คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : ไม่ทันตั้งตัว
เขาก้าวขาออกจากรถอย่างระมัดระวัง ในระหว่างทาง เขาได้ทบทวนเรื่องราวที่เกิดขึ้น จากการอ่านจดหมายของแม่ และตรวจสอบ ว่าระบบคือสิ่งใด รวมไปถึงเรื่องที่พ่อของเขานั้น เสียชีวิตไปเมื่อราวสามปีนี้ และเขาก็กำลังจะไปหาปู่ทวดของเขานั่นเอง หรือก็พ่อของปู่ของเขาอีกทีหนึ่ง
จากที่รับรู้มานั้น ความเป็นไปได้ที่เขาจะไม่เหลือญาติที่ไหนอีกแล้ว มีสูงมาก เหลือเพียงปู่ทวด หรือคุณท่านของพวกชายชุดดำที่เขาตามมาด้วยนั่นเอง
เมื่อเดินไปเข้าไปในบ้านก็ตกตะลึงกับความหรูหราแต่เรียบง่ายของบ้านหลังใหญ่โตหลังนี้
“ยินดีต้อนรับเหลนของฉัน” ชายชราที่นั่งอยู่บนรถเข็นไฟฟ้า ออกมาตอนรับ
“สวัสดีครับ ท่านคงเป็นปู่ทวดของผม”
“ใช่แล้วล่ะ ที่ให้มาหาที่นี่ เพราะฉันไม่สะดวกไปหาเธอเอง คงเห็นแล้วว่าฉันแก่ขนาดไหน คงไม่ทันได้ตั้งตัวสินะ ในหลายๆ เรื่องเลย โดยเฉพาะระบบผู้ช่วย”
“ครับ”
ภารกิจ ดูแลปู่ทวด ผู้สืบทอดระบบผู้ช่วยรุ่นที่ สอง ใรวาระสุดท้าย
ระยะเวลา 2 ปี
รางวัล มรดกทั้งหมดของตระกูล อัครโยทิน
ตกลง / ไม่ตกลง
หมายเหตุ หากไม่ตกลง ผู้ใช้งานจะต้องเริ่มต้นใหม่เองทั้งหมด หากตกลง ท่านจะได้เริ่มภารกิจหลักทันที
(ตกลง)
"เรียกฉันว่าปู่ทวด"
"ครับ ปู่ทวด" อาทิตย์ ตอบกลับไป อย่างอ่อนโยน
เดิมทีแล้ว นิสัยของเขานั้นอบอุ่น และอ่อนโยนต่อครอบครัวอยู่แล้ว ซึ่งแตกต่างจากคนแปลกหน้า ที่เขาจะเย็นชา และเมินเฉย ในกรณีนี้ ที่เขาได้รับรู้ความจริงนั้น ว่าเขายังมีครอบครัวอยู่อีก ก็เพียงพอแล้วที่ คนสุดท้ายที่เหลืออยู่ จะได้รับการปฏิบัตตนของเขาเยี่ยงคนในครอบครัว
"คงสับสนน่าดูเลยสิ ตามปู่มาสิ มีอะไรจะให้เหลนดู" แล้วปู่ทวดก็บังคับรถเข็นไฟฟ้าเข้าไปด้านใน โดยมี พ่อบ้านที่คอยตามอยู่ตลอดเวลา เดินตามหลัง แล้วถึงตามด้วยอาทิตย์ ที่เริ่มปล่อยวางแล้วเดินตามเข้าไป อย่างเงียบๆ
พ่อบ้าน ชาย เมื่อผ่านประตูห้องต่างๆ ก็ได้แนะนำให้กับสมาชิกใหม่ของบ้านให้รู้ ไม่ว่าจะเป็น ห้องทำงาน ห้องหนังสือ ห้องประชุม ห้องอาหาร ห้องรับแขก และห้องนอนของ สมาชิกในครอบครัว ทั้งที่เสียไปแล้ว และยังมีชีวิตอยู่ ถึงจะบอกว่าสมาชิกในครอบครัว แต่ก็เป็นบุคคลที่เป็นลูกบุญธรรมของ ปู่ทวดเท่านั้น
ซึ่งประกอบไปด้วย
พงสินต์ อัครโยทิน อายุ 45 ปีเท่านั้น เป็นผู้ดูแลบริษัท นำเข้าและส่งออกที่ดีที่สุดของประเทศในขณะนี้ พักอยู่ที่เมืองหลวง
มีภรรยา ชื่อ เพียงศรี อัครโยทิน และลูกชาย จักรพงศ์ อัครโยทิน อายุ 13 ปี และลูกสาว เเพรวพราว อัครโยทิน อายุ 5 ปี
อัครพงศ์ อัครโยทิน อายุ 25 ปี เป็นผู้ดูแล บริษัท อสังหาริมทรัพย์ ที่อายุน้อยที่สุด และเป็นถึง หนุ่มโสดที่คนหมายตา มาตลอด 5 ปีหลังจากที่เข้าควบต่ำแหน่งรองประธาน จะกลับบ้านมาเพียง ปีละ 5 ครั้ง ตามเทศกาลต่างๆ เท่านั้น
ทั้งสองคนตอนนี้ ถือว่ามีศักดิ์ เป็นญาติผู้ใหญ่ของอาทิตย์โดยปริยาย
เมื่อเดินมาจนถึงสุดทางเดิน
"ด้านหลังประตูบานนี้ เป็นห้องนอนของ แม่เธอ เข้าไปดูสิ" ปู่ทวดให้อาทิตย์เปิดประตูเข้าไปเอง
หลังจากที่อาทิตย์เดินไปแล้ว ปู่ทวดก็จากไป ปล่อยให้เหลนของตนอยู่กับอดีตของมารดาตนเองเพียงลำพัง
เขานั้น เข้าใจดีถึงการสูญเสียคนที่รัก อยู่มาจนอายุปานนี้แล้ว
ผ่านไปราว 2 ชั่วโมง
อาทิตย์เดินออกมาจากห้องของแม่วีแล้ว ก็มีคนมาอยู่รออยู่หน้าห้อง จากการแต่งตัวแล้ว น่าจะเป็นแม่บ้าน
"คุณท่านให้ ดิฉันมารอคุณอาทิตย์ เพื่อพาไปยังห้องอาหาร หลังจากที่คุณออกจากห้องแล้วค่ะ"
"ขอบคุณครับ นี่น่าจะเลยเวลาอาหารมานานแล้วหรือเปล่าครับ"
"เลยมาไม่นานค่ะ"
"งั้นเรารีบไป ดีกว่าคุณปู่ทวด คงรอนานมากแล้ว"
แล้วเป็นจริงดังว่า ปู่ทวดได้รอที่จะทานอาหาระร้อมกับเหลนของตนอยู่นั้น ความรู้สึกผิดก็ก่อขึ้นในใจของอาทิตย์ ที่ปล่อยให้ปู่ทวดต้องหิ้วท้องรอ ทั้งๆที่ไม่มีความจำเป็นเลยแท้
"มาแล้ว ก็มาทาน ปู่หิวแล้ว"
"ครับ" เมื่ออาทิตย์นั่งลง ในที่นั่งข้างปู่ทวดแล้วนั้น อาหารก็เริามเสิร์ฟ สิ่งที่ทำให้เขาอึ้งนั้น คืออาหารส่วนใหญ่จะเป็นสิ่งที่เขาชอบ หรือไม่ก็เป็นอาหารที่แม่ของเขานั้นทำให้ทานเป็นประจำ
"ปู่ไม่รู้ว่าหลานชอบอะไร ทั้งหมดนี้เป็นอาหารที่ปู่ทานเป็นประจำ หวังว่าจะถูกปากนะ"
"ไม่เป็นไรเลยครับ มากกว่าครึ่งก็ของโปรดผมเช่นกัน"
"งั้นก็ดีเลย เริ่มทานเถอะ"
ทั้งสองคนนั่งทานอาหารกันเงียบเชียบ แต่กลับไม่มีบรรยากาศอึดอัดเลยแม้แต่น้อย มีบ้างบางครั้งที่อาทิตย์นั้น ตักกับข้าวให้กับปู่ทวด
มื้อนี้จึงเป็นมื้อแรกที่ปู่ทวดทานได้เยอะมาในรอบหลายปี เลยทีเดียว เรียกรอยยิ้มให้กับพ่อล้านชายและและแม่บ้านหญิงเป็นอย่างมาก
หลังจากที่ทานกันเสร็จแล้ว
พ่อบ้านชายได้นำกล่อง สีดำบุผ้า ดูหรูหรามามอบให้กับอาทิตย์
เมื่อเปิดดู กลับพบว่า เป็นบัตรเครดิต ใบดำที่บ่งบอกถึงอำนาจเงิน รวมไปถึงกุญแจรถ ทั้งแบบเครื่องยนต์และมอเตอร์ไซต์ และที่สำคัญคือ เอกสารหุ้นของบริษัทในเครื่อ อัครโยทิน หากอาทิตย์เซ็นต์รับหุ้นในเอกสารเหล่านั้น เขาก็จะกลายเป็นประธานบริษัททันที
สิ่งเหล่านี้เขาไม่ได้ทันตั้งตัวเลย แม้แต่น้อย แต่เขาก็ยังฉลาดพอที่จะรับเพียง บัตรเครดิต และกุญแจรถมอ'ไซต์ เท่านั้น นอกเหนือจากนี้นั้น มันมากเกินไป อีกอย่าง เขาก็ไม่ได้มีความสามารถถึงเพียงนั้น และบริษัทให้อยู่ในการดูแลของลูกบุญธรรมของปู่ทวด ก็ดีอยู่แล้ว
มาช้ามากๆ ขอโทษนะคะ
ความคิดเห็น