คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : CH1: ครั้งแรก
คุณคิดว่าอะไรคือจุดเริ่มต้นของความรักล่ะ...?
บรรยากาศยามเช้าของโรงเรียนมัธยมเต็มไปด้วยเสียงจอแจของเด็กนักเรียนที่มาถึงโรงเรียนอยู่ก่อนหน้ารวมไปถึงเหล่านักเรียนที่เพิ่งมาถึงอย่าง..ซองยอล
“อ้าว ไอ่ยอล วันนี้มึงมาช้านะ” อูฮยอนเพื่อนร่วมชั้นของซองยอลที่มาถึงก่อนหน้าเขาอยู่แล้วกล่าวทักขึ้น มันดูผิดปกติไปนิดนึงที่คนอย่างอี ซองยอลจะมาโรงเรียนช้ากว่าอูฮยอนน่ะ
“กูตื่นสายน่ะ” ซองยอลเดินเข้ามาในห้องเรียนพร้อมกับวางกระเป๋าลงบนโต๊ะ ก่อนจะนั่งลงข้างๆอูฮยอน
“อ่านหนังสืออีกล่ะสิมึง” อูฮยอนรู้ได้ทันทีว่าอะไรคือสาเหตุที่ทำให้เพื่อนตัวดีของเขาต้องตื่นสาย ก็ซองยอลน่ะเด็กเรียนจะตาย วันไหนไม่ได้อ่านหนังสือคงเป็นบ้าตายแน่ๆ แต่นี่เพิ่งเปิดเทอมได้อาทิตย์กว่าๆเองนะ จะหักโหมไปไหน
“ก็ตามนั้นแหละมึง กูไม่ค่อยเข้าใจอ่ะ”
“แหม นี่ถ้ามึงไม่ค่อยเข้าใจ กูคงเป็นควายที่ไม่มีวันเข้าใจล่ะมึง”
“มึงก็เกินไป”
“ก็มันจริงนี่หว่า วันๆอ่านแต่หนังสือ ระวังจะได้แต่งงานกับหนังสือนะมึง” อูฮยอนอดแซวไม่ได้ ก็ซองยอลใช่ว่าจะไม่มีคนมาจีบที่ไหน แต่ตรงกันข้ามเพื่อนของเขากลับมีคนเข้ามาขายขนมจีบไม่ขาดสายเลยต่างหาก แต่ดูเหมือนว่า ซองยอลจะสนใจหนังสือมากกว่าสิ่งใดในโลกซะอีก
“นี่มึงแช่งกูอยู่หรือเปล่า”
“กูเปล่านะ กูก็แค่พูดจริง กูว่าพี่ซองกยูก็โอเคนะ จีบมึงตั้งนานเด็กเรียนเหมือนมึงด้วย” ซองกยูเป็นหนึ่งในคนที่เข้ามาจีบซองยอล ถึงจะไม่ได้จีบอย่างเปิดเผย แต่ใครๆก็รู้กันอยู่ดีว่าคนที่ชื่อซองกยูคิดไม่ซื่อกับซองยอลแน่นอน
“เอาอีกแล้วนะมึง กูบอกแล้วไงว่ากูกับพี่กยูเป็นแค่พี่น้องกันต้องให้กูย้ำกี่ครั้ง” ซองยอลพูดพร้อมกับใบหน้าที่เบื่อหน่าย เขาจำไม่ได้แล้วล่ะว่าตอบคำถามนี้เป็นรอบที่เท่าไรแล้ว
“นี่มึงแกล้งโง่ใช่มั้ย เขาจีบมึงนี่มึงไม่รู้ตัว?” ทำไมซองยอลจะไม่รู้ แต่เขาไม่ได้คิดอะไรกับกยูฮยองจริงๆนี่หน่า
“โอเคๆ กูรู้ก็ได้ พอใจยัง? กูจะอ่านหนังสือแล้ว” ซองยอลว่าจบก็คว้าหนังสือในกระเป๋าออกมาอ่าน อูฮยอนได้แต่มองเพื่อนเขาที่ตอนนี้ก้มหน้าอ่านหนังสืออย่างตั้งใจ นี่มันอย่างได้แฟนเป็นสิ่งไม่มีชีวิตอย่างหนังสือจริงๆสินะ อูฮยอยล่ะเพลีย
“ไอ่ยอล วันนี้กูไม่กลับบ้านพร้อมมึงนะ” อูฮยอนกล่าวบอกเพื่อนสนิทของตนพร้อมกับค่อยๆเก็บของใส่ในกระเป๋า
“อะไรว่ะมึง! นี่มึงทิ้งกูอ่อ แล้วทำไมเพิ่งมาบอกกู” มันดูเป็นเรื่องปกติไปซะแล้วกับการที่อูฮยอนจะต้องกลับบ้านพร้อมกับซองยอล ก็บ้านของสองคนนี้ไปทางเดียวกันนี่น่า มันก็เลยกลายเป็นเรื้องไม่ปกติสำหรับซองยอลไปซะแล้วกับการกลับบ้านคนเดียว
“กูไม่ได้ตั้งใจจะทิ้งมึงนะ แต่พวกสภานักเรียนเขาเรียกประชุมนี่หว่า แล้วก็เพิ่งไลน์มาบอกกูเมื่อกี้เอง แล้วก็เห็นว่านานด้วย” อูฮยอนอธิบายถึงเหตุผล เมื่อปีที่แล้วได้มีการเลือกตั้งสภานักเรียน และแน่นอนว่าฝ่ายอูฮยอนเป็นฝั่งที่ได้รับคะแนนสูงที่สุด อูฮยอนเลยได้กลายเป็นสภานักเรียนของปีนี้ไปโดยปริยาย และนี่อาจจะทำให้ซองยอลได้กลับบ้านคนเดียวบ่อยขึ้นล่ะแหละ
“นี่มึงพูดจริง?”
“แล้วกูจะโกหกทำไม แล้วมึงก็เดินไปดีๆล่ะ อย่ามัวแต่อ่านหนังสือจนไม่ได้กลับบ้านล่ะมึง” ถึงแม้จะเหมือนเป็นคำพูดแซวเล่นๆ แต่จริงๆแล้วอูฮยอนก็อดจะเป็นห่วงเพื่อนคนนี้ไม่ได้จริงๆ เพราะมีครั้งหนึ่งที่เขาให้ซองยอลกลับบ้านคนเดียว แต่หมอนี่เอาแต่อ่านหนังสือจนไม่รู้ว่ารถเมล์สายที่กลับบ้านตัวเองเลยผ่านไปแล้ว จนต้องโทรเรียกเขาให้มารับ ซองยอลน่ะเก่งแต่เรื่องวิชาการจริงๆเลย
“กูรู้แล้วน่า แต่นี่มึงจะปล่อยให้กูกลับบ้านเองจริงๆน่ะ? เนี่ยกูอ่านหนังสือที่ห้องสมุดเสร็จ มึงก็ประชุมเสร็จล่ะมั้ง”
“เสร็จอะไรล่ะมึง กลับถึงบ้านเมื่อไรโทรบอกกูดัวย เข้าใจมั้ย”
“โอเคๆงั้น รีบๆไปประชุมเหอะมึง” ซองยอลแกล้งโบกมือไล่อูฮยอน ก่อนที่อูฮยอนจะเดินออกห้องไป นี่อี ซองยอลต้องกลับบ้านคนเดียวจริงๆน่ะหรอ
บริเวณที่นั่งรอป้ายรถเมล์ของโรงเรียนที่เคยคึกคักกับมาเงียบสงบอีกครั้งเมื่อเวลาล่วงเลยมาจนเย็น จนเรียกได้ว่าเกือบจะไม่มีเด็กนักเรียนหลงเหลืออยู่แล้ว ซองยอลที่มัวแต่ก้มอ่านหนังสือเมื่อรับรู้ได้ว่าหน้ากระดาษหนังสือที่เขาอ่านอยู่เริ่มจะมืดลงน้อยๆ นั่นเป็นสัญญาณบอกว่าเขาควรเงยหน้าขึ้นมาสนใจกับรถเมล์ได้แล้ว และนั่นก็เป็นเวลาที่รถประจำทางที่เขาใช้กลับบ้านผ่านมาพอดี ซองยอลเหยียดตัวเต็มความสูงก่อนจะรีบวิ่งขึ้นรถ แล้วหาที่นั่งที่ท้ายสุดของรถติดหน้าต่าง นั่นมันที่โปรดของเขานี่หนา
พรึด!
สัมผัสที่รับรู้ได้ว่ามีคนมานั่งลงข้างๆทำให้ซองยอลอดที่จะหันไปมองไม่ได้ และนั่นก็ทำให้ซองยอลอดที่จะมองต่อไม่ได้ ด้วยใบหน้าได้รูปทั้งตา จมูก ปาก ดูดีไปจนซองยอลไม่อาจล่ะสายตาไปได้ แต่เขาอาจจะจ้องคนข้างๆนานไป จนคนข้างหันกลับมามองเขาด้วยสายตาที่เฉยชาที่สุดเท่าที่ซองยอลเคยได้รับ เล่นเอาซองยอลทำหน้าไม่ถูกเลยทีเดียว
“อ่ะ..เออ ขอโทษครับ” ซองยอลเอ่ยขอโทษก่อนที่เขาจะหันหน้าออกไปนอกหน้าต่างแทน เขารู้สึกหน้าร้อนผ่าวไปหมดแล้ว ให้ตายเถอะ คนข้างๆเขานี่เป็นมนุษย์ชนิดไหนกันนะ
“ขอโทษอะไรของนาย” คนข้างๆเขากล่าวขึ้น เรียกให้ซองยอลหันหน้ากลับมาเผชิญกับคนข้างๆอีกครั้ง นั่นสิ ซองยอลก็ยังไม่แน่ใจว่าเขาขอโทษเรื่องอะไร
“ปะ..เปล่า” นี่เขาพูดอะไรของเขานะ สมองของซองยอลเหมือนไม่ได้ถูกประมวลผลก่อนจะเอ่ยอะไรออกไป พลันสายตาก็เหลือบไปเห็นเครื่องแบบยูนิฟอร์มที่เหมือนกับโรงเรียนของเขา ก็อดสงสัยไม่ได้ว่าโรงเรียนเขามีคนหน้าตาดีขนาดนี้อยู่ด้วยหรอเนี่ย ทำไมเขาไม่เห็นเคยรู้เลย
“นายอยู่โรงเรียนอุลลิมหรอ” .
“นายเห็นฉันใส่ชุดโรงเรียนอะไรล่ะ นี่นายจะใช้มุกปัญญาอ่อนหรือไง แต่ก็ถือว่าไอเดียดีนะ” มุกปัญญาอ่อน?? เดี๋ยวนะ ซองยอลไม่ได้กำลังเล่นมุกอะไรทั้งสิ้น หมอนี่กำลังทำให้เขางงไปหมด
“มุกปัญญาอ่อนอะไรของนาย”
“ก็ทำเหมือนว่านายไม่รู้จักฉัน ทั้งๆที่รู้ว่าฉันเป็นใคร เรียกร้องความสนใจน่ะสิ” ซองยอลเพิ่งสัมผัสได้ว่าคนด้านข้างเขาปากจัดชะมัด
“ฉันจะเรียกร้องความสนใจทำไม ก็ฉันไม่รู้จักนายจริงๆ”
“ก็ให้มันจริง” คนข้างๆของซองยอลพูดเสร็จก็หลับตาราวกับไม่อยากสนใจสิ่งรอบตัวอีกต่อไป ซองยอลได้แต่มองอย่างเอื่อมๆ หล่อก็จริงแต่หลงตัวเองชะมัด
“ไอ่ยอลลล !! ไหนเมื่อวานมึงถึงบ้านปลอดภัยครบสามสิบสองดีนะ!?” อูฮยอนที่เพิ่งมาถึงห้องเรียนก็รีบตรงดิ่งไปหาเพื่อนเขาทันทีพลางจับมือซองยอลยกขึ้นราวกับสำรวจอะไรสักอย่าง
“นี่มึงถามกูกี่รอบแล้ว” นี่ไม่ใช่รอบแรกที่อูฮยอนถามเขาแบบนี้ แต่ตั้งแต่ที่เขาโทรบอกอูฮยอนว่าเขาถึงบ้านเมื่อวาน อูฮยอนก็ถามเขาแบบนี้ซ้ำไปซ้ำมา นี่ซองยอลไม่ใช่เด็กแล้วนะ เพื่อนเขามักโอเว่อร์ได้ตลอดสินะ
“ก็กูอยากแน่ใจว่ามึงโอเคจริงๆ”
“โอเค ทุกอย่างด้วย เออเมื่อวานกูเจอผู้ชายคนหนึ่ง”
“มาจีบมึง?”
“ไม่ใช่ๆ คนอะไรไม่รู้ดูเหมือนหลงตัวเองชะมัด อยู่โรงเรียนเราด้วยนะมึง”
“คนสมัยนี้มึงจะเอาอะไรกับมันว่ะ แต่มึงเก็บมาคิดนี่คิดอะไรกับผู้ชายคนนั้นเปล่าว่ะ”
“ก็หล่อดีนะมึงแต่ปากจัดชะมัด” ซองยอลอดที่จะหน้าร้อนผ่าวไม่ได้เวลาที่นึกถึงเจ้าของใบหน้านั้น
“เห้ย!! จริงดิ! ใครว่ะกูอยากรู้ล่ะ ใครกันที่มึงชมว่าหล่อออ” อูฮยอนตาลุกวาวขึ้นทันที ก็เพื่อนเขานานๆจะชมใครที อูฮยอนอยากจะให้เพื่อนคนนี้มีแฟนสักที
“ช่างเหอะน่า กูจะอะ..” เสียงของซองยอลขาดหายไปเมื่อเห็นร่างหนึ่งที่เพิ่งเดินผ่านหน้าห้องเขาไปพร้อมกับอูฮยอนที่มองตามสายตาซองยอลไป นั่นมัน..
“อย่าบอกนะว่าคนที่มึงเจอเมื่อวาน..คือมยองซู แต่ไม่น่าจะใช่มึงบอกไม่รู้จักนี่หว่า” อูฮยอนเดาออกไปเพราะดูจากสายตาอึ้งๆนั่นแล้ว มันเดาได้ไม่ยากหรอก แต่ซองยอลบอกไม่รู้จักมยองซู ดูจะแปลกไปหน่อยรึเปล่า
“มยองซู?”
“ก็คนที่เดินผ่านไปเมื่อกี้ไง อย่าบอกนะว่ามึงไม่รู้จัก?” อูฮยอนก็ไม่ได้อยากจะว่าเพื่อนเขาหลังเขามากหรอกนะ แต่การไม่รู้จักมยองซูมันเรียกว่ายิ่งกว่าหลังเขาอีกนะ
“ทำไมกูต้องรู้จักว่ะ แล้วทำไมมึงต้องพูดเหมือนกันด้วยว่ะ”
“นี่มึง...ไม่รู้จัก..มยองซู?” อูฮยอนทำหน้าตกใจเมื่อได้ยินประโยคนั้นออกมาจากปากเพื่อนเขา
“ก็ไม่รู้จักไง” ซองยอลมองหน้าเพื่อนตัวเองอย่างงงๆ นี่เขาจำเป็นต้องรู้จักผู้ชายที่ชื่อมยองซูด้วยงั้นหรอ
“ก็มยองซูน่ะเป็นถึงเดือนปีเรา เป็นตัวแทนนักกีฬาบาสเกตบอล เป็นผู้ชายที่ป็อปที่สุดในโรงเรียนก็ว่าได้เบยนะมึง”
“นี่เป็นเหตุผลที่กูต้องรู้จักหมอนั่นสินะ มึงนี่ไร้สาระชะมัด”
“ไอ่ยอล! มึงอ่ะหลังเขาชะมัด!!”
TBC.
Talk... ได้เวลาทอล์คแล้วววว คือมันเป็นแชปแรกไรต์ก็ไม่มีอะไรจะคุยมากนะค่ะ ไงตอนแรกนี้ก็ขอให้รีดเดอร์ทุกคนมีความสุขในการอ่านนะค่ะ เรื่องนี้น่าจะมี12แชป ถ้าไม่ผิดพลาดประการใด
ไงก็ทิ้งคอมเม้นเพื่อเป็นกำลังใจให้ไรต์คนนี้ด้วยนะค่ะ รักรีดเดอร์ทุกคนค่ะ
ความคิดเห็น