ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Disney Lend! เปิดตำนานเจ้าหญิงพันธุ์ใหม่!

    ลำดับตอนที่ #2 : - บทเริ่มต้นเล็กๆ -

    • อัปเดตล่าสุด 17 เม.ย. 54


     
    โลกปัจจุบัน
    เอาล่ะ ไม่ต้องมากความ ผมชื่อ ราสเช่ เดอกูนริฟโซ่หนุ่มหล่อดีกรีนักเรียนนอก พ่อรวยแม่สวยบ้านใหญ่ สาวติดโรงเรียนใหญ่ ใช่แล้ว ...
    ทั้งหมดที่พูดมาข้างต้นผมโกหก ไม่สิ ต้องบอกว่าอำเล่นๆหรอกน่า ก็ผมไม่มีอะไรทำนี่ จริงๆแล้วผมชื่ออะไรผมก็ไม่รู้ เพราะผมลูกกำพร้า เรียนโรงเรียนรัฐ หน้าตาห่วยแตกถึงขั้นห่วยแตกมากอย่างมากที่สุด บ้านจนไม่มีอันจะกินต้องไปโกงเขาคนมา อยู่ชนบทนี่ล่ะ ผมรู้ๆ มันไม่น่าติดตามเรื่องราวของผมเลยใช่ไหมล่ะ ใช่ คิดอย่างนั้นเถอะ มันไม่น่าติดตามจริงๆ
    อาฮะ ขออีกครั้ง ที่พูดมาข้างต้นผมก็โกหกอีก ก็จะทำไมอีกล่ะ ผมว่างนี่! ความจริงก็คือ ผมเป็นลูกเลี้ยงที่ถูกใช้ถูกซ้อมเยี่ยงทาส ใช่สิ ผมถูกเก็บมาจากถังขยะ คนที่เลี้ยงผมมี ตาแก่ ยาแก่ และไอ้เด็กแก่แดด ผมอยู่บ้านธรรมดาๆ ไม่ได้เรียนหนังสือ มีหน้าที่รับใช้คนอื่นไปก็เท่านั้นล่ะ
    ฮ่าๆๆๆ ผมโกหกอีกนั่นล่ะ อย่ามองผมอย่างนั้นสิ ล้อเล่นๆ ผมไม่ได้โกหก สามเรื่องที่ผมโกหกมานี่มีเรื่องจริงอยู่เรื่องหนึ่ง คิดเอาเองละกันว่าคนอย่างผมจะเกิดในชาติตระกูลแบบไหน อา สุขใจจริงๆโกหกคนอื่น...
    “เฮ้อ เชื่อเลย หน้าร้อนเฮฮา”ผมนอนเล่นบนพื้นห้องอย่างเซ็งๆ ไม่มีอะไรให้ผมทำเลยให้ตายสิ ร้อนก็ร้อน ว่างก็ว่าง
    ผัวะ!
    “แอ้ก!”บางสิ่งตกกระทบหัวผมอย่างแรง ล้อเล่น มันตกใส่หัวผมเบาๆหรอกน่า ผมลูบหัวตัวเองเบาๆก่อนจะมองสิ่งที่ตกอยู่ข้างๆตัวเอง
    “อะไรวะ เจ้าหญิงหนีหนี้หือ รันทดจริงๆต้องคอยหนีหนี้”ผมพูดอย่างเซ็งๆ รู้สึกว่าเจ้าหญิงพวกนี้หน้าตาคุ้นๆอย่างบอกไม่ถูก
    “บ้าสิราส เจ้าหญิงดิสนีย์ ต่างหาก”
    “เรอะ ก็พอๆกัน หาววว”ผมพูดอย่างเบื่อๆพลางเปิดหนังสือหลอกเด็กไปมาอย่างไม่ใส่ใจโดยคนที่ปาหนังสือใส่ผมตอนแรกเดินเข้ามาหาพร้อมกับนั่งลงข้างๆผม
    “ไปขี่ควายด้วยกันไหม”คนมาใหม่ชวนผม ผมส่ายหน้าอย่างเบื่อๆ ให้ผมล่อควายไปขวิดไอ้หมอนี่อีกน่ะเหรอ ไม่ล่ะ เที่ยวที่แล้วผมหัวเราะจนแทบขาดใจ แถมยังลื่นล้มไปกับโคลนอีกต่างหาก
    “แดดร้อนจะตายไป เผื่อแกเป็นลมอีก ฉันขี้เกียจแบก อ๋อ แล้วก็แกมีปัญญาซื้อหนังสือเล่มหนาดูมีชาติตระกูลแบบนี้ด้วยงั้นเรอะ”ผมถามอย่างไม่รักษาน้ำใจ เพราะนิสัยแบบนี้ของผมนี่ล่ะถึงได้ไม่มีคนคบผมสักที มีแต่ไอ้หน้าหวานนิสัยประหลาดนี่ล่ะที่ทนคบกับผมมาได้
    “เก็บได้น่ะ ให้นายอ่านเล่น เพราะว่าฉันจะไม่อยู่นะช่วงนี้”
    “ทำไม แกจะไปไหน”ผมเงยหน้าถามเป็นครั้งแรก ทำให้มองเห็นใบหน้าผู้สนทนาอย่างชัดเจน ...ชิน ไอ้เพื่อนหน้าหวานดูมีสกุล แต่ตัวจริงมันก็ถ่อยพอๆกับผมนั่นล่ะ หมายถึงการอยู่ของมันที่ติดดินแถมยังประหลาด
    “ไปเที่ยวที่ที่สวยมากๆที่หนึ่ง”
    “เฮอะ ไอ้ทิ้งเพื่อน ไปเลยไป อย่าลืมเอาของฝากที่มีราคามาด้วยล่ะ”ผมพูดอย่างไม่ใส่ใจพลางเปิดสมุดดูอย่างเบื่อๆ เจ้าหญิงพบรักเจาชาย บลาๆ จบสวยงามเหมือนเดิมนั่นล่ะ วู้ อะไรมันจะงดงามปานนี้ นี่ถ้าชีวิตผมเข้าวังแล้วสบายอย่างในนิทานพวกนี้นะ
    ผมคงไม่ต้องมานั่งไถนาทั้งวันทั้งคืนหรอกน่า!
    “อา เข้าใจแล้ว ของที่ฉันให้นายต้องชอบมันมากแน่ๆ”ไอ้ชินบอกผมพร้อมกับยิ้มอย่างมีเลศนัย ผมหรี่ตามองมัน เราจ้องหน้ากันอยู่นานจนกระทั่ง
    โครม!
    “ฮ่า สมน้ำหน้าไอ้ตุ๊ด เอาล่ะ แกจะไปไหนก็ตามใจ ฉันจะฆ่าเวลา”ผมถีบมันไปทีหนึ่งก่อนจะเปิดนิทานหลอกเด็กอ่านแก้เซ็งโดยไม่สนใจคนที่กลิ้งล้มลงไปกับพื้นดิน
    “โอ๊ย นายมันนิสัยไม่ดี คอยดูนะ ฉันจะทำให้นายอ่อนหวานกว่านี้ให้ได้”ชินปาดน้ำตาด้วยความเจ็บก่อนจะลั่นวาจาที่ทำให้ผมทำหน้าช็อกสุดขีดขึ้นมา
    “อะ ไอ้ประสาท แกจะให้ฉันอ่อนหวาน? ...ฮ่าๆๆๆๆ!”ผมหัวเราะลั่นอย่างขาดใจทันที ให้นักเลงประจำถิ่นอย่างผมอ่อนหวานเนี่ยนะ ...เอาขี้ป้ายหน้าแล้วให้ผมยิงเป้ายังง่ายกว่าเลย!
    “ฮึ้ย เคยดูเถอะน่าราส ไม่มีอะไรที่ฉันทำไม่ได้ ...เอาเป็นว่าฉันไปก่อนนะ แล้วค่อยเจอกัน”
    “เชิญเถอะชินี่จัง อย่าลืมของฝากราคาแพงนะโว้ย!”ผมโบกมือไล่มันแบบส่งๆโดยไม่ลืมทวงของที่ควรจะได้ ชินที่โดนผมเปลี่ยนชื่อให้อย่างลวกๆยิ้มพร้อมกับพยักหน้ารับเบาๆก่อนจะเดินจากไป
    การจากลาของพวกผมง่ายดายใช่ไหมล่ะ ก็นั่นล่ะ ผมไม่ค่อยอยากจะใส่ใจใครต่อใครนัก ส่วนไอ้ชินเองมันก็ไม่ชอบการยึดติด ดังนั้นในส่วนนี้พวกผมจึงเข้ากันได้ดีมาก
    เข้ากันได้ดียังไงน่ะเหรอ ...เอาล่ะ ผมจะเล่าให้ฟังละกันทำไมพวกเราเข้ากันได้
    มีครั้งหนึ่งผมโดนพวกวัยรุ่นต่างถิ่นเข้ามาหาเรื่อง พวกมันมีจำนวนมากจนผมไม่สามารถรับมือไหวจึงต้องหนีหัวซุกหัวซุน จนกระทั่งมาเจอไอ้ชินนี่ล่ะ ผมเลยจัดการโยนมันไปกลางฝูงวัยรุ่นที่ตามล่าผมให้พวกมันอัดไอ้ชินจนหนำใจแล้วจากไป รู้ไหมครับว่า ไอ้ชินต้องเข้าโรงบาล เป็นเดือนๆ แต่มันกลับไปโกรธผมแม้แต่น้อย ตอนแรกผมเองก็งงเล็กน้อย มันจึงบอกกับผมว่า
    ฉันไม่อยากจะยึดติดกับความโกรธ มันทำให้จิตใจแย่ซะเปล่าๆนั่นล่ะ พอได้ยินประโยคนั้นผมเลยทิ้งมีดที่กะจะเอามาปิดปากมัน(ชั่วได้ใจ) แถมเพราะผมมีนิสัยไม่ชอบการใส่ใจอะไร ผมเลยไม่เคยไปดูแลมันเพราะรู้สึกผิด(ชั่วได้อีก) และมันเองก็บอกผมว่า
    ฉันไม่ชอบการยึดติด ดังนั้นการที่นายไม่มายึดติดกับฉันเพราะรู้สึกผิดทำให้ฉันสบายตัวมากตั้งแต่นั้นมา เวลามีเรื่องผมจะโยนมันเข้าไปในฝูงศัตรู ใช้เป็นตัวประกัน ใช้เป็นโล่กันมีดกันกระสุน ใช้เป็นตัวเจรจา ใช้เป็นตัวถ่วงเวลา สารพัดจะใช้ และมันเองก็ไม่เคยยึดติดกับความรู้สึกโกรธ ดังนั้นก็สบายผมล่ะ(ชั่วเกินชั่ว)
    เห็นไหมว่าพวกผมเป็นเพื่อนสนิทที่เข้ากันได้ดี
    “ซินเดอรากหญ้ากับรองเท้ามันแกว ...กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีผู้หญิงคนหนึ่งชีวิตโคตรรันทด สุดท้ายเธอได้เจอกับเจ้าชายผู้หล่อเหลา เจ้าชายเจอเธอปุ๊ป ป๊าด! หลงรักปั๊ป! เลยพาเธอเข้าวังอยู่กันอย่างมีความสุขชั่วนิรันดร จบ!”ผมไม่จำเป็นต้องอ่านด้วยซ้ำไป ยังไงก็รู้ๆเนื้อเรื่องกันอยู่แล้ว อีกอย่างนะ ...ผมอ่านหนังสือไม่ออก
    “เฮอะ นิยายลวงโลก ของแบบนี้ถ้ามีอยู่จริงโลกคงสดใสไปนานแล้ว ฉันคงไม่ต้องมาไถควายอย่างนี้หรอก! แน่จริงก็ให้ฉันเป็นเจ้าชายสิ”ผมบ่นอย่างหัวเสียก่อนจะโยนหนังสือทิ้ง ...แล้วตัดสินใจเก็บกลับมา เผื่อว่าจะเอาไปขายต่อ
    “เฮ้ย อะไรวะ”ผมร้องอย่างตกใจเมื่ออยู่ๆแสงสว่างก็ส่องวาบจากหนังสือนิทาน ..ผมเบิกตากว้างทันที ฝันของผมกำลังจะเป็นจริงแล้วใช่ไหม..!?
    งานนี้ขายได้ราคาดีแหงๆมีแสงออกมาแบบนี้ ผมจะได้เอาเงินไปแทงบอลแล้ว!
    ฟุ่บ!
    “แย้กกกก! อะ...”ไม่ทันที่ผมจะได้โวยวายอะไรไปมากกว่านี้ หนังสือก็ดูดตัวผมเข้าไปจนหมด ก่อนที่มันจะตกลงสู่พื้นแล้วค่อยๆเลือนหายไปเช่นเดียวกับสติของผม
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×