คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #9 : SINDERELLA EIGHT
SINDERELLA ; EIGHT
ตึง ! กุกกักๆ
เสียงตึงตังๆแปลกๆที่ดังมาจากในตึกใหญ่ทำให้ร่างที่กำลังนอนหลับสบายอดขมวดคิ้วอย่างหงุดหงิดไม่ได้ โดยปกติคยองซูเป็นคนหลับง่ายแต่ก็ตื่นง่ายมาก ประกอบกับผนังห้องที่คิมไคจงใจทำให้มันไม่หนามากเพื่อจะให้ได้ยินทุกการเคลื่อนไหวบนตึกใหญ่ได้ง่ายๆ มือเล็กเอื้อมมือสะเปะสะปะที่หัวเตียงเพื่อคว้าเอานาฬิกาดิจิตอลมาดู
‘03:14’
คยองซูลุกขึ้นนั่งที่ปลายเตียงก่อนจะเดินไปเปิดประตูห้องนอน เท้าเล็กก้าวเอื่อยๆอย่างไม่ค่อยมีสติจนกระทั่งเห็นร่างของจื่อเทาถูกการ์ดสองคนหิ้วปีกมาในขณะที่คนเมาพร้อมอาละวาดเต็มที่ กลิ่นเหล้าฉุนจมูกจนร่างเล็กแทบจะตื่นเต็มตา
“ทำไมเมาหนักขนาดนี้”คยองซูเอ่ยปากถามการ์ดด้วยเสียงนิ่งๆ เขาค่อนข้างหงุดหงิดเพราะถูกปลุกกลางดึกด้วยเสียงคนเมา
“ไม่รู้ครับ จู่ๆก็ลงไปผับแล้วก็ซัดไม่ยั้ง”
“เซ.......ฮุน.......อะอึ๊ก.......ไป”เสียงอ้อแอ้ถูกเอ่ยผ่านริมฝีปากคนเมาตากลมโตกลอกขึ้นลงก่อนจะถอนหายใจเฮือกใหญ่แล้วเดินนำการ์ดลงไปยังห้องใต้ดิน มือเล็กกดรหัสผ่านเข้าห้องจื่อเทาก่อนจะผลักบานประตูเข้าไป ร่างสูงโปร่งถูกทิ้งลงบนเตียงอย่างแรง เสียงถอนหายใจเฮือกใหญ่ดังจากการ์ดทั้งสองคน
“ปล่อยเขาไว้นั่นแหละ”ร่างเล็กเกาหัวแกรกๆแล้วเดินเข้าไปเอากะละมังใส่น้ำออกจาพร้อมกับผ้าผืนนึง “อ้าว...ยังไม่ไปเหรอ งั้นก็ถอดรองเท้ากับถุงเท้าให้เขาด้วยนะ”
การ์ดคนนึงพยักหน้างงๆแต่ก็เดินไปที่ปลายเตียงทำตามคำบอกแต่โดยดี
“......อยะ.........อย่า....ไป”มือของคนเมาเริ่มยกขึ้นก่อนจะคว้าสะเปะสะปะไปทั่วตัว แขนคยองซูที่กำลังไล่ซับน้ำไปทั่วใบหน้าคมถูกคว้าไว้ ดวงตากลมโตเบิกโพลงแต่ก็ยังไม่ทันได้ตั้งสติอะไร ต้นคอก็ถูกมืออีกข้างของคนเมาคว้าลงไป ทำให้ปากบางกระแทกลงกับฟันของคนเมาอย่างแรง รสขมปร่าของเลือดแผ่ซ่านทั่วริมฝีปาก
มือเล็กตัดสินใจดันตัวเองออกอย่างแรงเมื่อตั้งสติได้แล้วคว้าเอาน้ำในกะละมังสาดเข้าไปเต็มหน้าร่างสูง จื่อเทาที่ดูเหมือนสติจะเริ่มกลับมาไม่มากก็น้อยปรือตามองคยองซูที่ยืนจังก้าอยู่ข้างๆ การ์ดสองคนลอบกลืนน้ำลายก่อนจะต้องตกใจกว่าเก่าเมื่อรู้ตัวว่ามีแขกไมได้รับเชิญยืนอยู่ที่หน้าประตูที่เปิดทิ้งไว้
“คะ....คุณไค”เสียงสั่นๆถูกเอ่ยออกมาจากหนึ่งในการ์ดที่มองเห็นร่างสูงก่อนใครทำให้คยองซูที่กำลังหงุดหงิดใจหันไปมอง ดวงตากลมโตเบิกกว้างกว่าเก่ามือเผลอทิ้งกะละมังในมือลงที่พื้นอย่างไม่ได้ตั้งใจ
“เปลี่ยนเสื้อผ้าจื่อเทาแล้วเอาไปไว้ห้องคยองซู”เสียงเย็นๆเอ่ยขึ้นท่ามกลางความเงียบทำเอาการ์ดทั้งสองคนลุกลี้ลุกลนไปหยิบเสื้อผ้าและหิ้วปีกคนเมาออกไป คยองซูยังคงยืนนิ่งเหมือนโดนสต๊าฟไว้จนกระทั่งร่างจื่อเทาถูกขนย้าย (?)ไปแล้ว“ส่วนนาย...ตามฉันขึ้นมาบนห้อง”
คิมไคเดินนำขึ้นไปบนตึกทันทีหลังจากออกคำสั่งทิ้งไว้แต่คยองซูที่ยืนอึ้งๆทำอะไรไม่ถูก แต่สุดท้ายก็เดินขึ้นไปตามคำสั่งไปแต่โดยดี คยองซูยืนลังเลอยู่หน้าห้องซักพักสุดท้ายก็ถอนหายใจแล้วเปิดประตูเข้าไปในห้องที่ไม่เคยเข้ามาในเวลาแบบนี้เลยซักครั้งเพราะตามปกติเป็นเวลาของคิมไคกับ ‘คู่นอน’ เท่านั้น
ความเย็นปะทะกับผิวกายจนต้องกอดตัวเองไว้หลวมๆดวงตากลมโตกวาดมองทั่วห้องแล้วก็พบกับเจ้าของคำสั่งยืนเหม่อออกไปนอกหน้าต่าง
“เอ่อ...คุณไคเรียกผมมามีอะไรรึเปล่าครับ”
“มานั่งก่อน”
“ครับ”
ความเงียบเข้าปกคลุมอีกครั้งทันทีที่คยองซูหย่อนตัวลงนั่งบนโซฟาตัวเดิมกับเมื่อเช้า ดวงตากลมมองไปที่ใบหน้าคมที่กระทบแสงจันทร์ด้วยความหลงไหล คยองซูไม่รู้ว่ามันเกิดขึ้นตอนไหนกับความรู้สึกใจเต้นแรงเหมือนจะหลุดออกมาจากอกยามที่เห็นหน้าคิมไค เขารู้ว่าไม่คู่ควรแต่การที่คิมไคคอยดูแลเอาใจใส่มันก็ทำให้เขาคิดเกินเลยอยู่เสมอและตอนนี้ก็เช่นกัน
คิมไคเดินเข้ามาประชิดตัวร่างเล็กก่อนจะเชยคางมนขึ้นให้สบตากับตตนเองก่อนที่มือหนาจะลูบเบาๆที่ริมฝีปากบาง ความเจ็บจากแรงกระแทกเมื่อครู่ทำให้คิ้วเรียวขมวดยุ่ง
“เจ็บเหรอ”
“นิดหน่อยครับ”
“พอเมาเหมือนหมาทีไรก็เดือดร้อนคนอื่นทุกที”คิมไคบ่นพึมพำกับตัวเองก่อนจะทิ้งตัวลงนั่งข้างๆคยองซู “แต่ฉันไม่ได้เห็นหมอนั่นมีอาการแบบนี้นานแล้ว ไม่รู้ว่าไปเจออะไรมา”
คยองซูสะดุ้งขึ้นเล็กน้อยเมื่อคิมไคหันหน้ากลับมาสบตาเขาราวกับจะเค้นหาคำตอบ
“สะ...สรุปคุณไคเรียกผมมามีอะไรรึเปล่าครับ”
“ปิดเทอมเดือนหน้าใช่ไหม”
“ครับ”
“เดือนหน้าฉันมีไปเซ็นสัญญาธุรกิจที่เกาะเชจู แต่จื่อเทาไปด้วยไม่ได้เพราะที่แอดดิคมีงานใหญ่ต้องอยู่ดูความเรียบร้อย”
“แล้ว ?”
“ฉันจะให้นายไปเป็นเพื่อนฉัน”
“อะไรนะครับ !”
“ตามนั้นแหละ เข้าใจไหม”
“ทำไมต้องเป็นผมหล่ะครับคุณไค”
“เพราะนอกจากจื่อเทาฉันก็มีแค่นาย...”คิมไคหันกลับมาสบตาด้วยแววตาจริงจังจนคยองซูต้องหลบ “นายสองคนคือคนที่ฉันไว้ใจฝากชีวิตไว้”
คำพูดนั้นทำเอาคยองซูนิ่งไปชั่วขณะสมองเหมือนถูกสต๊าฟไว้ เขาประมวลผลอะไรไม่ออกเลย
“ถึงนายไม่อยากไปฉันก็บังคับ”
“อ่าครับ”คยองซูพยักหน้าช้าๆแล้วหันไปมองคิมไคที่ลุกขึ้นปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตออกทีละเม็ด “งะ...งั้นผมไปนอนแล้วนะครับ”
“คืนนี้นายนอนที่นี่”
“ห้ะ...”
“ทำไมต้องทำท่าตกใจด้วย ก็จื่อเทานอนห้องนายแล้วนายจะไปนอนไหน”
“ดะ...เดี๋ยวผมไปนอนกับป้ามินจีก็ได้ครับ”
“นายคิดว่านี่มันกี่โมงแล้วคยองซู ฉันบอกให้นอนนี่ก็นอนสิจะไปรบกวนคนอื่นทำไม”ร่างสูงส่งสายตาดุๆให้คยองซูก่อนจะเดินเข้าห้องน้ำไป เมื่อเห็นว่าขัดใจไม่ได้ร่างเล็กเลยตัดสินใจเดินไปหยิบหมอนและผ้าห่มสำรองจากในตู้แล้ววางลงบนโซฟา ร่างทั้งร่างเอนตามแรงโน้มถ่วงราบไปกับโซฟาและคืนนี้คยองซูก็เข้าสู่นิทราอีกครั้ง
...
คิมไคเดินออกมาจากห้องน้ำด้วยกางเกงขายาวตัวเดียว เขาวางผ้าสีขาวลงบนหัวและจัดการขยี้สามสีทีก่อนจะสะบัดหัวเบาๆไล่ความเปียกชื้น ดวงตาคมมองไปรอบห้องแต่ก็ไม่เห็นแม้แต่เงาของคนที่ตัวเองสั่งให้นอนที่นี่
...เดี๋ยวนี้หัดดื้อกับคุณไคเหรอคยองซู...
ร่างสูงเดินไปหยิบน้ำในตู้เย็นเล็กขึ้นมาดื่มตามความเคยชิน แต่เสียงสวบสาบเหมือนคนกำลังเคลื่นไหวที่ดังมาจากในห้องทำให้มือหยุดชะงักก่อนจะเก็บน้ำเข้าไปตามเดิมและเดินไปหาต้นกำเนิดเสียง ดวงตาคมมองเห็นคยองซูที่นอนบิดไปมาบนโซฟาเพราะหลับไม่สบายตัว ร่างสูงตัดสินใจอุ้มคนตัวเล็กขึ้นแนบอกก่อนจะวางลงบนเตียงช้าๆ มือหนาค่อยๆบรรจงลูบหัวแล็กสองสามทีแล้วดับไฟตรงหัวเตียง
“ฝันดีนะคยองซู”
70 per
.
.
.
แสงแดดที่ลอดผ่านหน้าต่างเข้ามาทำให้คิ้วเรียวขมวดยุ่ง พยายามขยับตัวเพื่อลุกขึ้นแต่ก็ไม่เป็นผล กลิ่นสบู่อาบน้ำที่คุ้นเคยกระทบเข้าจมูกทำให้ดวงตากลมโตเบิกกว้าง ร่างทั้งร่างถูกโอบกอดไว้โดยคนที่ชื่อว่าเป็นเจ้านาย หัวใจดวงน้อยเต้นระส่ำไม่เป็นจังหวะ เขาพยายามขืนตัวเองออกจากอ้อมกอดก่อนที่อีกคนจะตื่นแต่ก็ไม่เป็นผล
ดวงหน้าหวานแดงก่ำเพราะเลือดสูบฉีดมากขึ้นเมื่อตัวเองถูกกระชับให้แนบอกให้มากขึ้นอีก จมูกเล็กฝังลงกับอกแกร่งกลิ่นที่คุ้นเคยทำให้คยองซูรู้สึกผ่อนคลายจนเผลอมองใบหน้าคมของอีกคน
ครืดดดดดดดดดดด ครืดดดดดดดดดดด
โทรศัพท์ที่สั่นจากโต๊ะข้างหัวเตียงทำให้คยองซูหลุดออกจากภวังค์ เขาตัดสินใจสะกิดร่างสูงเบาๆเมื่อเห็นว่าโทรศัพท์สั่นและดับมาใหม่ถึงสามครั้ง ปกติโทรศัพท์เครื่องนี้จะไม่ค่อยมีคนโทรเข้าเพราะเป็นเครื่องส่วนตัว
คิ้วเข้มขมวดแน่นทันทีที่ได้รับแรงสะกิดจากคนข้างๆเขาร้องครางในลำคอก่อนจะหลับต่อ จนคยองซูนึกอยากจะถอดใจถ้าไม่ติดว่าโทรศัพท์ยังสั่นไม่หยุด
“คุณไคครับ...คุณไค”
“ฮื่อออ...”
“มีคนโทรมาครับ”ร่างเล็กเอ่ยตอบทันทีที่อีกคนลืมตาขึ้นเล็กน้อยเพื่อมองหน้าเขา
“ใคร”
“ไม่รู้สิครับ”คยองซูเอ่ยไปตามตรงก่อนจะค่อยๆดันตัวเองออกจากอ้อมกอดและหันไปคว้าโทรศัพท์ยัดใส่มืออีกคน “คุณไครับเถอะครับ โทรมาหลายสายแล้ว”
“อืม”ร่างสูงลุกขึ้นพิงหัวเตียง มือใหญ่ขยี้หัวตัวเองแรงๆขณะที่อีกมือหนึ่งกดรับสายที่โทรเข้า “ฮัลโหลครับแม่”
[จงอินนี่ลูกพึ่งตื่นใช่ไหม !]
“อ่าครับ แม่มีอะไรรึเปล่า”
[วันนี้เรามีนัดกินข้าวกับน้องกี่โมง]
“นัด...อะไรครับ”
[โอ้ย แม่อยากจะบ้าตาย วันนี้เรามีนัดกินข้าวกับอึนจินตอนสิบโมง]
“ผมลืมไปเลย”
[ไปอาบน้ำแต่งตัวเดี๋ยวนี้ ตอนนี้น้องเขาอยู่บ้านเรานะจงอิน]
“ห้ะ...น้องเขามาทำไม”
[แม่เป็นคนบอกเอง เมื่อคืนแม่ย้ำกับเราแล้วนะยังจะลืมอีก]
“ขอโทษครับแม่เดี๋ยวผมจะรีบเดี๋ยวนี้แหละ แค่นี้นะครับ”คิมไคเอ่ยพร้อมกับกดตัดสายแล้วลุกขึ้นหาว ขาเรียวยาวก้าวไปหยิบผ้าบนหนูแล้วเข้าห้องน้ำไป
“เอ่อ...”
“คยองซูจัดชุดให้ฉันชุดนึงนะ ขอสบายๆ”คำสั่งที่ดังออกมาจากห้องน้ำทำให้คยองซูขมวดคิ้วยุ่งๆอย่างไม่เข้าใจแต่สุดท้ายก็เดินไปหยิบเสื้อเชิ้ตกับกางเกงสแลคแล้วเอาไปแขวนไว้ข้างประตูห้องน้ำ
“ผมแขวนไว้ที่เดิมนะครับ”คยองซูเอ่ยเสร็จก็เปิดประตูออกจากห้องทันที แต่ก็ต้องสะดุ้งเฮือกเมื่อเห็นว่าใครยืนอยู่ที่หน้าประตู ‘ลีอึนจิน’ เบิกตากว้างเมื่อเห็นเด็กผู้ชายคนหนึ่งเดินออกมาจากห้องว่าที่คู่หมั้นขอเธอในเวลาเช้าแบบนี้ในชุดนอน “อะ...เอ่อ”
“นายมาทำอะไรที่นี่”
“ผมมา....มาปลุกคุณไคครับ”
“...”
“ผมขอตัวก่อนนะครับ”
“เดี๋ยว”
“ครับ ?”
“นายชื่ออะไร”
“คยองซูครับ โดคยองซู”
“มาอยู่ที่นี่นานรึยัง”
“ประมาณสองปีครับ”
“ฉันถามตรงๆหน่อยได้ไหม”ดวงหน้าหวานเอียงคอถามอย่างน่ารักก่อนจะเดินประชิดตัวคยองซูและคว้าต้นแขนขาวไว้ จริงๆเธอตัวเตี้ยกว่าคยองซูแต่ส้นสูงเกือบสีนิ้วนั่นก็ทำให้ตอนนี้เธอยืนค้ำหัวเขาอยู่
“อะ...เอ่อ ได้ครับ”
“นายเป็นอะไรกับพี่จงอิน”
“ครับ ? ใครนะครับ ?”
“อ้อ ฉันหมายถึงพี่ไคหน่ะ”ผู้หญิงคนนั้นเหยียดยิ้มก่อนจะเอ่ยถามอีกครั้ง “สรุปเป็นอะไรกัน”
“...”
“ฉันถาม ทำไมไม่ตอบ”
“เป็นคนอาศัยครับ”คยองซูเอ่ยตอบออกไปเมื่อผู้หญิงตรงหน้าค่อยๆจิกเล็บลงบนต้นแขนจนต้องนิ่วหน้า
“เหรอ”
“คะ...ครับ”
“เป็นแค่คนใช้สินะ”
“ครับ แค่คนใช้”คยองซูก้มหลบสายตาที่มองมาที่เขาอย่างเหยียดๆก่อนจะก้มหัวปลกๆโค้งลาอีกคนไปแล้ววิ่งลงไปที่ห้องตัวเองอย่างเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ โดยไม่สนใจว่าตลอดทางจะมีสาวใช้มองเขาด้วยสายตาแปลกๆหรือการ์ดคนสนิทที่ตั้งท่าว่าจะถาม มือเล็กสั่นเทาแต่ก็สามารถกดรหัสผ่านแล้วแทรกตัวเข้าไปภายในห้องได้ คยองซูสูดลมหายใจเข้าลึกๆก่อนจะค่อยๆปล่อยออกมาอย่างผ่อนคลาย
สายตาที่อึนจินมองมาเมื่อครู่มันเต็มไปด้วยความสงสัยเคลือบแคลงใจและมุ่งร้าย มันทำให้เขาพาลนึกไปถึงสายตาที่แข็งกร้าวของแม่ชอนยอลในวันนั้น วันที่เข้ามาทำร้ายเขา ร่างเล็กพยุงร่างของตัวเองให้นั่งลงที่ปลายเตียงก่อนจะตบหน้าเพื่อเรียกสติสามสี่ที สายตาเหลือบไปมองจื่อเทาที่ยังคงนอนหลับสบายอยู่บนเตียงของเขาแล้วคว้าผ้าขนหนูที่ราวเดินเข้าห้องน้ำไป
. . . S I N D E R E L L A . . .
“ขอบคุณที่มาส่งนะ”ร่างเล็กเอ่ยขอบคุณจื่อเทาก่อนจะก้มลงเช็คของในกระเป๋า ร่างสูงเพียงพยักหน้าเล็กน้อยก่อนจะมองออกไปที่นอกหน้าต่าง โอเซฮุนกำลังก้าวลงมาจากรถคนหนึ่ง เขาโบกมือลาคนในรถและปิดประตูเดินเข้าโรงเรียนไป
“รถพี่คริสนี่”คยองซูเอ่ยขึ้นตอนที่เงยหน้าขึ้นมาจากกระเป๋านั่นยิ่งทำให้จื่อเทาอึ้งกว่าเก่า มือเรียวกำพวงมาลัยแน่นจนข้อขาวไปหมด
“นะ...นายรู้จักคริสด้วยเหรอ”
“อืม เขาเคยไปรับฉันที่บ้านครั้งนึง”หัวเล็กผงกขึ้นลงสองสามทีก่อนจะเอ่ยตอบคำถามต่อ “พี่คริสเป็นเพื่อนสนิทของคนที่เซฮุนชอบหน่ะ”
“คนที่เซฮุนชอบ...เหรอ ?”
“ใช่ ชื่อพี่ลู่หาน”
“ลู่หาน เสี่ยวลู่หานหน่ะเหรอ”ดวงตาเรียวเบิกกว้างเมื่อได้ยินคำตอบก่อนจะทวนชื่อของบุคคลที่ห้าของบทสนทนา
“ใช่ นายรู้จักพี่เขาเหรอ”
“ก็ไม่เชิงหรอก”จื่อเทาตอบแบบส่งๆก่อนจะไล่ร่างเล็กลงจากรถไป ปฏิกิริยาแปลกๆของจื่อเทาทำให้คยองซูถึงกับงงเพราะเมื่อเมื่อเขาลงจากรถแบบรีบๆ รถคันหรูเริ่มเคลื่อนออกไปทันที
“อะไรของเขาวะ”
...
“เฮ้ วันนี้มาเช้านะโอเซฮุน”เขาส่งเสียงเอ่ยทักเซฮุนที่นอนฟุบหน้าลงกับโต๊ะทันทีที่ทิ้งตัวลงนั่ง
“แน่สิ เมื่อคืนไม่สบาย ไม่ได้ออกไปไหนเลย”
“อ้าวทำไมหล่ะ”
“โห่ อยากเล่าให้ฟังมาก บอกตรงๆนะวันเสาร์โคตรซวยเลย”โอเซฮุนเล่าไปพลางทำหน้าเบื่อโลก ก่อนที่ร่างโปร่งจะเริ่มเล่าต่อ “หลังจากฉันไปส่งนาย ฉันก็ไปผับแล้วทีนี้รู้ไหมฉันเจออะไร...”
“หืม ?”
“มีไอ้บ้าคนหนึ่งยัดยาใส่มือ โอ้ย โคตรอยากบ้าตายเลยเกิดมาไม่เคยเจอ ตอนนั้นทำอะไรก็ไม่ถูกได้แต่เดินไปเดินมา พอจะเอาไปทิ้งก็โดนจับได้ รู้ป่ะไอ้พวกนั้นจับฉันปิดตามัดมือมัดเท้าแล้วขังในห้องที่แบบโคตรเย็น แล้วก็สอบสวนห่าเหวอะไรก็ไม่รู้ก็บอกแล้วว่าไม่ได้ทำไม่ได้ทำ”
“แล้วนายทำไง”
“ก็บอกแหละว่าไมได้ทำแล้วอยู่ๆก็ปล่อย พอฉันถามอะไรก็ไม่ตอบหิ้วฉันออกไปลานจอดรถและบอกให้กลับบ้านไปเฉยเลย”
“นายนี่จริงๆนะโอเซฮุน ละแบบนี้ยังจะไปอีกไหมที่แบบนั้นหน่ะ”
“ดูแลตัวเองได้น่า” คนตัวขาวเอ่ยตอบพลางยิ้มแป้นส่งให้อีกคน จนคยองซูต้องส่ายหน้าอย่างเหนื่อยหน่าย ตอนนี้ใกล้เวลาเข้าเรียนแล้วจึงมีนักเรียนในห้องมากขึ้น เสียงอึกทึกจึงเป็นสิ่งที่ตามมา ดวงตากลมโตเผลอไปมองโต๊ะนักเรียนหลังห้องที่ว่างเปล่าของฮวังจิน เขาไม่มาเรียนตั้งแต่วันพุธที่แล้วไม่มีใครรู้ว่าเขาไปไหน ปกติหมอนั่นก็หายตัวเนกิจวัตรแต่ไม่บ่อยนักที่จะหายไปนานขนาดนี้
เสียงโหวกเหวกที่ดังมาจากรอบข้างเงียบกริบทันทีที่ออดคาบแรกตังขึ้นพร้อมกับครูประจำวิชที่เดินเข้ามาหน้าชั้น ทำให้คยองซูต้องหลุดจากความคิดและหันมาสนใจสิ่งที่ครูเขียนในกระดานแทน
. . . S I N D E R E L L A . . .
up 70 per ; สวัสดีค่ะรีดเดอร์ที่น่ารัก มาอัพช้าไปหน่อย ฮรือออ
เค้าขอท่อดนะเออ T_______T! ต่อปจะรีบอัพนะเออ สัญญา
ส่วนตอนนี้มันมาเพราะเราคิดถึงคุณไค หายไปนานเกินจนบางทีอาจลืมว่าพระเอกคือ ไค
up 100 per ; มาแล้วค่ะพยายามไม่ดองละนะ แต่ช่วงนี้ตันๆคิดอะไรไม่ออก
ยิ่งเจอข่าวพี่คริสนี่แบบ เฮ้ออ แต่ทุกอย่างก็ต้องผ่านไปได้เนอะ
เราจะสู้ต่อไปตราบใดที่ยังมีหวัง ^__________^
มาถึงเรื่องของเรากัน ตอนนี้มาแบบเบลอๆนะค่ะมาต่อแล้ว
เอาเป็นว่านางร้ายมานางเอกก็ต้องจอด ฮ่าๆๆๆๆ
ส่วนเรื่องจื่อเทากับเซฮุนนี่ก็แบบยังงงๆกันหล่ะสิไรท์ก็งง (ไม่ใช่ละมึง)
เดี๋ยวอีกไม่กี่ตอนก็รู้ละค่ะ ตอนต่อไปเราวางไว้เป็นคู่รองคู่ที่สอง
ลองเดากันดูไหมว่าคู่ไหน ใครเดาถูกให้ยี่สิบ (ไม่ใช่ละ) รับรองเซอร์ไพรซ์ค่ะ
ตอนหน้าไม่เจอคุณไคอย่าบ่นคิดถึงคุณไคหล่ะ
อย่าลืมร่วมฟินด้วยการสกรีมแท็ก #นางซินKD
ความคิดเห็น