ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    “SINDERELLA” kaido ft. exo

    ลำดับตอนที่ #7 : SINDERELLA SIX

    • อัปเดตล่าสุด 7 มิ.ย. 57


     

     

    SINDERELLA ; SIX




               คยองซูก้มลงมองนาฬิกาข้อมือที่บอกเวลาเจ็ดโมงกว่าๆแล้ว วันนี้เป็นวันเสาร์แต่เขาก็ไม่ได้ตื่นสายเพราะเขายังต้องทำหน้าที่

    ประจำนั่นคือการปลุกผู้หญิงของคุณไค ไม่สิจะต้องเรียกว่าผู้หญิงที่คุณไคคว้ามาจากผับเมื่อคืน

     

                ร่างเล็กสาวเท้าเข้าไปในห้องอย่างเงียบเชียบก่อนจะค่อยๆเก็บเสื้อผ้าที่กระจัดกระจายบนพื้นที่ละชิ้น เขาเก็บเสื้อผ้าของคุณไคลงตะกร้า คว้าเอาเสื้อผ้าของผู้หญิงคนนั้นแนบอกพร้อมกับหยิบผ้าขนหนูในตู้เสื้อผ้าออกมาและเดินไปเขย่าตัวเธอเบาๆ ดวงตาที่เปื้อนไปด้วยคราบอายแชโดว์ค่อยๆปรือตาขึ้นมอง คนตัวเล็กทำท่าทีเป็นเชิงบอกให้เธอลุกขึ้นแต่งตัว แต่ดูเหมือนเธอจะไม่ค่อยเข้าใจสิ่งที่คยองซูกำลังสื่อ

     

                นี่...เข้ามาทำไมคนจะหลับจะนอน !”

     

                “ชู่ว เบาๆครับเดี๋ยวคุณไคตื่นคยองซูได้แต่เอ็ดหญิงสาวเบาๆ เมื่อเธอส่งเสียงดัง คุณหน่ะลุกได้แล้วก่อนที่คุณไคจะโกรธ

     

                เมื่อจบคำคนตัวเล็กหญิงสาวก็เหลือบมองไปที่คนบนเตียงก่อนจะกระชากเอาผ้าขนหนูกับเสื้อผ้าตัวเองที่คนตัวเล็กถือไว้เดินเข้าห้องน้ำไป คยองซูเห็นดังนั้นก็ได้แต่ถอนหายใจออกมา เขาเหลือบมองร่างสูงที่คว่ำหน้าลงกับหมอนใบโต ท่อนบนเปลือยเปล่าที่โผล่พ้นผ้าห่มนั้นเซ็กซี่น่าสัมผัสจนเขาต้องเบือนหน้าหนี เสียงเปิดประตูห้องน้ำดังขึ้นทำให้คยองซูหันกลับไปพูดกับเธอ

     

     

                คุณลงไปชั้นล่างเลยนะครับจะมีคนรอส่งอยู่

     

                สิ้นคำคนตัวเล็กหญิงสาวก็เดินออกจากห้องเงียบๆ แม้เธอจะค่อนข้างไม่พอใจแต่ดูจากสายตาของเด็กคนเมื่อกี้กับชื่อเสียงของ คิมไคทำให้เธอไม่น่าจะเสี่ยงเล่นกับเขาซักเท่าไร

     

     

     

     

     

     

                กี่โมงแล้วคยองซู

     

                “อีกสิบนาทีเก้าโมงครับร่างเล็กก้มลงมองนาฬิกาและตอบคิมไคไปด้วยเสียงเรียบๆ นี่ถือเป็นประโยคแรกในรอบหนึ่งสัปดาห์ที่พวกเขาพูดคุยกันตั้งแต่เหตุการณ์ครั้งนั้น ทั้งๆที่อยู่บ้านเดียวกันจากที่ไม่ค่อยจะได้พูดจากันเท่าไรตลอดอาทิตย์ที่ผ่านมากลับไม่มีคำพูดใดๆออกจากปากของคิมไคเลยเมื่ออยู่ต่อหน้าคยองซู คุณไคจะทานข้าวเช้าเลยไหมครับ

     

                “อืมร่างสูงเอ่ยรับง่ายๆก่อนจะลุกขึ้นพิงหัวเตียง แต่วันนี้ขอกินที่นี่ละกัน นายยกขึ้นมาให้ด้วยนะ

     

                “ครับ เดี๋ยวผมจะบอกป้ามินจีให้ยกขึ้นมา

     

                “ไม่ต้อง...

     

                “ครับ ?”

     

                “นายนั่นแหละยกขึ้นมา

     

                “ผมเหรอ

     

                “อย่าถาม เคยบอกไว้จำได้ไหม

     

                “คะ...ครับ...คยองซูก้มหน้ารับคำก่อนจะเดินออกจากห้องลงไปที่ห้องครัว ในครัวตอนนี้ไม่มีใครเลยมีแต่หม้อข้าวต้มที่ตั้งอยู่เท่านั้นโพสอิทอันเล็กๆเขียนติดไว้ตรงตู้เย็นว่า ป้ามินจีไปจ่ายตลาด ร่างเล็กเดินตรงไปที่เตาและเปิดแก๊สเพื่ออุ่นข้าวต้ม เขารอเวลาซักพักแล้วจึงตักมันใส่ถ้วยเพื่อยกขึ้นไปให้เจ้านายที่นอนรอบนห้อง เป็นเจ้านายนี่สบายจริงได้ทีก็สั่งเอาๆตลอด ร่างเล็กได้แต่ก่นด่าอีกคนในใจทั้งๆที่เสียเวลาเล็กน้อยเดินลงมากินข้าวก็ได้ แต่ทำไมต้องให้ เขาลำบากลำบนเดินขึ้นเดินลงแบบนี้ด้วย

     

     

                มือเล็กเปิดประตูห้องออกแล้วกวาดตามองไปรอบๆ เขามองเห็นคิมไคยืนอยู่ที่หน้าต่างบานใหญ่ในห้อง แผ่นหลังกว้างปราศจากอาภรณ์ใดๆทำให้ดวงใจเล็กๆเต้นกระหน่ำ คยองซูเดินเอาข้าวต้มไปวางไว้บนโต๊ะทำงานก่อนจะรีบสาวเท้าเดินออกจากห้องแต่ยังไม่ทันที่จะถึงประตูเสียงเรียกข้างหลังก็ดังขึ้นก่อน

     

     

     

     

     

                เดี๋ยว

     

                “คุณไคมีอะไรอีกรึเปล่าครับ

     

     

                “ฉันเรียกทำไมไม่หันหน้ามาคำพูดนั้นของคิมไคทำให้ผมอยากจะเข้าไปบีบคอคนตรงหน้าให้รู้แล้วรู้รอดมันจะอะไรกันนักกันหนาแต่ก็ทำได้แค่คิดเมื่อความจริงเขาได้แต่หันไปยิ้มบางๆให้เจ้านายเท่านั้น

     

                “ครับ...?

     

     

     

     

     

     

                “รอเก็บถ้วยไปด้วย เดี๋ยวมดมันจะขึ้น

     

     

     

     

     

     

     

                กร๊าซซซซซซซซซซซซซซซซซซซซ

     

                คยองซูอยากจะพ่นไฟใส่คนตรงหน้าให้ดำกว่าเดิมเพราะเมื่อออกคำสั่งเสร็จก็เดินเปลือยท่อนบนมานั่งกินข้าวต้มสบายใจ

     

                นั่งนี่สิ...ไม่เมื่อยเหรอ

     

                “ไม่ครับ

     

     

     

     

                “บอกให้นั่งก็นั่ง อย่ายืนค้ำหัวโว้ยยยย ค้ำหัวตรงไหนกันคยองซูก็ไม่แน่ใจเพราะเขายืนห่างจากคิมไคตั้งหลายฟุตแต่เจ้าตัวกลับเรียกไม่สิออกคำสั่งให้เขาไปนั่งลงเก้าอี้ฝั่งตรงข้ามมากกว่า เพราะไมได้ถามความสมัครใจซักคำ เก้าอี้ตรงด้านหน้าโต๊ะถูกเลื่อนออก คยองซูทิ้งตัวลงนั่งด้วยสีหน้าขัดใจเล็กน้อยในใจได้แต่ท่องพุธโทไม่หยุดเพราะวันนี้เจ้านายของเขากวนประสาทเกินไปไม่รู้ว่าเก็บกดมาจากไหน

     

                ถ้วยข้าวต้มถูกเจ้าตัวเลื่อนออกห่างหลังจากที่ทานจนหมดเกลี้ยง ร่างเล็กที่นั่งตรงข้ามลุกขึ้นยืนแล้วคว้าเอาชามนั้นขึ้นมาถือไว้เตียมจะออกไปข้างนอก

     

                คยองซู

     

                “ผมกำลังจะเอาถ้วยไปเก็บครับ

     

                “เดี๋ยว

     

                “อะไรครับ

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

                “ขอโทษ...เสียงทุ้มๆดังก้องไปทั่วห้อง คยองซูรู้สึกเหมือนโดนแช่แข็งเขาไม่สามารถขยับไปไหนได้เลยได้แต่ยืนนิ่งอยู่หน้าโต๊ะเพราะคำพูดนั้น คำพูดที่เหมือนเป็นระเบิดลูกใหญ่ที่ทำลายกำแพงที่เขาเพียรสร้างเพื่อขวางกั้นเพื่อเพิ่มระยะห่างของเขากับคิมไค เขายอมรับว่าโกรธที่ร่างสูงทำและพุดแบบนั้นกับเขา มันทำให้เขาเจ็บถึงแม้มันจะเป็นความจริงแต่การที่ร่างสูงพูดตอกย้ำซ้ำๆว่าเขาเป็นแค่เด็กที่เคยเป็น เมียน้อยของใครคนหนึ่ง ฉัน...ไมได้ตั้งใจ

     

                เพล้ง !

     

                มือพลันอ่อนแรงเมื่อได้ยินคำพูดต่อมา คำที่ฟังแล้วดูเหมือนเป็นแค่คำแก้ตัวง่ายๆของคนทำผิด แต่มันกลับมีอิทธิพลในการ ให้อภัยของคยองซูมาก อาจจะเพราะมันออกมาจากปากคิมไค เขาคิดมาตลอดหากคนตรงหน้าเอ่ยคำๆนี้ออกมาเขาจะทำยังไง ให้อภัย โกรธกว่าเดิมหรืออะไร ในตอนนี้เรืองราวในสมองตีรวนกันจนมั่วไปหมด ร่างเล็กก้มลงกับพื้นและเก็บเศษชามที่แตกช้าๆโดยไม่หันหลังกลับไปมองอีกคนที่ยืนอยู่

     

                ไม่ต้องเก็บเดี๋ยวฉันจะให้ป้าอึนจีจัดการ

     

                “ป้าอึนจีไม่อยู่ครับ ไปตลาด

     

                “งั้นไว้นั่นแหละร่างเล็กทำเหมือนหูทวนลมไม่ได้ยินคำพูดที่อีกคนพูด จนคิมไคต้องเดินมาตรงหน้าคยองซูที่กำลังก้มหน้าก้มตาหาเศษแก้วที่กระจัดกระจาย บอกให้หยุดไง !!!”

     

     

     

     

     

                เคร้ง !

     

                เสียงทุ้มตวาดกร้าวขึ้นจนร่างเล็กสะดุ้ง เศษจานในอุ้งมือหล่นกระจัดกระจายอีกครั้ง คิมไคก้มลงมองด้วยสายตาหน่ายๆ เขาต้องห้ามคนตรงหน้าไว้เพราะสติยังมาไม่ทันครบเดี๋ยวโดนแก้วบาดขึ้นมามันจะยุ่ง ร่างสูงนั่งยองๆลงตรงหน้าอีกคนก่อนจะจับข้อมือเล็กไว้

     

                ไว้ตรงนี้...เดี๋ยวฉันจะเรียกคนมาเก็บ

     

     

     

                “ทำไม...

     

                “…”

     

                “ทำไมคุณต้องทำกับผมแบบนี้

     

     

     

     

     

                มาทำดีกับผมทำไม คุณรู้แล้ว...ฮึก คุณรู้แล้วว่าผมมันสกปรกมือเล็กยกขึ้นปาดน้ำตาที่ไหลออกมา ในใจของเขาเจ็บปวดเกินจะรับไหว คยองซูได้แต่กำมือแน่นจนลืมว่ามีเศษถ้วยเล็กๆอยู่ ความเจ็บแล่นริ้วจนต้องนิ่วหน้า แต่สุดท้ายมือบางยอมคลายออกเพราะคิมไคลูบเบาๆเหมือนปลอบโยน เศษแก้วฝังลงบนฝ่ามือเรียวจนเลือดไหลซึมแต่คนตรงหน้ากลับแค่มองหน้าเขาและส่ายหน้า เดี๋ยวผมจัดการเองครับ...คุณไคไปพักผ่อนดีกว่า

     

                “ฉันไม่ชอบให้ใครมาสั่ง...จบคำพูดร่างสูงก็กึ่งลากกึ่งจูงอีกคนไปที่โซฟา แล้วเดินไปหยิบกล่องปฐมพยาบาลที่ตู้เสื้อผ้า

     

                ร่างสูงเดินกลับมาที่โซฟาพร้อมกล่องสีขาว เขานั่งลงข้างๆคยองซูแล้วคว้าเอาฝ่ามือเล็กมาดู คิ้วเข้มขมวดเข้าเล็กน้อย

     

     

     

                “ตอนดึงแก้วออกเจ็บหน่อยนะ...เสียงทุ้มพูดขึ้นพร้อมกับมองหน้าอีกคนที่พยักหน้าช้าๆเป็นเชิงอนุญาต ดวงตากลมโตจ้องมองอีกคนทำแผลให้ตัวเองอย่างชำนาญแต่ก็ต้องขมวดคิ้มพร้อมกับร้องออกมาเบาๆเพราะความแสบตอนที่ใส่ยา การกระทำที่อ่อนโยนของคิมไคทำให้คยองซูเพลินจนไม่รู้ว่าอีกคนพันผ้าพันแผลให้เขาเสร็จตอนไหน รู้ตัวอีกทีคิมไคก็ส่งใบหน้าอันน่าหลงไหลนั่นเข้าประชิดเขาเสียแล้ว

     

                คยองซู

     

                “คะ...ครับ

     

                “จำไว้นะ...บนโลกนี้ไม่มีใครหรอกที่ไม่เคยแปดเปื้อนคิมไคจ้องลึกลงไปในดวงตากลมโต ไม่ว่าฉันหรือนายก็ต้องเคยสกปรกกันทั้งนั้น

     

                “…”

     

     

     

     

     

     

     

     

                “อย่าเอาอดีตมาตัดสินปัจจุบัน สามปีที่แล้วมันก็เป็นอดีต เมื่อวานก็เป็นอดีต นายลืมมันไปเถอะ

     

                “…”

     

                “เชื่อฉัน...เพราะนายเป็นคนใหม่ตั้งแต่วันที่ฉัน เลือกนายแล้วคิมไคส่งริมฝีปากร้อนจุมพิตเข้าบริเวณที่พันแผลไว้ราวกับจะร่ายมนต์ให้หายปวด ก่อนจะเดินจากไปทิ้งไว้แต่คยองซูที่ได้แต่ก้มหน้าครุ่นคิดอยู่กับตัวเอง

     

                อดีตมันลบไม่ได้แต่ปัจจุบันเราสร้างใหม่ได้...จริงเหรอ ?

                .

                .

                .

    55 per

     

    .

                .

                .

     

                ครืด

     

                ร่างเล็กเงยหน้าขึ้นจากกองหนังสือคว้าเอาโทรศัพท์บนโต๊ะขึ้นมาอ่านข้อความไลน์จากเพื่อนสนิท

     

                ‘O-Oh!SEHUN :         ’

     

                ‘kyungsOO : เป็นไร

     

                ‘O-Oh!SEHUN :

     

                ‘kyungsOO : ถ้าไม่หยุดวันจันทร์เจอดีนะโอเซฮุน

     

                ‘O-Oh!SEHUN :       

     

              ‘O-Oh!SEHUN : กลัวแล้วจ้ะ

     

              kyungsOO : สรุปเป็นอะไร

     

                ‘O-Oh!SEHUN : เปล่า...แค่เบื่อ

     

                ‘O-Oh!SEHUN : ไม่มีไรทำเลย

     

              kyungsOO : การบ้านเสร็จยัง

     

              ‘O-Oh!SEHUN : ยังเลย =………………..= ’

     

                kyungsOO : ไปทำซะ

     

                ‘kyungsOO :

     

                ‘O-Oh!SEHUN : คยองซู

     

                ‘O-Oh!SEHUN : อยากไปเที่ยว ไปเป็นเพื่อนหน่อย

     

              kyungsOO : ทำการบ้านเสร็จก่อน

     

              ‘O-Oh!SEHUN : จริงนะ

     

              kyungsOO : อืม แต่นายก็ต้องทำด้วยนะ

     

              ‘O-Oh!SEHUN : อะเฟ

     

              kyungsOO : รีบไปทำซะสิ

     

                ‘O-Oh!SEHUN : 

               

                คยองซูส่ายหน้าไปมาให้กับมือถือตัวเองก่อนจะหันกลับมาทำการบ้านต่อ มือข้างซ้ายถูกพันด้วยผ้าพันแผล โชคยังดีที่เขาไม่เผลอเอามือขวากำเศษแก้วไม่งั้นคงจะทำอะไรไม่ได้ ดวงตากลมจดจ้องกระดาษสมุดตรงหน้าก่อนจะเขียนคำตอบลงไปจนถึงหน้าสุดท้าย คยองซูปิดหนังสือลงและเหลือบมองนาฬิกาที่ฝาผนังบอกเวลาบ่ายสองโมง

     

                ร่างเล็กหลับตาลงพร้อมกับนึกย้อนถึงเหตุการณ์เมื่อไม่กี้ชั่วโมงก่อนคิมไคเป็นผู้ชายที่ค่อนข้างมีอิทธิพลกับเขามาก หัวใจดวงน้อยๆยังคงเต้นแรงเมื่อนึกถึงสัมผัสอุ่นร้อนที่ฝ่ามือที่เขาไม่รู้ว่าคิมไคทำไปทำไม...

     

                ครืด

     

              ‘O-Oh!SEHUN ; ไปเที่ยวกัน

                ‘O-Oh!SEHUN :

     

                ‘kyungsOO : การบ้านเสร็จละเหรอ

     

              ‘O-Oh!SEHUN : เรียบร้อย โอเซฮุนซะอย่าง

     

              ‘O-Oh!SEHUN : 

     

              kyungsOO : ให้มันจริง

     

              ‘O-Oh!SEHUN : อยู่ล้าวววว

     

                ‘O-Oh!SEHUN : จะไปกันยัง

     

              kyungsOO : อืม แล้วจะไปไหนหล่ะ

     

              ‘O-Oh!SEHUN : ห้าง A อีกสิบนาทีเจอกันนะ

     

              kyungsOO : อืม เจอกัน

     

              ‘O-Oh!SEHUN : อะเฟๆ

     

     

     

              หลังจากอ่านข้อความของเซฮุนเรียบร้อยคยองซูก็เลื่อเก้าอี้ที่ตัวเองนั่งอยู่ออกแล้วเดินไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดลำลองง่ายๆ เสื้อยืดสีฟ้าพิมพ์ลายกับกางเกงสามส่วนสีขาวขับผิวของคยองซูให้ขาวขึ้นไปอีก ร่างเล็กเดินไปหน้ากระจกก่อนจะทาแป้งลงบนใบหน้าลูบๆสองสามทีแล้วเปิดประตูเดินขึ้นบันไดไป

     

                ห้องนอนของคยองซูเป็นห้องใต้ดินในตึกใหญ่ ไม่ใช่เรือนเล็กที่คนรับใช้ทั่วไปอยู่ คิมไคให้เหตุผลง่ายๆว่าสะดวกต่อการเรียกใช้ ซึ่งห้องใต้ดินมีอยู่สองห้องของเขาและจื่อเทา

     

     

     

     

     

     

     

                จะไปไหนตัวเล็กพูดถึงหมีหมีก็มา จื่อเทาเดินเข้ามาทักทายเขาทันทีที่เขาเดินผ่านห้องรับแขก

     

                ไปห้าง A นัดเพื่อนไว้

     

                “ไปส่งไหม

     

                “ไม่เป็นไร เดี๋ยวไปแท็กซี่ก็ได้

     

                “นั่งแท็กซี่มันเปลือง มา เดี๋ยวไปส่ง

     

                “...

     

                “ไปไม่ไป

     

                “ไปก็ได้สุดท้ายเขาก็ตอบรับคำจื่อเทาไปง่ายๆร่างเล็กเดินตามจื่อเทาไปโรงรถ จื่อเทากดรีโมทหนึ่งทีไฟท้ายที่รถเบนซ์คันนึงก็กระพริบ คยองซูเดินไปเปิดประตูแล้วแทรกตัวเข้าไปในรถ ตามด้วยเจ้าของรถที่เปิดประตูขึ้นนั่งฝั่งตรงข้าม

     

                ยังกับรถตัวเองเลยนะตัวเล็ก

     

                “ก็นั่งอยู่ทุกวันจนจะเป็นรถตัวเองและร่างเล็กเอ่ยตอบอย่างหน่ายๆรถคันนี้เป็นรถของจื่อเทาและก็เป็นรถที่เขานั่งไปโรงเรียนทุกวัน แม้ในโรงรถจะมีรถมากกว่าห้าคันแต่คยองซูก็ได้นั่งแค่รถของจื่อเทากับรถประจำตำแหน่งคุณไคเท่านั้น คันอื่นที่เป็นของคิมไคจะมีแค่สาวๆของเขาเท่านั้นหล่ะมั้งที่ได้นั่ง...

     

                นัดใครไว้เหรอ

     

                “เพื่อนที่โรงเรียน

     

                “ว้าว มีเพื่อนที่โรงเรียนด้วยแฮะ

     

                “ฉันก็ไม่ได้ไร้มนุษยสัมพันธ์ขนาดนั้นนะ

     

                ก็ไม่เห็นเคยเล่าให้ฟัง

     

     

     

     

                “นายเคยมีเวลาฟังด้วยเหรอคยองซูอดที่จะแซะคนข้างๆไมได้ เพราะจริงๆแล้วจื่อเทาคนนี้ก็ยุ่งไม่แพ้คิมไคหรอกเพาะเขาถือเป็นทั้งมือซ้ายและมือขวาในการบริหารธุรกิจด้านมืดของคิมไค เวลานอนของเขาคือตอนเช้าหรือบางทีอาจจะไม่กลับมานอนบ้านเลยก็ได้

               

                ถ้าพูดดีๆหากคิมไคไม่สั่งจื่อเทาก็แทบไมได้ไปไหนนอกจากบ้านและบาร์นับสิบที่ดูแลแทนเจ้านาย แต่ก็ดีหน่อยที่คิมไคยังคงปราณีให้จื่อเทามีวันหยุดอาทิตย์ละสองวันสำหรับการนอนพักผ่อนอยู่บ้าน

     

                นั่นสิ ช่วงนี้โคตรยุ่งเลย

     

                “ที่ผับมีปัญหาเหรอ

     

                “ไม่เชิงหรอกจื่อเทาหันกลับมามองเขาพร้อมกับยักไหล่ ตอนนี้รถกำลังติดไฟแดงรอบที่สองตั้แต่เดินทางออกมา แค่ช่วงนีมีตำรวจมาบ่อยเกินไป

     

                “ตรวจยาเหรอ

     

                “มั้ง แต่ก็ไม่เจอหรอกเพราะคุณไคไม่ยอมให้มีหรอกจริงของจื่อเทาถึงคิมไคจะทำธุรกิจผิดกฎหมายมากมายแต่สิ่งหนึ่งที่คนๆนั้นเกลียดมากคงเป็นพวกยาเสพติด เพราะในครั้งแรกที่เขาเจอกับคิมไคคนที่โดนสั่งเก็บก็คือพนักงานที่แอบเอายามาขายในผับ

     

                เงียบทำไม...คิดอะไรอยู่รึเปล่า

     

                “ปะ...เปล่า

     

                “งั้นตอนนี้ฉันพอมีเวลาเล่ามาสิว่าเพื่อนของนายมีกี่คนจื่อเทาพูดพร้อมกับออกรถทันทีที่สัญญาณไฟเปลี่ยนสี คยองซูถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนจะเอ่ยปากเล่าเรื่องโอเซฮุนให้คนตรงหน้าฟัง

     

     

     

                ฉันมีเพื่อนสนิทแค่คนเดียว มันน่ารักนะถึงจะกวนประสาทไปหน่อยก็เหอะ ตัวผอมๆแห้งๆแต่สูงกว่าฉันคืบกว่า ชอบกินชานมไข่มุกมากๆ ชอบลากฉันไปกินอยู่เรื่อยน้ำหนักฉันจะขึ้นเพราะ โอเซฮุนนี่แหละ

     

     

     

     

     

     

     

     

     

                เอี้ยดดด !!

     

                เสียงล้อเบียดถนนบาดแก้วหูเกิดขึ้นทันทีที่เจ้าของรถหักเข้าข้างทางและจอดกะทันหัน ตัวคยองซูกระตุกเล็กน้อยโชคยังดีที่คาดเบลท์ไว้ไม่งั้นมีหวังหน้าฟาดคอนโซลรถแหงๆ

     

                ย่าห์ ! อะไรของนายฮะฮวังจื่อเทาคิดจะเบรกก็เบรก

     

                “นายว่าอะไรนะ

     

                “ห้ะ”    

     

     

     

     

     

                “เพื่อนของนาย...ชื่อ โอเซฮุนงั้นเหรอจื่อเทาหันกลับมามองหน้าร่างเล็กด้วยแววตาตระหนก วูบหนึ่งใบแววตามีความหวั่นไหวซ่อนอยู่จนคยองซูนึกแปลกใจ

     

     

                ใช่...ทำไมเหรอ

     

     

     

                “นายกำลังจะไปเจอเขา ใช่ไหม ?

     

     

                “กะ...ก็ใช่ มีอะไรรึเปล่าจื่อเทา

     

                “ไม่ๆ ไม่มีอะไรไม่มีจริงๆ แล้วนัดกันที่ไหน

     

                “หน้าโรงหนังหน่ะ เซฮุนพึ่งไลน์มาบอก

     

                “อืมจื่อเทาพยักหน้าช้าๆก่อนจะออกรถอีกครั้ง ทั่วทั้งรถเกิดความเงียบขึ้น ไม่มีใครพูดอะไรอีก จื่อเทาขับรถไปเงียบๆส่วนคยองซูก็นั่งนิ่งๆเหม่ออกไปนอกหน้าต่างแล้วก็ใช้เวลาไม่นานรถก็จอดหน้าห้าง A ที่เขานัดกับเซฮุนไว้

     

                ขอบคุณที่มาส่งนะ

     

                ไม่เป็นไร

     

                “โอเค รึเปล่าจื่อเทา

     

                “โอเคๆ

     

                “งั้นไปนะ ไม่ต้องมารับนะเดี๋ยวให้เซฮุนไปส่งจื่อเทาพยักหน้ารับคำก่อนจะออกรถทันทีที่ร่างเล็กปิดประตู ทิ้งไว้แต่ความสงสัยที่แน่นเต็มอกของคยองซู

     

     

     

                จื่อเทาทำไมต้องตกใจขนาดนั้นกับชื่อของโอเซฮุน

              .

                .

                .

     

              จื่อเทาขับรถห่างออกมาจากห้างได้ไม่ไกลเขาก็ตัดสินใจวกรถกลับ รถหรูเข้าจอดบริเวณลานจอดรถวีไอพีร่างสูงก้าวเดินอย่างรีบร้อน ร่างสูงรอลิฟท์ที่กดไว้ก่อนจะก้าวเข้าไปเมื่อประตูเปิดออก จื่อเทาตกเป็นเป้าสายตาทุกคนในลิฟท์ทันทีอาจจะเพราะเขาตัวสูงและดูดีจนน่าใจหาย มันจึงไม่แปลกนักที่จะถูกมอง

     

                เมื่อถึงชั้นเป้าหมายร่างสูงก็เบียดตัวออกจากลิฟท์เขาคว้าเอาแว่นกันแดดสีดำมาสวมแล้วเดินไปบริเวณหน้าโรงหนัง สายตาคมกวาดตามองโดยรอบ เขามองเห็นคยองซูนั่งรออยู่ที่ก้าวอี้นวมหน้าโรงหนังด้วยสีหน้าเหม่อลอยเหมือนกำลังคิดอะไรซักอย่าง แต่ดวงตาคมก็ต้องเบิกกว้างขึ้นเมื่อเห็นร่างโปร่งเดินเข้ามาหาคยองซูและยิ้มกว้างจนดวงตาเป็นรูปพระจันทร์เสี้ยว

     

                มันเป็นรอยยิ้มสดใสจนกระชากหัวใจที่เต้นเป็นจังหวะสม่ำเสมอของจื่อเทาให้เต้นระรัวอีกครั้ง ไม่ว่าจะผ่านมานานเท่าไรโอเซฮุนคนนั้นก็มีอิทธิพลกับเขาเสมอ

     

                ขาที่เคยมั่นคงปัจจุบันกลับไร้เรี่ยวแรงเสียดื้อๆ จื่อเทาแทบประคองตัวเองให้กลับไปที่รถไม่ไหวแต่โชคยังดีที่เขายังมีสติมากพอ ประตูรถหรูถูกเปิดออกร่างสูงแทรกตัวเข้าไปภายในรถก่อนจะถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่

     

     

     

     

     

     

     

                อะไรจะบังเอิญขนาดนั้น...

    . . . S I N D E R E L L A . . .

     

     


    up 55 per ; มาอัพแล้วนะค่ะรีดเดอร์ที่น่ารัก สงกรานต์สนุกกันไหม ??
    ไรท์นี่คือโดนสูบพลัง !! T^T ขอโทษที่อัพช้นะค่ะยังรออยู่รึเปล่า ?
    มีใครยังเกลียดคิมไคไหม คิมไคก็น่ารักนะค่ะ <3

    up 100 per ; มาละค้าาา ชะแว้บบบบ กิ้วๆแอบมาอัพส่วนที่เหลือ
    หลายคนงงป่ะเกิดอะไรขึ้น (ไรท์ก็งงเหมือนกัน << ไม่ใช่ละ)
    ยังไงก็เอนจอยรีดดิ้งนะค่ะ


     

    อย่าลืมร่วมฟินด้วยการสกรีมแท็ก #นางซินKD
     


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×