ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ✚ KARAKURI | krystal

    ลำดับตอนที่ #7 : *SPECIAL 01*

    • อัปเดตล่าสุด 16 ก.พ. 58







    14FEB2015

    I’m thinking about how people fall in love in mysterious ways ..

     

     

     

     

     

    หลายครั้งๆที่ชีวิตก็ใจร้ายจนเกินไป ..

     

    นี่เป็นสิ่งที่เบจูฮยอนหรือที่เพื่อนคนอื่นเรียกเธอว่าไอรีนคิดอยู่ในขณะนี้ หลังจากที่เธอพบว่าตัวเองกำลังอับโชคแบบสุดๆ เมื่อเดือนก่อนไปสารภาพรักกับรุ่นพี่ก็โดนเขาปฏิเสธมาด้วยเหตุผลง่ายๆว่า

    โทษทีนะ ฉันยังไม่พร้อมที่จะดูแลใคร อยากจะทุ่มเทให้กับการสมัครประธานนักเรียนในครั้งนี้ก่อน

    ฟังดูดีใช่มั้ยล่ะ.. แต่ถ้าเธอจะมารู้ทีหลังว่าไอ้ประธานนักเรียนที่อีกฝ่ายว่าเนี่ยมีเขาสมัครแค่คนเดียวตั้งแต่แรกอยู่แล้วแบบนี้ มันก็ไม่ได้ต่างอะไรกับการปฏิเสธตรงๆอยู่ดีว่าเขาไม่ได้ชอบเธอไม่ใช่หรือไง คิดแล้วก็ทั้งเจ็บทั้งอายไม่หายจนพาลไม่อยากจะเห็นหน้าอีกฝ่ายอีกต่อไป

    และชีวิตมันก็ไม่มีทีท่าว่าจะใจดีขึ้นเลย มันยังคงโหดร้ายใส่เธออยู่เรื่อยๆมา เหมือนเช่นในตอนนี้..

     

     “ทำไมแม่ไม่ปลุกหนูอ่ะ!!!

    “อะไรกันล่ะ ฉันปลุกแกเป็นสิบรอบๆแล้วแท้”

    “นั่นแหละ แม่ก็น่าจะปลุกหนูต่ออีกซักสองสามรอบสิ!

    ไอรีนบ่นอย่างหัวเสียเมื่อพบว่าตอนนี้แปดโมงกว่าแล้วและเธอยังไม่ได้ออกจากบ้าน อยากจะบ้าตาย สายวันไหนไม่สาย ดันมาสายวันจันทร์ วันที่รุ่นพี่ชานยอลเป็นเวรเฝ้าหน้าประตู เฮ้อ..นี่มันฝันร้ายชัดๆ

    “เอ้า! ไม่กินข้าวก่อนล่ะ”

    คนเป็นแม่ตะโกนถามเมื่อเห็นว่าลูกสาวคนเดียวของตัวเองรีบร้อนวิ่งผ่านโต๊ะกินข้าวตรงไปที่ประตู ไอรีนโบกมือปฏิเสธ อีกสิบนาทีก็จะเข้าเรียนอยู่แล้ว ยังจะให้เธอนั่งลงกินข้าวก่อนอีกเหรอ

    เหอะๆ ต้องขอบายละกัน

     

     

     

    แฮ่กแฮ่ก

    ไอรีนหยุดยืนหอบเมื่อเห็นว่าอีกไม่ถึงสิบก้าวก็จะถึงประตูรั้วโรงเรียนแล้ว เธอรู้ว่าบ้านตัวเองใกล้โรงเรียนมากแต่ไอ้การวิ่งไม่ลืมหูลืมตาภายในเวลาไม่กี่นาทีแบบนี่มันก็ไม่ไหวซักเท่าไหร่หรอกนะ

    “โอ้ย..อยากจะบ้าตาย” ยังไม่ทันจะหายเหนื่อย ไอรีนก็ต้องรีบจ้ำต่อเมื่อเหลือบไปเห็นแวบๆที่หน้าประตู ร่างสูงที่มองยังไงก็รู้ว่าเป็นคนที่เธอไม่อยากเจอที่สุดกำลังเดินตรงดิ่งไปที่ป้อมยามหน้าประตูโรงเรียน

    ปาร์คชานยอล..รุ่นพี่ปีสามประธานนักเรียนแถมพ่วงตำแหน่งสารวัตรนักเรียนเข้าไปอีกหนึ่งตำแหน่งกำลังจะเริ่มปฏิบัติหน้าที่ ในมือของเขามีหนังสือปกดำที่นักเรียนคนอื่นๆรู้จักกันในนามเดธโน้ต ว่ากันถ้าใครโดนเขียนชื่อลงไปในเล่มนั้น ชีวิตในโรงเรียนของคนคนนั้นไม่มีวันจบอย่างสวยงามแน่ๆ

    และไอรีนไม่อยากเป็นหนึ่งในผู้โชคร้ายคนนั้น

    “ไม่นะะะ!!!” เสียงตะโกนลากยาวมาแต่ไกลพร้อมกับสองขาเล็กที่รีบวิ่งอย่างสุดชีวิต เชื่อเสมอว่าความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จย่อมอยู่ที่นั่น ตอนนี้เธอไม่สนใจสายตาของชาวบ้านคนอื่นที่จ้องมองมา รู้แค่ว่าตัวเองต้องไปให้ถึงที่หน้าประตูนั่นก่อนที่รุ่นพี่ชานยอลจะเริ่มจดชื่อคนมาสาย

    แต่ดูเหมือนว่าความพยายามในครั้งนี้ไม่ได้นำมาซึ่งความสำเร็จเลย..

     

    พลั่ก!

    “โอ้ยยย เจ็บชะมัด” ร่างเล็กล้มก้มจ้ำเบ้ากับพื้นก่อนจะโอยครวญออกมา เธอนิ่วหน้าอย่างเจ็บปวดจนลืมเรื่องรุ่นพี่ชานยอลไปชั่วขณะ

    “เดินภาษาอะไรว่ะไม่เห็นไงว่า.. อ่ะ..รุ่นพี่คังจุน” ไอรีนที่แผดเสียงต่อว่าไอ้คนที่เดินทะเลอทะล่าเข้ามาจนชนกับตัวเองรีบปรับน้ำเสียงให้ไพเราะทันทีที่เห็นหน้าของอีกฝ่าย กลืนน้ำลายลงอึกใหญ่อย่างประหม่า หวังว่าเขาคงไม่ได้ยินที่เธอพูดเมื่อกี้หรอกนะ

    แต่ก็ไม่ทัน..

    “เธอว่าไงนะ?”

    คังจุน..รุ่นพี่ปีสองที่ชื่อเสียงโด่งดังในด้านไม่ค่อยดีเท่าไหร่หยิบกระเป๋าขึ้นมาปัดฝุ่นก่อนจะหันไปถามคู่กรณีที่ยังนั่งกองอยู่ที่พื้นอย่างไม่สบอารมณ์ แค่ตื่นมารู้ว่าเป็นวันจันทร์ก็น่าหงุดหงิดพอแล้วยังต้องมาเจอเรื่องให้อารมณ์เสียแต่เช้าอีก

    “ปะ..เปล่าค่ะ.. ขอโทษนะคะรุ่นพี่”

    “เมื่อกี้ไม่ได้พูดแบบนี้หนิ..”

    “ฉันไม่ได้ตั้งใจค่ะรุ่นพี่..”

    ไอรีนรีบก้มหัวขอโทษอีกฝ่ายเป็นการใหญ่ คังจุนมองท่าทางที่อีกฝ่ายปฏิบัติต่อเขาอย่างเกรงกลัวก็กระหยิมยิ้มย่องออกมา เขารู้นิสัยตัวเองดีว่าเป็นพวกชอบวางอำนาจและมันก็แก้ไม่หายซักที

    “ทีหลังก็อย่าปากดี.. โอ้ย!” ยังไม่ทันที่เขาจะพูดจบประโยค กระเป๋าของใครบางคนก็ลอยมากระแทกเข้าหัวเขาจังๆ

    “อยากตายรึไง!!! ... อ่ะ อ้าว รุ่นพี่จงอิน สวัสดีครับ”

    สถานการณ์เหมือนเมื่อครู่เป๊ะๆราวกับลอกกันมา แต่ต่างตรงที่คนพูดเป็นคังจุนและอีกฝ่ายเป็นจงอินที่กำลังยืนทำหน้านิ่ง

    “โทษที หลุดมือน่ะ”

    คนมาใหม่กล่าวด้วยน้ำเสียงนิ่งเรียบเช่นเดียวกับสีหน้า คังจุนยิ้มแหยๆก่อนจะรีบหยิบกระเป๋าคืนไปให้ ในขณะที่ไอรีนได้แต่ยืนมองภาพตรงหน้าอย่างอึ้งๆ บุคคลอันตรายสองคนกำลังยืนอยู่ตรงหน้า พวกเขาคงจะไม่ได้ตีกันตายตรงนี้หรอกนะ..

    “ดะ เดี๋ยวผมขอตัวก่อนนะครับรุ่นพี่”

    “อือ..”

    เฮ้อ..ค่อยยังชั่ว ไอรีนแอบถอนหายใจเบาๆในตอนที่คังจุนขอตัวเดินจากไป ก่อนจะสะดุ้งโหยงเมื่ออีกคนที่ยังเหลือหันใบหน้านิ่งมามองเธอ

    “แล้วนี่ยืนเอ๋ออยู่ทำไม รีบเข้าโรงเรียนไปสิ”

    จงอินว่าแล้วหยิบกระเป๋าขึ้นพาดไหล่เดินจากไปโดยไม่สนใจคำตอบของอีกฝ่าย ไอรีนกระพริบตาปริบๆ ไม่ได้จะคิดเข้าข้างตัวเองแต่การกระทำเมื่อกี้ของรุ่นพี่มันคืออะไร เขาพยายามจะช่วยเธออย่างงั้นเหรอ?

    จงอินหันไปหัวเราะกับเพื่อนอีกคนที่วิ่งเข้ามา รอยยิ้มบนใบหน้าที่ไอรีนก็เคยเห็นอยู่บ่อยๆ แต่ทำไมตอนนี้เธอถึงละสายตาจากมันไม่ได้ ก้อนเนื้อที่หน้าอกฝั่งซ้ายเต้นเป็นจังหวะแรงกว่าปกติจนเธอรู้สึกประหลาด เธอยืนมองแผ่นหลังของเขาที่กำลังเดินห่างออกไปพร้อมกับคำถามในหัว

    จนกระทั่งเสียงตะโกนเรียกของสารวัตรนักเรียนสุดโหดดังแทรกเข้ามา

    “เบจูฮยอน! เธอจะไม่เข้าเรียนรึไง!

    เธอถึงนึกได้ถึงเหตุผลที่เมื่อกี้ตัวเองวิ่งแทบตาย .. อ่า..ทำไมชีวิตถึงได้วุ่นวายแบบนี้นะ!!!!

     

     

     

    “จงอินหรอ อยู่ในห้องน่ะ”

    ไอรีนขอบคุณรุ่นพี่ปีสามคนนึงที่เธอเจอหน้าห้อง ตอนนี้เป็นช่วงพักเที่ยงและเธอก็รวบรวมความกล้าอยู่นานก่อนจะพาตัวเองมาอยู่ที่หน้าห้องของคนที่ทำให้เธอรู้สึกแปลกๆในตอนเช้าที่ผ่านมา

    คิมจงอิน.. รุ่นพี่ปีสามที่ใครๆในโรงเรียนก็รู้จัก เขาไม่ได้เป็นเนิร์ดหัวกะทิที่กวาดรางวัลจนสร้างชื่อเสียงโด่งดังหรือเป็นนักกีฬาของโรงเรียนอะไรพวกนั้น แต่ทุกคนรู้จักเขาในฐานะตัวปัญหาของโรงเรียนน่ะ ที่วันๆก็มีแต่ยกพวกตีกันกับโรงเรียนอื่นๆ และไอรีนก็รู้จักเขาในฐานะนั้นเช่นกัน

    จนกระทั่งเมื่อเช้านี้ที่ความคิดนี้เริ่มถูกเปลี่ยนไป

    “นี่! คริสบอกให้ชวนนายไปกินข้าวที่บ้านน่ะ”

    “ก็บอกแล้วไงว่าไม่ไป เลิกกวนซักที! ฉันจะนอน!!!

    “นอนอีกและ นายง่วงอะไรนักหนาเนี่ย?”

    เสียงทุ้มและแผ่นหลังกว้างนั่น ไอรีนจำได้ว่าคนที่นั่งหันหลังให้อยู่ตรงนั้นคือรุ่นพี่จงอิน เขานั่งอยู่ที่โต๊ะริมหน้าต่างมุมสุดหลังห้อง ตอนแรกเธอก็ว่าจะเดินเข้าไปหาเขาแล้วขอบคุณเรื่องเมื่อเช้า แต่ก็ต้องหยุดอยู่ตรงนั้นในตอนที่เห็นร่างเล็กวิ่งพรวดมาจากประตูหลังเข้าไปหาจงอินด้วยท่าทีสนิทสนม

    เธอมองอีกคนอย่างไม่ละสายตาเพราะก็รู้จักคนมาใหม่เช่นกัน รุ่นพี่คริสตัล..หนึ่งในพี่ชมรมที่เธอมั่นใจว่าค่อนข้างสนิทด้วยกำลังคุยหยอกล้อกับรุ่นพี่จงอิน เธอรู้ว่ารุ่นพี่คริสตัลนิสัยดีและเธอไม่อยากจะคิดอะไรทั้งนั้น จนเล็บที่จิกเข้าฝ่ามือที่กำแน่นของเธอเองที่เป็นตัวสารภาพกลายๆว่า

    เธอกำลังอิจฉา.. ท่าทีสนิทสนมของพวกเขา

     

     

     

    “รุ่นพี่คะ”

    “อ้าว! มีอะไรหรอ”

    คริสตัลหันไปหาอีกคนที่กำลังเดินเข้ามาหา ไอรีนลังเลอยู่นานว่าจะถามดีมั้ย? แต่สุดท้ายความอึดอัดก็เอาชนะความเกรงใจที่มีต่ออีกฝ่าย เธอใช้เวลาช่วงหลังเลิกเรียนรีบวิ่งมาดักคริสตัลที่กำลังเก็บของเตรียมจะกลับบ้าน

    “ฉันมีเรื่องอยากจะถามหน่อยค่ะ”

    “หืม? ถามไรหรอ?” คริสตัลถามพรางหยิบหนังสือใส่เข้ากระเป๋าไป วันนี้เซฮุนไม่ได้มาเรียนเธอเลยจะเอาหนังสือพวกนี้กลับบ้านไปด้วย

    “รุ่นพี่สนิทกับรุ่นพี่จงอินหรอคะ”

    “อ่า..จงอินหรอ ก็สนิทนะ ทำไมหรอ”

    ไอรีนยิ้มไม่ออกที่ได้ยินอีกฝ่ายเรียกรุ่นพี่จงอินด้วยชื่อเฉยๆ นี่แสดงว่าเขาสองคนสนิทกันมากใช่มั้ย? ความอึดอัดวิ่งเข้ามาจุกข้างใน เธอกัดริมฝีปากแน่นระหว่างที่ชั่งใจว่าควรจะถามต่อหรือพอแค่นี้ดี แต่นิสัยที่ชอบพูดอะไรตรงๆก็ทำให้เธอเลือกคำตอบแรกไป

    “รุ่นพี่ชอบรุ่นพี่จงอินหรอคะ?”

    คริสตัลหยุดเก็บหนังสือแล้วเงยหน้าขึ้นมามองแล้วพยักหน้าตอบ เธอไม่เข้าใจความหมายที่แท้จริงของคำว่าชอบที่ไอรีนถามมา ก็ในเมื่อจงอินเป็นเพื่อนของเธอ เธอก็ต้องชอบเขาอยู่แล้วจริงมั้ยล่ะ?

    “งั้นหรอคะ..” ไอรีนตอบเสียงแผ่วลงอย่างสังเกตได้ ตั้งแต่ขึ้นม.ปลายมามีแต่เรื่องให้ผิดหวังอยู่เสมอๆเลย ว่าแล้วเธอก็คงต้องตัดใจสินะ..

    คริสตัลมองหน้าคนถามที่หน้าเจื่อนลงทันที เธอไม่รู้ว่าไอรีนคิดอะไร เพียงแต่ไม่ชอบสีหน้าหม่นหมองแบบนั้น จึงพูดอะไรบางอย่างออกไป

    “เธอก็ชอบเขาใช่มั้ย?”

    อะไรบางอย่างที่ทำให้เรื่องที่ควรจะจบลงในตอนนี้กลับวุ่นวายขึ้นไปอีก

     “จงอินคงจะดีใจนะที่มีคนมาชอบ..”

     

     

     

    “รุ่นพี่รู้มั้ยว่าพี่จงอินเขาชอบชอคโกแลตมั้ย?”

    ไอรีนแยกตัวออกมาหาคริสตัลในตอนที่เพื่อนคนอื่นกำลังนั่งคิดเมนูที่จะทำในวันนี้ ตอนนี้เป็นชั่วโมงกิจกรรมและทุกคนกำลังคิดว่าจะทำขนมอะไรดี

    ใช่..ทั้งคริสตัลและไอรีนอยู่ชมรมทำขนม ไม่เพียงแค่นั้นจินริ ซูจีและเซฮุนก็อยู่ด้วย พวกเขาเลือกชมรมนี้ด้วยเหตุผลง่ายๆที่ว่าคริสตัลอยากให้อยู่ แค่นั้นจริงๆไม่มีอะไรมากไปกว่านั้น

    “น่าจะชอบแหละ ใครๆก็ชอบชอคโกแลตทั้งนั้น”

    คริสตัลที่นั่งหมุนดินสอเล่นในขณะที่จินริกับซูจีกำลังเปิดหาเมนูอยู่เงยหน้าขึ้นมาตอบ ถึงแม้ว่าจะดีใจที่รู้ว่ามีคนมาชอบจงอินเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งคน แต่บ่อยครั้งที่ท่าทีและสีหน้าของไอรีนเวลาพูดถึงจงอินทำให้คริสตัลรู้สึกแปลกๆ

    คล้ายกับมีก้อนตะกั่วหนักมาถ่วงอยู่ข้างในและแบตเตอรี่ในตัวก็พาลจะหมดเอาดื้อๆ

    “ดีเลย ฉันว่าจะทำชอคโกแลตให้รุ่นพี่จงอินวันพุธนี้พอดี” ไอรีนยิ้มกว้างก่อนจะรีบวิ่งกลับไปที่กลุ่มตัวเองทิ้งให้คริสตัลนั่งงงกับคำพูดเมื่อครู่ ก่อนจะไปสะกิดถามเซฮุนที่นั่งอยู่ข้างๆที่ก็น่าจะได้ยินเรื่องราวทั้งหมดด้วย

    “วันพุธนี้มันทำไมหรอ?”

    เซฮุนส่ายหน้า ความทรงจำเขาไม่ได้ถูกลบทิ้งไปก็จริงแต่ในโลกที่เขาอยู่น่ะ มันต่างจากตอนนี้แบบสุดๆจนเขาก็ไม่ค่อยแน่ใจว่าอะไรเป็นอะไรอยู่เหมือนกัน

    “นายก็ไม่รู้งั้นเหรอ” คริสตัลพึมพำเบาๆแล้วหันไปสะกิดไหล่ซูจีที่นั่งง่วนเปิดหนังสือไล่ดูเมนูอยู่

    “ซูจี..วันพุธนี้มันมีอะไรงั้นหรอ?”

    “วันพุธนี้หรอ.. อ่า..ก็ 14 กุมภาไง” ซูจีที่ครุ่นคิดอยู่แปปนึงโพล่งตอบมาเมื่อนึกขึ้นได้ ก่อนจะเริ่มอธิบายต่อเมื่อเห็นว่าทั้งคริสตัลและเซฮุนต่างก็ทำหน้าสงสัย

    “วันวาเลนไทน์ไง” พอตอบเสร็จซูจีก็ส่ายหน้าหัวเราะเล็กน้อยแล้วหันกลับไปเปิดหาเมนูขนมทำต่อ  แอบตลกคริสตัลกับเซฮุนที่ทำเหมือนไม่รู้จักวันวาเลนไทน์ซะอย่างนั้น

    “วาเลนไทน์?”

    คริสตัลพูดทวนซ้ำ ในขณะที่เซฮุนนั่งนิ่งแล้วเริ่มค้นหาข้อมูเกี่ยวกับคำนี้ในหัว ไม่นานนักเขาก็หันมาหาคริสตัลที่ยังคงนั่งทำหน้างงอยู่

    “มันเป็นวันที่ผู้หญิงจะให้ชอคโกแลตกับผู้ชายที่ตัวเองชอบน่ะ” เซฮุนพยายามหาคำจำกัดความที่สั้นที่สุดเพื่ออธิบายให้คริสตัลฟัง ที่จริงมันมีนิยามอื่นๆอีกเยอะแยะแต่เขาคิดว่าบอกไปแค่นี้คริสตัลก็น่าจะเข้าใจ

    “อ่า..แบบนั้นเองหรอ”

    คริสตัลตอบกลับมาแล้วหันไปมองไอรีนที่กำลังตั้งอกตั้งใจทำขนมอยู่ไม่ไกล เธอไม่ได้ทำขนมเก่งแบบไอรีน แต่พอนึกไปถึงตอนที่ไอรีนยื่นชอคโกแลตไปให้จงอินแล้วเขายิ้มออกมาพร้อมเอามือลูบผมเธออย่างเอ็นดูแล้ว..

    แบตเตอรี่คงเหลือ 40%

    อาการแปลกๆนั่นก็เกิดขึ้นอีก และเธออยากลองทำชอคโกแลตนั่นบ้าง..

     

     

     

    “คริสตัล เธอเอาจริงดิ”

    จินริทำหน้าไม่เชื่อหูตัวเองเท่าไหร่ในตอนที่คริสตัลมาขอให้ช่วยสอนทำชอคโกแลต เธอรู้ว่าคริสตัลสนิทกับจงอินก็จริง แต่ไอ้การจะให้ชอคโกแลตในวันวาเลนไทน์เนี่ยนะ มันใช่หรอ?

    “อื้อ ฉันจริงจังนะ!” คริสตัลยืนยันคำตอบ เธอมั่นใจว่าอยากให้ชอคโกแลตกับจงอิน ถึงแม้ว่าไอรีนจะเป็นรุ่นน้องน่ารักที่เธอสนิทด้วยก็ตาม แต่ถ้าเป็นเรื่องนี้เธอก็ขอสู้สุดตัวเหมือนกัน

    “อ่า..ก็ได้ๆ ไว้เลิกเรียนไปลองฝึกทำที่ชมรมแล้วกัน”

    จินริถอนหายใจ ที่จริงเธออยากจะรีบกลับบ้าน แต่พอคิดอีกทีนึง ก็ดีเหมือนกันเธอเองก็จะได้ฝึกทำชอคโกแลตให้รุ่นพี่แทมินด้วย

     

     

     

    “นี่..เซฮุน”

    “ว่าไง?”

    เซฮุนหันไปมองคนเรียกที่กำลังเดินอยู่ข้างๆ คริสตัลหยิบชอคโกแลตที่ทำเสร็จจากชมรมขึ้นมาดูอีกครั้ง จินริบอกว่าให้เอากลับไปแช่ตู้เย็นทิ้งไว้ พรุ่งนี้ก็ใช้ได้พอดี

    “นายยังมีอาการแปลกๆนั่นอยู่มั้ย?”

    “ตั้งแต่ที่คริสซ่อมครั้งล่าสุด ก็ไม่แล้วนะ”

    “จริงหรอ..”

    “เธอถามทำไม?” เซฮุนจับความผิดปกติบางอย่างในน้ำเสียงคริสตัลได้ถึงถามกลับไป คริสตัลเก็บชอคโกแลตเข้ากระเป๋าไปก่อนจะถอนหายใจออกมา มันเป็นท่าทางที่เธอเลียนแบบคริสในตอนที่เขารู้สึกไม่สบายใจ

    “ฉันคิดว่าฉันกำลังเป็นแบบที่นายเคยเป็น”

    “...”

    “ฉันกลัวจัง..”

    ดวงตาของเธอดูหมองลงในตอนที่พูดจบจนเซฮุนรู้สึกเป็นกังวล เขากุมมือเธอไว้ก่อนจะกระชับให้แน่นราวกับให้กำลังใจ อาการที่ว่านั่นคริสก็ยังหาสาเหตุไม่ได้ว่าเกิดจากอะไร แต่ที่แน่ๆเซฮุนมั่นใจว่าคริสจะต้องทำทุกอย่างเพื่อรักษาคริสตัลให้หายเป็นปกติได้อย่างแน่นอน

     

     

     

    “รุ่นพี่ค่ะ ฉันให้”

    ประโยคสุดคลาสสิคเหมือนในหนังสือการ์ตูนรักหวานแหววของญี่ปุ่นกำลังถูกกล่าวซ้ำโดยหญิงสาวร่างเล็ก ไอรีนก้มหน้ายื่นห่อชอคโกแลตในมือไปให้กับจงอินที่ถูกเรียกออกมาในช่วงพักกลางวัน

    เขายกมือขึ้นเกาท้ายทอยแบบทำอะไรไม่ค่อยถูก เขาไม่ค่อยได้รับของแบบนี้บ่อยๆเลยรู้สึกแปลกๆ ว่าจะปฏิเสธไม่เอาก็กลัวจะดูหักหาญน้ำใจเกินไป แต่ครั้นจะรับมาไว้โดยไม่พูดอะไรก็ไม่ใช่สิ่งที่ควรทำ

    “รุ่นพี่ได้โปรดรับมันไว้ด้วยนะคะ..” ไอรีนเหลือบขึ้นมาเห็นสีหน้าลังเลของอีกฝ่ายก็รีบก้มหน้าลงก่อนจะพูดเชิงขอร้องให้เขารับของในมือเธอไว้ด้วย

    ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมาอีกครั้งแล้วรีบหลุบตาลงต่ำไม่กล้าสบตาคนตรงหน้า รู้สึกร้อนวูบที่ใบหน้าในตอนที่เห็นว่าเขากำลังมองมา จงอินรับห่อชอคโกแลตมาไว้ ถ้าเป็นเมื่อก่อนเขาคงจะบอกปัดไปตรงๆว่าไม่ชอบกินของหวานแต่ไม่รู้ว่าตั้งแต่ตอนไหนที่เขากลายเป็นคนใจดีแบบนี้ แต่ถึงแบบนั้นก็เถอะ

    “รุ่นพี่คะ คือว่าฉัน..”

    จงอินมองหญิงสาวตรงหน้าที่กำลังยืนก้มหน้าอึกอักเตรียมพูดอะไรบางอย่าง จังหวะนั้นแหละที่ความใจดีเมื่อครู่มันหายกลับเข้าไป เขาพอเดาได้ว่าไอรีนจะพูดอะไรจึงตัดสินใจพูดแทรก

    “ฉันไม่ชอบคนที่เด็กกว่าน่ะ”

    ประโยคที่ทำให้ความตั้งใจทั้งหมดในห่อชอคโกแลตทะลายลงไม่มีชิ้นดี

    “ไงก็ขอบใจนะสำหรับชอคโกแลต”

     

     

     

    “ไอรีน เธอเอาชอคโกแลตไปให้จงอินแล้วหรอ”  คริสตัลรีบวิ่งมาหาไอรีนถึงห้อง เธอนึกว่าไอรีนจะไปให้เธอพร้อมกันในตอนเลิกเรียนซะอีกถึงได้หน้าตาตื่นแบบนี้

    “อือ ฉันให้รุ่นพี่เขาแล้ว”

    ไอรีนตอบเสียงเศร้า พยายามไม่คิดถึงฉากตอนนั้นที่ซ้ำรอยเดิมไม่มีผิด ทำไมชีวิตถึงได้ร้ายกาจกับเธอแบบนี้นะ โดนปฏิเสธสองครั้งติดๆกันแบบนี้ รู้ถึงไหนอายถึงนั้นเลยนะเบจูฮยอน..

    “อ่า..งั้นฉันต้องไปให้บ้างแล้วสิ” คริสตัลว่าและทำทีว่าขอตัวก่อน ไอรีนเหลือบเห็นห่อชอคโกแลตสีฟ้าลายกระต่ายสีขาวแล้วก็รู้สึกสงสาร อยากจะเอ่ยปากบอกอีกฝ่ายว่าเปล่าประโยชน์ไม่ต้องไปให้หรอกแต่ก็ไม่ทัน เพราะคริสตัลวิ่งหายวับไปแล้ว

    เอาเหอะ..ห่วงคนอื่นไปก็เท่านั้น เอาตัวเองให้รอดก่อนแล้วกัน ว่าแล้วเธอก็ฟุบหน้าลงกับโต๊ะต่อ

     

     

     

    “เอาตัวแปรทั้งหมดนี่เอาไปใส่ในสมการที่ว่า..”

    วิชาเลขในตอนคาบบ่ายเป็นอะไรที่ชวนให้ง่วงนอนสุดๆ ยิ่งโดยเฉพาะกับคนที่ชอบนอนเป็นงานอดิเรกแบบจงอินด้วยแล้วยิ่งไปกันใหญ่ เขาฟุบหลับลงที่โต๊ะโดยมีหนังสือเรียนตั้งเป็นฉากบังไว้

    .. กำลังฝันว่าตัวเองได้ไปนั่งดูบอลทีมโปรดติดขอบสนามอยู่ดีๆ

    “จงอิน...”

    เสียงเรียกคุ้นๆก็ดังแทรกขึ้นจนต้องลืมตาตื่นขึ้นมา

    “จงอินนนน”

    หันไปหาต้นเสียงที่มาโผล่หน้าอยู่ริมหน้าต่างก็ตกใจ ความง่วงเมื่อครู่หายวับไปทันทีเมื่อเห็นว่าคริสตัลมายืนตรงระเบียงหน้าต่างที่ยื่นออกไป เขาคงจะไม่อะไรถ้ามันไม่ใช่ว่าห้องเรียนเขาอยู่ชั้นสี่แบบนี้!!!

    “ย้า! เธอมายืนทำบ้าอะไรเนี่ย เดี๋ยวก็ตกหรอก” เขาหันไปต่อว่าเสียงค่อยใส่แอนดรอยส์ที่บอกว่าอยากจะเป็นคนแต่กลับชอบทำตัวประหลาดไม่เหมือนคนอยู่แบบนี้

    “ฉันเอาชอคโกแลตมาให้”

    คริสตัลพูดพร้อมยืนห่อชอคโกแลตมาให้ จงอินยกมือขึ้นตบหน้าผากตัวเองแล้วถอนหายใจ ไม่เข้าใจวันนี้มันจะอะไรกันนักหนากับชอคโกแลตพวกนี้

    “รีบกลับไปที่ห้องเรียนเธอเลยนะ เดี๋ยวตกลงไปก็ความแตกพอดี”

    “นายก็รับชอคโกแลตไปก่อนสิ”

    คริสตัลยืนกรานว่าจะไม่ไปไหนจนกว่าจงอินจะยอมรับชอคโกแลตในมือเธอไป จนในที่สุดคนที่ไม่ชอบของหวานแบบจงอินก็ต้องจำใจรับมันมา ด้วยเหตุผลที่ว่ากลัวอีกคนจะพลาดตกระเบียงไปจนเป็นเรื่องใหญ่ เขาไม่อยากรับผิดชอบอะไรทั้งนั้น ทุกวันนี้เขายิ่งพยายามไม่มีเรื่องจะได้จบพร้อมกับเพื่อนคนอื่นๆในปีนี้

    แต่ยิ่งพยายามวิ่งหนีเท่าไหร่ เรื่องวุ่นวายเหล่านั้นก็เอาแต่วิ่งเข้าหาเขาอยู่เรื่อยๆ

    “ทำอะไรน่ะคิมจงอิน”

    เสียงคุ้นหูของบุคคลที่น่าจะยืนอยู่หน้าห้องดังขึ้นมาใกล้ๆที่นั่ง จงอินรีบไล่คริสตัลไปแล้วหันกลับมาสนใจในห้องเรียนก่อนจะพบว่ามิสเตอร์ลีเดินมายืนอยู่ข้างโต๊ะเขาพร้อมกับจ้องที่ห่อชอคโกแลตในมือที่เอาไปซ่อนตอนนี้ก็คงไม่ทัน

    “แอบกินขนมในห้องอีกแล้วใช่มั้ย!

    จงอินมองตามห่อชอคโกแลตที่ถูกเอาไปวางลงบนโต๊ะหน้าห้องแล้วถอนหายใจออกมา อยากจะอธิบายให้ครูทราบแต่ก็ไม่อยากให้เป็นเรื่องใหญ่ ทำไมยัยคริสตัลถึงได้ชอบหาเรื่องมาให้เขาลำบากอยู่ได้นะ ทำไมๆ เขาไม่เข้าใจจริงๆ

     

     

     

    “ไอรีนฝากเอานี่ไปส่งที่ห้องพักครูหน่อยสิ”

    แทฮยองหัวหน้าห้องเดินมาบอกแล้ววางชีทกองใหญ่ทิ้งไว้บนโต๊ะของเธอก่อนจะหายหัวไปจากห้องทันที ไอรีนถอนหายใจอย่างเซ็งๆแต่ก็ทำไรไม่ได้ ขืนไม่เอาไปให้ตามที่บอกมีหวังโดนหมอนั่นตามด่าไม่เลิกแน่ๆ

    “อ่ะ วางนี้เลยขอบใจมากนะจ๊ะ”

    ไอรีนวางกองชีทลงตรงโต๊ะข้างๆของมิสปาร์คก่อนจะก้มหัวขอตัวออกจากห้องพักครู ขาทั้งสองก้าวเดินไม่กี่ก้าวก็หยุดลงเมื่อบังเอิญหันไปเห็นใครบางคนกำลังยืนอยู่ที่โต๊ะครูข้างใน

    “อ่ะ..เห็นแก่ที่ว่าช่วงนี้ตั้งใจเรียน ทีหลังก็อย่าแอบกินในห้องอีกล่ะ”

    “ขอบคุณมากครับ”

    จงอินหรือใครบางคนที่ไอรีนว่ากล่าวขอบคุณครูผู้ชายที่ดูไม่น่าจะใจดีเท่าไหร่ ภาพที่เห็นตรงหน้าไม่ได้พิเศษอะไร มันเป็นภาพเด็กนักเรียนชายคนนึงที่ก้มมองห่อขนมเล็กๆสีฟ้าที่เธอดันจำได้ติดตา ก็แค่เหตุการณ์ที่พบเห็นได้ทั่วๆไป แต่ทว่าเธอกลับ

    รู้สึกเจ็บ..

    “ฉันไม่ชอบคนที่เด็กกว่าน่ะ”

    ทำไมมันถึงเจ็บแบบนี้ ..ไหนเขาบอกไม่ชอบคนที่เด็กกว่าไง .. แล้วทำไม...

    ไอรีนบังคับตัวเองให้เลิกมองก่อนจะรีบก้มหน้าวิ่งออกจากห้องพักครูไป ตาทั้งสองข้างรู้สึกพร่ามัวด้วยหยาดน้ำตาที่ตีตื้นขึ้นมา ไม่ได้กะจะร้องไห้แท้ๆแต่พอคิดย้อนไปแล้วก็รู้สึกสมเพชตัวเองมากกว่า

     

    พลั่ก!

    เพราะมัวแต่ก้มหน้าก้มตาวิ่งออกมาไม่สนใจอะไรจึงชนเข้ากับอีกคนที่กำลังเดินมาตรงมุมตึกพอดี

    ไอรีนรีบยกมือขึ้นเช็ดน้ำตาก่อนจะก้มหัวปะหลกๆขอโทษ เห็นอีกฝ่ายไม่ได้พูดอะไรออกมาเลยสงสัยค่อยๆเงยหน้าไล่สายตาขึ้นมา

    รองเท้านักเรียนถูกระเบียบ..กางเกงสแลคเข้ารูป..เสื้อสูทที่รีดเนี๊ยบ

    และเข็มประธานนักเรียนที่ปักอยู่ด้านขวา

    อ่า.. ทำไมต้องมาเจอตอนนี้ด้วยนะ

    ไอรีนคิดในใจก่อนจะรีบก้มหน้าเดินหลีกทางไป ที่จริงเธอน่าจะวิ่งไปเลยมากกว่าแค่เดินออกมา เพราะมันทำให้อีกฝ่ายสามารถคว้าแขนเธอเอาไว้ได้ทันแบบในตอนนี้

    ชานยอลจับแขนของเธอไว้ก่อนจะออกแรงดึงนิดเดียวก็ทำให้คนตัวเล็กหันมาหาเขาได้ ไอรีนที่ยังตาแดงอยู่เล็กน้อยรีบเบนหน้าหลบสายตาคนตัวสูงที่ยืนมองเธอด้วยสีหน้านิ่งเหมือนที่เธอเคยได้รับมาในวันนั้น

    “...”

    “...”

    ต่างพากันเงียบ จนในที่สุดไอรีนก็ทนไม่ไหวเงยหน้าขึ้นถามอีกคนที่เอาแต่ยืนมองไม่ยอมพูดจา

    “รุ่นพี่มีอะไรรึเปล่าคะ”

    ชานยอลแค่นหัวเราะออกมา น้ำเสียงแข็งกร้าวแตกต่างจากในวันนั้นลิบลับทำให้เขารู้สึกไม่พอใจ ยิ่งพอนึกถึงฉากเมื่อตอนกลางวันนั้นด้วยแล้วเขาก็ยิ่งรู้สึกหงุดหงิดขึ้นไปอีก

    “ถ้ารุ่นพี่ไม่มีอะไรก็ปล่อยด้วยค่ะ ฉันต้องรีบกลับบ้าน” ไอรีนพูดต่อเมื่อเห็นว่าชานยอลเอาแต่จ้องหน้าเธอไม่ยอมพูดจา ถึงแม้ว่าสีหน้าเขาจะดูจริงจังขึ้นกว่าในตอนแรกก็ตาม

    “เป็นรุ่นน้องแท้ๆ ทำไมถึงไม่มีมารยาทแบบนี้” ชานยอลกำแขนอีกคนไว้แน่นแล้วต่อว่า

    ไอรีนสูดหายใจเข้าลึกเพื่อระงับอารมณ์ ถ้าเป็นปกติเธอคงจะยอมขอโทษให้จบๆไป แต่ไม่ใช่ตอนนี้ ไม่ใช่ตอนที่เธอกำลังอยู่ในช่วงอารมณ์นี้

    “ฉันไม่มีมารยาทยังไง?”

    เธอเงยหน้าขึ้นจ้องตาอีกคนอย่างไม่คิดถอย เอาสิ..เถียงต่อสิ เธอจะได้สอนให้เขารู้ซะมั่งว่าต่อให้เป็นประธานนักเรียนก็ไม่มีสิทธิ์มาหาเรื่องคนอื่นมั่วซั่วแบบนี้

    “เธอร้องไห้วิ่งมาชนฉัน พูดจาเสียงแข็งใส่ แถมยังไม่..”

    ไอรีนกำมือแน่น รู้สึกว่าเลือดเดือดปุดไปทั่วร่าง นี่เขาจะบอกว่าเธอไม่ยอมขอโทษงั้นเหรอ? แล้วไอ้ที่ก้มหัวเป็นตุ๊กตาคออ่อนเมื่อกี้มันอะไรกันเล่า!! คิดแล้วก็โมโหจนเธอเตรียมจะเถียงกลับเรื่องขอโทษนี้ซะจนไม่ทันได้สังเกตสีหน้าของอีกฝ่ายที่ตอนนี้มันดูออกไปทางเจ้าเล่ห์ซะมากกว่า

    “ไม่ยอมให้ชอคโกแลตฉันอีก”

    “ฉันก็ขอโทษแล้วไงรุ่นพี่จะ.. ห้ะ!เมื่อกี้พูดว่าไรนะ”

    ไอรีนเถียงเสียงดังก่อนจะตกใจถามอีกฝ่ายกลับด้วยเสียงที่ดังขึ้นกว่าเดิม เพราะคิดว่าอีกฝ่ายต้องว่าเรื่องไม่ยอมขอโทษเลยใส่อารมณ์เถียงกลับซะเต็มที่จนไม่ทันได้ฟังว่าคนตรงหน้าพูดอะไรออกมา

    ที่จริง..เธอก็พอจะได้ยินประโยคที่เขาพูดออกมานั่นแหละ แต่ไม่อยากจะเชื่อซักเท่าไหร่ ..ก็มันค่อนข้างจะ.. ซะขนาดนั้น

    ไอรีนมองหน้ารุ่นพี่ที่ตัวสูงกว่าเธออยู่หลายสิบเซน ไม่แน่ใจว่าเลือดที่ถูกสูบฉีดขึ้นมาทั่วใบหน้านี่เพราะว่าโกรธหรือว่าอะไร แต่รู้แน่ๆว่าตอนนี้หน้าของตัวเองคงแดงมากๆ และก็ลามมาจนถึงใบหูทั้งสองข้างด้วย

    “ไหนล่ะชอคโกแลตฉัน?”

    ชานยอลปล่อยมือที่กำแขนอีกฝ่ายไว้ออกก่อนจะเปลี่ยนเป็นแบฝ่ามือยื่นไปทวงอะไรซักอย่างจากไอรีนแทน หัวเราะเหอะออกมาในตอนที่เห็นเธอทำหน้าอึ้งๆเหมือนคนเห็นผี นี่เขาเผลอชอบคนแบบยัยนี้ไปได้ยังไงนะ

    “เงียบทำไมเล่า ไม่รู้จักชอคโกแลตไง” พอเห็นว่าไอรีนยังยืนเงียบไม่พูดจาเขาก็เลยกัดจิกร่างเล็กที่ยืนหน้าแดงเผยอปากเล็กน้อยเพราะตกใจไปอีกซักประโยค ล้วงกระเป๋ากางเกงตัวเองหยิบก้อนชอคโกแลตที่ได้จากรุ่นน้องปีหนึ่งออกมา ก่อนจะถือวิสาสะวางมันลงที่มือของอีกคน

    “เนี่ย แบบเนี่ยอ่ะ รู้จักมั้ย?”

    “ระ.. รู้จักสิ” ไอรีนที่ได้สติกลับคืนมาแล้วตอบตะกุกตะกักกลับไป มือเล็กพยายามแงะมือหนาของชานยอลที่จับมือเธอไว้ให้ออกไป

     

    ตึกตักตึกตัก

    เสียงหัวใจเต้นแรงอีกครั้งจนเธออดที่จะต่อว่ามันไม่ได้ที่ใจง่ายแบบนี้ อาทิตย์ก่อนยังเต้นตึกตักตึกตักตอนเจอรุ่นพี่จงอินอยู่เลย แล้วทำไมตอนนี้..

    “ถ้าลืมก็ไว้เอามาให้ฉันพรุ่งนี้”

    มันถึงต้องเต้นแรงจนแทบหลุดออกมาต่อหน้าคนคนนี้ด้วยนะ

    ไอรีนยืนมองแผ่นหลังของตัวต้นเหตุที่ทำให้เธอยืนสติหลุดอยู่แบบนี้ หลายๆครั้งที่คิดน้อยใจชีวิตที่ใจร้ายใส่มาตลอด จนกระทั่งไอ้ก้อนชอคโกแลตกลมๆนี้มาอยู่ในฝ่ามือ เธอก็พบว่า

    บางครั้งชีวิตก็ใจดีกับเธอเป็นเหมือนกัน..   

     

     

     

      

     

       


     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×