คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : บทนำ △
{Baekhyun x D.O}
#FicBD
::บทนำ::
เพราะมนุษย์คือสัตว์สังคม..มันจึงเป็นเรื่องยากที่เราจะสามารถอยู่ได้ด้วยตัวคนเดียว
บางครั้ง…มนุษย์ที่มีทั้ง‘คนรัก’ ‘เพื่อน’ และ ‘คนรอบข้าง’
ก็ยังเหงาและเศร้าอยู่ก็บ่อย…
แต่มนุษย์บางคน…ไม่มีทั้ง ‘คนที่รัก’ และ ‘เพื่อน’ หรือคนรอบข้างอยู่เลย
พวกเขาเหล่านั้นจะโดดเดี่ยวขนาดไหน
…..พวกคุณเคยหันกลับไปมองหรือเปล่า…..
“เฮ้ยพวกเรา ! คยองซูมาโรงเรียนแล้วเว้ย !” เสียงเด็กชายวัยมัธยมปลายซึ่งเป็นหัวโจกประจำห้องตะโกนขึ้นเมื่อเห็นร่างของคนตัวเล็กเดินก้มหน้าก้มตาเข้ามา เรียกเสียงโห่และเสียงหัวเราะจากเพื่อนร่วมชั้นได้เป็นอย่างดี
ยิ่งเสียงโห่และเสียงหัวเราะดังมากเท่าไหร่คยองซูก็ยิ่งไม่กล้าที่จะเดินเข้าไปในห้องเรียนมากเท่านั้น คนตัวเล็กจึงต้องหยุดเดินและยืนนิ่งอยู่ที่เขตประตูห้องพร้อมกับก้มหน้างุดคางแทบจะชิดอกอยู่อย่างนั้น
ถึงโต๊ะเรียนของคยองซูจะอยู่หลังห้องแต่เขาก็ไม่มีสิทธิ์ได้ใช้ประตูหลัง…เพราะถ้าคยองซูใช้มันคนตัวเล็กก็จะไม่ถูกปาข้าวของใส่เหมือนทุกวัน…แต่จะโดนกระทำเหมือนไม่ใช่คนมากกว่า
“เดินเข้ามาสิคยองซู กลัวอะไรหรอเด็กน้อย” เด็กน้อย…ฉายาที่ถ้าใครหลายๆคนได้รับมันมันอาจจะดูน่ารัก แต่มันกลับไม่เข้ากับวัยมัธยมปลายของคยองซูเอาเสียเลย
ที่สำคัญมันไม่ได้มีความหมายว่าคยองซูน่ารักหรอกนะ แค่คยองซูตัวเล็ก..แค่คยองซูสู้คนอื่นไม่ได้...แค่คยองซูยอมถูกแกล้งมาตลอด ก็เลยต้องยอมถูกเรียกว่า ‘เด็กน้อย’ แบบนี้นี่แหล่ะ
คยองซูเงยใบหน้าหวานขึ้นมองหัวโจกของห้องที่พูดขึ้นเพียงแวบหนึ่งก่อนจะถอนหายใจน้อยๆแล้วยอมก้าวขาเล็กเข้าห้องไป
และหลังจากนั้น…ของต่างๆมากมายก็ถูกปาเข้ามาที่ตัวคยองซูเต็มไปหมด โดนทั้งศีรษะ ใบหน้า แขนและขา มันเจ็บไปหมดทุกส่วนนั่นแหล่ะ โดยเฉพาะข้างใน…อวัยวะใต้อกข้างซ้าย..เจ็บที่สุด
“ที่นั่งนายใกล้ถังขยะฝากเอาไปทิ้งหน่อยนะคยองซู พอดีสมุดเล่มนั้นไม่ใช้แล้วน่ะ อ้อ ! จะเอาไปใช้เองก็ได้นะ ได้ข่าวว่าที่บ้านยากจน ฮ่าๆๆ” เสียงเด็กชายอีกคนพูดและตามมาด้วยเสียงหัวเราะของเพื่อนทั้งห้องอีกเช่นเคย เมื่อสิ่งของที่ถูกปาเข้ามาใส่ร่างของคยองซูหล่นลงพื้นและคำด่าทอพวกนั้นจบลงคนตัวเล็กจึงค่อยๆก้มเก็บขยะเหล่านั้นตามคำสั่ง พร้อมกับเสียงหัวเราะชอบใจของเพื่อน
หัวเราะเยาะเหมือนคยองซูเป็น..ผู้แพ้
เมื่อคนตัวเล็กเดินมาถึงโต๊ะเรียนของตนที่อยู่หลังห้องก็จัดการวางกระเป๋าและนำสิ่งที่อยู่ในมือทิ้งลงถังขยะตามคำสั่งอย่างเลือกไม่ได้ เพราะสิ่งของพวกนั้นมันไม่มีค่า…
‘ฝากทิ้งขยะด้วยนะ’ มันก็แค่ข้ออ้างของคนที่อยากแกล้งปาข้าวของมาใส่ก็เท่านั้นแหล่ะ…คยองซูรู้ดี
ร่างเล็กทิ้งตัวลงนั่งประจำที่…โต๊ะเรียนตัวเดียวโดดๆหลังห้องที่ถูกขีดเขียนด้วยถ้อยคำด่าทอต่างๆนั่นแหล่ะคือที่ของคยองซู
ต้องนั่งคนเดียว…
เดินคนเดียว…
ถูกแกล้ง..นี่แหล่ะชีวิตของเขา
แม้กระทั่งเวลามีนักเรียนใหม่เข้ามา เพื่อนๆในห้องก็จะกีดกันและด่าทอคยองซูให้เด็กใหม่ฟังจนไม่มีใครคิดอยากจะคบกับคยองซูเป็นเพื่อนเลยสักคน มันก็คงไม่แปลกที่จะไม่มีใครอยู่ข้างคยองซูเลย
ส่วนเหตุผลที่โดนแกล้งน่ะหรอ…ก็เพราะ ‘จน’ ยังไงล่ะ เพราะแม่ของคยองซูไม่ได้เป็นเจ้าของกิจการใหญ่โต เพราะคยองซูได้ทุนมาเรียนโรงเรียนนี้….โรงเรียนที่พวกลูกคนรวยเขาเรียนกัน คนจนๆอย่างคยองซูก็เลยถูกหมั่นไส้เป็นธรรมดา ถ้าจะให้ไปเรียนที่อื่นเขาก็คงไม่มีเงินไปจ่ายค่าเทอมหรอก…อย่างกับซีรีย์เกาหลีอะไรทำนองนั้น แต่ตัวละครในซีรีย์ที่ถูกแกล้งก็ยังมีเพื่อน ตรงข้ามกับคยองซู…ที่ไม่มีเพื่อนเลยสักคน
เพราะเดินไปไหนก็โดนแกล้ง เดินไปไหนก็ถูกจิกตาใส่ คนตัวเล็กก็เลยต้องเดินก้มหน้าจนตอนนี้มันกลายเป็นท่าเดินของคยองซูไปแล้ว
อีกปีเดียวก็จบแล้วล่ะคยองซูทนหน่อยนะ…
“เอาล่ะค่ะนักเรียนทุกคน…วันนี้ห้องเรามีเพื่อนใหม่ย้ายเข้ามาใหม่นะคะ” เสียงเล็กแหลมของอาจารย์ประจำชั้นดังขึ้นที่หน้าห้อง อาจารย์เดินเข้ามาตอนไหนคยองซูไม่เคยสนใจหรอก…คนตัวเล็กได้แต่นั่งก้มหน้าเหม่อลอยอยู่แบบนี้เสมอแหล่ะ
“สวัสดีเพื่อนๆทุกคนนะ เราชื่อบยอนแบคฮยอน เพิ่งย้ายเข้ามา…ยังไงก็ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะ” เสียงเด็กนักเรียนชายคนใหม่พูดขึ้น แบคฮยอนอะไรนี่หน้าตาเป็นยังไงไม่รู้หรอก เพราะคนตัวเล็กเอาแต่นั่งก้มหน้าอยู่แบบนี้
“แบคฮยอนหรอ…น่ารักอ่ะแก~” เสียงคุยกันกระซิบกระซาบของนักเรียนหญิงในห้องดังขึ้น คยองซูได้ข้อสันนิษฐานใหม่ นอกจากแบคฮยอนจะเป็นผู้ชายแล้ว..คงจะหน้าตาดีด้วยสินะ
“แบคฮยอนไปนั่งที่ว่างได้เลยนะ เลือกเอาเลยว่าจะนั่งตรงไหน..เหลืออยู่สองที่” อาจารย์ที่ปรึกษาพูดขึ้นพร้อมกับยิ้มให้แบคฮยอนบางๆ ร่างสูงโค้งตัวให้อาจารย์ก่อนจะเดินมานั่งที่…
ที่ตรงนั้นก็คือโต๊ะข้างหน้าคยองซู..แต่เหตุผลคงจะไม่ใช่เพราะแบคฮยอนอยากจะมาเป็นเพื่อนกับคยองซูหรอก มันคงเป็นเพราะซูจองมากกว่า..เธอเป็นที่รู้จัก ทั้งขาวทั้งน่ารัก แถมยังเป็นทายาทอันดับสองของสถานีโทรทัศน์อันดับหนึ่งของเกาหลีอีก ใครๆก็อยากคบหาเป็นธรรมดา แต่ติดที่ว่าเธอออกจะหยิ่งอยู่หน่อยๆก็เท่านั้นเอง
“สวัสดีแบคฮยอน ยอมมาเรียนที่นี่แล้วหรอ” ซูจองทัก สะลัดคราบสาวจอมหยิ่งทิ้งทันที
“อืม” แต่กลับกลายเป็นแบคฮยอนผู้ร่าเริงเองต่างหากที่ดูหยิ่งขึ้นมาทันตา
“เย็นนี้เลิกเรียนเสร็จแล้วนายมีอัดรายการใช่มั้ย…งั้นเราไปด้วยกันนะ วันนี้ฉันจะเข้าตึกของสถานีไปหาป๊าพอดี”
“อืม”
ข้อสันนิษฐานข้อที่สอง เหมือนสองคนนี้จะรู้จักกันสินะก็เลยมานั่งด้วยกัน…คยองซูคิดว่าอย่างนั้น
“อีกสิบนาทีจะเริ่มเรียนวิชาแรกให้นักเรียนเตรียมสมุดกับหนังสือขึ้นมารออาจารย์นะคะ” อาจารย์ที่ปรึกษาคนเดิมว่าจบ นักเรียนก็ทำความเคารพแล้วเธอจึงเดินออกจากห้องไป เสียงจ้อกแจ้กจอแจในห้องจึงเริ่มดังขึ้นอีกครั้ง
และครั้งไหนที่ไม่มีอาจารย์…คยองซูก็มักจะโดนแกล้งเสมอ
ปึก!
แผ่นกระดาษหลายแผ่นที่ถูกปั้นจนเป็นก้อนกลมๆก้อนใหญ่ถูกโยนมาโดนศีรษะของคยองซู ถึงความรู้สึกเจ็บกายมันจะมีไม่ค่อยมากแต่มันก็ยากที่คยองซูจะไม่เจ็บใจ เมื่อก้อนกระดาษหลายๆก้อนถูกโยนมาที่ตัวคยองซูคนตัวเล็กก็เริ่มโกรธ.แต่เขาก็ทำได้แต่นั่งก้มหน้าอยู่แบบนี้แหล่ะมันคือสิ่งเดียวที่คยองซูทำได้
“มัวทำอะไรอยู่ล่ะคยองซู เอาไปทิ้งสิ…อาชีพเก็บขยะน่าจะเหมาะกับเด็กจนๆแบบนายนะ ฮ่าๆๆ” ถึงจะเจ็บใจที่โดนดูถูกแต่ผู้แพ้อย่างคยองซูก็จำต้องลุกจากโต๊ะเรียนและก้มลงไปเก็บเศษกระดาษพวกนั้นลงถังขยะตามคำสั่งของคนผู้ชนะ
“โยนมาทำไมไม่เป็นคนทิ้งเองล่ะ..” คยองซูบ่นพึมพำเบาๆ
“เฮ้ย !จองกุก คยองซูแม่งบ่นด้วยว่ะ..เมื่อกี้กูได้ยิน”
“นี่ซูจอง ทำไมคนที่ชื่อคยองซูถึงโดนแกล้งแบบนี้อ่ะ ไม่ห้ามหรอ” แบคฮยอนหันไปถามซูจองที่นั่งอยู่ข้างๆเมื่อเห็นเหตุการณ์ที่เหมือนกับว่าเพื่อนใหม่ที่ชื่อ ‘คยองซู’ กำลังจะโดน ‘จองกุก’ หัวโจกของห้องแกล้งอะไรทำนองนั้น
“เฮ้อ..จองกุกอ่ะหัวโจกของห้อง ส่วนคยองซูน่ะโดนเพื่อนเกลียดทั้งห้อง..ไม่สิ ทั้งโรงเรียนเลยมั้ง” ซูจองอธิบายทำท่าทางเบื่อหน่าย เรื่องจองกุกแกล้งคยองซูเป็นเรื่องที่มันต้องเกิดขึ้นทุกวันอยู่แล้ว ซูจองมองว่าเรื่องพวกนี้ว่ามันไร้สาระเธอจึงไม่เคยเข้าไปยุ่งหรือไปแกล้งอะไรคยองซูหรอก
“เขาก็น่ารักดีหนิ..ไปแกล้งเขาทำไม” ถึงจะได้คำตอบแต่แบคฮยอนก็ยังไม่เลิกสงสัย สายตาคมยังคงจับจ้องไปที่จองกุกที่กำลังเดินไปหาเพื่อนตัวเล็ก
“เหตุผลที่คยองซูโดนแกล้งอยู่ทุกวันน่ะหรอ….ก็เพราะที่บ้านจนน่ะสิ แล้วจองกุกก็เกลียดพวกเด็กทุนอาศัยงบโรงเรียน ใครคบกับคยองซูก็โดนจองกุกอัดจนน่วมหมดแหล่ะ” ซูจองว่าก่อนจะหันไปมองจองกุกกับคยองซูที่อยู่หลังห้องเหมือนเพื่อนคนอื่นๆ
ไม่มีใครกล้าเข้าไปห้ามเลยสักคน
“ทำไม บ่นอะไร” จองกุกถามเสียงเรียบพลางกระชากคอเสื้อคยองซูให้ลุกขึ้นมามองหน้ากัน แต่มีหรือที่คนตัวเล็กจะกล้า…คยองซูก็ทำได้แค่เบือนหน้าหนีไปเท่านั้น
“ฉันถามว่าบ่นอะไร !”
“พะ..พวกนายทำไมไม่เอาขยะไปทิ้งเองกันบ้างล่ะ ทำไมต้องโยนมาใส่ตัวฉัน…มันเจ็บนะ” คยองซูพูดน้ำเสียงแผ่วเบา
จองกุกอะไรนี่ท่าจะเกลียดคยองซูมากสินะ..แบคฮยอนคิดว่าอย่างนั้น
“ก็แม่แกเก็บขยะขายไม่ใช่หรอ ลูกก็น่าจะทำได้ดีนี่ แล้วก็..บางทีเราก็มองแกเป็นถังขยะไร้ค่าว่ะ”
“แม่ฉันไม่ได้เก็บขยะขาย ! อย่ามาว่าแม่ฉันนะ ! ” เป็นครั้งแรกที่คยองซูกล้าเผชิญหน้ากับจองกุกที่แสนร้ายกาจ
“เถียงหรอคยองซู ห้ะ!”
ตุ้บ !
จองกุกผลักคนตัวเล็กกว่าให้ลงไปนอนกองอยู่กับพื้นก่อนจะใช้ของต่ำเตะเข้าไปที่ขาและตามเนื้อตามตัวของคยองซูอย่างแรงจนกายเล็กเริ่มบอบช้ำ แต่คนที่ถูกกระทำก็ได้แค่นอนขดตัวอยู่ที่พื้นให้โดนทำร้ายอยู่อย่างนั้น
บอกแล้ว…ยังไงคยองซูก็คือผู้แพ้
“เฮ้ย !อย่าแกล้งเพื่อนดิจองกุก” แบคฮยอนลุกขึ้นหลังจากทนดูเหตุการณ์ไม่ไหว
“ยุ่งอะไรเด็กใหม่ ถ้าไม่อยากเจอดีก็อยู่เฉยๆ” แต่จองกุกกลับสวนกลับอย่างไม่ใส่ใจ ทั้งยังทิ้งคำขู่ไว้อีกต่างหาก..แต่คิดหรอว่าคนอย่างแบคฮยอนจะกลัว
“เฮ้ย อาจารย์มาแล้ว” เสียงเพื่อนอีกคนตะโกนมาจากหน้าห้อง นักเรียนทุกคนหันกลับมาประจำที่ของตัวเอง ทำตัวเป็นปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เพราะแบบนี้ยังไงล่ะ…อาจารย์ถึงไม่รู้ว่าคยองซูถูกเพื่อนแกล้ง ไม่มีใครช่วยคยองซูได้สักคน
การเรียนในแต่ละวิชาผ่านไปอย่างเชื่องช้า คยองซูเหม่อบ้าง….ฟังอาจารย์บ้าง เขาไม่ใช่ลูกศิษย์คนโปรดของอาจารย์วิชาไหนเลยสักคน ถ้าในคาบคยองซูไม่ถูกสุ่มให้ตอบคำถามเขาก็คงจะไม่เคยคุยกับอาจารย์เลยสักครั้ง คนตัวเล็กเอาแต่นั่งเงียบ ดวงตาก็มีแต่จ้องตัวหนังสือก็เท่านั้น
ถ้าจะให้เดา…คยองซูคิดว่าพวกอาจารย์คงรู้นั่นแหล่ะว่าตัวเองโดนแกล้ง เพราะบนโต๊ะเรียนมีแต่คำด่าทอเต็มไปหมดแบบนี้ เหอะ… แต่จองกุกเป็นลูกคนใหญ่คนโต ที่บ้านบริจาคเงินให้โรงเรียนแต่ละทีก็เป็นหลักสิบล้าน ไม่มีใครกล้าทำอะไรจองกุกหรอก
กริ๊งง !
เสียงออดเป็นสัญญาณหมดเวลาของคาบเรียนสุดท้ายในช่วงเช้าดังขึ้น นักเรียนทุกคนเดินออกจากห้องเพื่อตรงไปยังโรงอาหารสุดหรูของโรงเรียน ยกเว้นก็แต่คยองซูกับแบคฮยอนนี่แหล่ะที่ไม่ยอมลุกออกไป
แบคฮยอนนอนแหมะลงกับโต๊ะเรียนทันทีเมื่อหมดคาบ คยองซูจัดการเก็บอุปกรณ์การเรียนทุกอย่างลงไปแล้วนำห่อข้าวมาวางไว้แทน ดวงตากลมแอบหลุบมองร่างของเพื่อนใหม่ที่นอนอยู่ไม่ยอมออกไปไหน
แต่ถึงอย่างนั้นคยองซูก็ไม่ได้สนใจหรอกนะว่าทำไมอีกคนถึงไม่ออกไป..
มือเล็กจัดการเปิดฝากล่องข้าวพลาสติกที่ตัวเองเตรียมมาช้า กับข้าวตรงหน้าของคยองซูมันไม่ใช่อาหารที่มีหน้าตาน่าทาน…มันเป็นแค่ข้าวเปล่ากับกิมจิแค่นิดๆหน่อยๆก็เท่านั้น
“ทำไมไม่ไปกินข้าวที่โรงอาหาร” แบคฮยอนเลิกฟุบโต๊ะ พร้อมกับถามเสียงเรียบก่อนจะหันมาหาอีกคน คยองซูได้แต่นิ่งอึ้งไม่กล้าสบตาเพื่อนใหม่ ก็แค่สงสัย..ว่าทำไมแบคฮยอนถึงยังกล้าคุยกับตัวเองทั้งๆที่เพิ่งโดนจองกุกขู่ไปเมื่อเช้า
“….”
“ค่าอาหารกลางวันเขาก็รวมเข้าไปในค่าเทอมอยู่แล้วนี่ ไม่เสียดายตังค์หรือไง จะห่อข้าวมาทำไม…มีแต่กิมจิกับข้าวเปล่าแค่นี้จะอิ่มหรอ”
ไม่เคย…ไม่เคยมีใครถาม ไม่เคยมีใครคุยกับคยองซูเหมือนแบคฮยอนเลย
“อ..อิ่มสิ” คยองซูตอบเสียงพร่าทั้งที่ยังไม่ได้มองหน้าแบคฮยอนเลยด้วยซ้ำ
“ไป..กินข้าวด้วยกัน” แบคฮยอนลุกขึ้นก่อนจะคว้าข้อมือเล็กให้ลุกตาม
“อ๊ะ..ม..ไม่ นายไปเถอะ” คยองซูมองหน้าแบคฮยอน…เพิ่งเห็นชัดๆก็ตอนนี้แหล่ะว่าอีกคนหน้าตาดีขนาดไหน
“….”
“ถ้าฉันไป..คนอื่นก็จะมาแกล้ง ฉันกินข้าวเที่ยงคนเดียวแบบนี้มาตั้งนานแล้วล่ะ นายไปเถอะ” ส่งยิ้มบางๆให้อีกคนพร้อมแกะมือของแบคฮยอนออกแล้วจึงนั่งลงกับโต๊ะเหมือนเดิม
แบคฮยอนถอนหายใจกับความดื้อรั้นของอีกคนก่อนจะเดินออกจากห้องแล้วตรงไปยังโรงอาหาร กะไว้ว่าจะตักข้าวเที่ยงไปให้คนตัวเล็กด้วย กินแค่นั้นคงไม่อิ่มแน่ๆ
เมื่อแบคฮยอนเดินออกไป ห้องทั้งห้องจึงเหลือแค่คยองซูคนเดียวเท่านั้น ร่างเล็กก้มลงจัดการกับข้าวเที่ยงของตัวเองช้าๆ ผ่านไปกว่าสิบนาทีที่คยองซูอยู่ในห้องคนเดียว และไม่นานก็รู้สึกได้ว่ามีคนเดินเข้ามาในห้อง
จองกุก..
“กินข้าวอยู่หรอคยองซู”
“ช..ใช่” คยองซูตอบคนตัวโตกว่าที่กำลังเดินเข้ามาหาตน มือเล็กวางลงที่ข้างกล่องข้าวพร้อมกับกำตะเกียบแน่น ไม่รู้ว่าจองกุกจะมาหาเรื่องอะไรเขาอีกหรือเปล่า
หัวโจกของห้องเดินมาจนถึงโต๊ะเรียนที่คยองซูกำลังนั่งทานข้าว จ้องคนตัวเล็กได้ไม่นาน…กล่องข้าวพลาสติกที่ในนั้นยังมีข้าวอยู่เกือบเต็มก็ถูกปัดตกจากโต๊ะลงพื้นห้องอย่างแรง เม็ดข้าวและส่วนผสมของ กิมจิกระจัดกระจายไปทั่ว
คยองซูนิ่งค้าง...ไม่กล้าแม้แต่จะก้มมองเม็ดข้าวบนพื้น ไม่กล้าแม้แต่จะขยับ ไม่รู้ว่าอีกคนไปโกรธอะไรมาถึงได้มาทำลายข้าวของของตัวเองแบบนี้
“จ..จองกุก นี่ข้าวเที่ยงฉันนะ” ในที่สุดคยองซูก็ตัดสินใจพูดออกไป แต่น้ำเสียงมันทั้งสั่นและเต็มไปด้วยความกลัว
“แกไปบอกพ่อทำไมว่าฉันแกล้งแก !” จองกุกตะโกนเสียงดังพร้อมกับชี้หน้าคนตัวเล็ก คยองซูเงยใบหน้าขึ้นมองคนตรงหน้าช้าๆอย่างงงๆ
“บ..บอกอะไร อ๊ะ…โอ๊ย!” ยังไม่ทันที่คยองซูจะเข้าใจอะไรจองกุกก็กระชากคอเสื้อคนตัวเล็กให้ลุกขึ้นแล้วผลักร่างของคยองซูให้กระแทกกับผนังห้องอย่างแรง
“ไม่ต้องมาทำเป็นไม่รู้เรื่อง ! คิดว่าบอกพ่อฉันแล้วฉันจะไม่แกล้งแกหรอคยองซู หึ..คิดผิดแล้วล่ะเด็กน้อย ถ้าฉันกลับไปแล้วโดนพ่อทำโทษ แกจะโดนหนักยิ่งกว่า !”
“ฉันไม่รู้จักพ่อนายนะ โอ๊ย!” คยองซูเซล้มลงกับพื้นอีกครั้งเมื่อถูกหมัดหนักๆชกเข้าที่แก้มเนียน
“ถ้าไม่ใช่แกแล้วจะเป็นใคร ! คนอื่นเค้ากลัวฉันทั้งโรงเรียนแม้กระทั่งผู้อำนวยการ ทำไม..เดี๋ยวนี้เก่งหรอ !”
“โอ๊ย ! ฮึก ไม่ได้ทำ ฉันไม่ได้ฟ้อง โอ๊ย !” จองกุกเตะเข้าที่ช่องท้องของคยองซูอย่างไม่สนใจใยดี ถึงแม้อีกคนจะร้องไห้เสียงดังหรือปฎิเสธขนาดไหน แต่ยังไงก็โดนทำร้ายอยู่ดี
ไม่เคยมีใครสงสารคยองซูหรอก…
“ฉันไม่ได้ทำจริงๆ ฮึก..พอแล้ว โอ๊ย !” เสียงอ้อนวอนของคยองซูดังก้องไปทั่ว จองกุกจึงต้องหยุดการกระทำของตัวเองเพราะกลัวจะมีใครมาเห็นเข้าแล้วเรื่องจะยิ่งแย่ไปกันใหญ่
คนตัวเล็กยังคงนอนขดตัวนิ่ง แผ่นหลังบางแนบชิดติดกับผนังห้อง เสื้อผ้ายับยู่ยี่และมีรอยเปื้อนเต็มไปหมด
เจ็บไปหมดทั้งตัว..
“ถ้าแกไม่ได้ทำแล้วใครจะทำ ! ไอ้เด็กขอทาน !”
“ฉันทำเอง” เสียงบุคคลที่สามดังขึ้นจากด้านหลัง จองกุกหันไปทางต้นเสียงเหมือนคนตัวเล็กที่ค่อยๆยันตัวลุกขึ้น
“แกเองหรอ ยุ่งอะไรด้วยว่ะไอ้เด็กใหม่ ! แกต้องเจอดีแน่ !” กลับกลายเป็นแบคฮยอนที่โดนจองกุกกระชากคอเสื้อแทน หากแต่คนที่โดนกระทำกลับจ้องตาจองกุกอย่างไม่มีท่าทีหวาดกลัวใดๆ
“เหอะ..แล้วถ้าฉันกลัวนายฉันจะฟ้องพ่อนายทำไม”
“ไอ้..!!” แบคฮยอนผลักร่างของจองกุกออกให้ตัวเองหลุดจากพันธนาการเหล่านั้นก่อนจะเริ่มพูดต่อ
“พ่อนายรออยู่ที่ห้องปกครองแล้ว รีบไปสิอย่าให้ท่านรอ โรงเรียนนี้จัดการเร็วดีนะ ฉันบอกพ่อนายตอนคาบที่สอง ดูสิ…พอเที่ยงก็มาเลย” แบคฮยอนพูดเสียงเรียบพร้อมกับยกยิ้มร้าย ถึงจองกุกจะโมโหและรู้สึกขัดใจแค่ไหนก็ต้องลุกและรีบเดินออกไป โดยไม่ลืมที่จะทิ้งสายตาอาฆาตแค้นเอาไว้
“คนที่ทำให้คนอย่างจอนจองกุกกลัวได้ขนาดนี้คงมีแค่พ่อจริงๆสินะ ฮ่าๆนึกไว้แล้วไม่มีผิด” แบคฮยอนพูดกับตัวเองอย่างอารมณ์ดีพลางมองแผ่นหลังของอีกคนที่กำลังเดินออกจากห้องเรียนไป
คยองซูเดินมาเก็บเม็ดข้าวที่หกเรี่ยราดเข้ากล่องข้าวพลาสติกของตนหลังจากที่จองกุกเดินออกจากห้องไปแล้ว แบคฮยอนมองการกระทำของคนตัวเล็กอย่างไม่วางตา
ถ้าแบคฮยอนไม่ได้ตาฝาด…เมื่อกี้เขาเห็นน้ำตาของคยองซูนะ..
“มาเดี๋ยวช่วยเก็บ” คนตัวสูงกว่า ย่อเข่าลงก่อนจะใช้มือรวบเม็ดข้าวที่กระจัดกระจายเข้ามาแล้วเก็บใส่กล่องเหมือนที่คยองซูกำลังทำอย่างไม่นึกรังเกียจ คนตัวเล็กมองหน้าแบคฮยอนแวบหนึ่งก่อนจะก้มหน้าลงเก็บเม็ดข้าวต่อ
“ม..ไม่ต้อง”
“เอาน่า รีบเก็บจะได้รีบไปกินข้าวกัน” แบคฮยอนพูดยิ้มๆ
“บอกแล้วไงว่าไปไม่ได้ ที่สำคัญข้าวฉันก็หกหมดแล้ว…ไม่มีอะไรกินแล้วล่ะ” คยองซูพูดเมื่อเก็บเม็ดข้าวที่ตกจนหมด และตอนนี้มือของทั้งสองคนก็เปื้อนไปด้วยอาหารกลางวันของคนตัวเล็ก
“งั้นพาไปล้างมือหน่อยสิ ฉันเพิ่งย้ายมาวันนี้ไปรู้ว่ามีตรงไหนล้างมือได้บ้างน่ะ” ตัวเล็กแอบคิดนะว่าแบคฮยอนโกหก แต่ก็ช่างเถอะ
“อืม..ไปสิ” คยองซูตอบรับก่อนจะลุกขึ้นและเดินนำอีกคนไปยังอ่างล้างมือ แบคฮยอนสังเกตท่าเดินของคนตัวเล็ก….จังหวะการเดินไม่ช้าไม่เร็ว มือเล็กทั้งสองข้างต้องจับกันไว้ตลอด บางทีก็ให้มือมันถูกันบ้าง บางทีก็เล่นนิ้วของตัวเองบ้าง แต่ที่แน่ๆใบหน้าหวานนั่นมักจะก้มต่ำจนคางแทบชิดอกเสมอ
ท่าเดินประจำของคยองซูเลยสินะ
คนตัวเล็กหยุดเดินเมื่อพาเพื่อนใหม่มายังอ่างล้างมือหน้าห้องน้ำชายเรียบร้อยแล้ว คยองซูเงยหน้ามองแบคฮยอนเพียงแวบหนึ่งแล้วก็กลับไปก้มหน้าต่อ
เคยมองอย่างอื่นนอกจากพื้นมั้ยเนี่ยคยองซู
“ถึงแล้ว..ฉันไปก่อนนะ” คยองซูพูดเสียงเบาก่อนทำท่าจะเดินออกไป แต่ยังไม่ทันไรข้อมือเล็กของตัวเองก็ถูกเพื่อนใหม่ยื้อไว้ทันที
“จะไปไหน นายก็ต้องล้างเหมือนกันนะ ดูสิเม็ดข้าวติดเต็มมือเลย” แบคฮยอนดึงร่างอีกคนเข้ามาก่อนจะเปิดก็อกน้ำให้สายน้ำไหลผ่านมือของแบคฮยอนและมือของคยองซูที่กำลังถูกกอบกุมไว้..
แบคฮยอนใช้มือของตัวเองถูกับเล็กมือของคยองซูเบาๆให้เม็ดข้าวที่ติดอยู่หลุดออกไป ทั้งสองคนไม่ได้พูดอะไรกันอยู่นานหลายนาที แบคฮยอนจะรู้หรือเปล่านะว่าตอนนี้…คยองซูรู้สึกดีมากๆเลย
“ล..ล้างเองก็ได้” คนตัวเล็กชักมือของตัวเองออกมาจากการกอบกุมแล้วหันไปล้างกับก๊อกที่อยู่ข้างๆ
แต่คยองซูดีใจจริงๆนะ…ที่มีคนมาคุยด้วยดีๆแบบนี้
“คยองซู ทำไมนายต้องเดินต้องนั่งก้มหน้าต่ำๆด้วยล่ะ” แบคฮยอนเริ่มเปิดประเด็นที่ตัวเองสงสัย แต่อีกคนก็ยังไม่ยอมตอบ เขาจึงลองถามคำถามต่อไป
“แล้วทำไมต้องยอมให้จองกุกมันแกล้ง สู้บ้างก็ได้”
“เคยสู้แล้ว…แต่โดนหนักกว่าเดิม”
“งั้น….” ยังไม่ทันที่แบคฮยอนจะพูดจบ เสียงหวานของคยองซูก็เอ่ยขึ้นตัดบท
“แบคฮยอน..ไม่ต้องมายุ่งกับฉันหรอก เดี๋ยวนายจะเดือดร้อนเอานะ ฉันไม่อยากให้ใครมาเดือดร้อนเพราะฉัน เลิกยุ่งกับฉันเถอะนะ แล้วอย่าทำอะไรแบบนี้อีก…ฉันเจ็บ” เกิดความเงียบขึ้นระหว่างคนสองคนหลังจากที่คนตัวเล็กพูดจบ..
คยองซูอยากมีเพื่อนเหมือนเด็กมัธยมคนอื่นๆเหมือนกันนั่นแหล่ะ แต่ดูเหมือนว่าคนอย่างเขาฟ้าจะกำหนดให้ต้องอยู่ตัวคนเดียวเสมอมา ความรู้สึกแบบนี้มันยิ่งกว่าคำว่า ‘โดดเดี่ยว’ เลยด้วยซ้ำ
ดีใจขนาดไหนที่ดูเหมือนว่าแบคฮยอนจะไม่รังเกียจตัวเอง แต่ถ้าแบคฮยอนเป็นเพื่อนกับคยองซู..จองกุกคงไม่ปล่อยไว้แน่ ตัวเล็กก็แค่ไม่อยากให้ใครต้องมาเจ็บตัวหรือเดือดร้อนแทนตัวเองก็เท่านั้น
“เลิกยุ่งไม่ได้”
“……”
“ฉันไม่ชอบเห็นเพื่อนของตัวเองโดนแกล้ง”
เพื่อนหรอ…
แบคฮยอนยอมเป็นเพื่อนกับคยองซูงั้นหรอ…
“พ..เพื่อน?”
“อื้ม…ก็แบคฮยอนเป็นเพื่อนกับคยองซูไง เลิกงอแงได้แล้วเด็กน้อย”
รอยยิ้มนั้น….ชอบจัง
การที่เรามีเพื่อนที่สนิทและจริงใจเพียงแค่คนเดียว…
มันยังดีกว่าการที่เรามีเพื่อนที่ไม่จริงใจหลายๆคนเสียอีก
เปิดฟิคใหม่ทั้งที่เรื่องเก่าก็ยังแต่งได้ไม่ถึงครึ่ง ฮ่าๆๆ
คราวนี้มาในคู่แบคโด้ ~ คู่รักไซส์มินิแห่งเอ็กโซเค
ไรท์จะพยายามปรับปรุงฝีมือไปเรื่อยๆ เป็นกำลังใจให้เค้าด้วยนะ ! ฮึบ !
กำลังใจจากรีดเดอร์ไรท์ก็ไม่ขออะไรมาก
แค่เม้นแล้วก็แท็ก #FicBD ในทวิต ให้หน่อยนะจ๊ะ
แล้วจะรีบมาอัพให้ในเร็ววัน เย่~
ปล.จัดหน้าแบบนี้อ่านง่ายมั้ยคะ ?
ความคิดเห็น