ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Change! เปลี่ยนพี่ชายมาเป็นคนรัก (Yaoi)

    ลำดับตอนที่ #42 : Chapter 38 : Quarrel and Broken

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.28K
      0
      10 มี.ค. 55


    Chapter 38 -- Quarrel and Broken--


    ...พื้นฐานของสิ่งที่เรียกว่า รักคือสิ่งที่เรียกว่า ความเชื่อใจ...

     

    ...หากไร้ซึ่ง ความเชื่อใจแล้ว มีหรือที่ความรักจะผ่านพ้นไปได้ด้วยดี?...

     

     

    --Change! --

     

     

    บรรยากาศถมึงทึงแผ่ไปทั่วอาณาบริเวณ ฉากหลังเป็นห้องนอนสุดหรูมีโคมไฟสุดอลังการห้อยระย้าชวนให้หน้ามืดตามัวเกิดความโลภได้โดยง่าย ร่างเล็กร่างหนึ่งซึ่งนั่งอยู่บนเตียงขนาดใหญ่สีขาวสะอาดนั้นกำลังเบ้หน้า กอดอกแน่นและสั่นเป็นเจ้าเข้าด้วยความโมโห ห่างไปไม่ไกลนักบนเตียงเดียวกันมีร่างที่บอบบางไม่แพ้กันร่างหนึ่งที่กำลังนั่งมองหน้าฝ่ายตรงข้ามด้วยท่าทางหนักใจ

     

    ทว่าคำอธิบายเบื้องต้นนั้นเป็นเพียงภาพลักษณ์ผิวเผินที่แสดงออกมา หากลองสังเกตดูดีๆ คุณจะเห็นว่าร่างเล็กร่างแรกนั้นนอกจากจะมีอาการโกรธเกรี้ยวแล้วยังมีหยาดน้ำใสปริ่มเอ่อล้นรอบดวงตาเรียวสีนิลกาฬน้ำงามอีกด้วย ส่วนร่างบอบบางอีกร่างหนึ่งนั้นแม้ว่าจะแสดงท่าทางหนักใจแต่กลับมีสีหน้าเหมือนกำลังจะไปฆ่าใครให้ตายเสียให้รู้แล้วรู้รอด

     

    สรุปก็คือ...

     

    ภาพที่เห็นกับความเป็นจริงนั้นต่างสลับสับเปลี่ยนกันทั้งสิ้น!

     

    แควก!

     

    บังเกิดเสียงคล้ายการฉีกบางสิ่งบางอย่างดังแว่วมาให้ได้ยินระลอกหนึ่ง ก่อนที่จะดังซ้ำๆ ซากๆ ชนิดที่ไม่มีทีท่าว่าจะหยุดการกระทำอันก่อให้เกิดเสียงเสียงนี้ขึ้นเลยแม้แต่นิดเดียว ซ้ำร้าย หากคุณได้หันไปมองหน้าของคนซึ่งกำลังกระทำการดังกล่าวอยู่ ก็คงไม่แคล้วคลาดได้ช็อกค้างไปกับใบหน้าเหี้ยมโหดที่หาได้ยากยิ่งกว่าอะไรดีของเขา

     

    ฮึ่ย!”

     

    ก่อนที่ ผู้กระทำการดังกล่าวจะส่งเสียงฮึดฮัดด้วยความไม่พอใจอย่างสุดซึ้งขึ้นมาซะเฉยๆ ดวงหน้าน่ารักที่แยกได้ยากว่าเป็นบุรุษหรือสตรีกันแน่สะบัดพรืดหันไปหาร่างเล็กที่ยังนั่งซึมและไม่แสดงออกอะไรทั้งสิ้น เมื่อได้เห็นอากัปกิริยาดังกล่าว ใบหน้าเหี้ยมโหดก็ค่อยๆ โอนอ่อนลงจนกลายเป็นสีหน้าคล้ายคนอมทุกข์

     

    ร่างบางออกอาการละล้าละลังที่จะเอ่ยปากชวนเพื่อนรักคุยในขณะนี้ ด้วยเหตุนั้นเอง ท่าทางที่ทำท่าฮึดสู้ หันไปหา และอ้าปากคล้ายจะพูดอะไรบางอย่าง ก่อนที่จะหันกลับมาถอนหายใจ ทำท่าฮึดสู้ หันไปหา อ้าปากคล้ายจะพูดอะไรบางอย่าง แล้วก็กลับมาถอนหายใจอีกครั้ง วนไปวนมาเช่นนี้มิมีหยุดจึงแลดูน่าขบขันยิ่งนักสำหรับผู้ที่ได้พบเห็น

     

    เอ่อ...คาร์...คือ...

     

    ท่วงท่าราวกับฆาตกรโรคจิตเมื่อครู่ถูกสลัดทิ้งไปจนหมดคราบ เหลือเพียงสีหน้าจ๋อยสนิทเมื่อพบว่าเสียงเรียกร้องของตนไม่สามารถเรียกความสนใจจากเพื่อนรักได้เลยสักนิด กลับกัน ใบหน้าสวยหวานของอีกฝ่ายกลับซุกเข้าไปในหัวเข่าของตนมากขึ้นไปอีก

     

    สุดท้ายฟรานจึงมีอาการสติแตกแบบกู่ไม่กลับ

     

    อ้ากกกกกกกกก! ไม่ถงไม่ถามมันแล้ว! หลักฐานคาตา! คาร์นั่งหงอย! อย่างนี้มันต้องอัดกันสักตั้งแล้ว!”

     

    ร่างบอบบางทว่าพลังเสียงกลับไม่บอบบางตามไปด้วยว้ากเสียงดังลั่นด้วยท่าทางหัวเสีย เล่นเอาคาร์สะดุ้งเฮือก ก่อนจะเงยหน้าที่แสดงอาการซึมเศร้าระคนตกใจขึ้นมามองเพื่อนสนิทของตนอย่างหวาดๆ

     

    ทันใดนั้นเอง ดวงตากลมโตก็ตวัดขวับมามองคาร์ด้วยท่าทางโหดร้าย คาร์ที่ไม่เคยเกรงกลัวใครนั้นถึงกับเสียขวัญไปยกใหญ่ แล้วก็ยิ่งต้องเสียขวัญมากขึ้นไปอีกเมื่อได้ยินถ้อยคำเย็นชาจากปากของฟราน

     

    ก็ได้...คาร์ไม่ต้องเล่าให้ฟรานฟังก็ได้ คิดๆ ดูแล้วการเดินไปอัดสักครั้งสองครั้งแถมด้วยกระทืบปิดท้ายก่อนจะกระชากคอขึ้นมาถาม มันยังจะง่ายเสียกว่าอีก

     

    นานๆ ทีถ้อยคำที่แสนจะเหมาะสมกับการเป็นบุตรที่ได้รับการอบรมมาอย่างดีจากครอบครัวที่แปลกประหลาดไม่เหมือนใครจะหลุดออกมาจากลูกชายคนเล็กที่มักจะทำตัวน่ารักน่าเอ็นดูอยู่เสมอสักครั้งหนึ่ง และคาร์ที่เป็นเพื่อนสนิทกับฟรานมานานก็รู้ดีด้วยว่าเมื่อมันหลุดออกมาแล้ว ต่อให้เอาช้างมาฉุดฟรานก็จะไม่ยอมหยุดจนกว่าจะทำตามที่เปล่งวาจาไปได้เสร็จสิ้นเสียก่อน

     

    และนั่นเป็นสาเหตุที่ทำให้คาร์ต้องรีบกระเด้งตัวขึ้นจากเตียงสีขาวสะอาดโดยไว พร้อมกับกระโจนไปกอดรั้งร่างบางๆ แต่กลับมีพลังช้างสารของฟรานสุดแรง ก่อนที่จะยื้อกันไปยื้อกันมาอยู่เช่นนั้นอย่างน่าหนักใจยิ่งนัก

     

    โธ่เว้ย! คาร์ปล่อยฟรานนะ! ปล่อยเดี๋ยวนี้นะ!”

     

    ลูกชายคนเล็กแห่งตระกูลแฟทัลทำหน้าเหี้ยมพร้อมกับตวาดลั่น

     

    แม้ว่าจะแอบใจเสียไปเล็กน้อยแต่คาร์ก็ยังไม่ยอมแพ้ ตวาดกลับด้วยระดับเสียงที่ดังไม่แพ้กัน ไม่ได้! ฉันจะไม่ปล่อยฟรานเด็ดขาด!”

     

    ตะโกนโต้ตอบกันไปๆ มาๆ อยู่ดีๆ ฟรานก็ถอนหายใจเฮือกใหญ่ เขาก้มหน้าลงต่ำจนคางเกือบชิดหน้าอก ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมาใหม่ด้วยสีหน้าที่เหี้ยมเกรียมยิ่งกว่าเดิมหลายเท่าพลางลั่นวาจาอย่างชัดถ้อยชัดคำ

     

    ถ้าไม่ยอมปล่อยก็ไปมันทั้งๆ อย่างนี้นี่แหละ!”

     

    เฮ้ยยยยย!”

     

     

    --Change! --

     

     

    ...อาการสติแตกของตระกูลแฟทัลนี่ช่างไม่เหมือนใครจริงๆ...

     

    คาร์นั่งสำนึกและแอบรำพึงรำพันกับตนเองด้วยความโศกสลด เพราะหากมาลองคิดทบทวนดูดีๆ แล้ว ในสิบส่วนของการสติแตกของฟรานนั้นจะมีถึงเก้าส่วนที่เกิดขึ้นมาเพราะอีกฝ่ายเป็นเดือดเป็นร้อนกับเรื่องของเขา และอีกหนึ่งส่วนที่เหลือก็ยังคงเป็นเรื่องของเขาครึ่งหนึ่งและเรื่องของฟรานเองอีกครึ่งหนึ่ง

     

    และฝ่ายที่มีเรื่องกับเขาก็เป็นต้องโดนฟราน โหมดสติแตกอาละวาดเละไปในทุกครา จนเขาอยากจะแว้ดใส่ฟิวส์ที่มาฝากฝังให้เขาช่วยดูแลฟรานให้เสียเหลือเกินว่ากรุณากลับไปคิดให้ดีเสียก่อนว่านี่มันต้องให้ใครดูแลใครกันแน่!

     

    นั่งคิดด้วยท่าทางสยดสยองก่อนจะปรายตาไปมองร่างของเพื่อนรักหักเหลี่ยมโหดซึ่งนั่งไขว่ห้างอยู่อีกฝั่งหนึ่งของเบาะนั่ง แขนเรียวเล็กกอดอกแน่น มีสีหน้าถมึงทึงและหันไปมองนอกหน้าต่างอยู่ตลอดเวลาด้วยนัยน์ตาเยือกแข็งถึงขั้นติดลบอย่างหวาดๆ

     

    และที่เปรยไปเบื้องต้นนั่นก็คืออาการ ระยะแรกของฟรานโหมดสติแตก

     

    เมื่ออีกฝ่ายใช้ความคิดซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนหมดอารมณ์จะใช้ความคิดต่ออย่างสงบก็จะระเบิดทุกสิ่งทุกอย่างออกมาทั้งหมด และกระทำหลังจากนั้นก็จะถูกกำหนดด้วยอารมณ์ของเจ้าตัวทั้งสิ้น ซึ่งสิ่งที่อีกฝ่ายลงมือกระทำนั้นจะโหดร้ายและสิ้นคิดมากเสียจนคุณยังไม่อยากจะจินตนาการถึง

     

    เหมือนกับเมื่อครู่ที่ฟรานตัดสินใจแบกเขาขึ้นบ่าเอาเสียดื้อๆ เพื่อตัดบทการโต้เถียงกันอย่างไม่รู้จบ ก้าวดุ่มๆ ออกมาจากคฤหาสน์ ตรงเข้าไปเปิดประตูหลังของรถคันหรูข้างหนึ่งมายัดเขาให้เข้าไปนั่งเจี๋ยมเจี๊ยมอยู่ข้างใน ก่อนจะอ้อมไปเปิดประตูหลังอีกฝั่งหนึ่งแล้วขึ้นมานั่งแผ่รังสีอำมหิต จากนั้นจึงกระแทกประตูปิดเสียงดังลั่นพลางสั่งด้วยน้ำเสียงเฉียบขาดกับคนขับรถที่ยังลนลานทำอะไรไม่ถูกว่าให้ออกรถในทันที

     

    ห้ามมองคนแค่ภายนอกเพียงเด็ดขาด! คุณไม่รู้หรอกนะว่าตัวเล็กๆ บางๆ อย่างฟราน แฟทัล ลูกชายสุดที่รักของมิสเตอร์แฟทัล จะสามารถแบกคนที่มีรูปร่างเท่ากับตนเองขึ้นบ่าตัวลอยได้อย่างสบายๆ โดยไม่มีทีท่าว่าจะรู้สึกหนักเลยแม้แต่นิดเดียว

     

    มันจะพิลึกเกินไปหน่อยแล้ว! อยากรู้เหลือเกินว่าตระกูลแฟทัลเลี้ยงลูกกันมายังไง!

     

    เกริ่นมาเสียนาน แต่ก็ยังไม่เข้าถึง ต้นเหตุของการสติแตกครั้งนี้ของฟรานเสียที ซึ่งแน่นอนว่าคราวนี้มันก็ยังเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับเขาอยู่เหมือนเดิม...

     

    เกี่ยวแบบสุดๆ เลยล่ะ

     

    เพราะมันเป็นเรื่องของพี่แบล็ค...คนรักของเขา

     

    ย้อนกลับไปในเวลาเช้าตรู่ของวันนี้ มันช่างเป็นเช้าที่แสนจะสมบูรณ์แบบ ท้องฟ้าปลอดโปร่งงดงาม ประกอบกับเตียงแสนนุ่มของคฤหาสน์แฟทัลที่เขาย้ายมาปักหลักตั้งถิ่นฐานชั่วคราวในช่วงวันหยุด คงจะไม่มีอะไรที่ดีไปกว่านี้อีกแล้ว แต่มันกลับถูกทำลายลงไปอย่างง่ายดายด้วยสิ่งของเพียงสิ่งเดียว

     

    มันคือกล่องพัสดุใบหนึ่ง ก็แค่กล่องพัสดุธรรมดาๆ แต่กลับถูกบรรจุด้วยของที่ไม่ธรรมดาเลยสักนิดเดียว!

     

    เนื่องจากคฤหาสน์แฟทัลในยามนั้นไม่มีผู้อยู่อาศัยอื่นใดนอกจากฟรานและคาร์ แล้วเจ้าของบ้านตัวเล็กก็ยังไม่ตื่นจากนิทรา เมื่อมีคนส่งพัสดุมากดออด คาร์จึงต้องลงไปรับมาแทนอย่างเสียมิได้

     

    และนั่นก็เป็นความ บังเอิญที่พัสดุกล่องนั้นจ่าหน้าถึงเขาอย่างพอดิบพอดี

     

    กล่องพัสดุเรียบๆ ไม่มีอะไรหวือหวาน่าสนใจ กระทั่งชื่อคนส่งก็ยังไม่มีเขียนไว้เลยด้วยซ้ำแต่มันก็ถูกส่งมายังจุดหมายได้อย่างน่าประหลาดใจ คาร์ลงมือแกะกล่องพัสดุในทันทีโดยไม่คิดอะไรวุ่นวายให้เปลืองสมอง

     

    ทว่า บางทีเขาอาจจะไม่ควรเปิดมันออกมาเลยด้วยซ้ำ

     

    ใครจะไปรู้เท่าตัวเขาเองว่าในยามนั้นเขารู้สึกอย่างไร ทั้งช็อก ทั้งนิ่งอึ้ง ความรู้สึกผิดหวังและตื่นตระหนกวูบขึ้นมาก่อนสิ่งอื่นใด หลากอารมณ์ผสมปนเปคละเคล้ากันไปจนแยกแยะอะไรไม่ถูก

     

    หากคุณเห็นรูปคนรักของตัวเองที่ยังรักกันดีอยู่เคียงข้างหญิงสาวคนหนึ่ง ทั้งโอบกอด ทั้งหอมแก้ม และทำอะไรต่อมิอะไรกัน คุณจะรู้สึกยังไงกันล่ะ?

     

    พี่ฟิวส์เคยเล่าให้เขาฟังก่อนที่เขาจะตกลงคบหากับพี่แบล็คว่าเพื่อนของตนนั้นค่อนข้างจะเป็นเพลย์บอยตัวฉกาจอยู่เหมือนกัน คบกับผู้หญิงไปทั่วไม่เลือกหน้า ก่อนที่จะหยุดชะงักไปเมื่อได้มาพบกับเขา แต่นั่นก็ยังเป็นเรื่องที่ไม่น่าไว้วางใจ

     

    สันดานของคนมันเลิกกันไม่ได้ง่ายๆ

     

    แม้จะมีความเชื่อใจมากเพียงใดแต่มันก็ไร้ค่า

      

    เขาจำไม่ได้ว่าหลังจากนั้นตนทำอะไรลงไปบ้าง รู้เพียงแต่ว่าโสตประสาทมันอื้ออึ้งไปเสียหมด ก่อนที่หยาดน้ำใสจะพรั่งพรูหลั่งรินลงมาไม่ขาดสาย เสียงสะอึกสะอื้นที่หาได้ยากดังลั่นมิมีหยุด และมันก็คงจะดังมากเสียจนทำให้เพื่อนตัวเล็กของเขาสะดุ้งตื่นขึ้นมาและรีบร้อนวิ่งออกมาหาเขาที่ทรุดตัวลงนั่งร้องไห้โฮอย่างอ่อนล้าด้วยความตกใจ

     

    เดิมทีกับการที่เห็นเพื่อนรักผู้เข้มแข็งและค่อนข้างหยิ่งทะนงในตัวเองมานั่งร้องไห้อย่างหมดสภาพมันก็เลวร้ายมากพออยู่แล้ว แต่เรื่องราวก็ยิ่งบานปลายเข้าไปใหญ่เมื่อนัยน์ตากลมโตของฟรานดันเหลือบไปเห็นหลักฐานกองโต และนั่นก็ทำให้อีกฝ่ายเดือดดาล กอบโกยรูปภาพทั้งหมดยัดใส่กล่องลวกๆ ถือไว้ในมือข้างหนึ่ง ก่อนจะใช้มืออีกข้างที่ว่างฉุดเขาให้ลุกขึ้นและมุ่งหน้ากลับไปถามไถ่ที่ห้องนอน

     

    ซึ่งเหตุการณ์ต่อจากนั้นก็ดำเนินไปตามเบื้องต้น และสิ่งที่ฟรานฉีกเล่นจะเป็นอะไรไปได้นอกจากรูปในกล่องพัสดุ

     

    เมื่อหลุดจากภวังค์ในอดีต คาร์ก็แอบเหลือบมองเพื่อนสนิทของตนที่มีสีหน้าเรียบเฉยจนเขาคาดเดาความคิดไม่ถูกเล็กน้อย ก่อนจะถอนหายใจเฮือกใหญ่

     

    อันที่จริงเรื่องพวกนี้เขาควรจะลงมือจัดการด้วยตัวเอง แต่มีหรือที่เพื่อนรักซึ่งรักเพื่อนยิ่งกว่าอะไรดีจะยอมให้เขาจัดการด้วยตัวเอง

     

    ไม่มีทางหรอก!

     

    ก่อนที่คาร์จะชะงักกึกแล้วรีบเบนหน้ากลับไปแทบไม่ทันเมื่อเห็นฟรานหยิบมือถือที่สั่นระรัวขึ้นมากดรับด้วยใบหน้าไร้อารมณ์

     

    ฮัลโหล...ฮะ ฟรานเอง...ฟรานอยู่กับคาร์บนรถ...ไปจัดการอะไรนิดหน่อยฮะ...ฮะ...ฮะ...โอเคฮะ...รักนะฮะพี่

     

    เพียงได้ยินน้ำเสียงอ่อนหวานที่สลัดคราบความเย็นชาไปโดยสิ้นเชิงก็ทำให้คาร์พอจะเดาได้ไม่ยากว่าปลายสายนั้นเป็นใคร ก็คงจะโทรมาถามไถ่ตามประสาพี่ชายและคนรักที่ดีตามเคย และเมื่อวนคิดมาถึงตรงจุดนี้ก็ทำให้ร่างเล็กเข้าไปตกอยู่ในภวังค์แห่งความคิดอีกครั้งหนึ่ง

     

    ...พี่ฟิวส์กับฟรานมีรักที่ผูกพันธ์กันอย่างแน่นแฟ้นเพราะสายใยของพี่น้อง...

     

    ...พี่โซลกับคิริวก็ยึดมั่นในรักเพราะเป็นรักที่ยาวนานมาตั้งแต่เด็ก...

     

    แล้วเขา...กับพี่แบล็คล่ะ?

     

    ...ทะเลาะกันตั้งแต่แรกเจอ เป็นคู่กัดมากกว่าคู่รักเสียอีก...

     

    เพียงได้หวนคิดถึงบุคคลที่แสนจะใจร้าย หยาดน้ำใสก็พลันเอ่อล้นขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง และนั่นก็ทำให้เมื่อฟรานปรายตามาเห็น เขาก็กลับเข้าสู่ดาร์คโหมดอีกครั้ง ทั้งๆ ที่เมื่อครู่เริ่มใจเย็นลงไปบ้างแล้วแท้ๆ

     

    รถยนต์คันหรูบรรจงจอดลงเบื้องหน้าบ้านหลังไม่ใหญ่ไม่เล็กเกินไปที่มีความสวยงามในตัวอย่างนุ่มนวล ร่างของคาร์กระตุกวูบในทันทีเมื่อเห็นจุดหมายปลายทางที่มาถึง

     

    บ้านของพี่แบล็ค

     

    ...นี่คงไม่ได้คิดจะเดินไปอัดสักครั้งสองครั้งแถมด้วยกระทืบปิดท้ายก่อนจะกระชากคอขึ้นมาถาม จริงๆ หรอกนะ?...

     

    บรรลัยล่ะ!...

     

    To Be Continue


     

     

     

    มาอัพแล้วค่า~ หายไปนานกับช่วงเตรียมตัวสอบ สอบ แล้วก็ไปค่ายทันทีหลังสอบเสร็จ - -^ กลับมาคราวนี้ด้วยพล็อตชั่ววูบที่นั่งประติดประต่อเรื่องราวในยามว่างๆไม่มีอะไรทำก็นั่งจินตนาการเล่นนี่แหละค่ะ...ดาร์คฟรานปรากฏตัว! แล้วคุณจะได้รับรู้คำว่า บรรลัยอย่างสุดซึ้ง! ไม่ได้แต่งนิยายเสียนาน พอได้แต่งอีกทีเลยติดลมไปเลยค่ะ ตัดจบไว้ต่อตอนต่อไปค่า~

     

    PS.เดี๋ยว 7-9 ต.ค. มีค่ายอีกหนึ่งค่าย TT^TT

    PS2.แต่งเสร็จตั้งแต่เมื่อวานแต่เด็กดีเน่าอัพไม่ได้~

     

    5/ต.ค./53 อัพ

    10/มี.ค./55 Re-write


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×