ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Change! เปลี่ยนพี่ชายมาเป็นคนรัก (Yaoi)

    ลำดับตอนที่ #46 : Chapter 42 : The Ending of Drama

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.33K
      0
      10 มี.ค. 55


    Chapter 42 -- The Ending of Drama --


     ...ฟรานใช้ให้คนในบ้านไปสืบมาให้ตั้งแต่แรกแล้วล่ะฮะว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร และพี่แบล็ควางแผนจะทำอะไร

     

    ได้ยินเพียงแค่นั้น เอิงก็ตกใจจนแทบจะสลบ

     

    ดวงตากลมโตจ้องมองท่าทางตกใจของเอิงก่อนจะหัวเราะคิกคัก การที่ได้ทดสอบความรักของคนอื่นนี่มันสนุกจังเลยนะฮะ!”

     

    .

    .

    .

     

    ...มันจะเป็นอย่างที่กล่าวไว้เบื้องต้นจริงๆ น่ะหรือ?...

     

    ...ก็อย่างที่เคยบอกไปก่อนหน้านี้ ฟราน แฟทัล น่ะรักเพื่อนจะตาย...

     

    ...เรื่องอะไรต้องวางแผนแกล้งให้เพื่อนตัวเองต้องเสียน้ำตาด้วยเหตุผลที่แค่ นึกสนุกเฉยๆ ด้วยล่ะ!...

     

    ...เรื่องนี้น่ะมันมีเบื้องหลัง!...

     

    ...แล้ว เบื้องหลังนั้นเป็นยังไงน่ะเหรอ? งั้นเราย้อนอดีตตามไปดูกันเถอะ!...

     

     

    --Change! --

     

     

    ภายในห้องโถงรับรองแขกที่แสนจะหรูหรา แต่เดิมเคยหรูหรามากขนาดไหน ในยามนี้มันก็ยังคงหรูหรา มีแต่จะหรูมากขึ้นไปกว่าเดิมทุกวันเสียด้วยซ้ำ ยังมีร่างเล็กร่างหนึ่งนั่งอยู่บนโซฟาที่ตั้งอยู่กลางห้อง มือหนึ่งยกแก้วที่สลักลายไว้อย่างงดงามขึ้นมาจิบชาอย่างสง่างาม ในขณะที่อีกมือหนึ่งกอดอกแน่น นัยน์ตากลมโตน่าเอ็นดูกำลังจับจ้องไปยังผู้ที่แต่งกายด้วยชุดสูทสีทึบซึ่งกำลังคุกเข่าให้เขาอยู่ด้วยความเคารพ

     

    อะไรนะ เสียงหวานๆ ของทายาทคนเล็กแห่งตระกูลแฟทัลถามเสียงใส ช่วงนี้พี่แบล็คทำตัวลับๆ ล่อๆ เหมือนวางแผนจะทำอะไรสักอย่างเหรอ?”

     

    ครับคุณหนู ช่วงนี้คุณแบล็คมีการติดต่อหาผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งมีนิสัยห้าวหาญและมีแฟนเป็นผู้หญิงด้วยกันอยู่แล้วให้มาช่วยทำการบางอย่างครับ

     

    ชายในชุดสูทตอบกลับด้วยน้ำเสียงนอบน้อม มือบางวางถ้วยชาลงบนโต๊ะก่อนจะนิ่งคิดเงียบๆ อยู่ครู่หนึ่ง

     

    เห...มีกลิ่นทะแม่งๆ แฮะเรื่องนี้ ฟรานเอียงคอพร้อมกับทำท่าขบคิดอย่างน่ารัก ซึ่งมันขัดกับรอยยิ้มชั่วร้ายที่เผยขึ้นมาบนใบหน้าอย่างสิ้นเชิง สงสัยต้องไปสืบหน่อยแล้วล่ะ

     

    ...และนั่น คือ จุดเริ่มต้นของเรื่องนี้...

     

    ขึ้นชื่อว่าเป็นคำบัญชาของคุณหนูคนเล็กซึ่งทุกคนในบ้านทั้งรักทั้งหวงแหนเสียยิ่งกระไร มีหรือที่คนที่ได้รับคำสั่งจากเขาจะกล้าล่าช้า ในเช้าตรู่วันต่อมา เมื่อร่างน้อยตื่นขึ้นจากนิทราก็พบเข้ากับซองสีน้ำตาลเข้มซึ่งวางอยู่บนหัวเตียง คาดเดาได้ไม่ยากว่าพี่ชายสุดที่รักที่กำลังนอนกอดเขาอยู่คงเป็นคนนำเข้ามาให้เมื่อคืนนี้

     

    ร่างบอบบางค่อยๆ ขยับกายออกจากอ้อมกอดของคนที่เป็นทั้งคนรักและพี่ชายแท้ๆ ของตนเพื่อไม่ให้อีกฝ่ายต้องตื่นขึ้นมาเสียก่อน ก่อนจะคว้าซองสีน้ำตาลเข้มนั้นมาและเปิดดูในทันที

     

    นัยน์ตากลมโตจับจ้องไล่อ่านตัวอักษรทั้งหมดอย่างรวดเร็ว และเมื่อสรุปใจความสำคัญได้แล้ว เด็กหนุ่มก็ถึงกับเบ้ปากอย่างเหนื่อยหน่ายใจพร้อมกับอดที่จะบ่นออกมามิได้ว่า

     

    เอาอะไรคิดเนี่ย...

     

    เอกสารนั้นบ่งบอกถึงรายละเอียดคร่าวๆ ว่าในช่วงนี้แบล็คได้ติดต่อกับผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งย้ำหนักย้ำหนาว่าเธอเป็น ทอมเต็มตัว เพื่อที่จะมาวางแผนทดสอบว่าคาร์จะมีปฏิกิริยาตอบสนองอย่างไรหากเห็นตนเองอยู่กับ คนอื่น

     

    เฮ้อ...ไร้สาระสิ้นดี ฟรานโยนเอกสารทั้งหมดทิ้งกระจัดกระจายไปอย่างไม่ใยดี เสียเวลาสืบจริงๆ

     

    ร่างเพรียวบางทำท่าจะเดินเข้าห้องน้ำไปชำระล้างร่างกาย ทว่าอยู่ดีๆ ก็ชะงักกึกไปเสียก่อน ใบหน้าน่ารักเอนเอียงหันกลับไปมองเอกสารสีขาวสะอาดตาที่ตกระเกะระกะอยู่ทั่วพื้นห้อง ก่อนจะแสยะยิ้มออกมาในที่สุด

     

    “เอ...อันที่จริงแผนนั้นก็ไม่เลวเท่าไหร่นะ”

     

    เสียงหวานบ่นพึมพำด้วยน้ำเสียงชั่วร้าย ก่อนจะหัวเราะคิกคักอย่างถูกอกถูกใจกับความคิดของตนเองพลางเดินหายลับไปหลังบานประตูห้องน้ำสุดหรู ทิ้งไว้เพียงประโยคปิดท้ายที่แสนจะน่าฉงนสงสัย

     

    ถ้าอยากได้อย่างนั้นนัก ฟรานจะสนองให้เองละกันนะฮะ...พี่แบล็ค

     

     

    --Change! --

     

     

    อันที่จริงมันก็ไม่มีอะไรมากหรอกเพราะมันแน่นอนยิ่งกว่าแช่แป้งที่ฟราน แฟทัล จะไม่มีวันยอมให้ใครหน้าไหนมาทำให้แผนการของตนเบนออกนอกกรอบที่วางไว้โดยเด็ดขาด

     

    อาทิเช่น...ทำท่าทางเป็นเดือดเป็นร้อนเพื่อล่อให้เพื่อนของตนเข้ามาติดกับดัก

     

    โธ่เว้ย! คาร์ปล่อยฟรานนะ! ปล่อยเดี๋ยวนี้นะ!”


    และมันก็สำเร็จไปได้ด้วยดีเสียด้วย...ไปตามน้ำได้ดีมากเสียจนอยากฉีกยิ้มกว้างๆ

     

    เอาจริงๆ เถอะ คุณไม่คิดหรือว่าการ เดินไปอัดสักครั้งสองครั้งแถมด้วยกระทืบปิดท้ายก่อนจะกระชากคอขึ้นมาถาม น่ะมันดูไร้สาระออกจะตายไป ถ้าจะทำอย่างนั้นจริงเขาสู้อัดอีกฝ่ายให้ตายไปข้างนึงยังจะสนุกเสียกว่า เรื่องอะไรที่ทำแล้วไม่ได้ประโยชน์น่ะเขาไม่ทำหรอก เสียดายเวลา

     

    เพราะฉะนั้น...การที่เขายอมลงทุนทำเรื่องไร้สาระพรรค์นั้นด้วยตนเองจึงจำเป็นต้องหาเศษหาเลยด้วยการระบายอารมณ์เล่นเนียนๆ ไปด้วย

     

    แหม...คุณน่าจะตบรางวัลนักแสดงยอดเยี่ยมให้กับผมซะหน่อยนะฮะท่านผู้อ่านทั้งหลาย

     

    เอาเถอะ...คิดซะว่าทุกอย่างที่ผมทำน่ะเพื่อชดใช้ให้กับน้ำตาของคาร์ละกัน เขาเป็นเพื่อนที่ผมรักมากเลยนะ ไม่อย่างนั้นผมจะเป็นเดือดเป็นร้อนไปทำไมล่ะ จริงมั้ยฮะ?

     

    อะแฮ่ม! ใครบอกว่าผมแค่อยากหาที่ระบายอารมณ์กัน ได้ยินนะ!

     

    เฮ้อ...แต่ลงท้ายผมก็ใจอ่อนเมื่อเห็นคาร์ร้องไห้เป็นวรรคเป็นเวรแถมยังซึมไปซะขนาดนั้น เพื่อนรักของเขาน่ะปากแข็งเสียยิ่งกระไรดี ก็แค่ทำเป็นเข้มแข็งไปงั้นแหละ ที่จริงน่ะเปราะบางจะตาย สุดท้ายผมก็เลยบอกความจริงให้คาร์รู้หลังจากที่ติดต่อไปหาพวกพี่ๆ สิบสามมรณะให้มาช่วยกันสมทบละครฉากใหญ่ของผมไปแล้ว

     

    แค่เห็นใบหน้าที่ยิ้มจนแก้มปริของคาร์ ผมก็ตัดสินได้ว่าการที่เปิดเผยความจริงไปนั้นเป็นหนทางที่ถูกแล้ว...

     

    หลังจากนัดแนะแผนการกับพวกพี่ๆ นักฆ่าเสร็จแล้วผมก็หันไปบอกให้คาร์แกล้งทำเป็นไม่รู้เรื่องให้ถึงที่สุดไปด้วยเพราะพี่แบล็คจะได้ไม่คิดทำอะไรแผลงๆ แบบนี้อีก มันน่าจ้างคนไปฆ่าทิ้งจริงๆ เลยฮะแบบนี้น่ะ!

     

     แล้วเหตุการณ์ต่อจากนี้ไปน่ะเหรอ? ก็ลองตามไปดูกันเองสิฮะ!

     

     

    --Change! --

     

     

    “ทุกคนพร้อมแล้วนะฮะ”

     

    เสียงใสๆ ของฟรานเอ่ยถามก่อนจะแย้มยิ้มบางเมื่อเห็นทุกคนยกมือทำท่า โอเคตอบกลับมา พลันนิ้วเรียวยาวก็กดลงไปบนปุ่มโทรออกพร้อมกับยกนิ้วขึ้นมาทำสัญลักษณ์ให้ทุกคน เงียบ

     

    [ฮะ ฮัลโหล]

     

    ฟรานขยับยิ้มหวานเมื่ออีกฝ่ายยอมกดรับโทรศัพท์ในที่สุด ไม่วายกล่าวทักทายด้วยวาจาเหน็บแหนม

     

    รับช้ามากฮะ ตกส้วมตายอยู่หรือไง? พี่แบล็ค

     

    อีกฝ่ายถึงกับใบ้รับประทานไปเลยทีเดียว เขาเองก็ไม่อยากชักช้าให้มากความจึงเอ่ยรัวต่อไปในทันที

     

    ผมมีเรื่องที่จะให้พี่ทำ ถ้าพี่กล้าพอ และผมก็จะยอมรับให้พี่คบกับคาร์ได้อีกครั้ง

     

    [จริงเหรอครับ?!”]

     

    อีกฝ่ายตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงที่ปิดความดีใจไว้ไม่มิดจนฟรานต้องแอบหันไปเบ้ปากด้วยความหมั่นไส้เล็กน้อย ก่อนจะหันกลับมาและแสร้งพูดด้วยน้ำเสียงจริงจังว่า

     

    สาบานด้วยชื่อของฟราน แฟทัล

     

    ด้วยการแอบไขว้นิ้วเอาไว้อย่างน่ารัก

     

    [“แล้วเรื่องที่จะให้พี่ทำมันคืออะไรล่ะครับ?”]

     

    โอ๊ย!” ฟรานแสร้งอุทานเสียงดังลั่น ก่อนจะพูดจิกกัดเจื้อยแจ้วกลับไป ง่ายยิ่งกว่าการแอบไปมีชู้หลายเท่าเลยฮะ!”

     

    ก่อนที่รุ่นพี่หนุ่มซึ่งกำลังติดกับเขาเข้าอย่างจังจะถามกลับมาว่า

      

    [“แล้วมันคืออะไรล่ะครับ ฟราน”]

     

    ฮิๆๆ เด็กหนุ่มหัวเราะเสียงใสอย่างอดไม่อยู่ ก็แค่บุกเข้ามาในคฤหาสน์แฟทัลโดยให้เหลือครบสามสิบสองประการก็เท่านั้นเองฮะ!”

     

    โอ๊ย! เขาขำซะจนอยากจะหัวเราะให้ดังลั่นโลก

     

    แค่คิดถึงใบหน้าบิดเบี้ยวของคนปลายสาย ทายาทตัวน้อยที่ฤทธิ์ดันไม่น้อยตามก็เป็นต้องอดใจไม่ให้เผลอหลุดหัวเราะออกมาอย่างเอาเป็นเอาตาย

     

    คฤหาสน์ตระกูลแฟทัลน่ะติดโผอันดับหนึ่งของ สิบอันดับสถานที่ที่บุกเข้าไปยากที่สุดของโลกเชียวนะ! ถ้าไม่ใช่ว่าเขายอมอ่อนข้อให้น่ะ อีกฝ่ายไม่มีทางเข้ามาแล้วกลับไปโดยครบสามสิบสองได้หรอก!

     

    ถึงอย่างไรก็ตาม ปลาที่รู้อยู่แก่ใจว่าหากกระโจนเข้าไปงับเหยื่อจะต้องติดเบ็ดก็ทนต่อความยั่วยวนของเหยื่อตัวนั้นไม่ไหวอยู่วันยังค่ำ

     

    [“ตกลงครับ!”]

     

    ไม่อย่างนั้นเขาก็คงไม่ได้คำตอบแบบนี้กลับมาหรอก

     

    ...เหยื่อติดเบ็ดแล้ว...

     

       ฟรานกดปุ่มตัดสายพร้อมกับแสยะยิ้มชั่วร้าย ก่อนจะหันไปหาสิบสามมรณะที่ส่วนหนึ่งลงไปหัวเราะอย่างเอาเป็นเอาตายอยู่ที่พื้นนำโดยหัวหน้ากลุ่มอย่างเอิง และคาร์ที่กำลังมีสีหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก

     

    “เอาล่ะ! พวกเราไปรอชมละครตลกๆ กันเถอะ!

     

    ...เล่นกับใครไม่เล่น มาเล่นกับตระกูลแฟทัลก็ต้องเอาให้เข็ดจนไม่กล้ามาแหยมอีกเป็นครั้งที่สอง!...

     

     

    --Change! --

     

     

    บุคคลจำนวนสิบห้าชีวิตถ้วนกำลังรับชม ละครตลกอย่างสุขสันต์ผ่านทางกล้องวงจรปิดที่ติดอยู่ทั่วคฤหาสน์หลังใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นการวิ่งหน้าตั้งอย่างเอาเป็นเอาตายของแบล็คที่ไม่รู้เสียเลยว่าฟรานนั้นแอบส่งซิกบอกให้บอดี้การ์ดทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นไปแล้ว ไม่อย่างนั้นมีหรือที่จะมีคนเฝ้าด้านหน้าอยู่แค่สองคน และไม่มีคนเฝ้าด้านหลังอยู่เลยสักคนเดียว

     

    ยิ่งได้เห็นความบื้อเกินบรรยายของชายหนุ่มที่คว้าลูกบิดประตูพลางดันเข้าไปอย่างขาดความระมัดระวังแบบสุดๆ ขัดวิสัยของคนที่มาบุกถิ่นชาวบ้านที่ควรจะรอบคอบมากกว่านี้ และโดนตั้งหนังสือกองเบอเริ่มกระแทกศีรษะเข้าอย่างจัง ทุกคนก็แทบจะถอนหายใจออกมาดังๆ ด้วยความสมเพช

     

    และยิ่งต้องหัวเราะร่วนหรือไม่ก็กุมขมับเข้าไปใหญ่เมื่อเห็นแบล็คไม่รู้จักเข็ดกับเรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้น เดินดุ่มๆ ไปเหยียบกับดักอีกอันหนึ่งเข้าอย่างจัง

     

    แต่แล้วทุกคนก็ต้องรู้สึกหมั่นไส้นิดๆ เมื่อเห็นคุณชายหนุ่มสามารถเอี้ยวตัวหลบดาบคู่ที่มีฤทธิ์ร้ายกาจไปได้ทั้งๆ ที่หลบกองหนังสือปึกเบอเริ่มไม่ได้แท้ๆ

     

    ฟรานเองก็เป็นหนึ่งในเหล่าบุคคลเบื้องต้นที่เกิดความรู้สึกหมั่นไส้อย่างออกนอกหน้า มือเรียวจึงอดไม่ไหวที่คว้าโทรศัพท์มากดโทรออกไปยังผู้ที่กำลังโลดแล่นอยู่บนจอภาพและกดเปิดลำโพงให้ได้ยินกันอย่างทั่วถึง

     

    [“...ฮัลโหล”]

     

    คราวนี้อีกฝ่ายใช้เวลายืนชั่งใจก่อนกดรับน้อยกว่าครั้งแรกเยอะ ก็ถือว่าเป็นพัฒนาการที่ไม่เลว

     

    ว่าไงฮะ พี่แบล็คฟรานกรอกเสียงลงไปอย่างเริงร่า พี่นี่ดวงแข็งจนน่าหมั่นไส้เลยนะฮะ หลบหนังสือกองเบอเริ่มไม่ได้ แต่ดันหลบดาบที่เรียวยาวซะจนมองแทบไม่เห็นได้เนี่ย

     

    แม้ว่ามันจะฟังดูก้ำกึ่งระหว่างการชมและด่า แต่คุณชายน้อยฟราน แฟทัล ก็ขอยืนยันว่าเขากำลัง ด่า อีกฝ่ายอยู่...ด้วยความสัตย์จริง!

     

    [เราคงเห็นจากกล้องวงจรปิดใช่มั้ยครับเนี่ย]

     

    โอ้!” เด็กหนุ่มแกล้งทำเป็นตื่นตกใจกลับไป ไม่เลวๆ ทั้งๆ ที่กล้องมันเล็กมากแล้วก็ซ่อนเอาไว้อย่างดีแล้วด้วยนะฮะเนี่ย

     

    ที่จริงแล้วเขากำลังประชดอยู่ เพราะกล้องมันทั้งใหญ่แล้วก็ตั้งไว้เสียเด่นหราด้วย ถ้ายังมองไม่เห็นก็ไปตรวจเช็คสายตาได้แล้วล่ะ  

     

    [“...โทรมามีอะไรครับ”]

     

    จุ๊ๆๆ พูดจาไม่เข้าหูเลยนะฮะคุณพี่แบล็ค อย่าลืมนะฮะว่าคนที่กุมอำนาจทั้งหมดในตอนนี้อยู่คือใคร ผมก็แค่อยากจะแนะนำอะไรดีๆ ให้พี่เท่านั้นล่ะฮะ

     

    เมื่อได้ยินชายหนุ่มพูดจาห้วนๆ อย่างไม่สำนึกถึงจุดยืนของตนเองในขณะนี้ ฟรานก็อดไม่ได้ที่จะกล่าวเตือนปนข่มขู่อีกฝ่ายไปในตัว แต่ก็ไม่นึกเลยว่าอีกฝ่ายจะกล้าตะคอกกลับมาเสียงดัง

     

    [“นี่ไม่ใช่เกมนะครับ มันขึ้นอยู่กับชีวิตของคน!”]

     

    ...แล้วคิดว่าที่เขาลงมือทำเพื่อเพื่อนนี่มันเป็นเรื่องล้อเล่นหรือไงกัน?

     

    แล้วคุณคิดว่าผมทำเล่นๆ หรือไงกันหืม? คุณจะดูถูกตระกูลแฟทัลมากเกินไปหน่อยมั้งครับ

     

    [“พี่ขอโทษครับ”]

     

    ถือว่าการที่เขาเลือกใช้คำพูดในแบบของ ทายาทตระกูลแฟทัลเป็นทางเลือกที่ทำให้ไม่ต้องเปลืองเวลาโดยเปล่าประโยชน์ เพราะเมื่อได้ยินแบล็คเอ่ยขอโทษกลับมาฟรานก็ยินดีที่จะยอมรามือกับการหาเรื่องต่อไปแต่โดยดี

     

     ก็ดีฮะ ฟังที่ผมพูดดีๆ ละกัน ไม่งั้นจะหาว่าไม่เตือน”

     

    [“ครับ”]

     

    ฟรานแอบเสไปเก๊กเสียงเล็กน้อยก่อนจะหันกลับมาทำเสียงเหี้ยมส่งไปยังปลายสาย

     

    ถ้าพี่ไม่แน่จริง ผมแนะนำให้รีบกลับไปดีกว่านะฮะ ไม่อย่างนั้นผมรับรองได้เลยว่าวันนี้จะเป็นวันที่ชื่อของพี่ถูกจารึกบนป้ายหลุมศพอย่างแน่นอน

     

    เด็กหนุ่มได้เห็นอีกฝ่ายสะดุ้งไปเล็กน้อยจากภาพทางกล้องวงจรปิด แต่เขาก็ยังตอบกลับมาอย่างแน่วแน่

     

     [“พี่มั่นใจครับ”]

     

    ก็ดีเขาตอบเสียงห้วน งั้นก็ขอให้สนุกนะฮะ...พี่แบล็ค

     

    ...กับละครสนุกๆ ชุดหนึ่งที่ผมสร้างมาประชันกับละครที่ไปไม่รอดของพี่...

     

    “ก็ว่าแล้วว่ากำลังทำอะไรอยู่”

     

    ใบหน้าน่ารักละจากรอยยิ้มเหี้ยมไปในทันทีเมื่อได้ยินน้ำเสียงที่คุ้นเคย ก่อนจะเปลี่ยนให้มันกลายเป็นรอยยิ้มสดใส พร้อมกับวิ่งเข้าไปอ้อนอีกฝ่ายที่อ้าแขนรับอย่างเต็มใจ

     

    “ช่วยงานคุณพ่อเสร็จแล้วเหรอฮะ?

     

    เอ่ยเสียงหวานพร้อมกับออดอ้อนพี่ชายสุดที่รักเสียเต็มอิ่ม

     

    “อย่าเปลี่ยนเรื่องสิครับ พี่บอกไว้แล้วนี่ครับว่าถ้าจะทำอะไรก็ให้ปรึกษาพี่ก่อน”

     

    อีกฝ่ายเอ็ดอย่างไม่จริงจังมากนักแต่ก็ทำให้ร่างเล็กงอนจนแก้มป่องพร้อมกับเอ่ยด้วยน้ำเสียงเง้างอดน่าฟัดว่า “ก็พี่ชายยุ่งอยู่นี่นา”

     

    ในขณะที่พี่น้องคู่รักกำลังคลอเคลียปล่อยบรรยากาศสีชมพูอยู่นั้น มีแบ็กอัพเป็นเหล่าสิบสามมรณะบางคนที่ลงไปขำให้กับภาพของแบล็คที่วิ่งหน้าตั้งหนีหลากหลายอาวุธของพวกเขาอย่างเอาเป็นเอาตายจนปวดท้อง

     

    แต่ทันใดนั้นเอง พวกเขาก็ต้องตัวแข็งทื่อ ลุกลี้ลุกลนจนทำอะไรไม่ถูก

     

    “ฟราน!” คาร์ตะโกนเรียกเสียงดัง “พี่แบล็คกำลังจะพังประตูเข้ามาแล้ว!

     

    นั่นไม่ได้เป็นเพียงแค่การเรียกให้ฟรานและฟิวส์ต้องรีบกุลีกุจอมานั่งปั้นหน้าเหี้ยมบนโซฟาตัวหรูเท่านั้น แต่ยังเป็นสัญญาณเรียกสติเหล่าสิบสามมรณะให้รีบคว้ารีโมทมาปิดจอทีวีและวิ่งมายืนล้อมตัวคาร์ตามที่เตี๊ยมกันเอาไว้อีกด้วย

     

    โครม!

     

    และมันก็ทันอย่างเฉียดฉิว

     

    พี่กล้ามากเลยนะที่มาพังประตูห้องของผมแบบนี้น่ะ ช่างเป็นแขกที่ไม่น่ารักจริงๆ เลยนะฮะ...

     

    ฟรานรีบชิงพูดตัดหน้าด้วยน้ำเสียงเหี้ยมปนข่มขู่อย่างปิดไม่มิดพร้อมกับไม่ลืมที่จะเรียกเก็บค่าซ่อมประตูที่โดนอีกฝ่ายกระโดดถีบเข้ามาจนพังอย่างหน้าเลือด

     

     เอาเป็นว่าผมจะส่งบิลเก็บค่าซ่อมประตูไปที่บ้านพี่ทีหลังละกันนะฮะ

     

    ชายหนุ่มยืนนิ่งเงียบ คุณชายแบล็คไม่ได้โต้ตอบกลับมาแต่อย่างใด เขาคงจะใช้พลังกายพลังใจกับการบุกเข้ามาถึงที่นี่ไปจนหมดแล้ว

     

     แล้ว...จะให้พี่ทำอะไรต่อล่ะครับ?”

     

    ฟรานอดไม่ได้จริงๆ ที่จะไม่ส่งสายตาที่สื่อคำว่า ไอ้โง่ ไปยังชายหนุ่ม

     

    นี่พี่โดนอาวุธของพี่ๆ สิบสามมรณะเล่นงานจนสมองกลับไปแล้วหรือไงฮะ เด็กหนุ่มประชดอีกฝ่ายเสียงดังลั่น พี่ก็ต้องขอโทษคาร์น่ะสิถามได้!”

      

    อะไร...นะครับ?”

     

    ร่างบอบบางส่ายศีรษะไปมาอย่างแสนจะเหนื่อยหน่ายใจก่อนจะเอ่ยย้ำชัดๆ อีกครั้งหนึ่ง

     

    ผมก็บอกให้พี่ก้มลงไปกราบขอขมาคาร์ซะดีๆ ยังไงล่ะฮะ อธิบายเรื่องทั้งหมดให้มันฟังขึ้นด้วย

     

    ...เราไม่เชื่อพี่ไม่ใช่เหรอ? ฟราน

     

    มันชักจะซื่อบื้อมากเกินไปหน่อยแล้วนะแบบนี้

     

    ฟรานจำได้ว่าไม่เคยพูดอย่างนั้นเลยนะฮะ เนอะพี่ฟิวส์

     

    ร่างเล็กแสร้งปั้นหน้าไร้เดียงสาทำตาโตเหมือนเด็กตัวเล็กๆ ที่ไม่มีความผิดอะไร ก่อนจะหันไปขอความคิดเห็นจากคนข้างกายที่พยักหน้ารัวๆ กลับมา

      

    ก่อนที่ฟรานจะต้องกลั้นหัวเราะอย่างแทบเป็นแทบตายเมื่อเห็นท่าทางราวกับอยากทึ้งหัวตัวเองจนแทบบ้าของแบล็คที่กำลังโดนเขาไล่ต้อนให้จนมุม  

     

    และแล้วก็ถึงคิวของเหล่านักแสดงสมทบ...สิบสามมรณะ 

     

    พวกเขารีบใช้สายตาอำมหิตสื่อเป็นคำพูดว่า ถ้ายังไม่รีบมาขอโทษคาร์ แกตาย!’ ไปยังแบล็คอย่างพร้อมเพรียง

     

    แบล็คไม่รอช้าให้ต้องโดนกระทืบไปเสียเปล่าๆ เขาทรุดตัวลง และหากทำได้เขาคงเอาศีรษะตนกระแทกพื้นทำนองหนังจีนไปแล้ว

     

    พี่ขอโทษนะครับ คราวหลังพี่จะไม่แกล้งเราแบบนี้อีกแล้ว คราวนี้พี่ทำเกินไปจริงๆ

     

    ในจังหวะนี้ทุกคนพร้อมใจกันปั้นหน้าใสซื่อบริสุทธิ์ราวกับไม่รู้ว่าอีกฝ่ายกำลังพูดอะไร ไม่เว้นแม้แต่คาร์เองด้วย

     

    ที่จริงผู้หญิงคนนั้นเป็นลูกพี่ลูกน้องของพี่เองครับ เป็นทอมด้วย พี่แค่อยากรู้เฉยๆ ว่าคาร์จะเชื่อใจพี่มากแค่ไหน แต่พี่ก็คงทำเกินไป

     

    แบล็คเฉลยออกมารวดเดียวจบ คาร์ปั้นหน้างุนงงเสียสมจริง ในขณะที่คนอื่นสีหน้าไม่กระดิกเลยแม้แต่น้อย

     

    เดี๋ยวนะครับ พี่บอกว่าทั้งหมดนั่น...พี่แกล้งทำ?!”

     

    และนี่ก็คงเป็นอีกคนหนึ่งที่พอโมโหแล้วร้ายลึกทีเดียว เล่นแสดงซะสมจริงสมจังได้ตั้งขนาดนี้

     

    ถ้าจะพูดตรงๆ ก็นั่นแหละครับ

     

    คุณชายหนุ่มทำสีหน้าเจี๋ยมเจี๊ยมก่อนก้มหน้าลงคางแทบจะเกยคอ ทำให้เขาพลาดเห็นรอยยิ้มขำของคาร์ที่โผล่ออกมาเพียงวูบหนึ่ง ก่อนจะรีบปั้นหน้าโหดดังเดิมเมื่อเห็นแบล็คเงยหน้าขึ้นมาใหม่

     

    ...แม้ว่าจะเป็นแค่การแกล้งกันแต่มันก็น่านัก!

     

    เสียงโครมครางดังลั่นเมื่อคาร์จัดการเสยคางอีกฝ่ายพร้อมด้วยหมัดฮุคที่ท่าทางจะจุกน่าดู

     

    แหม...มันช่างเป็นเรื่องที่ซับซ้อนเสียยิ่งกระไร

     

    ฝ่ายหนึ่งก็คิดว่าหลอกอีกฝั่งได้จนจบ ในขณะที่อีกฝ่ายหนึ่งก็ตลบหลังพลางแสร้งทำเป็นเหมือนว่าถูกหลอกจนถึงที่สุด

     

    และนั่นแหละคือสิ่งที่ทำให้ท่านทั้งหลายต้องงงไปตามๆ กัน

     

    ...รวมไปถึงประโยคปิดท้ายที่เอิงกับฟรานแกล้งพูดออกมาดังๆ ให้แบล็คได้ยินด้วยน่ะนะ!...




    To Be Continue


     

     

    กราบขออภัยที่หายไปนานนะคะ มองวันที่แล้วงานนี้อู้ไปยาวเลยทีเดียว นึกแล้วก็อยากบึ้มโรงเรียนให้แหลกกันไปข้างนึงค่ะ จะจัดงานอะไรก็ไม่รู้นักหนา สุดท้ายก็ต้องเจียดเวลานอนมานั่งแต่งมันตอนนี้นี่แหละค่ะ ตีสามเสียแล้ว...

     

                ทั้งนี้ก็ขอสวัสดีปีใหม่ท่านผู้อ่านทุกๆ ท่านด้วยนะคะแม้ว่ามันจะผ่านมานานมากแล้ว ปีนี้ก็จะขอให้ตัวเองมีเวลาอัพฟิคเยอะมากขึ้นค่า TT^TT

     

    16/ม.ค./54 อัพ

    10/มี.ค./55 Re-write

     


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×