คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #10 : SINDERELLA NINE
SINDERELLA ; NINE
เสียงฝนที่ตกกระทบพื้นดินทั่วทั้งตึกร้างกลบเสียงรอยเท้าที่ดังก้องได้อย่างดี ร่างโปร่งกระชับปืนในมือเข้าข้างตัว ขาเรียวยาวพาตัวเองขึ้นบันไดจนมาถึงประตูดาดฟ้า เขาหันไปให้สัญญาณกับลูกทีมที่เดินตามมาสามสี่คนและกดบลูทูธตรงหูและรายงานลงไปข้างล่าง
“ตอนนี้ผมกำลังจะขึ้นไป คุณช่วยระบุหน่อยว่าซ้ายหรือขวา”
[ผมเห็นเขาแล้ว ทางปีกซ้าย ผมให้สัญญาณแล้วเข้าไปเลย] เสียงทุ้มที่กรอกกลับมาส่งผลให้ร่างโปร่งกระชับปืนในมือแน่นกว่าเดิม เขาค่อยๆก้าวเท้าช้าๆรอฟังสัญญาณจากปลายสาย
...หนึ่ง...
...สอง...
...สาม...
[บุก !] เมื่อได้ยินคำสั่งเขาก็หันไปพยักหน้ากับลูกทีมและวิ่งเข้าไปในห้องนั้นทันที คนร้ายที่ยืนนิ่งที่ท่าทีตกใจอย่างมากเมื่อเห็นคนบุกเข้ามา
“หยุด! อย่าคิดหนี”ร่างโปร่งที่อยู่ใกล้คนร้ายที่สุดเดินเข้าไปทีละก้าวอย่างใจเย็น คนร้ายมองไปที่ตัวประกันที่ตัวเองล็อคคอไว้แล้วก็เหงื่อแตกพลัก ยิ่งเห็นฝั่งตรงข้ามก้าวเขามา เขาก็ยิ่งก้าวถอยหลังไปจนสุดขอบตึก “แกแพ้แล้วคิมมินกี มอบตัวซะ”
“อย่าเข้ามานะเว้ย !”คนร้ายตะวาดดังลั่นพร้อมกับหันมองลูกทีมร่างโปร่งที่ค่อยๆตีวงล้อมเข้ามา คนร้ายล็อคคอตัวประกันแน่นกว่าเก่าจนใบหน้าเด็กสาวบิดเบี้ยว ดวงตากลมโตเบนมาสบดวงตาที่กำลังเคร่งเครียดของร่างโปร่งอย่างเว้าวอน
...ได้โปรด หนูยังไม่อยากตาย...
ในใจของเด็กหญิงได้แต่เรียกร้องคำนี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า คิ้วเรียวสวยของร่างโปร่งขมวดเข้าหากันจนยุ่ง ในหัวพยายามคิดหาวิธีเกลี้ยกล่อมคนร้าย
“แกคิดจะทำอะไร”
“ฉันก็จะทำให้เรื่องมันจบไง”คนร้ายเอ่ยออกมาด้วยเสียงที่แหบพร่า “ฉันจะทำให้พวกแกรู้สึกผิดที่ปกป้องชีวิตเด็กคนนี้ไว้ไม่ได้”
“ฮึก...”เด็กผู้หญิงคนนั้นร้องไห้ออกมาอย่างน่าสงสาร เธอพยายามดิ้นทำให้คนร้ายล็อคคอเธอแน่นกว่าเดิม
[ทุกอย่างเตรียมการเรียบร้อยแล้ว]
สิ้นคำพูดที่ดังจากหูฟังที่สวมในหูร่างโปร่งก็ยกยิ้มออกมาน้อยๆ เขาวางปืนที่มีในมือลงและเตะไปทางซ้าย แขนทั้งสองข้างยกขึ้นเหนือหัว
“ปล่อยเด็กคนนั้นไป ฉันจะไปเป็นตัวประกันแทนเอง”เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นพร้อมกับก้าวเข้าไปใกล้คนร้ายอีกก้าว เขายกมือเป็นเชิงห้ามไม่ให้ใครตามเข้ามา “ฉันรู้ว่าคนที่แกอยากฆ่าคือเจ้าหน้าที่ ไม่ใช่เด็กนั่น”
ร่างโปร่งหยุดยืนตรงหน้าคนร้ายที่กำลังมึนงง เขามองซ้ายมองขวาอย่างหวาดระแวง
“ฉันจะเป็นคนที่สิบเจ็ดพอดีไม่ใช่เหรอ ถ้าฆ่าฉันได้แกก็จะบรรลุเป้าหมาย”แววตาของคนร้ายเบิกกว้างอย่างตกใจ ในสมองกำลังประมวลผลคำพูดที่อีกคนเอ่ยขึ้นอย่างหนัก “ถ้าแกตายไปพร้อมเด็กนั่น ก็เท่ากับตายฟรีเพราะสำเร็จตามที่แกวางแผนไว้”
เมื่อสิ้นคำพูดคนร้ายก็ผลักเด็กในอ้อมแขนออกไปและคว้าตัวร่างโปร่งขึ้นมาแทนถึงแม้ส่วนสูงจะต่างกันมาก แต่เพราะคนร้ายยืนอยู่บนขอบตึกที่ยกสูงทำให้สูงเหนือหัวเจ้าหน้าที่หนุ่มไปเล็กน้อย ลูกน้องที่ตามมาวิ่งมาอุ้มเด็กหญิงที่ตัวสั่นเอาไว้ก่อนจะมองไปที่ร่างโปร่งที่กำลังถูกล็อคคออยู่ รอยยิ้มที่ประดับบนใบหน้าหวานนั่นทำให้คนที่มองขนลุกอย่างประหลาด
“เราไปพร้อมกันเถอะนะ...”คนร้ายกระซิบเข้าที่ข้างหูร่างโปร่ง “ไปเจอนาบีที่น่ารักของฉันกัน”
“หึ...”
“ไปกันเถอะ เจ้าหน้าที่ ‘ปาร์คชานยอล’ ”ร่างโปร่งเบิกตากว้างอย่างตกใจกับชื่อที่คนร้ายเอ่ยออกมา แต่ยังไม่ทันได้คิดอะไรมากร่างทั้งร่างก็ลอยหวือลงจากตึกสิบแปดชั้นทันที
ตุบ พรึ่บ !
“จับตัวคิมมินกีไว้แล้วช่วยเจ้าหน้าที่”เสียงที่ดังขึ้นไม่ไกลจากหูเท่าไรทำให้ชานยอลที่ตกลงมาบนแพยางอย่างหนาที่รองรับอยู่เบื้องล่างยิ้มออกมาที่มุมปากเล็กน้อย เขาค่อยๆหยัดตัวลุกขึ้นแต่ดูเหมือนสังขารจะไม่ค่อยอำนวยจนคนรอบข้างต้องมาพยุง แรงกระแทกจากการที่ตกลงมาจากตึกสิบแปดชั้นมันทำให้เขาช้ำไปหลายจุดและดูเหมือนเลือดลมจะยังไม่ปกติดี
คิมมินกีถูกปฐมพยาบาลเบื้องต้นและส่งเข้ารถตำรวจไป ส่วนเขา ‘ปาร์คชานยอล’ ก็ถูกส่งมานั่งอยู่ท้ายรถพยาบาล ผ้าขนหนูสีฟ้าถูกเหวี่ยงลงมาบนหัวพร้อมกับการปรากฏกายของ ‘ชูก้า’ เจ้าของเสียงที่ดังมาตามสายหูฟัง
“ตัวประกันหล่ะ”ชานยอลยกผ้าที่ได้มาเช็ดหัวที่เปียกเล็กน้อยจากฝนที่ตกลงบนดาดฟ้าและเอ่ยถามเพื่อนร่วมทีม
“ถูกส่งไปกับรถพยาบาลอีกคันหนึ่งแล้ว เดี๋ยวอีกซักพักหน่วยพิสูจน์หลักฐานจะเข้ามา”ยุนกิตอบออกมาพร้อมกับยกเครื่องดื่มในมือขึ้นดื่ม ฝนที่ยังคงตกปรอยๆให้บรรยากาศหดหู่อย่างบอกไม่ถูก “คดีนี้ก็ปิดได้แล้วสินะ”
“ชูก้า”
“หืม”
“ไอ้คนร้ายนั่นหน่ะ...”ชานยอลทิ้งจังหวะก่อนจะเงยหน้าขึ้นสบตาเพื่อนร่วมทีมที่ทำหน้าสงสัยทันทีที่อีกคนพูดจบ “มันเรียกชื่อจริงฉัน”
คำพูดที่ออกมาจากปากเพื่อนร่วมทีมทำให้ชูก้าอ้าปากค้าง ใบหน้าหวานเคร่งเครียดขึ้นมาทันทีเรื่องของชื่อจริงสำหรับ ‘เจ้าหน้าที่’ เป็นเรื่องสำคัญมาก เพราะขนาดเขายังไม่รู้เลยว่า ‘Chaplin’ คนนี้มีชื่อจริงว่าอะไร
“ยังไงก็ฝากรายงานเรื่องนี้ถึงหัวหน้าด้วยนะ”ร่างโปร่งพูดจบก็หยิบร่มที่ชูก้าเอามาพิงไว้ข้างรถพยาบาลและเดินออกไปโบกแท็กซี่ที่ถนนใหญ่ ในหัวกำลังประมวลผลถึงเหตุการณ์ที่เจอมา คนร้ายในคดีนี้ชื่อ คิมมินกี มันฆ่าตำรวจและเจ้าหน้าที่รวมกันสิบหกรายและฆ่าเหยื่อเคราะห์ร้ายไปกว่ายี่สิบราย เขาและทีมเจ้าหน้าที่ตามสืบหาคนร้ายกว่าสี่เดือน เวลาที่ผ่านไปทำให้ศพที่เกิดยิ่งมากขึ้นส่งผลให้เขาและลูกทีมต่างเคร่งเครียดกว่าเก่า จนกระทั่งเมื่อสัปดาห์ก่อน พบเบาะแสและแรงจูงใจของคนร้าย
เมื่อสี่ปีก่อนคิมมินกีมีลูกสาวชื่อ ‘คิมนาบี’ อายุ 17 ปี แต่เธอและแฟนถูกตำรวจและเจ้าหน้าที่ล้อมจับในข้อหามียาเสพติดในครอบครอง เธอช่วยให้แฟนหนุ่มของเธอหนีไปโดยเข้าไปยื้อแย่งปืนกับเจ้าหน้าที่คนหนึ่ง แต่ปืนเกิดลั่นขึ้นมาทำให้เธอเสียชีวิตทันทีในที่เกิดเหตุ คนเป็นพ่อรับไม่ได้อย่างมากที่ลูกสาวตัวเองต้องตายไป เขามีอาการทางจิตสะสมกว่าสี่ปีในใจคิดแต่จะฆ่าตำรวจและเจ้าหน้าที่ให้ได้เท่ากับอายุของลูกสาวเพื่อเป็นการชดใช้ที่ไม่สามารถปกป้องเธอได้
ชานยอลพิงหัวลงกับเบาะนั่งด้วยใบหน้าเหนื่อยอ่อน เขาขอให้คนขับลดอุณหภูมิแอร์ลงเพราะตอนนี้เขารู้สึกเหมือนจะไม่สบาย แท็กซี่เคลื่อนผ่านในตัวเมืองช้าๆเพราะจารจรที่ค่อนข้างติดขัด เวลากว่าชั่วโมงที่อยู่ในแท็กซี่ทำให้ร่างโปร่งรู้สึกปวดหัวตุบๆอาจจะเพราะเขาพึ่งตากฝนมาแล้วยังมาเจอแอร์ที่เย็นเกินไปประกอบกับการที่นอนไม่พอสะสมกว่าสองสัปดาห์ ทำให้ไข้กำลังถามหาเขาตอนนี้
รถแท็กซี่จอดลงที่หน้าคอนโดหรู ชานยอลมองมิเตอร์ก่อนจะควักเงินสดออกมาจ่ายแล้วเดินออกมา ดวงตากลมก้มมองนาฬิกาข้อมือที่บอกเวลาบ่ายสี่โมงเย็นก่อนจะถอนหายใจออกมา เขาจำได้ว่าเขาตื่นนอนครั้งล่าสุดตอนเที่ยงของเมื่อวานนั่นแปลว่าเขาไม่ได้นอนเกือบสามสิบชั่วโมง
ร่างโปร่งเดินช้าๆเข้าไปในคอนโดอย่างเหนื่อยๆ เขายื่นบัตรผู้เข้าพักให้กับยามที่ยืนหน้าประตู ขาเรียวก้าวข้ามผ่านประตูกระจกใสแล้วเดินเข้าลิฟต์ไป นิ้วเรียวกดหมายเลขชั้น 19 แล้วเดินมาพิงมุมลิฟต์มุมหนึ่งแล้วหลับตาลง อาการปวดหัวแล่นแปลบๆทำให้คิ้วเรียวขมวดยุ่งกว่าเก่า
ติ๊ง !
เสียงลิฟต์ที่ดังขึ้นทำให้ร่างโปร่งลืมตาช้าๆ เขาเดนสะโหลสะเหลไปทางห้องด้านในสุด แต่ยังเดินไปได้ไม่เท่าไรอาการปวดหัวที่ไม่ค่อยสู้ดีก็เข้าล่นงาน มือเรียวข้างหนึ่งยกขึ้นกุมหัวไว้ส่วนอีกข้างยกขึ้นยันกำแพงเป็นที่ยึดเหนี่ยว ทางเดินที่เคยตรงกลับบิดเบี้ยวและหมุนไปมา สติที่ไม่ค่อยจะมีก็ดับไปร่างทั้งร่างทิ้งลงตามแรงโน้มถ่วงโลกสิ่งสุดท้ายที่สัมผัสได้คือเสียงของผู้ชายคนหนึ่งที่ดังขึ้น
“คุณครับ เป็นอะไรรึเปล่า !”
40.77 per
แสงแดดที่แยงเข้ามาทางรูผ้าม่านที่ปิดไม่สนิททำให้ร่างโปร่งที่นอนบนเตียงขมวดคิ้วยุ่ง อาการปวดหัวกลับมาเล่นงานทันทีที่รู้สึกตัว เขาค่อยๆหยัดกายตัวเองขึ้นนั่งพิงหัวเตียงนิ้วเรียวนวดข้างๆขมับเพื่อผ่อนคลาย ดวงตากลมกวาดมองไปทั่วห้องทำให้รู้ว่าที่ตัวเองนอนอยู่มันไม่ใช่ห้องนอนตัวเอง
ความทรงจำตอนที่ตึกร้างจนกระทั่งเกิดอาการวูบไปไหลเข้ามาในหัวเป็นฉากๆ
“ตื่นแล้วเหรอ”ชานยอลหันไปมองตามต้นกำเนิดเสียง ร่างสูงโปร่งที่เดินถือผ้าขนหนูเช็ดหัวออกมาจากห้องน้ำภายในตัว เขาเดินมาข้างๆเตียงจุดที่ชานยอลนั่งอยู่
“นายเป็นใคร”เสียงแหบพร่าถูกส่งออกจากลำคออย่างยากเย็น ดวงตากลมโตเหลือบมองร่างสูงที่ยืนยิ้มมุมปากอยู่ “แล้วที่นี่ที่ไหน”
“ที่นี่ห้องของผมเอง”เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นอีกครั้งก่อนจะนั่งลงไปที่ปลายเตียงถัดจากชานยอลเล็กน้อย ร่างสูงก้มหัวลงและค่อยๆเช็ดผมสีคาราเมลของตัวเอง ผ้าขนหนูสีดำซับไปตามปลายผมที่ยาวระต้นคอช้าๆ “ผมเห็นคุณสลบอยู่ตรงทางเดินหน้าห้อง”
“นายช่วยฉันเหรอ”
“ตอนนั้นตัวคุณร้อนมาก แล้วตัวก็เปียกด้วย ผมก็เลยเอาคุณมาไว้ในห้องแล้วเช็ดตัวเปลี่ยนเสื้อผ้าให้”ดวงตาคมหันกลับมาสบตาชานยอลที่ยังคงนั่งนิ่งๆ
“แล้วชุดเดิมของฉันละ”ชานยอลเอ่ยถามออกมาอย่างสงสัยเพราะเมื่อเหลือบมองชุดที่ตัวเองสวมเป็นชุดนอนลายทางแขนยาวที่คงจะเป็นของเจ้าของห้องแน่นอน
“อยู่ข้างนอก แม่บ้านพึ่งซักรีดมาให้เมื่อเช้า”
“ตอนนี้กี่โมงแล้ว”
“อีกสิบห้านาทีเที่ยง”คำตอบที่อีกคนตอบมาทำเอาชานยอลเบิกตากว้าง เขาจำได้ว่าตอนที่เขากลับมาจับยุนกิมันคือสี่โมงเย็นกว่าๆ นี่เขาหลับไปเกือบวันเลยเหรอ
“ดูท่าฉันคงรบกวนนายนานเลยสินะ”
“ก็เกือบๆยี่สิบชั่วโมงละมั้ง”ร่างสูงยักไหล่พลางหันมามองร่างโปร่งที่ทำหน้าลำบากใจอยู่บนเตียง “อย่าทำหน้าแบบนั้นสิ ถือว่าช่วยเพื่อร่วมคอนโด”
“ยังไงก็ขอบคุณมากนะ”เสียงแหบแห้งของชานยอลเปล่งออกมา “ฉันอยู่ห้อง 1905 มีอะไรให้ช่วยก็ไปหา”
“คุณจะไปแล้วเหรอ”
“อืม เหนียวตัวอยากอาบน้ำ”ร่างโปร่งเอ่ยตอบออกไปตามความจริง เหงื่อที่ออกเพราะพิษไข้ มันทำให้ร่างกายที่ร้อนรุ่มของเขาหายไปแต่ความอึดอัดมันก็เข้ามาแทนที่ ขาเรียวก้าวลงจากเตียงช้าๆแต่อาจจะเพราะการนอนที่นานเกินไปและยังไม่ฟื้นจากพิษไข้ดีนักทำให้แข้งขาที่เคยพยุงตัวเองได้กลับยืนไม่ค่อยมั่นคง ร่างสูงเห็นดังนั้นเลยรีบเข้ามารับคนที่กำลังล้มลงไปกองกับพื้น เรียวแขนวาดรอบเอวบางของอีกคนเพื่อประคองก่อนจะค่อยๆดึงขึ้นมาประชิดตัว
“คุณไหวรึเปล่า”
“ไหว...แค่วูบนิดหน่อย”เสียงแหบเปล่งออกมาหลังจากชะงักไปชั่วครู่ เขาค่อยๆยันตัวเองออกจากการเกาะกุมของร่างสูงแล้วยืนด้วยขาของตัวเอง ขาเรียวก้าวออกไปจากห้องโดยไม่ลืมหยิบชุดเก่าของตัวเองที่พับไว้อย่างเรียบร้อยบนโต๊ะกลับไปด้วย “ขอบคุณอีกครั้งนะ”
ชานยอลก้มหัวลงให้อีกคนเล็กน้อยก่อนจะเปิดประตูออกจากห้องไปทิ้งไว้แต่ร่างสูงที่มองบานประตูยิ้มๆ
...
ชานยอลปล่อยน้ำให้ไหลผ่านร่างกายตัวเองช้าๆ ฝ้าที่เกิดขึ้นจากเครื่องทำน้ำอุ่นเกาะพราวไปทั่วห้องกระจก แม้รู้ว่าการอาบน้ำนานๆไม่ดีกับคนไม่สบายเท่าไร แต่เขาก็ยังใช้เวลากว่าครึ่งชั่วโมงในห้องน้ำ
ออดดดดดดดดด
เสียงออดที่ดังขึ้นทำให้ร่างโปร่งหมุนบิดวาล์วน้ำให้ปิด มือเรียวคว้าผ้าขนหนูมาพันรอบเอวไว้ เขาเดินไปที่อินเตอร์คอมมองเห็นร่างสูงเจ้าของห้อง 1903 ที่เจ้าตัวพึ่งออกมายืนจ้องกลับมาในจอ คิ้วเรียวขมวดยุ่งแต่สุดท้ายก็เดินไปเปิดประตูให้
“มีอะไรรึเปล่า”
“คุณลืมมือถือไว้” ร่างสูงชูมือถือเครื่องสีดำแกว่งไปมาพร้อมกับยิ้มออกมาน้อยๆ “แล้วก็เมื่อกี้ผมลืมถามชื่อคุณหน่ะ”
“เข้ามาข้างในก่อนสิ” มือเรียวคว้าเอาโทรศัพท์ในมืออีกคนพร้อมเชิญเปิดประตูออกเพื่อเข้ามาในห้อง เขาเก็บเสื้อผ้าสามสี่ตัวที่พาดบนโซฟาลงตะกร้าแล้วเชิญอีกคนนั่งลง “เดี๋ยวไปแต่งตัวแปปนึง”ชานยอลเดินเข้ไปในห้องทันทีที่พูดจบ เขาคว้าเอาเสื้อยืดกับกางเกงสามส่วนมาสวมแบบลวกๆ คว้าเอาผ้าขนหนูปืนเล็กเช็ดผมสีแดงของตัวเองสามสี่ทีแล้วเดินออกไปหาคนที่กำลังนั่งรออยู่ข้างนอก
ร่างสูงเงยหน้าขึ้นจากจอโทรศัพท์ทันทีที่ได้ยินเสียงประตูเปิด เขาวางมือถือลงบนโต๊ะแล้วยิ้มให้อีกคน
“เดี๋ยวชุดนอนนั่น ฉันจะซักคืนให้”เสียงแหบๆของอีกคนเอ่ยขึ้นทันทีที่นั่งลงบนโซฟาเดียวกับเขา
“โอเค...”
“ฉันปาร์คชานยอล อายุ 25”เมื่อเห็นว่าในห้องกำลังเงียบ ชานยอลเลยตอบคำถามที่อีกคนถามตรงอยู่หน้าประตู “ยินดีที่ได้รู้จักอย่างเป็นทางการ”
“ผมคริส อายุ 20”คำตอบที่ออกมาจากปากร่างสูงทำให้ชานยอลเบิกตากว้างขึ้นเล็กน้อย คนๆนี้ดูไม่เหมือนเด็กมหาลัยเลยซักนิด อาจจะเพราะรูปร่างที่สูงใหญ่ประกอบกับหน้าตาที่ดูดีราวกับรูปปั้นนั่นทำให้อีกคนดูเหมือนคนที่ดูเหมือนคนที่มีอายุมากกว่านี้ “ผมอายุน้อยกว่าที่คุณคิดหล่ะสิ”
“อะ...อืม”
“คุณตอบตรงเกินไปนะ ‘ชานยอล’...ผมเรียกแบบนี้คุณไม่ถือใช่ไหม”
“ไม่หรอก”ชานยอลตอบออกไปตามความจริง เขาไม่ค่อยถือเรื่องการลำดับพี่น้องเท่าไรและถ้าจะให้คนตรงหน้ามาเรียกเขาว่า ‘ฮยอง’ มันก็คงไม่ใช่ “หิวข้าวรึเปล่า”
“หิว ผมยังไม่กินอะไรเลยตั้งแต่เช้า”คริสเอ่ยออกไปตามตรงก่อนจะลูบท้องตัวเอง “ที่นี่มีอะไรให้กินไหม”
“มีแต่รามยอน กินไหม”
“ก็ดีกว่าไม่มีอะไรกิน”
เมื่อร่างสูงพูดจบชานยอลก็เดินไปที่ห้องครัว ตักน้ำใส่หม้อแล้วต้ม คว้าเอารามยอนบนตู้เหนือเตาสามห่อแกะซองแล้วโยนลงไปในหม้อและปิดฝา ระหว่างรอเขาก็เปิดตู้ข้างๆหยิบเอาจานสองใบกับตะเกียบที่มีฝุ่นเกาะ คิ้วเรียวขมวดยุ่งแล้วเดินไปล้างที่อ่างล้างจาน เขาเปิดน้ำล้างจานกับตะเกียบแล้วจึงเดินกลับมาเปิดฝาหม้อ กลิ่นหอมที่ออกมาทำให้กระเพาะชานยอลประท้วง เขาคว้าเอาผ้าสองผืนจับที่ฝาหม้อแล้วเดินเอาไปวางที่โต๊ะ
“เดี๋ยวไปเอาจานมาให้ แปปนึงนะ”ร่างโปร่งวิ่งเข้าไปที่อ่างล้างจานแล้วคว้าเอาจานกับตะเกียบที่คว่ำไว้ เอามาวางไว้ตรงหน้าคริสที่ถือฝาหม้อค้างไว้
ร่างโปร่งจิ้มตะเกียบลงไปในหม้อก่อนเป็นการเปิดพิธีจากนั้นก็กลายเป็นศึกชิงรามยอนในหม้อของผู้ชายตัวสูงสองคน
“ว่าแต่คุณทำงานอะไรเหรอชานยอล”
“เซลล์แมน”ร่างโปร่งตอบพลางยกเส้นรามยอนที่คีบมาจากหม้อเข้าปาก “ขายเครื่องสำอาง”
“ตลกน่า”
“ตลกตรงไหน”
“เซลล์แมนเงินเดือนไม่กี่ตังจะมีปัญญาซื้อห้องที่นี่ได้ยังไง”คริสพูดออกมาพร้อมกับสบตาชานยอลที่นิ่งค้างไป ร่างสูงพูดถูกคอนโดหรูใจกลางเมืองแบบนี้มีแต่พวกคนมีอันจะกินเท่านั้นที่จะซื้อได้เพราะราคาสูงลิบลิ่วยิ่งอยู่ชั้นสูงๆแบบนี้ยิ่งแล้วใหญ่
“พ่อแม่ฉันรวย”
“อ้อ เข้าใจละ”
“นายดูไม่ค่อยแปลกใจนะ”ชานยอลถามออกมาอย่างสัยเมื่ออีกคนได้แต่พยักหน้าอย่างเข้าใจแล้วกินต่อไปโดยไม่ถามอะไรอีก
“บางทีลูกคนรวยก็มักจะมีตรรกะการใช้ชีวิตแบบแปลกๆทั้งนั้นละ”
“นายก็เหมือนกันใช่ไหม”จบคำถามคริสก็ได้แต่ยักไหล่ในท่าทางสบายๆ นั่นเรียกรอยยิ้มจากใบหน้าหวานของชานยอลออกมาน้อยๆ รามยอนในหม้อหมดในเวลาไม่นาน ชานยอลนอนแผ่ลงบนพื้นและลูบท้องของตัวเอง “คริส...”
“หืม ?”
“นายไม่ใช่คนเกาหลีใช่ไหม”
“อืม เป็นคนจีน”
“แล้วนายเรียนอะไร”
“ธุรกิจระหว่างประเทศ ที่มหาลัย A”
“เก่งเหมือนกันนะเรา”ชานยอลหัวเราะพร้อมกับชมอีกคนออกมา เขาลุกขึ้นเก็บจานกับตะเกียบลงในหม้อแล้วเอาไปแช่น้ำไว้บนอ่างล้างจาน “แล้ววันนี้ไม่มีเรียนเหรอ”
“ไม่มี”
“เอาไว้คราวหน้าฉันจะเลี้ยงอาหารดีๆตอบแทนแล้วกัน”ร่างโปร่งว่าพลางวางน้ำที่หยิบออกมาจากตู้เย็นลงบนโต๊ะ เขาหันไปมองคริสที่ลุกเดินไปที่ตู้ยาที่ติดไว้บนผนัง มือเรียวคว้าเอายาแก้ไข้สองเม็ดออกมาก่อนจะยื่นให้อีกคน
“ตอนนี้คุณหน่ะกินยาก่อน”
“โอเค”ชานยอลพูดออกมายิ้มๆก่อนจะเดินไปเปิดขวดน้ำขวดใหม่ที่วางอยู่ข้างตู้เย็นตบยาเข้าปากแล้วกินน้ำตาม “ถ้านายไม่พูดฉันลืมเลยนะ”
คริสไม่ได้ตอบอะไรได้แต่พยักหน้าเขาคว้าเอาน้ำที่อีกคนวาไว้มาดื่ม ดวงตาคมจับจ้องไปทั่วห้องสำรวจสภาพห้องที่ไม่ค่อยจะมีอะไรมากนอกจากเฟอร์นิเจอร์สี่ห้าชิ้น
“คุณอยู่ที่นี่มานานรึยัง”
“เกือบสองปีแล้ว”
“แต่ผมไม่เคยเห็นคุณเลยนะ”
“ฉันไม่ค่อยกลับมาหน่ะ ส่วนมากจะนอนที่สำนักงานไม่ก็นอกสถานที่”ชานยอลทิ้งตัวลงนั่งข้างๆอีกคนบนโซฟา เขาคว้าเอาหมอนกากอดไว้ก่อนจะพูดต่อ “เป็นเซลล์แมนก็ไปเสนอขายสินค้าต่างจังหวัดบ้าง สองสามเดือนกลับมา ครั้ง ครั้งนึงก็แค่สองสามวัน นายเห็นฉันนั่นหล่ะแปลกเพราะปกติก็อยู่แค่ในห้อง”
“คุณไม่ออกไปไหนเลยเหรอ ?”
“ไม่หล่ะ นอนอย่างเดียว วันหยุดของฉันหน่ะเหมาะสำหรับพักผ่อนที่สุด”ร่างโปร่งตอบออกไปตามตรงเพราะการที่เขาจะได้พักครั้งนึงมันหมายถึงการที่เขาต้องเสร็จภารกิจที่ได้รับมอบหมายซะก่อนถึงจะได้พักซักอาทิตย์หรือสองอาทิตย์
“แล้วคราวนี้คุณจะกลับมาอยู่กี่วัน”
“ไม่รู้สิ ต้องรอสำนักงานส่งข้อความมาบอกเพราะฉันพึ่ง ‘ทำยอด’ ทะลุเป้าหน่ะ”
“นานไหมถึงจะรู้”
“ตอนนี้แหละ”ชานยอลตอบออกมาพร้อมกับหันหน้าไปสบตาคริสที่ทำหน้างงๆใส่ ร่างโปร่งหยิบเอาโทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกงออกมาเพราแรงสั่นของข้อความก่อนจะเปิดอาน ดวงตาเบิกตากว้างอย่างตกใจมันคือจำนวนวันพักผ่อนที่มีค่าถึงสิบวัน
“สรุปกลับมากี่วัน”
“ประมาณอาทิตย์นึง”ชานยอลตอบกลับอย่างตื่นเต้น เขาวางแผนในหัวว่าจะนอนอยู่ในห้องพักผ่อนให้หายเหนื่อยจากการใช้สมองและแรงกายในการจับมินกีแล้วค่อยหาเวลาไปเที่ยวซักวันสองวัน
“ตั้งแต่วันนี้เลยเหรอ”
“นับพรุ่งนี้เป็นวันแรก”ร่างโปร่งตอบกลับอย่างกระตือรือร้นดวงตากลมโตฉายแววดีใจเหมือนเด็กๆจนคริสอดยิ้มออกมาไม่ได้ “วันนี้ฉันต้องสรุปยอดส่ง”
“อ้อ แล้วนี่จะนอนอย่างเดียวเลยเหรอ”
“ไม่หรอก ฉันว่าจะไปหาอะไรทำข้างนอกเหมือนกัน”
“แล้ววางแผนรึยังว่าจะไปไหน”
“อ่า ยังหรอกแต่ก็มีที่ที่อยากไป”
“ที่ไหนเหรอ”
“กาแลคซี่”
up 40.77 per ; กลับมาแล้วนะค่ะหายไปนานเกินไป เปิดกันมางงหล่ะสิ (งงเหมือนกัน)
สำหรับคู่รองคู่ที่สองนี้คู่ไหนกันน้าใครมาช่วยชยอลไว้
บอกไว้เลยนะค่ะว่าฟิคเรื่องนี้อะไรก็เกิดขึ้นได้เสมอค่ะ สำหรับอาชีพของชยอลคือเจ้าหน้าที่นะค่ะ
ไรท์เตอร์ได้แรงบันดาลใจอาชีพนี้มาจากซีรี่ส์ 7th level civil servant ที่จูวอนของไรท์เป็นพระเอก 5555
สารภาพจากใจตอนนี้ที่ช้าไม่ได้อะไรเราลบแล้วเขียนใหม่ 4 รอบกว่าจะด้มาแบบนี้
ขอโทษที่ช้านะค่ะ อย่าทิ้งกันน้าาาาาาาาาาาาา
อย่าลืมเม้นโหวต รักนะจุ๊บๆ
up 100 per ; กลับมาอเกนละค่ะ วันนี้มาอัพและเฉลยแล้วว่าคู่รองคือราิสยอลนั่นเอง
เดาถูกกันนไหม ตกใจหล่ะสิ ไรท์ยังตกใจเลย -.- โห่ ! อย่าดราม่าเรื่องคู่ไรท์ตีนะค่ะ
บอกเลยว่าชิปทุกคู่จริงๆ ไม่อนากมีปัญหา ส่วนตอนนี้ก็มาแบบกิ๊ๆกั๊ๆ
ตอนหน้าจะพาไปกาแลคซี่ 5555555555 คิดถึงเฮียกันใช่ไหมค่ะ ไรท์คถ.มากๆ ฮ่าๆ
อ้อใครคถ.คุณไคตอนหน้านางจะมาวะฮะฮ่า
อย่าลืมร่วมฟินด้วยการสกรีมแท็ก #นางซินKD
ความคิดเห็น