Ready! Steady! JAPAN อะไรยังไงในญี่ปุ่น!

ลำดับตอนที่ #3 : [JAP] ญี่ปุ่นกับราคาของ ช๊อปปิ้งงงงงงง (100%)

ญี่ปุ่นกับราคาของ ช๊อปปิ้งงงงงงง

ณ ประเทศญี่ปุ่น
A: "ชุดนี้สวยมากมาย >O<” ในมือชูเดรสสีครีมตัวหนึ่ง

B: “ไหนๆ เท่าไหร่น่ะ”

A: “2900 เยนอ่ะ”

B: “ก็ดีนะเอาดิ”

C: “เอ้ยนี่แก ฉันไปซื้อมาเดรสมา 1900 เยนละ” เอาเดรสสีครีมหน้าตาเหมือนกันที่ A ดูอยู่เป๊ะขึ้นมา

B: “เหมือนกันเป๊ะ =_=;;”

เชื่อว่าใครที่ได้ไปเหยียบ ประเทศญ๊่ปุ่น ตามสัญชาตญาณของหญิงไทยใจงาม (หรือแม้แต่ชายหนุ่มทั้งหลาย) ก็หนีไม่พ้นเรื่องการ ช๊อปปิ้ง!!

การช๊อปในญี่ปุ่นกันเหมือนกับในเมืองไทยแหละค่ะ สิ้นค้าควรจะเดินดูในทั่วๆ บางร้านอาจจะแพงกว่าอีกร้านมากกกกกกกกกกก จนน่าตกใจ =[]= แต่ที่ญี่ปุ่นเค้าไม่นิยมต่อกันนะค่ะ (ถ้าเป็นร้านค้าทั่วไป) ไม่งั้นอาจจะโดนแม่ค้าส่งค้อนกลับมาให้อันเท่าบ้าน แต่ก็ยังมีอีกที่ที่สามารถต่อได้ แล้วก็ของถูกด้วย (flea market) หรือเปิดท้ายขายของบ้านเรา เห็นไหมญี่ปุ่นก็มีแบบบ้านเราด้วยนะ ของที่นี่ก็จะเป็นของมือสอง (คุณภาพบางอย่างใช้ได้เลยทีเดียว) ไว้จะมาเขียนแนะนำตลาดขายของ ณ แดนปลาดิบอย่างเต็มอีกที อีกตอนนะค่ะ >_<

กลับเข้าเรื่อง ... ถึงไหนละเนี่ย...อ่อ   

เรื่องของราคาที่แตกต่างกัน... ก็อย่างว่าเราก็ต้องดูหน่อย อาจจะได้ของเหมือนเพื่อนแต่ราคาต่างกันลิบลับได้ ดังนั้นดูให้ดีนะค่ะ

ของขายอาจจะไม่ใช่แค่จำพวก เสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า ถุงเท้า ถุงน่อง อื่นๆ เท่านั้นที่เราต้องคิดก่อนซื้อ แต่...

ของกิน!!! โดยเฉพาะ น้ำ!!

ราคาก็ยังสามารถบินขึ้นบินลงจากที่ราคามารตฐานได้เช่นกัน... พวกเราก็คงเคยได้ยินว่าน้ำที่ญี่ปุ่นราคาเกือบ 70 บาท =[]= >> T^T (หน้าตาก่อนซื้อกิน)

For Example::

COKE โค้ก (น้ำดำที่ใครๆก็ดื่นกัน ^^)

@supermarket  >> 98 yen = 34.30 baht

@7eleven >> 145 yen = 50.75 baht

50 THB - 34 THB = 16 THB     usooooooo!! โกหกกันใช่ไหม๊!! ทำไมมันห่างกันมากมายขนาดนี้ เกือบยี่สิบบาท >[]< แต่บางคนอาจจะบอกว่า เออ ก็ของมันแพง ความแตกต่างของราคามันก็คงจะมากตามไปด้วย (อื้มมม มีเหตุผลนะ ข้อนี้ ก็เอาไปคิดกันดูค่ะ) แต่ทางที่ดีซื้อของก็ดูดีๆนะค่ะ ^^;;

เรื่องเล่า ณ โยโกฮาม่า YOKOHAMA

พลอยเดินช๊อปปิ้งกะเพื่อนอยู่ที่ห้างแห่งหนึ่ง ณ สถานนีโยโกฮาม่า ไม่นานก็ถูกหลอกล่อด้วยเสื้อผ้าน่ารักมากมาย จนไปพบรักกับ รองเท้าสีน้ำเงินคู่หนึ่ง *O*

            “รองเท้าคู่นี้น่าร๊ากกมากมาย สวยมาก >.<”

            กรี๊ดกร๊าดใหญ่ เรียกเพื่อนมาช่วยกันดู

            “สวยดีอ่ะ เข้ามากๆ”

            ความชอบ + คำชมจากเพื่อน พลอยก็พยักหน้าหงึกหงักยิ้นหน้าบาน แล้วก้มดูราคาที่รองเท้า

            ‘5190 yen’

            =[]=!!!.... ผ่านไปชั่วอึดใจ

            “โครตแพงอ่า T^T” ทำหน้าอยากร้องไห้แล้ววางรองเท้าลงช้าๆ

2 อาทิตย์ผ่านไป ณ โยโกฮาม่า (อีกครั้ง)

            หลังจากวันนี้พลอยจึงตั้งชื่อรองเท้าคู่นั้นว่า Dream shoes >O< (555) และพูดถึงมันบ่อยมากถึงมากที่สุด อยากจะได้มาครอบครอง!!

            เดินดูของไปเรื่อย ก็มาถึงร้านเดิมที่มีรองเท้าอีกครั้ง เลยแวะเข้าไปดูหน่อย รองเท้าคู่นั้นมันมีคนซื้อไปหรือยังน้า เดินไปเดินมาตรงที่เคยเจอรองเท้าคู่นั้นแต่ก็ไม่มี คงมีคนซื้อไปแล้วละมั้ง... แต่ไม่ใช่เลยยยยยย เพราะอีกฟากหนึ่งของร้าน สิ่งหนึ่งเปร่งประกายแวบๆ แทบจะแยงตา รีบตะเกียบตะกายผ่านฝูงคนในร้านไปหามันดั่งเพชร

            ลูกแม่ยังไม่มีใครได้ครอบครอง 555 (ได้ข่าวว่าไม่ได้มีคู่เดียวในร้าน)

            และแล้วก็พลิกไปพลิกมา ชื่นชม สมอุราใจ แล้วก็พลิกไปเจอกันราคา

            ¥5190 ¥1990

          *O* >> *[]* WOW!!!

            ราคาลดขนาดนี้!!! ต้องสอยด่วนนนนนนนนน

            ตอนเอาไปจ่ายตัง เค้าบอกคู่สุดท้ายในร้านด้วย ดีใจเวอร์ๆค่า ^W^

The end

            เอามาเล่าสู่กันฟัง เรื่องนี้แฮปปี้ดี้ด้าไปหลายอาทิตย์ ฮ๋าๆๆ

 เรื่องนี้สอนในรู้ว่า: หากว่าเราพอมีเวลาจะรอ ราคาจำพวกเสื้อผ้ารองเท้าที่ญี่ปุ่นมันลงได้ฮวบฮาบเลย เพราะญี่ปุ่นเป็นประเทศที่แฟชั่นเปลี่ยนไปเรื่อย และฤดูเปลี่ยนไปเรื่อยเช่นกัน (ไม่เหมือนบ้านเรา มีแต่หน้าร้อน แล้วก็หน้าโครตร้อน =_=) ช่วงเดือน 8 หรือ เดือนสิงหาคม จะมีการ SALE สุดขีด เพราะจะเริ่มเข้าฤดูหนาว พวกเสื้อผ้าหน้าร้อนที่เหมาะกันบ้านเรา จะลดสุดๆ เล๊ยยยยยยย

** มาแก้ไขแล้วนะค่ะ โพสซ้ำไปสามรอบ เพิ่งรู้เหมือนกัน ขอบคุณค่ะที่มาเขียนบอก >_<


EDIT!!!
เอาDream Shoes มาลงให้ดูตามสัญญา ^^
สภาพตอนนี้มัน =_='' แต่ตอนซื้อมาใหม่ๆ มันเยี่ยมกว่านี้เยอะ จริงๆนะ T^T