ลำดับตอนที่ #12
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #12 : blackedition09
ฮยอกแจสตาร์ทรถก่อนจะขับออกจากบริเวณคฤหาสน์นี้ออกไป ฮยอกแจมีสีหน้าร่าเริงเหมือนกับเด็กได้ของเล่นชิ้นใหม่นั่นเป็นเพราะเค้าไม่เคยได้ลองขับรถที่หรูเเละมีระดับอย่างคันนี้มาก่อน
“ชอบมากหรอได้ขับน่ะ..”ฮันคยองถามฮยอกแจขึ้นหลังจากที่เห็นท่าทีของฮยอกแจ
“มันก็ต้องแน่นอนอยู่เเล้วดิ ที่ผ่านมานะฉันขับแต่รถแก่ๆเน่าๆน่ะ ตอนที่อยู่อเมริกาทำงานส่งของเงินมันก็ไม่พอใช้หรือซื้ออะไรได้เลยซักนิดเดียว เเละรถที่ได้ขับมันก็ของคนอื่นทั้งนั้น”ฮยอกแจตอบโดยที่หันมามองหน้าร่างสูงพร้อมกับสลับกับมองถนนตรงหน้า
“ชีวิตนายดูน่าอนาถาดีนะแม้กระทั่่งตอนนี้ ...แล้วว่าเเต่นายมาอยู่นี่ได้ไง”ฮันคยองถามอย่างอยากรู้พร้อมกับเอี้ยวตัวไปยังเบาะนั่งหลังเพื่อหยิบห่อขนมมาเเกะกิน
“ก็ฉันมันซ่านี่หน่า ไปอยู่ไหนก็มีเรื่องกับเค้าไปทั่ว จนถึงขนาดตอนนี้ก็ยังหนีไม่พ้น เเละที่มาที่นี่อย่างที่นายถามก็เพราะมีปัญหากับมาเฟียรุ่นเดอะ แม่ฉันถึงได้ถีบหัวส่งมาอยู่กับพ่อนี่ไง”
“พ่อนายโหดหรอ”
“ใช่น่ะสิ แม่ฉันเคยเล่าให้ฟังตอนเด็กๆว่าพ่อของฉันเป็นทหารน่ะ เเต่จะว่าไปฉันไม่เคยเห็นพ่อในคราบทหารเลยนะ อาจจะเป็นเพราะฉันยังเด็กเกินมั้งเลยจำไม่ได้”ฮยอกแจเล่าอย่างเก็บความสงสัยไว้ภายใน ซึ่งมันทำให้ฮันคยองรู้สึกได้ถึงความคิดนั้น
“แล้วทำไมไม่ถามพ่อนายไปเลยล่ะ?”ฮันคยองถามก่อนจะคีบมันฝรั่งในถุงเข้าปากไปด้วยท่าทางสบายๆ คำถามนี้มันทำให้ร่างเล็กถึงกับแค่นเสียงหัวเราะออกมาอย่างห้ามไม่อยู่
“หึ!!ถามพ่อฉันน่ะเหรอ ฉันยอมไม่รู้อะไรเลยดีกว่า “ฮยอกแจตอบอย่างเซ็งๆ
“นายนี่ทำตัวสมกับเป็นเด็กมีปัญหาจริงๆเลยนะ...”ฮันคยองบอกด้วยน้ำเสียงขำๆเมื่อได้ฟังร่างเล็กพูด ถึงแม้ฮยอกแจจะตอบไปอย่างนั้นเเต่ในทางกลับกันเเล้ว มันกลับมีหลายเรื่องที่เขาอยากจะถามพ่อของเขามากมาย แต่ในความเป็นลูกผู้ชายที่หลงเหลืออยู่ในตัวเขา มันสั่งให้เขาต้องนิ่งเฉยกับพ่อของตัวเองจะดีที่สุด
“นายฮันคยอง!!...”ฮยอกแจเรียกชื่อร่างสูงขึ้นด้วยน้ำเสียงดูดุดันทำให้ร่างสูงต้องเลิกคิ้วขึ้นเป็นเชิงถามโดยที่ยังคงคีบมันฝรั่งเข้าปากต่อไป (เเลดูชิวไปซะทุกอย่าง==)
“นายน่ะหลอกถามฉันเยอะไปแล้วนะ เพราะฉะนั้นนะเล่าเรื่องนายมาบ้างดิ”ฮยอกแจบอก ทำให้ร่างสูงต้องเบ้ปากหน่อยๆก่อนจะพูด
“นายอยากรู้อะไรเกี่ยวกับฉันล่ะ ถามสิ... ฉันให้สิทธิ์นายคนเดียว”ฮันคยองถามเสียงนิ่ง แต่ผิดกับร่างเล็กที่รู้สึกแปลกๆกับคำพูดของร่างสูง ให้สิทธิ์ฉันเเค่คนเดียวหรอ โอ้!!ให้ตายสิ นายนี่กำลังจะทำให้ฉันบ้าเเล้วTOT
“อ้าว! นี่ทำไมไม่ถามล่ะ นิ่งทำไม”ฮันคยองถามย้ำ เมื่อเห็นร่างเล็กนิ่งไป ฮยอกแจตกใจนิดหน่อยก่อนจะเรียกสติกลับคืนมาเหมือนเดิม
“อ๋อ คือ ฉันจะถามว่านายน่ะ มาทำงานเเบบนี้ได้ไง “ฮยอกแจรีบถามด้วยน้ำเสียงลนๆ ฮันคยองมองหน้าร่างเล็กก่อนจะตอบ
“หึ! เรื่องนี้น่ะ ไม่แปลกหรอกนะ ก็ครอบครัวฉันเป็นมาเฟียนี่ ทำงานเเบบนี้มาก็ตั้งแต่รุ่นไหนแล้ว..”
“งั้นก็แปลว่านายเป็นผู้รับช่วงต่อ ?”
“ใช่! “
“นายฮันคยอง เเล้วถ้าฉันจะถามว่า ...”ฮยอกแจตั้งคำถามค้างไว้อย่างไม่กล้าถาม มันเลยทำให้ร่างสูงต้องขมวดคิ้วอย่างสงสัยทันที
“มีอะไรหรอ”ฮันคยองถามกลับก่อนที่ร่างเล็กจะตัดสินใจถามต่อ
“นายคงรู้ว่าฉันแอบฟังที่นายคุยกับนายซีวอนเเล้ว ฉันเลยอยากรู้ว่าเรื่องที่นายซีวอนสงสัยมันเรื่องจริงรึเปล่า”
“อ๋อ นึกว่าเรื่องอะไร ... หึ! วงการนี้น่ะ การโกงกินมันทำให้ใครหลายคนอยู่รอดนะ เจ้าซีวอนน่ะ มันยังทำตัวเป็นเด็กไม่ยอมโต ทุกอย่างที่มันมีก็ของลุงมันหมดแหละแม้เเต่ลูกน้องที่มันมี เพื่อน ซึ่งรวมถึงฉันด้วย ถ้าไม่มีลุงมันค้ำประกันในทางธุรกิจใครจะมาลงทุนกับมัน”ฮันคยองเล่าด้วยความนิ่งเฉย ฮยอกแจที่ได้ฟังก็ยังคงมีคำถามอยู่ ก่อนจะถามออกไปอีก
“นายไม่กลัวว่านายซีวอนจะจับได้หรอ ในเมื่อลุงมันก็โหดรวมถึงตัวนายนั่นเองด้วย “
“บัญชีฉันเป็นคนจัดการ แล้วลุงมันก็นานๆทีจะมาตรวจ ยังมีเวลากินอีกเยอะน้า...เป็นห่วงฉันรึไง”คำถามของฮันคยองทำให้ร่างเล็กหน้าร้อนผ่าวขึ้นมาทันทีก่อนจะด่าร่างสูงตามสไตล์เดิม
“ไอ้บ้า!! ฉันถามเพราะความอยากรู้เกี่ยวอะไรกับเป็นห่วงเล่า...นี่เเล้วตกลงนายจะให้ฉันขับไปที่ไหนเนี่ย”ฮยอกแจถามทางขึ้นเบี่ยงเบนอาการเขินของตัวเอง ทำให้ร่างสูงต้องอมยิ้มหน่อยๆกับอาการของร่างเล็ก ก่อนจะตอบตามที่ร่างเล็กถาม
“ไปโรงรถฉันไง ทางข้างหน้าตรงไปเจอแยกเลี้ยวขวาก็ถึงเเล้ว” ฮันยองพูดเสร็จ ก่อนจะคีบขนมขึ้นมากินต่อ
Vvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvv
“โย่!!ฮันคยองนายมาเเล้วเหรอ อะ! อ้าว น้องฮยอกแจก็มาด้วย”เสียงทักอันเริงร่าของเยซองดังขึ้น หลังจากที่ฮันคยองเเละฮยอกแจเดินลงมาจากรถ
ฮยอกแจมองที่ตรงหน้าโดยรอบอย่างตะลึง สถานที่ที่สมกับเป็นชมรมนักซิ่งรถ เครื่องมือเเละอุปกรณ์ทันสมัยต่างๆถูกติดตั้งอยู่ที่นี่หมดเเล้ว รวมถึงรถจำนวนมากทีจอดเรียงกันจนลายตาไปหมด
“ชอบล่ะสิ ...”ฮันคยองถามขึ้นลอยๆเมื่อเห็นฮยอกแจยืนมองที่ตรงหน้าไม่แทบไม่กระพริบตาเลย
“เจ๋งมาก!! นายฮันคยอง” ฮยอกแจตอบโดยไม่หันไปมองหน้าร่างสูงแม้แต่น้อย สายตายังคงจับจ้องกับภาพตรงหน้าอย่างทึ้งๆ
“เฮ้ยๆ!!เพื่อนฮยอกแจไปไงมาไงน้องจ๋า นึกว่าโดนเก็บไปซะเเล้วเมื่อเย็นน่ะ ฮี่ๆๆ^^”เยซองแซวฮยอกแจขึ้น กวนๆ พร้อมกับเดินมาพาดเเขนที่คอร่างเล็กเหมือนเพื่อนสนิท
“หึๆๆ ...เยซอง ก่อนฉันถูกเก็บ ให้ฉันเก็บแกก่อนดีมั้ย - -*”ฮยยอกแจโต้กลับด้วยน้ำเสียงเอาเรื่อง และสายตาที่ส่งกระเเสอำมหิตไปถึงเยซอง
“ล้อเล่นน้าๆ แฮะๆ^^”เยซองรีบบอกแก้ตัวทันทีพร้อมกับหัวเราะเเห้งๆ
“นี่เยซอง คยูฮยอนมันอยู่ไหน “ฮันคยองถามขึ้น พลางมองไปรอบๆเพื่อมองหา
“อ๋อ!อยู่ข้างในห้องเครื่องน่ะ ซ่อมรถสุดรักนายอยู่”
“อืมขอบใจมาก ฝากสมาชิกใหม่ด้วยละกัน”ฮันคยองบอกพร้อมรอยยิ้มที่มีความหมาย ก่อนจะเดินไป เยซองที่ได้ยินประโยคสุดท้ายถึงกับมีรอยยิ้มขึ้นทันที
“ฮึ่ย!!เพื่อนฮยอกจ๋า เเกได้เป็นสมาชิกเต็มตัวเเเล้ว ดีใจหน่อย”เยซองหันมาบอกฮยอกแจอย่างดีใจออกนอกหน้า แต่ก็ไม่กระเทือนถึงการกระทำฮยอกแจให้มีผลตอบสนองได้
“แล้วมันมีอะไร “ฮยอกแจถามนิ่งๆเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“โง่อีกและ == ก็ความหมายมันคือ ที่นี่คือบ้านใหม่ของแก จะอยู่ก็ได้ รวมถึง รถที่สามารถยืมขับได้ทุกคันไม่มีข้อจำกัดไง” เยซองด่าฮยอกแจหน่อยๆพร้อมกับอธิบายไปพร้อมๆกัน
“ห๊ะจริงหรอ!!!!!”ฮยอกแจถึงกับเบิกตากว้าง เเละตะโกนถามออกมาอย่างตกใจ
“ก็เออดิ ดีใจได้เเล้วใช่ม๊ะ?”
“มากว่ะเพื่อน “
“งั้นเดี๋ยวฉันพาทัวร์โดยรอบเลยละกันเพื่อน”เยซองพูดพลางตบบ่าฮยอกแจเบาๆ ฮยอกแจพยักหน้าตอบตกลงทันที
~ศูนย์รวมมิตรเกมส์ตู้~
“ว่าไงจ๊ะสุดสวย...”สิ้นเสียงชมของคังอินหลังจากที่เขาเดินลงมาจากรถซิ่งคันหรูของเขา ฮีชอลหันหลังมองด้วยดวงตาคมที่มีเสน่ห์และรอยยิ้มเย้ายวน ร่างบางเดินเข้าไปคล้องคอคังอินทันที ท่าทางที่ยั่วยวนของฮีชอลทำให้ผู้ชายหลายๆคนไม่สามารถต้านเเรงดึงดูดได้เลยเเม้เเต่น้อย แม้แต่คังอินในตอนนี้ คังอินสอดมือหนาคล้องเอวบางของฮีชอลช้าๆก่อนจะค่อยๆก้มหน้าลงมาประกบริมฝีปากร่างบางเพื่อสนองอารมณ์ของตนเองในตอนนี้ ฮีชอลผละตัวออกจากคังอินทันทีเมื่อเห็นว่าคังอินเริ่มจะร้อนเเรงมากขึ้นเรื่อยๆ
“ฮีชอล นายมักทำให้ผู้ชายทุกคนต้องการเเล้วจากไปเสมอเลยนะ...”คังอินบอกอย่างนิ่งๆ ลิ้นหนาเลียริมฝีปากตนเองช้าๆเหมือนกับต้องการลิ้มรสความหวานจากฮีชอลอีกครั้ง
“หึ! คังอิน พวกนายมันต่างกับซีวอนเกินไป “ฮีชอลเเค่นเสียงหัวเราะและยกยิ้มมุมปากอย่างแฝงเลศนัยในประโยคที่เขาพูด
“ก็เพราะนายเป็นเเบบนี้ ไอ้ซีวอนมันถึงหวงมากอ่ะนะ แม้บางทีมันจะนอกลู่นอกทางแต่มันก็ดูแลนายดีกว่าคนอื่นๆเป็นไหนๆ”
“หึ! ใครมันจะกล้าทิ้งฉันล่ะ แม้แต่นายเอง “ฮีชอลบอกพลางย้อนถามอย่างคนที่เหนือกว่าทุกอย่าง
“ถูกต้องเเล้วล่ะ ... ทีนี้พาฉันเข้าไปหาไอ้ซีวอนข้างในหน่อยสิ”คังอินบอกอย่างยอมแพ้ ก่อนจะขอให้ฮีชอลพาเขาเข้าไปหาซีวอน
“ได้สิ”ฮีชอลตกลง พร้อมกับหมุนตัวหันหลังเดินนำคังอินเข้าไปหลังร้านเกมส์ สถานที่ด้านหลังเป็นเหมือนสถานทีทำงานอีกเเห่งหนึ่งของซีวอน ตลอดทางเดินเข้าจะเต็มไปด้วยคนยืนเฝ้ารักษาความปลอดภัยมากมาย
“หวัดดีเพื่อนยาก ฉันเอาเงินส่วนแบ่งของหุ้นรถส่งออกมาให้ว่ะ”
“นั่งก่อนสิ”ซีวอนผายมือไปทางโซฟาตรงหน้าเขาเพื่อเป็นการชวนคังอินให้นั่งลง
“เรื่องของหนุ่มๆเนี่ยฉันไม่ขอรู้ล่ะกัน...ฉันจะออกไปรอข้างนอกนะ”ฮีชอลพูดขึ้น ก่อนจะเดินตรงมายังซีวอนที่นั่งอยู่เเล้วจูบอำลากันอย่างนุ่มนวล คังอินมองภาพตรงหน้าอย่างเอือมๆเมื่อเห็นการกระทำที่แสลงใจของทั้งคู่
“ฉันอิจฉานายจริงๆซีวอน มีผู้หญิงมากมายรายล้อมแถมยังจะมีหวานใจสุดสวาทอย่างฮีชอลคอยสร้างอารมณ์ในชีวิตให้อีก”คังอินบอกความอิจฉาที่เขามีต่อซีวอน อย่างไม่ปิดบังเพื่อน ซีวอนทำเพียงยักไหล่เล็กน้อยอย่างไม่ใส่ใจเมื่อได้ฟัง
“เรื่องผู้หญิงมากมายน่ะฉันไม่ใส่ใจอยู่เเล้ว เเต่เรื่องที่ใครจะมามีแฟนน่ารักอย่างฉันน่ะ ฉันรู้สึกว่าที่ทุกคนอิจฉามันก็สมควรแล้ว”
“หึ ! นายนี่มันน่าอิจฉาจริงๆนั่นเเหละ ....เอาเป็นว่าฉันวันนี้ฉันคงแค่เอาเงินมาให้นายน่ะอยู่สนุกด้วยคงไม่ได้ พอดีมีธุระนิดหน่อย” คังอินพูดตัดบท ก่อนจะวางซองสีน้ำตาลลงบนโต๊ะซึ่งภายในซองนั้นมีเงินเป็นจำนวนมากที่ถูกใส่ไว้
“ได้สิเพื่อน ฉันไม่ว่าไรหรอก...แล้วเราค่อยเจอกัน”
“อืมงั้นฉันไปก่อนละ”คังอินลุกขึ้นหลังจากพูดเสร็จก่อนที่จะเดินออกจากห้องทำงานซีวอนไป
“ชอบมากหรอได้ขับน่ะ..”ฮันคยองถามฮยอกแจขึ้นหลังจากที่เห็นท่าทีของฮยอกแจ
“มันก็ต้องแน่นอนอยู่เเล้วดิ ที่ผ่านมานะฉันขับแต่รถแก่ๆเน่าๆน่ะ ตอนที่อยู่อเมริกาทำงานส่งของเงินมันก็ไม่พอใช้หรือซื้ออะไรได้เลยซักนิดเดียว เเละรถที่ได้ขับมันก็ของคนอื่นทั้งนั้น”ฮยอกแจตอบโดยที่หันมามองหน้าร่างสูงพร้อมกับสลับกับมองถนนตรงหน้า
“ชีวิตนายดูน่าอนาถาดีนะแม้กระทั่่งตอนนี้ ...แล้วว่าเเต่นายมาอยู่นี่ได้ไง”ฮันคยองถามอย่างอยากรู้พร้อมกับเอี้ยวตัวไปยังเบาะนั่งหลังเพื่อหยิบห่อขนมมาเเกะกิน
“ก็ฉันมันซ่านี่หน่า ไปอยู่ไหนก็มีเรื่องกับเค้าไปทั่ว จนถึงขนาดตอนนี้ก็ยังหนีไม่พ้น เเละที่มาที่นี่อย่างที่นายถามก็เพราะมีปัญหากับมาเฟียรุ่นเดอะ แม่ฉันถึงได้ถีบหัวส่งมาอยู่กับพ่อนี่ไง”
“พ่อนายโหดหรอ”
“ใช่น่ะสิ แม่ฉันเคยเล่าให้ฟังตอนเด็กๆว่าพ่อของฉันเป็นทหารน่ะ เเต่จะว่าไปฉันไม่เคยเห็นพ่อในคราบทหารเลยนะ อาจจะเป็นเพราะฉันยังเด็กเกินมั้งเลยจำไม่ได้”ฮยอกแจเล่าอย่างเก็บความสงสัยไว้ภายใน ซึ่งมันทำให้ฮันคยองรู้สึกได้ถึงความคิดนั้น
“แล้วทำไมไม่ถามพ่อนายไปเลยล่ะ?”ฮันคยองถามก่อนจะคีบมันฝรั่งในถุงเข้าปากไปด้วยท่าทางสบายๆ คำถามนี้มันทำให้ร่างเล็กถึงกับแค่นเสียงหัวเราะออกมาอย่างห้ามไม่อยู่
“หึ!!ถามพ่อฉันน่ะเหรอ ฉันยอมไม่รู้อะไรเลยดีกว่า “ฮยอกแจตอบอย่างเซ็งๆ
“นายนี่ทำตัวสมกับเป็นเด็กมีปัญหาจริงๆเลยนะ...”ฮันคยองบอกด้วยน้ำเสียงขำๆเมื่อได้ฟังร่างเล็กพูด ถึงแม้ฮยอกแจจะตอบไปอย่างนั้นเเต่ในทางกลับกันเเล้ว มันกลับมีหลายเรื่องที่เขาอยากจะถามพ่อของเขามากมาย แต่ในความเป็นลูกผู้ชายที่หลงเหลืออยู่ในตัวเขา มันสั่งให้เขาต้องนิ่งเฉยกับพ่อของตัวเองจะดีที่สุด
“นายฮันคยอง!!...”ฮยอกแจเรียกชื่อร่างสูงขึ้นด้วยน้ำเสียงดูดุดันทำให้ร่างสูงต้องเลิกคิ้วขึ้นเป็นเชิงถามโดยที่ยังคงคีบมันฝรั่งเข้าปากต่อไป (เเลดูชิวไปซะทุกอย่าง==)
“นายน่ะหลอกถามฉันเยอะไปแล้วนะ เพราะฉะนั้นนะเล่าเรื่องนายมาบ้างดิ”ฮยอกแจบอก ทำให้ร่างสูงต้องเบ้ปากหน่อยๆก่อนจะพูด
“นายอยากรู้อะไรเกี่ยวกับฉันล่ะ ถามสิ... ฉันให้สิทธิ์นายคนเดียว”ฮันคยองถามเสียงนิ่ง แต่ผิดกับร่างเล็กที่รู้สึกแปลกๆกับคำพูดของร่างสูง ให้สิทธิ์ฉันเเค่คนเดียวหรอ โอ้!!ให้ตายสิ นายนี่กำลังจะทำให้ฉันบ้าเเล้วTOT
“อ้าว! นี่ทำไมไม่ถามล่ะ นิ่งทำไม”ฮันคยองถามย้ำ เมื่อเห็นร่างเล็กนิ่งไป ฮยอกแจตกใจนิดหน่อยก่อนจะเรียกสติกลับคืนมาเหมือนเดิม
“อ๋อ คือ ฉันจะถามว่านายน่ะ มาทำงานเเบบนี้ได้ไง “ฮยอกแจรีบถามด้วยน้ำเสียงลนๆ ฮันคยองมองหน้าร่างเล็กก่อนจะตอบ
“หึ! เรื่องนี้น่ะ ไม่แปลกหรอกนะ ก็ครอบครัวฉันเป็นมาเฟียนี่ ทำงานเเบบนี้มาก็ตั้งแต่รุ่นไหนแล้ว..”
“งั้นก็แปลว่านายเป็นผู้รับช่วงต่อ ?”
“ใช่! “
“นายฮันคยอง เเล้วถ้าฉันจะถามว่า ...”ฮยอกแจตั้งคำถามค้างไว้อย่างไม่กล้าถาม มันเลยทำให้ร่างสูงต้องขมวดคิ้วอย่างสงสัยทันที
“มีอะไรหรอ”ฮันคยองถามกลับก่อนที่ร่างเล็กจะตัดสินใจถามต่อ
“นายคงรู้ว่าฉันแอบฟังที่นายคุยกับนายซีวอนเเล้ว ฉันเลยอยากรู้ว่าเรื่องที่นายซีวอนสงสัยมันเรื่องจริงรึเปล่า”
“อ๋อ นึกว่าเรื่องอะไร ... หึ! วงการนี้น่ะ การโกงกินมันทำให้ใครหลายคนอยู่รอดนะ เจ้าซีวอนน่ะ มันยังทำตัวเป็นเด็กไม่ยอมโต ทุกอย่างที่มันมีก็ของลุงมันหมดแหละแม้เเต่ลูกน้องที่มันมี เพื่อน ซึ่งรวมถึงฉันด้วย ถ้าไม่มีลุงมันค้ำประกันในทางธุรกิจใครจะมาลงทุนกับมัน”ฮันคยองเล่าด้วยความนิ่งเฉย ฮยอกแจที่ได้ฟังก็ยังคงมีคำถามอยู่ ก่อนจะถามออกไปอีก
“นายไม่กลัวว่านายซีวอนจะจับได้หรอ ในเมื่อลุงมันก็โหดรวมถึงตัวนายนั่นเองด้วย “
“บัญชีฉันเป็นคนจัดการ แล้วลุงมันก็นานๆทีจะมาตรวจ ยังมีเวลากินอีกเยอะน้า...เป็นห่วงฉันรึไง”คำถามของฮันคยองทำให้ร่างเล็กหน้าร้อนผ่าวขึ้นมาทันทีก่อนจะด่าร่างสูงตามสไตล์เดิม
“ไอ้บ้า!! ฉันถามเพราะความอยากรู้เกี่ยวอะไรกับเป็นห่วงเล่า...นี่เเล้วตกลงนายจะให้ฉันขับไปที่ไหนเนี่ย”ฮยอกแจถามทางขึ้นเบี่ยงเบนอาการเขินของตัวเอง ทำให้ร่างสูงต้องอมยิ้มหน่อยๆกับอาการของร่างเล็ก ก่อนจะตอบตามที่ร่างเล็กถาม
“ไปโรงรถฉันไง ทางข้างหน้าตรงไปเจอแยกเลี้ยวขวาก็ถึงเเล้ว” ฮันยองพูดเสร็จ ก่อนจะคีบขนมขึ้นมากินต่อ
Vvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvvv
“โย่!!ฮันคยองนายมาเเล้วเหรอ อะ! อ้าว น้องฮยอกแจก็มาด้วย”เสียงทักอันเริงร่าของเยซองดังขึ้น หลังจากที่ฮันคยองเเละฮยอกแจเดินลงมาจากรถ
ฮยอกแจมองที่ตรงหน้าโดยรอบอย่างตะลึง สถานที่ที่สมกับเป็นชมรมนักซิ่งรถ เครื่องมือเเละอุปกรณ์ทันสมัยต่างๆถูกติดตั้งอยู่ที่นี่หมดเเล้ว รวมถึงรถจำนวนมากทีจอดเรียงกันจนลายตาไปหมด
“ชอบล่ะสิ ...”ฮันคยองถามขึ้นลอยๆเมื่อเห็นฮยอกแจยืนมองที่ตรงหน้าไม่แทบไม่กระพริบตาเลย
“เจ๋งมาก!! นายฮันคยอง” ฮยอกแจตอบโดยไม่หันไปมองหน้าร่างสูงแม้แต่น้อย สายตายังคงจับจ้องกับภาพตรงหน้าอย่างทึ้งๆ
“เฮ้ยๆ!!เพื่อนฮยอกแจไปไงมาไงน้องจ๋า นึกว่าโดนเก็บไปซะเเล้วเมื่อเย็นน่ะ ฮี่ๆๆ^^”เยซองแซวฮยอกแจขึ้น กวนๆ พร้อมกับเดินมาพาดเเขนที่คอร่างเล็กเหมือนเพื่อนสนิท
“หึๆๆ ...เยซอง ก่อนฉันถูกเก็บ ให้ฉันเก็บแกก่อนดีมั้ย - -*”ฮยยอกแจโต้กลับด้วยน้ำเสียงเอาเรื่อง และสายตาที่ส่งกระเเสอำมหิตไปถึงเยซอง
“ล้อเล่นน้าๆ แฮะๆ^^”เยซองรีบบอกแก้ตัวทันทีพร้อมกับหัวเราะเเห้งๆ
“นี่เยซอง คยูฮยอนมันอยู่ไหน “ฮันคยองถามขึ้น พลางมองไปรอบๆเพื่อมองหา
“อ๋อ!อยู่ข้างในห้องเครื่องน่ะ ซ่อมรถสุดรักนายอยู่”
“อืมขอบใจมาก ฝากสมาชิกใหม่ด้วยละกัน”ฮันคยองบอกพร้อมรอยยิ้มที่มีความหมาย ก่อนจะเดินไป เยซองที่ได้ยินประโยคสุดท้ายถึงกับมีรอยยิ้มขึ้นทันที
“ฮึ่ย!!เพื่อนฮยอกจ๋า เเกได้เป็นสมาชิกเต็มตัวเเเล้ว ดีใจหน่อย”เยซองหันมาบอกฮยอกแจอย่างดีใจออกนอกหน้า แต่ก็ไม่กระเทือนถึงการกระทำฮยอกแจให้มีผลตอบสนองได้
“แล้วมันมีอะไร “ฮยอกแจถามนิ่งๆเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“โง่อีกและ == ก็ความหมายมันคือ ที่นี่คือบ้านใหม่ของแก จะอยู่ก็ได้ รวมถึง รถที่สามารถยืมขับได้ทุกคันไม่มีข้อจำกัดไง” เยซองด่าฮยอกแจหน่อยๆพร้อมกับอธิบายไปพร้อมๆกัน
“ห๊ะจริงหรอ!!!!!”ฮยอกแจถึงกับเบิกตากว้าง เเละตะโกนถามออกมาอย่างตกใจ
“ก็เออดิ ดีใจได้เเล้วใช่ม๊ะ?”
“มากว่ะเพื่อน “
“งั้นเดี๋ยวฉันพาทัวร์โดยรอบเลยละกันเพื่อน”เยซองพูดพลางตบบ่าฮยอกแจเบาๆ ฮยอกแจพยักหน้าตอบตกลงทันที
~ศูนย์รวมมิตรเกมส์ตู้~
“ว่าไงจ๊ะสุดสวย...”สิ้นเสียงชมของคังอินหลังจากที่เขาเดินลงมาจากรถซิ่งคันหรูของเขา ฮีชอลหันหลังมองด้วยดวงตาคมที่มีเสน่ห์และรอยยิ้มเย้ายวน ร่างบางเดินเข้าไปคล้องคอคังอินทันที ท่าทางที่ยั่วยวนของฮีชอลทำให้ผู้ชายหลายๆคนไม่สามารถต้านเเรงดึงดูดได้เลยเเม้เเต่น้อย แม้แต่คังอินในตอนนี้ คังอินสอดมือหนาคล้องเอวบางของฮีชอลช้าๆก่อนจะค่อยๆก้มหน้าลงมาประกบริมฝีปากร่างบางเพื่อสนองอารมณ์ของตนเองในตอนนี้ ฮีชอลผละตัวออกจากคังอินทันทีเมื่อเห็นว่าคังอินเริ่มจะร้อนเเรงมากขึ้นเรื่อยๆ
“ฮีชอล นายมักทำให้ผู้ชายทุกคนต้องการเเล้วจากไปเสมอเลยนะ...”คังอินบอกอย่างนิ่งๆ ลิ้นหนาเลียริมฝีปากตนเองช้าๆเหมือนกับต้องการลิ้มรสความหวานจากฮีชอลอีกครั้ง
“หึ! คังอิน พวกนายมันต่างกับซีวอนเกินไป “ฮีชอลเเค่นเสียงหัวเราะและยกยิ้มมุมปากอย่างแฝงเลศนัยในประโยคที่เขาพูด
“ก็เพราะนายเป็นเเบบนี้ ไอ้ซีวอนมันถึงหวงมากอ่ะนะ แม้บางทีมันจะนอกลู่นอกทางแต่มันก็ดูแลนายดีกว่าคนอื่นๆเป็นไหนๆ”
“หึ! ใครมันจะกล้าทิ้งฉันล่ะ แม้แต่นายเอง “ฮีชอลบอกพลางย้อนถามอย่างคนที่เหนือกว่าทุกอย่าง
“ถูกต้องเเล้วล่ะ ... ทีนี้พาฉันเข้าไปหาไอ้ซีวอนข้างในหน่อยสิ”คังอินบอกอย่างยอมแพ้ ก่อนจะขอให้ฮีชอลพาเขาเข้าไปหาซีวอน
“ได้สิ”ฮีชอลตกลง พร้อมกับหมุนตัวหันหลังเดินนำคังอินเข้าไปหลังร้านเกมส์ สถานที่ด้านหลังเป็นเหมือนสถานทีทำงานอีกเเห่งหนึ่งของซีวอน ตลอดทางเดินเข้าจะเต็มไปด้วยคนยืนเฝ้ารักษาความปลอดภัยมากมาย
“หวัดดีเพื่อนยาก ฉันเอาเงินส่วนแบ่งของหุ้นรถส่งออกมาให้ว่ะ”
“นั่งก่อนสิ”ซีวอนผายมือไปทางโซฟาตรงหน้าเขาเพื่อเป็นการชวนคังอินให้นั่งลง
“เรื่องของหนุ่มๆเนี่ยฉันไม่ขอรู้ล่ะกัน...ฉันจะออกไปรอข้างนอกนะ”ฮีชอลพูดขึ้น ก่อนจะเดินตรงมายังซีวอนที่นั่งอยู่เเล้วจูบอำลากันอย่างนุ่มนวล คังอินมองภาพตรงหน้าอย่างเอือมๆเมื่อเห็นการกระทำที่แสลงใจของทั้งคู่
“ฉันอิจฉานายจริงๆซีวอน มีผู้หญิงมากมายรายล้อมแถมยังจะมีหวานใจสุดสวาทอย่างฮีชอลคอยสร้างอารมณ์ในชีวิตให้อีก”คังอินบอกความอิจฉาที่เขามีต่อซีวอน อย่างไม่ปิดบังเพื่อน ซีวอนทำเพียงยักไหล่เล็กน้อยอย่างไม่ใส่ใจเมื่อได้ฟัง
“เรื่องผู้หญิงมากมายน่ะฉันไม่ใส่ใจอยู่เเล้ว เเต่เรื่องที่ใครจะมามีแฟนน่ารักอย่างฉันน่ะ ฉันรู้สึกว่าที่ทุกคนอิจฉามันก็สมควรแล้ว”
“หึ ! นายนี่มันน่าอิจฉาจริงๆนั่นเเหละ ....เอาเป็นว่าฉันวันนี้ฉันคงแค่เอาเงินมาให้นายน่ะอยู่สนุกด้วยคงไม่ได้ พอดีมีธุระนิดหน่อย” คังอินพูดตัดบท ก่อนจะวางซองสีน้ำตาลลงบนโต๊ะซึ่งภายในซองนั้นมีเงินเป็นจำนวนมากที่ถูกใส่ไว้
“ได้สิเพื่อน ฉันไม่ว่าไรหรอก...แล้วเราค่อยเจอกัน”
“อืมงั้นฉันไปก่อนละ”คังอินลุกขึ้นหลังจากพูดเสร็จก่อนที่จะเดินออกจากห้องทำงานซีวอนไป
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น