ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    sf - exo ';m o r e f e e l i n g {all couple}

    ลำดับตอนที่ #2 : 2 n d - k a i d o - j u s t f r i e n d . . . 2/2 [100 percent]

    • อัปเดตล่าสุด 26 ส.ค. 56


         

     Story : SF [k a i d o - j u s t f r i e n d . . . 2/2 ft.tao]

    Writer : newworld (y)

    Inspiration : ชีวิตต้องเริ่มเรียนรู้จากความเจ็บปวด

    Something Special : พระเจ้า...ชอบทำร้ายจิตใจคนชอบคิดไปเอง

    Music : standding egg - 매일 그대를

               

                คาโอะ คาโอะ

               

                Baek - byun : คยองซูอา เราไม่สบายวันนี้ไม่ไปเรียนนะ

              Baek - byun : ขอโทษด้วย ... แค่กๆ

                Kyungsoo says : ได้ๆไม่มีปัญหานอนพักเยอะๆนะ เดี๋ยวเราเอาแลกเชอร์ไปให้

              Baek - byun : อืม เราไปนอนละไม่ไหว สู้ๆ

     

                .

                .

                .

     

              คยองซูมองหน้าตัวเองในกระจกอีกครั้งก่อนจะออกจากบ้าน มือเรียวเล็กจับแว่นสายตาไว้ก่อนจะค่อยๆถอดมันออก ... บางทีถอดออกแล้วเขาจะน่ารักขึ้นไหมนะ ? คยองซูได้แต่คิดกับตัวเองในใจแบบนั้นแต่ก็ไม่ได้ทำอะไร เขาคว้าเอากระเป๋าเป้ขึ้นสะพาย ก่อนจะลงจากชั้นสองลงไปบอกลาคุณนายโดที่ยืนทำกับข้าวอยู่ข้างล่าง

                “คยองซูไปเรียนนะครับแม่

                “ตั้งใจเรียนหล่ะ

                “ครับแม่ !” คยองซูยิ้มกว้างพร้อมกับหอมแก้มผู้เป็นแม่เบาๆ

     

               

    . . . k a i d o - j u s t f r i e n d . . .

     

              คยองซูเดินมาถึงหน้าคณะอากาศที่กำลังเย็นลงทำให้คยองซูต้องกอดแขนตัวเองไว้ให้ตายทำไมไม่มีคนเลยนะ เขานั่งลงที่ม้าหินอ่อนคณะ ถอดแว่นวางลงข้างตัวก่นอจะฟุบหน้าลงไปกับโต๊ะ ... เหงาจัง ปกติคนที่จะมาอยู่ข้างๆคยองซูคือแบคฮยอน คยองซูไม่มีเพื่อนคนอื่นไม่ใช่เพราะไม่อยากคบใครแต่ไม่มีใครอยากคบกับเด็กเฉิ่มๆ แบบเขาต่างหาก ตอนเข้ามาครั้งแรกเขาคิดว่าเขาเป็นเหมือนตัวประหลาดของคณะวิศวกรรมศาสตร์

                ใช่แล้วคยองซูเรียนวิศวะอุตสาหการ...ส่วนจงอินหน่ะวิศวะเครื่องกล

               

                แรงสะกิดเบาๆที่หัวไหล่ทำให้คยองซูต้องเงยหน้าขึ้นมาจากแขนของตัวเองเพื่อมองคนตรงหน้า

                หวา...ใครอ่ะทำไมภาพมันเบลอๆ

                ร่างเล็กควานหาแว่นสายตาที่อยู่ข้างกายก่อนจะคว้ามันขึ้นมาสวม เขากระพริบตาสองสามครั้งเพื่อปรับโฟกัสภาพ คยองซูหรี่ตามองและขมวดคิ้วอย่างสงสัยเมื่อคนตรงหน้าเป็นชายหนุ่มหน้าตาดีที่ยืนนิ่งๆอยู่ตรงหน้า ใบหน้าหล่อเหลากับใต้ตาสีเข้มนั้นมาคู่กับดวงตาที่เหม่อลอยเหมือนสติหลุด

                “มีอะไรรึเปล่าครับ ?

                “อ่า...คือนายหน้าหล่อนั่นตอบรับออกมาอย่างอึกอัก เสียงแหบๆคู่กับสำเนียงแปร่งๆทำให้คยองซูขมวดคิ้วหนักกว่าเดิม

                “นายโอเครึเปล่า

     

                 “คุณพูดภาอังกฤษได้ไหม ?ร่างสูงตัดสินใจพูดออกมาเป็นภาษาอังกฤษที่ตนเองถนัดเพื่อถามคนตรงหน้า

                “ก็พอได้อยู่

                “อ่า...คือผมเป็นนักศึกษาจากประเทศจีนชื่อ ฮวังจื่อเทา ตอนนี้ผมกำลังมองหาคณะนิเทศอยู่คุณเห็นมันรึเปล่า ผมพยายามมองหามันแล้วนะแต่ไม่เห็นจะเจอ...

                “เดี๋ยวนะ นายช่วยพูดช้าๆหน่อยสิคยองซูเอ่ยออกไปเป็นภาอังกฤษเพราประโยคเมื่อครู่คนตรงหน้าพูดราวกับแร็พ อาจจะชี่คยองซูยังได้ภาอังกฤษอยู่บ้างแต่คนตรงหน้านี่น่าจะเรียกขั้นเทพ เขาจับใจความได้เพียงแค่ คนๆนี้ชื่อ ฮวัง...อะไรซักอย่าง

                โอเค...ผมชื่อจื่อเทา...เป็นนักศึกษาจากจีน...กำลังหัดพูดเกาหลี...ตอนนี้ผมจะคณะนิเทศครับ...ไม่ทราบว่าไปทางไหน

                “อ้อ คณะนิเทศ ตรงไปเลี้ยวซ้ายจะเจอทางแยกให้เลี้ยวขวา จากนั้น...เอ่อ ตรงไปต่อจะเจอร้านกาแฟแล้วตรงไปอีกหน่อยก็เลี้ยวซ้ายอีกคณะจะอยู่ทางขวามือ

                “อ่า เลี้ยวซ้าย แล้วขวา เจร้านกาแฟแล้วก็ขวา...

                “ไม่ใช่ๆ เจอร้านกาแฟแล้วเลี้ยวซ้าย

                “โอเคครับ เจอร้านกาแฟเลี้ยวซ้ายชายร่างสูงพยักหน้าแรงๆทำให้ตุ้มหูที่ห้อยอยู่ที่ข้างซ้ายกระทบกันไปมาเกิดเสียงเบาๆจนคยองซูต้องเหลือบไปมอง

                หวา...หมอนี่เจาะหูตั้งสี่รูแหนะ

                ไปถูกแน่นะ...

                “อาจจะ

                “ให้ไปส่งไหมหล่ะ ฉันเหลือเวลาอีกสิบนาที?

                “อ่า...ก็ดีนะครับ

                “อืม งั้นไปกันร่างเล็กผุดลุกขึ้นจากม้านั่งและจังหวะที่กำลังจะก้าวขสออกมาขาเล็กๆดันไปเกี่ยวกับโต๊ะทำเอาร่างกายเสียสมดุลไปชั่วขณะแต่ตอนที่กำลังจะล้มลงก้นกระแทกพื้น ร่างสูงของจื่อเทาก็เข้ามาประคองไว้ก่อนทำเอาคยองซูถอนหายใจออกมาแรงๆ ขอบใจมากนะ...

                “ไม่เป็นไรครับ

                “ปล่อยสิ จะได้ไปกันซักที...

                “ครับร่างสูงปล่อยคนตัวเล็กออกจากอ้อมแขนอย่างเสียดาย ให้ตายสิบอกทีว่าฮวังจื่อเทาไมได้กำลังตกหลุมรักคนตาโตตรงหน้า...                

     

                ทำไมนายถึงใส่แว่นหล่ะจื่อเทาเอ่ยถามร่างเล็กในขณะที่กำลังเดินไปที่คณะตอนนี้คนในมหาลัยเริ่มจะมากขึ้นหลายๆสายตาจดจ้องมาที่ทั้งสองคนอย่างไม่ลดละ พร้อมกับเสียงบ่นระงมตลอดทาง

     

                แกดูสิใครอ่ะ หล่อมากทำลายมดลูกฉันอ่ะ T___T !!!”

                “แบดบอยสุดๆ ฉันจองนะยะคนนี้

                “ใช่เลยคนนี้แหละพ่อของลูก...ว่าแต่เดินมากับใครวะแกฉันไม่เคยเห็นหน้า

                “นั่นสิ...แว่นที่ใส่หน่ะ เห่ยชมัด

     

                อ่า...จะพูดอะไรเกรงใจกันบ้างก็ดีนะ คยองซูคิดกับตัวเองในใจแต่ก็ไม่มีสิทธิตอบโต้อะไร  ได้แต่เดินจ้ำอ้าวออกไปจากจุดนั้นอย่างรวดเร็ว แต่ดูเหมือนที่ฟังรู้เรื่องบ้างไม่รู้เรื่องบ้างอย่างจื่อเทาจะรีบเร่งฝีเท้าตามไปอย่างรวดเร็วด้วยความสงสัย

                เป็นอะไรรึเปล่า...

                “เปล่าหรอก

                “เมื่อกี้ยังไม่ตอบคำถามเลย

                “เรื่องแว่นหน่ะเหรอ

                “ใช่...

                “ก็สายตาสั้นหน่ะสิ ไม่ใส่ก็มองไม่เห็น

                “มิน่าหล่ะ...

                “อะไรเหรอ

                “ก็...ตอนแรกที่นายไม่ใส่แว่นนายเพ่งฉันซะจนน่ากลัว...

                “อ้อ พอดีมันมองไม่เห็นหน่ะ อีกอย่างพึ่งตื่นด้วยคยองซูพูดคล้ายจะบ่นงึมงำ ในประโยคหลังจนจื่อเทาต้องก้มหน้าลงไปฟังชัดๆ จนจังหวะที่เขากำลังจะหันหน้ามาริมฝีปากบางเฉียบของจื่อเทาก็เฉียดแก้มเล็กๆไปทำเอาคยองซูผละออกแทบจะทันทีด้วยความตกใจ

                อะ...เอ่อ

                “คือเราจะบอกว่าถึงแล้ว...เราไปก่อนนะคยองซูพูดพร้อมกับยิ้มออกมา ก่อนจะรีบหันหลังเพื่อเดินกลับคณะตัวเอง...

     

                เดี๋ยว...เสียงแหบพร่าดังขึ้นจากข้างหลังอีกครั้งจนคยองซูต้องหันกลับไปมองด้วยความสงสัย ถามหน่อยสิ....นายชื่ออะไรเหรอ

                “อ้อ...เราคยองซู

                “ยินดีทีได้รู้จัก

                “เช่นกัน...

     

    . . . k a i d o - j u s t f r i e n d . . .

                คยองซูเดินมาถึงหน้าคณะอีกครั้งก่อนจะเดินเข้าไปในห้องเรียนและนั่งลงบนที่ประจำ ตอนนี้เพื่อนร่วมคณะหลายๆคนเริ่มทยอยกันมาแล้ว ร่างเล็กก้มลงมองนาฬิกาข้อมือแล้วหยิบเครื่องมือสื่อสารสีขาวออกมาจากกระเป๋ากาเกง เขาเปิดดูบทสนทนาเมื่อวานที่เขาคุยกับจงอินอีกครั้ง ไม่ว่าจะดูกี่ครั้งหัวใจดวงเล็กๆก็จะพองโตเสมอ เรียกรอยยิ้มกว้างให้ออกมาอย่างห้ามไม่ได้

                และมองรูปดิสเพลย์ของจงอินตรงหน้าก็ทำให้ร่างเล็กคิดได้ว่าวิชานี้เขาต้องเรียนร่วมกับร่างสูง...แต่ทำไมยังไม่กันนะ เหลืออีกแค่ห้านาทีแท้ๆ

     

                เหมือนจะไวเท่าความคิดเมื่อเสียงโหวกเหวกของชายหนุ่มสามคนที่ดังมาจากด้านหลังทำให้คยองซูถอนหายใจอย่างโล่งอกว่าร่างสูงเข้าเรียนทันเวลา...เขาหันหลังไปมองจงอินที่นั่งอยู่ถัดไปสองแถวแล้วเอี้ยวตัวกลับมาพิมพ์ข้อความหาร่างสูง

               

                Kyungsoo says : มาสายนะ

                อ่านแล้ว

              Jong – in  says : อ่า...ชานยอลมันช้า

                Kyungsoo says : คึๆ ดีแล้วหล่ะที่เข้าทันแล้วกินข้าวรึยัง

              Jong – in  says : กินแล้ว...

                Kyungsoo says : อ่า...คิดถึงนะ ><

              Jong – in  says : เหมือนกัน

                Kyungsoo says : เรารักจงอินนะ

              Jong – in  say : อืม

              Jong – in  say : เหมือนกัน

     

              คยองซูอมยิ้มกับข้อความอีกครั้งถึงแม้ว่าข้อความแรกกับข้อความสองจะห่างกันซักระยะหนึ่ง แต่ก็ไม่ได้ทำให้คยองซูลดความดีใจที่มีอยู่ได้เลย

               

                แหม่ พ่อคนหล่อตั้งแต่มีแฟนแล้วติดเชียวนะโซเชียลเนี่ยเสียงของชานยอลพูดขึ้นอย่างติดตลกแต่นั่นกลับทำให้คยองสะดุ้งเฮือกและหน้าขึ้นสีอย่างไร้เหตุผล...อา จงอินบอกเรื่องเขากับชานยอลเหรอ

                ปล่อยๆมันไป...ก็งี้แหละไปจีบกันตอนไหนก็ไม่รู้ มีอะไรไม่เคยบอกพวกกูร่างสูงของคริสเอ่ยขึ้นอีกครั้งนั่นยิ่งทำให้หน้าของคยองซูขึ้นสียิ่งกว่าเก่า เขาเขินนะ...

                คยองซูทำอะไรไม่ถูกจนต้องกดเข้าเฟสบุคเพื่อเชคข่าวสารหลังจากที่ไม่ได้เข้ามานาน...จงอินคนบ้ารู้ไหมว่าเขินหน่ะ

                มือเรียวเล็กค่อยๆเลื่อนลงไปเช็คฟีดข่าวที่ไม่ค่อยมีอะไรซักเท่าไร...เขาไม่ค่อยมีเพื่อนในเฟสบุคจะมีก็แค่ แบคฮยอน เพื่อนร่วมคณะบางคน เพื่อเก่า และจงอิน...

     

                แกพี่จงอินมีแฟนฉันจะบ้าตาย T_________T!’

                57 like 18 comment

               

                สถานะหนึ่งเด้งขึ้นมาหน้าฟีดของผมมันเป็นสถานะของรุ่นน้องคนหนึ่งที่เพื่อนโรงเรียนเก่าของผมกดไลค์มาทำเอาผมต้องรีบเลื่อนหนี เพราะไอ้หน้าเจ้ากรรมมันดันร้อนขึ้นมาอีกแล้วหน่ะสิ

               

                “เงียบๆไปเหอะน่าพวกมึงเสียงของจงอินดังขึ้นท่ามกลางวงสนทนาของเพื่อนสองคนที่ยังถากถางเขาไม่เลิก

                เออ มึงก็พูดได้นี่หว่า...แฟนเป็นเดือนนิเทศแบบคุณหนู โอเซฮุน ก็พุดได้นี่หว่า แม่งได้กันเมื่อไรไม่บอกกู สัสเสียงของชานยอลแหวขึ้นอย่างดัง ทำเอาคนทั้งเซคหันไปมองแต่คนที่ช็อคที่สุดคงจะไม่พ้น โดคยองซูที่นิ้วยังคงค้างอยู่ที่หน้าจอโทรศัพท์

     

                김종인 (คิมจงอิน) กำลังคบกับ 오세훈 (โอเซฮุน)

               

                หน้าจอเฟสบุคที่แสดงผลกับคำพูดชานยอลเหมือนเป็นการเหยียบย่ำหันใจของคยองซูซ้ำแล้วซ้ำเล่า...เขาได้แต่ก้มหน้ามองจอ มือเล็กๆสั่นอย่างควบคุมไม่อยู่ แต่ดูเหมือนคยองซูจะรู้ตัวว่าไม่ใช่แค่มือเท่านั้นที่สั่น มันคงจะเป็นทั่วทั้งร่างที่กำลังสั่นเพราะการกลั้นสะอื้นของตัวเอง

                นี่มันอะไรกัน...

     

                เป็นคำถามสุดท้ายที่คยองซูถามกับตัวเองก่อนจะตัดสินใจลุกขึ้นจากที่นั่ง คว้ากระเป๋าขึ้นมาสะพายและรีบวิ่งออกไปโดยไม่มีใครสนใจ...ไม่มีแม้แต่เสียงถามว่าเขาจะไปไหนมันก็แน่นอนคยองซูไม่ใช่คนที่มีตัวตนสำหรับใครอยู่แล้ว...โดยเฉพาะ คิมจงอิน ใช่ไหม

     

    . . . k a i d o - j u s t f r i e n d . . .

               

              ฮึก...ฮือ.......ฮึกๆมือเล็กๆปาดน้ำตาของตัวเองที่กำลังไหลออกมาซ้ำแล้วซ้ำเล่าตอนนี้เขาอยู่ในห้องน้ำของมหาลัย คยองซูไม่มีแรงที่จะไปที่ๆไกลมากกว่านี้ เขาไม่อยากร้องไห้ให้ใครเห็น...มันน่าสมเพช

                คยองซูเปิดโทรศัพท์ย้อนกลับขึ้นไปอ่านสถานะของรุ่นน้องคนเมื่อกี้อีกครั้งและกดเปิดอ่านคอมเม้นท์...เขาแค่กำลังหวังว่าขอให้มันเป็นเรื่องโกหก ขอให้เป็นกระแสที่เขากำลังปั่นกันเท่านั้น

               

              ฉันกำลังทำใจอยู่เลย ฮือๆ แกมาตั้งสถานะย้ำทำไม !!’

              ‘อะไรกันเมื่อไรทำไมไม่รู้

              ‘ตกข่าววะแกเขารู้กันทั้งมหาลัยแล้ว

              ‘แล้วคบกับใครวะ

              ‘โอเซฮุน เดือนคณะนิเทศ โฮกกกกกกกก ชั้นเสียดายผู้ชายหล่อๆ

              ‘กรี๊ดดด เซฮุนเหรอ ฉันไม่ไฟว้หรอกปล่อยนางไป

              ‘แกจะเอาอะไรไปไฟว้ เซฮุนอ่ะดีทุกอย่างขนาดนั้น

              แต่ฉันว่าถ้ามองในมหาลัยก็ไม่ใครเหมาะกับจงอินเท่ากับเซฮุนแล้วหล่ะ

     

                คำคอมเม้นสุดท้ายเหมือนกระแทกเข้าหน้าของคยองซูอย่างจังทำไมเขาถึงยังกล้าหวังกับคิมจงอินหล่ะ คนแบบเขาเนี่ยนะ...จะไปเป็นแฟนคิมจงอิน    

     

    - - - - - -  50percent - - - - - -

     

               คยองซูเดินออกมาจากห้องน้ำด้วยดวงตาที่บวมช้ำจากการร้องไห้ ผมสีดำที่ลู่ลงจากการเปียดกน้ำและโทรศัพท์ที่ชุ่มน้ำในมือ หน้าจอมันดับสนิทไปแล้ว เขาไม่อยากจะเห็นมันอีกต่อไป...ข้อความที่แสนจะทำร้ายจิตใจ ร่างเล็กเดินออกจากห้องน้ำทั้งที่ไม่ใส่แว่น เราทำมันหล่น...หายเมื่อไรก็ไม่รู้ ทางข้างหน้ายังคงชัดเจนแต่ผู้คนข้างหน้าช่างดูพร่าเบลอแต่แม้อย่างนั้นเขาก็ยังคงรู้ถึงทุกสายตาที่จับจ้องมา

                ทำไมเขาดูเป็นตัวประหลาดมากเลยเหรอ...?


              คยองซู...เสียงทุ้มที่แสนคุ้นเคยร้องเรียกเขาจากข้างหลัง คยองซูหันกลับไปเผชิญหน้า ถึงแม้จะมองไม่ชัดเขาก็รู้ดีว่าคนตรงหน้าคือคิมจงอิน

                อะไร...

                เราทักไปทำไมไม่ตอบ

                มือถือ...มันตกน้ำ

                ...

                ถ้าไม่มีอะไรจะพูดเราไปก่อนนะ

                เดี๋ยว...เรามีอะไรจะบอก

                แต่เราไม่ว่าง !!!”

                ...เสียงตะคอกเล็กๆดังขึ้นเรียกเสียงบ่นอื้ออึงจากรอบข้างคยองซูไม่เคยตะวาดใคร ร่างเล็กก้มหน้าลงอีกครั้ง

                พอดีเรามีเรื่องที่บ้าน...เรารีบเราไปก่อนนะ

     

    . . . k a i d o - j u s t f r i e n d . . .

     

                เช้าวันต่อมาแบคฮยอนก้าวเดินเข้ามาในห้องเรียนด้วยความเร่งรีบ เขาติดต่อคยองซูไม่ได้...ไม่ว่าจะทางไหนเขาร้อนรนกว่าเก่าเมื่อมองไม่เห็นเพื่อนตัวเล็กของตัวเองในห้องเรียนทั้งๆที่เจ้าตัวไม่เคยจะมาสาย ร่างบางครุ่นคิดอยู่นานก่อนจะตัดสินใจวิ่งออกไปนอกห้องอีกครั้ง มือเล็กกดโทรศัพท์ครั้งแล้วครั้งเล่าแต่ผลลัพท์ก็ยังคงเดิม

     

                เลขหมายที่ท่าเรียกไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนี้...

     

                ให้ดิ้นตาย...แบคฮยอนเกลียดชะนีนางนี้ !!!!!

     

                ขาเรียวเล็กก้าวเดินออกมานอกคณะเดินเรื่อยๆจนมาถึงโรงอาหาร เขามองส่องเข้าไปในโรงอาหารที่มีคนบางตาแต่ก็ยังไม่พบเพื่อนตัวเล็กของเขาเสียที ให้ตายสิคยองซูไปไหน !!!

                แบคฮยอนได้แต่คิดกับตัวเองอย่างหัวเสีย เขาไม่มาวันเดียวเกิดอะไรขึ้นรึเปล่า ?

                โถ่เว้ย !!”มือเรียวฟาดลงกับบอร์ดประชาสัมพันธ์อย่างแรงจนกระดาษแผ่นหนึ่งร่วงหล่นลงมา เขาก้มลงมองที่กระดาษแผ่นนั้นก่อนจะขมวดคิ้วเป็นปมแน่น

     

                ข่าวใหญ่ คิมจงอิน เดือนวิศวะสุดเท่ ประกาศเปิดตัวแฟน โอเซฮุนเดือนคณะนิเทศอย่างเป็นทางการ คาดว่าสาวๆคงกินแห้วเป็นว่าเล่น...

     

                คิม จง อิน !!!”

     

                . . . k a i d o - j u s t f r i e n d . . .

     

                ตึง !!...

     

                อธิบายมานี่มันอะไรไอ้ดำ !!!”กระดาษแผ่นหนึ่งถูกฟาดลงบนโต๊ะหินอ่อนอย่างแรงพร้อมกับร่างบางของแบคฮยอนที่หอบน้อยๆ ท่ามกลางสายตาตกใจของสามหนุ่มที่กำลังนั่งเล่นกันอยู่หน้าคณะ

                ...

                ฉันถามทำไมไม่ตอบ นี่มันหมายความว่าอะไร !!!!!”แบคฮยอนขึ้นเสียงหนักกว่าเก่าเพราไม่มีเสียงตอบรับจากร่างสูงมีแค่ความเงียบ...เหอะ !!!

                กระดาษไงครับถามได้

                ถามนายเหรอไอ้เอ๋อร่างบางตะวาดใส่ชานยอลที่เล่นไม่ได้ดูเวลาอย่างแรง จนร่างสูงทำหน้าตกใจและหันหน้าหลบสายตาดุที่ตวัดมา

                ขอโทษครับ...

                ไม่อยากได้โว้ยยย !!”

                ผมว่าพวกผมก็ตอบดีๆแล้วทำไมคุณไม่พูดดีๆหล่ะครับ

                ...

                เงียบปากไปเลยไอ้เงิง !!!”

                แอบปากหมานะครับ

                เออพึ่งรู้รึไง ตอบมาไอ้ดำว่ามึงทำงี้ได้ไงหา !!”

                จงอินนี่เมียมึงเหรอวะ ถึงได้หึงมึงกับเซฮุนขนาดนี้...ชานยอลก้มลงกระซิบข้างหูของจงอินที่ยังคงทำหน้านิ่ง

                ฉันไม่เอาไอ้ดำนี่ทำพันธ์หรอก นายทำไรคยองซูทำไมวันนี้เค้าไม่มาเรียน...บอกมา!!”

                ไม่ได้ทำอะไร...

                แล้วคยองซูไปไหน

                ไม่รู้...ที่ติดต่อไมได้เพราเมื่อวานคยองซูทำโทรศัพท์ตกน้ำ

                ห้ะ...น้ำ น้ำอะไรที่ไหนแบคฮยอนถามออกไปด้วยความสงสัย ถึงคยองซูจะเป็นคนซุ่มซ่ามแต่ก็เป็นคนรักษาของอย่างดี

                ...

                นี่เป็นใบ้รึไงถามไม่ตอบ

                หยุดตะคอกได้แล้ว เดี๋ยวผมจะตอบแทนเมื่อวานผมเห็น...เมื่อวานคยองซูเดินออกจากห้องน้ำมาสภาพเปียกครึ่งตัวไม่มีใครรู้ว่าเขาทำอะไรมา ผมก็...

                นายบอกคยองซุตัวเปียกงั้นเหรอ ไอ้เอ๋อ !!!”ร่างบางแหวขึ้นเสียงสูงทำเอาชานยอลที่ยืนอยู่สะดุ้งเล็กน้อย

                ชะ...ใช่

                โถ่เว้ย...

                เป็นอะไร

                ฉันไม่เป็นแต่คยองซูหน่ะเป็นแน่...แบคฮยอนพูดเสียงต่ำในลำคอ คยองซูเป็นคนอ่อนแอเขารู้ดี ร่างเล็กไม่สบายง่ายมากทั้งๆที่เจ้าตัวก็พยายามออกกำลังกายเป็นประจำ...ยิ่งตัวเปียกยิ่งไม่สบายง่าย

                แบคฮยอนก้มลงต่อสายโทรศัพท์อีกครั้งแต่ครั้งนี้มีสัญญาณตอบรับจากปลายสาย...

     

                [สวัสดีค่ะ]

                สวัสดีครับคุณแม่นี่แบคฮยอนเองนะครับ

                [อ้อจ้ะ มีอะไรเหรอจ้ะ]

                เอ่อ...คุณน้าเห็นคยองซูไหมเหรอครับ พอดีผมไม่เห็นเขามาเรียน

                [อ้อ...คยองซูไม่สบายหน่ะ ก็ไม่รู้เป็นอะไร อยู่ๆกลับมาตัวก็ร้อนจี๋เลยแม่ตกใจแทบแย่]

                เหรอครับ...งั้นเดี๋ยวผมไปหาคยองซูนะครับ

                [ไม่ต้องหรอกจ้ะ ไปเรียนเถอะมีเรียนตอนเช้านี่นาวันนี้]

                งั้นเลิกเรียนผมจะไปหานะครับ

                [จ้ะ...]

     

                บทสนทนาสั้นๆเรียกความสนใจจากร่างสูงที่นั่งหน้านิ่งอยู่ เขาไม่อาจพูดอะไรได้มากหลังจากที่มีชนักติดหลัง เขายอมรับว่าเขาผิดเต็มประตูที่บอกคยองซูไปแบบนั้นทั้งๆที่เขาพึ่งจะตกลงคบกับเซฮุนสองวันก่อนหน้านั้น...

                คยองซู...

                ยังไม่ตาย แต่อาจจะใกล้ตาย...เพราะเจอราหูอม !!!”แบคฮยอนตะวาดกร้าวอีกครั้งใส่หน้าจงอินก่อนจะเดินหนีไป ไม่อยากจะเห็นหน้า ไม่ให้โกรธได้ยังไงกับเพื่อนตัวเล็กเขาไม่สบายเพราะไอ้ดำกับไอ้กระดาษบ้าๆนี่แน่นอน !!!

     

              ไอ้เตี้ยนั่นหมายความว่าอะไรวะ ?ชานยอลที่ยังคงเงิบไม่หายกับอาการมาไวไปไวของคนตัวเล็กเมื่อครู่ถามขึ้น

                ไม่รู้...

                จงอินมึงไปทำอะไรไว้รึเปล่า

                ขอเวลากูหน่อยวะ...ขออยู่คนเดียว

                เออ...แม่งมีไรบอกพวกกูได้นะเว้ย

                อืม

               

    . . . k a i d o - j u s t f r i e n d . . .

     

                คยองซูพลิกตัวไปมาบนที่นอนหลายครั้งอาการปวดทั่วร่างกายจากอาการไข้จางหายไปแล้ว เหบือแค่อาการเหนอะหนะตัวกับการที่ไม่อยากจะลุกไปไหน เขายังคงซุกหน้าลงกับหมอนน้ำตาที่เคยมีเหือดแห้งไปแล้ว คยองซูตัดสินใจกดเปิดโทรศัพท์เครื่องใหม่ที่แม่เขาเตรียมไว้ให้แก้ขัดหลังจากที่ไอ้เครื่องเดิมมันไปนอนรอที่ศูนย์

     

              52 missed call - หมาน้อยแบค

              ’11 missed call – gumjongin <3.’

               

                ร่างเล็กยิ้มเฝื่อนๆให้กับตัวเองหลังจากที่เห็นรายชื่อในเครื่อง โทรหาทำไม ? อยากจะพูดอะไรตอนนี้คยองซูไม่อยากรับรู้อะไรทั้งนั้นเขาอยากขอเวลาให้เขาเพ้อฝันอีกหน่อยไมได้เหรอ ทำไมต้องรีบผลักเขาให้ตกลงมาด้วย


    - - - - - -  70percent - - - - - -

                ...

                คยองซู...

                แบค...แบคฮยอนเหรอ

                “…อืม เป็นยังไงบ้าง โอเครึเปล่าแบคฮยอนลูบหัวเล็กๆของคยองซูใต้ผ้าห่มเบาๆ เสียงแหบพร่าที่ตอบรับเมื่อครู่ทำให้เขารู้ว่าคยองซูร้องไห้

                เรา...แค่ไม่สบาย

                ไม่จริงหรอก...นายมีมากกว่านั้น อยากบอกอะไรไหม ?

                ...

                ไม่ไว้ใจกันรึไง...

                เปล่า...เราแค่

                ถ้าไม่บอกเรางอนจริงๆนะคยองซู

                อ๋า...ตัวกลมโตโผล่พ้นเหนือผ้าห่มขึ้นมามองหน้าแบคฮยอน เขาไม่อยากให้แบคฮยอนงอนนะ แบคฮยอนหายยากจะตาย Lหมาแบคใจร้าย

                ตอบมาซะดีๆนะ ฉันเพื่อนรักนายนะทำไมจะไม่รู้ว่านายเป็นอะไร

                อืม...คือเมื่อวานเรา...

     

               

     

                หลังจากที่ฟังเรื่องทุกอย่างจากร่างเล็กตรงหน้าแบคฮยอนก็รู้สึกเสียใจมากที่เมื่อเช้าเขาไม่ได้ต่อยจงอินซักสามที ตอนนี้คยองซูหลับไปแล้วแต่คราบน้ำตาที่ยังติดอยู่ที่หน้านั่นทำเอาแบคฮยอนยิ่งโกรธไอ้ตัวดำนั่น เขากับคยองซูเป็นเพื่อนกันตั้งแต่เล็ก สนิทกันมากแบคฮยอนเป็นคนรักเพื่อน คนตัวเล็กไม่ค่อยจะร้องไห้ ชอบจะเก็บอะไรไว้ภายใต้รอยยิ้มเสมอ คำพูดติดปากของคยองซูคือคำว่า คยองซูโอเค เพราะคยองซูไม่อยากให้แบคฮยอนลำบากใจ

     

    . . . k a i d o - j u s t f r i e n d . . .

     

                ลงมาจากรถซะคยองซู

                เราไม่ลงนะ T^T”

                อย่าดื้อ...ลงมาแบคฮยอนลากแขนคนตัวเล็กออกมาจากตัวรถและบอกลาคนขับรถส่วนตัวที่มาส่ง

                แบคฮยอนอา...ทำไมทำแบบนี้หล่ะ

                ทำไมแบบนี้น่ารักออก

                มันไม่ใช่อ่ะ T___T!!”

                ใช่สิ...ทำไมจะไม่ใช่

                เราเคืองตาอ่ะ น้ำตาเราจะไหล

                เดี๋ยวก็ชินน่า...ไปเรียนกัน

                ม่ายยยยยย แบคฮยอนปล่อยเราน้าคยองซูขืนแขนตัวเองไว้ไม่ให้คนตัวเล็กลากตัวเองไปไหน เขาหายจากอาการไม่สบายแล้วเมื่อสองวันก่อนแต่เมื่อวานแบคฮยอนพาเขาไปร้านทำผมให้ช่างตัดผมของเขาออก เขาเผลอหลับแปปเดี๋ยวตื่นมารู้ตัวอีกทีผมของแบคฮยอนก็กลายเป็นสีน้ำตาลทองส่วนของเขาก็สีน้ำตาลแดง ฮึก...เกิดมาชีวิตคยองซูไม่เคยทำสีผมเลยนะ  แบคฮยอนโหดร้าย

                แถมตอนเช้ายังมารับเขาถึงบ้านและบังคับให้ยัดไอ้เลนส์ใสๆนั่นเข้ามาในตาด้วย

                แล้วการทำตัวแบบนี้หน่ะไม่ใช่ คยองซูเลยซักนิด

     

                คยองซูที่ไมได้ใส่แว่น...เผยให้เห็นดวงตากลมโตน่ารัก

                คยองซูที่เซทผมเปิดหน้าผาก...เผยให้เห็นรูปหน้าที่แสนจะน่ารัก

     

                คนในคณะหลายคนจับจ้องมาที่คนตัวเล็กที่กำลังหน้ามุ่ยเพราะถูกขัดใจแก้มเล็กๆนั่นอมลมไว้ส่งผลให้แก้มสีชมพูเลือดฝานั่นผองออกมาน้อยๆ ทำเอาคนในคณะหลายคน ใจสั่น

               

               

               

                นี่เป็นวันแรกที่คยองซูมาโรงเรียนในรอบหนึ่งสัปดาห์ ถึงจะยังไม่อยากเจอหน้าจงอินซักเท่าไรแต่สำหรับคนตัวเล็กเรื่องเรียนมักมาก่อนเรื่องอื่นเสมอ ทั้งแบคฮยอนและคยองซูยังคงหยอกล้อไปตามทางจนมาถึงห้องเรียน คยองซูหยุดมองประตูเล็กน้อย...ถึงยังไงก็ยังไม่อยากเผชิญหน้า

               

                โอเคนะ...

                อืม เราโอเค

     

                ครืด...

     

                มือเล็กตัดสินใจเลื่อนประตูห้องเลกเชอร์และเดินเข้าไปอย่างกล้าๆกลัวๆแม้มือเรียวของแบคฮยอนจะยังคงกอบกุมมือเขาไว้อย่างให้กำลังใจแต่ก็ไม่ได้ทำให้คยองซูมั่นใจได้เลยหลังจากที่เพียงแค่เปิดประตูออกมาคนที่อยู่ตรงหน้าก็คือ คิมจงอิน

                พระเจ้า...ชอบทำร้ายจิตใจคนชอบคิดไปเอง

     

                สวัสดี...

                อืม

                เที่ยงนี้ว่างไหม

                ว่าง / ไม่ว่าง!!”เสียงแรกเป็นของคยองซุตอบออกไปแบบแผ่วเบาส่วนเสียงที่สองนั่นดังจนแทบจะเป็นเสียงตวาดคงไม่ต้องเดาก็รู้ว่าเป็นของใคร แบคฮยอนหันกลับไปมองเอนของตัวเองที่ตอนนี้กำลังมองตรงไปที่คิมจงอิน

                งั้นเที่ยงนี้เราขอคุยอะไรด้วยหน่อยนะ

                ได้ / ไม่ได้ !!”

                ฉัยคุยกับคยองซูไมได้คุยกับนายแบคฮยอน

                แต่...

                ไม่เป็นไรแบคฮยอนเราโอเค

                งั้นไปนั่งกันเถอะ

                อืม...

               

               

     

                ติ๊ก...ติ๊ก

              เข็มทั้งสองอันของนาฬิกาข้อมือชีไปที่สิบสองพร้อมกัน คยองซูที่นั่งอยู่ที่หญ้าหลังตึกเงยหน้าขึ้นมองหาคนที่นัดเขาไว้อีกครั้ง แม้แบคฮยอนจะห้ามแล้วแต่สำหรับเขา เขาอยากให้มันจบ เขาอยากจะรู้ความจริงว่าจงอินทำแบบนั้นทำไม

                คยองซูไม่อยากเป็นคนโง่...ถ้าเขาเลือกได้เขาขอรับรู้ความจริงที่เจ็บปวดมันคงจะดีกว่าการคิดไปเองอย่างทรมาน

     

                มานานรึยัง...

                พึ่งมา

                คยองซูกำลังโกหก        

     

              อืม

                ก่อนที่จะพูดอะไร เราขอให้จงอินตอบคำถามเราก่อนได้ไหม...

                ...ได้

                ตามตรงนะ...รักเรารึเปล่า

                ...

                เราโอเคกับคำตอบนะ ขอให้พูดตรงๆไม่ต้องกลัวเราเสียใจ

                ก็ไม่...

                คยองซูเจ็บ

              แล้วมาบอกชอบเราทำไม...มาบอกรักเราทำไม.......ทำไมคยองซูเริ่มพูดไม่ออกเพราก้อนอะไรบางอย่างที่ติดที่คอ ทำไมความจริงมันถึงเจ็บแบบนี้นะ เหมือนกำลังจะตาย

                เราขอโทษ

                แล้ว...มีแฟนทำไมไม่บอกเรา

                ...

                พวกนายคบกันก่อนที่...เราจะบอก.......รักนายไม่ใช่เหรอ

                คยองซู...

                ตอบเรามาตามตรงสิ เราโอเค โอเคจริงๆ

                เราแค่กลัว...กลัวจะเสีย เพื่อนกลัวว่าถ้าบอกปฏิเสธไปนายจะตีตัวออกห่าง

                ...คยองซูอึ้งไปนานกับคำตอบทีได้รับ จงอินก้มหน้าลงกำมือแน่น นายเลยเลือกที่จะโกหกเรางั้นเหรอ

                อืม เราขอโทษนะ

                เห็นแก่ตัว...

                คยองซู

                จงอิน...ฮึก.....เห็นแก่...ตัวร่างเล็กสะอื้นดังขึ้นและใช้หลังมือปาดน้ำตาที่กำลังไหลออกมาอย่างไม่หยุด นายรู้รึเปล่า...ไม่มีใครอยากเป็นคนโง่หรอกนะจงอิน

                เราขอโทษ

                เราไม่ยกโทษให้...ฮึก.....เรา...เสียใจรู้....ฮึก...ไหมคยองซูนั่งลงกอดเข่าตัวเองและร้องไห้ออกมาอย่างไม่อาย คยองซุเจ็บเจ็บเหมือนจะตาย มันหายใจไม่ออก

                ...

                ไปเถอะ...เราอยากอยู่คนเดียว

                แต่...

                ไปสิ !!! เราโอเค โอเคมากเลยเสียงเล็กๆตวาดขึ้นทำเอาจงอินที่กำลังหน้าเจื่อนเพราน้ำตาคนตรงหน้าต้องจำใจเดินหนี....แต่เขาก็ยังเดินไปได้ไม่เท่าไรร่างเล็กก็เอ่ยเรียกอีกครั้ง...

                เดี๋ยว...

                หืม

                เราจะบอกว่า...ฮึก.....จงอินแค่กลัวเสียเราในฐานะเพื่อน แต่ทำให้คนที่เป็นได้แค่เพื่อนแบบเราอ่ะเสียใจแทบตาย

                “…”

                แล้วก็อย่าทำแบบนี้กับใครอีกนะ ให้เราเกลียดจงอินคนเดียวก็พอแล้ว

     

    . . . k a i d o - j u s t f r i e n d . . .

     

                หมาน้อยแบค ; calling

                ฮัลโหลแบคฮยอน

                [คยองซูอยู่ไหนหน่ะ ร้องไห้อีกแล้วใช่ไหม ไอ้ดำมันทำอะไรบอกเรามานะ]

                มันจบ...แล้ว จบจริงๆ

                [คยองซู...]

                เราเสียใจ

                [เสียใจที่มันไม่รักเหรอ...]

                ไม่ใช่หรอก

                [แล้วเป็นอะไร]

                เราไมได้เสียใจที่จงอินไม่รักเรา...แต่เราเสียใจที่จงอินหลอกเรา เสียใจที่เราโง่ให้เขาหลอก...เราแค่กำลังเกลียดตัวเอง...ที่ชอบคิดไปเอง

                [ไม่เอาน่าคยองซู...แล้วตอนนี้อยู่ไหน]

                หลังตึก...

                [งั้นเดี๋ยวเราไปหา]

                ไม่ต้องหรอกจะมาทำไม

                [พอดีมีคนมาหานาย...ฉันจะพาไปเจอ]

                ใครอ่ะ...

                [เขาบอกชื่อ ฮวัง จื่อเทาจะมาขอบคุณอะไรก็ไม่รู้]

                อ้ออืม...มาสิเดี๋ยวเรารออยู่นี่แหละ

                [เจอกันนะ]

                อืม...

     

    눈물 멈춰지지가 않아요

    น้ำตาไม่ยอมหยุดไหล

    아픔 견디기 힘들것 같아요

    การอดทนต่อความเจ็บปวดนั้นก็ดูจะยาก
    (standding egg - 매일 그대를)
    th tran ;
    Standing Egg (Thai)


    - - - - - -  E N D - - - - - -




    CRY .q
     

    24/08/56
    มาต่อให้ละน้า...อย่าพึ่งตบเค้านะเค้าไม่ได้ตั้งใจ
    แต่เค้าวางพล็อตให้มันเป็นแบบนี้ .___.
    อีก 50 percent อยกาอ่านต่อกันไหม
    ขอเม้นหน่อยน้า ตอนหน้าอิเสี่ยออกโรง

    (แอบมีน้องเทา มาทำไมวะ สงสัยตัวเองเหมือนกัน 55555รึเรื่องนี้จะเทาโด้ดี)

    25/ 08 /56
    70 เปอร์แล้วนะ คือตอนแรกกะจะแต่งให้จบแต่วันนี้เค้าติดงานอ่ะ T^T
    ถ้ายังไงเดี๋ยวพน.มาต่อให้จนจบนะเอออ

     26/08/56
    จบแล้วนะค่ะ นี่มันฟิคอะไรกัน 5555555
    ทำไมเป็นแบบนี้อิเสี่ยโหดร้ายเนอะ ตอนนี้ยาวมากๆเลย T___T!
    ถามว่าได้แรงบันดาลใจมากจากไหนตอบตามตรงนะค่ะ
    ประสบการณืตรงค่ะเป็นอะไรๆที่เจอมาเอง :)
    (สรุปฟิคเรื่องนี้มันเทาโด้ใช่ไหม 55555)





    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×