ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    No Limit คู่หูต่างขั่ว รั่วกำลังสอง

    ลำดับตอนที่ #5 : บททที่4 เรื่องทุกอย่างมันมีเหตุผล

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 577
      3
      30 ส.ค. 56

     

    บททที่4

    เรื่องทุกอย่างมันมีเหตุผล

    สรุปว่า…”เจ้าสตาร์เอ่ยขึ้น

    ว่า….”ข้าเอ่ยต่อ

    ว่า

    ว่า….

    วะ..

    เจ้าจะว่าอีกนานไหมสตาร์ ข้าอยากรู้ว่าเจ้าฟรานบ้ามันเป็นอะไรเจ้าสตาร์ยิ้มแห้งๆก่อนจะปัดผมสีเขียวน้ำทะเลของมันที่ยาวถึงกลางหลังไปไว้ด้านหลัง

    เจ้าฟรานของท่าน มันคงปรับตัวกับความเย็นของนรกไม่ได้ วิญญาณก็เลยขัดกันและปั่นป่วนบวกกับหมอนี่ที่นอนตายอยู่บนเตียงใหม่ที่เพิ่งยกมาไว้ในห้องท่านใช้บทผนึกทั้งๆที่ร่างกาย เอ๊ย ร่างวิญญาณไม่สมบูรณ์เลยมานอนม่องเท่งแหล่ มิม่องเท่งแหล่อยู่ตรงนี้แหละครับข้าเกือบยกข้าถีบมันตั้งแต่มันพูดว่าเจ้าฟรานของท่านแล้ว ถ้าไม่ติดที่มันอธิบายให้ข้าฟังข้าก็คงทำไปจริงๆ

    เออ ออกไปได้แล้วหมดประโยชน์แล้วก็ไสหัวไป

    สรุปแล้วท่านกับเจ้าฟรานนี่เป็นอะไรกันขอรับ

    ยังไม่ออกไปอีก

        ข้าไล่เตพิดเจ้าสตาร์ให้ออกไปจากห้องของข้า ก่อนหันมองมองที่เจ้าฟรานเพราะกลัวมันจะตื่น เฮ้ย! ไม่ใช่นะที่ข้าพูดไปไม่มีอะไร ข้าไม่ได้ห่วงมัน ไม่ได้แคร์ดูแลมันซักนิด เสี้ยวในความคิดก็ไม่มี๊ไม่มี

    อือ…”แกจะตอบรับที่ข้าพูดหรือไงฟระ

    ข้าเดินเข้าไปดูไอ้ตัวปรางตายที่ครางอยู่บนเตียง ใบหน้ามันซีดยิ่งกว่าเจ้าขุนนางนั่นบวกกับเจ้าซีโร่ตอนเห็นเจ้า

    ฟรานครั้งแรกที่นี่อีก ข้ายื่นมือไปแตะหน้าผากของมัน พบว่าตัวมันเย็นเจี๊ยบถึงใจจริงๆ ข้าถอนหายใจอย่างปลงตก นี่ข้าต้องช่วยเจ้าใช่ไหม ถ้าไม่ช่วยนี่มันผิดศีลธรรมหรือเปล่าเนี่ย หลังจากลังเลอยู่นานพอควรเลยที่เดียว ตอนแรกข้าก็ตั้งใจว่าจะคิดให้นานกว่านี้แต่เกรงว่าไอ้หัวขาวตลอดชาตินี่มันจะม่องเท่งไปก่อนเลยได้แต่เดินไปนั่งลงบนเตียงข้างมันแล้วถอนหายใจอีกรอบ

    เจ้ามันตัวปัญหาโดยแท้ ฟรานข้าทาบมือลงบนหน้าอกของมันก่อนที่ผ่ามือข้าจะเกิดแสงสีขาวขึ้นพร้อมกับซึมหายลงไปในอกของฟราน ตอนนี้ข้ากำลังถ่ายพลังวิญญาณให้เจ้าฟรานอยู่ เพราะข้าเป็นราชวงศ์การสร้างพลังวิญญาณจึงไวกว่าชาวบ้านชาวช่องเขาเท่าหนึ่ง แต่พลังวิญญาณของฟรานนี่มันหายไปเยอะเอาการเล่นซะข้าที่ช่วยมันอยู่เริ่มหน้ามืดลงแล้วนะเนี่ย กว่ามันจะลืมตามามองข้าได้ก็เล่นเอาพลังข้าเกือบหมดตัว

    อลาว เจ้าทำอะไรข้าตอนที่ข้าหลับอยู่น่ะ

    อย่ามาถามอะไรที่มันชวนเข้าใจผิดได้ไหมเนี่ยข้าตวาดมันแต่เสียงข้าเบาเหมือนพูดธรรมดา

    อลาวทำไมหน้าซีดขนาดนั้น!

    เพราะเจ้าน่ะสิ ทำไมไม่บอกข้าว่าปรับตัวกับความหนาวที่นั่นไม่ได้แถมยังใช้พลังวิญญาณแบบฝืนๆอีก ถ้าเกิดเจ้าตายขึ้นมาข้าจะทำยังไง….กันเล่าเสียงของข้าค่อยๆเบาลงก่อนความมืดมิดจะกลายเป็นสิ่งเดียวทีข้ารับรู้

     

       ข้ามองดูคนสลบลงมาบนตัวของตัวเอง ข้าเป็นใครน่ะเหรอ ข้าก็ไวท์ทีเซอร์ ฟรานน่ะสิ ข้ามองอลาวที่หลับไม่ได้สติอยู่บนตัวข้า ก่อนจะค่อยขยับตัวเพื่อให้นาง เฮ้ย เขาได้นอนบนที่นอนอย่างสบายพร้อมกับลุกออกแล้วห่มผ้าให้ด้วย จะว่าไปเตียงนี่ใหม่กิ๊งเลยนะเนี่ย อย่าบอกว่าเตียงนี่มันคือของข้าน่ะ แต่ว่าตอนนี้ที่ข้าต้องสนไม่ใช่เตียงสุดหรูนี่แต่เป็นอลาวที่นอนสลบอยู่ต่างหาก ข้ารับรู้ได้ว่ากลิ่นไอวิญญาณของเขาเบาบางลงมาก อย่าบอกนะว่าเจ้าถ่ายพลังวิญญาณให้ข้า

        ข้ามองคนที่หลับอยู่อย่างทึ่งๆ ข้าคิดว่าอลาวจะโกธรเรื่องที่ข้าแกล้งเล่นจนจะทิ้งขวางข้าซะแล้วนะเนีย แต่ว่าเขาก็ยังช่วยข้าอีก โอ้ท่านพ่อ(ก็พระเจ้านั่นแหละ)อลาวนี่ช่างดีไม่สมกับเป็นยมทูตเลยนะเนี่ยมันเป็นคำชมนะข้าจะบอกให้ ผิดกับข้าที่ตอนนี้ความคิดชั่วๆกำลังลอยเข้ามาในหัว แต่ข้าไม่ได้จะลักหลับอลาวนะข้าเลิกความคิดนั้นตั้งแต่รู้ว่าเขาเป็นผู้ชายแบบจริงแท้แน่นอน ที่ข้าทำหลังจากนั้นข้าก็แค่แกล้งเขาเล่นเฉยๆเพราะยังไงก็ไม่ต่างกันจะจูบกี่รอบก็เท่ากับว่าจูบไปแล้วอยู่ดี แต่ความคิดที่ข้ามาในหัวข้าคือข้าได้ยินมาว่าคนที่พอถ่ายพลังวิญญาณให้คนอื่นไปเกินครึ่งจะเพ้อสิ่งที่ตกตะกอนอยู่ในใจออกมา ไม่แน่นา อลาวอาจพูดว่าฟราน ข้ารักเจ้าก็ได้นะ

    อือ...”เสียงที่ดังออกมาทำให้ข้าหันไปมอง เอาล่ะเริ่มแล้วเริ่มแล้ว

    ท่านพี่…”หา อย่าบอกว่าเจ้ามีคู่หมั้นแล้วน่ะ เฮ้ย คิดในแง่ดีเข้าไว้ฟราน เขาอาจหมายถึงพี่แท้ๆของเขาก็ได้

    พวกท่านได้โปรดอย่าทิ้งข้าไป เหตุใดจึงไม่หันหลังกลับมามองข้า ข้าเจ็บปวด ข้าทรมานหากรอยยิ้มที่เคยคงอยู่มันไม่ได้อยู่กับข้าอีกแล้ว

       ข้านั่งนิ่ง ไม่คิดว่าที่ตกตะกอนในใจของคนที่ออกแนวโวยวาย เฮฮา ใจดีและมักมีรอยยิ้มให้ใครจะกลับมีความเจ็บปวดเพียงนี้  สิ่งที่ข้าได้ยินทำให้ข้ารู้สึกหน้าตัวเองชาไปทั้งแถบเลยทีเดียว

    ทำไมพวกท่านถึงไม่อยู่กับข้า อย่าทิ้งข้าไว้คนเดียว ปล่อยข้าไว้เป็นเช่นนี้พวกท่านชอบใจงั้นหรือ หรือไม่เคยเห็นข้าเป็นน้องของพวกท่านเลยแม้แต่น้อย ทำไมท่านไม่หันหลังกลับมา กลับมาได้ไหมจบประโยคที่ละเมอออกมาน้ำตาก็ไหลรินออกมาจากเปลือกตาที่ปิดทั้งสองข้างและไหลลงสู่หมอนสีขาวที่ลองรับศีรษะนั้นอยู่

    แม้เราจากกัน ใช่ข้าต้องสูญเสียท่านไปใช่หรือไม่ ข้าจะไม่เหนี่ยวรั้งท่านอีก ข้าจะไม่ถามเหตุผลท่านอีกเพียงแต่ขอให้ท่านจำไว้ว่าไม่มีใครแทนที่ท่านได้ ท่านพี่อลัวซ์ ท่านพี่อเล็กซ์

    อลาว อลาว อลาว!”ข้าเรียกพร้อมทั้งเขย่าร่างนั้นให้ตื่นขึ้น ข้าไม่อยากให้เขาต้องเห็นถึงสิ่งที่ตนเจ็บปวดอีก และข้าก็ไม่อยากรับรู้แล้วด้วยว่าเขาเจ็บปวดมากแค่ไหน เปลือกตาบางเปิดขึ้นพร้อมนัยน์ตาที่สีเทาที่มีน้ำหล่อเลี้ยงมากเกินจำเป็น มากจนไหลลงมาอีก ข้าดึงเขาเข้ามากอดปลอบ ทีแรกข้าคิดว่าเขาจะผลักข้าแล้วด่าข้าอีก แต่เขากลับกอดข้าพร้อมกับฝังหน้ากับไหล่ข้าพร้อมร้องไห้หนักกว่าเดิม

    ไม่เป็นไรอลาวเจ้าร้องออกมาเถอะ ตอนนี้เจ้าเป็นผู้หญิงร้องเท่าไหร่ก็ไม่น่าอายหรอกดูเหมือนความเศร้าจะบดบังทุกสิ่งจนเขาไม่ใส่ใจคำพูดข้าและร้องไห้มากเข้าไปอีก

    ข้าว่าถ้าข้าไม่เจอเจ้าคงดี เจ้าก็ไม่ต้องมารับงานของทั้งหกหน่วยเพราประตูพังเพราะข้า ไม่ต้องโดนข้าขโมยจูบ ไม่ต้องเปิดเผยความลับ และเจ้าไม่ต้องถ่ายพลังวิญญาณให้ข้าจนต้องฝันเห็นสิ่งที่อยู่ในใจเจ้า ข้าไม่ควรมาอยู่กับเจ้าจริงๆข้าพูดขึ้นมาเล่นๆแต่คนฟังกลับจริงจัง อลาวผลักข้าออกพร้อมกับตะโกนใส่หน้าข้าในคำที่ข้าคิดว่าไม่น่าจะได้ยินมากที่สุด

    เจ้าจะทิ้งข้าไปอีกคนหรือไง!!!

        บอกได้คำเดียวข้าอึ้ง อึ้งมาก และอึ้งที่สุดในชีวิตของข้าเองก็ได้มั้ง และดูเหมือนคนพูดจะไม่รู้ตัวว่าพูดอะไรออกมา

    แม้มันจะแค่สองวันที่ข้ากับเจ้ารู้จักกัน แม้เจ้าจะบ้าคิดไม่ซื่อกับข้าแค่ไหนแต่ข้าว่าเจ้าอาจเป็นเพื่อนที่เข้ากับข้าได้ดีที่สุดก็ได้ แม้เจ้าจะป่วนข้าไปบ้างแต่ข้ากลับรู้สึกได้ว่าอยู่กับเจ้าแล้วข้าสบายใจได้อย่างประหลาดอันนี้ข้าอึ้งกว่า อึ้งชนิดอ้าปากค้างจนอลาวต้องดันคางข้าขึ้นฟันข้ากระแทกกันดังกึก

    เจ็บนะ นี่เจ้ามันพวกนิยมความรุนแรงหรือไงกัน

        แต่ดูเหมือนอลาวไม่ได้สนใจอะไรข้าแล้วเพราะเขาเดินไปหยิบผ้าเช็ดตัวแล้วเตรียมจะเข้าห้องน้ำไป

    อลาวข้าถามเจ้าสักคำ ทำไมต้องทำอะไรเพื่อข้าขนาดนี้

    เขายิ้มแบบที่ทำประจำ ข้าเพิ่งสักเกตว่ายิ้มนั้นต่างออกไปจากทุกที มันดูว่าออกมาจากใจจริงๆไม่ใช่ยิ้มเพราะมารยาท

    ไม่มีอะไร แค่สงสารลูกนกลูกกา ลูกราชาสวรรค์น้ำเสียงนั้นเอ่ยแบบไม่ใส่ใจเท่าไหร่

    ขอบคุณนะข้าว่าพลางยิ้มให้ ข้าเห็นอลาวหน้าแดงแจ๋เลย หรือว่าเขิน

    ไม่จำเป็นไม่ต้องขอบคุณก็ได้ อย่ามาสำคัญตัวผิดนะเจ้าบ้าเสียงนั้นแอบสั่นเล็กๆ

                    ถึงเจ้าตัวจะพูดแบบนั้นข้าก็ยังอดมองหน้าเขาไม่ได้อยู่ดี

    มีอะไร! จะมองหน้าข้าไปถึงเมื่อไหร่กัน!

       สุดท้ายข้าก็โดนเขาตวาดอีกจนได้ ฮ่าๆเขินจริงๆด้วย

     ไม่มีอะไรหรอก เจ้าไปอาบน้ำล้างหน้าล้างตาเถอะข้าจะได้อาบบ้าง ทั้งน้ำมูกน้ำตาเจ้าเลอะเต็มเสื้อข้าไปหมดแล้วข้าเห็น

    อลาวหน้าแดง แต่ก็ไม่เท่าตอนโดนข้าจูบ รีบเข้าห้องน้ำไปพร้อมกับเสียงที่แว่วมา

     กำลังจะซึ้ง ทำเสียฟิวส์หมดข้าบ่นพลางถอดเสื้อผ้าตัวเองออก พร้อมสำรวจดูว่ารอยที่ต้นคอข้ามันลดลงไปบ้างหรือเปล่า ปรากฎว่ามันไม่ลดลงสักนิดหนึ่ง ตายล่ะตอนที่สู้คอข้าไม่ได้ปิดตัว เห็นกันไปหมดแล้วมั้งเนี่ย ภาวนาให้พวกมันไม่ทันสนใจทีเถอะ ข้ารีบใส่เสื้อผ้าเหมือนเดิมเพื่อออกไปตวาดแว้ดไอ้ตัวต้นเหตุ

    ฟราน! เจ้าดูฝีมือเจ้าซะข้าชี้ที่ต้นคอตัวเองที่ยังแดงอยู่เป็นย่อมๆ

    มาให้ข้าแก้แค้นซะดีๆนะข้าเอ่ยเสียงเขียว

    แก้แค้น เจ้าจะไซร้คอข้าคืนเหรอ ได้ๆไม่มีปัญหามันเอียงคอไปด้านขวาก่อนชี้ที่ซอกคอซ้ายของมัน ข้าไม่รีรอข้าพุ่งเข้าใส่ ดูมันจะตะลึงไม่น้อยที่ข้าพุ่งไป แต่อย่าได้ว่าข้าจะโรคจิตเอาคืนแบบที่เจ้าฟรานมันเสนอ ข้าแค่งับจมเขี้ยวเท่านั้นเอง

    อ๊ากกกกกกกก อลาวดี้ข้าเจ็บมันน้ำตาคลอเบ้าพร้อมผลักหัวข้าออก

    เป็นไง ฝีมือข้าข้าแอบรู้สึกว่ามีเลือดออกมาติดฟันข้าด้วยนะเนี่ย

    เจ้าฟรานเอียงคอมองกระจกแล้วทำหน้าบึ้ง

    โถ่! คอขาวเนียนของข้า ถ้าเป็นแผลเป็นขึ้นมาจะว่าไงห๊ะ?อลาว เดี๊ยวข้าก็ทำคืนซะหรอก

    เอ้า ก็เจ้าบอกว่าให้มาไซร้คอเจ้า ข้าไม่ประสีประสาก็ต้องแบบนี้แหละข้าแถรไปเลื่อย ถ้ามีรางวัลนักแถรอวอร์ดข้าคงได้แบบไม่มีใครโต้แย้ง

    งั้นมานี่ ข้าจะสอนให้มันดึงข้าที่สะใจจะเป็นจะตายอยู่ให้ลงไปนอนกับเตียง พร้อมคร่อมข้า เฮ้ยมันคร่อมข้าสี่รอบแล้วนะภายในสองวัน

     แล้วไอ้สิ่งที่ข้ากลัวก็เปิดประตูเข้ามา

    ท่านอลาวดี้ สตาร์ฝากบอกว่ายานี่….อาจช่วย....ท่านฟราน...ได้ซีโร่นิ่งค้างเติงเมิ่งอยู่หน้าห้อง ปกติเจ้านี่มันเคาะแล้วเปิดเลยมันถึงได้มาเห็นภาพที่เจ้าฟรานค้างอยู่ที่คอข้านี่ไง

    เอ่อ ข้าขอโทษที่มาขัดจังหวะพูดจบมันก็ออกไปแบบไม่ฟังคำอธิบายใดๆเลย ข้ายังแอบเห็นมันบ่นประมาณว่า รักกันตอนไหน สปาร์คกันเมื่อไหร่ ไว้ไฟเหลือเกิน เจ้าเข้าใจผิดมากไปแล้วนะ!!

    ฟราน ลุกออกไปจากตัวข้าเดี๊ยวนี้เลยนะ

    มันก็ยอมลุกออกแต่โดยดีจนน่าแปลกใจ

    ต้องให้ข้าบอกเจ้ากี่ครั้ง ว่าข้าเป็น….”ข้าสูดหายใจก่อนเอ่ยออกมา

    ผู้ชาย ผู้ชาย ผู้ชาย ผู้ชาย ผู้ชาย ผู้ชาย ผู้ชาย ผู้ชายข้าย้ำมันไปอีกหลายรอบ แต่แทนที่มันจะว่าอะไรกลับก้มหน้านิ่งแล้วพูดเพียงว่าข้าขอโทษ ข้าทำให้พวกนั้นเข้าใจผิดเจ้าอีกแล้วแล้วมันก็เดินเข้าห้องน้ำไป มันเป็นอะไรมากหรือเปล่าเนี่ย อยากจะรู้ นี่ข้าปรับอารมณ์ตามมันไม่ทันแล้วนะ เดี๋ยวมันก็อบอุ่นดูพึ่งพาได้(?) เดี๊ยวมันก็หื่นสะบัดช่อ แล้วนี่จู่ๆมันก็หงอยเป็นหมาอดแทะกระดูก อะไรของมันฟระ

    เฮ้นี่ฟราน เจ้าเป็นอะไรไปน่ะข้าถามทันทีที่มันเดินออกมาจากห้องน้ำ แต่มันไม่ตอบกลับแค่ส่ายหน้าเบาๆแล้วล้มตัวลงนอน แถมคลุมโปรงอีก

    นี่! ลุกขึ้นมาคุยกับข้านะ!”ข้าสั่งพร้อมดึงผ้าห่มของมันออก มันลืมตามองข้าแล้วกระพริบตา ก่อนจะลุกขึ้นมานั่งย่อนขาลงมาจากเตียง

    อะไรของเจ้า ผีเข้าหรือผีออกกันล่ะนั่น?”

    มันไม่ตอบแล้วก้มหน้าลง ข้าเห็นแบบนั้นเลยเลิกที่จะใช้เสียงแข็งกับมัน

    ฟรานข้าเรียกเหมือนตอนที่อยู่ในการประชุม มันเงยหน้ามองข้าช้าๆ จะให้ข้าอธิบายไหม ตอนนี้สภาพมันคือ เส้นผมสีขาวที่หมาดๆลู่ลงติดกับใบหน้าขาวๆ ดวงตาสีม่วงเข้มส่อแววเศร้าๆ คิ้วเรียวขมวดเข้าหากันบ่งบอกว่ามันหงอยสุดชีวิต ไม่อยากชมแต่มันดูดีเป็นบ้า! นี่ข้าจะโดนแฟนคลับมันรุมหรือเปล่าเนี่ยที่ปล่อยมันเศร้า

    ฟราน เจ้าเป็นอะไรไปข้านั่งลงข้างๆมัน ดูแล้วราวกับคุณแม่ที่กำลังปลอบลูกสาววัยรุ่นที่กลุ้มเพราะปัญหารักแรกอย่างนั้นแหละ

    ข้าแค่อยากรู้ว่าอะไรที่มันทำให้เจ้าทำสีหน้าแบบนี้หากเจ้าไม่บอกก็ไม่ไม่ใครรู้ว่าเจ้าเป็นอะไร แต่ข้าก็ไม่ได้จะบังคับให้เจ้าพูดออกมา เจ้าจะพูดหรือไม่นั่นคือสิทธิ์ของเจ้า เก็บไว้กับพูดออกมาอะไรที่ทำให้เจ้าอึดอัดมากกว่ากันล่ะมันเสนัยน์ตามองข้าเล็กน้อยก่อนจะถอนหายใจ ข้ารอมันพูด

    หนึ่งนาทีผ่านไป…..

    สามนาทีผ่านไป…..

    ห้านาทีผ่านไป…..

    หน้าข้าชักเริ่มตึง

    สิบนาทีผ่านไป……

     ข้าแทบจะโบกหัวมันอยู่แล้ว แต่มือที่ยกเตรียมจะโบกต้องเปลี่ยนมาลูบหัวมันแทนพอมันเริ่มเปล่งเสียงออกมา

    เอ่อ….ข้า….”แล้วมันก็ฟุบหน้าลงบนฝ่ามือตัวเอง แกจะทำตัวเหมือนเด็กสาววัยแรกรักไปไหน แล้วที่สำคัญข้าไม่ได้ทนรอเจ้าตั้งสิบนาทีเพื่อให้เจ้าพูดแค่สองคำนะเฟ้ย!

    แล้วข้าก็ต้องรอมันต่อไปอีกสิบนาทีกว่ามันจะพูดอีกครั้ง แต่ว่าที่มันพูดออกมากลับทำให้ข้าเลิกคิ้วสูง

    ข้าแค่รู้สึกว่าข้าและเจ้าต่างกันเกินไปมันพูดเสียงอ่อย ข้ามองมันเฉยๆไม่ได้ตวาดหรือโวยวายอะไรเพื่อรอให้มันพูดต่อ

    ทั้งที่เราก็ต่างมันเจ้าชายเหมือนกัน แต่ในขณะที่เจ้าเข้าประชุมกับพวกขุนนาง ข้ากลับวิ่งเล่นอยู่ที่โลกมนุษย์ ในขณะที่เจ้ากำลังออกเก็บวิญญาณ ข้ากลับนั่งกินนอนกินอยู่ที่วิหาร และในขณะที่เจ้ากำลังหยุดนักโทษแหกคุกข้ากลับกำลังเล่นปั่นแปะอยู่กับพวกพี่ๆ

    เฮ้ย!นี่เจ้าเล่นปั่นแปะด้วยเหรอ! เจ้านี่มันผิดศีลหลายข้อนะเนี่ย

    แล้วนี่ข้าก็ยังมาสร้างความเดือดร้อนให้เจ้า ทำประตูพัง ทำให้พวกหัวหน้าหน่วยติดอยู่บนนั้นตั้งหกคนแล้วงานทั้งหมดเจ้าก็รับผิดชอบโดยที่เจ้าไม่ได้ผิด แถมข้ายังทำให้เจ้าขายหน้าพวกหัวหน้าหน่วยถึงสองครั้ง ข้าขอโทษ ข้ามันไม่ได้เรื่อง

    ปึก!

    ข้าดีดหน้าผากมันแรงๆจนมันหันมองหน้าข้าพร้อมกุมหน้าผากตัวเองด้วยสองมือ

    ฟราน ข้าคิดว่าข้าดูเจ้าผิดไปนะข้าเว้นวรรคให้มันงงก่อนเอ่ยต่อข้ามองว่าเจ้าเป็นเจ้าชายที่มองโลกในแง่ดี ร่าเริงอยู่ตลอด(แม้มันจะเกินไปก็ตาม)แต่เจ้ากลับมานั่งหดหู่เพราะความผิดที่มันเล็กเท่าฝุ่นเนี่ยนะ

    ข้าถอนหายใจอย่างเหนื่อยๆก่อนจะร่ายยาวใส่มันข้ากับเจ้าน่ะเอามาเปรียบกันได้ที่ไหน ข้าน่ะเจ้าชายนรก เจ้ามันเจ้าชายสวรรค์ นรกมีแต่พวกคนเลวเท่านั้นที่ตายแล้วต้องมาที่นี่ มันทรมานถึงไม่มีคนอยากมา ยมทูตอย่างพวกข้าถึงต้องไปลากคอมันมา ที่มีนักโทษแหกคุกเพราะมันมีคนชั่วๆอยู่ถึงต้องสร้างคุกออกมา แล้วที่ต้องประชุมเกือบจะทุกวันก็เพราะตาแก่พวกนั้นมันเรื่องมาก แต่ที่สวรรค์มีแต่วิญญาณดีๆ ไม่มีพวกเลวๆก็ไม่มีคุกไม่มีนักโทษ แล้วเจ้าจะไปเอานักโทษที่ไหนมาแหกคุกหรือพ่อเจ้าจะถ่อสังขารมานรกเพื่อเอานักโทษไปไล่จับเล่นกัน แล้วที่ไม่มีการประชุมมันก็เรื่องของพวกเจ้า

    ฟรานมองหน้าข้าอย่างเหวอๆ นี่มันยาวที่สุดในบรรดาที่ข้าเคยพูดมาเลยหรือเปล่าเนี่ย

    ส่วนเรื่องที่เจ้าทำอะไรบ้าๆบอนั่น ข้าเองก็ผิดที่ทำตัวเป็นผู้หญิงไปหน่อย ไปแคร์เรื่องแค่นั้นอาจเพราะเจ้าพวกนางกำนัลมันกรอกหูข้ามา ข้าก็ไม่ได้โกธรอะไรเจ้าแล้วล่ะตอนนี้

    เจ้าไม่โกธรข้าจริงเหรอมันถามแบบตื่นเต้นสุดๆ

    ก็ใช่น่ะสิ เรื่องแค่นั้นน่ะชั่งมันเหอะ ข้ามันก็โมโหไปหน่อย แล้วข้าเองก็โตแล้วนะ ในเมื่อเจ้าขอโทษเพราะรู้สึกผิดจากใจจริงไม่ได้เสแสร้ง ข้าเองก็มีน้ำใจพอจะให้อภัยข้าพูดพร้อมส่งรอยยิ้มไปให้มัน

    อุว้าว เจ้านี่ชั่งดีไม่สมกับเป็นยมทูตเลยนะ

    ข้าจะถือว่านั่นคือคำชม!”ข้ากระชากเสียงตอบ แต่มันกลับยิ้มแบบที่มีดอกกุหลาบบานกับฟอกสบู่ลอยมาให้ข้า จะให้ข้าบอกกี่ครั้งว่าข้าไม่ชอบฟอกสบู่!!! กุกลาบด้วย!!

    เอาเถอะ ข้าจะไปอาบน้ำพอรู้สึกได้ว่ามันกลับมาเป็นเหมือนเดิมข้าก็ตัดบทง่ายๆ ก่อนจะเดินเข้าห้องน้ำไป

    อ่อ แล้วเจ้าก็นอนพักซะ พลังวิญญาณเจ้าจะได้กลับมาเป็นเหมือนเดิมข้าตะโกนออกมาก่อนจะเริ่มถอดเสื้อผ้าตัวเองอีกรอบ คราวนี้ข้าไปยืนใต้ฝักบัวก่อนจะเปิดน้ำไปพร้อมๆกับการคลายเวทย์แปลงเป็นผู้หญิง เพราะถ้าหากข้ายังคงเวทย์ไว้พลังวิญญาณข้ามันก็ไม่เต็มสักที ก็เหมือนกับการที่เติมน้ำไปด้วยพลางดูดกินไปด้วยนั่นแหละ จ้างให้มันก็ไม่เต็มให้เจ้าหรอก!!

    ข้าเสยผมสีดำสนิทของตนขึ้นนี่แหละที่ข้าต้องการผมที่ยาวถึงต้นคอสีดำสนิท ไม่ใช่ผมที่ยาวถึงข้อเท้าสีเงินนั่น! ข้าอาบน้ำอย่างสบายอารมณ์แล้วเจ้าตัวบังเอิญของสามโลกมันก็วิ่งมาหาข้า(อีกแล้ว)

    ก๊อกๆ

    ข้ามี….”เจ้าฟรานที่จู่ก็เคาะประตูแล้วเปิดเข้ามาแบบที่ข้าไม่ทันตั้งตัว มันนิ่งค้างครู่เดียวก่อนจะรีบปิดประตูดังปัง! ข้ารีบแต่งตัวอย่างไวที่สุดพลางร่ายเวทย์แปลงกาย

    เจ้าเห็นใช่ไหม!!!!”ข้าโพลงขึ้นทันทีที่เปิดประตูออกไป เจ้าฟรายยืนหันหลังให้ข้าก่อนจะค่อยๆหันมา

    อลาวร่างนั่น

    ร่างจริงข้าข้าเอ่ยพลางกัดริมฝีปากตัวเอง มันเบิกตาโพลงอย่างตกตลึง ที่ข้าห่วงไม่ใช่ร่างเปลือยแต่เป็นร่างผู้ชายของข้า!!

    อลาว

    ไว้คุยกันพรุ่งนี้เถอะ เราต้องคุยรายละเอียดอะไรกันอีกเยอะ วันนี้นอนเถอะทั้งข้าและเจ้าเหนื่อยกันมาทั้งวันข้าตัดบทง่ายๆก่อนจะเดินไปที่เตียงตัวเอง ข้ารู้สึกเหมือนลืมอะไรไปหรือเปล่า?

    เป็นอะไรไปงั้นเหรอฟรานที่กำลังจะดับไฟหันมาถามเมื่อเห็นข้านั่งอยู่บนเตียงมานอนแต่ไม่นอนสักที

    เปล่า แล้วเจ้าก็เลิกทำหน้าแบบนั้นได้แล้ว ที่ตะโกนออกมาข้าแค่ตกใจว่าจบข้าก็ล้มตัวลงนอนทันที

     

     ข้ารู้สึกว่าเช้านี้อากาศอบอุ่นเกินความจำเป็น(อีกแล้ว) ข้าลืมตาขึ้นและไม่เห็นหน้าเจ้าฟรานแต่….ข้าเห็นมือที่มันพาดมาจากด้านหลัง ข้าค่อยๆพลิกตัวก่อนจะเอ่ยเสียงหวานฟราน

    พลั่ก!!!

    ข้าใช้เท้าถีบมันไปชนกำแพงดังโครม มันรีบลุกขึ้นพลางมองข้างงๆ

    อะไรกันอลาวดี้ เจ้าถีบข้าทำไม

    ยังจะมาอะไร ทำไมอีก เจ้าคิดว่าข้ายกเตียงใหม่มารกห้องข้าทำบ้านตาแป๊ะหรือไง!!!”ข้าตวาดพลางชี้ไปที่เตียงของเจ้า

    ฟราน แล้วมันก็ก้มหน้าหงุด เฮ้ย! อย่าบอกว่ามันจ๋อยอีกแล้วน่ะ อะไรมันจะอ่อนไหวขนาดน้านนนน มันค่อยๆเงยหน้าขึ้นก่อนจะเอ่ยคำที่ข้าอยากจะเอาส้นเท้าประทับหน้ามันยิ่งนัก

    อลาวดี้ที่น่ารักของข้า ตาแป๊ะนี่ใครกัน ที่เจ้าเคยพูดว่าทำบ้านแก ข้าพอจะเข้าใจว่าเป็นบ้านข้า แต่เตียงที่ยกมาทำบ้านตาแป๊ะนี่ตาแป๊ะเนี่ยใคร แล้วทำไมเจ้าต้องเอาเตียงไปทำบ้านเขาด้วยล่ะมันมองข้าด้วยแววตาใสซื่อชนิดน่าถีบ ข้าค้างไปสิบวิ มันซื่อจริงหรือแกล้งข้ากันเนี่ย

    อลาวดี้ที่น่ารักของข้า….

    ข้าให้เจ้าเรียกข้าว่าไง?!

    ที่รักของข้า สรุปแล้วตาแป๊ะนี่ใคร แล้วเขาเป็นญาติฝ่ายไหนของเจ้ากัน

    ว๊ากกกกก ตาแป๊ะคือเจ้าของร้านโชห่วยหน้าปากซอย พอใจมั๊ย?!”ข้าเดินกระแทกเท้าเข้าห้องน้ำไป ถามมาได้ตาแป๊ะเป็นใคร ข้ายังไม่รู้จักเลย! มันยังไม่วายตะโกนถามอีก

    ถ้าแค่เจ้าของโชห่วยหน้าปากซอยแล้วเจ้าจะยกเตียงไปทำบ้านเขาทำไมล่ะที่รักของข้า

    นี่ข้าต้องปวดหัวกับมันอีกนานไหมเนี่ย ไหนวันนี้ข้ายังต้องสรุปรายงานนักโทษแหกคุกเมื่อวานให้เจ้าตาแก่พวกนั้นฟังอีก สรุปรายงาน…….

    อ๊ากกกกกกกกกข้าที่กำลังเช็ดผมอยู่ในห้องน้ำตะโกนลั่นก่อนจะวิ่งออกมา

    มีอะไรอลาวฟรานถามสีหน้างงๆ

    ข้าลืมสรุปเรื่องนักโทษแหกคุกเมื่อวานข้าบ่นพลางกุมขมับ

    อ้าว แล้วต้องสรุปเป็นลายลักษณ์อักษรไหม?”

    ปกติข้าจะสรุปเป็นแบบสคิปแล้วให้จัสตินรายงานแทนจัสตินเจ้านั่นมันไม่อยู่นี่หว่า อ๊ากกกกกกกก

    ฟรานมองข้าที่สติแตกอย่างขำๆข้าเลยตวาดสายตามองมัน

    ขำอะไร!

    ขอโทษๆ แค่นี้ต้องงอนด้วย

    ข้าไม่ได้งอนนะ เจ้าน่ะมาช่วยข้าคิดหาวิธีรายงานตาแก่พวกนั้นเลยข้าชี้หน้า มันเลยหันนิ้วชี้เข้าหาตัวเองก่อนจะยิ้มแบบกุหลาบมาพร้อมฟองสบู่ บอกแล้วไงข้าไม่ชอบกุหลาบกับฟองสบู่!!!

    เดี๊ยวข้าจัดการให้ก็ได้ แต่ตอนนี้เจ้าน่ะมานั่งตรงนี้มันตบเบาะหน้าโต๊ะเครื่องแป้งพอเห็นข้ามองแบบงงมันก็เลยพูดต่อผมเจ้ายุ่งไปหมดแล้ว เดี๊ยวข้าจัดการให้มันว่าพลางยิ้มดูโอ้กุหลาบฟองสบู่อีกรอบ ข้าไม่ชอบฟองสบู่!!กุหลาบด้วยนะ!!

      ข้านั่งลงอย่างว่าง่าย มันค่อยๆหวีผมข้าอย่างเบามือยอมรับเลยว่าเบากว่านางกำนัลข้าเสียอีก ผมหน้าม้าข้าถูกหวีเบาๆก่อนจะปัดไปทางซ้ายสามในสี่ ก่อนมันจะเริ่มหวีผมที่ยาวถึงข้อเท้าข้าแล้วเริ่มบิดไปมาพลางร้อยลูกปัดใส่เข้าไป ผมที่ยาวถึงข้อเท้าที่ตอนนี้ยาวแค่เอวถึงเบี่ยงมาไว้ทางขวาก่อนที่เจ้าฟรานจะวางรัดเกล้าลงบนหัวข้า

    เสร็จแล้ว อลาวดี้ของข้าสวยที่สุดเลยมันว่าพลางยิ้มรับสายตาพิฆาตของข้า

    ข้ารู้ว่าเจ้ารำคาญผมที่ยาวถึงข้อเท้าของเจ้า ไปกันเถอะอลาวดี้ที่น่ารักของข้า เราต้องไปประชุมกันแล้วนะ

    *********************************************************TBC.*****************************************************************

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×