คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : Chapter 5 : So Sorry
Chapter 5 -- So Sorry--
...สงครามเย็น...
คงจะมีคำคำนี้เพียงคำเดียวที่จะสามารถอธิบายทุกสิ่งทุกอย่างที่กำลังเกิดขึ้นได้อย่างครอบคลุมและสั้นกระชับมากที่สุด
“ว่าไงนะครับ?”
“พี่บอกว่า ‘ขอโทษ’ จริงๆ ครับ”
ร่างสูงสง่าโค้งตัวให้อย่างงดงามแทบจรดเก้าสิบองศาพลางเอ่ยอย่างหนักแน่น ทำท่าราวกับกำลังฝากฝังตัวกับพ่อเขยแม่เขยก็ไม่ปาน
“...”
...คาร์มองหน้าฟิวส์...
“...”
...ฟิวส์ยังโค้งอยู่...
“...”
..คาร์ทำท่าใกล้จะระเบิดเต็มที...
“...”
...ฟิวส์กลับมายืนตัวตรงเป๊ะเหมือนเดิม...
“ไอ้...พี่...งี่-เง่า!” คาร์ตะโกนสุดเสียง ระดับเดซิเบลของมันนั้นเล่นเอาฟิวส์แทบเซไปเลยทีเดียว “แทนที่จะมาขอโทษผม ทำไมไม่ไปขอโทษฟรานเล่า! ใช้อะไรคิดกันหา!”
รอบนี้ฟิวส์ถึงกับทนไม่ไหวแทบจะทรุดลงไปนั่งกับพื้น ร่างสูงส่งยิ้มเจื่อนๆ ให้กับคาร์ ตัวก็เล็กนิดเดียวแท้ๆ ไม่รู้ว่าไปขุดพลังเสียงมากจากไหนตั้งมากมาย ถ้าโดนว้ากใส่อีกสักครั้งมีหวังเขาได้หูหนวกแหงๆ
“เดี๋ยวๆๆ มันมีที่มาที่ไปนะครับ คือพี่ตั้งใจมาขอโทษคาร์ก่อนเพื่อจะขอคำปรึกษาน่ะครับ”
“คำปรึกษา?” ฟิวส์พยักหน้าหงึกหงักด้วยสีหน้าซื่อบื้อแบบสุดๆ “แล้วทำไมไม่รีบพูดตั้งแต่แรกล่ะ! มีอะไรก็ว่ามาครับ...ก่อนที่ผมจะหักคอพี่”
ว่าพลางหักกระดูกที่มือเสียงดังกร๊อบแกร๊บ น้ำเสียงท้ายประโยคนั้นถูกกดต่ำดิ่งลงวูบชนิดที่ฟิวส์ไม่กล้าหือให้กับคาร์อีกต่อไป เพราะโหดอย่างนี้ไงเขาถึงอยากให้คอยอยู่กันพวกแมลงหวี่แมลงวันที่ชอบมายุ่งกับฟรานแทนเขา
...แต่โหดเกินไปขนาดนี้มันก็ชักจะทำให้เขารู้สึกสมเพชกับสภาพของตัวเองขึ้นมาเล็กๆ ซะแล้วสิ...
--Change! --
“พี่ชายช้าจังเลย~”
ร่างบางบ่นหงุงหงิงไปพลางอ่านหนังสือที่ปกพิมพ์ลายตัวการ์ตูนขวัญใจเด็กทั่วโลกที่เป็นแมวอ้วนสีน้ำเงินมาจากโลกอนาคตและมีของวิเศษในกระเป๋ามากมายเสียจนน่าอิจฉาในมือไปพลาง พร้อมกับคอยชะเง้อหาร่างคุ้นตาเป็นบางครั้งบางคราวจนชักจะเริ่มเมื่อยคอขึ้นมาตงิดๆ
“ไปคุยอะไรกับคาร์กันนะ ไม่กลัวตายหรือไงกัน...”
“อยากให้พี่ตายเหรอครับ หืม?”
เฮือก!
โอ๊ะ...ช่วงนี้สะดุ้งบ่อยจัง
ร่างบางสะดุ้งตัวโยนจนหนังสือหลุดมือลงไปกองแหมะอยู่แทบเท้า ไม่วายแอบขบคิดในใจอย่างขำขันในตัวเองเล็กน้อย เมื่อหันหลังกลับไปก็พบเข้ากับพี่ชายของตนที่ยืนทำหน้าซังกะตายอยู่ สีหน้าแบบนี้ไม่ต้องให้ใครมากระซิบบอก ร้อยทั้งร้อยฟรานก็ฟันธงได้ว่าพี่ชายต้องกำลัง ‘งอน’ เขาอยู่แน่ๆ
“ก็ต้องไม่อยากอยู่แล้วล่ะฮะ! แต่คราวหลังเวลาจะโผล่มาก็ส่งเสียงล่วงหน้าก่อนสิฮะพี่ สะดุ้งบ่อยๆ แบบนี้เดี๋ยวฟรานก็หัวใจวายตายพอดี”
เด็กหนุ่มแสร้งบ่นงึมงำ ยื่นปากออกมาอย่างน่ารักน่าเอ็นดู แล้วจะให้ฟิวส์ตัดใจงอนเจ้าตัวเล็กที่แสนจะน่ารักนี่ลงไปได้ยังไงกัน
ดังนั้น สุดท้ายคำตอบจากปากของเขาก็ลงเอยในรูปแบบเดิมๆ นั่นแหละ!
“ครับๆ ครับผม พี่ชายไม่กล้าแล้วครับ”
และแล้วสงครามปะทะฝีปากยกหนึ่งก็จบลงไปอย่างง่ายดาย ก่อนที่สองพี่น้องจะพากันเดินทอดน่องไปยังทางกลับบ้านของตนอย่างสบายอารมณ์
คฤหาสน์ของพวกเขานั้นตั้งอยู่ไม่ไกลจากโรงเรียนสักเท่าไหร่นัก ใช้วิธีเดินไปกลับโรงเรียนเอาก็ได้ อันที่จริงบุพการีทั้งสองนั้นไม่ค่อยจะปลื้มกับวิธีนี้แต่ลงท้ายก็ต้องยอมแพ้ให้กับลูกตื๊อของบุตรชายสุดที่รักทั้งสองที่เที่ยวมาอ้อนเช้าอ้อนเย็นจนพวกเขาใจอ่อนยวบยาบ จำต้องยอมอนุญาตไปอย่างเสียมิได้
สองพี่น้องคู่นี้ก็ช่างมีความมุมานะพยายามในเรื่องไม่เป็นเรื่องกันจริงๆ
...แหม ก็การเดินกลับบ้านด้วยกันน่ะมันโรแมนติกดีจะตาย!...
--Change! --
หลังจากรับประทานอาหารเย็นพร้อมหน้าพร้อมตากันทั้งครอบครัวแล้ว สองพี่น้องก็เล่นวิ่งแข่งขึ้นไปยังห้องนอนของพวกเขาราวกับเด็กเล็กๆ ซึ่งบันไดทางขึ้นนั้นปูด้วยพรมแดงอย่างดีและมีขั้นบันไดไม่ต่ำกว่าห้าสิบขั้น ทว่าพวกเขาก็ยังคงวิ่งขึ้นไปอย่างเริงร่าแล้วมาถึงห้องนอนโดยสวัสดิภาพ
ก่อนที่ฟรานจะใช้กลโกงแบบหน้าด้านๆ ร่างเล็กแกล้งบอกฟิวส์ว่าทำของสำคัญตกอยู่ด้านนอกด้วยน้ำตาคลอเบ้า และแน่นอนว่าเจ้าพี่ชายบ้าน้องสุดใจขาดดิ้นอย่างฟิวส์นั้นก็ต้องรีบอาสาวิ่งออกไปหาให้ในทันที โดยที่ไม่รู้เลยว่า ฟรานแอบอาศัยจังหวะนี้วิ่งเข้าไปใช้ห้องน้ำก่อนเรียบร้อยแล้ว...
และกว่าฟิวส์จะรู้ตัวก็โง่ไปนั่งหาอยู่นานเลยล่ะ
ร่างเล็กในชุดนอนลายหมีเดินฮัมเพลงออกมาจากห้องน้ำด้วยใบหน้าเบิกบาน แต่แล้วก็ต้องชะงักฝีเท้ากึกจนแทบหน้าคว่ำเมื่อได้รับสายตาเขียวปั๊ดส่งมาจากผู้เป็นพี่ชายที่มีเหงื่อโทรมกายนั่งหอบแฮ่กๆ อยู่บนเตียงอย่างแสนจะน่าสงสาร
“ฟราน...”
“อ่า...พี่ชาย...”
ร่างเล็กผงะไปในทันทีเมื่อได้ยินเสียงเรียกชื่อของตนเองที่เย็นเยียบจนน่าขนลุก และค่อยๆ ก้าวถอยหลังไปทีล่ะก้าว...ทีล่ะก้าว...
พลั่ก!
จนหลังชนเข้ากับกำแพงอย่างไร้ทางหนีในที่สุด!
“เด็กดื้อก็ต้องโดนลงโทษ!”
“อ๊ะ!”
ร่างสูงทาบทับริมฝีปากของตนลงไปบนกลีบปากบางสีสวยสดที่แสนจะเย้ายวน มือหนาแกล้งบีบสะโพกมนทำให้ร่างบางจำต้องเผยอปากขึ้นมาอย่างอดไม่อยู่ ก่อนที่ลิ้นร้อนจะสบโอกาสชอนไชเข้าไปกวาดหาความหวานล้ำและกอบโกยมาอย่างเต็มอิ่ม
“แฮ่ก...แฮ่ก...”
ร่างบางหอบเล็กน้อยด้วยใบหน้าที่ขึ้นสีแดงระเรื่อ ร่างสูงส่งยิ้มให้กับเด็กน้อยที่แสนจะน่ารักของเขา ก่อนจะจุมพิตลงบนหน้าผากมนเบาๆ ด้วยความรักใคร่อย่างที่ทำอยู่เป็นประจำ
วงแขนแกร่งเหนี่ยวรั้งเอวบางให้เข้ามาแนบชิดกับกายของเขา ก่อนจะอุ้มร่างเล็กไปวางลงบนเตียง มือหนาบรรจงลูบเรือนผมนุ่มอย่างแช่มช้า แล้วจึงหยิบบางสิ่งบางอย่างขึ้นมาทัดที่ใบหูของร่างบาง
กุหลาบสีแดง
“นี่มัน...”
ร่างเล็กเบิกตาโพลง ทำท่าอ้ำๆ อึ้งๆ อย่างไม่รู้ว่าจะพูดอะไรออกมาดี
“ของง้อครับ” ฟิวส์พูดหน้าตาย “ยกโทษให้พี่นะครับคนดี อย่ากลัวสัมผัสจากพี่เลยนะครับ”
พี่ชายรู้...
ฟรานหน้าแดงก่ำขึ้นมาอีกครั้งด้วยความเขินอาย ใบหน้าน่ารักก้มงุดๆ ลงไปจนแทบจะแนบชิดกับลำคอ ร่างสูงมองอากัปกิริยานั้นอย่างเอ็นดู โน้มกายกระซิบข้างหูของร่างบางด้วยประโยคที่แสนจะน่าตกตะลึง
“กุหลาบสีแดง พี่มอบให้ฟรานตามความหมายของมัน”
...ความรักและความปรารถนา...
“พี่รักฟรานมากเกินกว่าจะแทนที่ด้วยคำว่า ‘พี่น้อง’ ไปแล้วล่ะครับ...”
To Be Continue
ตอนนี้มันช่าง...หวานได้อีก...มดจะรุมเจาะคอมอยู่แล้วค่ะ *วิ่งหนีมด* ก็หวังว่าจะถูกใจท่านผู้อ่านทุกๆท่านนะคะ (และหวังว่าจะไม่มีใครสำลักความหวานเลี่ยนจนตาย) วันที่ 26 นี้จะปิดเทอมแล้วอ่าค่ะ จะเร่งอัพให้บ่อยๆละกันนะคะ T^T๐
22/ต.ค./52 อัพ
29/ม.ค./55 Re-Write
ความคิดเห็น