คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : Paralel love (G.o & Gyuri) ; Chapter 2. นิสัยเหมือนเธอสุดๆเลย (อีดิท)
2
นิสัยเหมือนเธอสุดๆเลย
เห็บหมา!
หลังจากวันนั้นก็ผ่านมาเกือบหนึ่งอาทิตย์ได้แล้ว แต่ไอ้ ‘เจ้าตัว’ ที่ทำให้ฉันเครียดนักเครียดหนาและคลับคล้ายคลับคลาจะกลายเป็นบ้านั้นกลับหายตัวไปเลยอย่างลึกลับ เออ! ไม่เจอกันน่ะดีแล้ว เพราะถ้าต้องคุยกับหมอนั่นอีกบางทีคราวหน้าฉันอาจจะยั้งมือยั้งเท้าตัวเองไว้ไม่ไหวก็ได้ -__-^
แต่ไอ้ที่กลุ้มใจน่ะคือฉันเป็นห่วง ‘สมาชิก’ ในวงน่ะสิ ยัยนิโคลยิ่งทั้งซื่อทั้งเซ่อไม่ค่อยจะรู้เรื่องอะไรอยู่ด้วย วันๆเอาแต่กิน ภาษาเกาหลีก็อ่อนแอปวกเปียก จะไปตามคนทันได้ยังไงกัน! -__- ถ้าหมอนั่นมันคิดจะจีบซึงยอนอะไรแบบนี้จะไม่เครียดเลยแม้แต่นิดเดียว รับรองว่าต้องโดนยัยนั่นด่าหน้าแหกร้องไห้กลับไปดูดนมมารดาแน่ แต่นี่...จองนิโคลเนี่ยนะ!? สรุปกลายเป็นว่าฉันต้องมาเครียดแทนน่ะสิว่าเมื่อไหร่ยัยนิโคลจะโดนล่อลวงให้ตกหลุมที่หมอนั่นจงใจขุดไว้ ฮึ่ย! -__-^^^
“นี่ ไปหงุดหงิดอะไรที่ไหนมา เป็นแบบนี้มาหลายวันแล้วนะเธอน่ะ -__-” ซึงยอนที่ฉันกำลังนินทาในใจเดินมาในเสื้อยืดกางเกงขาสั้นและสลิปเปอร์ ส่วนในมือก็ถือถ้วยรามยอนอยู่...อีกแล้ว
“ไม่มีอะไรหรอก ว่าแต่เธอน่ะ กินแต่รามยอนจนหน้าจะกลายเป็นเส้นบะหมี่อยู่แล้ว หัดกินของที่มันมีประโยชน์บ้างเหอะ”
“มีประโยชน์ยังไง? แบบยัยนิโคลน่ะเหรอ”
“ไม่ใช่ เอ่อ...แบบนั้นก็ไม่ไหวนะ -__-;;”
“นั่นสิ -__-;;” บทสนทนาเงียบไปเล็กน้อยก่อนที่ซึงยอนจะเดินมานั่งลงตรงข้ามฉันแล้วพูดขึ้นต่อ “สรุปไปโกรธใครที่ไหนมา ปกติเธอไม่ใช่คนที่แสดงอารมณ์ทางสีหน้าขนาดนี้นะ - * -”
“ถ้าฉันเล่าเธอห้ามบอกใครนะ แม้แต่สมาชิกในวง”
“แหม ซีเรียสจัง เรื่องอะไรกันนะ -__-”
“ไม่ใช่เรื่องเล่นๆนะ!”
“โอเคๆ ฉันสัญญาว่าจะไม่บอกใคร ถึงแม้จะอยากบอกมากกกก็เถอะ” ประโยคหลังเธอพูดเสียงเบาเหมือนพึมพำกับตัวเอง ฉันขมวดคิ้วเล็กน้อยแต่ก็ไม่ใส่ใจมากก่อนจะเริ่มเล่าเรื่องทั้งหมดให้ซึงยอนฟัง
“แล้วเธอว่าน่าเป็นห่วงมั้ยล่ะ
ยัยนิโคลเนี่ยนะ! รับรองถึงหมอนั่นรุกขั้นสูงสุด นิโคลก็คงไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเค้าจีบตัวเอง -__-*”
“อืม...” คนตรงหน้าคีบเส้นรามยอนเข้าปากแล้วทำหน้าเหมือนครุ่นคิด
“ว่าไง”
“ฉันว่า...”
“ว่า?”
“เธอ...ปัญญาอ่อนพอๆกับหมอนั่นเลย -__-”
“ว่าไงนะ!”
“เอาจริงๆนะ ไม่คิดบ้างเหรอว่าไอ้คนที่ชื่อจีโออะไรนั่นน่ะนิสัยเหมือนเธอสุดๆเลย เพียงแต่เค้าแสดงออกอย่างมาก ส่วนเธอ...ไม่กี่คนหรอกที่จะรู้นิสัยจริงๆของเธอ”
“หึ! ไม่มีทางอ่ะ ถึงจะนิสัยจริงหรือนิสัยเฟคมันก็ไม่ได้ใกล้เคียงกับคนคนนั้นซักนี้ดดดดเดียว!” ฉันรีบส่ายหัวไปมาอย่างรับไม่ได้ที่สุด โห่! ถ้าฉันเหมือนหมอนั่นจริงฉันคงจะโดนใครซักคนกระทืบตายไปแล้วแหละ! ขนาดฉันยังอยากจะจัดการหมอนั่นเลย ชิ...พูดแล้วคันมือคันตะ...เท้า -__-
“เจ้าตัวจะไปบอกนิสัยตัวเองได้ยังไงล่ะ เธอว่านิสัยเธอเป็นไงมั่งล่ะ? แบบตอนไม่เฟคน่ะ”
“ก็...เกลียดพวกคนอ่อนแอ เบื่อพวกไม่มีความมั่นใจ รำคาญคนกวนอวัยวะเบื้องล่างและไม่มีวินัยที่สุด ไม่ชอบ...”
“เดี๋ยวๆๆ” ยังไม่ทันที่จะบรรยายต่อเสียงของซึงยอนก็ขัดขึ้นก่อน “ฉันให้บอกนิสัยของเธอไม่ใช่ความชอบของเธอ แล้วนี่คิดจะเกลียดคนทุกประเภทบนโลกเลยหรือไงกัน - * -”
“ไม่ใช่ซักหน่อย! ส่วนนิสัย...ฉัน...ฉันไม่รู้หรอก -__-;;”
“เห็นมั้ยล่ะ คนเราน่ะบอกนิสัยตัวเองไม่ได้หรอก ขนาดฉันยังบอกของตัวเองไม่ได้เลย -__-”
“หลุดจากวงโคจรเรื่องนิสัยฉันทีเถอะ สรุปเธอคิดว่าฉันควรจะทำไงต่อไปดี”
“ก็...แค่รอหมอนั่นติดต่อมา แล้วก็ลอบๆถามยัยนิโคลบ่อยๆว่ามีผู้ชายมาข้องเกี่ยวอะไรบ้างมั้ย ถ้าเธอห้ามยัยนั่นฟังอยู่แล้วแหละ”
“งั้นเหรอ...”
~Step it up step it up ทาชีจากียา โตเทมโพรึลออริลยอซซอ~
เสียงโทรศัพที่ไม่โปรโมทตัวเองเหมือนหมอนั่น (เหรอ) ดังขึ้น ฉันหยิบไอโฟนขึ้นมาดูแล้วก็ต้องขมวดคิ้วด้วยความสงสัยเมื่อพบว่าเป็นเบอร์ที่ไม่รู้จัก นี่มันเบอร์ส่วนตัวมากกกกของฉันนะ แล้วใครจะโทรมาได้ เอ๊ะ หรือพี่ผู้จัดการเปลี่ยนเบอร์ -*-
“ใครโทรมาน่ะ” ซึงยอนชะโงกหน้าเข้ามาถาม
“ไม่รู้สิ เธอว่าพี่ผู้จัดการเปลี่ยนเบอร์หรือยัง”
“บ้าเหรอ ถ้าเปลี่ยนก็คงบอกตั้งแต่ตอนโทรมาหาฉันเมื่อเช้าแล้ว”
ฉันส่ายหน้าไปมาสองสามทีด้วยความงงแล้วกดรับสาย
“ฮัลโหล”
[โหยัยบ้า! นี่กะจะให้ฉันรอจนกลายเป็นส่วนหนึ่งของแบตเตอรี่เลยหรือไง ถ้าวันหลังเธอรับช้าแบบนี้อีกฉันจะบุกไปหอพักเธอแน่! -__-#]
“...”
[เงียบทำไม! อึ้งเลยล่ะสินักร้องชื่อดังโทรหา]
“กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด!” ฉันกรีดร้องด้วยเสียงอันดังลั่นประมาณว่าด.เด็กล้านตัวแล้วรีบวางสายทันที พระเจ้า! หมอนั่นมันไปเอาเบอร์ฉันมาจากที่ไหนกัน ชีวิตส่วนตัวอันสงบสุขของฉันไม่เหลืออีกแล้ว T0T
“ใครน่ะ! ร้องอย่างกับหมาแท้งลูก -__-*” ซึงยอนที่เพิ่งกินรามยอนเสร็จถามเชิงตะคอกด้วยสีหน้าที่ไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่ ฉันทำหน้าเหมือนโลกแตกก่อนจะตอบไป...ด้วยความ...บอกไม่ถูก
“จะใครซะล่ะ...”
“จีโอ?”
“กรี๊ดดดดดด! อย่าพูดชื่อหมอนั่นนะ ฉันเกลียดม้านนน!”
“เอ่อ... -__-;;”
“พระเจ้าๆๆ ฉันจะทำไงดีล่ะทีนี้ ชีวิตฉันถูกคุกคามอย่างสมบูรณ์แบบไปแล้วทีนี้”
“เอิ่ม...ใจเย็น -__-; ฉันเองก็อึ้งเหมือนกันนะ”
“ฉันอึ้งกว่าเธอล้านเท่า หมอนั่นไปเอาเบอร์ฉันมาจากไหนน่ะ!”
“ฉันไม่ได้อึ้งเรื่องนั้น ฉันแค่ตกใจมากถึงมากที่สุดว่าหมอนั่นเก่งมาจากไหนถึงสามารถทำให้เธอสติแตกได้ ช่างน่านับถือจริงๆ...”
“ฮันซึงยอน!” ให้ตายเถอะ! ใช่เรื่องมั้ยเนี่ย
“เอ่อ...คงไม่ถูกเรื่องสินะ -__-;”
“ชิ!” ฉันสะบัดหน้าใส่ผู้ที่อายุเท่ากันคนเดียวในวงก่อนจะเดินเข้าห้องตัวเองแล้วปิดประตูดังสนั่นหวั่นไหวทันที อ้อ ไม่ลืมที่จะล็อกอย่างเสร็จสรรพด้วย -__-
~Step it up step it up ทาชีจากียา โตเทมโพรึลออริลยอซซอ~
เสียงริงโทนเพลงสเต็ปดังขึ้นอีกรอบ ฉันค่อยๆยกมันขึ้นมากดรับสายอย่างทำใจและหลีกเลี่ยงไม่ได้ คุยโทรศัพท์ยังดีกว่าให้มันบุกมาถึงหอพักแล้วกัน T0T
“ฮะ...ฮัลโหล”
[เมื่อกี๊จะกรี๊ดหาพ่อเธอหรืออออ!!!]
“นายน่ะแหละรับสายก็แหกปากเลย! กินโทรโข่งเป็นของว่างหรือไงยะ!” โหยยย พอได้ยินประโยคแรก ณ ที่นี้ความเศร้าก็ไม่เหลืออีกต่อไป -__-
[ไม่เท่าเธอหรอก กินนกหวีดวันละล้านตัว! ให้ตายเถอะ...เสียงมนุษย์หรือเสียงกิ้งก่าวะ -__-^]
“แล้วกิ้งก่าบ้านนายเสียงดังกว่าคนเหรอ”
[มันก็เรื่องของฉัน]
“นี่! ถ้าจะโทรมาเพื่อกวนตีนแบบนี้ก็กรุณาวางสายไปซะเถอะ หรือเดี๋ยวนี้เลิกเป็นนักร้องไปผลิตบัตรเติมเงินแล้ว?”
[ฉันไม่ได้ไร้สาระเหมือนเธอนะยัยขาจิ้งจก ฉันโทรมาทั้งทีเนี่ยธุระสำคัญ!]
“อะไรคือขาจิ้งจก! -__- ว่าแต่ธุระสำคัญอะไร ไอ้สำคัญของนายเนี่ยมันโคตรจะไร้สาระสำหรับฉันทุกที”
[เออน่า ฉันมีเรื่องจะตกลงเรื่อง ‘เกมส์นั่น’ รีบมาที่อพาร์ตเมนต์ AAA แล้วกัน รู้จักใช่มั้ย?]
“นายเป็นพ่อฉันเหรอ! คิดว่าเป็นใครถึงมาสั่งฉันได้”
[เป็นคนที่ถ้าเธอไม่ยอมมาฉันจะโทรหาจองนิโคลเดี๋ยวนี้แหละ J]
ฉันเกลียดมันที่สุดในโลกหล้านภาลัยสมัยอินชอน! (มีด้วย?)
แม้ว่าจะด่าและเถียงกันอยู่นาน แต่สุดท้ายตอนนี้ฉันก็มายืนอยู่หน้าห้องของคนที่ฉันรังเกียจที่สุดอันดับหนึ่งแล้ว เหอะ! คิดดูเถอะว่าหมอนั่นเถียงเก่งกว่าฉันซะอีก ผู้ชายอะไรปากจัดอย่างกับกระเทย ชิ!
ปังปังปัง! ตูมตาม! ตึงตึง!
ฉันเคาะ (?) ประตูเพื่อเรียกให้คนข้างในรีบมาเปิดโดยเร็วถึงแม้ว่าออดมันเห็นชัดจนแทบจะทิ่มตาฉันอยู่แล้ว เสียงฝีเท้าเดินใกล้เข้ามาเรื่อยๆทำให้ฉันรู้สึกใจเต้นอย่างแปลกๆ เฮอะ แน่ล่ะ ฉันไม่เคยบุกมาหอพักชายคนไหนเลยนะเนี่ย นับเป็นเกียรติของมันยิ่งนัก -__-
“เปิดช้ามาก! นะ...อุ๊บ” ยังไม่ทันที่จะกล่าวทักทายด้วยความเป็นมิตรจบ มือหนาก็ดันอุดปากฉันไว้ซะก่อน เจ้าตัวทำหน้าเหมือนให้เงียบแล้วลากฉันเข้าไปในห้องพร้อมกับปิดประตูดังปึง!
“ชู่...”
“อะไรของนายเนี่ย! จะทำอะไร...อื้อ!” ฉันโดนปิดปากเป็นรอบที่สอง แต่คราวนี้กลับเป็นด้วยริมฝีปากที่บดขยี้ลงมาด้วยความรุนแรง ฉันรู้สึกได้ถึงอุณหภูมิร่างกายตัวเองที่สูงขึ้นเรื่อยๆพร้อมกับเหงื่อที่เริ่มไหลเพราะความร้อน แรงที่เคยมีหายไปไหนหมดก็ไม่รู้ แต่อยู่ๆจากจูบที่เคยเต็มไปด้วยอารมณ์ดุดันก็กลายเป็นนุ่มและอ่อนโยนจนฉันเผลอขยับริมฝีปากจูบตอบไปด้วย
“อืม...” เสียงครางของคนที่กำลังพยายามใช้มือล้วงเข้าไปในเสื้อฉันดังขึ้น ให้ตายเถอะ...ทำไมฉันไม่ผลักเขาออกนะ แถมยัง...จูบตอบอีก
แต่...ก็มันเคลิ้มนี่...
“เฮ้ย!” เสียงผู้ชายอุทานดังลั่นจนฉันสะดุ้งแล้วรีบผลักคนตรงหน้าออกทันทีด้วยความตกใจ มะ...เมื่อกี๊เกิดอะไรขึ้นน่ะ O__O
“โห่ไอ้มีร์ ขัดจังหวะ -__-”
“อะ...เอ่อ...ฉันขอโทษ ก็คนมันไม่ชินนี่หว่า จะทำอะไรก็เข้าไปทำในห้องแกดิ -///-” ผู้ชายที่ดูเหมือนจะเป็นสมาชิกวง Mblaq ที่ชื่อว่ามีร์อยู่ในเสื้อเชิ้ตที่ฟ้าอ่อนกับกางเกงสีครีมหน้าแดงก่อนจะก้าวขายาวๆเดินหายเข้าไปในห้องด้วยความรวดเร็ว มะ...เมื่อกี๊...เค้าจูบฉันงั้นเหรอ! O___o
“มะ...เรามาต่อกันดี...”
เพียะ!!
“เฮ้ย! เธอตบฉันทำไมเนี่ย O__o” มือไวกว่าความคิด ณ ตอนนี้รอยมือคู่งามของฉันก็ไปประทับอยู่บนใบหน้าของเขาเรียบร้อย และรอยนั้นมันก็เริ่มแดงขึ้นเรื่อยๆจนน่ากลัว
“กะ...ก็นายจูบฉันทำไมล่ะ”
“ทำเป็นเล่นตัว เธอก็จูบตอบเหมือนกันน่ะแหละ -3-”
“กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด!”
ความคิดเห็น