ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    HEALTH TIPS ▶ เคล็ด(ไม่)ลับกับสุขภาพ

    ลำดับตอนที่ #6 : ๕...แฟชั่นกับการจัดฟัน

    • อัปเดตล่าสุด 17 ส.ค. 54


    Eye
    Style


    การจัดฟัน คือ อะไร 
        
    การจัดฟัน (Orthodontic Treatment) เป็นการเคลี่อนฟันไปยังตำแหน่งที่เหมาะสม โดยอาศัยเครื่องมือบางชนิดซึ่งมีทั้งแบบถอดได้ และแบบที่ยึดติดอยู่กับตัวฟัน แบบที่อยู่ในช่องปากและแบบที่อยู่นอกช่องปาก นอกจากนี้ การจัดฟันยังรวมไปถึงการแก้ไขลักษณะนิสัยที่ผิดปกติในการบดเคี้ยว

         การเปลี่ยนแปลงหรือแก้ไขการเจริญเติบโตที่ผิดปกติของขากรรไกรอีกด้วย เพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุดทั้งในด้านความสวยงาม และการทำหน้าที่


    ข้อดีและข้อเสียของการจัดฟัน
    ข้อดีของการจัดฟัน 
         1. การบดเคี้ยวอาหาร การจัดฟันจะทำให้บดเคี้ยวอาหารได้ดียิ่งขึ้น และย่อยอาหารได้ดียิ่งขึ้น กระเพาะอาหารไม่ต้องทำงานหนักจนเกินไป เนื่องจากการบดเคี้ยวเป็นขั้นแรกในการย่อยอาหาร

         2. ทำให้ปัญหาต่างๆทางทันตกรรมลดลง
              - ฟันซ้อนเกจะทำให้เราทำความสะอาดหรือแปรงฟันได้ยากและไม่ทั่วถึง ส่งผลให้มีคราบอาหารและคราบจุลินทรีย์รวมทั้งหินปูนมาเกาะจับที่ตัวฟันอยู่ เยอะ ซึ่งถ้าปล่อยทิ้งไว้นานๆก็จะเป็นสาเหตุทำให้เกิดฟันผุและโรคเหงือกได้
              - ฟันซ้อนเกจะทำให้เมื่อเราใช้ฟันในการบดเคี้ยวอาหารประจำวัน จะเกิดการสึกของฟันในตำแหน่งที่ไม่ควรจะเกิด ทำให้การสบฟันผิดจากตำแหน่งปกติที่ควรจะเป็น จึงส่งผลให้ยิ่งนานไปยิ่งจะทำให้เกิดปัญหาต่อตัวฟัน เหงือกและข้อต่อขากรรไกร

         3. ความสวยงาม การจัดฟันจะทำให้ฟันเรียงตัวสวยงาม เป็นการเสริมสร้างบุคลิกภาพและเพิ่มความมั่นใจให้แก่ตัวเองอีกด้วย

    ข้อเสียของการจัดฟัน 
         1. ฟันผุ เหงือกอักเสบ เนื่องจากการที่เรามีเครื่องมือจัดฟันอยู่ในช่องปาก จะทำให้การทำความสะอาดเป็นไปได้ยาก ส่งผลให้เกิดฟันผุและเหงือกอักเสบได้ง่าย ผู้ที่จัดฟันจึงควรแปรงฟันอย่างสะอาดทั่วถึงหลังจากมื้ออาหารทุกมื้อ

         2. อาการแพ้สารที่เป็นส่วนประกอบในเครื่องมือจัดฟัน บางคนแพ้สารพวกนิเกิลที่เป็นส่วนประกอบในเครื่องมือจัดฟัน แต่พบได้น้อยมาก

         3. อาการเจ็บ พบได้เกือบทุกคนที่จัดฟัน อาการเจ็บนี้มักเกิดจากการเคลื่อนตัวของฟัน หรือเกิดจากเครื่องมือจัดฟันไปทิ่มกับเนื้อเยื่อภายในช่องปาก อาการเจ็บจะเป็นในบางช่วงของการจัดฟันเท่านั้น

         4. อาการปวดข้อต่อขากรรไกร อาจเกิดขึ้นได้ระหว่างการจัดฟัน เนื่องจากฟันเคลื่อนตัวไปในตำแหน่งที่ไม่เหมาะสมต่อการบดเคี้ยว

         5. ฟันตายหรือรากฟันมีการละลายตัว พบได้ไม่บ่อยนักในผู้ที่มีการจัดฟัน อย่างไรก็ตามเราพบว่าในระหว่างการจัดฟันนั้น ฟันที่ตายไปแล้วอาจจะย้อนกลับมามีชีวิตดังเดิมได้ และในคนปกติที่ไม่ได้จัดฟันรากฟันก็มีการละลายตัวได้เองอยู่แล้ว


    ระยะเวลาที่ใช้ในการจัดฟัน

    ระยะ เวลาที่ใช้ในการจัดฟันนั้นจะแตกต่างกันไปในผู้ป่วยแต่ละราย โดยเฉลี่ยการจัดฟันแบบติดแน่นนั้นจะใช้เวลาประมาณ 1.5 - 2.5 ปี แต่ก็ยังมีปัจจัยหลายๆอย่างที่ทำให้ระยะเวลาที่ใช้ในการจัดฟันแตกต่างกันไป ดังนี้
         1. ผู้ใหญ่หรือผู้ที่มีอายุมากกว่ามักจะใช้ระยะเวลาในการจัดฟันมากกว่าผู้ที่มีอายุน้อยกว่า
         2. การจัดฟันที่มีการถอนฟันร่วมด้วย มักจะใช้เวลาในการจัดฟันมากกว่าการจัดฟันที่ไม่มีการถอนฟันร่วมด้วย
         3. การจัดฟันที่มีการผ่าตัดขากรรไกรร่วมด้วย มักจะใช้เวลามากกว่าการจัดฟันที่ไม่มีการผ่าตัดขากรรไกร
         4. การผิดนัดบ่อยๆย่อมทำให้เวลาในการจัดฟันนานขึ้น
         5. การไม่ปฏิบัติตามที่แพทย์สั่ง เช่น การใส่ยางหรือการใส่เครื่องมือจัดฟันชนิดถอดได้ย่อมทำให้เวลาในการจัดฟันมากขึ้น
         6. การรับประทานอาหารโดยไม่ระมัดระวังจะทำให้เหล็ก ยางหรือลวดจัดฟันหลุด หรือเสียหาย ย่อมทำให้ระยะเวลาในการจัดฟันมากขึ้น


       



    ส่วนเรื่อง "แฟชั่นกับการจัดฟัน"

                
    การ จัดฟันแฟชั่น ในขณะนี้ กลุ่มที่นิยมส่วนใหญ่จะเป็นนักเรียนที่รู้เท่าไม่ถึงการณ์ เชื่อกันว่า การจัดฟันจะทำให้มีใบหน้าเรียวยาวสวยงามขึ้น ซึ่งไม่เป็นความจริง จริงๆแล้วการจัดฟันเป็นการรักษาในรายที่มีฟันผิดปกติ เช่น ฟันยื่น หรือฟันเก อาจสร้างปมด้อยและเกิดปัญหาตามมา  จึงไปจัดฟันในราคา 600-700 บาท และยังไม่รู้ถึงอันตรายของการจัดฟันกับ หมอเถื่อน รวมทั้งวัสดุอุปกรณ์ที่ใช้ว่ามีความปลอดภัยมากน้อยเพียงใด

               เนื่อง จากการจัดฟันแฟชั่นไม่ใช่การรักษาทางทันตแพทย์ แต่เป็นการพยายามใส่เครื่องมือ ที่เลียนแบบการจัดฟันแบบติดแน่นที่ทันตแพทย์ใช้ในการรักษาผู้ป่วย และมีข้อมูลว่าหมอเถื่อนบางรายใช้ กาวตราช้าง ยึดติดลวดกับฟัน ซึ่งมีอันตรายมากกับเคลือบฟัน ทำให้เคลือบฟันบางลง จะทำให้ฟันผุได้ง่ายขึ้น 
               ในวันนี้มีการหนังสือถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ขอให้สั่งการกับโรงเรียนทั่วประเทศ ให้สั่งครูประจำชั้นตรวจฟันเด็กนักเรียนทั่วประเทศ โดยเฉพาะระดับมัธยมศึกษา หากพบมีเด็กจัดฟัน ให้ไปขอใบรับรองแพทย์จากทันตแพทย์ที่จัดฟัน หากไม่มี ให้แจ้งผู้ปกครองพาไปเอาลวดจัดฟันออกภายใน 30 วัน และให้ครูแจ้งสถานที่จัดฟันเถื่อนให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด เพื่อดำเนินการกวาดล้าง ลงโทษขั้นเด็ดขาดตามกฎหมายต่อไป

              อย่าง ที่เรื่องราวข้างต้นเกี่ยวกับการดัดฟัน ลองคิดดูกันนะคะเมื่อก่อนการดัดฟัน อาจเป็นเรื่องของการจัดฟันเพื่อสุขภาพปากและฟัน แต่เดี๋ยวนี้ ดูเหมือนว่า การดัดฟันจะกลายเป็นเรื่องในทาง "แฟชั่น" ที่มีวัยรุ่น และคนวัยทำงานจำนวนมากหันมาติดฟันเหล็กกันเพื่อความโก้เก๋ เท่ จนเกิดปรากฏการณ์ "ดัดฟันแฟชั่น" ธุรกิจที่กำลังบูมมากๆ แต่กลับมีอันตรายมากเช่นกันในยามนี้

      ลองคิดดีๆนะคะจะว่าไปแล้วธุรกิจนี้ไม่มีส่วนเอี่ยวเกี่ยวกับทันตแพทย์เลยสักนิด เพราะบรรดาร้านรวงแถวลาดพร้าว ตะวันนา อนุสาวรีย์ ที่ขึ้นป้ายว่ารับ "ดัดฟันแฟชั่น" ล้วนเป็นร้านเสริมสวย สถานเสริมความงาม หรือแม้แต่ตามตลาดนัดและเปิดท้ายขายของทั่วไป ก็ยังมีลวดดัดฟันแฟชั่นจำหน่ายในราคาไม่เกินหลักร้อยขายเลย


          ไม่น่าเชื่อว่าคือธุรกิจความงามสุดอันตรายที่กำลังเกิดขึ้นอย่างกว้างขวางอยู่ในตอนนี้เพราะไม่เพียงมีการจำหน่ายอุปกรณ์จำพวก ยาง สีดัดฟันแฟชั่น ติดเขี้ยวเพชร ติดยางจัดฟันรูปดอกไม้ มิกกี้เมาส์ และเหล็กดัดฟัน ที่ไม่ได้เป็นอุปกรณ์มาตรฐานทางการแพทย์เลยสักนิดอย่างคึกคัก ไม่ เพียงเท่านี้ยังมีการจำหน่ายทั้งปลีกและส่ง กระจายไปทั่วกรุงเทพฯ และต่างจังหวัดแถมบางรายยังมีการนำเข้าเหล็กดัดฟันจากเกาหลี มาช่วยสร้างภาพความน่าสนใจให้กับวัยรุ่นคอเคด้วย
         ที่น่าตกใจก็คือ หลังจากที่ลองตรวจสอบข้อมูล ในธุรกิจจำหน่ายอุปกรณ์ดัดฟันแฟชั่นนี้ มีการรับสอนดัดแฟชั่นด้วยเป็นวิชาชีพที่ผู้รับสอนรายหนึ่งเขาบอกว่าเรียน ง่าย ค่าเรียนแค่ 5,000 บาท (ไม่รวมอุปกรณ์) ก็สามารถไปติดเหล็กดัดฟันให้กับสาวๆ ที่อยากมีฟันเหล็กแล้ว

         ปัญหาดังกล่าวกำลังบานปลาย การออกมาประกาศเตือนของกระทรวงสาธารณสุขในช่วงที่ผ่านมาว่า บรรดาลวดดัดฟันแฟชั่นที่วางขายทั่วไปนั้น มีลักษณะเป็น ลวดสเตนเลส หรือ ลวดที่ใช้ร้อยดอกไม้ และมีการใส่ ลูกปัดหลายสี พลาสติกยาง กากเพชร อุปกรณ์เสริมความเก๋เหล่านั้น เขาตรวจสอบพบว่ามีสารปนเปื้อนหลายชนิด เช่น ตะกั่ว พลวง ซิลิเนียม โครเมียม สารหนู และอื่นๆ หากสะสมในร่างกายในปริมาณมากจะก่อให้เกิดผลต่อไต ทำให้ไตวายถึงขั้น เสียชีวิต ได้

    น่าแปลกใจกว่าคือ ในเมื่อคำสั่งก็มีออกมาแล้ว

    แต่ทำไมการดัดฟันแฟชั่นจึงยังคงมีการดำเนินการกันต่อ

    แถมเกิดขึ้นอย่างเป็นล่ำเป็นสันและรุ่งเรืองมากๆ ด้วย


    เราคิดว่าแค่การออกประกาศเตือน สงสัยจะไม่พอซะละมั้ง

    สาวๆ คนไหนอยากอินเทรนด์ด้วยการดัดฟันแฟชั่น

     

    ไม่คุ้มหรอกนะคะ

    เพราะเราว่ามีอันตรายพ่วงมาเพียบเลยกับการสวยแบบผิดๆนี่แหละค่ะ !!!

    จงพอใจในสิ่งที่ตนเองมี อย่างนี้แหละ ดีที่สุดแล้ว :)






    ........................................................................................
    เรื่องพวกนี้อันตรายเยอะมากเลยนะคะ
    อายล่ะกลัว
    ฟันยิ่งเจิงอยู่ ให้โตก่อนดีก่าเดี๋ยวค่อยไปจัด(แหะๆ)


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×