ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic]All of Couple B.A.P EXO SJ

    ลำดับตอนที่ #17 : [BangDaeHim] Unlovable ไม่ขอเป็นคนที่ถูกรัก 4

    • อัปเดตล่าสุด 24 ต.ค. 55


    © Tenpoints!



    Unlovable   ไม่ ขอเป็นคนที่ถูกรัก





    จนเวลาล่วงเลยไปราวๆ 1 อาทิตย์ ผมก็ยังคงไปเรียนเหมือนปกติ แต่สิ่งที่ไม่ปกติก็คือ ผมไม่ได้ไปนั่งรอพี่ฮิมชานเหมือนทุกวัน ไม่ได้คอยแอบมองพี่ฮิมชานเหมือนอย่างเคย และสิ่งที่เปลี่ยนไปอีกอย่างก็คือ ยงกุกคอยมาอยู่เป็นเพื่อนผม คอยปลอบผมยามร้องไห้ คอยอยู่เป็นเพื่อนคุยให้ผม แม้ผมจะไม่ได้เอ่ยพูดอะไรเลยสักคำก็เถอะ วันๆผมก็แต่นั่งซึมอยู่ตรงสวนต้นไม้หลังมอ ที่ที่ยงกุกเคยพาผมมาในวันที่ผมได้รู้ว่าพี่ฮิมชานมีแฟนอยู่แล้ว และที่ตรงนี้ก็เป็นสถานที่ประจำของผมกับยงกุกไปแล้ว เป็นสถานที่ที่เงียบ ไม่มีใครผ่านมาแถวนี้สักเท่าไหร่

     

     

    ทำไมน่ะหรอ? อาจจะเพราะสถานที่ตรงนี้เหมือนสร้างมาให้เฉพาะคนที่กำลังเหงา เศร้าหรืออกหักล่ะมั้ง เป็นสถานที่ไม่มีอะไรมาก ก็แค่ต้นไม้ที่แห้งเฉา ใบไม้สีน้ำตาลที่ร่วงโรยลงมาจากต้น และเป็นที่ๆไม่มีใครคิดที่จะสนใจมันเลยแม้แต่น้อย แต่ตอนนี้กลับทำให้ผมรักสถานที่ตรงนี้มาก

     

     

    มันช่างเหมือนกับหัวใจของผม ที่เหมือนจะเริ่มแห้งเฉาไปตามกาลเวลา เมื่อไม่มีใครให้คอยดูแล ไม่มีน้ำที่คอยรดรินให้ ไม่มีปุ๋ยที่ช่วยเติมเต็ม ไม่เหมือนเมื่อก่อนที่ผมมักจะมีความสุขตลอดเวลายามที่ได้มองพี่ฮิมชาน แต่ตอนนี้สิทธิ์นั้นคงไม่มีอีกแล้วสำหรับคนอย่างผม มันจบลงไปแล้ว และตอนนี้ผมก็เริ่มที่จะทำใจให้ยอมรับว่าคนที่ชื่อฮิมชาน ไม่ได้มีค่าต่อหัวใจของผมอีกต่อไปแล้ว ถึงแม้ตอนนี้มันจะเฉาไปเกินกว่าครึ่งก็เถอะ

     

     

    “นี่แดฮยอน เดี๋ยวฉันไปซื้อน้ำมาให้ล่ะ แล้วเลิกนั่งซึมได้แล้ว ฉันขี้เกียจมานั่งอยู่กับท่อนไม้ที่ไร้วิญญาณ”

     

     

    “แล้วใครใช้ให้นายมานั่งกับฉันล่ะ ฉันไม่ได้ขอสักหน่อย”

     

     

    “สำหรับบางคน ต่อให้เหมือนอยู่คนเดียวบนโลก ฉันก็ยอมทำเพื่อให้ได้อยู่กับคนๆนั้นนะ”

     

     

    ว่าจบเขาก็ลุกขึ้น แล้วเดินออกไปหาซื้อน้ำ โดยทิ้งผมไว้คนเดียว กับสถานที่ที่ไร้ซึ้งผู้คน ตอนนี้ผมนั่งอยู่กับพื้นที่มีใบไม้ปกคลุม พร้อมมองออกไปด้านหน้าอย่างไร้จุดหมาย ลมยามบ่ายที่พัดไปมาจนใบไม้ปลิวไปตามลมอย่างไร้ที่อยู่นั่น มันช่างดูเป็นอิสระเสียเหลือเกิน ผมอยากมีจิตใจที่มีอิสระ ไม่อยากถูกผูกมัดอยู่กับใครอีกแล้ว

     

     

    หลังจากที่เริ่มรู้สึกปวดตาเนื่องจากฝุ่นและลมที่พัดผ่านมานั้น ทำให้ผมรู้สึกปวดตาจนต้องล้มลองนอนลงไปกับใบไม้แห้งกรอบนั่น ยามที่โน้มตัว ใบไม้ก็กรอบไปตามแรงที่ถูกทับ เมื่อร่างของผมนอนราบไปกับพื้นโลกแล้ว ผมก็จัดการปิดดวงตาที่เหนื่อยล้าจากการร้องไห้มาหลายวันลง ก่อนที่สติจะดับวูบไป

     

     

    ในขณะที่ผมหลับไปได้สักพักนั้น ผมก็รู้สึกเหมือนมีอะไรบางอย่างมาสัมผัสที่ริมฝีปากของผม ตอนแรกผมคิดแค่ว่าผมรู้สึกไปเองหรือเปล่า? แต่ความคิดของผมก็เปลี่ยนไปเมื่อรู้สึกได้ถึงสิ่งของอุ่นๆที่ถูกสอดแทรกลงมาที่โพรงปากของผม นั่นทำให้ผมตกใจเป็นอย่างมากและลืมตาขึ้นพร้อมผลักอีกฝ่ายให้ออกห่างด้วยความตกใจ แต่สิ่งที่ทำให้ผมตกใจมากกว่านั้น ก็คือผู้ที่กระทำกับผมนั่นเอง

     

     

    “พี่ฮิมชาน”

     

     

    “พี่ทำให้แดฮยอนตกใจหรอ”

     

     

    ผมไม่เข้าใจในสิ่งที่อีกฝ่ายทำเลยจริงๆ เขาจะทำกับผมแบบนี้ทำไม ในเมื่อเขามีคนที่รักอย่างจูเนียลอยู่แล้ว แล้วเขาจะมา จูบผมทำไมกัน?

     

     

    “พะ พี่ทำกับผมแบบนี้ทำไม!

     

     

    ผมถามออกไปพร้อมทั้งเอานิ้วของตัวเองสัมผัสไปที่ริมฝีปากของตนเองแล้วมองอีกฝ่ายอย่างไม่เข้าใจในการกระทำนั้น ลมที่ยังคงพัดไม่หยุด ก็ได้พัดพาใบไม้แห้งมากมาย ผ่านใบหน้าของผมกับพี่ฮิมชานไป ในขณะที่ผมกับพี่ฮิมชานยังคงมองตากัน แต่ผมพยายามมองยังไงก็มองไม่ออกว่าพี่ฮิมชานจะสื่ออะไรกันแน่ แต่แววตานั้นแลดูเศร้าแปลกๆ

     

     

    “แดฮยอนโกรธพี่หรอ”

     

     

    “ผมแค่ถามว่าพี่ทำกับผมแบบนี้ทำไม!!

     

     

    ผมขึ้นเสียงใส่พี่ฮิมชาน เพราะผมคิดว่าพี่ฮิมชานไม่ควรทำกับผมแบบนี้ เพราะพี่เขาก็มีจูเนียลอยู่แล้ว แล้วจะมาจูบเขาเพื่ออะไร ตัวแทนในช่วงที่จูเนียลไม่อยู่งั้นหรอ?

     

     

    “พี่ขอโทษ เพียงแต่พี่มีเรื่องจะสารภาพ”

     

     

    “เรื่องอะไร?”

     

     

    ตอนนี้ผมงงมาก ผมไม่เข้าใจ พี่ฮิมชานมีอะไรต้องขอโทษผม เขาทำอะไรผิด ตอนนี้ทั้งผมและพี่ฮิมชาน ต่างนั่งชันเขาและมองตรงไปข้างหน้าแต่เหมือนเป็นสายตาที่เหมือนไม่ได้มองอะไรเลย มันดูว่างเปล่า ส่วนผมก็ได้แต่เฝ้ารอในสิ่งที่พี่เขากำลังจะพูด

     

     

    “ความจริงพี่ไม่ได้รักจูเนียลหรอกนะ”

     

     

    “หมายความว่าไง”

     

     

    ผมรู้สึกงงไปหมด ที่อยู่ๆพี่ฮิมชานก็มาบอกกับผมว่าพี่เขาไม่ได้รักจูเนียล และจะคบกันไปเพื่ออะไร ในหัวของผมมีแต่เรื่องไม่เข้าใจและสงสัยเต็มไปหมด ผู้ชายคนนี้เป็นคนแรกที่ทำให้ผมงงและสงสัยได้มากขนาดนี้

     

     

    “พี่ก็ไม่รู้เหมือนกัน พักหลังมานี้พี่รู้สึกแปลกๆกับแดฮยอน เป็นมานานแล้วล่ะนะ ความจริงพี่รู้เรื่องมาตลอดที่แดฮยอนคอยแอบตาม แอบมองพี่ทุกวันๆ ไม่ใช่พี่ไม่รู้สึกตัว แต่พี่แค่แกล้งทำเป็นไม่รู้เท่านั้น”

     

     

    “เอ๊ะ!

     

     

    ผมอุทานขึ้นมาด้วยความตกใจ ผมหันไปมองอีกฝ่าย แต่อีกฝ่ายก็ไม่ได้หันมามองผมเลย แต่สายตาของเขานั้นยังมองตรงไปข้างหน้าอย่างไร้จุดหมายเหมือนเคย จนอีกฝ่ายเอ่ยปากเพื่อที่จะพูดต่อ

     

     

    “พี่รู้สึกแปลกๆตั้งแต่วันที่พี่ได้เจอแดฮยอนครั้งแรก พี่เองก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน ว่าทำไมรู้สึกแปลกๆกับเด็กคนนี้ ทำไมใจถึงเต้นแรง ทำไมรู้สึกต้องการอีกฝ่าย จนพี่คิดว่าพี่เป็นโรคประหลาดจนต้องไปหาหมอจิตแพทย์ เขาบอกว่าพี่เป็นโรคที่ไม่เข้าใจหัวใจตัวเอง จนตอนนี้พี่ก็ไม่ค่อยแน่ใจ จนวันนั้นพี่ได้ขอแลกเบอร์กับแดฮยอน พี่อยากจะโทรไป แต่ใจก็ไม่กล้าพอ

     

     

    พี่ฮิมชานหยุดพูดไปนิดนึง ก่อนที่จะเริ่มพูดต่อ และการแลกเบอร์ในครั้งนั้นมีสิ่งที่เหมือนกันระหว่างผมกับพี่ฮิมชานก็คือ มีเบอร์แต่ไม่กล้าโทรนั่นเอง

     

     

    “และหลังจากวันรับน้องได้ผ่านไป พี่เริ่มรู้สึกเหมือนมีคนคอยเดินตาม คอยเฝ้ามองพี่ตลอด ตอนแรกพี่แอบกลัว คิดว่ามีผีตามติด แต่ที่ไหนได้ กลับเป็นสโตรกเกอร์ที่ชื่อแดฮยอนนั่นเอง

     

     

    “เอ่อ แหะแหะ” ผมถึงกับพูดไม่ออก จึงได้แต่นั่งเงียบฟังต่อไป

     

     

    “พี่รู้สึกตัวตลอดเวลาที่มีแดฮยอนคอยตามพี่ ไม่ว่าจะเป็นตอนเช้าที่แดฮยอนทำเนียนมานั่นอ่านหนังสือหน้าประตู หรือจะเป็นการเดินตามพี่ในสถานที่ต่างๆ แม้กระทั่งเข้าห้องน้ำ คอยเดินตามพี่ไปที่อาคารเรียน แม้เราจะเรียนกันอยู่คนละอาคาร และตอนพักนายก็จะมาแอบมองพี่อยู่หลังต้นไม้ที่ยงกุกมันไปเจอแดฮยอนวันนั้น และก่อนกลับบ้านนายจะกลับบ้านทีหลังพี่ทุกวัน

     

     

    “แต่อยู่ๆพี่ก็รู้สึกดีใจแปลกๆ ที่ได้มีแดฮยอนเป็นน้องรหัส พี่รู้สึกไม่กล้าสู้หน้าแม้อยากจะคุยด้วยมากแค่ไหน แต่พี่ก็ไม่กล้า ได้แต่แอบมองแดฮยอนห่างๆอยู่เหมือนกัน จนรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นสโตรกเกอร์ของแดฮยอนไปแล้ว”

     

     

    “และวันนั้นที่นายเป็นลมล้มไปในวันที่ยงกุกเจอแดฮยอนที่ต้นไม้นั่น และพี่เดินหานาย พี่เป็นห่วงแดฮยอนมากเลยนะรู้ไหม พี่อยากอยู่ดูแลแดฮยอน แต่พี่ต้องไปรับแม่ที่สนามบินวันนั้น เลยฝากยงกุกให้ดูแลแทน และหลังจากนั้นก็ดูเหมือนนายจะสนิทกับยงกุกมากขึ้น ฉันไม่รู้ว่าในฐานะอะไร แต่ฉันก็อิจฉายงกุกมันนะ ที่ได้อยู่ใกล้นาย

     

     

                    “เอ่อ ไม่ใช่นะครับ ผมกับไอ้บ้ายงกุกนั่นเราไม่ได้เป็นอะไรกันเลยนะครับ เขาแค่มาอยู่เป็นเพื่อนผม เพราะผมไม่มีเพื่อน อาจจะเป็นเพราะลุคของผมที่ใส่แว่นราวกับเด็กเนิร์ดล่ะมั้ง แถมเป็นเด็กเซอร์ๆ ไม่มีอะไรดี หน้าตาก็แย่หาดีไม่ได้ เลยทำให้ไม่มีใครอยากเข้าหา”

     

     

    ผมพูดอย่างน้อยใจในตัวเอง ที่เกิดมาไม่ได้มีหน้าตาดีเหมือนคนอื่น แถมเป็นเด็กแว่นเซอร์ๆ ไม่ได้ร่ำรวย ไม่มีอะไรดี เลยไม่มีใครอยากจะเข้าหาสักเท่าไหร่ และเพราะตัวผมเองที่มัวแต่เอาเวลาไปสนใจพี่ฮิมชานจนไม่ได้สนใจผู้คนรอบข้างเลย

     

     

    “ไม่หรอกนะ ใบหน้าของนายไม่ได้แย่เลย เพียงแต่มีแว่นนี่ปิดบังหน้าตาที่แท้จริงของนายเอาไว้”

     

     

    พี่ฮิมชานไม่พูดเปล่า แต่กลับหันมาหาผม พร้อมทั้งโน้มตัวของเขามาหาผม จนใบหน้าของเราแทบชิดกัน ก่อนที่พี่ฮิมชานจะเอื้อมมือมาถอดแว่นของผมออก แล้วนำมันไปใส่เสียเอง

     

     

    “พี่ใส่แล้วดูทุเรศใช่ไหม?”

     

     

    ผมหันไปมองอีกฝ่ายที่ตอนนี้กำลังใส่แว่นของผมอยู่ แต่ผมว่ามันไม่ได้ทุเรศอย่างที่พี่เขาว่าเลย ออกจะดูดี เข้ากับรูปหน้าของพี่เขา และทรงผมที่เซ็ตตั้งขึ้นของพี่ นั่นทำให้เห็นได้ชัดและดูดีมากจริงๆ ยามที่พี่ฮิมชานได้ใส่มัน

     

     

    “ไม่เลยครับ ดูดีมาก มากที่สุดเลยล่ะ”ผมตอบกลับอีกฝ่ายไปจากใจจริง

     

     

    “เห็นไหมล่ะ? จะมีใครสักกี่คนที่จะรู้ตัวเองว่าไม่ได้แย่อย่างที่คิด ทั้งๆที่เป็นแว่นอันเดียวกันแท้ๆ แต่นายใส่แล้วบอกว่าเพราะนายมีแว่นเลยทุเรศ แต่พอมาอยู่ที่ฉันนายกลับบอกว่าดูดี เพราะนายอคติกับสิ่งที่ฟ้าประทานนายมาไงล่ะ”

     

     

    “เอ่อคือ

     

    พี่ฮิมชานพูดออกมาแบบนั้นจนผมไปไม่เป็นจริงๆ แต่ก็อย่างที่พี่เขาว่า แว่นอันเดียวกันแท้ๆ แต่ทำไมพี่ฮิมชานถึงใส่แล้วดูดีได้ขนาดนี้ อาจจะเป็นอย่างที่พี่ฮิมชานว่าก็ได้ ผมอคติกับตัวเองมากเกินไป

     

     

    “นี่แต่ใช่ว่าพี่ไม่เจ็บนะ เรื่องวันนั้นน่ะ”

     

     

    “เอ๋?”

     

     

    อารมณ์ไหนของเขากัน ผมตามไม่ทันจริงๆ และเขาก็ได้ทำให้ผมสงสัยขึ้นมาอีกจนได้

     

     

    “ก็วันไหนไง พี่เห็นนะ วันนั้นที่ยงกุกจูบนาย ที่นี่ พี่เห็นนายร้องไห้ นั่นใช่เพราะจูเนียลหรือเปล่า?”

     

     

    “เอ่อคือ”ผมได้แต่อ้ำๆอึ้งๆไม่กล้าพูดออกไป

     

     

    “บอกมาเถอะนะ”

     

     

    “ครับ ผมเจ็บ เจ็บที่หัวใจ เจ็บมากตอนที่ได้รู้ว่าจูเนียลคือแฟนของพี่ ผมเสียใจมาก และบอกกับตัวเองไว้ว่าผมจะต้องลืมพี่ให้ได้ ไม่ว่าด้วยวิธีไหนก็ตาม ผมคิดในใจหลังจากนั้น ว่าถ้าผมไม่รู้ตักพี่ตั้งแต่แรกก็คงดี จะได้ไม่ต้องรักและเจ็บปวดมากขนาดนี้ และในขณะที่ผมไม่ได้ไปเจอพี่ ทำให้ใจของผมเริ่มรู้สึกดีขึ้นมาบ้าง แม้มันจะแค่น้อยนิด แต่พี่ก็ได้ทำลายความพยายามของผมไปหมดสิ้น

     

     

    “แดฮยอนพี่ขอได้ไหม? อย่าพยายามทำเป็นลืมพี่ พี่ขอโทษ แต่ที่พี่ทำลงไป เพราะพี่ไม่เชื่อตัวเอง ว่าพี่จะชอบนาย พี่ไม่เชื่อตัวเอง ว่าพี่จะเป็น เกย์พี่เลยตกลงคบกับจูเนียล แต่พี่ไม่ได้รักจูเนียลเลย พี่เฝ้าแต่มองหาหลายตลอดหลังจากนั้น แต่ก็ไปพบ พี่รู้สึกโหยหาและต้องการนาย พี่ขอโทษที่พี่ทำแบบนั้น จนทำให้นายเจ็บ พี่ไม่ได้ตั้งใจ แต่ตอนนี้พี่รู้ใจตัวเองแล้วว่า

     

     

    พี่รักแดฮยอน

     

     

    คำพูดของพี่ฮิมชานนั้น ได้ทำให้น้ำตาของผมที่พยายามกลั้นมานานได้รินไหลลงมาจากดวงตาของผม ผมไม่เข้าใจความรู้สึกตัวเองตอนนี้เลย ว่าในส่วนลึกของจิตใจของผมนั้นอยากลืมพี่ฮิมชานจริงๆหรือเปล่า และทำใจได้แล้วจริงๆหรือเปล่า แต่ตอนนี้ผมไม่ต้องการคำตอบนั้นอีกแล้ว เพราะผมก็รู้ใจตัวเองแล้วเหมือนกัน ว่าผมไม่มีทางลืมพี่ฮิมชานได้เลยจริงๆ ผมรักพี่ฮิมชาน รักมากจนยากที่จะถอนตัวไปแล้ว

     

     

    “ผมก็รักพี่ รักพี่มาตลอดพี่ฮิมชาน….






     




     


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×