ลำดับตอนที่ #2
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : ความลับของเส้นขอบฟ้า [22%]
ตำนานเก่าแก่เล่าขานกันมา...สงครามระหว่างชนเผ่าแห่งท้องทะเลและชาวท้องฟ้าผู้บูชาสายรุ้ง ความขัดแย้งและความบาดหมางที่ดำเนินสืบทอดกันมารุ่นต่อรุ่นนานนับพันปี การต่อสู้ของเทพผู้ครอบครองผืนทะเล...ลูเกีย และเทพผู้ย้อมท้องฟ้าด้วยแสงสีทั้งเจ็ด...โฮโอ...
"ลุค..." เสียงทุ้มดังกังวาลไปทั่ววิหารสีไข่มุก ห้องโถงโล่งกว้างที่ประดับประดาไปด้วยอัญมณีล้ำค่าหลากสีสัน บรรยากาศเย็นเหยียบของห้วงทะเลลึกแผ่กระจายปกคลุมทั่วสถานที่ หากแต่สำหรับผู้คน...สิ่งมีชีวิตที่อาศัยอยู่ในที่แห่งนี้แล้ว ความมืดมิดของก้นสมุทรคือที่ซ่อนตัวที่ปลอดภัยที่สุด
ร่างสูงโปร่งของชายหนุ่มสาวเท้าเร็วๆ ตรงเข้าไปหาผู้เป็นบิดา เสียงฝีเท้ากระทบกับแผ่นกระเบื้องที่สร้างมาจากเปลือกหอยดังสะท้อนไปทั่วทางเดิน ดวงตาสีเงินทอประกายเรียบเฉยราวกับไม่รับรู้สิ่งใดๆ รอบกาย เรือนผมสีน้ำเงินเข้มเช่นเดียวกับผืนน้ำอันเปรียบเสมือนบ้านช่วยขับให้ผิวของชายหนุ่มดูขาวยิ่งขึ้น
"ท่านพ่อเรียกข้าหรือขอรับ"
ดวงตาสีเดียวกับบุตรชายมองตรงไปยังเจ้าของเสียงในชุดสีครีม ใบหน้ากร้านโลกของผู้สูงวัยเรียบเฉยเช่นเดียวกับผู้สืบสายเลือด คงมีเพียงประกานวาวโรจน์อย่างโกรธแค้นในดวงตาสีเงินที่ทำให้ชายกลางคนไม่ได้แผ่รังสีเย็นยะเยือกออกมาเหมือนอย่างชายหนุ่มที่ยืนอยู่ตรงหน้า
"สภาพของทาง 'เบื้องบน' เป็นอย่างไรบ้าง"
"เพราะสภาพอากาศที่เป็นใจ บวกกับคลื่นทะเลที่โหมพัดเข้ามาทำให้ทางเราเป็นฝ่ายได้เปรียบในการต่อสู้ครั้งนี้ขอรับท่านพ่อ" เอ่ยรายงานด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย
"ดี...เจ้าพวกเผ่าท้องฟ้าจะได้รู้สำนึกกันล่ะทีนี้!!!" ความเกลียดชังและโกรธแค้นปรากฏชัดในน้ำเสียง "ศึกครั้งนี้ก็คงต้องพึ่งเจ้าอย่างเคย...อย่าทำให้ข้าผิดหวังล่ะ"
ชายหนุ่มโค้งศีรษะน้อยๆ รับคำสั่ง "ขอรับท่านพ่อ ถ้าไม่มีอะไร...ข้าขอตัวก่อนนะขอรับ" หมุนตัวกลับ เตรียมจะเดินออกไปจากห้องโถง
หากแต่เสียงที่ดังกังวานขึ้นอีกครั้งจากผู้ที่อยู่บนบัลลังค์ทำให้ร่างสูงหยุดชะงัก
"เดี๋ยว! มีอีกอย่าง...บุตรสาวของผู้นำเผ่าท้องฟ้า...เจ้าอย่าได้คิดจะเข้าไปเกี่ยวข้องด้วยเด็ดขาดล่ะ ลุค!"
ดวงตาสีเงินเบิกกว้างขึ้นเล็กน้อยกับคำพูดของผู้เป็นพ่อ หากแต่เพราะชายหนุ่มกำลังหันหลัง ทำให้อีกฝ่ายไม่เห็นการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นบนใบหน้าคมคาย
"...เข้าใจแล้ว...ขอรับ..."
ทันทีที่ก้าวพ้นประตู ร่างสูงสง่าก็ทรุดลงกับพื้นช้าๆ บทสนทนาเมื่อครู่เล่นย้อนกลับในหัวอีกครั้ง
'บุตรสาวของผู้นำเผ่าท้องฟ้า...เจ้าอย่าได้คิดจะเข้าไปเกี่ยวข้องด้วยเด็ดขาดล่ะ ลุค!!!'
รอยยิ้มขื่นๆ ผุดขึ้นมาบนใบหน้า ประกายของความรวดร้าวฉายชัดในดวงตาสีเงิน คำพึมพำแผ่วเบาราวกับเสียงกระซิบ
"ข้าเข้าใจคำพูดของท่าน...แต่มันสายไปเสียแล้วล่ะครับท่านพ่อ..." ...เพราะหัวใจของข้าเป็นของนางคนนั้นตั้งแต่แรกพบ... หญิงสาวเจ้าของรอยยิ้มที่เจิดจ้ายิ่งกว่าดวงตะวัน "ฮงซิง...ข้า...ควรทำอย่างไรดี..."
"ท่านหญิง!" เสียงเรียกที่ทำให้หญิงสาวเจ้าของเรือนผมสีแดงสว่างเช่นเดียวกับเปลวเพลิงต้องหันกลับไปมอง ประกายงุนงงปรากฏชัดบนใบหน้าหวาน ดวงตาสีทองกวาดมองบุคคลทั้งสามเบื้องหน้า
"เอ็นชู ชุนเร ไรเอ...เกิดอะไรขึ้นงั้นหรือจ๊ะ พวกเจ้าทั้งสามคนถึงได้อยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตาแบบนี้น่ะ" เสียงใสราวกับระฆังแก้วที่ทำให้ผู้ที่ได้รับฟังเคลิ้มตามอย่างง่ายดาย...หากแต่ไม่ใช่กับคนทั้งสามที่ดูแลหญิงสาวตรงหน้ามาตั้งแต่เล็ก
บุรุษทั้งสองหันไปสบตากันเล็กน้อย ก่อนจะถอยหลังออกไปสองสามก้าว ดันให้หญิงสาวเจ้าของเรือนผมสีน้ำทะเลออกมาอยู่ด้านหน้าไปโดนปริยาย การกระทำที่มีความหมายแฝงชัดว่า 'เจ้าเป็นคนพูด'
ชุนเรหันกลับไปส่งค้อนให้ักับเพื่อนชายทั้งสองคนอย่างนึกเคือง เรื่องโยนหน้าที่ให้เธอนี่ สองคนนี้ถนัดนัก... ถอนหายใจหนักๆ รู้สึกลำบากใจกับข่าวที่ต้องเรียนให้หญิงสาวตรงหน้ารับรู้
'ท่านหญิง' ของคนทั้งสามกระพริบตาน้อยๆ กับปฏิกิริยาของผู้ดูแล "มีอะไรก็พูดมาสิ มัวแต่อ้ำอึ้งแบบนี้ใครเขาจะเข้าใจกัน"
"ท่านหญิง...ฟังแล้วทำใจดีๆ นะเจ้าคะ..." เกริ่นเริ่ม ดวงตาสีฟ้าใสมองตรงไปยังท่านหญิงของเธออย่างเป็นห่วง "เผ่าท้องทะเลประกาศสงครามกับเผ่าเราแล้วเจ้าค่ะ ...ส่วนแม่ทัพของอีกฝ่าย..." ปิดตาลง ไม่อยากเลย...ไม่อยากหญิงสาวตรงหน้าได้ยินเลย แต่ก็ไม่อาจปิดบังข้อมูลสำคัญเช่นนี้ได้ "...'ท่านผู้นั้น'...เป็นแม่ทัพของอีกฝ่ายเจ้าค่ะ"
ร่างบางทรุดลงกับพื้นทันทีที่ได้ยินข่าว...หรือจะพูดให้ถูกคือ คำบอกใบ้ถึงใครบางคนที่หลุดออกมาจากปากของพี่เลี้ยงสาว ดวงตาสีทองเบิกกว้าง ก่อนน้ำใสๆ จะเอ่อคลอรอบดวงตา
สิ่งที่เธอและเขาหวาดกลัวเป็นจริงขึ้นมาแล้ว... สงครามระหว่างสองชนเผ่าที่ดำเนินมาถึงจุดแตกหัก...
"ฮึก..." เสียงสะอื้นที่ดังออกมาเบาๆ ทำให้ผู้เป็นพี่เลี้ยงทั้งสามต้องเบือนหน้าหนี ทำไมพวกเขาจะไม่รู้ถึงความสัมพันธ์ระหว่างท่านหญิงน้อยตรงหน้ากับ...ทายาทเพียงคนเดียวของชนเผ่าท้องทะเล...
ความรักที่เกิดขึ้นระหว่างคนทั้งคู่ในเสี้ยววินาทีที่สบตากันและกัน
รอยยิ้มของท่านหญิงน้อยดูอ่อนหวานและเปี่ยมไปด้วยความสุข ทุกครั้งที่ชายหนุ่มคนนั้นมาเยือน เช่นเดียวกับใบหน้าคมคายที่อ่อนโยนขึ้นทุกครั้งที่มองเห็นร่างบาง
"...ทำไงดี... นี่ขนาดท่านหญิงยังไม่ได้รู้ถึงคำสั่งของนายท่านเลยนะ" เสียงทุ้มกระซิบอย่างเครียดๆ ดวงตาสีแดงเช่นเดียวกับลาวาอันร้อนระอุที่คุกกรุ่นของภูเขาไฟที่พร้อมจะประทุได้ทุกเมื่อ มือหนาถูกยกขึ้นมาทึ้งผมสีน้ำตาลเข้มของตัวเองแรงๆ อาการที่ทำให้เพื่อนหนุ่มต้องถอนหายใจออกมาแรงๆ แล้วส่ายหน้าไปมา ดวงตาสีเหลืองดูจะหน่ายใจอยู่ไม่น้อยกับการแสดงออกของเพื่อน
"เอ็นชู...ข้าว่าเจ้าสำรวมหน่อยจะดีกว่ามั้ง"
"พวกเจ้าทั้งคู่นั่นล่ะ!" หญิงสาวเพียงหนึ่งเดียวในบรรดาพี่เลี้ยงทั้งสามของท่านหญิงหันไปถลึงตาใส่เพื่อนที่เริ่มโต้เถียงกันอย่างเบาๆ ด้วยสายตาเย็นเหยียบที่ทำให้ชายหนุ่มทั้งสองปิดปากสนิททันที
"ลุค..." เสียงทุ้มดังกังวาลไปทั่ววิหารสีไข่มุก ห้องโถงโล่งกว้างที่ประดับประดาไปด้วยอัญมณีล้ำค่าหลากสีสัน บรรยากาศเย็นเหยียบของห้วงทะเลลึกแผ่กระจายปกคลุมทั่วสถานที่ หากแต่สำหรับผู้คน...สิ่งมีชีวิตที่อาศัยอยู่ในที่แห่งนี้แล้ว ความมืดมิดของก้นสมุทรคือที่ซ่อนตัวที่ปลอดภัยที่สุด
ร่างสูงโปร่งของชายหนุ่มสาวเท้าเร็วๆ ตรงเข้าไปหาผู้เป็นบิดา เสียงฝีเท้ากระทบกับแผ่นกระเบื้องที่สร้างมาจากเปลือกหอยดังสะท้อนไปทั่วทางเดิน ดวงตาสีเงินทอประกายเรียบเฉยราวกับไม่รับรู้สิ่งใดๆ รอบกาย เรือนผมสีน้ำเงินเข้มเช่นเดียวกับผืนน้ำอันเปรียบเสมือนบ้านช่วยขับให้ผิวของชายหนุ่มดูขาวยิ่งขึ้น
"ท่านพ่อเรียกข้าหรือขอรับ"
ดวงตาสีเดียวกับบุตรชายมองตรงไปยังเจ้าของเสียงในชุดสีครีม ใบหน้ากร้านโลกของผู้สูงวัยเรียบเฉยเช่นเดียวกับผู้สืบสายเลือด คงมีเพียงประกานวาวโรจน์อย่างโกรธแค้นในดวงตาสีเงินที่ทำให้ชายกลางคนไม่ได้แผ่รังสีเย็นยะเยือกออกมาเหมือนอย่างชายหนุ่มที่ยืนอยู่ตรงหน้า
"สภาพของทาง 'เบื้องบน' เป็นอย่างไรบ้าง"
"เพราะสภาพอากาศที่เป็นใจ บวกกับคลื่นทะเลที่โหมพัดเข้ามาทำให้ทางเราเป็นฝ่ายได้เปรียบในการต่อสู้ครั้งนี้ขอรับท่านพ่อ" เอ่ยรายงานด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย
"ดี...เจ้าพวกเผ่าท้องฟ้าจะได้รู้สำนึกกันล่ะทีนี้!!!" ความเกลียดชังและโกรธแค้นปรากฏชัดในน้ำเสียง "ศึกครั้งนี้ก็คงต้องพึ่งเจ้าอย่างเคย...อย่าทำให้ข้าผิดหวังล่ะ"
ชายหนุ่มโค้งศีรษะน้อยๆ รับคำสั่ง "ขอรับท่านพ่อ ถ้าไม่มีอะไร...ข้าขอตัวก่อนนะขอรับ" หมุนตัวกลับ เตรียมจะเดินออกไปจากห้องโถง
หากแต่เสียงที่ดังกังวานขึ้นอีกครั้งจากผู้ที่อยู่บนบัลลังค์ทำให้ร่างสูงหยุดชะงัก
"เดี๋ยว! มีอีกอย่าง...บุตรสาวของผู้นำเผ่าท้องฟ้า...เจ้าอย่าได้คิดจะเข้าไปเกี่ยวข้องด้วยเด็ดขาดล่ะ ลุค!"
ดวงตาสีเงินเบิกกว้างขึ้นเล็กน้อยกับคำพูดของผู้เป็นพ่อ หากแต่เพราะชายหนุ่มกำลังหันหลัง ทำให้อีกฝ่ายไม่เห็นการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นบนใบหน้าคมคาย
"...เข้าใจแล้ว...ขอรับ..."
ทันทีที่ก้าวพ้นประตู ร่างสูงสง่าก็ทรุดลงกับพื้นช้าๆ บทสนทนาเมื่อครู่เล่นย้อนกลับในหัวอีกครั้ง
'บุตรสาวของผู้นำเผ่าท้องฟ้า...เจ้าอย่าได้คิดจะเข้าไปเกี่ยวข้องด้วยเด็ดขาดล่ะ ลุค!!!'
รอยยิ้มขื่นๆ ผุดขึ้นมาบนใบหน้า ประกายของความรวดร้าวฉายชัดในดวงตาสีเงิน คำพึมพำแผ่วเบาราวกับเสียงกระซิบ
"ข้าเข้าใจคำพูดของท่าน...แต่มันสายไปเสียแล้วล่ะครับท่านพ่อ..." ...เพราะหัวใจของข้าเป็นของนางคนนั้นตั้งแต่แรกพบ... หญิงสาวเจ้าของรอยยิ้มที่เจิดจ้ายิ่งกว่าดวงตะวัน "ฮงซิง...ข้า...ควรทำอย่างไรดี..."
"ท่านหญิง!" เสียงเรียกที่ทำให้หญิงสาวเจ้าของเรือนผมสีแดงสว่างเช่นเดียวกับเปลวเพลิงต้องหันกลับไปมอง ประกายงุนงงปรากฏชัดบนใบหน้าหวาน ดวงตาสีทองกวาดมองบุคคลทั้งสามเบื้องหน้า
"เอ็นชู ชุนเร ไรเอ...เกิดอะไรขึ้นงั้นหรือจ๊ะ พวกเจ้าทั้งสามคนถึงได้อยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตาแบบนี้น่ะ" เสียงใสราวกับระฆังแก้วที่ทำให้ผู้ที่ได้รับฟังเคลิ้มตามอย่างง่ายดาย...หากแต่ไม่ใช่กับคนทั้งสามที่ดูแลหญิงสาวตรงหน้ามาตั้งแต่เล็ก
บุรุษทั้งสองหันไปสบตากันเล็กน้อย ก่อนจะถอยหลังออกไปสองสามก้าว ดันให้หญิงสาวเจ้าของเรือนผมสีน้ำทะเลออกมาอยู่ด้านหน้าไปโดนปริยาย การกระทำที่มีความหมายแฝงชัดว่า 'เจ้าเป็นคนพูด'
ชุนเรหันกลับไปส่งค้อนให้ักับเพื่อนชายทั้งสองคนอย่างนึกเคือง เรื่องโยนหน้าที่ให้เธอนี่ สองคนนี้ถนัดนัก... ถอนหายใจหนักๆ รู้สึกลำบากใจกับข่าวที่ต้องเรียนให้หญิงสาวตรงหน้ารับรู้
'ท่านหญิง' ของคนทั้งสามกระพริบตาน้อยๆ กับปฏิกิริยาของผู้ดูแล "มีอะไรก็พูดมาสิ มัวแต่อ้ำอึ้งแบบนี้ใครเขาจะเข้าใจกัน"
"ท่านหญิง...ฟังแล้วทำใจดีๆ นะเจ้าคะ..." เกริ่นเริ่ม ดวงตาสีฟ้าใสมองตรงไปยังท่านหญิงของเธออย่างเป็นห่วง "เผ่าท้องทะเลประกาศสงครามกับเผ่าเราแล้วเจ้าค่ะ ...ส่วนแม่ทัพของอีกฝ่าย..." ปิดตาลง ไม่อยากเลย...ไม่อยากหญิงสาวตรงหน้าได้ยินเลย แต่ก็ไม่อาจปิดบังข้อมูลสำคัญเช่นนี้ได้ "...'ท่านผู้นั้น'...เป็นแม่ทัพของอีกฝ่ายเจ้าค่ะ"
ร่างบางทรุดลงกับพื้นทันทีที่ได้ยินข่าว...หรือจะพูดให้ถูกคือ คำบอกใบ้ถึงใครบางคนที่หลุดออกมาจากปากของพี่เลี้ยงสาว ดวงตาสีทองเบิกกว้าง ก่อนน้ำใสๆ จะเอ่อคลอรอบดวงตา
สิ่งที่เธอและเขาหวาดกลัวเป็นจริงขึ้นมาแล้ว... สงครามระหว่างสองชนเผ่าที่ดำเนินมาถึงจุดแตกหัก...
"ฮึก..." เสียงสะอื้นที่ดังออกมาเบาๆ ทำให้ผู้เป็นพี่เลี้ยงทั้งสามต้องเบือนหน้าหนี ทำไมพวกเขาจะไม่รู้ถึงความสัมพันธ์ระหว่างท่านหญิงน้อยตรงหน้ากับ...ทายาทเพียงคนเดียวของชนเผ่าท้องทะเล...
ความรักที่เกิดขึ้นระหว่างคนทั้งคู่ในเสี้ยววินาทีที่สบตากันและกัน
รอยยิ้มของท่านหญิงน้อยดูอ่อนหวานและเปี่ยมไปด้วยความสุข ทุกครั้งที่ชายหนุ่มคนนั้นมาเยือน เช่นเดียวกับใบหน้าคมคายที่อ่อนโยนขึ้นทุกครั้งที่มองเห็นร่างบาง
"...ทำไงดี... นี่ขนาดท่านหญิงยังไม่ได้รู้ถึงคำสั่งของนายท่านเลยนะ" เสียงทุ้มกระซิบอย่างเครียดๆ ดวงตาสีแดงเช่นเดียวกับลาวาอันร้อนระอุที่คุกกรุ่นของภูเขาไฟที่พร้อมจะประทุได้ทุกเมื่อ มือหนาถูกยกขึ้นมาทึ้งผมสีน้ำตาลเข้มของตัวเองแรงๆ อาการที่ทำให้เพื่อนหนุ่มต้องถอนหายใจออกมาแรงๆ แล้วส่ายหน้าไปมา ดวงตาสีเหลืองดูจะหน่ายใจอยู่ไม่น้อยกับการแสดงออกของเพื่อน
"เอ็นชู...ข้าว่าเจ้าสำรวมหน่อยจะดีกว่ามั้ง"
"พวกเจ้าทั้งคู่นั่นล่ะ!" หญิงสาวเพียงหนึ่งเดียวในบรรดาพี่เลี้ยงทั้งสามของท่านหญิงหันไปถลึงตาใส่เพื่อนที่เริ่มโต้เถียงกันอย่างเบาๆ ด้วยสายตาเย็นเหยียบที่ทำให้ชายหนุ่มทั้งสองปิดปากสนิททันที
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น