ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Lucifer of Hell ผู้คุมกฏในห้องเอกสาร

    ลำดับตอนที่ #1 : วิญญาณดวงที่ 1 ข้าคือ ผู้คุมกฎอันหล่อเหลา(ที่ถูกลืม)

    • อัปเดตล่าสุด 3 พ.ค. 54


    คนตาย เมื่อตายไปแล้วก็ต้องลงไปสู่ยมโลก ผู้ที่มีหน้าที่นำดวงวิญญาณเหล่านั้นไปคือยมทูต ซึ่งแต่งกายสีดำสนิท รูปลักษณ์ภายนอกเป็นกระดูกคนตายสีขาว ถือเคียวแหลมสีเงินสะท้อนแสง ด้ามสีดำหรือแดงคอยกวัดแกว่งพร่าดวงวิญญาณออกจากร่าง นำไปให้แก่เจ้าหน้าที่ผู้ครอบครองสมุดเล่มแดงใหญ่คอยอ่านประวัติความดีชั่วของดวงวิญญาณและนำไปให้แก่ผู้ลงทัณฑ์หรือทูตสวรรค์ ส่วนผู้ที่คอยบัญชาทุกอย่างและมีตำแหน่งสูงสุดนั้นคือ...เจ้าพญายม
    ผัวะ!
    “เจ้าพญายมงั้นเรอะ! กล้าดียังไงบอกว่าไอ้ตำแหน่งงี่เง่านั่นสูงที่สุดน่ะ! ตำแหน่งของข้าต่างหากล่ะที่ใหญ่ที่สุด!”สมุดเล่มหนาสีแดงที่ไอ้เด็กเวรคนหนึ่งเอามาฝากข้าถูกขว้างทิ้งไปด้วยความโมโหก่อนที่ข้าจะโวยวายลั่นด้วยความไม่พอใจ
    มันช่างน่าเจ็บใจที่พวกมนุษย์หน้าโง่หรือคนอื่นๆมองไม่เห็นเงาหัวของตำแหน่งของข้า! ตำแหน่งข้ามันยิ่งใหญ่เพียงใดรู้ไหม! ถ้าขาดข้าไปสักคนแดนยมโลกถึงคราววิบัติแน่ๆแต่กลับไม่มีใครสนใจตำแหน่งของข้าสักคน!
    ...สักคน!
    “ว้อย”ข้าค่อยๆว่ายขึ้นมาจากกองเอกสารที่กองไปทั่วห้อง ข้าพูดจริงๆ ... แกองไปทั่วห้องจนข้าว่ายไปมาได้สบายเลยทีเดียว ข้าไม่ได้ดองงานนะ! แต่มันมีมาตลอดเวลาเลยต่างหากล่ะ คอยดูสิ อีกสักพักด้วยสมองอันชาญฉลาดของข้ามันต้องมีมา...
    ปัง!
    “งานมาแล้วเฮีย!
    “หา!”ข้าพรวดขึ้นจากกองเอกสารทันทีพร้อมกับมองคนที่กระแทกเข้าประตูมายังห้องด้วยสายตาเหนื่อยอ่อน ซึ่งสิ่งที่ได้รับกลับมาคือเสียงตะโกนร้องลั่นด้วยความตกใจ
    “เหวอ! ผีเอกสาร!
    “เอกสารบ้านเจ้าเซ่! หมายความว่ายังไง!? เมื่อห้านาทีที่แล้วเจ้าบอกว่าเป็นเอกสารปึกสุดท้ายแล้วทำไม...”
    “อ๋อนั่น ...ผมพูดอย่างนั้นเรอะ”เจ้าเด็กเปตรตรงหน้าข้าทำหน้าตาใสซื่อใส่พร้อมกับถามเสียงใสแต่ข้ากลับได้ยินว่า ก็ผมก็แกล้งคนนี่หว่า...ใช่ ข้าได้ยินอย่างนั้น เจ้าเด็กเปตรนี่ต้องการพูดอย่างนี้แน่ๆ
    “ยมโลกจะล้นเพราะดวงวิญญาณอยู่แล้ว เมื่อไหร่ท่านจะทำงานเสร็จเสียทีนะ ดวงวิญญาณบางดวงอยู่ค้างที่ยมโลกมากว่าห้าร้อยปีแล้วนะครับ”เจ้าเด็กตรงหน้าข้ายังมีหน้ามาพูดราวกับข้าผิดเหลือแสน ฮ่า! ให้มันน้อยหน่อยเถอะ มีคนตายอยู่ทุกๆวัน และแต่ละวันมันน้อยเสียที่ไหนกัน หน้าที่ข้าก็แสนจะน่าเบื่อน่ารำคาญ ต้องมานั่งแยกว่าใครทำผิดถูกเพื่อจะเรียงไปให้ไอ้เจ้าหน้าที่ที่ครอบครองสมุดเล่มแดงนั่นอ่านเพื่อบอกว่าใครควรลงนรกหรือขึ้นสวรรค์
    คิดเซ่ว่าหน้าที่ข้ามันหนักหนาเพียงใด!
    “เจ้าลองมาเป็นข้าดูเซ่ไอ้เด็กเวร”ข้าตอบกลับเสียงต่ำ สภาพข้าไม่เคยได้อยู่ในสภาพดีเลยสักวันตั้งแต่ต้องมารับหน้าที่ห่วยแตกแบบนี้!
    “ไม่ล่ะครับ แค่หน้าที่ผมก็หนักหนาพอแล้ว”
    “ป่วนบ้านเมืองเนี่ยนะ!! ข้าล่ะอยากจะฆ่าเจ้าแล้วหาเจ้าชายรัชทายาทคนใหม่เสียจริงๆ!”ถ้าไม่ติดที่ว่าข้าจะหลับแหล่ไม่แหล่ล่ะก็ ข้าจะเหยียบกองเอกสารไปหยิบมีดแล้วขว้างไปปักหัวของไอ้เด็กตาแหววตรงหน้าข้าซะ!
    “อู้หู~ เล่นบอกตรงๆว่าอยากฆ่าผมก็เขินแย่เลย”
    ผัวะ!
    กองเอกสารที่เคยอยู่ในมือของผู้มาเยือนถูกขว้างมากระแทกหน้าข้าอย่างจังโดยมีต้นเหตุยืนอายม้วนยืนหน้าประตูราวกับไม่รู้เรื่องเอกสารบินได้กองนั้น
    “เฮือก”ข้าสูดหายใจเข้าอย่างหมดความอดทน อยากจะยืนขึ้นแล้วฆ่าไอ้เด็กที่หาเรื่องป่วนหัวมาให้ข้าทุกวันใจจะขาด แต่ความง่วงที่มีอยู่ทำให้ข้าฟุบหน้าลงกับกองเอกสารทั้งที่ยังมีเลือดกำเดาไหลออกจากจมูกทั้งอย่างนั้น....
    “อ้าว นอนแล้วเหรอ”ตัวต้นเหตุที่ทำให้ข้านอนหลับหมดสติถามด้วยความใสซื่อที่เสแสร้งอย่างแท้จริงก่อนอีกครู่หนึ่งจะแย้มยิ้มอย่างพึงพอใจออกมาแล้วค่อยๆปิดประตูไม้สีน้ำตาลเข้มอย่างข้าๆ
    แกล้งใครจะสนุกเท่าแกล้งผู้คุมกฎกันล่ะ ...จริงไหม
     
    “อ้ากกกก!!”ข้าร้องดังลั่นก่อนที่ตัวเองจะลืมตาเสียอีกแล้วพรวดขึ้นหลังจากได้นอนเต็มอิ่ม พอมองไปรอบๆก็เห็นว่าเป็นเวลากลางวันแล้ว แถมยัง ..ข้ารู้สึกว่าตัวเองจะ
    “หายใจไม่ออกโว้ย!”ข้าตะโกนลั่นก่อนจะพยายามลุกขึ้นแล้วเหยียบกองเอกสารสูงเท่าเข่าเพื่อเดินไปยังห้องน้ำ ทำไมข้าถึงหายใจไม่ค่อยออกกันนะ
    “ว้ากกก!”ข้าผงะถอยจากกระจกก่อนจะร้องลั่นด้วยความตกใจถึงขีดสุด ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าภาพที่สะท้อนจากกระจกจะเป็นข้าผู้หล่อเหลาคนนี้
    ข้าเป็นไอ้เพิ้งหัวฟูและหยิกราวกับไม่ได้สระมาเป็นเดือนๆ ใต้ตาคล้ำราวกับเอาขี้เถ้ามาป้าย ปากแห้งแตก ตัวผอมซูบคล้ายยมทูตที่เหลือแต่กระดูก ตัวเลอะไปด้วยน้ำหมึกแถมยังมีเลือดที่แห้งกรังเกาะไปทั่วใบหน้าและเสื้อผ้าของข้า
    ป๊าดดดด! นั่นไม่ใช่ข้า! ข้าเคยเป็นชายหนุ่มผู้หล่อเหลาจนสาวๆต้องเหลียวมองจนแทบจะจับข้าข่มขืน ไม่ว่าใครก็ต้องเคารพในหน้าที่และตำแหน่งของข้า ซ้ำตอนแรกไอ้เด็กเวรที่เอากองเอกสารฟาดหน้าข้าจนเลือดกำเดาไหลนั่นตอนแรกยังเคารพข้าด้วยซ้ำไป
    “ทำไม! ข้าไม่เข้าใจ ฮือ เอาข้าคนเก่ากลับมาเดี๋ยวนี้!!”ข้าเข้าไปทุบกระจกประหนึ่งมันเคยฆ่าพ่อข้าแล้วข้าจะฆ่าพ่อเจ้าก็ไม่ปาน
    ตั้งแต่มารับตำแหน่งผู้คุมกฎข้าก็แทบจะไม่ใช่ผู้ใช่คน(ข้าไม่ใช่วิญญาณนะ ข้าเป็น ..เอ่อ อะไรสักอย่างที่ยังมีชีวิตก็แล้วกัน!)ต้องตรากตรำทำงานทั้งวันทั้งคืนจนข้าลืมไปด้วยซ้ำว่าข้าอายุเท่าไหร่! แค่นี้ยังไม่พอ ตำแหน่งของข้าได้ชื่อว่าสูงกว่าไอ้พญายมมะยมแย้มอะไรนั่นด้วย! แต่กลับไม่มีใครรู้จักข้าหรือเคารพกันเลย มันช่างน่าอัปยศ!
    “อึก ..ข้าต้องการทาสรับใช้ทำงานแทนข้า ใช่แล้ว ..ใช่แล้ว”ข้าเดินเพ้อออกจากห้องน้ำโดยไม่คิดจะอาบน้ำแปรงฟันแม้แต่น้อย เพราะไหนๆข้าก็ไม่ได้อาบน้ำมาร่วมหลายร้อยปีแล้วนี่ ไม่อาบอีกสักวันจะเป็นไรไป...
    “พอจะมีไอ้หน้าโง่คนไหนมารับใช้ข้าบ้างนะ หึๆๆ”ข้าหัวเราะอย่างคนโรคจิต เข้ากับสภาพตัวเองยิ่งนักพลางเปิดประวัติวิญญาณดวงต่างๆดูเพื่อตรวจสอบว่าใครมันพอจะใช้งานได้บ้าง
    “เอ๊ะ”ข้าสะดุดกับวิญญาณดวงหนึ่งที่มีใบหน้าสะอาดเรียบร้อย ใส่แวนดำหนาหน้าตาดูภูมิฐานยิ่งนัก พอเห็นเช่นนี้แล้วข้าก็รีบไล่สายตาตรวจสอบประวัติเจ้าคนนี้ทันที
    ชื่อ        นายบะช่อ           เงินไหลมา
    อายุ      21 ปี
    สาเหตุการตาย    อ่านหนังสือโป๊ทังวันทั้งคืนจนขาดใจตาย
    ส่วนสูง ....
    ข้าเปิดหน้าอื่นทันทีเมื่อรู้สาเหตุการตาย เคยมีคนบอกข้าว่าคนเราจะดูกันที่หน้าตาคงไม่ได้ วันนี้ข้าเชื่ออย่างสนิทใจแล้ว ใช่แล้ว เห็นข้าสภาพเหมือนไอ้โรคจิตแบบนี้แต่จริงๆข้าก็หล่อเหลาไม่ใช่น้อยเลยนะเฟ้ย!
    พั่บๆๆๆ!
    ข้าพยายามเปิดอ่านประวัติของดวงวิญญาณอย่างเร่งรีบเพราะต้องการคนมาช่วยโดยด่วน ข้าจะได้ไปพักร้อนและวางแผนฆ่ารัชทายาทเสียที ข้าแค้นมันมานานแล้วไอ้เด็กมหาเวรนั่น ถ้าไม่ได้ฆ่ามันข้าคงตายตาไม่หลับ!
    “หือ”ข้าชะงักมือจากการเปิดประวัติดวงวิญญาณเมื่อเห็นรูปของเด็กหนุ่มคนหนึ่ง อืม ...ข้าไม่ค่อยได้เห็นคนที่ดูเด็กขนาดนี้ตายเท่าไหร่นัก ดูเป็นพวกว่าง่าย หัวอ่อนดีเหมือนกันแฮะ
    ชื่อ        ซันเซร่า
    อายุ      115
    สาเหตุการตาย    เจ้านายคนก่อนตาย
    ส่วนสูง   160
    น้ำหนัก 52
    อุปนิสัย อ่อนโยน รักเจ้านาย ซื่อสัตย์...
    “อืม ดูใช้การได้แฮะ แล้วนี่ ...ตายเพราะเจ้านายตายงั้นเรอะ”ข้าเริ่มเค้นสมองว่าเจ้าเด็กคนนี้เป็นคนของแดนไหนทันที ตายเพราะเจ้านายตาย ...เจ้านายตายแล้วเจ้าเด็กนี่ก็ตายตามงั้นเรอะ แล้วชื่อทำนองนี้มันก็เพราะๆเหมือนกับชื่อของคนที่เอาหนังสือพญายมอะไรนั่นใหญ่ที่สุดมาให้ข้าอ่านเสียด้วย ...
    “อืม โอ้”ข้าเริ่มไล่อ่านประวัติของเด็กหนุ่มต่อจนกระทั่งเจอเผ่าพันธุ์และดินแดนที่เจ้าเด็กคนนี้อาศัยอยู่จนได้
    “ฟีนิกซ์เพลิง แดนสัตว์เทพ ใช่เลย! นี่ล่ะที่ข้าต้องการ!”ข้าโห่ร้องอย่างดีใจ เพราะพวกสัตว์เทพเป็นอะไรที่ทำได้ทุกอย่างเพื่อเจ้านาย ถ้าข้าได้เป็นเจ้านายของไอ้เซร่าๆอะไรนี่ เจ้าเด็กนั่นจะต้องยอมทำทุกอย่างเพื่อข้าอย่างแน่นอน
    อีกอย่าง นกฟีนิกซ์เป็นสัตว์ที่ไม่มีวันตาย เว้นเสียแต่ว่าเจ้านายจะตายมันจะต้องตายตาม เอาล่ะ ข้าเพียงแค่หาว่าเจ้าเด็กนี่อยู่ที่ไหนและทำพันธะสัญญาด้วยเท่านั้นทุกอย่างก็จะจบ
    “จงบอกที่อยู่ของวิญญาณฟีนิกซ์นาม เอ่อ ”ข้าก้มลงไปอ่านชื่อของคนที่ตัวเองเล็งไว้ใหม่เพราะข้าลืมไปเรียบร้อยแล้ว เฮ้อ แต่ก่อนข้าความจำดีอย่าบอกใครเชี่ยวนะ แต่เพราะการงานของที่นี่ทำให้สมองของข้าเสื่อมอย่างหาที่ติไม่ได้เลยที่เดียว
    “นามว่าซันเซร่าให้แก่ข้า!
    วาบ!
    ทันทีที่จบคำของข้าแผนที่ก็ปรากฏขึ้นตรงหน้าทันทีพร้อมกับจุดสีแดงซึ่งก็คือเจ้าเด็กซันร่าอะไรนั่น ...อาฮ่า อยู่ที่เมืองวิญญาณโซลสามน่ะเอง..
    “หึๆๆ เจ้าหนีข้าไม่พ้นแน่! เจ้าซาฮาร่า!”...ซันเซร่าต่างหาก
    “นั่นล่ะ! ข้าหมายถึงซันเซร่า ฮ่าๆๆๆ!!”ว่าแล้วข้าก็สะบัดผ้าคลุมยาวเพื่อไปหาเป้าหมายทันที... ไม่ว่าเจ้าจะอยู่ที่ไหนก็ตาม ถ้าได้ชื่อว่าตายแล้ว ก็ไม่มีวันที่ข้าจะหาไม่พบ!
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×