ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    This love [myungyeol] มยองยอล

    ลำดับตอนที่ #2 : CH2: กีฬาสัมพันธ์ ??

    • อัปเดตล่าสุด 22 ก.ค. 57


                      THIS LOVE CH:2






                      “เงียบ!” เสียงที่ดังขึ้นทำให้บรรยากาศที่ดูวุ่นวายเมื่อครู่ดูสงบลงอย่างทันตา เหล่านักเรียนที่อยู่ในห้องโถงประชุมต่างเงียบและหาที่เหมาะสำหรับการนั่งฟังการประชุมในคราวนี้ นั่นคงไม่พ้นจัดแถวตามห้องนั่นแหละ

                    “เอาล่ะ ทุกคนฟัง ที่ผมเรียกทุกคนมาในวันนี้เพราะมีเรื่องจะแจ้งให้ทุกคนทราบ” อาจารย์หัวหน้าประจำสายชั้นเกรดสิบเอ็ดพูดขึ้น

                    “ปีนี้ดูจะมีสิ่งพิเศษสำหรับพวกคุณทุกคน เนื่องจากทางอาจารย์เห็นพ้องต้องกันแล้วว่าพวกคุณทุกคนมีการจำแนกแบ่งพวกกันชัดเจนเกินไป” โรงเรียนแห่งนี้เป็นโรงเรียนหนึ่งที่สนับสนุนทั้งการเรียนและกีฬาและมีการแบ่งห้องเรียนกันอย่างชัดเจน แต่ยังไงห้องเรียนของนักกีฬาก็มีน้อยกว่าอยู่ดี และนั่นเป็นผลให้เหล่านักกีฬาก็จะสนิทกันเหมือนกับพวกเด็กเรียนก็จะสนิทกัน แต่การจะเห็นเด็กเรียนกับนักกีฬาเดินด้วยกันน่ะหรอ ดูเหมือนจะเป็นการคาดหวังเกินไปน่ะสิ

                    “ทางโรงเรียนจึงจะงานกีฬาประสานสัมพันธ์ระหว่างสายชั้นเกิดขึ้น โดยจะแบ่งเป็นสีโดยการสุ่มจากคอมพิวเตอร์ และแน่นอนว่านักเรียนทุกคนต้องมีส่วนร่วมในการแข่งขันกีฬาอย่างน้อยหนึ่งชนิด” เหล่านักเรียนหันไปกระซิบกระซาบกันยกใหญ่เมื่อได้ยินเสียงประกาศนั้น และแน่นอนมีทั้งพวกที่ยินดีและยินร้ายกับประกาศนี้ แต่ตอนนี้คนที่เหมือนจะตกเข้าไปในห้วงของความคิดตัวเองไปแล้วนั่นก็คือ ... ซองยอล ใช่ว่าเขาเล่นกีฬาอะไรไม่เป็นนะ แต่เขาไม่เคยเล่นกีฬาอะไรได้ดีเลยแม้แต่อย่างเดียว เขาควรทำไงดี !!

     

     

     

     

                    “ซองยอล! มึงอยู่สีไหนว่ะ” เสียงของอูฮยอนดังเข้ามากระทบโสตประสาตของซองยอลที่ตั้งใจอ่านหนังสืออยู่อย่างทันใด เขาเกลียดงานกีฬาสัมพันธ์นี้ที่สุด ซองยอลคนนี้ อยากจะบ้าตาย แม้แต่อูฮยอนก็ยังไม่เข้าใจเขาสินะ

                    “”สีชมพู” ซองยอลตอบส่งๆ แล้วตั้งใจอ่านหนังสือต่อไป ไม่พูดถึงมันคงจะทำให้ซองยอลอารมณ์ดีกว่านี้

                    “อ๊ากกกก! อยู่คนล่ะสีกับกู กูเสียใจ กูอยู่สีม่วง แล้วมึงลงกีฬาอะไรว่ะ”

                    “บาส”

                    “ฮ่าฮ่าฮ่า เขาบังคับมึงลงสิยนะ กูบอกแล้วอย่าเกิดมาสูง” อูฮยอนรู้ดีว่าเพื่อนของเขาเล่นกีฬาห่วยแค่ไหน ไม่ว่าจะชนิดไหนก็ตาม และนี่ก็คงไม่พ้นโดนบังคับให้ลงแน่ๆ นึกแล้วอดขำไม่ได้

                    “กูผิดว่างั้น?” ซองยอลล่ะความสนใจจากหนังสือมามองหน้าอย่างหาเรื่องอูฮยอน นี่เขาเกิดมาสูงแล้วผิดตรงไหน

                    “ไม่ผิดๆ ไม่โกรธนะๆ ว่าแต่สีมึงมีนักกีฬาเยอะมั้ย ไม่ใช่ดิ คือกูจะถามว่ามีนักบาสเยอะมั้ยสีมึงอ่ะ” อูฮยอนรู้ว่าทางโรงเรียนต้องจัดให้นักกีฬาไปแต่ล่ะสีเท่าๆกัน แต่ใครจะได้ตัวนักกีฬาประเภทไหนมากน้อยก็อีกเรื่อง

                    “ถ้าเยอะกูจะได้ลงมั้ยล่ะ”

                    “นั่นดิ มึงพูดมีเหตุผล แต่สีกูมีนักบอลตั้งเยอะ ทำไมกูยังได้ลงเลยว่ะ” ประโยคหลังเหมือนอูฮยอนจะบ่นกับตัวเองมากกว่า

                    “อันนั้นมันเรื่องของสีมึง”

                    “แล้วเขานัดมึงไปซ้อมเมื่อไร”

                    “เย็นนี้ เห็นว่าจะซ้อมรวมมันทุกสีอ่ะ ที่ไม่มี”

                    “อ่อ ไงซ้อมเสร็จก็โทรหากูล่ะกัน กูก็จะไปซ้อมบอลเหมือนกัน”

     

     

     

     

                    โรงยิมของโรงเรียน ณ ตอนนี้กลายเป็นสถานที่ฝึกซ้อมสำหรับนักบาสเกตบอลสำหรับนักกีฬาสีของสีต่างๆไปเรียบร้อยแล้ว และมันก็จริงอย่างที่ซองยอลบอกอูฮยอน สีชมพูดูเกือบจะไร้เงาของนักบาสเลยทีเดียว ความยุติธรรมในการจัดนักกีฬามันอยู่ตรงไหนน ซองยอลได้แต่คิดในใจ เหล่านักกีฬาของสีอื่นๆได้เฝ้าแต่ฝึกชู้ตลูกบาสกันยกใหญ่ เหลือก็แต่สีชมพูที่ได้แค่พื้นที่เลี้ยงลูกก็ดีแค่ไหนแล้ว ซองยอลที่เลี้ยงลูกบาสไปมาอย่างเงอะๆงะๆแถวริมสนามบาสพลันสายตาก็ไปสบเข้ากับสายตาคมคู่หนึ่งที่ยืนเล่นบาสอยู่กลางสนาม สายตานั้นที่ซองยอลจำได้ดีว่ามันเคยทำให้เขาหน้าร้อนผ่าวมากแค่ไหน รวมถึงตอนนี้ก็ด้วย หมอนั่นเด่นชะมัด .. ซองยอลได้แต่คิดอยู่อย่างนั้น

                    “โอ๊ย!” บางทีซองยอลอาจจะให้ความสนใจกับสายตาคมนั่นจนเกินไป จนไม่ทันได้รู้ตัวว่ามีลูกบาสลอยมาหาตัวเอง จึงเป็นผลให้เมื่อโดนแรงอัดของลูกบาสเข้าจึงล้มลงไปอย่างไม่ทันตั้งตัว

                    “โทษทีครับ” ซองยอลไม่รู้ว่าเป็นเสียงใคร แต่ก็คงเป็นคนที่เอาลูกบาสมากระแทกหัวเขานั่นแหละ

                    “ซองยอล! นายเป็นอะไรมากมั้ย ขึ้นไปนั่งข้างบนดีกว่านะ” เสียงเพื่อนคนหนึ่งของซองยอลดังก่อนจะพยุงร่างของซองยอลพร้อมกับเพื่อนอีกคนไปนั่งบนอัฒจรรย์ด้านบน เพราะกลัวซองยอลจะโดนลูกหลงอีก

                    “ขอบใจนะ” ซองยอลกล่าวขอบคุณเพื่อนคนนั้นพร้อมกับส่งยิ้มให้ ก่อนที่เพื่อนคนนั้นจะลงไปเล่นบาสตามเดิม ซองยอลได้แต่ก้มหัวแล้วลูบหัวทุยๆของตัวเองเพียงหวังว่ามันจะหายปวด แต่เหมือนมันจะไม่ช่วยอะไรเลย

                    “เล่นบาสไม่เป็นสินะ” ซองยอลเพิ่งรับรู้ได้ว่ามีคนมานั่งข้างเมื่อได้ยินเสียงข้างๆดังขึ้น เขาจึงเงยหน้าขึ้นก่อนที่เขาจะพบกับเจ้าของใบหน้าที่เหมือนจะเป็นต้นเหตุของอุบัติเหตุครั้งนี้ แน่นอนว่าพวกเขาไม่ได้อยู่สีเดียวกัน ว่าแต่ทำไมหมอนี่โผล่มาไวขนาดนี้เนี่ย

                    “มะ..มยองซู” ก็หมอนี่ทำให้ซองยอลสตั้นไปนี่หน่า ซองยอลจะถือว่านั่นเป็นความผิด

                    “อ่าว รู้จักชื่อฉันแล้วหรอ” ใช่ มยองซูจำได้ว่าใครที่บอกว่าไม่รู้จักเขาที่บนรถเมล์นั่น

                    “อะ..อ่อ ใช่ ฉันรู้จักนายแล้ว มยองซู คิม มยองซู”

                    “นายคงเป็นพวกเด็กเรียนสินะ”

                    “ใช่ ฉันเกลียดกีฬาพวกนี้จะตาย” ซองยอลว่าพลางเบะปากราวกับเด็กน้อยไม่ชอบกินผักยังไงยังงั้น

                    “ฉันก็เกลียดหนังสือพวกนั้นเหมือนกัน”

                    “ย่าห์!! หนังสือมีแต่ความรู้นายจะเกลียดทำไม” เสียงที่ดังกว่าปกติ ถึงมันจะไม่ดังมาก แต่มันก็ทำให้มยองซูสะดุ้งไปเล็กน้อย ซองยอลคงรักหนังสือมากจริงๆสินะ

                    “นายยังเกลียดกีฬาของฉันได้เลย แล้วนี่นายก็มาเล่นบาสเนี่ยนะ เดาได้เลยว่าทีมนายต้องได้ที่โหล่แน่”

                    “มยองซู! ทีมฉันต้องได้ที่ดีกว่านั้น “

                    “ที่รองโหล่?” มยองซูว่าพลางยักคิ้วกวนใส่ คนตรงหน้าเขานี่น่าแกล้งชะมัด

                    “ที่ดีกว่าทีมนายล่ะกัน!

                    “แล้วถ้าทีมฉันได้อันดับดีกว่าทีมนายล่ะ?

                    “ฉันก็แพ้ไง”

                    “ฉันว่าเราควรมีบทลงโทษสำหรับคนแพ้หน่อยมั้ย”

                    “...?

                    “ถ้าทีมใครได้อันดับน้อยกว่ากันคนนั้นต้องมาเป็นเบ้ให้กับฝ่ายชนะหนึ่งวัน”

                    “เอางั้นก็ได้ แล้วนายคอยดู คิมมยองซู แล้วนายจะได้เป็นเบ้สมใจ” มยองซูคิดขำคนตรงหน้าที่พูดอะไรก็คล้อยตามไปซะหมด นี่เขากำลังหลอกเด็กอยู่รึเปล่านะ เพราะบางทีซองยอลอาจจะไม่รู้อะไรอีกอย่าง รึบางทีอาจจะลืมไปว่ามยองซูน่ะ นักบาสของโรงเรียนเลยทีเดียว และไหนจะคนในสีมยองซูอีก นักบาสเกือบทั้งนั้น งานนี้ดูก็รู้ว่าใครได้เปรียบเสียเปรียบ

                    “ฉันจะคอยดูนาย...”

                    “อี ซองยอล”






    TBC.



    Talk... ไรต์ไม่มีไรพูดมากนะค่ะ เป็นคนพูดไม่ค่อยเก่งง อิอิ ที่จริงคือไม่อยากสปอยไรมาก อยากให้รีดเดอร์ทุกคนสนุกกับเรื่องนี้นะ รักคนอ่านทุกคนนน แต่ที่รักที่สุดสำหรับคนคอมเม้นท์นะค่ะ 


    เม้นเพื่อเป็นกำลังให้ไรต์ตัวน้อยๆคนนี้ด้วยนะค่ะ 
    ขอบคุณทุกคอมเม้นทุกคนค่ะ โหวตเรื่องนี้ด้วยก็ดีนะค่ะ 
    รักรีดเดอร์ จุ๊บๆๆ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×