ลำดับตอนที่ #6
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : ทำไมต้องไปโรงเรียน?
     
 
          10.00น.
          นักเรียนปี1ทุกคนมารวมกันที่ห้องโถง  เมื่อเห็นว่าทุกคนมากันครบแล้ว อาจารย์หนุ่มท่าทางอ่อนแอและน่าสงสาร ก็เดินไปบนเวทีขนาดย่อม และเริ่มกรอกเสี่ยงใส่ไมค์โครโฟน
          “เอ่อ..อะแฮ่ม..สวัสดีนักเรียนทุกคน วันนี้เป็นวันแรก ดังนั้นเราจึงยังไม่มีการเรียนการสอนกันหรอกนะ”  เสียงคุยเซ็งแซ่ดังขึ้นเมื่อเขากล่าวจบ
          “น่ะ..นี่....เงียบๆกันหน่อย” เขาเริ่มหันไปขอความช่วยเหลือจากอาจารย์คนอื่นๆ แต่ดูเหมือนจะไม่มีใครคิดจะช่วยเลยซักคน.....เขาจึงหันกลับมาและพยายามจะพูดอีกครั้ง
          “ฉันชื่อ อาจารย์นาคาชิมะ โซจิ สอนวิชาพละศึกษา” ทันทีที่พูดจบ เสียงหัวเราะของเด็กผู้หญิงกลุ่มหนึ่งก็ดังขึ้น อาจารย์ตัวเล็กๆท่าทางขี้โรคแบบนี้เนี่ยนะ ........สอนวิชาพละ
          มินยูมองอาจารย์โซจิด้วยสีหน้าเห็นใจ....
          ฮิโรมองเด็กที่หัวเราะด้วยสีหน้ารังเกียจ... (อีกแล้วเรอะ....=_=)
          อาจารย์โซจิ ทำสีหน้าเหมือนอยากจะร้องไห้เต็มที แล้วเริ่มพูดต่อ “เอ่อ..ฉันเป็นหัวหน้าฝ่ายปกครอง ดังนั้น จึงต้องมายืนพูดอยู่ตรงนี้T0T”  หลังจากนั้นเขาก็อธิบายยืดยาวเกี่ยวกับประวัติของโรงเรียน และแนะนำอาจารย์ที่สอนวิชาต่างๆ ฮิโรไม่ค่อยได้สนใจเท่าไหร่นัก
          เขาจำได้แต่เพียงว่าอาจารย์โรคจิตเมื่อเช้านั้น ชื่ออันโดะ เซ็นเซย์ .....สอนวิชาคณิตศาสตร์
          ...................เซ็นเซย์ ที่แปลว่าครูน่ะหรอ ...เพราะชื่อของหมอนี่เองสินะ ที่ทำให้มาเป็นครูอยู่ได้ทุกวันนี้............ ฮิโรนึกขำอยู่ในใจ
          “อืมม.....พวกเธอก็รู้จักอาจารย์ทุกคนกันแล้วสินะ การเรียนการสอนจะเริ่มวันพรุ่งนี้ ต่อไปอาจารย์มิยาซากิจะพาทุกคนไปแนะนำโรงเรียน.........สำหรับเรื่องอื่นๆ มีใครจะถามอะไรอีกรึเปล่า”  โซจิเงียบไปครู่หนึ่ง เขายิ้มเมื่อรู้สึกโล่งอก แล้วพูดต่อ  “เมื่อไม่มี...ถ้าอย่างนั้นก็”
          “อาจารย์ หนูมีเรื่องจะถามค่ะ” เด็กผู้หญิงคนหนึ่งในกลุ่มที่หัวเราะคิกคักเมื่อซักครู่ ยกมือขึ้นแล้วเดินฝ่าวงล้อมของคนอื่นๆออกมา เธอใส่แว่นและมีบุคลิกท่าทางที่ดู ฉลาด และหัวดี
          “ทำไมเราต้องมาโรงเรียนด้วยล่ะคะ? 0_0 ” เมื่อเด็กหญิงคนนั้นพูดจบ โซจิทำหน้าตกใจ
          “แม่ของหนูบอกว่า เราต้องมาโรงเรียน เพื่อศึกษาหาความรู้....แต่ว่าเดี๋ยวนี้ เราก็สามารถหาความรู้จากที่อื่นได้เช่นจากห้องสมุดหรืออินเตอร์เนตก็ได้นี่คะ ไม่เห็นจำเป็นต้องถ่อมาถึงที่นี่แล้วเสียเงินทองมากมายให้กับพวกอาจารย์ที่ไม่รู้ว่ามีคุณภาพรึเปล่าด้วยล่ะคะ ไม่เข้าใจแม่เลยจริงๆ อาจารย์บอกหนูได้รึเปล่าล่ะ ว่าทำไมต้องมาโรงเรียน” เธอตัดคำลงท้ายของประโยคสุดท้ายออกไป
          โซจิทำหน้าตกใจ “เธอ.......ไม่รู้จริงๆหรอว่าทำไมน่ะ”
          “ก็ไม่รู้จริงๆน่ะสิ อาจารย์เป็นอาจารย์สอนพละ แต่หนูว่าพวกเราส่วนใหญ่น่ะวิ่งเร็วแล้วก็แข็งแรงกว่าอาจารย์ซะอีกนะคะ”
          “ระ..เรื่องนั้น”
          “แล้วอาจารย์ส่วนมากก็..อายุก็ยังน้อย... อย่างอาจารย์เองน่ะ ก็มาสอนที่นี่เพื่อจะได้มีเงิน เหมือนกับคนอื่นๆใช่มั้ยล่ะคะ ถ้างั้นแล้วทำไม..”
          เพี้ยะ!!!!!
          ใครบางคนตบหน้าของเธออย่างแรงจนมันหันไปอีกด้านหนึ่ง แว่นตากระเด็นไปอยู่ที่พื้น ด้วยความเจ็บเธอจึงรีบใช้มือกุมแก้มข้างที่ถูกตบไว้ เลือดค่อยๆไหลซึมออกมาจากบาดแผลนั้น เช่นเดียวกับน้ำตาของเธอที่ปริ่มอยู่ที่ขอบตา เธอหันหน้าไปสบตากับผู้ที่ทำร้ายเธอเมื่อซักครู่
          ............เด็กหนุ่มร่างสูง จมูกโด่งได้รูป ริมฝีปากสีซีด และดวงตาสีดำสนิทกำลังจ้องมาที่เธอเหมือนต้องการคำตอบอะไรซักอย่าง............ แก้มข้างที่ปลอดภัยของเธอเริ่มเป็นสีแดงระเรื่อ(?) แต่เมื่อนึกได้ว่าคนๆนี้เป็นคนที่ตบหน้าของเธอโดยไร้ความปรานี........ ก็ทำให้เธอแปลกใจยิ่งนัก
          “ทำไม....เธอ...ต้อง...............ทำไม”
          “นี่ยังไม่เลิกถามคำถามงี่เง่าอีกยังงั้นหรอ!!!”
          น้ำตาของเด็กสาวค่อยๆไหลลงมาอาบแก้ม อาจารย์โซจิที่ตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นลมไปแล้ว....เหล่าอาจารย์จึงต้องรีบไปช่วย ........ดูเหมือนจะไม่มีอาจารย์คนไหนสนใจเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นระหว่างทั้งเรียนทั้งสองเลย =_=
          “คำถามนั่นน่ะ........ฉันไม่คิดว่าเธอจะไม่รู้หรอกนะ.............แต่ถึงแม้ว่าเธอจะไม่รู้จริงๆ ฉันก็ไม่คิดว่าเธอจะไม่รู้จักคำว่ามารยาทหรอกนะ” นะเสะหยุดหายใจหนึ่งครั้ง แล้วเริ่มพูดต่อ
          “ทำไมต้องมาโรงเรียน...เพราะว่าถ้าเรียนอยู่ที่บ้าน..จะมีเพื่อนมั้ย?! จะได้ฝึกการใช้ชีวิตอยู่ในสังคมร่วมกับผู้อื่นรึเปล่า?!...ถ้าคิดว่าตัวเองเก่งจนสามารถเรียนด้วยตัวเองไม่ต้องมาให้อาจารย์สอนล่ะก็....ก็น่าจะรู้ได้นี่ ว่าถ้าวันๆเอาแต่นั่งๆนอนๆอยู่ที่บ้าน หรือว่าเอาแต่เที่ยวเล่นไปวันๆ .....ถ้าโตขึ้น ถึงมันจะฉลาด หัวดีแค่ไหน แล้วคิดว่ามันจะทำมาหากินได้มั้ย.............จะรู้มั้ยว่าเวลาอยู่กับคนอื่นน่ะควรจะรักษามารยาทยังไง?!..........” เขาตะโกนอย่างมีอารมณ์อีกครั้ง ก่อนจะเดินออกจากบริเวณนั้นไป เด็กหญิงทรุดลงกับพื้นแล้วเริ่มร้องไห้ จนเพื่อนๆของเธอต้องเข้ามาช่วยดูแล...........
          มินยูส่งสายตาเห็นอกเห็นใจไปให้เด็กหญิงคนนั้น
          ฮิโรส่งสายตาชื่นชมเล็กๆไปให้กับนาคาชิมะ เนะเสะ (@@)
____________________________________________________________________________
          เย็นวันนั้นหลังจากที่ได้เดินชมโรงเรียนจนทั่ว ฮิโรและมินยูก็กลับมาอาบน้ำเพื่อเตรียมตัวที่จะเข้านอน ที่ห้องพักของทั้งคู่
          “นี่ โฮชิโนะ............เรื่องเมื่อเช้าน่ะ แย่มากเลยเนอะ” มินยูพูดขึ้น ขณะที่ตนเองกำลังเช็ดผมที่เพิ่งสระมาหมาดๆ.................... ฮิโรเงยหน้าขึ้นจากหนังสือที่กำลังอ่าน
          “หืออ...เรื่องของนาคาชิมะ นะเสะกับอามามิยะน่ะหรอ”
          “ก็ใช่น่ะสิ ถึงมากิจังจะไม่สมควรพูดแบบนั้นกับอาจารย์ก็เถอะนะ แต่ฉันว่าหมอนั่นก็ทำเกินไปอยู่ดีแหละ ไม่มีความเป็นสุภาพบุรุษเอาซะเลย ฉันน่ะเกลียดคนแบบนี้ที่สุด!” มินยูโวยวายเสียงดัง แล้วสะปัดผมยาวสลวยของตน........ ฮิโรทำหน้าครุ่นคิด
          “แต่ฉันว่าหมอนั่นก็กล้าดีนะ.........แล้วอีกอย่าง นายก็ได้ยินที่เค้าพูดนี่ มีเหตุมีผลใช้ได้เลยนะ”
          “เอ๋?..........มะ...หมายความว่าไง”  มินยูสะบัดผมยาวสลวยของตนอีกครั้ง หยดน้ำที่กระเด็นมาโดนเต็มใบหน้า ทำให้ฮิโรตกใจ....และตัดสินใจเลิกที่จะพยายามมองว่าเพื่อนคนนี้ของเขาเป็นผู้ชาย..........
          “ฉันก็หมายความว่า ที่หมอนั่นพูดน่ะ มันก็มีส่วนถูกนะ..........
          ทำไมเราถึงต้องมาโรงเรียน ทั้งที่ปัจจุบันนี้ก็มีทั้งคอมพิวเตอร์ อินเตอร์เนต ห้องสมุด ............แต่เราก็ยังเลือกที่มาเรียนรู้สิ่งต่างๆที่โรงเรียน นั่นก็แสดงว่า โรงเรียนให้อะไรกับพวกเรา นอกเหนือจากวิชาการแล้ว..... ก็คงเป็นการเข้าสังคมล่ะมั้ง สอนให้เรามีเพื่อนไว้เล่นหัว ฯลฯ (ช่วยๆกันนึกภาพพระเอกเอามือขยี้หัวเพื่อนพระเอกด้วยเน้อะ..)  มีครูไว้ให้เคารพ เป็นสถานที่แห่งความทรงจำที่ล้ำค่าเลยเชียวล่ะ ....ก่อนหน้านี้ฉันก็ไม่เคยคิดหรอกนะ ................แต่ว่า พอหลังจากที่ได้ฟังหมอนั่นพูดแบบนั้นแล้ว ฉันก็รู้สึกเห็นด้วยขึ้นมา”    ฮิโรพูดแล้วยิ้ม มินยูจึงเดินมานั่งลงบนเตียงข้างๆเขา (แล้วทำหน้าซึ้งๆ *-*)
          “นายรู้รึเปล่า มีคนเคยบอกว่า โรงเรียนจะเป็นสถานที่ที่ทำให้เราโตขึ้นได้มากที่สุด ........ฉันก็ไม่รู้หรอกนะ ว่ามันจริงรึเปล่า ก็คงต้องดูกันต่อไปล่ะ”   มินยูพยักหน้าเห็นด้วย
          “แต่ฉันก็ยังไม่ชอบเจ้านั่นอยู่ดีแหละ”
          “เหอะๆ......ว่าแต่ว่า ขอร้องล่ะนะ คราวหน้าอย่ามาสะบัดผมไปทั่วแบบนี้ โดยเฉพาะในเขตของฉัน................แล้วก็
          ทำไมนายถึงต้องมาแจ๋นนั่งบนเตียงของชั้นด้วยละโว้ยยย!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!! >0<”
________________________________________________________________________________________
          เอาล่ะ!! เริ่มใกล้เคียงกับคำว่า จับฉ่าย เข้าไปทุกทีแล้ว T0T
          ช่วงนี้อาจจะไม่ได้อัพทุกวันเพราะว่าจะสอบแล้วล่ะ ><  แต่ว่าหลังจากสอบเสร็จจะต้องมาต่อแน่นอนเลย!!! (ถึงจะไม่รู้ว่ามีคนอ่านรึป่าวก็เถอะนะ ^^\"\")
          ขอให้คนที่อ่านสอบได้เกรด4ทุกวิชา ~
          ขอให้คนที่อ่านแล้วเม้นสอบได้เกรด4ทุกวิชา และสอบได้ที่1ของห้องด้วย ~~
          ขอให้คนที่อ่านแล้วเม้นแล้วโหวตสอบได้เกรด4ทุกวิชา และสอบได้ที่1ของชั้นเลย!! ~~~
 
          10.00น.
          นักเรียนปี1ทุกคนมารวมกันที่ห้องโถง  เมื่อเห็นว่าทุกคนมากันครบแล้ว อาจารย์หนุ่มท่าทางอ่อนแอและน่าสงสาร ก็เดินไปบนเวทีขนาดย่อม และเริ่มกรอกเสี่ยงใส่ไมค์โครโฟน
          “เอ่อ..อะแฮ่ม..สวัสดีนักเรียนทุกคน วันนี้เป็นวันแรก ดังนั้นเราจึงยังไม่มีการเรียนการสอนกันหรอกนะ”  เสียงคุยเซ็งแซ่ดังขึ้นเมื่อเขากล่าวจบ
          “น่ะ..นี่....เงียบๆกันหน่อย” เขาเริ่มหันไปขอความช่วยเหลือจากอาจารย์คนอื่นๆ แต่ดูเหมือนจะไม่มีใครคิดจะช่วยเลยซักคน.....เขาจึงหันกลับมาและพยายามจะพูดอีกครั้ง
          “ฉันชื่อ อาจารย์นาคาชิมะ โซจิ สอนวิชาพละศึกษา” ทันทีที่พูดจบ เสียงหัวเราะของเด็กผู้หญิงกลุ่มหนึ่งก็ดังขึ้น อาจารย์ตัวเล็กๆท่าทางขี้โรคแบบนี้เนี่ยนะ ........สอนวิชาพละ
          มินยูมองอาจารย์โซจิด้วยสีหน้าเห็นใจ....
          ฮิโรมองเด็กที่หัวเราะด้วยสีหน้ารังเกียจ... (อีกแล้วเรอะ....=_=)
          อาจารย์โซจิ ทำสีหน้าเหมือนอยากจะร้องไห้เต็มที แล้วเริ่มพูดต่อ “เอ่อ..ฉันเป็นหัวหน้าฝ่ายปกครอง ดังนั้น จึงต้องมายืนพูดอยู่ตรงนี้T0T”  หลังจากนั้นเขาก็อธิบายยืดยาวเกี่ยวกับประวัติของโรงเรียน และแนะนำอาจารย์ที่สอนวิชาต่างๆ ฮิโรไม่ค่อยได้สนใจเท่าไหร่นัก
          เขาจำได้แต่เพียงว่าอาจารย์โรคจิตเมื่อเช้านั้น ชื่ออันโดะ เซ็นเซย์ .....สอนวิชาคณิตศาสตร์
          ...................เซ็นเซย์ ที่แปลว่าครูน่ะหรอ ...เพราะชื่อของหมอนี่เองสินะ ที่ทำให้มาเป็นครูอยู่ได้ทุกวันนี้............ ฮิโรนึกขำอยู่ในใจ
          “อืมม.....พวกเธอก็รู้จักอาจารย์ทุกคนกันแล้วสินะ การเรียนการสอนจะเริ่มวันพรุ่งนี้ ต่อไปอาจารย์มิยาซากิจะพาทุกคนไปแนะนำโรงเรียน.........สำหรับเรื่องอื่นๆ มีใครจะถามอะไรอีกรึเปล่า”  โซจิเงียบไปครู่หนึ่ง เขายิ้มเมื่อรู้สึกโล่งอก แล้วพูดต่อ  “เมื่อไม่มี...ถ้าอย่างนั้นก็”
          “อาจารย์ หนูมีเรื่องจะถามค่ะ” เด็กผู้หญิงคนหนึ่งในกลุ่มที่หัวเราะคิกคักเมื่อซักครู่ ยกมือขึ้นแล้วเดินฝ่าวงล้อมของคนอื่นๆออกมา เธอใส่แว่นและมีบุคลิกท่าทางที่ดู ฉลาด และหัวดี
          “ทำไมเราต้องมาโรงเรียนด้วยล่ะคะ? 0_0 ” เมื่อเด็กหญิงคนนั้นพูดจบ โซจิทำหน้าตกใจ
          “แม่ของหนูบอกว่า เราต้องมาโรงเรียน เพื่อศึกษาหาความรู้....แต่ว่าเดี๋ยวนี้ เราก็สามารถหาความรู้จากที่อื่นได้เช่นจากห้องสมุดหรืออินเตอร์เนตก็ได้นี่คะ ไม่เห็นจำเป็นต้องถ่อมาถึงที่นี่แล้วเสียเงินทองมากมายให้กับพวกอาจารย์ที่ไม่รู้ว่ามีคุณภาพรึเปล่าด้วยล่ะคะ ไม่เข้าใจแม่เลยจริงๆ อาจารย์บอกหนูได้รึเปล่าล่ะ ว่าทำไมต้องมาโรงเรียน” เธอตัดคำลงท้ายของประโยคสุดท้ายออกไป
          โซจิทำหน้าตกใจ “เธอ.......ไม่รู้จริงๆหรอว่าทำไมน่ะ”
          “ก็ไม่รู้จริงๆน่ะสิ อาจารย์เป็นอาจารย์สอนพละ แต่หนูว่าพวกเราส่วนใหญ่น่ะวิ่งเร็วแล้วก็แข็งแรงกว่าอาจารย์ซะอีกนะคะ”
          “ระ..เรื่องนั้น”
          “แล้วอาจารย์ส่วนมากก็..อายุก็ยังน้อย... อย่างอาจารย์เองน่ะ ก็มาสอนที่นี่เพื่อจะได้มีเงิน เหมือนกับคนอื่นๆใช่มั้ยล่ะคะ ถ้างั้นแล้วทำไม..”
          เพี้ยะ!!!!!
          ใครบางคนตบหน้าของเธออย่างแรงจนมันหันไปอีกด้านหนึ่ง แว่นตากระเด็นไปอยู่ที่พื้น ด้วยความเจ็บเธอจึงรีบใช้มือกุมแก้มข้างที่ถูกตบไว้ เลือดค่อยๆไหลซึมออกมาจากบาดแผลนั้น เช่นเดียวกับน้ำตาของเธอที่ปริ่มอยู่ที่ขอบตา เธอหันหน้าไปสบตากับผู้ที่ทำร้ายเธอเมื่อซักครู่
          ............เด็กหนุ่มร่างสูง จมูกโด่งได้รูป ริมฝีปากสีซีด และดวงตาสีดำสนิทกำลังจ้องมาที่เธอเหมือนต้องการคำตอบอะไรซักอย่าง............ แก้มข้างที่ปลอดภัยของเธอเริ่มเป็นสีแดงระเรื่อ(?) แต่เมื่อนึกได้ว่าคนๆนี้เป็นคนที่ตบหน้าของเธอโดยไร้ความปรานี........ ก็ทำให้เธอแปลกใจยิ่งนัก
          “ทำไม....เธอ...ต้อง...............ทำไม”
          “นี่ยังไม่เลิกถามคำถามงี่เง่าอีกยังงั้นหรอ!!!”
          น้ำตาของเด็กสาวค่อยๆไหลลงมาอาบแก้ม อาจารย์โซจิที่ตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นลมไปแล้ว....เหล่าอาจารย์จึงต้องรีบไปช่วย ........ดูเหมือนจะไม่มีอาจารย์คนไหนสนใจเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นระหว่างทั้งเรียนทั้งสองเลย =_=
          “คำถามนั่นน่ะ........ฉันไม่คิดว่าเธอจะไม่รู้หรอกนะ.............แต่ถึงแม้ว่าเธอจะไม่รู้จริงๆ ฉันก็ไม่คิดว่าเธอจะไม่รู้จักคำว่ามารยาทหรอกนะ” นะเสะหยุดหายใจหนึ่งครั้ง แล้วเริ่มพูดต่อ
          “ทำไมต้องมาโรงเรียน...เพราะว่าถ้าเรียนอยู่ที่บ้าน..จะมีเพื่อนมั้ย?! จะได้ฝึกการใช้ชีวิตอยู่ในสังคมร่วมกับผู้อื่นรึเปล่า?!...ถ้าคิดว่าตัวเองเก่งจนสามารถเรียนด้วยตัวเองไม่ต้องมาให้อาจารย์สอนล่ะก็....ก็น่าจะรู้ได้นี่ ว่าถ้าวันๆเอาแต่นั่งๆนอนๆอยู่ที่บ้าน หรือว่าเอาแต่เที่ยวเล่นไปวันๆ .....ถ้าโตขึ้น ถึงมันจะฉลาด หัวดีแค่ไหน แล้วคิดว่ามันจะทำมาหากินได้มั้ย.............จะรู้มั้ยว่าเวลาอยู่กับคนอื่นน่ะควรจะรักษามารยาทยังไง?!..........” เขาตะโกนอย่างมีอารมณ์อีกครั้ง ก่อนจะเดินออกจากบริเวณนั้นไป เด็กหญิงทรุดลงกับพื้นแล้วเริ่มร้องไห้ จนเพื่อนๆของเธอต้องเข้ามาช่วยดูแล...........
          มินยูส่งสายตาเห็นอกเห็นใจไปให้เด็กหญิงคนนั้น
          ฮิโรส่งสายตาชื่นชมเล็กๆไปให้กับนาคาชิมะ เนะเสะ (@@)
____________________________________________________________________________
          เย็นวันนั้นหลังจากที่ได้เดินชมโรงเรียนจนทั่ว ฮิโรและมินยูก็กลับมาอาบน้ำเพื่อเตรียมตัวที่จะเข้านอน ที่ห้องพักของทั้งคู่
          “นี่ โฮชิโนะ............เรื่องเมื่อเช้าน่ะ แย่มากเลยเนอะ” มินยูพูดขึ้น ขณะที่ตนเองกำลังเช็ดผมที่เพิ่งสระมาหมาดๆ.................... ฮิโรเงยหน้าขึ้นจากหนังสือที่กำลังอ่าน
          “หืออ...เรื่องของนาคาชิมะ นะเสะกับอามามิยะน่ะหรอ”
          “ก็ใช่น่ะสิ ถึงมากิจังจะไม่สมควรพูดแบบนั้นกับอาจารย์ก็เถอะนะ แต่ฉันว่าหมอนั่นก็ทำเกินไปอยู่ดีแหละ ไม่มีความเป็นสุภาพบุรุษเอาซะเลย ฉันน่ะเกลียดคนแบบนี้ที่สุด!” มินยูโวยวายเสียงดัง แล้วสะปัดผมยาวสลวยของตน........ ฮิโรทำหน้าครุ่นคิด
          “แต่ฉันว่าหมอนั่นก็กล้าดีนะ.........แล้วอีกอย่าง นายก็ได้ยินที่เค้าพูดนี่ มีเหตุมีผลใช้ได้เลยนะ”
          “เอ๋?..........มะ...หมายความว่าไง”  มินยูสะบัดผมยาวสลวยของตนอีกครั้ง หยดน้ำที่กระเด็นมาโดนเต็มใบหน้า ทำให้ฮิโรตกใจ....และตัดสินใจเลิกที่จะพยายามมองว่าเพื่อนคนนี้ของเขาเป็นผู้ชาย..........
          “ฉันก็หมายความว่า ที่หมอนั่นพูดน่ะ มันก็มีส่วนถูกนะ..........
          ทำไมเราถึงต้องมาโรงเรียน ทั้งที่ปัจจุบันนี้ก็มีทั้งคอมพิวเตอร์ อินเตอร์เนต ห้องสมุด ............แต่เราก็ยังเลือกที่มาเรียนรู้สิ่งต่างๆที่โรงเรียน นั่นก็แสดงว่า โรงเรียนให้อะไรกับพวกเรา นอกเหนือจากวิชาการแล้ว..... ก็คงเป็นการเข้าสังคมล่ะมั้ง สอนให้เรามีเพื่อนไว้เล่นหัว ฯลฯ (ช่วยๆกันนึกภาพพระเอกเอามือขยี้หัวเพื่อนพระเอกด้วยเน้อะ..)  มีครูไว้ให้เคารพ เป็นสถานที่แห่งความทรงจำที่ล้ำค่าเลยเชียวล่ะ ....ก่อนหน้านี้ฉันก็ไม่เคยคิดหรอกนะ ................แต่ว่า พอหลังจากที่ได้ฟังหมอนั่นพูดแบบนั้นแล้ว ฉันก็รู้สึกเห็นด้วยขึ้นมา”    ฮิโรพูดแล้วยิ้ม มินยูจึงเดินมานั่งลงบนเตียงข้างๆเขา (แล้วทำหน้าซึ้งๆ *-*)
          “นายรู้รึเปล่า มีคนเคยบอกว่า โรงเรียนจะเป็นสถานที่ที่ทำให้เราโตขึ้นได้มากที่สุด ........ฉันก็ไม่รู้หรอกนะ ว่ามันจริงรึเปล่า ก็คงต้องดูกันต่อไปล่ะ”   มินยูพยักหน้าเห็นด้วย
          “แต่ฉันก็ยังไม่ชอบเจ้านั่นอยู่ดีแหละ”
          “เหอะๆ......ว่าแต่ว่า ขอร้องล่ะนะ คราวหน้าอย่ามาสะบัดผมไปทั่วแบบนี้ โดยเฉพาะในเขตของฉัน................แล้วก็
          ทำไมนายถึงต้องมาแจ๋นนั่งบนเตียงของชั้นด้วยละโว้ยยย!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!! >0<”
________________________________________________________________________________________
          เอาล่ะ!! เริ่มใกล้เคียงกับคำว่า จับฉ่าย เข้าไปทุกทีแล้ว T0T
          ช่วงนี้อาจจะไม่ได้อัพทุกวันเพราะว่าจะสอบแล้วล่ะ ><  แต่ว่าหลังจากสอบเสร็จจะต้องมาต่อแน่นอนเลย!!! (ถึงจะไม่รู้ว่ามีคนอ่านรึป่าวก็เถอะนะ ^^\"\")
          ขอให้คนที่อ่านสอบได้เกรด4ทุกวิชา ~
          ขอให้คนที่อ่านแล้วเม้นสอบได้เกรด4ทุกวิชา และสอบได้ที่1ของห้องด้วย ~~
          ขอให้คนที่อ่านแล้วเม้นแล้วโหวตสอบได้เกรด4ทุกวิชา และสอบได้ที่1ของชั้นเลย!! ~~~
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น