คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #12 : SINDERELLA ELEVEN
SINDERELLA ; ELEVEN
หนึ่งอาทิตย์ก่อนสอบสำหรับคยองซูเป็นอะไรที่หัวหมุนที่สุดในสามโลก เนื้อหาที่เรียนมาตลอดครึ่งเทอมถูกวางระเกะระกะบนโต๊ะ พรุ่งนี้เป็นวันสอบวันแรกและตอนนี้เขาก็ปักหลักอยู่ที่บ้านหลังใหญ่ของโอเซฮุน
“โอ้ยยยย อยากจะบ้าตาย”เสียงเพื่อนตัวขาวที่โวยวายขึ้นพร้อมกันทิ้งตัวนอนลงบนพื้นพรมในห้อง “ทำไมมันเยอะแบบนี้”
หนังมือหลายเล่มถูกวางลงบนพื้น ปากกาสีหลายสิบสีวางกระจัดกระจายรอบตัวอย่างไม่คิดจะใส่ใจมัน ผมที่เคยปรกหน้าของคยองซูถูกเจ้าตัวมัดขึ้นเป็นจุกแอปเปิ้ล ดวงตากลมละสายตาจากการเขียนโน้ตย่อของการสอบไปมองเพื่อนที่นอนกลิ้งอยู่ฝั่งตรงข้าม
“ลุกขึ้นมาน่าเซฮุนอีกนิดเดียวก็จะหมดแล้วนะ”
“ขอพักหน่อย”
“โอเคๆ พักแค่สิบนาทีนะ”คยองซูพูดขึ้นมา พร้อมกับเท้าคางลงบนโต๊ะมองเพื่อนตัวขาวที่อิดออดไม่ยอมอ่านหนังสือ โอเซฮุนหลับตาลงเพื่อพักผ่อนสายตาที่เหนื่อยล้า เขากับคยองซูมาช่วยกันติวสำหรับเนื้อหาในทุกวิชาสำหรับการสอบตลอดอาทิตย์หลังจากที่ต่างคนต่างอ่านมาหลายวันเพื่อทบทวนเนื้อหาอีกครั้ง
เขามีสอบสามวันติดโดยไม่มีวันหยุดเพราะฉะนั้นการเตรียมพร้อมสำหรับเนื้อหาทั้งหมดจึงเป็นเรื่องจำเป็น คยองซูมาถึงบ้านเขาตั้งแต่แปดโมงและคาดว่าจะกลับประมาณสามทุ่ม พวกเขามักจะเป็นแบบนี้ทุกครั้งที่มีการสอบ
“นี่คยองซู”
“หืม”ร่างเล็กขานรับเพื่อนที่หลับตาพูดอยู่ตรงพื้น
“ปิดเทอมนี้ มีแผนจะไปเที่ยวไหนรึเปล่า”
“หลังสอบสองวันเราจะไปเชจูหน่ะ”คยองซูตอบด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น “แล้วนายมีแผนจะไปไหนรึเปล่า”
“ไม่ละ มีวันหยุดทั้งทีนอนอยู่บ้านดีกว่า”เซฮุนตอบด้วยเสียงเบื่อๆ “ฉันเที่ยวจนเบื่อแล้ว”
“อย่ากินเหล้าเยอะหล่ะ ยังไงเราก็แค่เด็กมอปลายนะ”
“ทำเป็นรู้ทันนะคยองซู”
“ก็ฉันเป็นเพื่อนนายไงหล่ะ”จบคำพูดของร่างเล็ก โอเซฮุนก็หัวเราะออกมา เขาผุดตัวลุกขึ้นนั่งและขยี้หัวอีกคนอย่างเอ็นดู เขารู้สึกถูกชะตากับคยองซูตั้งแต่เจอหน้าครั้งแรก เด็กเงียบๆที่ไม่ค่อยพูดจากับดวงตาเศร้าๆแต่แฝงไปด้วยความดื้อรั้น เข้าสังคมไม่เก่งแรกๆที่โรงเรียนร่างเล็กแทบจะไม่ทำอะไรเลยนอกจากเรียนและอ่านหนังสือ วันๆนึงพูดกับคนอื่นแทบจะนับคำได้ ด้วยความที่เป็นโรงเรียนไฮโซมีแต่ลูกคุณหนูทำให้เด็กที่เงียบๆไม่มีรถหรูมาส่ง มีแค่จักรยานคู่ใจคันเดียวไม่เป็นที่สนใจและก็โดนแกล้งเสมอ แต่ร่างเล็กไม่ใช่คนที่ยอมคนที่แกล้งตัวเองด้วยการก้มหน้ารับชะตากรรม ทุกครั้งที่โดนแกล้งเขามักจะมีการแกล้งกลับแบบแสบๆคันๆจนหลายคนแอบผวาไปตามๆกัน
เขามองคยองซูอยู่หลายวันก็ตัดสินใจเข้าไปคุยด้วย เขาเบื่อพวกที่เข้ามาประจบประแจงเป็นเพื่อนของเขาเพื่อผลประโยชน์ทางธุรกิจเต็มที ครั้งแรกที่เข้าไปคุยหมอนี่มองหน้าเขาด้วยสายตาเย็นๆไม่เป็นมิตรสุดๆแต่เขาก็ใช้ลูกตื๊อจนได้เป็นเพื่อนสนิทที่จริงใจต่อกันแบบนี้จนได้
“แล้วนายจะไปเชจูกี่วัน”
“ไม่รู้สิ ธุระเสร็จก็น่าจะกลับ”
“อ้าว ไปทำธุระเหรอ นึกว่าไปเที่ยว”
“ฮ่าๆ คุณไคมีเซ็นสัญญาที่นั่นหน่ะเลยต้องไปด้วย”
“อ้อ อย่าลืมของฝากนะ”
“ถ้ามีเวลาเดี๋ยวซื้อมาฝาก”คยองซูพูดออกมาแบบติดขำ “ตอนนี้อ่านหนังสือต่อเถอะ ถ้าคะแนนสอบไม่ดีคงไม่ดีแน่ๆ”
“โหยยย สิบนาทีแล้วเหรอ”
“เกินละเหอะ”ร่างเล็กพูดเสียงเข้มก่อนจะกางสมุดโน้ตย่อของตัวเองมาเขียนต่อ
เสียงถกเถียง อธิบายในเนื้อหาต่างๆดังไม่หยุดจนกระทั่งเย็น สองเพื่อนรักแทบจะกระอักเลือดตายตอนติววิชาสุดท้ายเสร็จตอนเกือบๆสามทุ่ม สภาพห้องที่เละไม่เป็นท่าทำให้ต้องเสียเวลาเก็บกวาดเล็กน้อย เซฮุนฟุบหน้าลงกับโต๊ะอย่างหมดแรงตอนจัดหนังสือและชีทเรียนเข้าที่เสร็จ ท้องที่ไม่มีอะไรตกลงไปเลยตั้งแต่บ่ายเริ่มส่งเสียง
“ฉันหิวแล้ว”
“เหมือนกัน”
“ลงไปหาอะไรกินกันเถอะ”พูดจบเซฮุนก็ฉุดร่างเล็กของคยองซูให้ลุกขึ้นจากพื้น แล้วเดินตรงไปยังห้องอาหาร บ้านของเซฮุนไม่ได้ใหญ่เท่ากับบ้านคิมไค แต่มันก็ไม่ได้เล็กเลยถ้าเทียบกับการที่เพื่อนตัวขาวที่อยู่กับแม่บ้านอีกแค่สามสี่คน เซฮุนบอกว่าพ่อมักไปดูแลธุรกิจต่างประเทศบินไปมาเสมอ ปีหนึ่งๆกลับบ้านแทบจะนับครั้งได้มาหลายปีแล้ว จนเขาเริ่มชิน
ทั้งสองคนเดินลงมาจากบันไดชั้นสองและเลี้ยวเข้าไปในห้องอาหารที่เปิดไฟสว่างโร่อย่างผิดวิสัย คิ้วเรียวของเซฮุนขมวดเข้าเล็กน้อยทันทีที่เห็นคนที่นั่งอยู่หัวโต๊ะกำลังกินอาหาร ร่างเล็กแตะแขนเซฮุนเบาๆก่อนจะบอกความต้องการของตัวเองออกไป
“งั้นเดี๋ยวเรากลับบ้านก่อนนะ เจอกันที่โรงเรียนพรุ่งนี้”
“อืม”เซฮุนพยักหน้าช้าๆและเรียกคนไปส่งคยองซูที่บ้านแต่เขาก็ปฏิเสธเพราะมีคนมารอรับที่หน้าบ้านแล้ว ร่างเล็กโค้งหัวลาพ่อเซฮุนที่ตัวเองเพิ่งเจอเป็นครั้งแรกก่อนจะปลีกตัวเดินออกมา แม่บ้านเดินมาส่งเขาถึงหน้าบ้านตามคำสั่งคุณหนูของบ้าน เขาก้มหัวขอบคุณแม่บ้านก่อนจะเดินตรงไปเปิดประตูรถเข้าไปในรถสีดำที่ติดเครื่องรออยู่
“กลับกันเถอะ”ร่างเล็กเอ่ยปากทันทีที่คาดเข็มขัดนิรภัยเสร็จ รถหรูเคลื่อนออกจากข้างบ้านทันทีที่คนตัวเล็กเอ่ยบอก ไร้เสียงสนทนาใดๆเกิดขึ้นบนรถสิ่งเดียวที่ทำลายความเงียบคือเพลงที่เปิดคลอเบาๆ ดวงตากลมโตเหลือบมองคนที่มารอตัวเองกว่าสองชั่วโมงด้วยความสงสัย
“มองขนาดนี้สิงกันเลยไหมตัวเล็ก”เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นอย่างล้อเลียน ดวงตาคมจับจ้องไปที่แสงไปท้ายของรถคันหน้า “มีอะไรจะถามก็ว่ามา”
“ถามแล้วนายก็ไม่ตอบอยู่ดี จะถามทำไม”
“งั้นก็ไม่ต้องสงสัยอะไรสิ”
“เมื่อกี้ฉันเจอพ่อของเซฮุนด้วย”คยองซูเอ่ยออกไปลอยๆ แต่ดวงตากลมโตกลับลอบสังเกตอาการคนข้างๆอย่างเงียบๆ จื่อเทาชะงักไปเล็กน้อยกับประโยคเมื่อกี้ ดวงตาคมสั่นไหวไปวูบหนึ่งแต่ก็กลับมาเป็นปกติในเวลาไม่นาน
“...”
“แต่ดูเซฮุนจะไม่โอเคเลยนะตอนเจอพ่อ”รถหรูหักเลี้ยวเข้าจอดข้างทางทันทีที่จบประโยคนั้น หัวของคยองซูเกือบจะกระแทกคอนโซลรถถ้าไม่มีเข็มขัด คยองซูหันไปจ้องคนขับตาเขียว แต่ยังไม่ทันได้อ้าปากด่าก็หุบปากสนิทเมื่อเห็นจื่อเทาซบหน้าลงกับพวงมาลัยรถอย่างเหนื่อยๆ
“เขาว่าอะไรเซฮุนรึเปล่า”
“ห้ะ...”
“ฉันถามว่า ‘โอแชจุน’ ทำอะไรเซฮุนรึเปล่า”จื่อเทาถามเสียงเข้มก่อนจะเงยหน้าเค้นคำตอบจากอีกคน
“ฉะ..ฉันไม่รู้ฉันออกมาก่อน เห็นบรรยากาศไม่ค่อยดี”
“ต่อไปถ้านายเจอเขา อย่าปล่อยให้เขาอยู่กับเซฮุนสองคนเด็ดขาด”
“ทะ...ทำไมหล่ะ”
“ไม่ถามได้ไหม”
“โอเค”เมื่อได้ยินอีกคนดุเสียงเข้ม คยองซูก็ตอบกลับอย่างไม่ค่อยเต็มใจ
...หวังว่าเซฮุนจะไม่เป็นอะไรนะ...
30 per
เช้าวันจันทร์
คยองซูชะเง้อคอมองไปที่หน้าประตูห้อง ตอนนี้เขาอยู่ในห้องสอบโต๊ะแต่ละตัวถูกแยกออกจากกัน นักเรียนหลายคนหยิบหนังสือขึ้นมาอ่านบนโต๊ะเพื่อทบทวนแต่คยองซูยังคงไม่มีสมาธิในการอ่านซักนิดเมื่อไม่เห็นแม้แต่เงาของเพื่อนสนิท อีกสิบนาทีจะเริ่มการสอบแต่โอเซฮุนยังไม่มา
“เซฮุนหละ”
“ไม่รู้ โทรหาไม่ติดเลย”คยองซูตอบด้วยเสียงติดจะกังวลเล็กน้อยเมื่อมีเพื่อนนักเรียนคนหนึ่งเดินมาถาม มือเล็กล้วงเอาโทรศัพท์ใต้โต๊ะออกากดโทรออกหาคนที่มาส่งตัวเองเมื่อเช้า
เสียงสัญญาณดังไม่นานปลายสายก็ตอบรับ
“จื่อเทา !”
[มีอะไร]
“เซฮุน...เซฮุน เขาไม่มาโรงเรียน”
[...]
“วันนี้วันสอบนะจื่อเทา”
[...]
“ฉันกลัว จะมีอะไรเกิดขึ้นกับเขารึเปล่า”คยองซูพูดออกไปด้วยเสียงหวาดกลัว ถึงเซฮุนจะไม่ใช่คนที่ตั้งใจเรียนแต่ทุกครั้งที่มีการสอบหมอนั่นจะมาเพราะขี้เกียจมาตามสอบทีหลัง “...พ่อเขาจะไม่ทำอะไรเซฮุนใช่ไหม”
[...]
“พูดอะไรหน่อยสิจื่อเทา !”
[ฉันทำอะไรไม่ได้หรอก] ปลายสายตอบด้วยเสียงเหนื่อยๆ [ฉันไปที่บ้านนั้นไม่ได้]
“แต่เซฮุน...”
[หมอนั่นไปแน่ๆ โอแชจุนไม่ให้หมอนั่นขาดสอบหรอก] คำตอบของจื่อเทาทำให้คยองซูเม้มปากแน่น พลันสายตาก็เหลือบไปเห็นเพื่อนตัวขาวเดินเอื่อยๆอยู่ด้านล่าง ดวงตากลมเบิกกว้างก่อนจะตอบกลับปลายสวยด้วน้ำเสียงตื่นเต้น
“เซฮุนมาแล้ว”
[ฝากดูหมอนั่นด้วยนะ]
“อืม”คยองซูกดตัดสายและเดินไปยื่นให้หัวหน้าห้องที่กำลังเก็บโทรศัพท์มือถืออยู่
ประตูห้องเรียนถูกเปิดออกพร้อมกับร่างของเซฮุนที่แทรกตัวเข้ามา ผ้าปิดปากสีดำที่สวมอยู่ตรงใบหน้าเรียกความสนใจของคยองซูได้เป็นอย่างดี แต่ยังไม่ทันได้ถามอะไรเสียงออดเข้าห้องสอบก็ดังขึ้นมาเสียก่อน เขาจึงจำใจต้องหุบปากเงียบและเดินไปนั่งเงียบๆแต่ดวงตาก็ยังคงจับจ้องไปที่เซฮุนที่ฟุบหน้าลงกับโต๊ะอยู่
“สวัสดีค่ะนักเรียน เก็บหนังสือให้เรียบร้อยแล้วเตรียมตัวสอบนะค่ะ”คุณครูประจำชั้นเอ่ยบอกด้วยรอยยิ้ม “และถ้าเราพร้อมกันแล้ว ลุกขึ้นแล้วย้ายที่นั่งกัน” ความวุ่นวายเกิดขึ้นทันทีที่ครูพูดจบ นักเรียนลุกขึ้นจากโต๊ะของตัวเองและแยกย้ายกันไปตามที่ที่ถูกจัดไว้ให้
...
ออดดดดดดดดดดด
“นักเรียนวางปากกาแล้วส่งข้อสอบไปข้างหน้าค่ะ”คุณครูที่ยืนด้านหลังเอ่ยขึ้นทันทีที่เสียงออดดัง คยองซูส่งกระดาษคำตอบให้เพื่อนที่นั่งข้างหน้าและลุกขึ้นบิดขี้เกียจ เสียงดังระงมเกิดขึ้นทั่วห้องสอบ ร่างเล็กหันกลับไปมองเพื่อนตัวขาวที่ถูกย้ายไปนั่งข้าหน้าต่างของแถวเดียวกันแต่ก็ไม่เจอ คิ้วเรียวขมวดยุ่งอีกครั้งก่อนจะพยายามมองหาอีกคนที่ระเบียงทางเดิน
“หาเซฮุนเหรอ”
“เฮ้ย!”ร่างเล็กอุทานออกมาเสียงดังเพราะตกใจที่จู่ๆคิมฮวังจินก็โผล่เข้ามาข้างหลังและกระซิบเบาๆที่ข้างหู
“ว่าไง หาเซฮุนอยู่เหรอ”
“อืม”คยองซูตอบรับแบบส่งๆและผละตัวออกมาเพื่อทิ้งระยะห่าง การเข้าใกล้ฮวังจินเป็นเรื่องที่อันตรายของเขามากในเวลานี้
“ฉันเห็นหมอนั่นนะ”
“จริงเหรอ...”
“อืม ดูเหมือนจะขึ้นไปดาดฟ้านะ”
“ขะ...ขอบคุณนะ”
“ไม่เป็นไร”ฮวังจินตอบก่อนจะส่งยิ้มบางๆให้ คยองซูจึงได้ยิ้มกลับและเดินตรงไปดาดฟ้าทันที เท้าเล็กวิ่งขึ้นบันไดอย่างรีบร้อน จนถึงประดูดาดฟ้าที่ถูกเปิดไว้ ลมหนาวที่โกรกเข้ามาทำให้คยองซูต้องห่อตัวเองกับเสื้อตัวนอก ดวงตากลมมองซ้ายขวาเพื่อหาเพื่อนและก็พบเซฮุนนั่งพิงกำแพงดาดฟ้าออกไปไม่ไกล
คยองซูเดินเข้าไปใกล้แต่ดูเหมือนเซฮุนจะยังไม่รู้สึกตัวเพราะหลับตาอยู่ ริมฝีปากที่มีรอยช้ำเป็นจ้ำๆทำให้คยองซูขมวดคิ้วยุ่ง
“เซฮุน...”
“คยองซู !”อีกคนเอ่ยออกมาอย่างตกใจเมื่อเห็นเขายืนอยู่ตรงหน้า เซฮุนลนลานหาผ้าปิดปากในกระเป๋าขึ้นมาใส่ไว้ทันทีแต่ก็ต้องชะงักเพราะคำพูดของอีกคน
“ใครทำนาย”
“ไม่มีอะไรหรอก เมื่อเช้าฉันเดินชนประตูหน่ะ”
“อย่ามาโกหกกันได้ไหมเซฮุน !”คยองซูตัดสินใจขึ้นเสียงอย่างดุๆเมื่อเห็นว่าเพื่อนกำลังดื้อ ดวงตากลมเริ่มมีน้ำตาคลอ “ฉันไม่น่าปล่อยนายไว้กับพ่อเลย”
จบประโยคนั้นเซฮุนก็เม้มริมฝีปากแน่นอย่างใช้ความคิด เขาหยัดกายลุกขึ้นและเดินไปคว้าร่างของคยองซูมากอดไว้ ปล่อยให้น้ำตาที่อั้นไว้ไหลออกมาเหมือนคนอ่อนแอ อ้อมแขนของเซฮุนรัดแน่นจนอึดอัดแต่ก็ทำใจผลักไสเพื่อนออกไปไม่ได้
“เขาไปแล้ว”
“...”
“พ่อฉัน...เขาไปแล้ว”
“...”
“ไม่ต้องห่วงนะ ไม่มีอะไรแล้ว”ทันทีที่จบประโยคทั้งสองคนก็กอดกันแน่นกว่าเดิมและปล่อยโฮออกมาอย่างห้ามไม่อยู่
“ฉันขอโทษนะเซฮุน”
...ขอโทษนะจื่อเทา...
.
.
.
เสียงออดหมดเวลาวิชาสุดท้ายของการสอบ เมื่อส่งข้อสอบเสร็จเพื่อนหลายคนตะโกนโหวกเหวกอย่างดีใจ คยองซูลุกขึ้นบิดขี้เกียจ เขาเหลือบไม่มองเซฮุนที่ส่งยิ้มมาให้เขาอย่างเป็นปกติ มันเป็นการสอบวันสุดท้ายของภาคเรียนแล้ว วันมะรืนเขาก็จะเดินทางไปเชจูกับคุณไค วันเวลาผ่านไปเร็วจนหน้าใจหาย หลังจากผ่านพ้นสองเดือนที่หยุดเรียนไปเขาก็จะกลายเป็นนักเรียนมัธยมปลายปีสุดท้ายแล้ว
“สอบเสร็จซักทีเนอะคยองซู”เซฮุนพูดในขณะที่เดินมากอดคอเขาเอาไว้ เพื่อนตัวขาวปรับอารมณ์ให้กลับมาเป็นปกติได้เร็วมากจนคยองซูนึกแปลกใจและห่วงว่าในใจของเซฮุนตอนนี้คงมีอีกหลายเรื่องที่แสดงออกมาไม่ได้ รอยช้ำที่ริมฝีปากจางลงไปแล้วจากวันแรก เขาไม่ได้ถามว่าเกิดอะไรขึ้นและก็ไม่ได้บอกจื่อเทาเรื่องนี้ด้วย
วันนั้นหลังจากที่กอดกันร้องไห้จนเซฮุนดีขึ้น รู้ตัวอีกทีออดพักกลางวันก็ดังพอดี กลายเป็นว่าทั้งสองคนไม่มีใครได้กินข้าวเที่ยง คยองซูไม่ได้เอ่ยปากปลอบโยนหรือพูดอะไรแม้แต่น้อยเขาเพียงแค่โอบกอดเพื่อนรักคนนี้เอาไว้ หวังเพียงแค่ความทุกข์ในใจจะหายไป
“โคตรเหนื่อยเลย”
“ได้ปิดเทอมซักที”เซฮุนยืดตัวขึ้นบิดอย่างเกียจคร้าน “แล้วนี่วันนี้จะไปไหมงานเลี้ยงหน่ะ”
เซฮุนเอ่ยถามระหว่างเดินลงจากบันไดที่มีเด็กนักเรียนหลายคนยืนคุยกันโหวกเหวกเสียงดัง
“อ่า...”
“ต้องไปนะ นี่เป็นภาคบังคับ”
“โถ่ เซฮุน”
“ไอ้คุณไคของนายเนี่ยจะขังนายไว้ในบ้านอีกนานไหมวะ”เซฮุนพูดออกมาอย่างอารมณ์เสีย ใบหน้าขาวงองุ้มอย่างขัดใจ “นายไม่เคยไปงานเลี้ยงกับเพื่อนเลยนะคยองซู ไปเหอะ !”
“อ่า...งั้นเดี๋ยวเราโทรขอก่อนละกัน”คยองซูพูดออกมาด้วยเสียงอ่อยๆก่อนจะยกโทรศัพท์ขึ้นมากดโทรออก ทุกครั้งที่เพื่อนชวนไปงานเลี้ยงเขาจะปฏิเสธแบบแทบไม่ต้องคิดเลย ไม่ใช่ไม่อยากไปแต่เพราะว่าไม่อยากสร้างความเดือดร้อนให้คุณไคมากกว่า
[ฮัลโหล]
“...สวัสดีครับ”
[วันนี้จื่อเทาไม่ได้ไปรับเหรอ] เสียงปลายสายถามมาอย่างแปลกใจ [วันนี้หมอนั่นไม่ได้มีงานที่ไหนนี่]
“ปะ...เปล่าครับ”
[แล้วโทรมามีอะไร...]
“วันนี้เพื่อนจะมีงานเลี้ยงหน่ะครับ”คยองซูกลั้นใจพูดออกไปด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น “ผมขอไปได้ไหมครับ”
[อืม ไปสิ ไปสนุกกับเพื่อนบ้างก็ได้ฉันเห็นนายอยู่บ้านตลอด]
“จริงเหรอครับ”
[ไปเที่ยวบ้างก็ได้เดี๋ยวเพื่อนนายได้หาว่าฉันเอาแต่ขังนายไว้ที่บ้านกันพอดี] จบประโยคนั้นทำเอาคยองซูอ้าปากค้างพลางหันไม่มองเพื่อนตัวขาวที่ยืนจ้องอยู่อย่างตั้งใจ สองคนนี้ใจตรงกันรึคุณไคมีสัมผัสพิเศษกันแน่นะ [แต่อย่ากลับดึก ถ้าไม่มีคนมาส่งก็โทรหาจื่อเทา]
“ครับ ขอบคุณมากครับคุณไค”ร่างเล็กกดวางสายและหันไปส่งยิ้มกว้างให้เซฮุนทันทีที่คุยเสร็จ “เราติดรถไปด้วยนะ”
“เอาสิ”โอเซฮุนตอบรับพลางวิ่งเข้าไปกอดคอเพื่อนสนิทลากไปที่รถตัวเองที่จอดอยู่ วันนี้เซฮุนขับรถส่วนตัวมาเพราะกะจะไปเที่ยวต่อกับเพื่อนๆตอนเย็นอยู่แล้ว คยองซูก้าวขึ้นรถและก้าวขึ้นรถไปโดยไม่ลืมส่งข้อความบอกจื่อเทาไม่ต้องมารับ
‘kyungsOO : วันนี้ไม่ต้องมารับนะ’
‘Zitao : ทำไม’
‘Zitao : คุณไคจะไปรับเหรอ’
จื่อเทารัวสติ๊กเกอร์มาอีกสามสี่อัน ทำเอาคยองซูที่กำลังจะพิมพ์ตอบอึ้งๆไปนี่ไม่คิดจะให้เวลาเขาตอบเลยรึไง
‘kyungsOO : วันนี้มีงานเลี้ยงห้อง’
‘Zitao : อ้อ โอเคเที่ยวให้สนุก’
‘Zitao : ถ้าเมามาก จำทางกลับบ้านไม่ได้ก็โทรหา’
‘Zitao : เข้าใจ ?’
‘kyungsOO : โอเค’
“คุยกับหนุ่มที่ไหนหน่ะคยองซู”เซฮุนที่นั่งฝั่งคนขับหันมาส่งยิ้มสยองๆให้ “มีแฟนแล้วแต่ไม่บอกเหรอ”
“เปล่า คนที่บ้านหน่ะ”
“คุณไคหน่ะเหรอ”
“คนขับรถ”ร่างเล็กตอบเพื่อนไปแบบเลี่ยงๆ ได้แต่ขอโทษจื่อเทาในใจที่ลดตำแหน่งไปเป็นคนขับรถ
“หูยยย คนใช้บ้านนี้นี่ดีจัง มีเวลาว่างเหลือมาเล่นมือถงมือถือ เหลือซักตำแหน่งไหม”
“เหลือคนล้างห้องน้ำหน่ะ จะทำไหม”คยองซูตอบยิ้มๆพลางผลักหัวเซฮุนเล่น
“สนุกไหมคยองซู”
“สนุกกกกกกก”
“เดี๋ยวเหอะ ถ้าไม่ติดว่าขับรถนะ”
“จะทำไร”
“จะยกมือยอมแพ้แล้วบอกว่ายอมแล้วครับ”เซฮุนตอบทีเล่นทีจริงเมื่อเห็นคยองซูตวัดสายตามองแบบโหดๆ ทำไมต้องส่งสายตาสยองขวัญแบบนั้นมาให้ด้วย !!
เราหายไปนานมาก วุ่นวายเรื่องมหาลัย -w-
เดี๋ยวจะรีบมาอัพที่เหลือต่อนะ
up 100 per ; เปลี่ยนหัวเรื่องเป็นเทาฮุนซะดีไหม 55555 หรือฮุนโด้
คุณไคนางเป็นแค่ตัวประกอบนะจ๊ะอุอริ เดี๋ยวไปเชจูนี่หล่ะ
ทุกคนจะได้มองเห็นคุณไคเป็นพระเอกบ้าง
(ตอนนี้แอบเอาฮวังจินมาแจมอย่างพึ่งลืมเขานะค่ะ อย่าลืมว่าเราชอบฮวังจินม๊ากกก มาก)
เอนจอยรีดดิ้งค่ะสาวๆ อย่าลืมเม้นโหวตด้วยนะจ๊ะ
อย่าลืมร่วมฟินด้วยการสกรีมแท็ก #นางซินKD
ความคิดเห็น