โครงการแข่งขันประกวดเรียงความ ครั้งที่2

ลำดับตอนที่ #21 : นางสาว ฮุสนา โลดโพธิ์ศรี

เรียงความเรื่อง…พระมหากษัตริย์ไทยรัชกาลที่ ๙

               “เราจะครองแผ่นดินโดยธรรม  เพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยาม”

ประโยคข้างต้นคือ พระปฐมบรมราชโองการ ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว  พระมหากษัตริย์ไทยรัชกาลที่ ๙ ซึ่งพระองค์ได้ทรงตรัสไว้ในวันที่ ๕ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๔๙๓ ซึ่งเป็นวันพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ซึ่งนับว่าเป็นพระราชปณิธาน อันแน่วแน่ เพราะพระองค์ได้ทรงปฏิบัติอย่างสม่ำเสมอ นับแต่นั้นมา

              ข้าพเจ้าในฐานะที่เป็นพสกนิกรคนหนึ่งในชาติไทย ซึ่งได้อยู่ใต้ร่มพระบารมีของพระมหากษัตริย์ไทยรัชกาลที่ ๙ ข้าพเจ้าทราบดีถึง ความรัก ความห่วงใย ของพระองค์ที่มีต่อพสกนิกรชาวไทยทุกคน เพราะ นับตั้งแต่ข้าพเจ้าเกิดมา และเติบโต พอที่จะจำความได้ ไม่ว่าข้าพเจ้าจะอยู่ในสถานที่ใด ในบ้าน สถานที่ราชกาล หรือแม้ตามเกาะกลางถนน ข้าพเจ้าก็จะเจอกับพระฉายาลักษณ์ของพระองค์ ซึ่งตอนเด็กข้าพเจ้าก็ไม่รู้หรอกว่า พระองค์คือใคร และยังเคยคิดว่าทำไม ไม่ว่าจะไปที่ไหน ถึงมีแต่รูปของผู้ชายคนนั้น ไม่ว่าจะในทีวี ในปฏิทินหรือสถานที่อื่นๆ และหลายๆรูปผู้ชายคนนั้น ก็อยู่ในสถานที่ที่กันดาร เช่น ในป่าไม้ บนภูเขา และข้าพเจ้าก็ได้รู้ว่าที่เป็นเช่นนั้น ก็เพราะพระองค์ทรงคิดหาแนวทางพัฒนาประเทศในด้านต่างๆ ทั้งทรัพยากรธรรมชาติและคุณภาพชีวิตของพสกนิกรชาวไทยทุกคน นับตั้งแต่พระองค์ขึ้นครองราชย์ พระองค์ทรงงานหนักอย่างต่อเนื่อง และพระมหากษัตริย์ไทยรัชกาลที่ ๙ นี้ ก็เป็นกษัตริย์พระองค์แรกที่เสด็จพระราชดำเนินไปเยี่ยมเยียน ราษฎรทั่วทุกๆภูมิภาค แม้ในท้องถิ่นทุรกันดาร พระองค์ได้ทอดพระเนตรสิ่งต่างๆมากมาย ทั้งสภาพบ้านเมืองและความเป็นอยู่ของราษฎร พระองค์เลยคิดหาทางแก้ไขปัญหาต่างๆ จึงเป็นที่มาของโครงการพระราชดำริ ตั้งแต่พุทธศักราช ๒๔๙๕ จนถึงปัจจุบัน มีมากกว่า ๔,๐๐๐ โครงการ พระองค์นั้นทรงให้ความสำคัญกับการพัฒนาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ไม่ว่าจะเป็นแหล่งน้ำ ดิน ป่าไม้ เพื่อให้เรานั้นได้ใช้ทรัพยากรที่มีอยู่อย่างคุ้มค่า และรักษาทรัพยากรเหล่านี้ไปพร้อมๆกัน ตลอดระยะเวลา ๗๐ ปีที่พระองค์ขึ้นครองราชย์  พระองค์ไม่เคยที่จะหยุดแก้ไขและพัฒนาประเทศ เหตุผลอะไร ก็คงเป็นเพรพระองค์ทรงรัก ทรงห่วงใยราษฎรของพระองค์ ให้พสกนิกรไทยทุกคน ได้อยู่กินอย่างมีความสุข แม้จะต้องแลกกับความเหนื่อยล้าของพระองค์ก็ตาม พระองค์นั้นเป็นนั้นทั้งพ่อของลูก เป็นทั้งครูของศิษย์ ที่ทรงสอนลูกๆของพระองค์ในทุกๆด้าน แม้กระทั่งการดำเนินชีวิตบนเส้นทางที่เรียบง่าย ประหยัด อดออม ไม่ฟุ่มเฟือย โดยให้เรานั้นยึดหลักเศรษฐกิจพอเพียง เป็นแนวทางในการดำเนินชีวิต และอีกแนวทางหนึ่งก็คือ ทางสายธรรม พระองค์ทรงสอนลูกๆของพระองค์เสมอว่า ให้มีความซื่อสัตย์ มีความเมตตาต่อเพื่อนมนุษย์และสัตว์ เพราะพระองค์เองก็ทรงยึดมั่นในหลักธรรมของศาสนาอย่างเคร่งครัด และทั้งหมดที่กล่าวมานั้น คือคุณลักษณะและพระปรีชาสามารถของพระมหากษัตริย์ไทยรัชกาลที่ ๙ ซึ่งนับว่าเป็นความโชคดีของคนไทยทุกคน ที่ได้เกิดมาบนผืนแผ่นดินไทย และในวันนี้สิ่งที่เราทุกคนควรคิดก็คือ ในหลวงไทยรัชกาลที่ ๙ ได้สร้างคุณประโยชน์มากมายให้แก่ลูกๆและผืนแผ่นดินไทยแห่งนี้ แล้วเราทุกคนละ เราได้ทำอะไรให้แก่พระเทศชาติของเราบ้าง เพื่อให้พ่อหลวงของเราพึงพอพระราชหฤทัย ถึงแม้จะเป็นเพียงสิ่งเล็กๆ น้อยๆก็ตาม และเราได้นำคำสอนของพ่อหลวงมาใช้ในชีวิตประจำวันอย่างไรบ้าง คนอื่นๆจะเป็นอย่างไร ข้าพเจ้าไม่ทราบ แต่ข้าพเจ้าได้นำคำสอนของพระองค์ และได้นำแนวทางต่างๆมาใช้ในชีวิตประจำวันของตัวข้าพเจ้าเอง เช่น การออมเงิน การปลูกผักสวนครัว เพื่อลดค่าใช้จ่ายในครอบครัว ซึ่งได้ทำให้ครอบครัวของข้าพเจ้า อยู่กินอย่างเป็นสุข  เพราะคำสอนของพระองค์ และข้าพเจ้าในฐานะที่เป็นพสกนิกรของพระองค์ ข้าพเจ้าขอสัญญาว่า จะนำคำสอนและแนวทางของพระองค์ ไปเผยแพร่และสอนให้กับชนรุ่นหลังที่กำลังเติบโต ถึงแนวทางการดำเนินชีวิตที่พระองค์ทรงตรัสไว้ เพื่อให้พวกเขาทั้งหมดได้มีโอกาสเดินตามรอยพระบาทของพระองค์

            และทุกๆถ้อยความที่ข้าพเจ้าได้กล่าวมานั้น เป็นเพียงส่วนหนึ่งของพระราชกรณียกิจของพระมหากษัตริย์ไทยรัชกาลที่ ๙ แต่ที่เป็นที่ทราบกันดีก็คือ พระองค์นั้นทรงพระปรีชาสามารถยิ่งไม่ว่าจะเป็นในผืนน้ำดังโครงการแก้มลิง บนผืนฟ้าดังโครงการฝนหลวง และบนผืนแผ่นดิน ดังโครงการเศรษฐกิจพอเพียง และในวันนี้ถึงแม้ว่าพ่อหลวงจะทรงจากลูกๆ ของพระองค์ไปแล้ว แต่ข้าพเจ้าเชื่อและมั่นใจเป็นอย่างยิ่งว่า พสกนิกรชาวไทยทุกคนไม่เคยคิดว่า พระองค์ได้ทรงจากพวกเราไปไหน เพราะพระองค์ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช พระมหากษัตริย์ไทยรัชกาลที่ ๙ ได้ สถิตไว้ในใจของพสกนิกรไทยทุกๆคน และรวมถึงตัวข้าพเจ้าอย่างไม่มีวันเลือนหายไป

                   “ ขอพระองค์ทรงเสด็จสู่สวรรคาลัย พระมหากษัตริย์ไทยรัชกาลที่

นางสาว ฮุสนา โลดโพธิ์ศรี

ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๔

โรงเรียนเอกภาพศาสนวิชญ์

 74 / 11 ม.2 ต.ทรายขาว อ.คลองท่อม จังหวัดกระบี่ 81170