ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    “SINDERELLA” kaido ft. exo

    ลำดับตอนที่ #5 : SINDERELLA FOUR

    • อัปเดตล่าสุด 7 มิ.ย. 57



    SINDERELLA ; FOUR

     

     

                ร่างเล็กของคยองซูนั่งลงตรงฟุตบาทหน้าบ้านเพื่อรอ โอเซฮุนมารับไปโรงเรียน เรื่องมันเกิดเมื่อจู่ๆจักรยานคันเก่งของเขาดันยางแบนส่วนมอเตอร์ไซค์ก็สตาร์ทไม่ติดซะอย่างนั้น ทำให้เขาต้องบากหน้าโทรหาโอเซฮุนเพื่อขอให้มารับเพราะมันสายแล้ว ถึงโรงเรียนจะไม่ไกลแต่ถ้าให้วิ่งไปคยองซูก็ขอบายเหมือนกัน ร่างเล็กยกนาฬิกาข้อมือขึ้นมาดูเวลาก่อนจะถอนหายใจเฮือกใหญ่เพราะไม่เห็นวี่แววของเพื่อนสนิทแม้แต่น้อย

     

     

                อย่าบอกนะว่านอนต่ออีกแล้ว มือเล็กตั้งท่าจะกดโทรออกหาเพื่อนสนิทอีกครั้งถ้าไม่ติดว่ามี รถเมอร์ซิเดซเบนซ์คันหรูเข้ามาจอดเทียบฟุตบาทที่ห่างจากคยองซูเล็กน้อย มันเรียกความสนใจร่างเล็กเป็นอย่างดี ดวงตากลมโตมองตรงไปอย่างสงสัยก่อนจะต้องเบิกตากว้างกว่าเดิมเมื่อเห็นว่า อู๋อี้ฟานก้าวลงมาจากรถคันนั้น

     

     

                น้องเซฮุนให้พี่มารับเราหน่ะ

     

                “ละ...แล้วเซฮุนหล่ะครับ

     

                “แฮงค์หน่ะ เมื่อคืนหนักไปหน่อย

     

                “เหรอครับ...ร่างเล็กตอบอ้อมแอ้มในลำคอก่อนจะตัดสินใจลุกขึ้นยืนเต็มความสูง งั้นผมเดินไปเองก็ได้ครับ จะได้ไม่ลำบากพี่อี้ฟาน

     

                มือเรียวของคุณชายตระกูลอู๋คว้าเข้าที่ข้อมือเล็กเพื่อรั้งไว้ก่อนที่จะเดินหนี          

     

     

     

     

                เดี๋ยวพี่ไปส่งดีกว่านะ เดี๋ยวเซฮุนจะโกรธพี่ว่าพี่เป็นคนผิดสัญญา

     

                “ผมไม่บอกเซฮุนหรอกครับ

     

                “คยองซูครับ ถ้าไม่ให้พี่ไปส่งเดี๋ยวจะสายนะครับร่างเล็กเหลือบมองนาฬิกาอีกครั้งก่อนจะถอนหายใจออกมาอย่างปลงๆและเดินไปขึ้นรถหรูทันที เพราะเขาไม่อยากไปสายหรอกนะถึงได้ยอม การกระทำนั้นทำให้อู๋อี้ฟานยิ้มกว้างออกมาอย่างอารมณ์ดี ก่อนจะรีบอ้อมไปเปิดประตูฝั่งคนขับเพื่อเคลื่อนรถหรูออกไป โดยมีสายตาคู่หนึ่งจากชั้นบนของบ้านมองตาม

     

                .

                .

                .

               

     

                คยองซูเมื่อเช้าใครมาส่งหน่ะ !!”เสียงแว้ดๆของ จองโบราเพื่อนร่วมห้องของคยองซูดังขึ้นทันทีที่เขานั่งลงบนโต๊ะ ใช่พี่คริสรึเปล่า ใช่ไหม ??

     

                “อืม

     

                “เป็นอะไรกัน แฟนเหรอ ?

     

                “เปล่า

     

                “ทำไมพี่เขาได้มาส่งหล่ะ

     

                “พอดีรถเราเสีย เซฮุนเลยให้พี่เขามารับคยองซูตอบไปตามความจริงโดยไม่ได้มองหน้าคู่สนทนาแม้แต่น้อยดวงตากลมโตเอาแต่จับจ้องหนังสือที่ตัวเองคว้าขึ้นมาอ่านเมื่อกี้ ถึงแม้จะดูเสียมารยาทแต่มันก็เป็นการแก้ปัญหาแบบส่งๆเวลาที่เขาไม่อยากคุยกับใคร แต่ดูเหมือนว่าจองโบราคนนี้จะไม่เข้าใจ

     

                “จริงเหรอ

     

                “อืม

     

                “แล้วเย็นนี้พี่เค้าจะมาอีกไหมอ่ะ

     

                “คงไม่แล้วแหละ เราบอกว่าเราจะกลับเอง

     

                “พี่เค้าจีบคยองซูรึเปล่า

     

                “ไม่หรอกร่างเล็กตอบกลับพร้อมกับเงยหน้าขึ้นมองเธอด้วยสีหน้าเรียบเฉย เขาไม่ชอบเสียงผู้หญิงเลยจริงๆมันแว้ดๆน่ารำคาญชะมัด

     

                แล้ว...

     

     

     

     

     

     

     

                ปัง !

     

     

     

                “เลิกพูดซักทีได้ไหม ฉันรำคาญเสียงทุบโต๊ะที่ดังลั่นขึ้นพร้อมกับน้ำเสียงทุ้มๆของ คิมฮวังจินที่ดังขึ้นจากข้างหลังพร้อมกับการเงยหน้ากวนๆขึ้นมาจากแบนตัวเอง สร้างเดดแอร์ให้เกิดในห้องอย่างเหลือเชื่อ เสียงของคนทั้งห้องเงียบกริบ แม้แต่โบราที่ตั้งท่าจะถามต่อก็ก้มหน้าลงไปเงียบๆ ทำให้คยองซูได้ก้มหน้าก้มตาอ่านหนังสือเงียบๆซักที

     

                ...

     

                ครืด

     

                ร่างเล็กที่กำลังเหม่อสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อโทรศัพท์ในกระเป๋าสั่น

     

                ‘O-Oh!SEHUN : คยองซู

     

                kyungsOO : หืม

     

                ‘O-Oh!SEHUN : ฝากเอาสมุดชมรมใต้โต๊ะไปให้ฮวังจินหน่อย

     

                ‘O-Oh!SEHUN : เร็วๆนะถ้าช้ามันกินหัวฉันแน่

     

              kyungsOO : อ่าฮะ

     

                ร่างเล็กก้มลงมองใต้โต๊ะเพื่อนสนิทก่อนจะลงมือค้นเพื่อหาสมุดเช็คชื่อชมรมของเพื่อน ก่อนจะพบมันถูกทับอยู่ข้างล่างสุด

     

     

     

     

     

    สมุดกิจกรรมชมรม

    ชมรม : เต้น

    ประธานชมรม : คิมฮวังจิน

    รองประธาน : โอเซฮุน

             

     

     

     

              เห็นฮวังจินรึเปล่า

     

                “ไม่รู้สิมื่อกี้เห็นเดินออกจากห้องไป

     

                “น่าจะอยู่ที่ชมรมมั้ง

     

                “อืม ขอบใจนะคยองซูเอ่ยขอบคุณจองโบราที่จู่ๆก็โพล่งขึ้นมากลางบทสนทนา ไม่แปลกที่ผู้หญิงคนนี้จะรู้ว่าฮวังจินอยู่หนเพราะเธอก็เป็นหนึ่งในสมาชิกชมรม เมื่อรู้ว่าเป้าหมายอู่ที่ไหนเขาก็รีบเดินปลีกตัวออกไปยังห้องชมรม ตอนนี้เป็นเวลาบ่ายสองกว่าๆแล้ว แต่เพราะวันนี้ครูประชุมทั้งโรงเรียนทำให้นักเรียนทุกคนว่าง แต่โรงเรียนมีกฎว่าห้ามออกจากโรงเรียนก่อนเวลาเลิกเรียนซึ่งก็คือบ่ายสามโมง ทำให้กิจกรรมยามว่างเริ่มเกิดขึ้นทั่วโรงเรียน เล่นกีฬา จับกลุ่มนินทาแบบจองโบรา นอนแบบคยองซูหรือปลีกตัวไปอยู่คนเดียวแบบฮวังจิน

     

                ปกติเวลาแบบนี้เขาควรจะนั่งคุยหรือเล่นอะไรซักอย่างอยู่กับโอเซฮุน แต่เพื่อนตัวขาวกลับไม่มาซะอย่างนั้นมันทำให้คยองซูโกรธไม่น้อยเพราะนอกจากจะทำให้เขาเหงาแล้วยังมาเพิ่มภาระรบกวนการนอนของเขาอีก

     

                เท้าเล็กเดินไปยังห้องริมสุดของตึกกิจกรรม ดวงตากลมโตจดจ้องไปยังร่างสูงโปร่งของคนที่ตัวเองกำลังตามหา ฮวังจินเคลื่อนตัวเองไปตามจังหวะเพลงที่เล็ดลอดออกมาทางประตูที่ปิดไม่สนิทสะกดให้คนตัวเล็กยืนมองอย่างเพลินตาไมได้

     

                เวลาผ่านไปหลายนาที ฮวังจินเต้นไปเรื่อยๆเพลงแล้วเพลงเล่าแต่ทุกเพลงก็สะกดคยองซูไว้ได้ทุกเพลง จนเพลงสุดท้ายจบลงร่างโปร่งเดินไปหยิบน้ำจากมุมห้องกระดกเข้าปากอย่างรวดเร็ว ทำให้คยองซูได้สติ เขาเดินไปเคาะประตูสองสามครั้งก่อนจะเปิดเข้าไป

     

                แอบมองคนอื่นมันไม่ดีนะ

                มาแอบมองมันไร้มารยาทนะ

     

              เสียงทุ้มของฮวังจินสะท้อนก้องรวมกับเสียงของคนที่อยู่ในความทรงจำของคยองซู คล้าย...ทั้งท่าทางเสียง ลักษณะการพูด คล้าย คิมไค

     

                “ขอโทษ

     

                “แล้วมีธุระอะไรรึเปล่า

     

                “เอ่อ...เซฮุนให้เอามาให้

     

                “อืม ใส่ไว้ในกระเป๋าให้หน่อย

     

                “อ่าฮะ ไปก่อนนะคยองซูเอ่ยขึ้นเบาๆหลังจากยัดสมุดเล่มนั้นลงกระเป๋าเป้ ก่อนจะหันหลังเดินกลับไป

     

                เดี๋ยวสิ

     

                “หืม...

     

                “รถนายเสียเหรอ

     

                “อ่า...ใช่

     

                “จักรยานนายหน่ะนะ

     

                “อืม ยางแบนหน่ะ

     

                “แล้วเย็นนี้กลับยังไง

     

                “เดิน...ละมั้ง

     

                “เหรอ

     

                “มีอะไรรึเปล่า

     

                “เดี๋ยวไปส่ง

     

                “ห้ะ

     

                “บอกว่าเดี๋ยวไปส่งที่บ้าน

     

                “เอ่อ...จะดีเหรอ

     

                “อย่าปฎิเสธไม่ชอบร่างสูงขมวดคิ้วอย่างขัดใจเมื่อได้ยินเสียงอ้อมแอ้มของคนตัวเล็ก ตกลงยังไง กลับหรือไม่กลับ

     

     

     

     

     

     

     

     

                “ก็ไม่ให้ปฎิเสธไม่ใช่เหรอคยองซูพูดขึ้นด้วยเสียงติดจะหงุดหงิดนิดๆเรียกรอยยิ้มเล็กๆที่มุมปากของร่างสูงได้เป็นอย่างดี ฮวังจินผิวปากอย่างอารมณ์ดีก่อนจะถอดเสื้อกล้ามสีดำใส่อยู่ออกทิ้งบนพื้นแล้วไปหยิบผ้าขนหนูผืนเล็กในกระเป๋าออกมาซับเหงื่อ

     

                มองทำไม อยากมาเช็ดให้เหรอ

     

                “ตลกละ -__-”

     

                “หึร่างสูงหัวเราะในลำคอเบาๆก่อนจะหยิบเสื้อนักเรียนที่กองอยู่มาใส่ เขาติดหระดุมสามสี่เม็ด ก่อนจะคว้าเอาเสื้อตัวนอกมาพาดบ่า ไปได้แล้ว

     

                “ตะ...ตอนนี้เหรอ

     

                “อืม ตอนนี้ละ

     

                “แต่มันยังไม่บ่ายสามเลยนะ

     

     

     

     

     

                “อะไรนะคยองซู

     

                “ฉันบอกว่ามันยังไม่บ่ายสามเลย

     

     

     

     

                “ดูเหมือนนายจะแอบดูเพลินไปหน่อยนะร่างสูงหัวเราะเบาๆพร้อมกับยกนาฬิกาข้อมือของตัวเองให้ดู หน้าปัดนาฬิกาบอกเวลาบ่ายสามสิบห้า ไม่จริง...เขามาห้องนี้ตอนบ่ายสองครึ่งไม่ใช่เหรอ ร่างเล็กลนลานยกมือขึ้นเพื่อดูนาฬิกาตนเองก่อนดวงตากลมจะเบิกกว้างกว่าเก่า

     

                ...

     

                “ป่ะ กลับได้แล้วฮวังจินกอดคอร่างเล็กที่หน้าแดงไปทั้งใบหน้าออกจาห้องซ้อมไปยังลานจอดรถนักเรียน ร่างสูงชูบัตรนักศึกษาให้ยามข้างหน้าก่อนจะเดินเข้าไปข้างในสุด บิ๊กไบค์สีแดงเพลิงปรากฏแก่สายตาร่างเล็ก ฮวังจินใส่หมวกกันน็อคกับเสื้อกันลมก่อนจะขึ้นไปนั่งคร่อมรถ

     

                ขึ้นมาสิ

     

                “อ่า...อืมคยองซูตอบรับเสียงเรียบแล้วขึ้นซ้อนหลังร่างสูง มือเล็กจับที่เสื้อหนังก่อนจะต้องสะดุ้งเฮือกเมื่อร่างสูงดึงแขนทั้งสองข้างให้รัดตัวเขาไว้

     

                เกาะแน่นๆเดี๋ยวหล่นร่างสูงเอ่ยเสียงเข้มก่อนจะติดเครื่องรถและแล่นออกไปอย่างรวดเร็ว บิ๊กไบค์คันหรูเคลื่อนตัวไปตามท้องถนนอย่างคล่องตัว ใบหน้าเล็กของคยองซูได้แต่ซบลงกับแผ่นหลังกว้างเพราะแรงลม รถหรูจอดที่หน้าร้านสะดวกซื้อแห่งหนึ่งตามที่คนตัวเล็กบอก ร่างเล็กก้าวลงจากรถพร้อมกับเอ่ยขอบคุณเพื่อนร่วมห้อง

     

                ทำไมลงนี่

     

                “มีของต้องซื้อหน่ะ

     

                “งั้นเดี๋ยวรอ

     

                “ไม่ต้องๆ บ้านเราใกล้ๆเดี๋ยวเดินกลับ

     

                “...

     

                “กลับเหอะ เรารบกวนมากและขอบคุณมากนะ

     

                “อืมฮวังจินตอบกลับก่อนจะเร่งเครื่องรถหรูออกไปอย่างรวดเร็ว ร่างเล็กได้แต่มองตามจนลับสายตาแล้วจึงรีบเดินไปขึ้นรถหรูที่จอดอยู่ข้างร้านสะดวกซื้อเพราะข้อความข้อความหนึ่ง

     

     

     

     

     

     

     

     

     

                ลงจากรถมันซะ : คิมไค

                                                                                    
    80per
     

          

                .

                .

                .

     

                ความเงียบโรยตัวไปทั่วทั้งรถตั้งแต่เขาขึ้นมารถยังคงจอดนิ่งไม่ขยับไปไหนเพราะไม่มีคำสั่งจากเจ้าของ คยองซูไม่รู้ว่าตัวเองกำลังทำอะไรผิด เขาได้แต่จ้องมองคิมไคที่ทำหน้าเรียบเฉยอยู่ข้างๆด้วยแววตาสงสัยแต่ก็ไม่อาจถามอะไรได้เพราะดูจากรูปการณ์แล้วร่างสูงกำลังหงุดหงิด

     

                ฉันจะไม่กลับบ้าน ไปที่คอนโด

     

                “อะไรนะครับ?เสียงของคนขับรถร้องถามสิ่งที่คยองซูสงสัยออกไป แต่สิ่งที่ตอบกลับมาเป็นเพียงเสียงที่หงุดหงิดจากร่างสูงเท่านั้น

     

                “หูหนวกรึไง!! บอกว่าไปคอนโด

     

                “คะ...ครับ

                จบคำตอบรับนั้นรถหรูก็เคลื่อนตัวออกจากซอกเล็กๆข้างมินิมาร์ท ออกสู่ถนนใหญ่ในรถยังคงอบอวลด้วยบรรยากาศสีหม่นไม่มีคำพูดออกจากปากใครทั้งนั้น มีเพียงเสียงครางเบาๆจากแอร์รถ คยองซูพยายามครุ่นคิดถึงสาเหตุที่คิมไคโกรธ

     

                เพราะอะไรกัน ?

     

     

     

     

                รถหรูจอดที่หน้าคอนโดแห่งหนึ่ง คิมไคเดินลงจากรถโดยไม่บอกอะไรซักคำ คยองซูได้แต่ทำหน้างงแต่ก็ยอมเดินตามไปด้วยดี พนักงานหน้าประตูเปิดประตูให้เข้าไปพร้อมก้มหัวอย่างสุภาพ เขารีบเร่งฝีเท้าเร็วขึ้นเมื่อเห็นว่าคิมไคกำลังยืนรอลิฟท์อยู่

     


     

                ในห้องโดยสารยิ่งเงียบเชียบยิ่งกว่าเก่าเมื่อมันปิดตัวลง ดวงตากลมโตได้แต่จ้องมองเลขชั้นที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆกก่อนจะหยุดลงที่ชั้นบนสุด ชั้น 21

     


     

                ร่างสูงเดินตรงไปที่ประตูบานหนึ่งก่อนจะหยิบคีย์การ์ดออกมาจากกระเป๋าเงินเพื่อเปิดห้องก่อนจะแทรกตัวเข้าไป ร่างเล็กก็ได้แต่ถอนหายใจเฮือกใหญ่เพราไม่เข้าใจก่อนจะเดินตามเข้าไป เขามองเห็นคิมไคยืนเหม่อมองพระอาทิตย์ยามเย็นอยู่ที่ริมหน้าต่างบานใหญ่


     

                เขาพอรู้มาบ้างว่าที่นี่เป็นสถานที่ที่คุณไคอาศัยอยู่นอกจากบ้านเพราะใกล้ที่ทำงานแต่ก็ยังคงงงอยู่ดีที่คิมไคพามาที่นี่ ต้องการอะไร ?

     

     

                เอ่อ...คุณไคครับ

     

                “…”

     

                “คุณพาผมมาที่นี่ทำไม

     

                “…”

     

                “ผมรู้ว่าคุณไม่ชอบให้ตั้งคำถามแต่ถ้าคุณทำอะไรไม่บอกผมแบบนี้ผมก็งงเหมือนกันนะครับ

     

                “นายงงเหรอ

     

                “เอ่อ....ครับ

     

                “หึ...งั้นฉันคงจะงงงกว่า

     

                “??”

     

                “เช้าคนนึงเย็นคนนึง แล้วกลางวันนายจะมีอีกซักกี่คนกันคยองซู

     

                “อะ...อะไรนะครับ

     

                “จับมือ กอด โอบ ลับหลังฉันนายคงจะทำอะไรมากกว่านั้นสินะ ขนาดหน้าบ้านกับในโรงเรียนยังไม่เว้น

     

                “คุณหมายความว่ายังไง !”

     

     

     

     

     

     

                “ชีวิตนายมีผู้ชายกี่คนกันแน่!!”ร่างสูงตะวาดกร้าวก่อนจะเดินไปคว้าไหล่ร่างสูงก่อนจะบีบเข้าเต็มแรง ปาร์คยองมิน อู๋อี้ฟาน นายอยากไปมั่วกับใครก็เรื่องของนายไหล่เล็กถูกบีบอย่างแรงจนต้องนิ่วหน้า ใบหน้าของคิมจงอินและชื่อของ ปาร์คยองมินทำให้คยองซูตัวสั่นได้ไม่ยาก ฝันร้ายเริ่มกลับมาวนเวียนในหัวอีกครั้ง

     

     

     

                ร่างเล็กช็อคไปทั่วขณะเพราะชื่อของบุคคลที่สามเขาไม่เคยบอกคิมไคเกี่ยวกับผู้ชายคนนั้น เขาไม่เคยบอกว่าเขาโดนอะไรมาบ้าง...ไม่ใช่ต้องการปิดบังแต่เพราะกลัวคนตรงหน้าจะรังเกียจ แต่ดูเหมือนสิ่งที่เขากลัวกำลังจะมา

     

     

                คิมไครังเกียจที่เขาเคยเป็นเมียน้อยผู้ชายคนนั้น

     

     

     

     

     

     

                แต่ทำไมต้องเป็นมัน...ทำไมต้องเป็นคิมฮวังจิน นายจะไปมั่วกับมันทำไม !!!”เสียงทุ้มตะวาดอีกครั้งก่อนจะเพิ่มแรงบีบที่หัวไหล่บาง ร่างบางนิ่วหน้าก่อนจะมองด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยคำถาม ฉันให้นายไม่พอเหรอคยองซู นายถึงต้องโหยหามันขนาดนั้น

     

                “ฮึก...

     

                “ร้องไห้ทำไม อยู่กับฉันไม่มีความสุขแต่อยู่กับไอ้ลูกเมียน้อยนั่นนายมีความสุขใช่ไหม !!”อารมณ์ของคิมไคยิ่งปะทุหนักเมื่อเห็นน้ำตาจากดวงตากลมโต ตอบมาคยองซู ตอบมาสิ !!”

     

                ร่างเล็กถูกเขย่าอย่างไม่ปราณีก่อนจะถูกลากเข้าในห้องนอนและเหวี่ยงลงบนเตียง ร่างเล็กเม้มปากแน่นเพื่อกลั้นความเจ็บปวดทั้งกายและใจ

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

                รึมันเป็น สันดานเมียน้อย ถึงได้สนิทกันเร็วขนาดนั้นดวงตากลมโตเบิกกว้างน้ำตาไหลออกมาอย่างไม่ทันตั้งตัวเสียงสะอื้นไห้ดังลั่นของคยองซูซ้อนทับกับเสียงร่ำไห้ราวกับจะขาดใจในหัวของเขา ภาพที่แม่ของเขาต้องร้องไห้เพราะผู้หญิงคนนั้นคนที่เป็นแม่ของคิมฮวังจิน

     

    . . . S I N D E R E L L A . . .

     


     

     

     

    up 80 per ; สวัสดีรีดเดอร์ที่น่ารัก <3. กลับมาอัพแล้วนะค่ะ
    มีตัวละคร 'สำคัญ' โผล่มาอีกแล้วนะค่ะ ขอบอก ผู้ชายคนนี้เราชอบมาก
    กระซิบนิดน่อยนะค่ะ ว่าเปอรที่เหลือนี่มีกลิ่นมาม่าโชยมา
    เอ๊ะ ม่าไหม อาจจะม่า รึเปล่า ? อุอริ -.........-
    เอนจอยรีดดิ้งนะค่ะสาวๆ อย่าลืมเม้นและโหวตนะค่ะ จุ๊บๆ
    P.S. มีรูปสุดหล่อมาให้ดูฮวังจินของเค้า หล่อแบดบอยชิมิล้าาา



    up 100 per ;  มาอัพแล้วนะค่ะครบร้อยแล้วบอกแล้วว่าม่า -...........-
    ไม่รับรองเท้าปาขึ้นหลังคาบ้านนะค่ะอยากปาเชิญบ้านคิมไคค่ะ
    เห็นหลาายๆคนเริ่มจะหลงฮวังจินของเค้า เค้าหวงนะจะบอก ฮ่าๆๆๆ
     p.s. อุ้ยตาย ตอนหน้าเอ็นซีไหม ดีรึเปล่าน้าาาาา

    อย่าลืมร่วมฟินด้วยการสกรีมแท็ก #นางซินKD
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×