ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    White rose Sweet heart [ BigBang ] Yaoi

    ลำดับตอนที่ #4 : [Ch. 4] How to, Mini Boy !!? 100%

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 365
      1
      25 ก.ย. 52

     
     
    ขาคู่ยาวเรียวเหนือสนีกเกอร์สีขาวคู่สวยก้าวลงจากมอเตอร์ไซค์สีดำคันโปรด เจ้าของมันดับเครื่องยนต์และจอดทิ้งไว้หน้าบ้านของเพื่อนสนิท ..  ที่โทรมาปลุกพ่วงขู่วางระเบิดเมื่อเช้า 

    ไม่เข้าใจเหมือนกันว่ามันจะเป็นบ้าเป็นบอปัญหาอะไรมากมายใหญ่โตถึงขนาดต้องเรียกวีรบุรุษอย่างเขามาช่วย ชายหนุ่มถอดหมวกกันน็อคของตัวเองออกแล้วแขวนมันไว้กับแฮนด์บิด เขาผลักประตูหน้าบ้านเดินเข้าบ้านไป


     
    เดินผ่านสวน.. แทคยอนเผลอเหลือบไปเห็นซากเถ้าถ่านจำนวนหนึ่งกองสูงอยู่บนซากไม้ราวกับอะไรสักอย่างที่เยอะมากๆโดนเผาไปซะอย่างงั้น ช่างเถอะ.. สุภาพบุรุษอย่างเขาไม่มีความจำเป็นอะไรต้องไปสนใจกองเถ้าถ่านอย่างงั้นอยู่แล้ว..


     
    โอคแทคยอนกดกริ่งหน้าประตูบ้านเมื่อลองเปิดดูแล้วเห็นว่าประตูถูกล็อกอยู่ ชายหนุ่มกดกริ่งสองรอบสามรอบจนได้ยินเสียงฝีเท้าของคนในบ้านวิ่งตึงๆลงมาเขาถึงหยุดกด.. อันที่จริงเขาไม่ได้กดแค่สองสามรอบหรอก.. ต้องพูดว่าสองสามร้อยรอบถึงจะถูก..


    มือสองข้างล้วงกระเป๋ากางเกงรอเพื่อความมาดแมนสมชายคอยดูถ้ามันโผล่มาพ่อจะถามว่า
    ‘เฮ้~ มีราย' เหมือนหนังจีนที่เพิ่งดูกับแม่เมื่อวานเลยตอนพระเอกทำนะ โหย.. โคตรพ่องโคตรแม่อย่างเท่อะ
     

    ประตูไม้ถูกเปิดออก
    แทคยอนกระตุกยิ้มเตรียมปล่อยคำพูดที่ยืนซ้อมอยู่เมื่อครู่
     
    " เฮะ.. "
    ".. "
    " เหี้ยไรมึงเนี่ยยยยยย !!!!"
     

    ความหงุดหงิดชเวซึงฮยอนกระตุกปึ้ดเมื่อแทคยอนตะโกนลั่นหลังคาบ้านหลายบ้านแทบปลิว.. ให้ตายเถอะไอ้สมชายมันตกใจได้สมชายมาก.. ซึงฮยอนมองตาสายตาของแทคยอนที่เพ่งไปที่ร่างเล็กซึ่งนั่งเกาะอยู่บนไหล่เขา
    ก็เข้าใจ... ว่าตกใจมาก เขาตื่นมาก็ตกใจเหมือนกันที่น้องกลายเป็นแบบนี้ถึงต้องโทรเรียกมันมาช่วยนี่ไง
     


    แต่หน้าตาตอนมันช็อกนี่.. มองไม่เห็นความสามารถในการช่วยเหลือได้เลยว่ะ..
     
    ...
     


    เวลาผ่านไป..
    ซึงฮยอนนั่งอยู่บนเตียงพร้อมซึงริที่นั่งอยู่บนหัวไหล่เขา.. แทคยังนั่งมองเขาอยู่

    ห้านาทีผ่านไป
    ซึงฮยอนนั่งหาวอยู่บนเตียงพร้อมซึงริที่นอนพิงคอเขาหลับไปเรียบร้อยแล้ว.. แทคยังนั่งมองเขาอยู่

    สิบนาทีผ่านไป
    ซึงฮยอนตาปรือกะพริบตาถี่ๆจะหลับแหล่มิหลับแหล่ น้องเกือบกลิ้งร่วงจากบ่าเขาหลายรอบโชคดีที่จับไว้ทัน แต่แทคมันก็ยังนั่งมองเขาอยู่
     

    มองห่านเหวอะไรของมึงนักหนาวะ
    ?!
     

    ชเวซึงฮยอนป้องปากหาวเบาๆ เขาเล่าเรื่องทั้งหมดให้แทคฟังอีกรอบไปแล้วเนื่องจากมั่นใจแน่ชัดแล้วว่าสมชายมันไม่ได้ฟังเขาพูดอะไรเลยตอนคุยโทรศัพท์กัน
    .. แต่ไอ้บ้านี่เขาเล่าไปตั้งนานแล้วมันยังนั่งอึ้งมองน้องนอนอยู่นั่นแหละจนเขาจะนอนตามน้องไปด้วยแล้วมันยังไม่เลิกจ้อง !
     

    " แล้วน้องเค้าจะหายมั้ยเนี่ย "

    " กูถึงให้มึงมาช่วยหาวิธีไง " หาวอีกรอบพลางเกาหัวแกรกๆ
     

    " มึงเสิร์จหาในกูเกิ้ลยัง ?"


    " กูเกิ้ลคุณเกิ้ลมึงเกิ้ลอะไรกูลองหมดแล้ว ไม่มีที่ไหนมีใครเคยเป็นแบบน้องสักคน กูเข้าห้องสนฯ เค้าก็บอกให้กูไปโรงบาลบ้า .. ไอ้เว็บเวรนั่นทั้งเว็บมองกูบ้าหมดแล้ว"


     ถอนหายใจเบาๆ แล้วค่อยๆประคองน้องจากบ่าตัวเองลงไปนอนบนหมอนลายอุลตร้าแมนที่วางอยู่บนหัวเตียง เจ้าตัวเล็กหายใจสม่ำเสมอแสดงให้เห็นว่าตกอยู่ในภวังค์ลึก
     

    หลับสนิท.. ..
      ตกลงนี่มันเรื่องที่ใครควรเครียดมากกว่ากันกันแน่วะ !!!

    ..


     
    แทคยอนมองหน้าซึงริอีกครั้งอย่างไม่เชื่อสายตา คราวนี้เล่นเดินมามองหน้าน้องถึงข้างหมอนก่อนพูดออกมาเบาๆ " กูไม่อยากเชื่อเลยว่าคนเรามันจะเป็นแบบนี้ไปได้" .. ซึงฮยอนพยักหน้าเห็นด้วย เขาก็ใช่ว่าอยากเชื่อนักหรอกนะ อยากให้มันเป็นความฝันไปด้วยซ้ำแต่พอเห็นจะๆตาแบบนี้ก็รู้ว่ามันต้องหาทางแก้ไขอย่างเดียวเสียแล้วจะภาวนาให้เป็นแค่ความฝันก็คงเป็นไปไม่ได้..
     
     

    แต่ไอ้คนที่โชคร้ายต้องมากลายเป็นมนุษย์ตัวจิ๋วนี่มันไม่กังวลอะไรบ้างเลยเรอะ
    !?
    แทคมองน้องอีกครั้งแล้วถอนหายใจแผ่วๆ ".. กูว่าคำสาปของมึงแหละทำน้องซวย"
     
     

    อยากเถียงใจจะขาดรอนๆว่ามันไม่ใช่ความผิดเขาเลยสักกะผีกเดียวที่น้องกลายเป็นเจ้าตัวจิ๋ว
    (หรือว่าจะใช่แต่เขาไม่รู้ตัวก็ไม่รู้) แต่นั่นแหละ.. เขาก็ไม่ได้อยากให้น้องเป็นแบบนั้นเหมือนกัน .. แล้วอะไร ? คำสาปบ้าบออะไรมันมีจริงซะที่ไหนกันเล่า ... ที่น้องเป็นแบบนี้....  " มันเรื่องบังเอิญต่างหาก"
     


    " บังเอิญแม่มึงสิครับชเวซึงฮยอน คำสาปร้อยเปอร์เซ็นต์แล้วแบบนี้น่ะ !!"

    " มึงอย่าบอกกูนะว่ามึงเชื่อเรื่องคำสาปของไอ้แว่นปัญญาอ่อนนั่นจริงๆน่ะ"

    " เรื่องมันมาขนาดนี้แล้วมึงคิดว่ามันมีอะไรเป็นไปได้อีกวะเทมป์ ?  
     
     

    ซึงฮยอนเงียบ.. เขาก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมน้องถึงเป็นแบบนี้ได้แต่จะให้เชื่อเรื่องคำสาปบ้าๆบอๆอะไรนั่นที่มาปักปำเขาว่าเป็นเจ้าชายกุหลาบบานกุหลาบหุบอะไรก็ไม่รู้นี่มันก็ใช่เรื่องเหมือนกัน..
     ถึงจะหน้าตาดีปานเจ้าชายแต่ให้ตายเหอะเขาก็คนธรรมดานะเว้ย !!
     

    แทคยอนนั่งนิ่งอยู่ชั่วครู่ก็เหมือนเกิดความคิดอะไรออกเขาทุบฝ่ามือตัวเองผัวะ
    " มึงลองถามอะไรไอ้แว่นยัง?"
    ซึงฮยอนถอนหายใจหน่ายๆ " มึงเห็นว่าคนอย่างไอ้บ้านั่นมันติดต่อกับใครเป็นเรอะ "
     

    เงียบกันไปอีกทั้งคู่.. ชเวซึงฮยอนและโอคแทคยอนยังคงคิดหาวิธีแก้ให้คนที่หลับไร้ความกังวลกลับไปมีส่วนสูงแบบเดิมอีกครั้งแต่คิดวิธีเท่าไหร่ก็คิดไม่ออกเสียที ซึงฮยอนล่ะอยากลงไปหลับข้างน้องเสียตอนนี้เลยเพราะแลซึงริจะหลับสบายมาก..
      แทคยอนมองหน้าเขาอีกครั้งแล้วเดินไปนั่งที่เก้าอี้โต๊ะคอม
     

    มันคงไม่เข้าไปเพื่อเล่นปังย่าหรอกนะ .. -
    _-
    " มึงทำไรอะ?"
    " ส่งพิซซ่ามั้งไอ้ฟาย.. กูจะหาที่อยู่ไอ้กยูจงไงเผื่อมันเล่นเว็บอะไรบ้างอาจมีบงมีเบอร์ติดต่อ "
    ซึงฮยอนอยากจะหาวให้ปากเขมือบหัวเพื่อนให้ได้ทั้งหัว เขาบอกไปแล้วนะว่าคนแปลกๆอย่างกยูจงขนาดเบอร์มันยังไม่มีใครรู้ นับประสาอะไรกับข้อมูลทางอินเตอร์เน็ตสำหรับคนโลวเทคอย่างนั้น..
     

    เวลาต่อมา..
    ร่างสูงเพ่งสายตาลงไปยังหน้าจอคอมพิวเตอร์
     


    เป็นไปได้ไงวะ
     


    " อาถรรพ์ดอทคอม ไอ้แว่นแม่งเป็นเว็บมาสเตอร์อยู่แน่ะ"  แทคเงยหน้าขึ้นจากจอคอมแล้วมองเพื่อนผู้ยืนอ้าปากค้างอยู่ข้างหลัง เจ้าตัวหัวเราะหึหึในความสามารถของตัวเอง..
    ปรึกษาใครให้มันรู้ซะบ้างนี่ใครสมชายนะครับสมชาย ใช่คนธรรมดาที่ไหน ~
     

    ชเวซึงฮยอนยังอึ้งอยู่..
     


    .. บ.. บัดซบ! .. คือคำที่แสดงความรู้สึกของซึงฮยอนในวินาทีที่เขาเห็นหน้าเว็บหลักของเพื่อนสติไม่สมประกอบ
    เว็บมาสเตอร์ !!!!...  ความหมายเท่าที่รู้นี่คำว่าเว็บมาสเตอร์มันไม่ใช่พวกโลวเทคซักนิด แล้วไอ้กยูจงโรคจิตนั่นเป็นเว็บมาสเตอร์ !..  แถมลงที่อยู่ยินดีให้คำปรึกษาพร้อมเบอร์โทรศัพท์ไว้ให้อีก..
     

    มองหน้าสมชายที่ยิ้มโชว์ฟันหน้าคอม.. เออ มึงเก่ง
     


    ซึงฮยอนกับแทคยอนตัดสินใจจะไปขอคำปรึกษากยูจงที่บ้าน เท่าที่ดูจากแผนที่ก็ไม่ได้ไกลจากแถบนี้สักเท่าไหร่ แค่คนละเขตเท่านั้น แต่ว่าที่เขาไปหาเนี่ยใช่ว่าเขาจะเชื่ออะไรในตำนานเจ้าชายกุหลาบอะไรนั่นหรอกนะ
    เขาแค่ไปหาเพราะเผื่อรู้วิธีถอนคำสาปเท่านั้นเอง ไม่ได้เชื่อคำสาปนั่นสักนิด
     

    ความสามารถมีแล้วคำสาปก็โผล่มันมีที่ไหนกัน
    ? งี่เง่าสิ้นดี..
     

    ไอ้เพื่อนสมชายบอกจะไปสตาร์ทมอเตอร์ไซค์รอที่หน้าบ้าน ส่วนเขาก็มีหน้าที่ปลุกน้องให้ตื่นไปถอนคำสาป(
    ?) ด้วยกันแล้วระหว่างที่เขาดูคอมกันเมื่อกี๊เจ้าตัวเล็กก็นอนกลิ้งจนร่วงจากหมอนลงมาเกือบตกเตียง
    นี่ถ้าซึงริตกเตียงขึ้นมา ไม่ตายก็คงเลี้ยงไม่โต =___=
     


    อ้อ.. อันนี้หมายถึงบริทนีย์ใบสุดท้ายของเขาน่ะนะ
     
    ...
     



    ลงมาถึงหน้าบ้านมองไปเห็นไอ้เพื่อนตัวสูงใส่หมวกกันน็อคสตาร์ทมอไซค์ของมันรอเรียบร้อยแล้ว ชเวซึงฮยอนไม่ใช่สาวน้อยน่ารักที่จะต้องมากอดเอวเพื่อนชายไปแวนซ์(
    ?)อะไรหรอก แต่ว่าสมชายมันบอกว่าเศรษฐกิจแบบนี้ ไปไหนต้องไปด้วยกันหยุดรถซดน้ำมันแม่มันสอนมา
     


    ไอ้พอจะขอขับเองมันก็ไม่ให้ขับบอกว่าถ้านั่งข้างหลังมันจะไม่แมนส้นตีนอะไรแม่งก็ไม่รู้ เขาจึงต้องยอมนั่งหลังกับซึงริ (ที่ถูกยัดอยู่ในกระเป๋าเสื้ออย่างไม่เต็มใจ) กว่าจะออกรถได้ก็เล่นเถียงกับเจ้าตัวเล็กอยู่อีกนาน
     


    ตอนแรกน้องมันก็ร้องแง้งๆบอกอยากเกาะเอวเฮียอยากเป็นสก๊อยให้เฮียตามเรื่อง แต่นั่งเกาะเอวเขาไปสักพักลมก็ทำท่าจะพัดน้องขาวคนดีของเขาปลิวไปไหนไม่รู้รอมร่อ จึงต้องจับมายัดกระเป๋าเสื้ออย่างตอนนี้เนี่ยแหละ
     

    มันยังไม่วายบ่น
     


    " เสื้อเฮียนี่เหม็นอั๊บเหม็นอับ ซักบ้างป้ะเนี่ย"

    " อ๊า ~ ลมพัดเย็นจังหนาวอ้ะๆ เค้าน่าจะหยิบผ้าห่มมาด้วย"

    " หึยย .. พี่แทคขับนิ่มๆหน่อยดิฮะ ซึงริจะกัดลิ้นตัวเองขาดแล้วนะ!"
     


    แทคยอนหัวเราะเสียงเถียงกันของซึงริที่เกาะอยู่ในกระเป๋าเสื้อและเจ้าของกระเป๋าเสื้ออย่างชเวซึงฮยอนตลอดทางที่ขี่มอเตอร์ไซค์ไปบ้านกยูจง
    .. เขาก็ไม่เคยเจอหรอกนะคู่ไหนที่บ่นกันมาตลอดทางอย่างงี้น่ะ
     

    พ่อคุณบ่นตั้งแต่เริ่มสตาร์ทมอไซค์จนถึงไฟแดงสุดท้าย
    อ้อใช่.. มีประโยคนึงที่ซึงฮยอนไม่เถียงน้อง.. มันเป็นประโยคที่ซึงริพูดตอนรถจอดไฟแดงที่ผ่านมาถ้าจำไม่ผิด
     

    " เฮียๆ.. อยู่ตรงนี้ได้ยินเสียงหัวใจเฮียช้าดชัดฮะ "
     


    แทคยอนไม่ออกความเห็นว่าประโยคข้างต้นเจ้าของเสียงจะมีท่าทางน่ารักขนาดไหนเพราะเขาไม่เห็นท่าทางของน้องตอนทำ แต่ถึงอย่างงั้นถ้ามองจากกระจกส่องหลังก็พอจะเห็นหน้าแดงเถือกของไอ้อ้วนข้างหลังอยู่หรอก
     

    น้องคงพูดพร้อมตาแป๋วๆแล้วก็ยิ้มเห็นเขี้ยวแบบที่ไอ้เทมป์เล่าให้ฟังเมื่อเช้าแหง
    เหลือเชื่อมากจริงๆที่ซึงริตัวสูงกลายเป็นซึงริเวอร์ชั่นตัวเล็กขนาดนั้นได้ ตอนแรกที่เขารับโทรศัพท์จากซึงฮยอนเมื่อเช้าก็นึกว่ามันหาเรื่องอะไรมาอำกันตั้งแต่เช้าถึงได้หลับฟังมันพูด มาได้ยินตรงคำสุดท้ายที่บอกจะเอาหมามาขี้หน้าบ้านนี่แหละถึงได้ยอมตื่นมาบ้านมัน
     

    เขาก็ยังเหลือเชื่ออยู่เลยว่ามันเป็นจริงได้ยังไง.. คงต้องถามเจ้าของเรื่องเล่าที่เอามาเล่าที่มหาลัยเมื่อวันก่อนคงจะได้วิธีแก้ที่ดีที่สุดนั่นแหละ
     
    ...


     
    รถมอเตอร์ไซค์คันงามของแทคยอนหยุดการเคลื่อนไหวของตัวเองลงหน้าบ้านหลังสุดท้ายของซอย ซึงฮยอนก้าวขาลงจากรถแล้วชะเง้อมองเข้าไปในรั้วบ้าน มือเรียวกดกริ่งหน้าบ้านทีนึงรอให้เจ้าของบ้านมาเปิด .. ไม่กี่นาทีต่อมาหญิงชราท่าทางใจดีก็ออกมาเปิดประตูต้อนรับพวกเขา
     

    ถ้าซึงฮยอนมาคนเดียวหล่อนคงนึกว่าเขามาปล้นบ้าน
    โชคดีที่แทคมาด้วยมันจึงแจกยิ้มพร้อมตีสนิทแม่บ้านของบ้านนี้เช่นหล่อนได้อย่างรวดเร็ว
     

    ไม่กี่นาทีหลังจากที่พวกเขาแนะนำตัวเองว่าเป็นเพื่อนของกยูจงหญิงชราคนนั้นก็พาพวกเขามานั่งรอที่ห้องรับแขกก่อนหาขนมน้ำชาของว่างอะไรเยอะแยะมาวางไว้ให้บนโต๊ะแล้วขอตัวออกไปทำงานต่อ
     

    " คุณหนูออกไปซื้อหนังสือค่ะ อีกประเดี๋ยวคงกลับ" หล่อนบอกพวกเขาอย่างงั้น
     

    เมื่อเห็นว่าไม่มีใครแล้วชเวซึงฮยอนก็เอาซึงริออกจากกระเป๋าเสื้อแล้ววางน้องลงบนโซฟา เจ้าตัวเล็กเดินดุ๊กๆไปหยิบ(แบก
    ?) รีโมตโทรทัศน์แล้วกดมันอย่างยากลำบาก แต่ก็ตรงเวลาพอดีกับการ์ตูนที่ตัวเองอยากดู อีซึงฮยอนน้อยนั่งดูการ์ตูนหัวเราะเอิ๊กอ๊ากมีความสุข
     

    แทคยอนขอตัวไปเดินสำรวจบ้านสักหน่อย ปล่อยให้ซึงฮยอนต้องอยู่กับซึงริสองคน
    ชเวซึงฮยอนมองโทรทัศน์แล้วส่ายหัวหน่ายๆ " ไม่เห็นสนุกเลย ไร้สาระการ์ตูนหลอกเด็ก"
     

    " เฮีย อย่านึกว่าเค้าเป็นแบบนี้แล้วเค้าจะหาไฟแช็คไม่ได้นะฮะ"
    คนปากดีปิดปากตัวเองเงียบฉี่


    ..
     

    นั่งดูทีวีด้วยกันไปแป๊บนึง..
    " ซึงริ เฮียปวดฉี่ ไปฉี่ก่อนนะเดี๋ยวมา " เมื่อธรรมชาติเรียกร้องชเวซึงฮยอนก็หันหน้าบอกคนที่นั่งดูทีวีใจจดใจจ่อข้างๆ .. ซึงริพยักหน้าน้อยๆแล้วล้มตัวลงนอนบนหมอนรองแขน
     

    เวลาผ่านไปชั่วครู่หลังจากที่ซึงฮยอนออกจากห้องรับแขกไปนั้น
    เสียงใสสองเสียงก็ปรากฏขึ้น ถึงแม้จะเป็นเสียงกระซิบกระซาบกันของเด็ก.. แต่อีซึงฮยอนก็เริ่มรู้ตัวแล้วว่าเวลานี้ห้องที่เขานั่งอยู่ไม่ได้นั่งอยู่คนเดียวอีกต่อไป ร่างเล็กแอบหันไปยังขอบประตูห้องรับแขก
     

    ใช่เลย ! มีเด็กสองคนกำลังจะเข้ามาในห้องนี้ที่สำคัญดูเหมือนจะเดินมาทางเขา  !!
     
     

    เด็กน้อยหน้าตาน่ารักไว้ผมทรงเห็ดสองคนค่อยๆย่องเข้ามาในห้องรับแขกราวกับไม่ต้องการให้ใครเห็นพวกตน ความกลัวเข้าครอบงำอีซึงฮยอนอย่างสมบูรณ์แบบ ในหัวน้อยๆเริ่มคิดถึงแผนหลบมองซ้ายมองขวาหาที่ซ่อนกะไม่ให้เด็กสองคนนั่นเห็นตน
     

    แต่ท่าทางจะหาที่หลบไม่ทันเสียแล้วถ้าฟังจากคำพูดของเด็กหญิงอายุประมาณแปดขวบผู้เป็นพี่
     

    " แทมิน เบาๆนะเดี๋ยวลุงอ้วนกับลุงฟันเหยินเค้ากลับมาเจอเราแอบเล่นตุ๊กตาเขาจะแย่ !"

    " แทมินต้องได้เล่นก่อนนะพี่มินจิ !!~ แทมินเห็นตุ๊กตาในกระเป๋าลุงอ้วนก่อนพี่มินจินะ "

    " รู้แล้วน่า !! เบาๆหน่อยซี่  อ๊ะนี่ไง คุณตุ๊กตาอยู่นี่ !~ "

     
    แล้วมือเล็กคู่นั้นก็พุ่งปราดมาดึงตัวอีซึงฮยอนขึ้นไปอย่างรวดเร็ว เร็วไม่เท่าความคิดสัญชาติญาณของตุ๊กตาจำเป็นสั่งให้เจ้าของมันทำตัวเป็นตุ๊กตาเด็กผู้ชายอย่างที่เด็กทั้งสองคิดทันที .. อีซึงฮยอนใช้ทักษะการเต้นไซบอร์กของตัวเองที่เคยเรียนมาทำท่ายืนนิ่งคล้ายหุ่นยนต์


    แข็งทื่อออออออออออออ
    ~....
     

    " พี่มินจิ ตุ๊กตาตัวนี้เหมือนคนจริงๆมากเลย ดูดิกระพริบตาได้ด้วยอะ"

    " โหย.. เพื่อนพี่เค้าก็มีคงเป็นประเภทตุ๊กตาบลายธ์น่ะแทมิน แต่ถ้าจำไม่ผิด.. มันต้องดึงเชือกข้างหลังด้วยไม่ใช่เหรอ ?"
     


    เด็กหญิงพูดแล้วจับตัวซึงริพลิกไปด้านหลังแต่มองยังไงก็ไม่เห็นจะมีเชือกที่ว่าเสียทีทั้งสองพี่น้องขมวดคิ้วเล็กเป็นปมๆแล้วมองหน้ากัน มินจิพลิกซ้ายขวาหน้าหลังอีกครั้งแต่ไม่ว่าจะพลิกจนซึงริเวียนหัวสักกี่ทีก็ยังไม่เจอเชือกดังกล่าว


     
    มินจิอมมะนาวแก้มป่องด้วยความประหลาดใจหากแต่แทมินผู้เป็นน้องกลับร้องอ๋อแล้วทุบกำปั้นลงบนฝ่ามือตัวเองอย่างนึกขึ้นได้ " พี่ !.. มันอาจเป็นของนำเข้าก็ได้นะ.. อาจเป็นเวอร์ชั่นไม่ต้องกระตุกเชือกไง"
     
    ซึงริอยากเถียงใจจะขาดรอนๆว่าเขาก็คนเหมือนพวกน้องๆเหมือนกัน แต่ถ้าเกิดเขาเผลอพูดไปน้องเกิดนึกว่าเขาเป็นลิมิเตทเอดิชั่นเวอร์ชั่นปากขยับพูดเองได้อะไรๆมันจะแย่ไปใหญ่


    โธ่เฮีย.. กลับมาซะทีซี่ ..


     
    " ของนำเข้าเหรอแทมิน .. จากประเทศไหนล่ะ เค้าต้องมีเมดอินประเทศอะไรไว้ด้วยสิไหนลองถอดเสื้อดูซิ"
     


    ...  ถอดเสื้อดูซิ !!!?!?!
     


    ตุ๊กตาก็เหงื่อตกเป็น.. ซึงริเริ่มภาวนาให้ชเวซึงฮยอนของเขากลับมาห้องนี้เร็วๆแล้วรีบช่วยเขาเอาไว้ด้วยข้ออ้างอะไรก็ได้ให้เด็กพวกนี้ไม่ต้องเปิดเสื้อผ้าของเขาเพื่อหารอยอะไรบ้าๆนั่น
    แต่เหมือนจะไม่ได้ผล.. เฮียอ้วนที่รักของเขาคงตกส้วมไปแล้ว
     
    แทมินกับมินจิช่วยกันปลดกระดุมเสื้อชุดนอนของซึงริซึ่งยังคงทำตัวแข็งทื่อเป็นหุ่นยนต์ต่อไป ตัวก็สั่นแขนก็สั่นเขาเริ่มกลัวและหนาวเมื่อเสื้อชุดนอนลายทางของตัวเองถูกปลดเปลื้องออกหมดจนเหลือเพียงผิวขาวๆเท่านั้น


     
    ดวงตากลมเจ้าของร่างที่เพิ่งถูกเปลื้องเสื้อเริ่มรื้นน้ำตา เมื่อเห็นว่าเด็กสองคนนั้นดูเหมือนจะไม่หยุดแต่เพียงเท่านี้กงมินจิพลิกด้านหลังของเขาดูแล้วเบะปากอย่างผิดคาด  " ไม่เห็นมีบาร์โค้ดหรืออะไรเลย ?.. ตุ๊กตานี่มันอะไรกันน่ะ "

     
    น้องชายของหล่อนเสริม " ผิวมันนุ่มมากเลยนะฮะพี่.. อย่างกับคนจริงๆแน่ะ"

    ปลายนิ้วกลมเล็กของสองพี่น้องช่วยกันจิ้มบริเวณผิวกายท่อนบนของสิ่งของในมือที่ตัวเองนึกว่าเป็นตุ๊กตา ไม่กี่วินาทีต่อมาผู้เป็นพี่สาวก็นึกอะไรบางอย่างออกอีกครั้ง
     

    ประหนึ่งหล่อนต้องการรู้ให้ได้ว่าตุ๊กตานี่ผลิตมาจากไหน มินจิออกความเห็นให้ถอดกางเกงของตุ๊กตาในมือเธอออกด้วยโดยไม่ได้สังเกตเห็นน้ำตาในแววตาของตุ๊กตาในนั่นที่กำลังจะไหลออกมาพรากๆอยู่รอมร่อ


    ...เฮียยยยย  กลับมาสักทีซี่.. เค้าจะโป๊หมดตัวอยู่แล้วนะ!!
     


     " โอ~ โล่งขึ้นเยอะเลยซึงร.. เฮ้ย !!!  ไอ้เด็กพวกนี้เอามานี่นะ ! "
    พระเอกยังไงก็เป็นพระเอกอยู่วันยันค่ำ ซึงฮยอนเดินลูบท้องเข้ามาในห้องรับแขกอย่างสบายอารมณ์ ส่วนสายตาก็ดันไปเจอะกับเด็กหัวเห็ดพี่น้องที่กำลังเปลื้องผ้าน้องขาวของเขาพอดี
     

    โชคดีที่เขามาทัน ชเวซึงฮยอนแย่งตัวซึงริที่หน้าตาเหยเกกลับมาไว้ที่ตัว เมื่อเด็กสองคนนั้นเห็นเจ้าของที่แท้จริง (ซึ่งมาพร้อมกับหน้าตาโหดๆ) ก็ร้องไห้วิ่งหนีกันจ้าละหวั่น


    " เราฟ้องพี่กยูจงแน่ !! ลุงอ้วนดุเราอ้ะ แงงงงงงง!!" เป็นสรรพนามเรียกที่น่าตบมากครับน้องๆที่น่ารัก
     


    ก้มลงมองที่มือตัวเอง แล้วไอ้ตัวเนี้ย...


    เช็ดน้ำตากับเสื้อเขาทำไมเนี่ย !!!
    ?



     
    " เฮ้ย !.. ไม่ต้องร้องไห้ ใส่เสื้อซะ ร้องไห้ทำไมเนี่ย ?"

    " ฮึก.. ฮึก..อะ แง้งงงงงง.... ฮืออออออออ"  อีซึงฮยอนรับเสื้อตัวจิ๋วจากมือพี่ชายแล้วร้องไห้ไปใส่ไป ข้อแขนเล็กของตัวเองถูกผู้เป็นเจ้าของใช้เป็นที่เช็ดน้ำตาที่กำลังไหลพรากๆ จนแต่งตัวเสร็จซึงริก็ยังร้องไห้อยู่
     

    ซึงฮยอนก็ไม่เข้าใจว่าน้องจะร้องทำไม เขาพาซึงริไปนั่งที่โซฟาแล้วยื่นกระดาษทิชชู่ให้เช็ดน้ำตาน้ำมูกเจ้าตัวเล็กสั่งน้ำมูกพรืดพลางร้องโอดครวญพร้อมน้ำตาที่ยังไหลออกมาและไม่มีทีท่าว่าจะหยุด

    " เฮีย.. ฮึก.. เค้าอะนะ .. พรืดดดด ฮึก.. เค้า "

    " โอเคๆ เฮียฟังแกแน่ สั่งน้ำมูกให้หมดก่อนก็ได้นะ"


     
    ระหว่างที่โอ๋กันไปโอ๋กันมาอยู่นั้นผู้เป็นเจ้าของบ้านก็เดินเข้ามาในห้องพร้อมกับสมชาย(?)เพื่อนเขา กงกยูจงกับโอคแทคยอนเดินเข้ามาพร้อมกันก่อนทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟาคนละฝั่ง
    สายตาทั้งคู่จ้องไปยังซึงฮยอนที่กำลังปลอบน้องไม่ให้ร้องไห้อยู่บนโซฟาหลัก หากแต่สายตาภายใต้กรอบแว่นหนาของกยูจงกลับดูตกใจกว่านิดหน่อยคงเพราะนี่เป็นการเจอครั้งแรกของเขากับซึงริ


     
    " นี่คือน้องที่นายเล่าให้ฉันฟังใช่ไหมแทคยอน ? "
    ผู้ถูกถามพยักหน้าพลางหันหน้าไปถามน้องที่ยังนั่งสั่งน้ำมูกเช็ดน้ำตาอยู่บนมือของซึงฮยอน
    " ซึงริร้องไห้ทำไมเหรอ ? ใครแกล้งเหรอ "
     

    " ฮึก... เด็กฮะ เด็กแกล้งเค้าอะ.. มีเด็กจะมาถอดเสื้อเค้า เด็กคิดว่าเค้าเป็นตุ๊กตาแล้วเด็กก็เลยจับนู่นจับนี่เค้ามั่วไปหมดเลย.. ฮือ.. ความจริงเค้าน่ะ.. เค้าน่ะ"

     
    ทุกคนในห้องรับแขกเงียบฟังน้องเล่า
     

    " คนแรกที่เค้าจะให้ถอดเสื้อเค้าคือเฮียต่างหาก ! แล้วสิทธิ์ในการจะลูบจะคลำอะไรก็เป็นของเฮียด้วยไม่ใช่ของเด็กสองคนนั่นสักหน่อย เค้าสู้อุตส่าห์รักษาสิทธิ์ให้เฮียมาตั้งหลายปีรอวันที่เฮียจะมาถอดเสื้อเค้า !! แล้วเด็กพวกนั้น.. เด็กพวกนั้นมาแย่งสิทธิ์ที่เค้าจะให้เฮียไปอ้ะ .. ใจร้ายที่สุด !!!~"
     

    ถึงคำว่า
    ‘ใจร้ายที่สุด' ที่น้องพูดมันจะดูน่ารักน่าเลี้ยงขนาดไหนก็เถอะ แต่ชเวซึงฮยอนทนไม่ได้กับคำพูดที่อยู่ข้างหน้าคำนั้นต่างหาก อยากบอกเหลือเกินว่าเพื่อนเฮียสองคนก็นั่งจ๋องอยู่ทนโท่นะซึงริ !!
     

    " โหย ร้ายว่ะเทมป์ น้องเค้ารักษาตัวเองเพื่อมึงเลยนะเนี่ย"
    " หุบปากไอ้ตูด"  พูดแล้วก้มลงเช็ดน้ำตาให้เจ้าตัวเล็กที่นั่งอยู่บนมือเขาต่อ ปากก็ปลอบใจไปต่างๆนาๆให้เจ้าตัวเลิกร้องไห้เสียที เดี๋ยวไม่น่ารักบ้างเดี๋ยวตาบวมบ้างตามเรื่องจนอีซึงฮยอนค่อยๆหยุดสะอึกสะอื้นลง
     


    คนร้องไห้จนตาแดงดึงตัวเองขึ้นไปนั่งในกระเป๋าเสื้อของซึงฮยอนเหมือนขามา เจ้าตัวเช็ดหน้าเช็ดตาตัวเองกับเนื้อผ้าด้านในกระเป๋าเสื้อ สะอึกสะอื้นนิดหน่อยแล้วก็นั่งเงียบรอฟังคำสนทนาเกี่ยวกับวิธีแก้ปัญหาส่วนสูงของเขาจากผู้ชายตัวโตสามคนที่อยู่ในห้องรับแขก..
      ดวงตากลมโตจ้องตอบสายตาที่มองมาผ่านเลนส์แว่น
     

    กงกยูจงเป็นคนที่สองต่อจากแทคยอนที่จ้องซึงริไม่วางตา


     
    " ฉันไม่อยากเชื่อเลยว่าคำสาปจะมีผลเร็วขนาดนี้" .. ซึงฮยอนเบะปากเมื่อมองเห็นสีหน้าจริงจังของเจ้าแว่นประหลาดเบื้องหน้า กยูจงขยับแว่นสองสามทีแล้วเดินไปหยิบหนังสือหนาปึกอะไรบางอย่างจากตู้หนังสือ
    " ตำนานที่ฉันเคยเล่าที่ห้องฉันเอามาจากหนังสือเล่มนี้ล่ะ"
     


    ชั่ววินาทีต่อมาที่หนังสือถูกแผ่ลงบนโต๊ะ มันก็ถูกจับจ้องด้วยสายตาทั้งสี่คู่ของคนที่อยู่ในห้องนั้น
    กยูจงอ่านออกเสียงออกมาเบาๆ แบ็คกราวน์ห้องเปลี่ยนเป็นหมอกมืดดำ..
     

    " คำสาปเจ้าชายกุหลาบขาว.. เขาว่ากันว่าถ้าลูกหลานของโคโรแตะไปที่บาดแผลใดเมื่อใดก็ตามในเวลาที่ถูกกำหนดไว้.. คำสาปและพรสวรรค์จะปรากฏขึ้นพร้อมกัน.. ความสามารถในการเยียวยา.. และร่างกายที่หดเล็กลง"
     


    อ่านเสร็จทุกคนก็มองหน้ากัน ชเวซึงฮยอนขมวดคิ้วหันหน้าถามคนที่น่าจะรู้ดีที่สุด " เวลาที่ถูกกำหนดไว้
    ?"
    ดูท่าทางเขาจะไม่ใช่คนงงคนเดียว เจ้าตัวเล็กในกระเป๋าเขาก็ร้องท้วงขึ้นด้วย " เวลาอะไรเหรอฮะ?"
     


    " เขาบอกว่า.. ถ้าวันนั้นลูกหลานของเจ้าชายกุหลาบท้องร้องเกินสามครั้งแล้วพ่นข้าวใส่หน้าใครก็ตามคำสาปจะเกิดผลคืนนั้นเลย .."
    .
    .
    .
    .
    .
     
    เงื่อนไขเหี้ยอาร้ายยยยยยยยยย นี่มันเฉพาะเจาะจงตัวกูชัดช้าด ด ด!!!!
     


    " บ้าแล้ว !! บ้าไปหมดแล้ว.. ถ้าเป็นคำสาปบ้าบออะไรนี่จริงทำไมต้องมาเป็นรุ่นกู กูแค่ท้องร้องเนี่ยนะ !?"
    " กูว่านะเทมป์นอกจากท้องร้องแล้ว.. ปู่ย่าตายายมึงเค้าคงไม่เคยพ่นข้าวใส่หน้าใครว่ะ.." สมชายตบบ่าเขาปุๆ
     
    ซึงริตัวจ้อยชูไม้ชูมือออกความเห็น " ผมว่านะ ผมว่าบางทีคำสาปเฮียอาจดีเลย์ก็ได้นะ !!~"


    ทุกคนทำเป็นเหมือนไม่ได้ยินเจ้าตัวเล็กพูด ชเวซึงฮยอน โอคแทคยอนและกงกยูจงยังอ่านหนังสือเล่มโตนั่นแล้วช่วยกันลงความเห็นถึงวิธีแก้คำสาปหากแต่พอเปิดไปถึงหน้าอธิบายวิธีแก้คำสาปนั้น ตัวหนังสือแดงเถือกก็พุ่งเข้าหน้าชายทั้งสาม
     


    ‘โปรดติดตามตอนต่อไป'
     

    " ตกลงมันนิตยสารลึกลับหรือการ์ตูนรายสัปดาห์วะ.. มีโปรดติดตามตอนต่อไปด้วยกวนตีนสมชายมาก " แทคยอนส่ายหัวหน่ายๆเมื่อเห็นประโยคข้างต้น..
     

    " แล้วพี่กยูจงมีเล่มต่อไปรึเปล่าฮะ ?" ซึงริน้อยชูไม้ชูมือขึ้นแสดงความเห็นทุกคนพยักหน้าเห็นด้วยแล้วมองไปยังชายหนุ่มสวมแว่นที่นั่งอยู่ริมสุด กยูจงขยับแว่นน้อยๆก่อนส่ายหัวเบาๆ  " ฉันเอาไปไว้ไหนแล้วไม่รู้น่ะสิ"
     

    ชเวซึงฮยอนไม่เคยอยากกระโดดถีบแว่นใครให้แตกขนาดนี้มาก่อน
     

    " ถ้าคำสาปนั่นเป็นเรื่องจริง มึงหาให้เจอได้มั้ยวะ.. ถ้ากูกับน้องหาวิธีแก้ไม่ได้ซึงริก็จะเป็นแบบนี้ตลอดชีวิตน่ะสิแล้วถ้าอย่างงั้นน้องจะอยู่ยังไง..? ไหนจะเสื้อผ้าไหนจะของใช้อะไรอีก "
     


    ทุกคนในห้องนั่งเงียบ
     


    จู่ๆเสียงเงียบก็ถูกทำลายขึ้นด้วยน้ำเสียงเจื้อยแจ้วของเด็กหัวเห็ดสองคนที่วิ่งร่าเข้ามาเกาะแขนผู้เป็นพี่ชายคนละข้าง มินจิกับแทมินมองไปยังซึงฮยอนด้วยสายตาเหมือนผู้กำชัยชนะก่อนเขย่าแขนพี่ชายแล้วเริ่มปฏิบัติการฟ้อง
     
     

    " พี่คะ ! ลุงอ้วนเค้าแอบเอาตุ๊กตามาแต่เค้าไม่ให้พวกหนูเล่น โตขนาดนี้ยังเล่นตุ๊กตาอีกเฒ่าทารก ! "
     

     ดวงตากลมบ๊อกของมินจิเพ่งไปยังซึงริที่ยืนแข็งทื่อเกาะขอบกระเป๋าเสื้อซึงฮยอนอยู่ตอนนี้
    เจ้าตัวเล็กในกระเป๋าเริ่มขาสั่นดิกๆอีกครั้ง เหงื่อเม็ดโตแอบปรากฏบนใบหน้าหากแต่ยังโชคช่วยที่รอดพ้นสายตาของพี่น้องหัวเห็ดทั้งคู่
     

    " พี่กยูจง~!! แทมินอยากได้ตุ๊กตาแบบของลุงอ้วนอะฮะ แทมินอยากได้ ! พี่กยูจงขอลุงอ้วนให้แทมินหน่อยน้า "
    ลูกอ้อนของน้องชายคนเล็กที่เกาะแขนพี่ชายแล้วส่งตาแป๋วมาให้

    พอเห็นน้องทั้งสองของตน.. สายตาภายใต้แว่นของกยูจงก็เป็นประกายขึ้น


     
    เขานึกวิธีแก้ปัญหาเฉพาะหน้าออกแล้ว!
     
    ..


    ชเวซึงฮยอนเดินออกมาจากบ้านไอ้แว่นพร้อมถุงกระดาษใบใหญ่ที่ภายในประกอบไปด้วยเสื้อผ้าตุ๊กตาพร้อมออพชั่นเป็นกะตั้กๆ เมื่อครู่กยูจงบอกเขาว่าให้ซึงฮยอนกับซึงริกลับบ้านไปก่อนแล้วมันกับแทคจะช่วยกันหาหนังสือที่ว่าให้เจอ แล้วถ้าเจอจะตามกลับไปที่บ้าน..
     
     

    อันที่จริงเขาก็อยากอยู่ด้วย.. ติดอยู่ตรงที่ว่าไอ้ตัวเล็กร้องงอแงจะกลับบ้านกลับบ้านอยู่ท่าเดียว
     

    แถมก่อนกลับ เจ้าแว่นไม่สมประกอบนั่นก็เอาอุปกรณ์เสื้อผ้าตุ๊กตาทั้งเก่าทั้งใหม่ของเด็กหญิงมินจิใส่ถุงมาให้ซึงริยืมใส่ก่อนเป็นภูเขาๆ อ้างกับน้องมันว่าจะซื้อตุ๊กตาตัวใหม่ให้หรืออะไรสักอย่าง
     

    ตอนแรกมินจิก็ทำท่าจะไม่ยอมอยู่หรอกแต่รู้สึกว่ากยูจงเข้าไปพูดอะไรสักอย่างเนี่ยแหละ น้องถึงยอมให้ยืมเสื้อผ้าง่ายๆแถมยังเดินออกมาจากห้องพร้อมถุงกระดาษใบโตที่เก็บมาให้อย่างดีโดยเฉพาะ
    !
    แถมตอนยื่นให้เขายังยิ้มหวานให้อีก !?
     

    ขากลับ.. แทคที่จะอยู่หาหนังสือให้กุญแจรถเขาไว้แล้วบอกจะตามไปเอาคืนที่บ้าน.. มันก็ไม่มีปัญหาอะไรหรอก..
      แต่ปัญหามันอยู่ที่ว่า..
     

    ถ้าซึงริอยู่ในกระเป๋าเขาเหมือนตอนขามา.. จะไม่มีตัวแทคบังลมให้เหมือนตอนแรกและเจ้าตัวเล็กคงปลิวตามลมไปอย่างไม่ต้องสงสัย.. นั่นคือปัญหาที่เขาสองคนกำลังถกกันอยู่หน้าบ้านในเวลาปัจจุบัน
     

    " เฮีย.. เค้าอยู่ในกระเป๋าเฮียเหมือนเดิมก็ได้นะนะนะ.. เค้าไม่ปลิวหรอกนะ"

    " ไม่ได้ ! เกิดลมแรงขึ้นมาปลิวไปใครจะไปหาเจอ ?"

    " งั้นเค้าอยู่ในกระเป๋าเป้เฮียก็ได้นะ"

    " เดี๋ยวกระเป๋าเป้เฮียก็ต้องเอาไอ้ถุงใส่ชุดใหม่ของแกยัดเข้าไปเต็มอยู่ดี..  "

    " ถ้างั้นในเสื้อกล้าม"

    " จั๊กจี้ตายห่า"

    " เป้ากางเกง"

    " เว่ย !!"


     
    ใช้เวลาคิดอยู่ประมาณสามนาที อีซึงฮยอนก็ร้องอ๋อขึ้นมาลั่นก่อนมุดเข้าไปในถุงกระดาษที่ซึงฮยอนถืออยู่ในมือและหยิบพัดเล็กๆของตกแต่งสำหรับตุ๊กตาญี่ปุ่นออกมาชูขึ้น

     
    " เค้านึกออกแล้ว .. เค้าอยู่ที่ไหนที่ลมไม่ตีแล้วก็ไม่ร่วง !" ซึงฮยอนขมวดคิ้วพลางมองพัดในมือน้องที่กระดิกไปมาตามแรงสั่งของเจ้าของด้ามจับ.. อีซึงฮยอนเกาะถุงกระดาษแล้วยิ้มกว้าง



     
    " ใน - หมวก - กัน - น็อค - เฮีย - ไง"




     
    TBC
     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×