คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #16 : Chapter 14 : Festival (3)
Chapter 14-- Festival (3 ) --
...บรรยากาศวังเวงที่แสนจะมืดมน...
...เสียงโหยหวนจากเหล่าสัตว์ป่าผู้ไม่ยอมหลับใหล...
...จันทราแรกแย้มส่องสว่างราวกับกำลังเย้ยหยันต่อเหล่ามวลมนุษย์...
...ร่างของหญิงสาวบริสุทธิ์ผู้ปลิดชีวิตของตนอย่างง่ายดายห้อยโต่งเต่งอยู่บนกิ่งไม้ใหญ่...
...มีตำนานเล่าสืบต่อกันมาว่า...
...หญิงสาวผู้ต้องจากโลกใบนี้ไปเพราะความเคียดแค้นในสิ่งที่เรียกว่า ‘ความรัก’...
...จะปรากฏตัวขึ้นมาท่ามกลางหยาดโลหิตที่เปรอะเปื้อนรายล้อมรอบกาย...
...แล้วพรากชีวิตมนุษย์คนแล้วคนเล่า...
...เพื่อไปเป็น ‘ตุ๊กตา’ ของเธอ...
...ค่ำคืนหนึ่งที่พระจันทร์เต็มดวงทอประกายแสงสีนวล...
...เสียงหัวเราะคิกคักดังขึ้นในเงามืด...
...ร่างที่แสนจะน่าสยดสยองปรากฏขึ้น พร้อมรอยยิ้มกระหายเลือด...
...ใช้มีดเล่มสวยแทงกระชากซ้ำแล้วซ้ำเล่าเพื่อให้เกิดความเป็น ‘ศิลปะ’ ของเธอ...
...เสียงกรีดร้องของผู้ที่ตกอยู่ในวังวนแห่งหายนะ...
...ผสานเข้ากับเสียงหัวเราะอันน่าขนลุกของวิญญาณสาว...
...ร้อยเรียงเป็น ‘เมโลดี้สีเลือด’...
...คอยที่จะบรรเลงให้คุณฟังได้ทุกเมื่อ....
...เพื่อเรียกหาความตายมาสู่คุณ บุคคลผู้น่าสงสาร....
...ในคืนพระจันทร์เต็มดวง มีใครอยู่ข้างหลังคุณหรือเปล่า?...
--Change! --
หากลองสังเกตดูให้ดี คุณจะพบว่า สายตาของเหล่าผู้คนที่ไม่ใช่นักเรียนของที่นี่ล้วนแล้วแต่กำลังเผลอจับจ้องไปยังจุดจุดเดียวกันโดยที่ไม่อาจจะถอนสายตากลับคืนมาได้ง่ายๆ
ภาพของหนุ่มน้อยน่ารักในชุดโลลิต้าที่เดินเคียงคู่กับชายหนุ่มผู้แสนจะหล่อเหลาในชุดแวมไพร์กระหายเลือด ไม่ว่าจะมองในมุมใด มันก็ช่างเป็นภาพอันงดงามที่ชวนให้ตกตะลึงจนแทบจะลืมหายใจเสียเหลือเกิน
มีคนหน้าตาดีขนาดนี้อยู่บนโลกด้วยเหรอ?!
แต่ครั้นพอตั้งใจจะเดินไปถามชื่อ ถามเบอร์โทรศัพท์ หวังจะได้ทำความรู้จักเล็กๆ น้อยๆ พวกเขาก็พลันรู้สึกเสียวสันหลังวูบราวกับมีรังสีบางอย่างแผ่กระจายออกมาเป็นตัวกดดันจนไม่อาจจะก้าวเข้าไปหาร่างทั้งสองในระยะประชิดได้
รังสีนั้นมีชื่อว่า ‘รัศมีหวงน้อง (แฟน)’ นั่นเอง
ช่างยอดเยี่ยมเสียนี่กระไร กันได้ทั้งชาย ทั้งหญิง แล้วยังอุตส่าห์ครอบคลุมไปถึงเพศ ‘อื่นๆ’ ทั้งหลายอีกด้วย! (ละไว้ในฐานที่เข้าใจ)
แหม...มีประโยชน์เหลือเกิน!
“พี่ฮะ ไปเล่นตรงนั้นกัน!”
“ครับผม”
เอ่ยตอบพร้อมบรรจงส่งยิ้มหวานๆ ให้กับร่างเล็กที่กระตุกแขนเสื้อเขายิกๆ อย่างน่ารัก ร่างสูงมองตามนิ้วเรียวยาวของฟรานไปเรื่อยๆ จนประสบพบเข้ากับ...
แผงปาเป้า
ฟิวส์เลิกคิ้วขึ้นสูง เตรียมจะอ้าปากถาม แต่ฟรานก็ดันเริ่มออกแรงลากให้เขาต้องยอมเดินตามไปอย่างเสียมิได้เสียก่อน
“พี่ชาย โลมาน่ารัก ฟรานอยากได้ตุ๊กตาโลมา”
ออดอ้อนพร้อมเอฟเฟคต์เสริมทำตาปิ๊งๆ บวกกับศีรษะทุยๆ ที่ถูไถแขนแกร่งของพี่ชายสุดที่รักอย่างเต็มที่ เล่นเอาคนโดนอ้อนแทบจะลงไปนอนกองที่พื้นเพราะเลือดหมดตัวกะทันหันเลยทีเดียว
งานนี้พี่ชายขอสู้ตาย!
“อ้าว! มาเดินทำหน้าหล่ออะไรแถวนี้เนี่ย ไอ้ฟิวส์!”
“ทักได้น่ายัดรองเท้าเข้าปากมาก...”
“ขอเป็นยัดน้องฟรานผูกโบว์แทนได้มั้ยเอ่ย?”
ผัวะ!
ฟิวส์บรรจงทำวงสวิงถีบใส่ขาเก้าอี้ที่คู่สนทนากำลังนั่งอยู่อย่างนุ่มนวล...นุ่มนวลมากเสียจนเก้าอี้กระเด็นไปสามเมตร ส่วนคนที่เดิมนั่งอยู่บนเก้าอี้ตัวนั้นก็ได้ฤกษ์ไปนอนเล่นอยู่บนพื้นอย่างแนบชิดสนิทสนม
“ปากน่ะ ระวังหน่อย แล้วจะหาว่าไม่เตือน”
“โธ่...นายก็รู้ว่าฉันล้อเล่น”
“ไม่ใช่เมียแกจะไปรู้ได้ยังไงเล่า!”
ร่างสองร่างเปิดสงครามปะทะฝีปากกันอย่างเมามันจนลืมร่างน้อยๆ ที่ยืนจ๋อยอยู่ด้านข้างไปซะสนิท
“พี่ฮะ...ฟรานอยากได้โลมา”
ฟรานเอ่ยทวนย้ำความต้องการของตนขึ้นอีกครั้งหนึ่งเมื่อเห็นว่าพี่ชายไม่ได้สนใจเขาเลยสักนิด หยาดน้ำใสเอ่อคลอที่นัยน์ตากลมโตคู่สวยด้วยความน้อยใจจนฟิวส์ผวารีบหันมาปลอบแทบไม่ทัน
“โอ๋ๆ ไม่ร้องนะครับคนดี พี่จะเอามาให้เดี๋ยวนี้ล่ะครับ”
ฟิวส์ตะลีตะลานปลอบ บรรจงใช้นิ้วเรียวยาวได้รูปของตนปาดน้ำตาบนใบหน้าน่ารักนั้นอย่างนุ่มนวลด้วยใบหน้าโศกสลด
เขาหน้าเสียไปเต็มๆ เพราะดันไปผิดคำสัญญาที่ให้ไว้กับฟรานเข้าเสียได้
คำสัญญาที่เคยลั่นวาจาไว้ว่า...จะใส่ใจฟรานเป็นที่หนึ่งเสมอ
เป็นเรื่องที่รู้กันดีอยู่ว่าตระกูลของสองพี่น้องผู้หน้าตาดีชนิดกู่ไม่กลับคู่นี้นั้นค่อนข้างจะร่ำรวยและมีหน้ามีตาในสังคมมากเป็นพิเศษ อาจจะฟังดูดีแต่นั่นก็เปรียบเสมือนกับดาบสองคม ทำให้บิดามารดาของทั้งคู่ไม่มีเวลาอยู่กับพวกเขาบ่อยเสียจนกลายเป็นเรื่องปกติ ซึ่งฟิวส์เข้าใจเรื่องนี้ดี
ทว่าฟรานในตอนที่ยังเป็นเด็กน้อยนั้นไม่เข้าใจ และได้แต่ทนอยู่กับความเหงาไปวันๆ
เขาจึงได้ให้สัญญาแก่ฟรานเอาไว้ และรักษาคำสัตย์นั้นได้อย่างดีเรื่อยมา
แต่ก็พลาดเสียแล้ว
เปรี้ยง!
เสียงกระสุนลมลั่นกระทบกับตุ๊กตาโลมาอย่างแม่นยำในนัดเดียว ก่อนที่เจ้าตัวจะรับตุ๊กตาโลมาจากคนคุมแผง แล้วจึงยื่นให้กับฟรานซึ่งยืนซึมไม่สนใจสิ่งรอบข้างใดๆ ทั้งสิ้น
“นี่ครับ ตุ๊กตาโลมาของฟราน”
ร่างเล็กเงยหน้าขึ้นมา เบิกตากว้างด้วยความตกตะลึง
“ขอบคุณฮะพี่!”
รอยยิ้มหวานปรากฏขึ้นบนใบหน้างามที่เปรอะเปื้อนไปด้วยหยาดน้ำตา แต่ครั้งนี้มันมิใช่น้ำตาแห่งความโศกเศร้าอีกต่อไป...
หากแต่เป็นน้ำตาแห่งความสุข
ฟิวส์ส่ายศีรษะไปมาอย่างแช่มช้า เด็กน้อยที่ขี้แยของเขา ก่อนจะเช็ดน้ำตาบนใบหน้าน่ารักนั้นอย่างอ่อนโยนที่สุดให้อีกครั้งหนึ่ง
...ความสุขที่เอิบอิ่มอยู่ในใจเป็นตัวบดบังให้พวกเขายากจะรับรู้ถึงบางอย่างที่กำลังคืบคลานเข้ามาใกล้...
To Be Continue
มาอัพแล้วค่ะ ^^ ตอน Festival ชักจะทอดยาวเกินหน้าเกินตาเสียแล้ว - -^ เดี๋ยวตอนหน้าเปลี่ยนชื่อละกันนะคะ (แต่ยังอยู่ในงานเทศกาลอยู่) ส่วนที่เกริ่นขึ้นมาข้างต้นนั่น...อย่าเพิ่งสงสัยค่ะว่าเกริ่นมาทำไม เดี๋ยวได้เฉลยอย่างถ้วนหน้าแน่นอนค่ะ
19/ธ.ค./52 อัพ
17/ก.พ./55 Re-write
ความคิดเห็น