คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : SINDERELLA SIX
SINDERELLA ; SIX
คยองซูก้มลงมองนาฬิกาข้อมือที่บอกเวลาเจ็ดโมงกว่าๆแล้ว วันนี้เป็นวันเสาร์แต่เขาก็ไม่ได้ตื่นสายเพราะเขายังต้องทำหน้าที่
‘ประจำ’ นั่นคือการปลุกผู้หญิงของคุณไค ไม่สิจะต้องเรียกว่าผู้หญิงที่คุณไคคว้ามาจากผับเมื่อคืน
ร่างเล็กสาวเท้าเข้าไปในห้องอย่างเงียบเชียบก่อนจะค่อยๆเก็บเสื้อผ้าที่กระจัดกระจายบนพื้นที่ละชิ้น เขาเก็บเสื้อผ้าของคุณไคลงตะกร้า คว้าเอาเสื้อผ้าของผู้หญิงคนนั้นแนบอกพร้อมกับหยิบผ้าขนหนูในตู้เสื้อผ้าออกมาและเดินไปเขย่าตัวเธอเบาๆ ดวงตาที่เปื้อนไปด้วยคราบอายแชโดว์ค่อยๆปรือตาขึ้นมอง คนตัวเล็กทำท่าทีเป็นเชิงบอกให้เธอลุกขึ้นแต่งตัว แต่ดูเหมือนเธอจะไม่ค่อยเข้าใจสิ่งที่คยองซูกำลังสื่อ
“นี่...เข้ามาทำไมคนจะหลับจะนอน !”
“ชู่ว เบาๆครับเดี๋ยวคุณไคตื่น”คยองซูได้แต่เอ็ดหญิงสาวเบาๆ เมื่อเธอส่งเสียงดัง “คุณหน่ะลุกได้แล้วก่อนที่คุณไคจะโกรธ”
เมื่อจบคำคนตัวเล็กหญิงสาวก็เหลือบมองไปที่คนบนเตียงก่อนจะกระชากเอาผ้าขนหนูกับเสื้อผ้าตัวเองที่คนตัวเล็กถือไว้เดินเข้าห้องน้ำไป คยองซูเห็นดังนั้นก็ได้แต่ถอนหายใจออกมา เขาเหลือบมองร่างสูงที่คว่ำหน้าลงกับหมอนใบโต ท่อนบนเปลือยเปล่าที่โผล่พ้นผ้าห่มนั้นเซ็กซี่น่าสัมผัสจนเขาต้องเบือนหน้าหนี เสียงเปิดประตูห้องน้ำดังขึ้นทำให้คยองซูหันกลับไปพูดกับเธอ
“คุณลงไปชั้นล่างเลยนะครับจะมีคนรอส่งอยู่”
สิ้นคำคนตัวเล็กหญิงสาวก็เดินออกจากห้องเงียบๆ แม้เธอจะค่อนข้างไม่พอใจแต่ดูจากสายตาของเด็กคนเมื่อกี้กับชื่อเสียงของ ‘คิมไค’ ทำให้เธอไม่น่าจะเสี่ยงเล่นกับเขาซักเท่าไร
“กี่โมงแล้วคยองซู”
“อีกสิบนาทีเก้าโมงครับ”ร่างเล็กก้มลงมองนาฬิกาและตอบคิมไคไปด้วยเสียงเรียบๆ นี่ถือเป็นประโยคแรกในรอบหนึ่งสัปดาห์ที่พวกเขาพูดคุยกันตั้งแต่เหตุการณ์ครั้งนั้น ทั้งๆที่อยู่บ้านเดียวกันจากที่ไม่ค่อยจะได้พูดจากันเท่าไรตลอดอาทิตย์ที่ผ่านมากลับไม่มีคำพูดใดๆออกจากปากของคิมไคเลยเมื่ออยู่ต่อหน้าคยองซู “คุณไคจะทานข้าวเช้าเลยไหมครับ”
“อืม”ร่างสูงเอ่ยรับง่ายๆก่อนจะลุกขึ้นพิงหัวเตียง “แต่วันนี้ขอกินที่นี่ละกัน นายยกขึ้นมาให้ด้วยนะ”
“ครับ เดี๋ยวผมจะบอกป้ามินจีให้ยกขึ้นมา”
“ไม่ต้อง...”
“ครับ ?”
“นายนั่นแหละยกขึ้นมา”
“ผมเหรอ”
“อย่าถาม เคยบอกไว้จำได้ไหม”
“คะ...ครับ...”คยองซูก้มหน้ารับคำก่อนจะเดินออกจากห้องลงไปที่ห้องครัว ในครัวตอนนี้ไม่มีใครเลยมีแต่หม้อข้าวต้มที่ตั้งอยู่เท่านั้นโพสอิทอันเล็กๆเขียนติดไว้ตรงตู้เย็นว่า ‘ป้ามินจีไปจ่ายตลาด’ ร่างเล็กเดินตรงไปที่เตาและเปิดแก๊สเพื่ออุ่นข้าวต้ม เขารอเวลาซักพักแล้วจึงตักมันใส่ถ้วยเพื่อยกขึ้นไปให้เจ้านายที่นอนรอบนห้อง เป็นเจ้านายนี่สบายจริงได้ทีก็สั่งเอาๆตลอด ร่างเล็กได้แต่ก่นด่าอีกคนในใจทั้งๆที่เสียเวลาเล็กน้อยเดินลงมากินข้าวก็ได้ แต่ทำไมต้องให้ ‘เขา’ ลำบากลำบนเดินขึ้นเดินลงแบบนี้ด้วย
มือเล็กเปิดประตูห้องออกแล้วกวาดตามองไปรอบๆ เขามองเห็นคิมไคยืนอยู่ที่หน้าต่างบานใหญ่ในห้อง แผ่นหลังกว้างปราศจากอาภรณ์ใดๆทำให้ดวงใจเล็กๆเต้นกระหน่ำ คยองซูเดินเอาข้าวต้มไปวางไว้บนโต๊ะทำงานก่อนจะรีบสาวเท้าเดินออกจากห้องแต่ยังไม่ทันที่จะถึงประตูเสียงเรียกข้างหลังก็ดังขึ้นก่อน
“เดี๋ยว”
“คุณไคมีอะไรอีกรึเปล่าครับ”
“ฉันเรียกทำไมไม่หันหน้ามา”คำพูดนั้นของคิมไคทำให้ผมอยากจะเข้าไปบีบคอคนตรงหน้าให้รู้แล้วรู้รอดมันจะอะไรกันนักกันหนาแต่ก็ทำได้แค่คิดเมื่อความจริงเขาได้แต่หันไปยิ้มบางๆให้เจ้านายเท่านั้น
“ครับ...?”
“รอเก็บถ้วยไปด้วย เดี๋ยวมดมันจะขึ้น”
กร๊าซซซซซซซซซซซซซซซซซซซซ
คยองซูอยากจะพ่นไฟใส่คนตรงหน้าให้ดำกว่าเดิมเพราะเมื่อออกคำสั่งเสร็จก็เดินเปลือยท่อนบนมานั่งกินข้าวต้มสบายใจ
“นั่งนี่สิ...ไม่เมื่อยเหรอ”
“ไม่ครับ”
“บอกให้นั่งก็นั่ง อย่ายืนค้ำหัว”โว้ยยยย ค้ำหัวตรงไหนกันคยองซูก็ไม่แน่ใจเพราะเขายืนห่างจากคิมไคตั้งหลายฟุตแต่เจ้าตัวกลับเรียกไม่สิออกคำสั่งให้เขาไปนั่งลงเก้าอี้ฝั่งตรงข้ามมากกว่า เพราะไมได้ถามความสมัครใจซักคำ เก้าอี้ตรงด้านหน้าโต๊ะถูกเลื่อนออก คยองซูทิ้งตัวลงนั่งด้วยสีหน้าขัดใจเล็กน้อยในใจได้แต่ท่องพุธโทไม่หยุดเพราะวันนี้เจ้านายของเขากวนประสาทเกินไปไม่รู้ว่าเก็บกดมาจากไหน
ถ้วยข้าวต้มถูกเจ้าตัวเลื่อนออกห่างหลังจากที่ทานจนหมดเกลี้ยง ร่างเล็กที่นั่งตรงข้ามลุกขึ้นยืนแล้วคว้าเอาชามนั้นขึ้นมาถือไว้เตียมจะออกไปข้างนอก
“คยองซู”
“ผมกำลังจะเอาถ้วยไปเก็บครับ”
“เดี๋ยว”
“อะไรครับ”
“ขอโทษ...”เสียงทุ้มๆดังก้องไปทั่วห้อง คยองซูรู้สึกเหมือนโดนแช่แข็งเขาไม่สามารถขยับไปไหนได้เลยได้แต่ยืนนิ่งอยู่หน้าโต๊ะเพราะคำพูดนั้น คำพูดที่เหมือนเป็นระเบิดลูกใหญ่ที่ทำลายกำแพงที่เขาเพียรสร้างเพื่อขวางกั้นเพื่อเพิ่มระยะห่างของเขากับคิมไค เขายอมรับว่าโกรธที่ร่างสูงทำและพุดแบบนั้นกับเขา มันทำให้เขาเจ็บถึงแม้มันจะเป็นความจริงแต่การที่ร่างสูงพูดตอกย้ำซ้ำๆว่าเขาเป็นแค่เด็กที่เคยเป็น ‘เมียน้อย’ ของใครคนหนึ่ง “ฉัน...ไมได้ตั้งใจ”
เพล้ง !
มือพลันอ่อนแรงเมื่อได้ยินคำพูดต่อมา คำที่ฟังแล้วดูเหมือนเป็นแค่คำแก้ตัวง่ายๆของคนทำผิด แต่มันกลับมีอิทธิพลในการ ‘ให้อภัย’ ของคยองซูมาก อาจจะเพราะมันออกมาจากปากคิมไค เขาคิดมาตลอดหากคนตรงหน้าเอ่ยคำๆนี้ออกมาเขาจะทำยังไง ให้อภัย โกรธกว่าเดิมหรืออะไร ในตอนนี้เรืองราวในสมองตีรวนกันจนมั่วไปหมด ร่างเล็กก้มลงกับพื้นและเก็บเศษชามที่แตกช้าๆโดยไม่หันหลังกลับไปมองอีกคนที่ยืนอยู่
“ไม่ต้องเก็บเดี๋ยวฉันจะให้ป้าอึนจีจัดการ”
“ป้าอึนจีไม่อยู่ครับ ไปตลาด”
“งั้นไว้นั่นแหละ”ร่างเล็กทำเหมือนหูทวนลมไม่ได้ยินคำพูดที่อีกคนพูด จนคิมไคต้องเดินมาตรงหน้าคยองซูที่กำลังก้มหน้าก้มตาหาเศษแก้วที่กระจัดกระจาย “บอกให้หยุดไง !!!”
เคร้ง !
เสียงทุ้มตวาดกร้าวขึ้นจนร่างเล็กสะดุ้ง เศษจานในอุ้งมือหล่นกระจัดกระจายอีกครั้ง คิมไคก้มลงมองด้วยสายตาหน่ายๆ เขาต้องห้ามคนตรงหน้าไว้เพราะสติยังมาไม่ทันครบเดี๋ยวโดนแก้วบาดขึ้นมามันจะยุ่ง ร่างสูงนั่งยองๆลงตรงหน้าอีกคนก่อนจะจับข้อมือเล็กไว้
“ไว้ตรงนี้...เดี๋ยวฉันจะเรียกคนมาเก็บ”
“ทำไม...”
“…”
“ทำไมคุณต้องทำกับผมแบบนี้”
“มาทำดีกับผมทำไม คุณรู้แล้ว...ฮึก คุณรู้แล้วว่าผมมันสกปรก”มือเล็กยกขึ้นปาดน้ำตาที่ไหลออกมา ในใจของเขาเจ็บปวดเกินจะรับไหว คยองซูได้แต่กำมือแน่นจนลืมว่ามีเศษถ้วยเล็กๆอยู่ ความเจ็บแล่นริ้วจนต้องนิ่วหน้า แต่สุดท้ายมือบางยอมคลายออกเพราะคิมไคลูบเบาๆเหมือนปลอบโยน เศษแก้วฝังลงบนฝ่ามือเรียวจนเลือดไหลซึมแต่คนตรงหน้ากลับแค่มองหน้าเขาและส่ายหน้า “เดี๋ยวผมจัดการเองครับ...คุณไคไปพักผ่อนดีกว่า”
“ฉันไม่ชอบให้ใครมาสั่ง...”จบคำพูดร่างสูงก็กึ่งลากกึ่งจูงอีกคนไปที่โซฟา แล้วเดินไปหยิบกล่องปฐมพยาบาลที่ตู้เสื้อผ้า
ร่างสูงเดินกลับมาที่โซฟาพร้อมกล่องสีขาว เขานั่งลงข้างๆคยองซูแล้วคว้าเอาฝ่ามือเล็กมาดู คิ้วเข้มขมวดเข้าเล็กน้อย
“ตอนดึงแก้วออกเจ็บหน่อยนะ...”เสียงทุ้มพูดขึ้นพร้อมกับมองหน้าอีกคนที่พยักหน้าช้าๆเป็นเชิงอนุญาต ดวงตากลมโตจ้องมองอีกคนทำแผลให้ตัวเองอย่างชำนาญแต่ก็ต้องขมวดคิ้มพร้อมกับร้องออกมาเบาๆเพราะความแสบตอนที่ใส่ยา การกระทำที่อ่อนโยนของคิมไคทำให้คยองซูเพลินจนไม่รู้ว่าอีกคนพันผ้าพันแผลให้เขาเสร็จตอนไหน รู้ตัวอีกทีคิมไคก็ส่งใบหน้าอันน่าหลงไหลนั่นเข้าประชิดเขาเสียแล้ว
“คยองซู”
“คะ...ครับ”
“จำไว้นะ...บนโลกนี้ไม่มีใครหรอกที่ไม่เคยแปดเปื้อน”คิมไคจ้องลึกลงไปในดวงตากลมโต “ไม่ว่าฉันหรือนายก็ต้องเคยสกปรกกันทั้งนั้น”
“…”
“อย่าเอาอดีตมาตัดสินปัจจุบัน สามปีที่แล้วมันก็เป็นอดีต เมื่อวานก็เป็นอดีต นายลืมมันไปเถอะ”
“…”
“เชื่อฉัน...เพราะนายเป็นคนใหม่ตั้งแต่วันที่ฉัน ‘เลือก’ นายแล้ว”คิมไคส่งริมฝีปากร้อนจุมพิตเข้าบริเวณที่พันแผลไว้ราวกับจะร่ายมนต์ให้หายปวด ก่อนจะเดินจากไปทิ้งไว้แต่คยองซูที่ได้แต่ก้มหน้าครุ่นคิดอยู่กับตัวเอง
อดีตมันลบไม่ได้แต่ปัจจุบันเราสร้างใหม่ได้...จริงเหรอ ?
.
.
.
55 per
.
.
.
ครืด
ร่างเล็กเงยหน้าขึ้นจากกองหนังสือคว้าเอาโทรศัพท์บนโต๊ะขึ้นมาอ่านข้อความไลน์จากเพื่อนสนิท
‘O-Oh!SEHUN : ’
‘kyungsOO : เป็นไร ’
‘O-Oh!SEHUN :’
‘kyungsOO : ถ้าไม่หยุดวันจันทร์เจอดีนะโอเซฮุน’
‘O-Oh!SEHUN : ’
‘O-Oh!SEHUN : กลัวแล้วจ้ะ’
‘kyungsOO : สรุปเป็นอะไร’
‘O-Oh!SEHUN : เปล่า...แค่เบื่อ’
‘O-Oh!SEHUN : ไม่มีไรทำเลย’
‘kyungsOO : การบ้านเสร็จยัง’
‘O-Oh!SEHUN : ยังเลย =………………..= ’
‘kyungsOO : ไปทำซะ’
‘kyungsOO :’
‘O-Oh!SEHUN : คยองซู’
‘O-Oh!SEHUN : อยากไปเที่ยว ไปเป็นเพื่อนหน่อย’
‘kyungsOO : ทำการบ้านเสร็จก่อน’
‘O-Oh!SEHUN : จริงนะ’
‘kyungsOO : อืม แต่นายก็ต้องทำด้วยนะ’
‘O-Oh!SEHUN : อะเฟ’
‘kyungsOO : รีบไปทำซะสิ’
‘O-Oh!SEHUN : ’
คยองซูส่ายหน้าไปมาให้กับมือถือตัวเองก่อนจะหันกลับมาทำการบ้านต่อ มือข้างซ้ายถูกพันด้วยผ้าพันแผล โชคยังดีที่เขาไม่เผลอเอามือขวากำเศษแก้วไม่งั้นคงจะทำอะไรไม่ได้ ดวงตากลมจดจ้องกระดาษสมุดตรงหน้าก่อนจะเขียนคำตอบลงไปจนถึงหน้าสุดท้าย คยองซูปิดหนังสือลงและเหลือบมองนาฬิกาที่ฝาผนังบอกเวลาบ่ายสองโมง
ร่างเล็กหลับตาลงพร้อมกับนึกย้อนถึงเหตุการณ์เมื่อไม่กี้ชั่วโมงก่อนคิมไคเป็นผู้ชายที่ค่อนข้างมีอิทธิพลกับเขามาก หัวใจดวงน้อยๆยังคงเต้นแรงเมื่อนึกถึงสัมผัสอุ่นร้อนที่ฝ่ามือที่เขาไม่รู้ว่าคิมไคทำไปทำไม...
ครืด
‘O-Oh!SEHUN ; ไปเที่ยวกัน’
‘O-Oh!SEHUN :’
‘kyungsOO : การบ้านเสร็จละเหรอ’
‘O-Oh!SEHUN : เรียบร้อย โอเซฮุนซะอย่าง ’
‘O-Oh!SEHUN : ’
‘kyungsOO : ให้มันจริง’
‘O-Oh!SEHUN : อยู่ล้าวววว’
‘O-Oh!SEHUN : จะไปกันยัง ’
‘kyungsOO : อืม แล้วจะไปไหนหล่ะ’
‘O-Oh!SEHUN : ห้าง A อีกสิบนาทีเจอกันนะ’
‘kyungsOO : อืม เจอกัน’
‘O-Oh!SEHUN : อะเฟๆ’
หลังจากอ่านข้อความของเซฮุนเรียบร้อยคยองซูก็เลื่อเก้าอี้ที่ตัวเองนั่งอยู่ออกแล้วเดินไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดลำลองง่ายๆ เสื้อยืดสีฟ้าพิมพ์ลายกับกางเกงสามส่วนสีขาวขับผิวของคยองซูให้ขาวขึ้นไปอีก ร่างเล็กเดินไปหน้ากระจกก่อนจะทาแป้งลงบนใบหน้าลูบๆสองสามทีแล้วเปิดประตูเดินขึ้นบันไดไป
ห้องนอนของคยองซูเป็นห้องใต้ดินในตึกใหญ่ ไม่ใช่เรือนเล็กที่คนรับใช้ทั่วไปอยู่ คิมไคให้เหตุผลง่ายๆว่าสะดวกต่อการเรียกใช้ ซึ่งห้องใต้ดินมีอยู่สองห้องของเขาและจื่อเทา
“จะไปไหนตัวเล็ก”พูดถึงหมีหมีก็มา จื่อเทาเดินเข้ามาทักทายเขาทันทีที่เขาเดินผ่านห้องรับแขก
“ไปห้าง A นัดเพื่อนไว้”
“ไปส่งไหม”
“ไม่เป็นไร เดี๋ยวไปแท็กซี่ก็ได้”
“นั่งแท็กซี่มันเปลือง มา เดี๋ยวไปส่ง”
“...”
“ไปไม่ไป”
“ไปก็ได้”สุดท้ายเขาก็ตอบรับคำจื่อเทาไปง่ายๆร่างเล็กเดินตามจื่อเทาไปโรงรถ จื่อเทากดรีโมทหนึ่งทีไฟท้ายที่รถเบนซ์คันนึงก็กระพริบ คยองซูเดินไปเปิดประตูแล้วแทรกตัวเข้าไปในรถ ตามด้วยเจ้าของรถที่เปิดประตูขึ้นนั่งฝั่งตรงข้าม
“ยังกับรถตัวเองเลยนะตัวเล็ก”
“ก็นั่งอยู่ทุกวันจนจะเป็นรถตัวเองและ”ร่างเล็กเอ่ยตอบอย่างหน่ายๆรถคันนี้เป็นรถของจื่อเทาและก็เป็นรถที่เขานั่งไปโรงเรียนทุกวัน แม้ในโรงรถจะมีรถมากกว่าห้าคันแต่คยองซูก็ได้นั่งแค่รถของจื่อเทากับรถประจำตำแหน่งคุณไคเท่านั้น คันอื่นที่เป็นของคิมไคจะมีแค่สาวๆของเขาเท่านั้นหล่ะมั้งที่ได้นั่ง...
“นัดใครไว้เหรอ”
“เพื่อนที่โรงเรียน”
“ว้าว มีเพื่อนที่โรงเรียนด้วยแฮะ”
“ฉันก็ไม่ได้ไร้มนุษยสัมพันธ์ขนาดนั้นนะ”
“ก็ไม่เห็นเคยเล่าให้ฟัง”
“นายเคยมีเวลาฟังด้วยเหรอ”คยองซูอดที่จะแซะคนข้างๆไมได้ เพราะจริงๆแล้วจื่อเทาคนนี้ก็ยุ่งไม่แพ้คิมไคหรอกเพาะเขาถือเป็นทั้งมือซ้ายและมือขวาในการบริหารธุรกิจด้านมืดของคิมไค เวลานอนของเขาคือตอนเช้าหรือบางทีอาจจะไม่กลับมานอนบ้านเลยก็ได้
ถ้าพูดดีๆหากคิมไคไม่สั่งจื่อเทาก็แทบไมได้ไปไหนนอกจากบ้านและบาร์นับสิบที่ดูแลแทนเจ้านาย แต่ก็ดีหน่อยที่คิมไคยังคงปราณีให้จื่อเทามีวันหยุดอาทิตย์ละสองวันสำหรับการนอนพักผ่อนอยู่บ้าน
“นั่นสิ ช่วงนี้โคตรยุ่งเลย”
“ที่ผับมีปัญหาเหรอ”
“ไม่เชิงหรอก”จื่อเทาหันกลับมามองเขาพร้อมกับยักไหล่ ตอนนี้รถกำลังติดไฟแดงรอบที่สองตั้แต่เดินทางออกมา “แค่ช่วงนีมีตำรวจมาบ่อยเกินไป”
“ตรวจยาเหรอ”
“มั้ง แต่ก็ไม่เจอหรอกเพราะคุณไคไม่ยอมให้มีหรอก”จริงของจื่อเทาถึงคิมไคจะทำธุรกิจผิดกฎหมายมากมายแต่สิ่งหนึ่งที่คนๆนั้นเกลียดมากคงเป็นพวกยาเสพติด เพราะในครั้งแรกที่เขาเจอกับคิมไคคนที่โดนสั่งเก็บก็คือพนักงานที่แอบเอายามาขายในผับ
“เงียบทำไม...คิดอะไรอยู่รึเปล่า”
“ปะ...เปล่า”
“งั้นตอนนี้ฉันพอมีเวลาเล่ามาสิว่าเพื่อนของนายมีกี่คน”จื่อเทาพูดพร้อมกับออกรถทันทีที่สัญญาณไฟเปลี่ยนสี คยองซูถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนจะเอ่ยปากเล่าเรื่องโอเซฮุนให้คนตรงหน้าฟัง
“ฉันมีเพื่อนสนิทแค่คนเดียว มันน่ารักนะถึงจะกวนประสาทไปหน่อยก็เหอะ ตัวผอมๆแห้งๆแต่สูงกว่าฉันคืบกว่า ชอบกินชานมไข่มุกมากๆ ชอบลากฉันไปกินอยู่เรื่อยน้ำหนักฉันจะขึ้นเพราะ ‘โอเซฮุน’ นี่แหละ”
เอี้ยดดด !!
เสียงล้อเบียดถนนบาดแก้วหูเกิดขึ้นทันทีที่เจ้าของรถหักเข้าข้างทางและจอดกะทันหัน ตัวคยองซูกระตุกเล็กน้อยโชคยังดีที่คาดเบลท์ไว้ไม่งั้นมีหวังหน้าฟาดคอนโซลรถแหงๆ
“ย่าห์ ! อะไรของนายฮะฮวังจื่อเทาคิดจะเบรกก็เบรก”
“นายว่าอะไรนะ”
“ห้ะ”
“เพื่อนของนาย...ชื่อ ‘โอเซฮุน’ งั้นเหรอ”จื่อเทาหันกลับมามองหน้าร่างเล็กด้วยแววตาตระหนก วูบหนึ่งใบแววตามีความหวั่นไหวซ่อนอยู่จนคยองซูนึกแปลกใจ
“ใช่...ทำไมเหรอ”
“นายกำลังจะไปเจอเขา ใช่ไหม ?”
“กะ...ก็ใช่ มีอะไรรึเปล่าจื่อเทา”
“ไม่ๆ ไม่มีอะไรไม่มีจริงๆ แล้วนัดกันที่ไหน”
“หน้าโรงหนังหน่ะ เซฮุนพึ่งไลน์มาบอก”
“อืม”จื่อเทาพยักหน้าช้าๆก่อนจะออกรถอีกครั้ง ทั่วทั้งรถเกิดความเงียบขึ้น ไม่มีใครพูดอะไรอีก จื่อเทาขับรถไปเงียบๆส่วนคยองซูก็นั่งนิ่งๆเหม่ออกไปนอกหน้าต่างแล้วก็ใช้เวลาไม่นานรถก็จอดหน้าห้าง A ที่เขานัดกับเซฮุนไว้
“ขอบคุณที่มาส่งนะ”
“ไม่เป็นไร”
“โอเค รึเปล่าจื่อเทา”
“โอเคๆ”
“งั้นไปนะ ไม่ต้องมารับนะเดี๋ยวให้เซฮุนไปส่ง”จื่อเทาพยักหน้ารับคำก่อนจะออกรถทันทีที่ร่างเล็กปิดประตู ทิ้งไว้แต่ความสงสัยที่แน่นเต็มอกของคยองซู
จื่อเทาทำไมต้องตกใจขนาดนั้นกับชื่อของโอเซฮุน
.
.
.
จื่อเทาขับรถห่างออกมาจากห้างได้ไม่ไกลเขาก็ตัดสินใจวกรถกลับ รถหรูเข้าจอดบริเวณลานจอดรถวีไอพีร่างสูงก้าวเดินอย่างรีบร้อน ร่างสูงรอลิฟท์ที่กดไว้ก่อนจะก้าวเข้าไปเมื่อประตูเปิดออก จื่อเทาตกเป็นเป้าสายตาทุกคนในลิฟท์ทันทีอาจจะเพราะเขาตัวสูงและดูดีจนน่าใจหาย มันจึงไม่แปลกนักที่จะถูกมอง
เมื่อถึงชั้นเป้าหมายร่างสูงก็เบียดตัวออกจากลิฟท์เขาคว้าเอาแว่นกันแดดสีดำมาสวมแล้วเดินไปบริเวณหน้าโรงหนัง สายตาคมกวาดตามองโดยรอบ เขามองเห็นคยองซูนั่งรออยู่ที่ก้าวอี้นวมหน้าโรงหนังด้วยสีหน้าเหม่อลอยเหมือนกำลังคิดอะไรซักอย่าง แต่ดวงตาคมก็ต้องเบิกกว้างขึ้นเมื่อเห็นร่างโปร่งเดินเข้ามาหาคยองซูและยิ้มกว้างจนดวงตาเป็นรูปพระจันทร์เสี้ยว
มันเป็นรอยยิ้มสดใสจนกระชากหัวใจที่เต้นเป็นจังหวะสม่ำเสมอของจื่อเทาให้เต้นระรัวอีกครั้ง ไม่ว่าจะผ่านมานานเท่าไร ‘โอเซฮุน’ คนนั้นก็มีอิทธิพลกับเขาเสมอ
ขาที่เคยมั่นคงปัจจุบันกลับไร้เรี่ยวแรงเสียดื้อๆ จื่อเทาแทบประคองตัวเองให้กลับไปที่รถไม่ไหวแต่โชคยังดีที่เขายังมีสติมากพอ ประตูรถหรูถูกเปิดออกร่างสูงแทรกตัวเข้าไปภายในรถก่อนจะถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่
“อะไรจะบังเอิญขนาดนั้น...”
. . . S I N D E R E L L A . . .
up 55 per ; มาอัพแล้วนะค่ะรีดเดอร์ที่น่ารัก สงกรานต์สนุกกันไหม ??
ไรท์นี่คือโดนสูบพลัง !! T^T ขอโทษที่อัพช้นะค่ะยังรออยู่รึเปล่า ?
มีใครยังเกลียดคิมไคไหม คิมไคก็น่ารักนะค่ะ <3
up 100 per ; มาละค้าาา ชะแว้บบบบ กิ้วๆแอบมาอัพส่วนที่เหลือ
หลายคนงงป่ะเกิดอะไรขึ้น (ไรท์ก็งงเหมือนกัน << ไม่ใช่ละ)
ยังไงก็เอนจอยรีดดิ้งนะค่ะ
อย่าลืมร่วมฟินด้วยการสกรีมแท็ก #นางซินKD
ความคิดเห็น