คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : ***เบื้องหลังหัวข้อ :: ครั้งแรกของชินจัง!?***
***เบื้องหลังหัวข้อ :: ครั้งแรกของชินจัง!?***
ณ สถานที่ถ่ายรายการ What’s up Show
ตอนนี้ก็เป็นเวลาอันสมควรแก่การมาให้ประจักษ์แก่สายตาของดาราหนุ่มที่พาพี่ชายมาด้วย (และประเด่นหลักอยู่ที่พี่ชายตัวดีของเขานั้นแหละ!!)
“ทำไมยังไม่มากันอีกนะ...”พิธีกรรับเชิญคนเดิมกล่าวถามลอยๆขึ้นมา
“ถ่ายช้านิดหน่อยไม่เป็นไรหรอกนะ ฉันไม่ว่าอะไรหรอก”ฉันรีบพูดขึ้นมาทันที
“อ๊ะ...มากันแล้ว”ยูริว่าพลางชี้ไปที่รถตู้คันหนึ่งที่กำลังขับเคลื่อนเข้ามาอย่างสโลว์โมชั่น
“ไปรับชินจังกัน”ยูริพูดก่อนจะดึงฉันไปที่รถคันนั้น
ไม่เอานะ ฉันไม่ได้กลัวไอ้คนที่ชื่อชินทาโร่นั้นหรอก...แต่ฉันจะจิตตกกับไอ้คนพี่มันมากกว่า
“ถ้าด้าเห็นแล้วด้าต้องชอบแน่ๆเลย...ชินจังน่ะ...”ไม่ทันที่ยูริจะพูดจบยูริก็ตกใจกับเรือนร่างเบื้องหน้าที่สูงกว่า (แหง่ล่ะไอ้พี่น้องคู่นี้มันแข่งกันสูง)
“!!”ชินทาโร่
“O[]O!!”ฉัน
“^[]^!!”ยูริ
“อ้าวพี่ยูริ มารับชินถึงที่เลยเหรอ~~~~ใจดีเหมือนเดิมเลย~~~~”นี่คือชินทาโร่จริงๆด้วยสินะ หน้าตาก็น่ารักโอเคดีอยู่นี่ แต่ประเด่นที่ทำให้ใจเต้นไม่เป็นจังหวะ (กลัวค่ะ ไม่ได้คิดรักเลยแม้แต่นิด) ในตอนนี้คือพี่ชายของเขาต่างหากล่ะ!! เขาจะมาด้วยมั้ยเนี่ย?? หวังว่าจะไม่บ้าจี้ตามมาหรอกนะ ขอล่ะนะ ขอล่ะ~~~
“แล้วเธอจะยืนสั่นอยู่นั่นอย่างเดียวหรือไงน่ะ”คุณชายชินหันมาเรียก
“ห่ะ อ๋อ...โทษที คิดอะไรเพลินไปหน่อยน่ะ”ฉันตอบก่อนจะก้าวเดินแต่ว่า...
“นี่ อย่าบอกนะว่ายืนรอฉันน่ะ”และแล้วเสียงคนที่เป็นประเด่นหลักในวันนี้ก็ดังขึ้นจากข้างหลังฉัน ฉันรู้สึกได้ว่าขนลุกวาบขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด
“หว้า~~~ อย่านะ อย่าทำฉันนะ!!”ฉันสะดุ้งโหย่งแล้วกระโดดออกมายืนขนานกับเขาพร้อมกับยกมือไหว้ด้วยอาการสั่นเครือ
“อะไรของเธอ ยัยบ๊องส์ตื้น ฉันไปก่อนนะ”ริวพูดปนขำ
“อ๊ะ..โทษทีๆ ไม่มีอะไรหรอก นายเข้าไปก่อนเลยก็ได้ เดี๋ยวฉันตามไปนะ”ฉันตอบก่อนจะหันหน้ามาครุ่นคิด
‘ทำไงดี ทำไงดี ฉันควรทำไงดีทีนี้ ฉันจะทำยังไงกับริวนั่นดี ตอนแรกก็คิดว่ามันจะไม่มา แต่มันก็มา ทำไงดีฉัน~~~~’
โมริโมโตะ ริวทาโร่ วันนี้ดูแปลกไปจริงๆแหละ สภาพยับเยิน ไร้วิญญาณในตอนนี้ ดวงตาบวมนิดๆ ถุงใต้ตาดำคล้ำ ผิวโดยเฉพาะบริเวณใบหน้าซีดเซียว หัวยุ่ง (นั่นมันทรงผมที่เขาเซ็ตมา) นั่งนิ่งเงียบอยู่ข้างหน้าต่าง ผิดจากครั้งที่แล้วที่มาออกจะร่าเริง วิ่งเล่นรอบสตูฯกับยูโตะ นั่งกินไอติมห้าแท่งภายในหนึ่งนาทีกับยามะ เล่นแองกรี้เบิร์ดกับยูริ นั่งเถียงเรื่องคอร์ดเบสกับเคย์โตะ นั่นคนเดียวกันจริงๆเหรอเนี่ย??
“นี่...ได้ยินที่ฉันบอกเธอมั้ยเนี่ย?”ยามาดะถามหลังจากที่ฉันเหม่อลอยจนเขาสงสัย
“ห่ะ....อ๋อ...คือ...เมื่อกี้นายว่าไงนะ”ฉันหันมาถาม
“เฮ้อ...ขอประชุมส่วนตัวหน่อยนะ...เดินตามฉันมา”เขาว่าก่อนจะพาเข้าไปคุยในห้องทำงานในมุมของฉันเอง
“มีอะไรเหรอ”ฉันถาม
“เธอช่วยตั้งใจทำงานกว่านี้หน่อยได้มั้ย อย่ามัวแต่สนใจไอ้ริวมันสิ”เขาว่าก่อนจะวางสคริปในมือไว้บนโต๊ะ
“ก็...ฉันไม่รู้จะทำยังไงดีนี่...หวังว่าเขาจะไม่ก่อการร้ายขึ้นมาหรอกนะ”
“ไม่มีทางหรอก เด็กคนนั้นน่ะ แต่ตอนนี้เธอควรจะสนใจเรื่องงานก่อนนะ อย่าคิดไปไกลเลย ไอ้เด็กนั้นก็คงจะแค่นั่งนิ่งเป็นรูปปั้นคนนั่งขี้ (นั่งคิด) หรืออาจจะร้องเพลงอุนตร้าแมนเดินเล่นรอบกองถ่าย แค่นั้นเอง อย่าคิดมากเลย”เขาย้ำเพื่อเตือนสติฉันอย่างเต็มที่
“อืม...นายไปรอได้เลย เดี๋ยวฉันไปให้พวกพี่ๆแต่งตัวให้เรียบร้อยก่อนนะ”ฉันบอกเขาก่อนจะยิ้มให้ยามาดะแล้วเขาก็เดินออกไปจากห้อง
[ระหว่างถ่ายรายการ]
“ไหนล่ะ ขอคุยด้วยหน่อยสิ”ยามาดะพูดอย่างรู้ทัน
“ถูกลมพัดไปแล้ว!!”
ฉันแก้ตัวเนียนๆพลางหันไปทางหน้าต่าง ในมุมนั้นสามารถหันไปเห็นด่านฟ้าได้ชัดเจนแจ่มแจ้งมากๆ ตอนนี้มีเงาของผู้ชายคนหนึ่งเดินออกจากประตูของบันไดชั้นด่านฟ้า เขาเดินออกมาช้าๆ ในตอนนี้ฉันรู้ได้เลยว่าเป็นใครเพราะเมื่อมองไปทางหน้าต่างที่ริวนั่งอยู่ ตอนนี้มันไม่เหลือเงาของคนเลย เขาหายไป...อย่างนี้มันบอกได้แค่อย่างเดียวคือ...เขาคือคนบนด่านฟ้า!!
“Heerล่ะ...!!” ฉันว่าก่อนจะรีบวิ่งออกจากรายการกะทันหันทำให้ทุกคนหันมาสนใจฉันเป็นตาเดียว
“เฮ้ยๆ จะไปไหนน่ะ!!” เสียงหนึ่งดังขึ้นถาม (ก็ยามาดะแหละ)
“ด่านฟ้า!!” ฉันตอบขณะวิ่งตุบๆตับๆไปที่ด่านฟ้า
“เฮ้ย!! Heer จริงด้วย!!” ยามาดะอุทานก่อนจะวิ่งตามฉันมา
~ด่านฟ้า~
ตั้งแต่ซื้อมันมาฉันยังขึ้นมาบนนี้ไม่บ่อยเลยนะ...นายคิดจะเดินขึ้นมาดื้อๆเลยเนี่ยนะ ลมก็แรง สูงก็สูง ฉันเข้าใจเหมือนกันว่าอาคารสองชั้นมันทำไมได้มีชั้นด่านฟ้าที่มองลงมาหาพื้นแล้วใจจะวายทุกที แบบว่ามันสูงอ่ะ
“ริว...นายใจเย็นๆก่อนนะ มีอะไรก็ค่อยๆพูดกันก็ได้...”ฉันใช่ประโยคเดิมๆมาพูด
“ไม่...เธอไม่เข้าใจ ใครก็ไม่เข้าใจฉันหรอก!!”เขาหันมาตอบเสียงดัง
“นี่...นายคิดว่าไม่มีใครรักนายแล้วหรือไง? นายบ้าหรือเปล่า?”ฉันตะโกนถามเสียงดัง
“ใช่...ฉันมันบ้า โคตรบ้าด้วยตอนเนี่ย”เขาตอบ
“แน่จริงพี่ก็โดดลงไปเลยดิ”เสียงน้องชายของเขาพูดด้วยเสียงเรียบ
“!!”ฉันหันไปมองอย่างตกใจกับไอ้น้องชายของเขา
“นายไม่กล้านี่...”เขาลากเสียงยาวอย่างเย้ยหยัน
“ชิน...”ฉันเรียกเขาพร้อมกับเขย่าแขนของเขาเพื่อเตือนสติ
“ถ้าพี่ไม่กล้า แล้วจะไปยืนตรงนั้นทำไม? ไร้สาระ ไม่มีเหตุผล สมเป็นพี่จริงๆเลย”เขาว่าอีก นี่พี่น้องคู่นี้มันยังไงว่ะเนี่ย??
“แกมันเป็นลูกรักของพ่อแม่แล้วนิ ตอนนี้แกทำเงินได้เยอะเลยนิ ไม่เหมือนฉัน ฉันทำให้ทุกคนอับอาย”ริวพูดพลางน้ำตาไหล
“นายมันขี้ขลาด”คนน้องก็ยุอยู่นั้นแหละ
“ก็นายไม่เข้าใจ”
“ถ้าอยากให้เข้าใจก็อย่าตายเดะ!!”คนน้องตอบเสียงดังก่อนฉันจะให้ยามาดะไปลากคอริวลงมา
“ไอ้เด็กโง่ ถึงกระโดดลงไปก็ไม่ตายหรอกน่ะ”ยามาดะบ่นขณะดึงคอของริวลงมา
“ริว...ฉันอาจช่วยอะไรไม่ได้มาก แต่ฉันก็จะพยายามช่วยนาย ปิดเทอมนี้ฉันขอไปค้างบ้านนายนะ ตอนนี้ฉันต้องขอเบอร์นายไว้ก่อนด้วย เพราะฉันจะได้โทร.ถามได้ทุกเวลา”ฉันว่า
“ทำเหมือนเธอทำได้งั้นแหละ”คนน้องพูดก่อนจะเดินกลับไปยังห้องส่ง
“ฉันต้องทำได้สิ ฉันจะทำให้ได้”
ฉันว่าพลางมองคนทั้งหมด ฉันไม่เคยช่วยใครเขาหรอก แต่ตอนนี้ฉันอยากช่วยเขามากๆ มันเป็นปัญหาระดับประเทศที่พบเจอกันบ่อยมากๆ ฉันไม่อยากให้มันเกิดกับคนอัชฌาสัยดี มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ (ยักกะคำขวัญวันเด็กซ่ะอย่างนั้น =[]=) อย่างเขาหรอก
“เธอมั่นใจแค่ไหนล่ะ ถ้าทำได้เธอก็หวังอะไรตอบแทนด้วยสิท่า”ยามาดะว่ากวนๆ
“ไม่ตลกนะ!! ฉันเอาจริงแน่ๆ นายเชื่อฉันสิ”
“ก็ไม่ใช่ไม่เชื่อ แต่ไม่แน่ใจน่ะ”เขาบ่นก่อนจะเดินกลับห้องส่ง
“ถ้านายไม่แน่ใจก็เรื่องของนายสิ!!”ฉันตะโกนตามหลังเขาไป
“ไปถ่ายรายการต่อได้แล้วนะ เดี๋ยวจะถ่ายเสร็จช้าต้องมาถ่ายซ้อมกันอีกนะ”พี่ช่างกล้องเดินมาบอกก่อนจะเดินจากไป แล้วทุกคนก็ประจำตำแหน่งอย่างเดิมและถ่ายทำต่อ
“เฮ้อ~ เมื่อกี้ถึงไหนแล้วนะค่ะ...”ฉันพูดเรื่องต่อไปอย่างต่อเนื่อง
และเพราะรายการของเรามีช่างตัวต่อชั้น D (ชัดๆเลยว่าชัด ‘D’ ไม่ใช่ชั้น ‘ดี’) เลยสามารถตัดต่อได้อย่างแนบเนียนสุดๆ แบบว่าถ้าดูผ่านๆน่ะ ไม่รู้กันหรอก แต่ถ้าดูหลายรอบแล้วอาจจะเห็นจุดต่างก็ได้นะ แต่คงต้องดูบ่อยหน่อยถึงจะเห็นได้น่ะ
[**หลังถ่ายรายการเสร็จ**]
“เอ่อ นี่...ริว ฉันขอเบอร์นายหน่อยดิ”ฉันบอก
“อะไรน่ะ อะไรๆๆๆๆๆๆๆๆๆ เจอกันสองครั้งก็ขอเบอร์แล้ว ครั้งที่สี่ไม่ได้ขอเป็นแฟนเลยหรือไงน่ะ??”ยามาดะ
“หุบปากไปเลยนะนาย นั่งเห่าบางเวลาแล้วเงียบบางเวลาก็ไม่เป็นไรหรอกนะ”ฉันบอกเขา
“เฮ้ย!! นั่นมันหมานี่”เขาพูดหลังจากที่คิดอยู่สักพัก
“ขอมือหน่อยสิ”ฉันบอก และเขาก็ทำตามอย่างเชื่องแสนเชื่อง
“อ่ะ”<<<ยื่นมือให้
“555+ เด็กดีนี่เรา น่าเอาไปเฝ้าบ้านมากกว่ามาหอนร้องเพลงให้ใครเขาฟังนะเนี่ย~~~~”แล้วฉันก็เดินหนีจากเขาทันที ก่อนที่เขาจะนึกความย้อนอดีตชาติได้ว่าฉันหมายถึงอะไร ทำตัวยักกะคอมฯรุ่นที่มีเกมส์แบล็กแมนซ่ะอย่างนั้น (***มันเก่ามากๆค่ะ รุ่นที่เขาเอาวางนอนแล้วเอาจอคอมว่าทับได้อ่ะค่ะ ^^)
“เฮ้ย~~~~หยุดเดี๋ยวนี้นะยัยตัวแสบ!!”เขาว่าก่อนจะเริ่มวิ่งตามซึ่งทำให้ฉันต้องออกวิ่งเช่นกัน
“555+ นายวิ่งเร็วดีจัง สงสัยเจ้านายจะฝึกมาดี วิ่งเร็วขนาดนี้เคยจับผู้ร้ายมาก่อนป่ะเนี่ย? เอ๊ะ หรือว่านายเคยเป็นผู้ร้ายมาก่อนกันแน่นะ 555”ฉันระเบิดหัวเราะออกมาทั่วก่อนถ่ายซึ่งกำลังเก็บข้าวของอยู่ คนรอบข้างก็นั่งหัวเราะกับการเล่นของฉันที่ดูจะสนุกมากๆและยังการปล่อยมุขยั่วยามะอีก
“ถ้าฉันเลือกได้...ฉันก็อยากเป็นอย่างเธอเหมือนกันแหละ...ไม่เคยคิดอะไรให้มันมากความ แค่นึกถึงสิ่งที่ต้องการก็พอ... ทำเหมือนโลกหมุนรอบเรา ไม่ใช่เราหมุนรอบโลก”เสียงชายหนุ่มผู้เคยผิดพลาดพูดบ่นขึ้นมากับตัวเองพร้อมกับมองภาพเด็กผู้หญิงที่วิ่งเล่นอย่างมีความสุขกับคนสนิทของเธอ เธอยิ้มและหัวเราะอยู่เสมอ เธอไม่เคยจะเผยใบหน้าที่เคร่งเครียดให้ใครเห็นนัก นั่นเป็นสิ่งที่เขาคิดไว้...
**** กล่าวถึงชายริวด้วยเนอะ แบบว่าเดี๋ยวก็หักเหอะไรงี้ รอหน่อยนะ -/|\-
ความคิดเห็น