ลำดับตอนที่ #7
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : ตอน 7
เมื่อธีร์เปิดประตูเข้ามา เด็กหนุ่มสองคนกำลังนั่งชิดเบียดตัวกัน แล้วใบหน้าทั้งสองคนดูตกใจเหมือนผมเข้ามาขัดจังหวะทำอะไรบางอย่าง
โทษทีที่เราเข้ามาขัดจังหวะ ใบหน้าของธีร์รู้สึกผิดที่เข้ามาขัดจังหวะตอนเวลานี้มากๆและรู้สึกเสียใจอย่างบอกไม่ถูก จากนั้นธีร์จึงรีบปิดประตูแล้ววิ่งจากไปทันที
เปล่า... ไอ้ธีร์รอก่อน เสียงเรียกของชายหนุ่มจอมดื้อที่ตะโกนเสียงดังมาแต่ไกล และเขากำลังวิ่งตามมาชายหนุ่มที่กำลังเข้าใจเขาผิดอยู่
ผมจึงรีบวิ่งออกมากลับไปห้องของตัวเองทันที
ไอ้ภูจะไปไหน เสียงพูดของรูเมทจอมเนียบ
เดียวเรามา น้ำเสียงของภูแลดูห่วงไอ้ธีร์มาก เหมือนธีร์กำลังเข้าใจผิดและดูเหมือนภูแคร์ความรู้สึกของธีร์มากๆด้วย เขาทั้งสองคนต้องมีอะไรมากกว่านี้แน่ๆ ต้องสืบให้รู้ความจริง
เมื่อปิดประตูเสร็จ ร่างกายของผมมันรู้สึกอ่อนล้า หัวใจดวงนี้มันวูบวาบเต้นเร็วจนผิดจังหวะ ผมค่อยๆนั่งพิงลงที่ประตูห้องของตัวเอง ภาพเด็กชายสองคนอยู่เตียงกำลังจะกอดกันก็แวบเข้ามาในหัวของผม น้ำตาที่มีก็ไหลออกมาโดยไม่รู้ตัว แล้วภาพที่เคยคุยกัน ยิ้มให้กันก็แวบขึ้นมา และผมก็พยายามถามตัวเอง ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับหัวใจ ทำไมมันเสียใจได้ขนาดนี้กับคนคนนึงที่พึ่งเข้ามาในชีวิต มันรวดเร็วไปหมด เหมือนมีแรงบางอย่างมาดึงดูดกันและกัน จนทำให้ตัวของผมไม่เป็นตัวของตัวเอง ผมทำอะไรลงไป ผมต้องกลับมาเป็นคนเดิมให้ได้
ก๊อก ก๊อก ก๊อก เสียงเคาะประตูดังขึ้นจากด้านนอก เสียงมาจากเด็กหนุ่มจอมดื้อที่วิ่งตามผมมา ในใจก็คิดว่าเขาวิ่งตามมาทำไหม เขาแคร์เราหรือเปล่า เขามีใจให้เราบ้างไหม เราจะทำยังไงดี จะเปิดประตูออกไปแล้ว ก็บอกว่าไม่เป็นไรดีไหม แต่น้ำตาตอนนี้มันไหลไม่หยุดแล้ว เราจะทำยังไงดี
ก๊อก ก๊อก ก๊อก ไอ้ธีร์ เปิดประตูหน่อย แกเข้าใจผิดน่ะ เราไม่ได้มีอะไรกัน เปิดประตูหน่อย เสียงจากด้านในเงียบสนิทไม่มีเสียงใดตอบโต้ออกมา
ก๊อก ก๊อก ก๊อก ไอ้ธีร์อยู่ในห้องใช่ไหม ประตูให้เราหน่อย
จากนั้นชายหนุ่มก็ค่อยๆลดตัวนั่งลงพิงที่ประตูหน้าห้องของธีร์ ด้วยความเหนื่อยล้าที่วิ่งลงมาจากห้องตัวเอง
ชายหนุ่มสองคนนั่งพิงประตูคนละฝั่นกัน โดยมีประตูกั้นระหว่างเขาสองคน
ธีร์จึงสอดกระดาษออกมาจากช่องด้านล่างประตูออกโดยมีข้อความในกระดาษเขียนบอกว่า
กลับห้องได้แล้ว เราไม่ได้เป็นอะไร ขอโทษน่ะ
ชายหนุ่มที่ไม่กล้าเผชิญหน้ากับอีกฝ่ายได้แค่เขียนโน๊ตส่งข้อความมาเท่านั้น
ธีร์เรามีบางอย่างจะบอกกับนาย ช่วยเปิดประตูได้ไหม
บอกตรงนี้เลยก็ได้
ไม่ได้หรอกเปิดประตูให้เราก่อน เรามีความในใจจะบอกกับนาย
ธีร์รวบรวมความกล้าที่มีค่อยๆเปิดประตูออกมาเจอหน้าอีกฝ่าย
อีกฝ่ายก็โอบกอดไปที่ตัวของเขาทันที โอบกอดอย่างแน่นสนิท น้ำตาของชายหนุ่มจอมดื้อก็ค่อยๆไหลออกมา
ผมได้แต่ยืนนิ่งไม่ขยับตัว แล้วผมก็ค่อยๆเอามือทั้งสองข้างโอบกอดไปที่ตัวของเด็กหนุ่มจอมดื้อเช่นกัน
ไอ้ธีร์ เราชอบนาย ชอบตั้งแต่วันแรกที่นายมาช่วยยกของ แต่เราไม่กล้าบอกกลัวนายไม่ชอบเรา แล้วธีร์ชอบเรามั่งไหม
คำถามที่เคยคิดที่เคยพูดกับตัวเอง ได้ยินมาถึงใบหูคู่นี้มัน คำตอบมันใช่ ใช่เหมือนที่ตัวเองคิด รอยยิ้มบนใบหน้าของผมค่อยๆฉีกยิ้มออกมามันกลายเป็นความสุข เต็มอิ่ม ความอบอุ่นจากร่างกายและสองแขนคู่นี้ของเขา ผมค่อยๆกระซิบไปที่ใบหูของเด็กหนุ่มจอมดื้อไปว่า
คิดเหมือนกัน
ทันทีที่ผมพูดออกไปอ้อมแขนของเด็กหนุ่มจอมดื้อก็รัดตัวของผมแน่นเข้าไปอีกรอยยิ้มของเขาช่างน่ารักเหลือเกินใสซื่อที่ไม่เหมือนใครและคงไม่มีใครเหมือนเขาได้ เสียงพูดของเขาที่ดีใจกระโดดโลดเต้นแม้กระทั่งที่ยังโอบกอดตัวของผมไว้อยู่
พอแล้ว พอแล้ว ไอ้ภู จะกอดไปถึงไหนเนี้ย เดียวจะล้มหรอก
ยังพูดไม่ทันขาดคำ ขาของผมก็สะดุดล้มลงบนเตียงพอดี ร่างกายของผมกระแทกลงบนเตียงนอนที่แน่นนุ่ม และมีอีกร่างค่อยๆทับลงมาบนตัวของผมเขาอย่างจัง
โอ๊ยยยยย ตัวหนักจังเลยเนี้ย ไอ้บ้า!!!
กอดหน่อย กอดหน่อย เสียงของเด็กหนุ่มจอมดื้อที่ออดอ้อนเหมือนอยากได้ของเล่นชิ้นที่เขาต้องการ จนผมทนแรงต้านจากน้ำเสียงและสายตาของเด็กหนุ่มจอมดื้อไม่ไหว เพราะหัวใจทั้งหมดตอนนี้มีเพียงแค่เด็กหนุ่มจอมดื้อคนเดียว
ชอบเค้าจริงป่ะ เสียงจากเด็กหนุ่มขี้ดื้อสงสัยต้องเปลี่ยนเป็นขี้อ้อนไปแล้วละมั่ง เสียงออดอ้อนจนใจผมอ่อนลงทุกที แล้วผมก็ตอบกลับอย่างล้อเล่น
ผู้ชายจะชอบกันได้ไง
ก็ลองชอบได้ไหมล่ะ ภูชอบธีร์ จริงๆน่ะ
งั้นชอบกะได้
ไม่เอาชอบกะได้ ต้องชอบจริงๆสิ
ชอบจริงๆครับ
เย้ เย้ เย้ เสียงดีใจของเด็กหนุ่มขี้อ้อน ทำให้ใจดวงนี้ของผมมันพองโตจนมันจะแตกกระจายออกไปเป็นเสี่ยงๆหมดแล้ว เพราะด้านแรงจากฝ่ายตรงข้ามไม่ไหว
จู่ๆสายตาของเด็กหนุ่มจ้องมองมาตรงใบหน้าแล้วค่อยๆจ้องมาที่ดวงตาของผม ริมฝีปากของชายหนุ่มขี้อ้อนค่อยๆประกบลงที่ริมฝีปากของผมโดยที่ผมไม่กล้าขัดขืนเพราะดวงตาคู่นี้มันสวยงามมันสะกดใจจนทำให้ผมเผลอและคล้อยตามกับดวงตาคู่นี้ มันเป็นจูบแรกของผมเขาขโมยจูบแรกของผมไป แต่ผมก็ยอมมอบจูบแรกให้เด็กหนุ่มขี้อ้อนคนนี้ เพราะหัวใจดวงนี้กลายเป็นของเขาไปซะแล้ว
เมื่อผมเห็นไอ้ภูวิ่งออกมา ผมก็เข้าใจว่าภูคงชอบธีร์แน่ๆ ไม่งั้นไม่รีบวิ่งออกมาเร็วขนาดนี้ ผมค่อยๆเดินตามออกมากลัวจะเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝัน อาจจะช่วยได้ แต่เมื่อผมเดินมาถึงเห็นภาพที่ไม่คาดฝันจริงๆเกิดขึ้นตรงหน้าที่ทั้งคู่กอดกัน ผมก็รู้แล้วว่ามันคืออะไร ผมจึงเดินหันหลังเดินจากไปไม่อยากเห็นภาพที่บาดตาบาดใจตรงหน้า มันเกิดอะไรขึ้นกับผมกันแน่
เมื่อปีที่แล้วผมได้เจอกับภูครั้งแรกก็แอบปลื้มมานาน เมื่อตอนเรียนพิเศษ ผมได้แค่แอบมองดูเขาข้างเดียวเสมอ ถึงแม้ว่าเขาไม่เคยเห็นผม ก็ตาม อาจจะเมื่อก่อนผมใส่แว่นตาหนาทึบแต่ตอนนี้ได้ถอดออกเลิกใช้ไปแล้ว เพราะได้ไปทำเรสิกมาก่อนจะเปิดเทอม ส่วนเขาอยู่กับกลุ่มเพื่อนที่หน้าตาดีกันทุกคน ไม่ว่าสาวแท้สาวเทียมก็แอบหลงรักเด็กหนุ่มกลุ่มนี้ทั้งนั้น แต่แล้วเหมือนมีแรงดึงดูดให้เรามาพบกันอีกครั้ง เมื่อผมได้เจอเขาอีกครั้งหัวใจของผมก็เต้นแรง และยิ่งได้รู้ว่าเราได้เจอกันทุกวันอีกด้วยมันยิ่งดีใจมากๆ
แต่แล้วภาพที่เกิดขึ้นตรงหน้าทำให้ความคิดต่างๆหายไปหมด เขามีคนรักแล้ว เราก็ต้องทำใจ และเข้าใจในสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น แต่ไม่รู้จะเป็นยังไง ในเมื่อต้องตื่นขึ้นมาเจอหน้ากันทุกวันอีกด้วย
เวลาผ่านไปห้าทุ่ม ภูยังคงไม่กลับมาที่ห้อง ความคิดที่มีก็เริ่มคิดฟุ้งซ่าน
เวลาผ่านไปเที่ยงคืน ผมคงยังนอนไม่หลับ ผมจึงลุกมาเปิดคอมอีกครั้งนั่งดูเฟสบุคของเขาและเฟสบุคก็ธีร์ และผมก็ได้เห็นข้อความที่พึ่งโพทไปได้สิบห้านาทีก่อน ของภู
"มันเป็นเรื่องบังเอิญหรือตั้งใจ มันเกิดขึ้นจริงๆหรือฝันไป การที่เราได้เจอกันบนโลกใบนี้"
เมื่อผมเห็นข้อความเด้งขึ้นมา ผมก็เข้าใจได้มากขึ้นว่าเขาทั้งสองคนตอนนี้คงมีความสุขกันมาก น้ำตาค่อยๆไหลออกมาโดยไม่รู้ตัว แล้วผมก็เปิดเพลงฟัง ยิ่งเพลงเศร้าเท่าไหร่น้ำตาก็ไหลออกมามากขึ้นเท่านั้น ผมคงร้องไห้แค่วันนี้วันเดียวพรุ่งนี้คงจะหาย และคงจะดีขึ้นอีกครั้ง
โทษทีที่เราเข้ามาขัดจังหวะ ใบหน้าของธีร์รู้สึกผิดที่เข้ามาขัดจังหวะตอนเวลานี้มากๆและรู้สึกเสียใจอย่างบอกไม่ถูก จากนั้นธีร์จึงรีบปิดประตูแล้ววิ่งจากไปทันที
เปล่า... ไอ้ธีร์รอก่อน เสียงเรียกของชายหนุ่มจอมดื้อที่ตะโกนเสียงดังมาแต่ไกล และเขากำลังวิ่งตามมาชายหนุ่มที่กำลังเข้าใจเขาผิดอยู่
ผมจึงรีบวิ่งออกมากลับไปห้องของตัวเองทันที
ไอ้ภูจะไปไหน เสียงพูดของรูเมทจอมเนียบ
เดียวเรามา น้ำเสียงของภูแลดูห่วงไอ้ธีร์มาก เหมือนธีร์กำลังเข้าใจผิดและดูเหมือนภูแคร์ความรู้สึกของธีร์มากๆด้วย เขาทั้งสองคนต้องมีอะไรมากกว่านี้แน่ๆ ต้องสืบให้รู้ความจริง
เมื่อปิดประตูเสร็จ ร่างกายของผมมันรู้สึกอ่อนล้า หัวใจดวงนี้มันวูบวาบเต้นเร็วจนผิดจังหวะ ผมค่อยๆนั่งพิงลงที่ประตูห้องของตัวเอง ภาพเด็กชายสองคนอยู่เตียงกำลังจะกอดกันก็แวบเข้ามาในหัวของผม น้ำตาที่มีก็ไหลออกมาโดยไม่รู้ตัว แล้วภาพที่เคยคุยกัน ยิ้มให้กันก็แวบขึ้นมา และผมก็พยายามถามตัวเอง ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับหัวใจ ทำไมมันเสียใจได้ขนาดนี้กับคนคนนึงที่พึ่งเข้ามาในชีวิต มันรวดเร็วไปหมด เหมือนมีแรงบางอย่างมาดึงดูดกันและกัน จนทำให้ตัวของผมไม่เป็นตัวของตัวเอง ผมทำอะไรลงไป ผมต้องกลับมาเป็นคนเดิมให้ได้
ก๊อก ก๊อก ก๊อก เสียงเคาะประตูดังขึ้นจากด้านนอก เสียงมาจากเด็กหนุ่มจอมดื้อที่วิ่งตามผมมา ในใจก็คิดว่าเขาวิ่งตามมาทำไหม เขาแคร์เราหรือเปล่า เขามีใจให้เราบ้างไหม เราจะทำยังไงดี จะเปิดประตูออกไปแล้ว ก็บอกว่าไม่เป็นไรดีไหม แต่น้ำตาตอนนี้มันไหลไม่หยุดแล้ว เราจะทำยังไงดี
ก๊อก ก๊อก ก๊อก ไอ้ธีร์ เปิดประตูหน่อย แกเข้าใจผิดน่ะ เราไม่ได้มีอะไรกัน เปิดประตูหน่อย เสียงจากด้านในเงียบสนิทไม่มีเสียงใดตอบโต้ออกมา
ก๊อก ก๊อก ก๊อก ไอ้ธีร์อยู่ในห้องใช่ไหม ประตูให้เราหน่อย
จากนั้นชายหนุ่มก็ค่อยๆลดตัวนั่งลงพิงที่ประตูหน้าห้องของธีร์ ด้วยความเหนื่อยล้าที่วิ่งลงมาจากห้องตัวเอง
ชายหนุ่มสองคนนั่งพิงประตูคนละฝั่นกัน โดยมีประตูกั้นระหว่างเขาสองคน
ธีร์จึงสอดกระดาษออกมาจากช่องด้านล่างประตูออกโดยมีข้อความในกระดาษเขียนบอกว่า
กลับห้องได้แล้ว เราไม่ได้เป็นอะไร ขอโทษน่ะ
ชายหนุ่มที่ไม่กล้าเผชิญหน้ากับอีกฝ่ายได้แค่เขียนโน๊ตส่งข้อความมาเท่านั้น
ธีร์เรามีบางอย่างจะบอกกับนาย ช่วยเปิดประตูได้ไหม
บอกตรงนี้เลยก็ได้
ไม่ได้หรอกเปิดประตูให้เราก่อน เรามีความในใจจะบอกกับนาย
ธีร์รวบรวมความกล้าที่มีค่อยๆเปิดประตูออกมาเจอหน้าอีกฝ่าย
อีกฝ่ายก็โอบกอดไปที่ตัวของเขาทันที โอบกอดอย่างแน่นสนิท น้ำตาของชายหนุ่มจอมดื้อก็ค่อยๆไหลออกมา
ผมได้แต่ยืนนิ่งไม่ขยับตัว แล้วผมก็ค่อยๆเอามือทั้งสองข้างโอบกอดไปที่ตัวของเด็กหนุ่มจอมดื้อเช่นกัน
ไอ้ธีร์ เราชอบนาย ชอบตั้งแต่วันแรกที่นายมาช่วยยกของ แต่เราไม่กล้าบอกกลัวนายไม่ชอบเรา แล้วธีร์ชอบเรามั่งไหม
คำถามที่เคยคิดที่เคยพูดกับตัวเอง ได้ยินมาถึงใบหูคู่นี้มัน คำตอบมันใช่ ใช่เหมือนที่ตัวเองคิด รอยยิ้มบนใบหน้าของผมค่อยๆฉีกยิ้มออกมามันกลายเป็นความสุข เต็มอิ่ม ความอบอุ่นจากร่างกายและสองแขนคู่นี้ของเขา ผมค่อยๆกระซิบไปที่ใบหูของเด็กหนุ่มจอมดื้อไปว่า
คิดเหมือนกัน
ทันทีที่ผมพูดออกไปอ้อมแขนของเด็กหนุ่มจอมดื้อก็รัดตัวของผมแน่นเข้าไปอีกรอยยิ้มของเขาช่างน่ารักเหลือเกินใสซื่อที่ไม่เหมือนใครและคงไม่มีใครเหมือนเขาได้ เสียงพูดของเขาที่ดีใจกระโดดโลดเต้นแม้กระทั่งที่ยังโอบกอดตัวของผมไว้อยู่
พอแล้ว พอแล้ว ไอ้ภู จะกอดไปถึงไหนเนี้ย เดียวจะล้มหรอก
ยังพูดไม่ทันขาดคำ ขาของผมก็สะดุดล้มลงบนเตียงพอดี ร่างกายของผมกระแทกลงบนเตียงนอนที่แน่นนุ่ม และมีอีกร่างค่อยๆทับลงมาบนตัวของผมเขาอย่างจัง
โอ๊ยยยยย ตัวหนักจังเลยเนี้ย ไอ้บ้า!!!
กอดหน่อย กอดหน่อย เสียงของเด็กหนุ่มจอมดื้อที่ออดอ้อนเหมือนอยากได้ของเล่นชิ้นที่เขาต้องการ จนผมทนแรงต้านจากน้ำเสียงและสายตาของเด็กหนุ่มจอมดื้อไม่ไหว เพราะหัวใจทั้งหมดตอนนี้มีเพียงแค่เด็กหนุ่มจอมดื้อคนเดียว
ชอบเค้าจริงป่ะ เสียงจากเด็กหนุ่มขี้ดื้อสงสัยต้องเปลี่ยนเป็นขี้อ้อนไปแล้วละมั่ง เสียงออดอ้อนจนใจผมอ่อนลงทุกที แล้วผมก็ตอบกลับอย่างล้อเล่น
ผู้ชายจะชอบกันได้ไง
ก็ลองชอบได้ไหมล่ะ ภูชอบธีร์ จริงๆน่ะ
งั้นชอบกะได้
ไม่เอาชอบกะได้ ต้องชอบจริงๆสิ
ชอบจริงๆครับ
เย้ เย้ เย้ เสียงดีใจของเด็กหนุ่มขี้อ้อน ทำให้ใจดวงนี้ของผมมันพองโตจนมันจะแตกกระจายออกไปเป็นเสี่ยงๆหมดแล้ว เพราะด้านแรงจากฝ่ายตรงข้ามไม่ไหว
จู่ๆสายตาของเด็กหนุ่มจ้องมองมาตรงใบหน้าแล้วค่อยๆจ้องมาที่ดวงตาของผม ริมฝีปากของชายหนุ่มขี้อ้อนค่อยๆประกบลงที่ริมฝีปากของผมโดยที่ผมไม่กล้าขัดขืนเพราะดวงตาคู่นี้มันสวยงามมันสะกดใจจนทำให้ผมเผลอและคล้อยตามกับดวงตาคู่นี้ มันเป็นจูบแรกของผมเขาขโมยจูบแรกของผมไป แต่ผมก็ยอมมอบจูบแรกให้เด็กหนุ่มขี้อ้อนคนนี้ เพราะหัวใจดวงนี้กลายเป็นของเขาไปซะแล้ว
เมื่อผมเห็นไอ้ภูวิ่งออกมา ผมก็เข้าใจว่าภูคงชอบธีร์แน่ๆ ไม่งั้นไม่รีบวิ่งออกมาเร็วขนาดนี้ ผมค่อยๆเดินตามออกมากลัวจะเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝัน อาจจะช่วยได้ แต่เมื่อผมเดินมาถึงเห็นภาพที่ไม่คาดฝันจริงๆเกิดขึ้นตรงหน้าที่ทั้งคู่กอดกัน ผมก็รู้แล้วว่ามันคืออะไร ผมจึงเดินหันหลังเดินจากไปไม่อยากเห็นภาพที่บาดตาบาดใจตรงหน้า มันเกิดอะไรขึ้นกับผมกันแน่
เมื่อปีที่แล้วผมได้เจอกับภูครั้งแรกก็แอบปลื้มมานาน เมื่อตอนเรียนพิเศษ ผมได้แค่แอบมองดูเขาข้างเดียวเสมอ ถึงแม้ว่าเขาไม่เคยเห็นผม ก็ตาม อาจจะเมื่อก่อนผมใส่แว่นตาหนาทึบแต่ตอนนี้ได้ถอดออกเลิกใช้ไปแล้ว เพราะได้ไปทำเรสิกมาก่อนจะเปิดเทอม ส่วนเขาอยู่กับกลุ่มเพื่อนที่หน้าตาดีกันทุกคน ไม่ว่าสาวแท้สาวเทียมก็แอบหลงรักเด็กหนุ่มกลุ่มนี้ทั้งนั้น แต่แล้วเหมือนมีแรงดึงดูดให้เรามาพบกันอีกครั้ง เมื่อผมได้เจอเขาอีกครั้งหัวใจของผมก็เต้นแรง และยิ่งได้รู้ว่าเราได้เจอกันทุกวันอีกด้วยมันยิ่งดีใจมากๆ
แต่แล้วภาพที่เกิดขึ้นตรงหน้าทำให้ความคิดต่างๆหายไปหมด เขามีคนรักแล้ว เราก็ต้องทำใจ และเข้าใจในสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น แต่ไม่รู้จะเป็นยังไง ในเมื่อต้องตื่นขึ้นมาเจอหน้ากันทุกวันอีกด้วย
เวลาผ่านไปห้าทุ่ม ภูยังคงไม่กลับมาที่ห้อง ความคิดที่มีก็เริ่มคิดฟุ้งซ่าน
เวลาผ่านไปเที่ยงคืน ผมคงยังนอนไม่หลับ ผมจึงลุกมาเปิดคอมอีกครั้งนั่งดูเฟสบุคของเขาและเฟสบุคก็ธีร์ และผมก็ได้เห็นข้อความที่พึ่งโพทไปได้สิบห้านาทีก่อน ของภู
"มันเป็นเรื่องบังเอิญหรือตั้งใจ มันเกิดขึ้นจริงๆหรือฝันไป การที่เราได้เจอกันบนโลกใบนี้"
เมื่อผมเห็นข้อความเด้งขึ้นมา ผมก็เข้าใจได้มากขึ้นว่าเขาทั้งสองคนตอนนี้คงมีความสุขกันมาก น้ำตาค่อยๆไหลออกมาโดยไม่รู้ตัว แล้วผมก็เปิดเพลงฟัง ยิ่งเพลงเศร้าเท่าไหร่น้ำตาก็ไหลออกมามากขึ้นเท่านั้น ผมคงร้องไห้แค่วันนี้วันเดียวพรุ่งนี้คงจะหาย และคงจะดีขึ้นอีกครั้ง
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น