ลำดับตอนที่ #7
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : ตอน 7
วันเวลาผ่านไปกว่า 3 เดือน ผมต้องทนทุกข์ทรมานกับความทุกข์ที่ไม่ได้ก่อขึ้นเหมือนโชคชะตาฟ้ากำหนดให้ผมต้องเจอเรื่องราวที่ทำให้ผมต้องเสียใจ แต่ทำไงได้ผมต้องต่อสู้เพื่ออนาคตและคนที่ผมรัก
พลังวิเศษในตัวของผมตอนนี้ เริ่มจะแข็งแรงมากยิ่งขึ้น ตอนนี้ผมย้ายเข้ามาโรงเรียนสอนด้านเวทมนต์แล้ว มีสาขาทั่วโลก และในประเทศของผมก็มีเพียงแห่งเดียว และความจริงต่างๆ เรื่องของเอิ้น ที่เขาได้เรียนอยู่ที่นี่ก่อนผมเป็นเวลา1ปีแล้ว ช่วงเวลาที่ผ่านมา มันเป็นช่วงปิดภาคเรียนของเขา เขาได้กลับมาอยู่ที่บ้านของเขาและมาช่วยให้ผมดีขึ้นแต่มันก็ไม่ได้ช่วยอะไรเลย ผมไม่รู้ว่าเอิ้น เข้ามาจริงๆแล้วเขาคิดยังไงกับผมกันแน่ เขาชอบผมหรอ คงเป็นไปไม่ได้ เขาแค่สงสารตัวผม ก็แค่นั่นเองมั่ง...
ผมพยายามให้เอิ้นช่วยตามหาปุณณ์แต่ก็ไม่มีข่าวคาวอะไรเลย ผมต้องทำยังไงดีที่จะได้พบปุณณ์ ผมได้ยินข่าวว่าปุณณ์กำลังถูกคนบางกลุ่ม กำลังตามตัวเขา ผมอยากจะช่วยเขา และเมื่อเกิดเหตุการณ์ตอนที่ผมมีแสงประกายออกมาจากหน้าอกผม ผมให้แม่แท้ๆของผมและนักเวทที่เชื่อใจได้ตรวจร่างกายของผมเนื่องจากมีแสงประกายออกมาจากหน้าอกของผม แต่เมื่อตรวจสอบแล้ว ไม่พบดาวห้าแฉกที่กลางหน้าอกแต่อย่างใด แต่มีการสัณณิฐานอาจจะเป็นความห่วงใยความรักระหว่างปุณณ์กับผมที่สื่อสารถึงกัน ปุณณ์คงรู้ว่าผมกำลังตกอยู่ในที่อันตรายเขาจึงเข้ามาช่วยผม ถ้าเรื่องนี้เป็นจริง ปุณณ์ยังคงอยู่ที่ไหนสักที่ ที่เขาไม่สามารถออกมาได้ ผมจะรอปุณณ์...
ณ โรงเรียนสอนเวทมนต์ กลางหุบเขา มีเทือกเขาสูงล้อมรอบและเต็มไปด้วยต้นสนขนาดใหญ่เรียงรายบนเทือกเขา มีแม่น้ำสายเล็กๆไหลผ่านกลางโรงเรียน ตึกเรียนที่ดูเก่าแก่หลายร้อยปี และยังมีตึกเรียนที่ดูทันสมัยเหมือนพึ่งมีการขยายพื้นที่ด้านหลังโรงเรียนให้มีความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น และหอพักนักเรียนที่พึ่งสร้างเสร็จใหม่พร้อมกับสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ไม่ว่าจะสนามกีฬาในร่ม โรงอาหาร และยังมีช๊อกปิ้งมอลล์ขนาดใหญ่ด้วย การเดินทางมาที่นี่ได้เพียงแค่รถไฟเท่านั้น และยังเป็นสถานที่พักตากอากาศของนักเวทและประชาชนทั่วไปด้วย ซึ่งหารู้ไม่ว่าที่นี่คือโรงเรียนสอนเวทมนต์
เปิดเทอมใหม่ ผมมีแค่เอิ้นเท่านั้นที่ผมรู้จัก ผมชอบมานั่งบนดาดฟ้าของตึกเรียนเหมือนพึ่งจะสร้างเสร็จได้ไม่นาน เมื่อมองลงไปเจอวิวของตึกเรียนเก่าแก่ที่สวยงามมาก มีแม่น้ำขนาดเล็กไหลผ่านกลางโรงเรียน และยังมีรีสอทต่างๆขึ้นเรียงรายเต็มไปหมด และอากาศที่นี่เย็นสบายและมีภูเขาล้อมรอบ ทำให้มีผู้คนต่างเดินทางเผื่อที่จะมาพักผ่อนที่ แต่ส่วนใหญ่จะมีแค่เพียงนักเวทเท่านั้นที่เดินทางมาเนื่องจากราคาที่พักย่านนี้แพงมาก แต่หารู้ไม่ว่า สำหรับนักเวทแล้วมีส่วนลดจนทำให้มีเพียงแค่นักเวทเท่านั้นที่สามารถเดินทางมายังที่แห่งนี้
ไอ้โน่...มานั่งตรงนี้อีกแล้วน่ะ... เสียงจากเพื่อนสนิทคนใหม่แต่ตอนนี้กลายเป็นรุ่นพี่เขาไปแล้วหนึ่งปี
ชอบว่ะ...วิวตรงนี้สวยมากๆเลย ลมพัดเย็นดี ทำให้ผ่อนคลายได้มากเลย เสียงทักทายที่ดังมาจากด้านหลังของเขา เขารู้ได้ทันทีคือเอิ้นนั่นเอง เป็นเวลากว่าสามเดือนกว่าแล้วที่เราเป็นเพื่อนกันมา แต่ความรู้สึกที่เอิ้นกระทำต่อผมนั้น ผมรู้สึกได้ว่ามันมากกว่าคำว่าเพื่อน แต่ผมพยายามจะรักษาระยะห่างของเราสองคนไว้ เพื่อรอปุณณ์กลับมา
รู้ไหมว่าเรามาอยู่ที่นี่หนึ่งปี แต่ไม่เคยมายืนตรงนี้เลยน่ะ โน่นี่แหละพาเรามาเจอวิวสวยๆแบบนี้ และคงไม่มีใครขึ้นมาตรงนี้หรอก...
ไม่รู้สิ...บางทีเราก็อยากคิดอะไรเรื่อยเปื่อยคนเดียวในที่ที่ไม่มีใครเลย...
ไม่มีเราด้วยใช่ไหม...
ไอ้บ้าเอิ้น... เราเป็นเพื่อนกันน่ะ ชายหนุ่มยื่นแขนของไปจับบ่าของเอิ้นทันที เพราะกลัวเพื่อนใหม่จะน้อยใจ
โน่ยังทำใจไม่ได้ใช่ไหม...
เรื่องอะไรหรอ... เรื่องปุณณ์ใช่เปล่า เราทำใจได้แล้ว...ตั้งแต่วันที่มีแสงออกมาจากหน้าอกเรา ตอนนั้นรู้ไหมว่าเรากำลังคิดอะไรอยู่... เรากำลังคิดถึงปุณณ์...จากนั้นแสงนั้นประกายออกมาจากหน้าอกเรา แค่นี้ก็ทำให้เรารู้แล้วว่าปุณณ์เขาอยู่ใกล้ๆ โน่นี่แหละ โน่จะไม่ตามหาเขาแล้ว ถ้าวันไหนเรามีโอกาศคงจะได้พบกัน
เราขอให้โน่โชคดีอย่างที่หวังน่ะ... เมื่อชายหนุ่มเพื่อนสนิทได้ยินดังนั้นเขาไม่รู้จะพูดอะไรต่อ ได้แต่นิ่งเงียบและในหัวใจของเขาตอนนี้มันสั่นไหวเหมือนโดนใครสักคนมาบีบหัวใจ เหมือนเขาจะชินกับความรู้สึกนี้ไปแล้ว บางทีเขาก็คิดว่าทำไมต้องมาทำให้ตัวเองเจ็บปวดแบบนี้ด้วย แต่เมื่อเขามองหน้าชายหนุ่มมันก็อดใจไม่ไหวที่อยากจะดูแล เพราะว่าทั้งหัวใจตอนนี้มันได้เป็นของเขาไปแล้ว หลายครั้งที่พยายามจะห้ามใจตัวเองแต่ก็ไม่สามารถหยุดความคิดนั้นได้ น้ำตาค่อยๆไหลออกมาเนื่องจากทนแรงบีบจากคำพูดของคนที่รักพูดออกมา เขานั่งก้มหน้านั่งลงข้างๆชายหนุ่มเพื่อนสนิท
โน่...ถ้าเรามีเรื่องจะสารภาพ นายยังจะเป็นเพื่อนเราอยู่ไหม เมื่อพูดจบเพื่อนสนิทหันหน้ามาอย่างงงๆกับแววตาของเพื่อนสนิทที่ดูเศร้า
นายเป็นอะไรเปล่า...
โน่... เรารักนาย... เรารู้ว่านายไม่ได้รักเราหรอก... แต่ขอโอกาศให้โน่ได้ลองเปิดใจให้เราได้ไหม...
เอิ้น...นายพูดอะไรออกมา จากนั้นชายหนุ่มก็เดินออกมาจากตรงนั้นทันทีโดยไม่ฟังคำใดๆของเอิ้นอีกเลย
ไอ้โน่... กูขอโทษ...
คุณธันวาครับ...เสียงเรียกจากเลขาส่วนตัวของเขา
ตอนนี้คุณปุณณ์ แข็งแรงขึ้นมากแล้วครับ ผมว่าน่าจะให้เขาไปอยู่ที่โรงเรียนนักเวทดีกว่าไหมครับ ให้เขาได้เรียนและศึกษาให้เขาเก่ง และจะได้ช่วยกลุ่มพวกเราไปในทางที่ดีน่ะครับ
ห้องโถงในตึกที่เก่าแก่ที่สุดในโรงเรียน ได้มีนักเรียนทุกคนได้เข้าแถวในตอนเช้าก่อนไปเรียนวิชาต่างๆ ในทุกระดับชั้น
ศาสตราจารย์อินทัช เป็นผู้อำนวยการดูแลโรงเรียนนี้ ได้กล่าวต้อนรับนักเรียนใหม่ ที่ได้เข้าศึกษาที่นี่ปีแรก
แต่ทันใดนั้นผมได้เห็นด้านหลังของเด็กชายคนนึงเหมือนกับปุณณ์เป็นอย่างมาก ต้องใช่แน่ๆเลย
ปุณณ์.... เสียงตะโกนของผมตะโกนเรียกคนที่รอคอยการกลับมาของเขาด้วยความดีใจ แต่บรรดาอาจารย์และเด็กๆที่เข้าแถวกันกำลังฟังศาสตราจารย์พูด ต่างหันมองมาทางผม และมองด้วยความสงสัยว่าผมกำลังเรียกใครอย่างเสียงดัง
เมื่อชายคนนั้นหันหลังมองกลับมา กลับไม่ใช่คนที่รอคอย
ขอโทษครับศาสตราจารย์ที่ขัดจังหวะ พอดีผมปวดท้องหนักขออนุญาติไปห้องน้ำน่ะครับ
ชายหนุ่มไม่ทันจะได้รับคำตกลงจากท่านศาสตราจารย์ เขาจึงรีบวิ่งออกมาทันทีด้วยความขี้อายขายหน้า จนหมอไม่รับเย็บแล้ว
เป็นอะไรว่ะเนี้ย... เพ้อขนาดนี้ได้ยังไง ทำไมมองไปทางไหนก็เจอแต่นายคนเดียวเลย ไอ้บ้าปุณณ์ เอ้ยยยยย
เสียงเคาะประตูดังขึ้นหน้าห้องน้ำ ก๊อก ก๊อก ก๊อก...
มีคนเข้าห้องน้ำอยู่ครับ... เสียงของชายหนุ่มที่ตะโกนออกมาจากห้องส้วม ที่เขากำลังนั่งสงบสติอารมณ์หลังจากที่แสดงความหน้าอายออกไป
ก๊อก ก๊อก ก๊อก... เสียงเคาะยังไม่หยุด
อะไรกันว่ะเนี้ย คนเข้าห้องน้ำอยู่ ไปเข้าห้องอื่นแทนสิ... ด้วยความโมโหโน่จึงเปิดประตูออกมาทันที สิ่งเขาได้พบตรงหน้า....ทำให้เขานิ่ง ดวงตาฉายแววโต แล้วกะโจนเข้ากอดกับชายหนุ่มที่เขารอคอยมานานหลายเดือน
ปุณณ์... ปุณณ์... ไอ้ปุณณ์... ใช่นายใช่ไหม... น้ำตาแห่งความดีใจที่ได้พบเจอคนที่รักอีกครั้งทำให้หัวใจของเขาพองโต หน้าแดงกล่ำ จากนั้นมีฝ่ามือขาวเนียนค่อยๆปาดน้ำตาที่แก้มของชายหนุ่ม สายตาของเขาทั้งสองคนสบตากัน ชายหนุ่มที่หายตัวไปค่อยๆจูบลงที่ตรงหน้าผากของคนที่รอคอยการกลับมา ชายหนุ่มกอดรัดแน่นจนพอใจเขาค่อยๆคลายอ้อมกอดออกมา ส่วนอีกคนใช้ฝ่ามือลูปศรีษะดังเช่นเคยอีกครั้ง
ไอ้ขี้แย... ร้องไห้ทำไม...
เราคิดว่าจะไม่ได้เจอปุณณ์อีกแล้ว อย่าไปไหนอีกน่ะ...
ไม่ไปไหนหรอก ปุณณ์อยู่ใกล้ๆโน่นี่แหละ
สัญญา... ว่าแต่ทำไมรู้ว่าเราอยู่ในห้องน้ำ
ก็ใครละ...คิดถึงเราจนเพ้อตะโกนออกมา ทุกคนในโรงเรียนมองไปที่โน่หมดแล้วจะไม่ให้รู้ได้ไง ว่าโน่อยู่ที่นี่ที่เดียวกับเรา
ไอ้บ้าปุณณ์... เดียวจะต่อย... เงียบไปเลยเว้ย
ก็คนมันคิดถึง...
ท่านมัทธิว...เสียงเรียกจากคนรับใช้ภายในคอนโดหรูขนาดใหญ่
สูทตัวนี้ข้าใส่แล้วดูเป็นไงบ้าง หลังจากนั้นเขาได้ชำเลืองมองมายังคนรับใช้ของเขาที่กำลังจัดเตรียมเครื่องแต่งกาย
ดูเหมาะกับตำแหน่งท่านผู้นำเลยครับ เสียงคำยกยอของบ่าวรับใช้ที่ไม่กล้าปฏิเสธใดๆออกมา เนื่องจากรูปร่างของเขานั้นดูดุร้าย ใบหน้าที่ดูเหี้ยมโหด ทำให้ลูกน้องของเขาต่างเกรงกลัวเขาเป็นอย่างมาก
ถ้าข้าได้ขึ้นเป็นผู้นำเมื่อไหร่ ข้าจะให้รางวัลเจ้าอย่างงาม เพราะเจ้าดูแลข้าเป็นอย่างดี ท่านมัทธิวเดินมายังบ่าวรับใช้ที่ยังหนุ่มยังแน่น ค่อยๆพลักตัวเขาไปยังที่เตียงนอน แต่ด้วยความที่เขาน่าเกรงกลัวชายหนุ่มรับใช้ได้เพียงแต่นอนลงบนเตียงนอนหลับตาปี๋
เจ้าหลับตาทำไม มองดูที่ใบหน้าของข้าสิ ข้าหล่อไหม
หล่อครับ เขาค่อยๆลืมตาขึ้นมาจ้องหน้าท่านมัธทิว และนิ่งตัวแข็งทื่อไม่กล้าขยับตัวไปไหน จากนั้นท่านมัธทิวก้มตัวลงมาจูบที่ริมฝีปากของชายหนุ่มรับใช้
โน่...หิวไหม... คำพูดที่อ่อนหวานของชายหนุ่มเพื่อนสนิทที่ได้พบกันอีกครั้ง หิว... เดียววันนี้ปุณณ์จะทำอาหารให้ทานน่ะ กินเปล่า...
กินสิ ปุณณ์ทำอาหารอร่อยนิ จะไม่ให้กินได้ไง
ต้องขอบคุณป้ารินแล้วแหละ แกเป็นสุดยอดแม่ครัว สอนเราตั้งหลายเมนู เดียววันนี้จะทำ อาหารอิตาเลียนให้ทานน่ะ
ครับคุณปุณณ์ เอิ้น... เมื่อชายหนุ่มมองเห็นเอิ้นกำลังซื้อน้ำในโรงอาหารเขาจึงได้ตะโกนเรียกทันที เนื่องจากเขาและเอิ้นไม่ได้คุยกันมาหลายวัน ตั้งแต่วันที่เอิ้นพูดคำว่ารักออกมา
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น