ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    No Limit คู่หูต่างขั่ว รั่วกำลังสอง

    ลำดับตอนที่ #3 : บทที่2 เขาว่ากันว่ายิ่งไม่อยากเจอยิ่งได้เจอ

    • อัปเดตล่าสุด 30 ส.ค. 56


     

    บทที่2

    เขาว่ากันว่ายิ่งไม่อยากเจอยิ่งได้เจอ

     อลาวดี้จางงงงงงเสียงนี้มัน ถ้าไม่ใช่ชิลลี่ก็เจ้าซัมวันชัวร์ แล้วก็ปรากฏว่ามันทั้งสองตัวนั่นแหละ

    พวกเจ้าหนีงานไปกันอีกแล้วนะ อย่ามาทำตัวไร้สาระแบบนี้ได้ไหมข้าตวาดทันทีที่เห็นหน้าพวกมัน เอ่อ...ไม่ต้องห่วงไม่มีใครนอกจากข้าและพวกมันสองตัวอยู่ตรงนี้หรอก ต้องให้ข้าบอกไหมว่ามันกลับมาหลังจากที่ข้ากลับมาจากโลกมนุษย์แล้วสามวันน่ะ(ก็บอกไปแล้วนี่อลาว)

    ก็ข้าแค่ไปตกปลาให้ท่านเท่านั้นเอง

    เท่านั้นเอง

    -_-“แล้วเจ้าซัมวันจะมาแอ็คโค่ให้เจ้าชิลลี่เพื่อ?

    จะไปตกปลาตกปูข้าก็ไม่ได้ว่า แต่ช่วยทำอะไรให้มันเป็นเวลาหน่อยได้ไหมน่ะ ห๊ะ พวกเจ้าเป็นถึงหัวหน้าคนแต่กลับทำตัวไม่มีระเบียบกันแบบนี้ แล้วพวกลูกหน่วยที่เหลือจะไปเอาใครเป็นแบบอย่างน่ะ

    ก้มหน้าหงุดกันแบบดูโอ้เลยนะ คิดว่าข้าจะหลงกลงั้นเหรอ ไม่มีทางซะหรอกพวกเจ้าใช้แบบหงอยดูโอ้ไม่ได้ผลแล้ว

    ไม่ต้องมาแกล้งสำนึกผิดเลยนะ คราวนี้ข้าจะลงโทษพวกเจ้าไม่ให้ตามข้าไปโลกมนุษย์หนึ่งเดือน!

    หา!! หนึ่งเดือน ไม่นะอลาวจัง อย่าลงโทษพวกข้าแบบนั้นเลย ได้โปรดเถอะ ข้าผิดไปแล้ว แง~

    เออๆร้องกันเข้าไป คิดว่าจะมีอะไรดีขึ้นมางั้นเหรอไง

    เกิดอะไรขึ้นน่ะอลาวดี้ ทำไมซัมวันหน่วยสิบเอ็ดกับชิลลี่หน่วยสิบสอง ถึงได้ร้องไห้คร่ำครวญราวกับพรุ่งนี้โลกจะแตกเสียอย่างงั้นเสียงท่านพ่อที่รักของข้าเอ่ยถามเมื่อเดินเข้ามาเห็นสภาพเจ้าสองตัวที่นั่งกอดกันร้องไห้อยู่ ท่านก็เว่อร์ไป

    จะอะไรเสียอีกล่ะท่านพ่อ ก็เจ้าสองตัวนี้มันหนีไปเที่ยวกันอีกแล้วข้าบ่นกึ่งฟ้องให้ท่านพ่อฟังพร้อมกับมุ่ยหน้าไปด้วย

    อลาวดี้ เจ้าก็เถรตรงเกินไป พวกเขาแค่ทำผิดเล็กน้อยเอง เจ้าก็ลดหย่อนกันบ้างสิ

    ได้ไงท่านพ่อ พวกนี้ใช่ว่าทำผิดแค่ครั้งเดียว ผิดมากันตั้งหลายหนข้าทำมองผ่านไปในครั้งก่อนๆนี้ข้าก็เต็มที่แล้วนะข้าสะบัดหน้าหนีจะปลายผมสีเงินของข้าเหวี่ยงไปโดนหน้าไอ้พวกที่นั้งร้องไห้กันอยู่

    ราชาอลัน โปรดช่วยพวกข้าด้วยเจ้าซัมวันโอดครวญใส่ท่านพ่อของข้า เออๆเอาเลย อยากทำอะไรก็ทำไปเลยเชิญ

    อลาวดี้ท่านพ่อเอ่ยเรียกชื่อข้าเสียงอ่อนใจ ท่านก็เป็นเสียแบบนี้ ใจอ่อน ใจดี ยังกับเป็นเทวดา ท่านเป็นเจ้านรกนะท่านพ่อ ข้าได้แต่ส่ายหัวเบาๆอย่างปลงตก นี่ข้าเห็นแก่ท่านพ่อหรอกนะ

    ก็ได้ ข้าจะไม่ลงโทษพวกเจ้าก็ได้พอข้าเอ่ยแบบนั้นไอ้สองตัวที่คร่ำครวญราวกับเพิ่งเสียญาติที่รักและเคารพไปก็ฟื้นคือชีพขึ้นมาโผลจะกอดข้า ข้าก็เลยตอบสนองด้วยการ….เอาเท้ายันหน้าพวกมันไปคนละที ข้าใจดีไหมล่ะ?

    หลังจากอารมณ์ดีขึ้นเพราะได้เอาบาทาประทับหน้าเจ้าสองคนนั้น ข้าก็กลับไปนอนเล่นที่ห้องส่วนตัวของข้าเอง โอ๊ย ที่นี่แหละที่ข้าชอบมากที่สุด สาเหตุไม่มากเพราะมันทำให้ข้าปลดปล่อยความเป็นตัวเองออกมามากที่สุดไงเล่า ทันทีที่ข้าถึงห้องข้าก็จัดการอาบน้ำล้างเนื้อล้างตัวให้สะอาด แม้ว่าข้าไม่ค่อยถูกใจกับครีมอาบน้ำกลิ่นดอกกุหลาบที่พวกนางกำนันเตรียมให้ก็เถอะ ข้าเปิดประตูตู้เสื้อผ้าดูว่าพอมีชุดไหนที่ข้าจะใส่แล้วไม่รำคาญลูกตาบ้างซึ่งมันไม่มีแม้แต่ชุดเดียว

     ข้าหัวเสียแบบสุดๆทุกครั้งที่ข้าเปิดดูเสื้อผ้า ข้าหยิบชุดออกมาส่งๆผลคือชุดที่ได้เป็นชุดกระโปรงสั้นสีดำสนิทที่เป็นสายเดี่ยวและยาวถึงแค่ต้นขา เหอ~เซ็กซี่ตายล่ะ แหวะ! ข้าสวมชุดนั้นลวกๆอย่างไม่ใส่ใจ หน้าหรือหลังข้ายังไม่มองเลย

    กรุก กรัก

    ข้าหยุดแหวะตัวเองกับกระจกแล้วกันไปมองทางหน้าต่างห้องที่มีเสียงดัง อย่าบอกว่ามีหนูนรกมาทำรังที่หน้าต่างข้านะ ข้าสาวเท้าเข้าใกล้บานกระจกอย่างระมัดระวังแต่แล้ว

    แหว่!

    เฮ้ย!”ข้าตกใจถอยหลังไปชนเตียง แล้วล้มไปนอนบนเตียงดังโครม อ๊ากกกกเจ็บ ใครมันมาเล่นบ้าอะไรที่หน้าต่างห้องข้าเนี่ย!!!

    ข้าเตรียมจะยันตัวลุกขึ้น แต่เงาที่ทาบขึ้นมาทำให้ข้าเหลือบตาไปมอง ข้าถึงกับอ้าปากพะงาบๆอยู่เกือบนาที นัยน์ตาเบิกโพลงจนแทบจะถลนออกนอกเบ้า เจ้านี่มัน เจ้าฟราน!!

    เจ้ามาที่นี่ได้ไง อั่ก!”ข้าโดนมันผลักลงไปนอนกับเตียงตามเดิม ข้าใช้ความพยายามอยู่นานก็จะลุกขึ้นได้นะเนี่ย

    เจ้า!

     มันใช้มือตัวเองกดข้อมือข้าลงไปกับเตียง ก่อนจะค่อยๆก้มหน้าลงมาทาบริมฝีปากมันกับริมฝีปากข้า! อีกแล้วเหรอแก ไอ้บ้าจูบแรกข้าเจ้าก็ขโมยไป จูบที่สองยังมีหน้าเฮ้ยๆๆๆ หยุดเดี๋ยวนี้ ข้าดิ้นสุดแรงเมื่อมันพยายามจะ..ไซร้คอข้า!! ไม่ใช่แล้วเจ้าบ้า มันไม่ใช่แล้ว

    ข้ารักเจ้ายังมีหน้ามากระซิบข้างหูข้าอีก นัยน์ตาสีม่วงมองข้าด้วยแววตาขี้เล่น ข้ายอมรับนะว่าไอ้ดวงตาสีม่วงกับเส้นผมสีจขาวพิสุธนี่ทำให้เจ้าดูดีจนไม่อาจละสายตา แต่ไม่ใช่กับข้า

    ข้ามีสี่คำจะบอกเจ้าข้าพูดออกไป

    เจ้าจะบอกว่าข้าก็เหมือนกันใช่ไหม

    เปล่าทันทีที่ข้าปฏิเสธมันก็เลยยอมละจากคอข้ามามองหน้าข้า

    เจ้าจะบอกอะไรข้า แม่หญิงของข้ามันยังมีหน้ามาเอียงคอถามด้วยแววตาใสซื่อ

      เฮ้อ!นี่ข้าต้องบอกความลับที่สุดของข้าใช่ไหมเนี่ย แต่เพื่อความบริสุทธิ์ของข้า

    เจ้าตั้งใจฟังดีๆนะ ฟราน ทำใจดีๆด้วยมันยิ้มรับสดใสชนิดที่มีดอกกุหลาบงอกออกมารอบๆมัน ตบท้ายด้วยฟองสบู่ใส่แจ๋ว ใครมาเล่นน้ำสบู่แถวนี้เนี่ย! นั่นมันไม่ใช่ประเด็นใช่ไหม หลังจากที่ข้าวุ่นวายกับตัวเองไปครู่หนึ่ง ข้าก็ถอนหายใจก่อนจะบอกไปตามตรง

    ข้าเป็นผู้ชาย

    “......”

                    มิ้งๆๆๆๆ//ซาวด์ประกอบโดยจิ้งหรีด

     มันอึ้งไปสามวิก่อนจะยิ้มสดใสให้ข้าอีกรอบ แต่เป็นรอยยิ้มที่เห็นได้ชัดว่าขมขืนสุดๆก่อนมันจะปล่อยมือข้าแล้วตัวมันเองก็ลุกไปนั่งบนเตียงข้างๆข้า ข้าจึงได้โอกาสลุกขึ้นนั่ง

    เจ้าล้อข้าเล่น

    ไม่ๆๆ ข้าพูดตามความจริงข้าตอบทันควัน

    แต่ว่ารูปกายเจ้าก็เป็นผู้หญิง

    มันเป็นมนตร์แปลงกาย ถ้าเจ้าไม่เชื่อ นี่ข้าชี้นิ้วไปที่ต้นคอตนเอง

    มาดมให้ดีๆ ว่าใช่หรือไม่ใช่

    ไม่ใช่ว่าข้าจะพิศวาสมันถึงขั้นขอรอบสองนะแต่ว่าพ่อข้าฝังกลิ่นที่ทำให้รูเพศของข้าไว้ที่ต้นคอ เพื่อกรณีฉุกเฉินที่ข้าต้องแสดงเพศแล้วไม่มีใครเชื่อ อย่างเจ้าฟรานเป็นต้น ที่ต้องฝังไว้ที่ต้นคอเพรามันเป็นจุดที่ใช่ว่าใครจะดมได้ง่ายๆ นอกจากจะจงใจอย่างเดียว

     มันก้มลงดมต้นคอข้าก่อนจะเงยหน้าขึ้นมา แล้วยิ้มอีกรอบ นี่แกจะยิ้มเอาโล่เลยใช่ไหมเนี่ยห๊ะ

    แต่ว่าอลาวดี้

    อลาวเฉยๆข้าแก้แบบทันทีเหมือนตอนที่มีใครมาเรียกข้าว่าเจ้าหญิงนั่นแหละ

    อลาว ริมฝีปากเจ้านั้นช่างนุ่มละมุน กลิ่นกายเจ้าก็ช่างหอมเย้ายวนจนถ้าไม่ตั้งใจดมดีๆก็ไม่ได้กลิ่นแยกเพศของเจ้า ส่วนผิวกายเจ้าก็เนียนนุ่มเสียจนข้าไม่อยากจะผละออกพูดจบมันก็คร่อมข้าอีกรอบ อะไรของแก๊!!!!

    เฮ้ย! ข้าผู้ชายนะ!”ข้ากัดฟันพูดพร้อมดันอกมันสุดแรงผู้หญิงที่มี

    แต่ว่ายามที่ข้าเห็นใบหน้าเจ้าแดงระรื่นแล้ว ข้าก็ห้ามใจไม่ไหว สงสัยข้าจะเปลี่ยนใจไปชอบผู้ชายเสียแล้ว

    เจ้า!!!!”ข้าตวาดลั่น แต่มันกลับยิ้มร่าเหมือนพวกที่แกล้งคนได้สำเร็จ

    องค์หญิงเพคะ องค์หญิงเป็นอะไรหรือเปล่าเพคะข้ากับเจ้าฟรานหันไปมองประตูและหันกลับมามองหน้ากัน เวร! นี่ข้าตะโกนดังไปใช่ไหมเนี่ย

    องค์หญิง!”นางกำนัลที่ไปเอากุญแจสำรองมาไข้ห้องข้าได้สำเร็จพุ่งพรวดเข้ามา

    ข้านั่งบนเตียงด้วยท่าทีปกติเพียงแต่บนตักมีแมวน้อยสีขาวนั่งอยู่เท่านั้น อ๋อ ชื่อของมันน่ะเหรอ ชื่อฟรานไงล่ะ

    ต้องของโทษพวกเจ้าด้วยที่ทำให้พวกเจ้าเป็นกังวล เผอิญว่าข้าเล่นกับแมวนรกตัวนี้แล้วมันกัดข้าน่ะ ข้าก็เลยเผลอตวาดมันออกมัน อย่าได้เป็นกังวลไปเลยข้าเอ่ยก่อนยิ้มให้พวกนาง เฮ้ยนี่ข้าไม่ได้เจ้าฟรานว่านรกนะแต่พวกเจ้าก็รู้ แทบทุกสิ่งที่นี่ต้องมีนรกต่อท้าย

    แต่ คอท่านไปโดนอะไรมาถึงได้แดงขนาดนั้น

     ข้าหันไปมองกระจกทันที อ๊ากกกก ไอ้ฟรานนนนน ไอ้แมวนรก!!!!! อันนี้ข้าด่ามันจริงๆ

    ก็แมวนี่นี่แหละไม่มีอะไรหรอกข้ายิ้มแล้วยกมันขึ้นมาจ้องหน้า มันยังไม่วายเอาปากมันมาชนปากข้า แก(กดเสียงต่ำ)

    ออกไปได้แล้วล่ะข้ายิ้ม(ไล่)ส่ง พวกนางทำท่าอึกอักข้าเลยย้ำอีกครั้งออกไปสิข้ายิ้มส่งอีกหน พวกนางถึงได้ออกไป

    ฟราน~”ข้าเรียกเสียงหวาน จนมันที่ข้าคลายมนตร์เสกเป็นแมวแล้วถึงกับสะดุ้งแล้วมองข้าด้วยสายตาเว้าวอน

    เจ้ามาอยู่ที่นี่ได้ยังไงข้ายังคงยิ้มอยู่ เป็นรอยยิ้มที่ดูดีมากเพราะข้า….หันไปมองกระจกแล้ว

    ข้าก็ดัดแปลงประตูสวรรค์นิดหน่อยมันก็มาที่นี่ได้แล้ว แต่ว่า….

    แต่ว่าอะไรเหรอฟรานที่น่ารักข้าเน้นเสียง

    แต่ว่าประตูสวรรค์นั่นพังไปแล้วครับ อลาวดี้ที่น่ารัก

    ข้ามีหนึ่งคำจะให้เจ้า ฟราน

    รัก ใช่ไหม

    ตาย!!!!

    สรุปแล้วคืนนั้นข้าเลยต้องให้มันนอนกับข้า แต่อย่าเข้าใจผิดไปนะข้าให้มันนอนข้างล่าง ส่วนข้านอนบนเตียงตามเดิม เหอะ อย่าหวังว่ามานอนห้องข้าแล้วจะได้นอนบนเตียงดีๆ ฝันไปเถอะแก

     

    หาว~เช้านี่คราดว่าน่าจะสดใสหากไม่มีเจ้าฟรานมาข้องเกี่ยวกับข้าเมื่อวานนี้ ข้ามุดตัวลงไปใต้ผ้าห่ม หื้อ?เดี๋ยวนี่ผ้าห่มข้าอุ่นขนาดนี้แล้วเหรอเนี่ย ข้าว่า….มันอุ่นเกินจะมีแค่ผ้าห่มข้า ข้าลืมตาโพลงแล้วไอ้ที่อยู่ตรงหน้าข้าคือเจ้า

    ฟราน แล้วใบหน้ามันห่างจากข้าแค่….ไม่ห่างเลยนี่หว่า มันลืมตามองข้าพลางยิ้มจนเห็นลักยิ้ม ข้าเตรียมอ้าปากร้อง แต่มันก็ชิงจูบข้าก่อน ไอ้บ้านี่ขนาดว่าข้าบอกว่าเป็นผู้ชายแล้วนะ!!!

    เป็นไงบางอลาว มอร์นิ่งคิสของข้า

    ยังจะมีหน้าอีกนะไอ้บ้านี่ ข้าลุกพรวดกระโดดไปยืนข้างเตียงพร้อมผ้าห่มที่ดึงมาเพื่อคลุมตัวเองไว้

    ต้องให้ข้าบอกเจ้าอีกี่ครั้ง ว่าข้าเป็นผู้ชาย!

    ถ้าเจ้าบอกแล้วกอดข้าแล้วพูดด้วยนำเสียงสั่นๆพร้อมสายตายั่วยวน ข้าคงเชื่อไอ้นี่มัน อ๊ากกกกก

    ไอ้หน้าด้านระดับสิบดาว ไอ้หื่นเรียกพ่อ ไอ้ชีกอเรียกพี่ ไอ้หน้าไม่อาย ไอ้คนวิปริตผิดเพศ ไอ้ซากอ้อย ไอ้ปลาโลมาขึ้นอืด ไอ้หนอนไม้ไผ่ ไอ้ปลากระโห้โต้คลืน ไอ้แมวหื่นระดับท๊อปคลาส ไอ้กากเทวดา ไอ้….

    เดี๊ยวข้าก็จูบปิดปากซะหรอก

    ข้ายกมือตะครุบปากตัวเอง ทั้งที่ในใจยังอย่างด่ามันอีกมากมาย (แค่นี้ยังไม่พออีกเหรอ)

    ข้าจะไปอาบน้ำข้าสะบัดหน้าเดินไปทางห้องน้ำ

    ข้าอาบด้วยสิยังจะมีหน้า

    ข้าเสกเชือกมามัดมันไว้กับเตียงนอนก่อนเดินเข้าห้องน้ำไป มันยังไม่วายพูดขึ้นมาอีกว่า

    ที่แท้เจ้าก็ชอบแบบซาดิสนี่เอง SM ว่างั้นเถอะ

                    ข้ากำหมัดแน่นก่อนจะกระโดดถีบมันไปเต็มๆ ไอ้ตัวเกินมนุษย์มนาเทวดาผีสางนี่!!!

    “สดชื่นไหมล่ะมอร์นิ่งคิกของข้าน่ะ!!

    หลังจากที่ข้าอาบน้ำพร้อมกับเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จแล้วก็ออกมาแก้เชือกให้เจ้าฟราน มันบิดตัวเล็กน้อยก่อนจะหันหน้ามามองข้า

    อะไรข้าถามเสียงห้วน

    ข้าแค่อยากรู้ว่าเหตุใดเจ้าต้องเป็นผู้หญิงด้วยมันมองข้าแล้วเอียงคอเหมือนจะอ้อนให้ข้าเล่าให้ฟัง

    ข้าถอนหายใจทิ้งก่อนตอบมันไปตามจริงทันทีที่ข้าเกิดมาท่านแม่ก็เสีย พวกผู้หยั่งรู้ของที่นี่เลยทำนายว่าหากข้าไม่เป็นผู้หญิงที่นี่จะต้องดับสูญ ข้าจึงจำต้องเป็นผู้หญิง ตามจริงข้าชื่ออลาว แต่เพราะมันไม่เหมือนผู้หญิงแล้วข้าก็ไม่อยากทิ้งชื่อที่ท่านแม่ตั้งให้เลยเติมดี้เข้าไป จบ

    ถึงว่าเจ้าถึงตวาดทุกคนที่เรียกเจ้าว่าเจ้าหญิง หรือองค์หญิงมันพยักหน้าหงึกๆ

    แล้วนี่เจ้ามีชุดเปลี่ยนหรือเปล่าข้าเปลี่ยนเรื่องเพราะไม่อยากพูดถึงเรื่องนี้แล้วหันไปถามไอ้คนที่ถือวิสาสะนั่งบนเตียงข้า มันดึงห่อผ้าออกมาจากกระเป๋ากางเกงพร้อมยิ้มร่า เจ้าเป็นโดเรม่อนกับกระเป๋าสี่มิติหรือไงฟระ

    บังเอิญที่สุดที่ข้าพกมันมาด้วย

    ไม่ใช่เจ้าเตรียมมันมาหรอกหรือข้าแย้งขึ้น มันสะดุ้งอีกรอบก่อนวิ่งเข้าห้องน้ำไป

    ข้าถอนหายใจทิ้ง นี่ข้าเจอมันแค่สองวันชีวิตข้าสั้นลงกี่ปีเนี่ย ถ้ามันอาบน้ำเสร็จข้าจะพามันไปส่งด่วนที่สุดถึงที่สุดเลย แล้วเสียงเคาะประตูก็ดังขึ้นพร้อมกับข่าวที่ข้าไม่ต้องการที่สุด

    องค์หญิง

    ท่านอลาวดี้

    เอ่อครับ..ท่านอลาวดี้ ทางเจ้าหน้าที่ที่ดูแลประตูแจ้งมาว่าประตูวิญญาณและประตูมนุษย์เกิดเสียกะทันหันพร้อมกันครับ

     ข้าเบิกตาโพลงว่าไงนะ แล้วเรื่องวิญญาณมนุษย์รวมถึงเรื่องยมทูตล่ะตอนนี้ที่จริงข้าห่วงว่าเจ้าฟรานมันจะต้องอยู่กับข้ามากกว่านะเนี่ย

    มียมทูตบางส่วนยังอยู่ด้านบน คาดว่าน่าจะพกขวดเก็บวิญญาณไปด้วยไม่น่าจะเป็นปัญหาเท่าไหร่ขอรับ

     ข้าพยักหน้าก่อนถามต่อแล้วใช้เวลากี่วันถึงซ่อมเสร็จล่ะ

    สามอาทิตย์ขอรับ

      โอ่แค่สาม…..อาทิตย์  บอกได้เลยว่าข้าแทบจะกระอักเลือดเสียตรงนั้น ข้าฝืนยิ้มให้ทหารที่มาบอกข่าวก่อนปิดประตูลง ซิกๆ แงทำเรื่องถึงได้เป็นแบบนี้ พระเจ้าแกล้งข้า พระเจ้าแกล้งข้า!! พระเจ้าก็พ่อเจ้าฟรานใช่ไหม

    เป็นอะไรไปอลาวดี้ ทำไมเจ้าต้องไปนั่งหดหู่เอานิ้วจิ้มมุมห้องแบบนั้น

    ทันทีที่มันเดินออกมาจากห้องน้ำแล้วส่งเสียง ข้าก็พุ่งไปกำชายเสื้อมันทันที

     ฟราน พ่อเจ้าแกล้งข้า พ่อเจ้าแกล้งข้า!”ข้าร้องพร้อมเหงนหน้ามองมัน ไม่อยากยอมรับมันสูงกว่าข้า!

    พ่อข้าไปแกล้งเจ้าตอนไหนมันเลิกคิ้วถาม

    เมื่อครู่มีทหารมาบอกข้าว่าทั้งประตูมนุษย์ทั้งประตูวิญญาณเสีย ซ่อมสามอาทิตย์ ถ้าไม่ใช่พระเจ้าที่เป็นพ่อเจ้าแกล้งข้า แล้วจะเป็นใครไปได้ เอ๊ะ หรือว่าเป็นเจ้าข้าชี้หน้ามัน

    เจ้าพังประตูใช่ไหม?”

    เฮ้ย!ข้าเปล่านะมันปฏิเสธ ข้าผละออกไปนั่งกุมขมับอยู่บนเตียง ข้ารู้สึกได้ว่าตัวเองแผ่รังสีมืดมนออกมาเต็มที่

    ฟราน เจ้าห้ามออกไปไหนเด็ดขาด ในระยะเวลาสามอาทิตย์นี้เจ้าต้องอยู่ในห้องข้า

    ได้ไงล่ะมันแย้งขึ้นมา ก่อนถลาไปหาประตู ข้าถึงกับต้องวิ่งไปห้ามมันไม่ให้เปิดประตูเลยที่เดียว แหมฟังข้าน่าดูเลยนะ

    ฟราน

    ข้าบอกไม่ให้ออก!

    ข้าจะออก!

    ไม่!

    มันไม่เถียงข้าแล้วกระชากประตูออก ไอ้แรงถึกระดับสามโลกนี่ !

     ทันทีที่เปิดประตูออกไปข้าถึงกับอยากกลับไปนั่งเอานิ้วจิ้มมุมห้องอีกหน ที่รออยู่ด้านนอกคือสตาร์และสมายด์ที่ยืนรอข้าอยู่

    ท่านหญิง…..หมอนี่เป็นใครกันสตาร์ถามพลางชี้ที่เจ้าฟราน

    แล้วเหตุใดเขาถึงมาอยู่ในห้องท่านสมายด์ที่ยังยิ้มอยู่แต่ใยน้ำเสียงเจ้าถึงได้กดดันข้าถึงเพียงนั้น

    ข้าน่ะหรือ ข้าก็คือคนรักขะ….

    คนที่จะมาเป็นรองหัวหน้าหน่วยหนึ่งไงหน้าโบกมือไปแปะปากเจ้าฟรานดังเพี๊ยะก่อนจะหัวเราะ โฮะๆหลังจากตอบเสร็จ เจ้าสองคนนั้นนิ่งไปสามวิก่อนจะ

    หา!!!~”โอ๊ยหูข้าดับไปแล้ว แกจะตะโกนหาพระแสงดาบเอ็กซ์คาลิเบอร์เรอะ!

    แต่มันก็น่าตกใจหยอก ตั้งแต่ข้ารับตำแหน่งหัวหน้าหน่วยที่หนึ่งมาเก้าปี….ข้าไม่เคยมีรองหัวหน้าสักคนเดียว

    แล้วทำไม รองหัวหน้าถึงได้ไปอยู่ในห้องท่านสตาร์ที่ดึงสติกลับมาได้ก่อนเอ่ยถาม

    ข้าเรียกเขามาปรึกษาอะไรเล็กๆน้อยๆน่ะ ที่นี่มีห้องว่างไหม?”

    ไม่มี

    นั่นแหละ หมอนี่จะมาอยู่ห้องข้า

    หา!!!

    โอ๊ยยยยย หาเจอกันหรือยังหูข้าจะกู่ไม่กลับแล้วนะข้าตวาดกลับ

    ขออภัย แต่ชายหญิง

    อย่ามาขัดคำสั่งข้าน่า รีบๆไปบอกพวกคนอื่นๆว่าเจ้านี่จะเป็นรองหัวหน้าหน่วยหนึ่งตั้งแต่วันนี้ แต่ถึงแค่ประตูวิญญาณหรือประตูมนุษย์ซ่อมเสร็จเท่านั้นนะ

    เจ้าสองคนนั้นถอนหายใจเฮือกใหญ่และดูเหมือนว่าเจ้าสมายด์อยากจะถามหาเหตุผล แต่ข้าปรายตาไปมองแบบที่อ่านได้ว่าหากถามอะไรอีก ตายแน่อืมก็ประมาณนี้แหละ

    แล้วเจ้าจะมาบอกอะไรข้ากันล่ะ

     พวกมันที่เหมือนเพิ่งนึกถึงธุระของตัวเองได้มองหน้ากันเหมือนจะถามว่าเรามาที่นี่ทำไมกันหว่า

    ข้าจะมาบอกเรื่องการซ่อมประตูทั้งสองน่ะสตาร์เอ่ยขึ้นมา

    จะเสร็จเร็วกว่าเดิมใช่ไหมข้ายิ้มอย่างมีความหวัง

    ช่างเทคนิคได้เช็คอย่างละเอียดแล้ว….

    ^_^

    พบว่าปัญหาที่มีนั้น

    ^_^

    มากเกินกว่าที่คิด เกรงว่าจากที่ต้องซ่อมสามอาทิตย์ จะกลายเป็นเดือนหนึ่งครับ

    ^_^

    เจ้าว่าไงนะ

    เกรงว่า….

    ไม่ต้องซ้ำแล้ว โห่ไม่ ชีวิตข้า ต้องอยู่กับเจ้านี่อีกนานเลยหรือเนี่ยข้าทรุดลงไปกองกับพื้น และเห็นว่าเจ้าไส้เดือนนรกที่คลานผ่านมันช่างดูมีความสุขดีเหลือเกินข้าอยากเป็นไส้เดือน ข้าอยากเป็นไส้เดือน!

    อลาวดี้ที่น่ารักเจ้าเป็นอะไรไปเจ้าตัวต้นเหตุที่ไร้บทมาพักใหญ่ก้มลงมองข้าด้วยแววตาเป็นห่วงเป็นใย

    ไม่ต้องมายุ่งกับข้าเลยฟราน! ข้าเกลียดเจ้า ข้าอยู่กับเจ้าแค่ไม่กี่วันชีวิตจข้าสั้นลงไปเท่าไหร่ไม่รู้ต่อเท่าไหร่ข้าพูดแบบไร้เรียวแรง ข้าชักเข้าใจความรู้สึกพวกที่ไม่ได้ตามข้าไปโลกมนุษย์แล้วสิ มันห่อเหี่ยวแบบนี้นี่เอง

    อลาวดี้

    ข้าบอกให้เจ้าเรียกข้าว่าอะไร ฟราน

    อ๋อ ข้าขอโทษ ที่รักของข้าเป็นอะไรไหม

    ใช่ที่รักของข้า….บ้านแกสิไอ้หัวหงอก! อยากตายนักใช่ไหมน่ะห๊ะ!?”ข้าลุกขึ้นมาบีบคอมัน

    ว่าใครหัวหงอก หัวเจ้ากับหัวข้าก็ไม่ได้ต่างกันนักหรอก!

    อย่างข้าไม่ได้เรียกว่าหงอกเว้ย เขาเรียกสีเงิน!

       แล้วข้าก็เปิดฉากทะเลาะกับเจ้าฟรานชนิดที่เกือบฆ่ากันตายเลยที่เดียว กว่าจะแยกกันได้ก็ต้องถึงมือสมายด์กับสตาร์ที่มาแยกข้ากับเจ้าฟรานไว้ไม่ให้เข้าไปกัดกัน แง่ง! ไม่ใช่แล้ว

    ข้าเดินลากผ้าทำความสะอาดตั้งแต่หน้าประตูห้องโถงจนไปถึงบัลลังค์เช่นทุกที แว้ก! ไม่ใช่แล้ว ข้าแค่เดินไปที่บัลลังค์ตนเองพร้อมพาคลุมยาวได้โล่เหมือนทุกทีเฉยๆ แต่ที่ไม่เหมือนคือไอ้หัวหงอกที่มันเดินอยู่ข้างข้านี่สิ ทันทีที่ซีโร่เห็น

    ฟราน  เจ้าซีโร่ถึงกับอ้าปากค้าง ข้าเลยต้องส่งเสียงในใจให้มันเงียบไปก่อน เจ้าฟรานในตอนนี้เรียกได้ว่าดูดีใช่น้อย ชุดที่มันได้เปลี่ยนเป็นชุดยมทูตที่เป็นเสื้อเนื้อดีสีดำกับกางเกงหนังดำมันเงา และรองเท้าบูทที่ยาวครึ่งแข้ง แถมผ้าคลุมดำยาวเกือบถึงพื้น ข้าอยากใส่ชุดแบบนั้นไมใช่ไอ้ชุดยาวลากดินนี่!

    วันนี้ที่เราจะประกาศก็คงมีเพียงเรื่องเดียวเท่านั้นข้าพูดเสียงนุ่มชนิดที่ห่างไกลกับที่พูดกับเจ้าฟรานหลายกิโลเมตรเลยที่เดียว มันเหล่มองข้าด้วยสายตาประมาณว่าทำไมเวลาพูดกับข้าไม่เป็นแบบนี้บ้าง ข้าแกล้งทำเป็นไม่สนใจก่อนจะมองตรงไปด้านหน้าเช่นทุกที

    เราจะประกาศให้พวกท่านรู้ว่า นับแต่นี้ข้า เซนส์ดิเฮลเลอร์ อลาวดี้ จักขอแต่งตั้ง ไวท์ทีเซอร์ ฟราน เป็นผู้ช่วยข้าตั้งแต่ปัดนี้เป็นต้นไป จนกว่าเราจะไล่ เอ่อ...ข้าหมายถึงปลดเขาออกจากตำแหน่งเองข้าพูดเสียงนุ่มเช่นทุกที ก่อนยิ้มให้ทุกคน

    ไวท์ทีเซอร์ ฟราน เจ้าจงมารับแหวนตัวแทนแห่งรองหัวหน้าหน่วยที่หนึ่งไป

    เจ้าฟรานค่อยเดินมาหยุดตรงหน้าข้าพร้อมยื่นมือซ้ายออกมา

    แหวนหมั้นของเราเหรอ อลาวมันพูดเสียงเบา

    มะเงกเจ้าสิข้ากระซิบตอบ

     แล้วแหวนที่ข้ามอบให้มันก็ต้องกลายเป็นแหวนหมั้นจริงๆเมื่อนิ้วกลางของมันมีแหวนสีขาวอยู่แล้ว!

    ฟราน เจ้าถอดแหวนวงนั้นออกจากนิ้วกลางเจ้าไม่ได้หรือข้าถามเสียงนุ่ม และแน่นอนว่าได้ยินกันทุกคน

    เรียนองค์หญิงเซนส์ดิเฮเลอร์ อลาวดี้ ข้าเกรงว่าจะทำเช่นนั้นไม่ได้ เพราะท่านพ่อข้าสั่งห้ามไม่ให้ถอดแหวนวงนี้ออกเด็ดขาดมันจงใจเน้นคำว่าองค์หญิงเสียเหลือเกินนะ

    ข้าแกล้งยิ้มก่อนจะบีบมือมันชนิดที่ถ้าเป็นพวกไร้ฝีมือคงกระดูกหักไปแล้ว ก่อนที่จะสวมแหวนไว้ที่นิ้วนางข้างซ้ายของมัน ทำไมข้าไม่สวมข้างขวาหรือนิ้วชี้นะเหรอนะเหรอ ตามธรรมเนียม จบไหม?

     ฟรานเงยหน้ามองข้าก่อนจะสวมแหวนให้ที่นิ้วนางข้างซ้ายข้าเช่นกัน เพราะนิ้วกลางข้าก็สวมแหวนสีดำที่ถอดไม่ได้เหมือนกัน ข้าอยากบ้าตายนี่มันความซวยอะไรของข้ากันล่ะเนี่ย ข้ายังคงยิ้มให้มันเหมือนเดิม ไม่ใช่สิ ไม่ใช่ยิ้มให้มัน แต่ยิ่มให้ทุกคนในห้องโถงต่างหากเล่า

    ท่านอลาวดี้ ข้ามีข้อข้องใจขุนนางคนหนึ่งยกมือขึ้นก่อนเอ่ยกับข้า ข้ายิ้มให้เป็นเชิงอนุญาต

    ท่านผู้นั้นเป็นใครกัน เหตุใดเขาจึงได้มาอยู่ในตำแหน่งที่ไม่เคยมีผู้ใดยืนมาก่อนอย่าพูดเหมือนมันวิเศษ วิโศนักสิ เดี๊ยวเจ้าบ้าฟรานก็ได้ใจไปกันใหญ่หรอก แล้วก็เป็นดังคราด เจ้าฟรานที่ยืนอยู่ข้างซ้ายของข้ามันยิ้มกริ่มอย่างภูมิใจในตนเอง อย่ามามากนักได้ไหมเข้าบ้านี่

    หากท่านสงสัย ข้าจะชี้แจงให้ฟังคิดว่าข้าไม่ได้เตรียมเรื่องมางั้นเหรอ รู้จักข้าน้อยเกินไปแล้วพวกเจ้า

    เจ้าฟรานเหงื่อแตกพลั่ก มันคงคิดว่าข้าจะบอกความจริงไปล่ะมั้ง

    เขาผู้นี้ ข้าไปพบที่โลกมนุษย์เมื่อสามวันที่แล้ว เขาเป็นวิญญาณธรรมดาแต่กลับสามารถฆ่าวิญญาณอาฆาตไปได้ตั้งสามตนข้ากรุเรื่องแบบเนียนสนิท ชนิดที่ไม่มีใครสงสัย ยกเว้นเสียแต่เจ้าพวกหน่วยยมทูตที่ออกอาการนิน

    ทรา เฮ้ย! ปรึกษากัน เพราะพวกมันยกโขยงตามข้าไปเสียเกือบหมดแต่ไม่เคยได้ยินเรื่องแบบนี้ ครั้นพอหันไปหาเจ้าซีโร่ที่ยืนหน้าซีดเป็นกระดาษร้อยแกรม เจ้านั่นก็ได้แต่ยิ้มแห้งๆแล้วบอกประมาณว่า เดี๋ยวท่านอลาวดี้จะอธิบายเอง

    จะเก่งดั่งปากว่าเหรอเสียงที่แว่วมาทำเอาข้าแทบจะพุ่งไปไรเดอร์คิกใส่ ไม่ใช่ข้าจะแคร์จิตใจเจ้าฟรานนักนะ แต่ในเมื่อเป็นกลายมาเป็นคนของข้า ข้าก็ไม่ยอมให้ใครมาดูถูกหรอก

    ท่านเดเตล ท่านอยากรู้ถึงเพียงนั้นเชียวหรือมันออกอาการสะดุ้งเล็กเพราะไม่คิดว่าข้าจะได้ยินที่มันพูด

    หากเป็นเช่นนั้นท่านะลองพิสูจญ์ฝีมือกับรองหัวหน้าหน่วยหมาดๆไหมล่ะข้ามั่นใจว่าอย่างน้อยเจ้าชายแดนสวรรค์ฝีมือต้องไม่ด้อยไปกว่าขุนนางของนรกแน่ ดูจากการที่มันรับพลังเวทย์ข้าได้ ดูท่าเจ้าเดเตจะมั่นใจเหลือเกินถึงได้ตอบรับแบบไม่มีลังเล หรือจะกลัวเสียหน้ากันหน่อ                                                                                                                                                                                                                           

    ข้าปลายตามองเจ้าฟรานที่ยังคงยืนยิ้มเสมอต้นเสมอปลายอยู่ เจ้าเป็นสมายด์สองหรือไงกัน มันโค้งตัวให้ข้าเล็กน้อยก่อนจะเรียกอาวุธของมันออกมา และที่ออกมาก็คือ....สามง่าม! นี่เจ้าเป็นคนของสวรรค์จริงหรือเก๊เนี่ย มีชาวสวรรค์ที่ไหนใช่สามง่ามบ้าง

    อย่าชิงตายซะล่ะข้าเอ่ยเบากับเจ้าฟราน

    แหม ไม่ต้องเป็นห่วงข้าขนาดนั้นก็ได้ แม่หญิงมันยังมีหน้ามาเน้นสองหลังอีก

    เริ่มได้

    ทันทีที่ข้าเอ่ยสองคำนั้นไป เจ้าฟรานก็กระโดดลงจากบัลลังค์ของข้าพร้อมพุ่งไปทางเจ้าขุนนางนั่น ฟรานวิ่ง

    ผ่าน เจ้าเดเตลไปก่อนจะไปหยุดนิ่งอยู่ข้างหลังขุนนางปากพล่อยฟุตหนึ่งได้ จากนั้นแค่สามวินาทีร่างของเจ้าขุนนางเดเตลก็...ล้มลงไปกองกับพื้น ข้าเกือบอ้าปากค้างดีที่ข้าเรียกสติได้ทัน แล้วปรับสีหน้าเป็นยิ้มหวานตามเดิม

    พวกท่านเองคงจะเห็นกันแล้วนะ มีใครจะแย้งอะอีกไหม?”

    พวกมันนัดคิวกันส่ายหัวถี่ยิบ เออเห็นแล้วยอมรับว่าสะใจเล็กๆนะเนี่ย

    วันนี้เราคงไม่มีเรื่องอะไรจะแจ้งพวกท่านอีกแล้วล่ะพูดจบข้าก็ยืนขึ้นเต็มความสูง(ที่ยังเตี้ยกว่าเจ้าฟราน) ข้าก้าวเท้าจะเดินลงบันไดสูงริบที่ข้าเกลียด-_-“ทันทีที่ข้าก้าวเท้าเตรีมเดินลง เจ้าบันไดบ้าก็พังครืนลงมา ทำให้ข้าตกที่สูง ซึ่งก็คือบัลลังค์ของข้านี่มันเรื่องบ้าอะไรกันเนี่ย!!

    ********************************TBC.******************************************
     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×