 684
      7
      22 มิ.ย. 57

    Fic’Because you’re my FrienD

    {Baekhyun x D.O}

    #FicBD

     

    ::Chapter   7::
     

    ภายใต้รอยยิ้มที่สดใส..

    อาจมีความรู้สึกบางอย่างซ่อนอยู่ข้างใน..

    ความรู้สึกบางอย่างที่พูดออกมาไม่ได้..

     

                วันนี้เป็นวันที่คยองซูมาทำงานพิเศษเหมือนทุกๆครั้ง.. 
       
                ท้องฟ้าในเช้าวันพุธกลับมีสีเทาถึงแม้ว่าตอนนี้จะเป็นเวลาเกือบเที่ยงแล้วก็ตาม  คนตัวเล็กเดินออกมาจากเคาท์เตอร์ร้านพร้อมหยิบผ้าเช็ดโต๊ะกับถาดใบใหญ่ขึ้นมาก่อนจะตรงไปเช็ดทำความสะอาดโต๊ะที่ลูกค้าเพิ่งลุกออกไป               
                                                                                                                                                                                            
    ตั้งใจทำงานดีจังเลยนะคยองซูผู้จัดการร้านมองลูกน้องที่กำลังตั้งใจทำงานก็อดเอ่ยปากชมไม่ได้  คนถูกชมยิ้มกว้างให้ก่อนจะหันไปทำงานต่อ     
     
               
    อ้อ..วันนี้คนที่ชื่อ..อะไร..แบคๆยอนๆอะไรสักอย่างจะมาฝึกงานนะ พี่ฝากเราด้วยล่ะมือเล็กหยุดชะงักแทบจะในทันทีที่ได้ยินชื่อนั้น..    
       
                
    แบคฮยอน..หรอครับ”    

                “อื้มๆ นั่นแหล่ะ พี่ฝากเราสอนงานให้เขาด้วยนะ” 
         
                “แล้วทำไมไม่ให้พี่หนักงานประจำเป็นคนสอนล่ะครับ คือผม..

                “เอาน่าคยองซู..ช่วยพี่หน่อยนะ รายนี้เขาฝึกเพื่อจะได้แสดงละครได้สมจริง พี่ก็ต้องหาคนเก่งๆมาสอนสิจริงมั้ย ?”

                แต่ว่า..”     

                “เจ้าของร้านเขาจะเพิ่มค่าแรงให้เราด้วย เอาน่า..ช่วยพี่หน่อยนะคยองซู ขอบใจมากพูดเองเออเองพร้อมกับยิ้มกว้างแล้วเดินจากไปหลังร้าน ทิ้งให้คนตัวเล็กยืนอึ้งอยู่คนเดียวในร้าน.. 

                 จะว่ายังไงก็เถอะ แต่ช่วงนี้เขาไม่อยากใกล้แบคฮยอนเลยจริงๆ..พอใกล้กันแล้วมันรู้สึกใจเต้นแรงแปลกๆ.. แล้วนี่จะให้เขาสอนงานให้แบคฮยอนอย่างนั้นเหรอ ให้ตายสิ..
        
     
                 “เออนี่คยองซู นี่ก็จะเที่ยงแล้ว..ไปกินข้าวได้แล้วนะ ตอนนี้ไม่มีลูกค้าพอดีพี่พนักงานอีกคนพูดอ่า..ครับพูดพร้อมกับโค้งศีรษะก่อนพนักงานคนนั้นจะหายเข้าไปหลังร้านเหมือนกัน คยองซูถอนหายใจออกมาน้อยๆพลางมองออกไปทางด้านนอกร้านผ่านกระจกใส   

                 ฝนกำลังจะตกอีกแล้วสินะ...    

       

                ติ๊ง ~             

                เสียงข้อความโทรศัพท์ดังขึ้นคนตัวเล็กจึงหลุดจากภวังค์ วางถาดและผ้าในมือลงบนโต๊ะก่อนจะหยิบเครื่องมือสื่อสารดังกล่าวขึ้นมาจากกระเป๋ากางเกง     
               
                บยอนแบคฮยอน
    : คยองซูอยู่ร้านใช่มั้ย? ตอนนี้ฉันใกล้ถึงร้านแล้วล่ะ...ออกมารับหน่อยนะ ถ้าไม่ออกมาฉันงอน แล้วเจอกันนะ  

         
        อ่าให้ตายสิ..ผู้ชายคนนี้ไปเอานิสัยเผด็จการนี้มาจากไหน
           


                ซ่า..   

                ยังไม่ทันที่คยองซูจะได้ทำอะไรฝนห่าใหญ่ก็ตกลงมาอย่างบ้าคลั่ง โชคดีที่เวลานี้ยังไม่มีลูกค้าบรรยากาศในร้านจึงไม่วุ่นวาย ร่างเล็กเก็บกวาดโต๊ะจนเสร็จก่อนจะไปนั่งที่เคาท์เตอร์ต่อ หยิบหนังสือเตรียมสอบเข้ามหา
    ลัยขึ้นมาเปิดอ่านผ่านๆ แต่ตอนนี้เขาไม่ค่อยมีสมาธิเอาเสียเลย..  

                                 

                ตอนนี้ฝนกำลังตกหนัก...                                                                                                             แบคฮยอนกำลังจะมาที่ร้าน...ถ้าเดินเข้าร้านมาจะเปียกฝนหรือเปล่านะ
       


                ผ่านมาหลายนาทีแต่ฝนก็ยังตกหนักอย่างไม่มีทีท่าว่าจะหยุด คยองซูเป็นห่วงอีกคนจนต้องยอมปิดหนังสือแล้วถือร่มมารอที่ประตูร้าน          
     
               แต่พอคยองซูมานั่งรอได้แค่ไม่กี่นาที รถบีเอ็มคันสีดำก็มาจอดที่หน้าร้านพร้อมกับคนที่คยองซูกำลังรอก็เดินลงมาเช่นกัน ร่างเล็กเบิกตาโตเพราะอีกคนไม่มีร่มอยู่ในมือและไม่มีเสื้อคลุมอะไรสักนิด เพราะกลัวว่าแบคฮยอนจะเป็นหวัดคยองซูจึงรีบกางร่มออก..ผลักประตูร้านแล้วตรงไปที่แบคฮยอนที่เพิ่งลงมาจากรถทันที  อีกคนปิดประตูรถก่อนจะหันมาเจอคนตัวเล็กยืนกางร่มให้อยู่ แบคฮยอนจึงยิ้มกว้าง          
             
               แต่ว่า..ร่มคันนี้มันเล็กเกินไปหรือยังไงนะ ทำไมหน้าของเราสองคนมันถึงใกล้กันจัง..
     
               
    นึกว่าจะไม่ออกมารับซะอีก   
         
               
    ค่อยคุยกัน..เข้าไปในร้านได้แล้ว  ไม่ได้กลัวว่าตัวเองจะเปียกฝนหรืออะไรหรอกนะ...แต่เพราะหน้าคยองซูกับแบคฮยอนมันใกล้กันเกินไปต่างหาก มันก็เลยรู้เลยรู้สึกอึดอัดแปลกๆ ร่มคงคันเล็กเกินไปจริงๆนั่นแหล่ะ   

               
    คราวหลังออกมารับก็เลือกร่มหน่อยก็ได้ เอาอันเล็กมาเชียว..จะให้สิงคยองซูเข้าร้านหรอครับ ?” แบคฮยอนเอ่ยแซวทันทีที่เดินเข้ามาถึงข้างในร้าน ..เจอหน้าคยองซูก็ขอแกล้งหน่อยแล้วกัน 
         
               
    นี่ฉันก็อุตส่าห์เป็นห่วงนาย ทีแรกว่าจะไม่ออกไปด้วยซ้ำฝนตกหนักขนาดนี้..ทำคุณบูชาโทษแท้ๆคนถูกแซวทำหน้าหงอย ก่อนจะทำเป็นเดินหนีไปประจำที่หลังเคาท์เตอร์ต่อ         

               
    โอ๋ๆ งอนหรอ..ขอโทษ ล้อเล่นเฉยๆ ให้สิงคยองซูเข้าร้านแบคฮยอนก็ยอมครับ

               บ..บ้าหรอ แบคฮยอนทำให้คยองซูใจเต้นแรงอีกแล้ว..   

               รู้ว่าแบคฮยอนไม่ได้ตั้งใจจะพูดให้คิดลึก แต่แน่นอนว่าตอนนี้ใจของคยองซูมันเต้นแรงจนแทบจะหลุดออกมาอยู่แล้ว...ความจริงมันเต้นแรงตั้งแต่ที่พี่ผู้จัดการบอกเลยต่างหากว่าแบคฮยอนจะเข้ามา..         

               
    เขินเลย เขินเลยแบคฮยอนชี้หน้าขึ้นสีของอีกคนพลางหัวเราะร่วน   

               
    ข..เขินอะไร หยุดแซวเลยนะ..แล้ว..วันนี้พี่จงอินไม่เข้ามาด้วยหรอคยองซูตัดสินใจเปลี่ยนเรื่องทันที ถ้ายอมให้แบคฮยอนแซวต่อไปละก็..อาจจะเห็นหัวใจคยองซูหลุดออกมาจากหน้าอกข้างซ้ายเลยก็ได้  

               
    จะมาทำไมกันเล่า คนฝึกงานน่ะแค่ฉันคนเดียว ที่สำคัญรายนั้นงานเขาก็เยอะ..ไม่ค่อยมีเวลาว่างหรอกแบคฮยอนหุบยิ้มทันทีที่ได้ยินคำถาม เขาก็แค่ไม่ชอบให้คยองซูพูดถึงคนอื่นในเวลาที่เรากำลังพูดถึงกันอยู่แบบนี้  
      
               
    จะหงุดหงิดทำไมแบคฮยอน..เมื่อกี้ยังอารมณ์ดีอยู่เลยนะ   

             
     “อืม..งั้นเราเริ่มฝึกงานกันเลยมั้ย อะ..นี่ผ้ากันเปื้อน ใส่ซะจะได้เริ่มงานคยองซูหันไปด้านหลังก่อนจะหยิบผ้ากันเปื้อนของร้านที่เตรียมไว้แล้วยื่นให้อีกคน   

                 
    เดี๋ยวก่อนสิ รีบหรือไง..นี่มันก็เที่ยงแล้ว กินข้าวกันก่อนดีกว่านะแบคฮยอนหยิบผ้ากันเปื้อนจากมือเล็กมาวางไว้ที่เคาท์เตอร์ข้างๆก่อนจะจูงมืออีกคนมานั่งที่โต๊ะและจัดการหยิบข้าวกล่องในกระเป๋าออกมา

                 
    ฉันให้แม่บ้านเตรียมจาจังมยอนไว้ให้นายโดยเฉพาะ ดูก็รู้ว่านายคงทำงานจนไม่ยอมกินข้าวแน่ๆ”     

                 “แต่ว่า..
         
                 “กินเลยๆ เห็นนายบ่นว่าอยากกินไม่ใช่หรอ รีบกินจะได้รีบทำงานไงแบคฮยอนพยักหน้าเป็นเชิงคะยั้นคะยอให้อีกคนรีบเปิดกล่องข้าวทาน คยองซูถอนหายใจออกมาให้กับความดื้อรั้นของแบคฮยอนแต่สุดท้ายก็ยอมกินบะหมี่ดำในกล่องนั่น

                
    อร่อยมั้ย ? แม่บ้านคนนี้เพิ่งมาทำงานที่บ้านฉันได้ไม่กี่เดือน แต่ฉันชอบมากเลยล่ะ..ป้ามินยองทำอาหารอร่อยที่สุดในสามโลกเลยแบคฮยอนพูดอวยพร้อมกับยิ้มกว้าง แม่บ้านคนที่แบคฮยอนพูดถึงก็คือแม่ของคยองซู.. คนตัวเล็กจำรสชาติจาจังมยอนที่แม่ของเขาทำให้กินบ่อยๆได้ ทั้งหน้าตาทั้งรสชาติแบบนี้นี่แหล่ะฝีมือแม่คยองซูไม่ผิดแน่ๆ  

                
    นายชอบ..เอ่อ..แม่บ้านคนนั้นหรอ หน้าตาตอนเล่านี่มีความสุขเชียวคนตัวเล็กถามพลางเคี้ยวจาจังมยอนในปากอย่างเอร็ดอร่อย    

                ถ้าแบคฮยอนชอบแม่ของคยองซู..แสดงว่าแบคฮยอนก็ไม่ได้ไม่ชอบเขา

                แล้วที่แบคฮยอนมาเป็นเพื่อนกับคยองซูก็อาจจะเป็นเพราะอยากเป็นเพื่อนกันจริงๆก็ได้   

                ทีนี้คยองซูก็จะได้เลิกคิดมาก...แล้วจองกุกก็คงจะเลิกแกล้งได้เสียที  

                
    ใช่ ฉันชอบมากเลยล่ะ..ป้ามินยองใจดีมากๆ ฉันเคยกอดด้วยนะ อุ่นสุดๆ แบคฮยอนนึกถึงตอนที่ป้ามินยองเอาอาหารเย็นขึ้นมาให้บนห้องในวันนั้น...วันที่คยองซูเกือบจมน้ำ แบคฮยอนเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้ป้ามินยองฟัง สิ่งที่ได้กลับมาคือคำพูดให้กำลังใจและอ้อมกอดที่แสนจะอบอุ่น         

                แต่แบคฮยอนไม่รู้ว่าป้ามินยองคือแม่ของคยองซู    
                และคยองซูเองก็ไม่รู้ว่าแบคฮยอนมีโรคประจำตัวเหมือนกัน

                
    ถ้าอย่างนั้น..แบคฮยอน นายก็ไม่ได้เกลียดคนจนๆใช่มั้ย..” คยองซูรีบกินจาจังมยอนให้หมดก่อนจะเอ่ยปากถามช้าๆอย่างกล้าๆกลัวๆ     

               
    เฮ้ย ! นี่ฉันจะไปเกลียดพวกเขาทำไม ไม่ได้รวยล้นฟ้าก็ไม่ได้ผิดอะไรหนิ บางคนรวยๆต่างหากที่ฉันไม่ชอบ..อย่างไอ่จองกุกที่มันชอบมาแกล้งนายไงคนถูกถามรีบส่ายหน้าทันที แบคฮยอนคิดว่าคยองซูคงต้องเข้าใจอะไรผิดไปแล้วแน่ๆที่คิดว่าคนมีฐานะต้องคบกับคนมีฐานะด้วยกันเท่านั้น                 

               แต่ก็อย่างว่า..เพราะคยองซูเป็นเด็กทุนจึงโดนคนอื่นในโรงเรียนไม่ชอบด้วยเหตุผลตลกๆอย่าง
    จน แล้วเด็กพวกนั้นที่บ้านก็ล้วนแต่มีฐานะกันทั้งนั้น เพราะแบบนี้สินะ..คยองซูถึงเข้าใจว่าคนมีฐานะต้องไม่อยากคบกับคนจน.. 
     
               
    อื้ม ! เข้าใจแล้วล่ะ ถ้าอย่างนั้น..ไปฝึกงานกันนะ”   พูดพร้อมกับยิ้มกว้างจนตายี  

               “เดี๋ยวๆแบคฮยอนคว้าข้อมือเล็กของคยองซูไว้เมื่ออีกคนเก็บกล่องจาจังมยอนเสร็จแล้วลุกขึ้น แบคฮยอนหันหลังไปหยิบทิชชู่บนโต๊ะมาสองสามแผ่นก่อนจะลุกขึ้นตามคนตัวเล็ก 

               
    ยืนอยู่เฉยๆก่อนนะ ซอสจาจังมยอนเปื้อนปากนายอ่ะพูดแค่นี้ก่อนจะเอากระดาษทิชชู่ในมือซับซอสสีเข้มที่ติดอยู่มุมปากของคนตัวเล็ก คยองซูสะดุ้งนิดๆกับสัมผัสบางเบานั่นแต่คนตัวเล็กก็ยอมให้แบคฮยอนช่วยเช็ดซอสออกจนหมด   

               
    โอเคเรียบร้อยแล้ว นี่กินยังไงให้เปื้อนเนี่ย”   

               “ขี้บ่นไปได้ ฉันขอให้นายมาเช็ดหรือไงคยองซูยู่ปาก 
       
               
    ฮ่ะๆ ขอโทษครับ ไม่บ่นแล้วครับ ไปครับฝึกงานๆแบคฮยอนหยิบกล่องข้าวใส่กระเป๋าสะพายข้างแล้วสะพายมันไว้ที่บ่าก่อนจะดันหลังเพื่อนตัวเล็กให้เดินไปที่เคาท์เตอร์พร้อมกัน แบคฮยอนหยิบผ้ากันเปื้อนที่คยองซูเตรียมไว้ให้ขึ้นมาใส่อย่างลวกๆ                                 

               
    แล้วนี่ในซีรีย์นายต้องทำอะไรบ้างเนี่ย จะได้สอนได้ถูกคยองซูถาม เวลานี้ในร้านมีแค่แบคฮยอนกับคยองซูสองคนเท่านั้น ลูกค้าไม่มีน่ะไม่ว่าหรอกนะ..แต่พนักงานคนอื่นเนี่ยสิ หายไปไหนกันหมด  
       
               
    ที่อ่านบทมาก็มีแค่กวาดๆถูๆร้าน แล้วก็ทำกาแฟให้ลูกค้าอะไรทำนองนี้แหล่ะ

               “อื้ม..โอเค อ๊ะ..ลูกค้ามาพอดี เดี๋ยวทำให้ดูนะ” 

               “ได้ๆพูดแค่นั้นก่อนจะเขยิบตัวให้ห่างจากคนตัวเล็กเพื่อที่อีกคนจะได้ทำงานได้สะดวก คยองซูพูดยิ้มแย้มกับลูกค้าก่อนจะทำเครื่องดื่มตามที่สั่งอย่างชำนาญ จัดการคิดเงินตามออเดอร์ที่สั่งแล้วยิ้มกว้างเป็นการส่งลูกค้า   
     
               
    ขอบคุณที่มาอุดหนุนร้านเรานะครับคยองซูพูดก่อนจะหันมายิ้มกว้างให้แบคฮยอน อีกคนเดินเข้ามาใกล้ๆก่อนจะเอ่ยปากชมเพราะไม่คิดว่าคยองซูจะทำงานเก่งขนาดนี้   
       
                
    ว้าววว คยองซูของฉันทำงานเก่งจัง”   

                “หืม?..ใครบอกว่าฉันเป็นของนายถ้าแบคฮยอนจะพูดประโยคล่อแหลมแบบนี้นะ..   

                
    ก็ฉันนี่แหล่ะที่บอกพูดพลางคว้าคอคนตัวเล็กเข้ามากอดโดยที่คยองซูไม่ทันทีตัว  

                “อ๊ะ..ท..ทำอะไรเนี่ย”     
     
                “แสดงความเป็นเจ้าของไง

                “โอ๊ย นี่ปล่อยเลยนะคยองซูแกะแขนของอีกคนที่พาดบ่าของเขาไว้อยู่ออก แบคฮยอนทำหน้าล้อเลียนทันที่ที่เห็นว่ายั่วโมโหคยองซูได้สำเร็จ คนตัวเล็กรีบหันหลังให้เพราะกลัวว่าแบคฮยอนจะเห็นว่าตัวเองกำลัง..ยิ้ม       

                 ใจเย็นแรงอีกแล้ว..     
              เป็นอะไรอีกเนี่ยโดคยองซู
     
     
       
                  “อ..อย่าเล่นแบบนี้อีกนะแบคฮยอนมันเขิน..   

                  
    ...ทำไมล่ะ โกรธหรอ”        

                  “ไม่ได้โกรธนะ คือ..มันหายใจไม่ออกเฉยๆ ไม่มีอะไรหรอก แฮ่ะๆคยองซูรีบหันหน้าไปหาอีกคนทันทีเพราะน้ำเสียงแบคฮยอนดูเศร้าๆเพราะคยองซูบอกว่าไม่ชอบเล่นแบบนี้ แล้วนี่ถ้าจะให้บอกว่าตัวเองกำลังเขินมันก็ยังไงๆอยู่นะ..  
     
                   แล้วจะเขินทำไมล่ะคยองซู..โอ๊ย
    !! พอแล้วๆ เลิกคิดๆ 

               
     หรอ นึกว่าโกรธซะอีก ดีใจจังที่เตี้ยไม่โกรธพูดพลางยิ้มกว้างแล้วใช้มือมาบี้จมูกคนตัวเล็ก    

                   แต่เดี๋ยวนะ...   

                   
    เมื่อกี้ว่าใครเตี้ย ?” คยองซูปัดมืออีกคนออกทันที ขมวดคิ้วมุ่นกับสิ่งที่ได้ยิน..เตี้ย!?!?   
         
                    
    เอ้า ! ตัวเองเตี้ยยังไม่รู้อีกหรอครับคุณโดแบคฮยอนหัวเราะร่าทันทีที่แกล้งอีกคนสำเร็จอีกครั้ง

                   แต่เวลาคยองซูโกรธนี่ก็..น่ารักดีนะ          

                   
    หืมมม ! แล้วคุณบยอนสูงมากเลยหรอครับ ตัวเท่าๆผมป่ะครับได้ข่าว 

                   
    สำนักไหนทำข่าวครับเนี่ย ผิดแล้วครับๆ ผมสูงกว่าคุณนะ”   
     
                   “นี่ ! แบคฮยอนหยุดเลยนะ เรื่องความสูงเอามาพูดเล่นได้หรือไง !!” คยองซูยู่ปากอีกแล้ว..ให้ตายสิครับ น่ารักจัง       
                   “โอเคๆ ไม่แกล้งแล้วก็ได้ นี่เพิ่งรู้นะเนี่ยว่านายก็เถียงเป็นเหมือนกัน          

                   
    เฉพาะกับนายแค่นั้นแหล่ะคยองซูพูดพร้อมกับแลบลิ้นให้ในตอนท้ายก่อนหันหน้าเข้าเคาท์เตอร์เหมือนเดิม   
       
                
       “โห รู้สึกเป็นคนสำคัญ”     

                   ก็สำคัญจริงๆนั่นแหล่ะ..บยอนแบคฮยอน   

                
    พอๆ เลิกเล่นได้แล้ว มาใกล้ๆฉัน..เดี๋ยวสอนทำคาปูชิโน่สูตรเด็ดพูดแค่นั้นก่อนจะหยิบส่วนผสมและอุปกรณ์มาไว้ใกล้ๆมือ แบคฮยอนเองก็เขยิบเข้ามาใกล้ๆจนบางทีคยองซูก็คิดว่ามันอาจจะใกล้เกินไปหรือเปล่า...เพราะหัวใจของเขามันเต้นแรงตลอดเลยเนี่ยสิ             

                   
    คนตัวเล็กอธิบายและสอนการทำคาปูชิโน่ไปอย่างไม่นึกรีบร้อนอะไร มือเล็กหยิบจับอะไรก็ชำนาญไปหมด แบคฮยอนเองก็ตั้งใจ...ตั้งใจมองคยองซูนี่แหล่ะ ไม่ได้ตั้งใจฟังหรอก 

                   ก็เพิ่งมารู้วันนี้ตอนมองใกล้ๆว่าคยองซูน่ารักนี้..  

                   
    แล้วนายก็จะได้คาปูชิโน่ตามที่ต้องการ อะ...ลองชิมดู อร่อยแน่ๆคนตัวเล็กพูดพร้อมกับยื่นแก้วกาแฟที่เพิ่งทำเสร็จใหม่ๆให้ แบคฮยอนรับแก้วนั่นมาพร้อมกับค่อยๆชิมคาปูชิโน่...มันอร่อยจริงๆนั่นแหล่ะครับ 
     
                  
     “อื้ม..อร่อยมากเลย”  
                   “ฮ่าๆ เห็นมั้ย..บอกแล้ว     
                   
    คยองซู...ถ้าอยากได้คาปูชิโน่ต้องใช้สูตรนี้ แล้ว ..”   
                   “...”     
                   “ถ้าแบคฮยอนอยากได้คยองซู..ต้องใช้สูตรไหนหรอ ?”     
                   ตึกตัก..ตึกตัก                                                                                                   

               

               

             
                  นาฬิกาดิจิตอลบนผนังสีครีมบอกเวลาสองทุ่มตรง ผู้จัดการเดินมาบอกให้คนตัวเล็กเลิกงานเหมือนอย่างทุกวัน คยองซูยิ้มกว้างให้ก่อนจะเดินไปหาแบคฮยอนที่นอนใส่หูฟังฟุบลงกับโต๊ะ   

                  
    แบคฮยอนคนตัวเล็กเรียก ทว่าแบคฮยอนกลับไม่ไหวติงไหนๆทั้งสิ้น ยังนอนทับท่อนแขนของตัวเองอยู่อย่างนั้น   

                  
    บยอนแบคฮยอนคยองซูเรียกอีกครั้งพร้อมกับใช้มือสะกิดไหล่อีกคนที่กำลังนอนหลับอยู่ แต่มันก็เหมือนเดิม..แบคฮยอนไม่ยอมตื่น     
         
                  เฮ้อ...บอกให้กลับไปตั้งแต่เย็นแล้วก็ไม่ยอม
       
     
                  “แบคฮยอนนา..ตื่นเถอะน้า อยากกลับบ้านแล้ว 

                 
    “….”ยังคงเงียบเหมือนเดิม แบคฮยอนไม่กระตุกหรือครางอืออะไรออกมาเลยทั้งนั้น อะไรจะไปหลับลึกขนาดนั้นกันพ่อคุณ                

                  สุดท้ายคยองซูก็ยอมแพ้ ร่างเล็กดึงเก้าอี้มานั่งลงข้างๆก่อนจะนอนทับท่อนแขนของตัวเองเหมือนแบคฮยอน หันหน้ามองอีกคนที่หลับสนิทปลุกยังไงก็ไม่ยอมตื่น..    
         
                  
    ตื่นได้แล้ว อยากกลับบ้าน.. 

                  
    ...”       

                  “นี่หลับจริงหรือแกล้งหลับเนี่ยนอนนิ่งเกินไปแบบนี้มันก็น่าสงสัยเหมือนกันนะว่าแบคฮยอนจะแกล้งหลับหรือเปล่า คยองซูจึงตัดสินใจหยิบโทรศัพท์ในมือของอีกคนออกมาก่อนจะเพิ่มระดับความดังของเสียงเพลงจนสุด
       
                  “โอ๊ยๆๆๆ คยองซู...อูยย แกล้งกันเบาๆก็ได้ หูแทบแตกเลยนะเมื่อกี้อ่ะแบคฮยอนสะดุ้งพร้อมกับรีบดึงหูฟังออก ถอนใจช้าๆเมื่อเห็นว่าคนที่มาแกล้งก็ไม่ใช่ใครที่ไหน     

                   
    ถ้าง่วงก็กลับไปนอนที่บ้าน จะมาอยู่ร้านทำไม บอกให้กลับไปตั้งแต่เย็นแล้วก็ไม่เชื่อพูดแค่นั้นก่อนจะลุกไปเก็บของที่หลังร้าน แบคฮยอนรีบตามเข้าไปเพราะรู้สึกว่าคยองซูอาจจะกำลังโกรธอยู่   

                    
    ขอโทษ..หลับลึกไปหน่อย ก็มันเพลียอ่ะ

                    “ก็บอกให้กลับไปตั้งแต่เย็นแล้วไง”     

                    “ก็จะรอไปส่งคยองซู เลิกงานแล้วใช่มั้ย..เดี๋ยวฉันไปส่งนะ
           
                    “ม..ไม่ได้นะ !” จากที่กำลังเก็บของใส่กระเป๋าอยู่คยองซูก็รีบหันหน้ากลับมาหาอีกคนทันที แบคฮยอนขมวดคิ้วกับท่าทีลุกลี้ลุกลนแปลกๆของอีกคน     

                    “เป็นอะไร ? ไม่อยากให้ไปส่งขนาดนั้นเลยหรอพูดด้วยน้ำเสียงผิดหวัง
     
                    “เอ่อ..คือ ไม่ใช่ถ้าให้แบคฮยอนไปส่งที่บ้าน..แบคฮยอนก็จะรู้ว่าบ้านคยองซูอยู่ที่ไหน แล้วจะเป็นไปได้มั้ยที่อีกคนจะมาหาที่บ้านโดยที่เขาไม่ทันตั้งตัว แบคฮยอนก็จะรู้ว่าคยองซูเป็นลูกของป้ามินยอง..แล้วอะไรจะเกิดขึ้นล่ะ แบคฮยอนอาจจะไม่คิดอะไรแต่คยองซูยังไม่พร้อมที่จะให้อีกคนรู้ตอนนี้ แล้วนี่เขาก็ต้องไปรับแม่ที่บ้านตระกูลบยอนด้วย..ให้ตายสิ  

                   
    แล้วทำไม..”     

                    “ก็ถ้านายไปส่งฉันที่บ้านนายก็จะถึงบ้านช้าไง เพลียไม่ใช่หรอ..กลับไปแล้ว”   

                    “อ๊ะ..แต่ว่า..ยังไม่ทันจะพูดจบคยองซูก็สะพายกระเป๋าแล้วดันแผ่นหลังอีกคนให้ออกมายืนรอรถที่นอกร้าน    

                   
    งั้นฉันกลับก่อนนะ บ๊ายบ่ายยย ~”

                    “เดี๋ยว ! ...ข้อมือเล็กถูกคว้าเอาไว้อีกครั้ง คยองซูมองข้อมือของตัวเล็กก่อนจะเงยมองหน้าอีกคนช้าๆ 
       
                     
    หืม..?”    
       
                    
    กลับยังไง ให้ฉันไปส่งเถอะนะ” 
     
                     “แบคฮยอน เสียงทุ้มเข้มของผู้มาใหม่เรียกให้ทั้งสองคนต้องหันไปมอง แบคฮยอนหันหลังไปก่อนจะพบเจ้าของเสียงเรียกนั้น...พ่อของเขาเอง.. คยองซูรีบแกะมืออีกคนออกเพราะดูจากสีหน้าของผู้มาใหม่แล้ว..เขากำลังไม่พอใจ 
         
                    
    ส..สวัสดีครับคยองซูโค้งศีรษะให้ผู้อาวุโสกว่าทันที ถ้าจะให้เดาคงจะเป็นพ่อของแบคฮยอนสินะ. พ่อมาทำไมครับแบคฮยอนถามด้วยน้ำเสียงเย็นชา   
               
                   
    มารับแกไง ฉันโทรไปตั้งหลายรอบทำไมไม่รับ นึกว่าเป็นอะไรไป”     

                    “ผมไม่ได้เป็นอะไร บอกแล้วครับว่าผมสบายดี” 
       
                    “แกควรจะดูแลตัวเองบ้างนะ แค่ถ่ายละครก็หนักแล้ว ถ้าอาการกำเริบ..” 
     
                    “มารับผมไม่ใช่หรอครับ งั้นเราก็กลับได้แล้วล่ะยังไม่ทันที่คนเป็นพ่อจะพูดจนจบ แบคฮยอนก็พูดตัดบทขึ้นมาเสียอย่างนั้น   
                                         
                   แบคฮยอนแค่ไม่อยากให้คยองซูรู้ว่าเขามีโรคประจำตัว..   
                   แค่ไม่อยากให้คยองซูเป็นห่วง   

                   
    ไปก่อนนะคยองซู กลับบ้านดีๆล่ะ..ขอโทษนะที่ไม่ได้ไปส่งหันหลังกลับมาบอกลาเพื่อนตัวเล็กพร้อมกับยิ้มบางๆให้แล้วเดินขึ้นรถไป พ่อของแบคฮยอนมองหน้าคยองซูด้วยสายตาเรียบเฉยก่อนจะขึ้นรถตามหลังไปพร้อมๆกัน
     
                 นี่พ่อแบคฮยอนไม่ชอบคยองซูหรือยังไงกันนะ..    


     
               .              
                    .                                          

                    “เพื่อนเราหรอบยอนแทซองเอ่ยถามออกมาทำลายความเงียบในรถ แบคฮยอนแค่พยักหน้าตอบอย่างไม่ใส่ใจ

                    
    ที่บ้านเขาทำธุรกิจอะไรล่ะ”     

                    “ไม่ได้ทำธุรกิจอะไรหรอกครับ โดคยองซูเป็นเด็กทุนแล้วก็เป็นเพื่อนของผมแบคฮยอนอธิบาย เข้าใจในทันทีที่พ่อของเขาถามว่าที่บ้านคยองซูทำงานอะไร จะให้คบคนที่ฐานะสินะ 

                     เหอะ.. 

         
              “อะไร เป็นแค่เด็กทุน แล้วแกกล้าไปคบ..”   
     
                    “ผมบอกแล้วไงว่าผมจะคบใครมันก็เรื่องของผม ชีวิตผมผมจัดการเองได้
         
                    “….” 

                    “แล้วพ่อก็ไม่ต้องไปพูดป่าวประกาศว่าผมไม่ค่อยแข็งแรง อาการผมดีขึ้นกว่าเมื่อก่อนแล้วครับแบคฮยอนเถียงสุดใจ แทซองเองก็รู้ว่าลูกเป็นแบบไหน ชอบแบบไหน...แต่สุดท้ายก็ยังฝืน 

                   
    งั้นแกก็จำไว้ว่าพ่อไม่ชอบเพื่อนที่ชื่อโดคยองซูของแก อย่าให้เห็นว่าอยู่ด้วยกันอีกพูดแค่นั้นก่อนที่บรรยากาศในรถจะกลับมาเงียบและอึมครึมอีกครั้ง แบคฮยอนมองออกไปข้างนอกโดยไม่นึกใส่ใจคำพูดพ่อของตัวเอง 

                     แทซองคงลืมไปว่าไม่มีอะไรมาห้ามลูกของตัวเองได้..

                           

               


     TBC.

    หูยยย..พ่อพี่แบคไม่ชอบคยองแล้วแบบนี้ความรักของเราทั้งสองจะผ่านไปได้อย่างไร ~

    งานนี้พี่แบคก็อุตส่าห์หยอดคยองซูไปตั้งหลายดอก

    ตั้งใจอยากให้ฟินก็ได้แค่นี้จริงๆแหล่ะ ไม่ถนัดค่ะงานฟินฮ่าๆๆ  

    สุดท้ายนี้เม้น + แท็ก #FicBD เพื่อกำลังใจ ~ ให้เค้าด้วยน้า

                                                                                        จุ้บๆ                                                                                                                                                                                            

     

     

    © themy  butter
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×