คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : ปะทะ
“กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด ฉันสอบได้ หยอยฉันได้คณะวิทยาศาสตร์ ” ฉัน “แก้วนารา” กำลังมีความสุขที่สุดเลย เพราะฉันกำลังจะก้าวเข้าไปสู้รั้วมหาวิทยาลัยที่ฉันใฝ่ฝัน กับคณะวิทยาศาสตร์สาขาคอมพิวเตอร์ ในมหาวิทยาลัยชื่อดัง
“กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด แกฉันสอบได้เหมือนกัน คณะเดียวกับแกเลย” ยายที่กำลังกรี๊ดเสียงดังไม่น้อยไปกว่าฉันชื่อ “หยอย” จริงๆแล้วชื่อ “ฝน” ก็เพราะทรงผมอันทรงเสน่ห์ของเพื่อนฉันที่แสนจะยุ่งเหยิงยิ่งกว่ารังนกมาทำรังทิ้งไว้ ทำให้ได้รับฉายาจากเพื่อนๆว่า “หยอย” เพื่อนคนนี้เป็นเพื่อนที่สนิทที่สุดในชีวิตฉัน คบกันมาตั้งแต่สมัยอนุบาล
“เฮ้ย จริงง่ะ ดีเลย ว้าอย่างนี้ก็ต้องทนเห็นหน้ากันอีก 4 ปีนะสิ เบื่อๆๆๆๆๆๆ” ฉันแกล้งพูด
“ช่วยไม่ได้สงสัยชาติที่แล้วเราคงทำกรรมร่วมกันมา ทำให้เราสองคนต้องทนเห็นหน้ากันทุกวันมาตั้ง 15 ปี อิอิ ดีล่ะฉันจะเป็นเงาตามแกไปตลอดชาติเลย” หยอยพูดด้วยน้ำเสียงที่เริงร่า
“เออ......เฮ้ยโทรบอกแม่ก่อนว่าสอบได้นะ”จากนั้นฉันก็รีบกดเบอร์โทรศัพท์ที่แสนคุ้นเคยอย่างรวดเร็ว
“ฮัลโล...แม่จ๊ะ แก้วสอบได้แล้วนะแม่”
“ดีใจด้วยลูก แม่ภาคภูมิใจในตัวลูกจริงๆนะ แล้วเมื่อไหร่ลูกจะได้กลับมาที่กรุงเทพล่ะ เราจะได้ไปฉลองกัน” คนเป็นแม่พูดด้วยน้ำเสียงที่ปลื้มและดีใจ
“คงต้องเป็นตอนปิดเทอมล่ะแม่ เพราะหลังจากนี้ไปแก้วจะยุ่งสุดๆเลย ไหนต้องไปตรวจสุขภาพ สอบสัมภาษณ์ รับน้องอีก โอ๊ย กิจกรรมเพีบยเลยอ่ะแม่” ฉันพูดด้วยความเร็วสุดฤทธิ์
“ไม่เป็นไรจ้า แม่เข้าใจ ยังไงรักษาเนื้อรักษาตัว กินข่าวให้มันเยอะๆหน่อยนะ แม่เป็นห่วง”
“จ้าแม่ แค่นี้ก่อนนะแม่ คิดถึงและรักแม่เหมือนเคยนะแล้วแก้วจะโทรมาอีก”
“จ๊ะลูก”
วันรุ่งขึ้นหลังจากที่ฉันและหยอยไปตรวจสุขภาพเสร็จก็ต้องรีบไปสอบสัมภาษณ์ให้ทันก่อนบ่ายโมง มหาวิทยาลัยที่ฉันสอบได้ เป็นมหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งภาคเหนือ ใครๆก็อยากจะมาเรียนที่นี่กันทั้งนั้น ใกล้ภูเขา อยู่ในเมือง แถมรุ่นพี่ก็ยังหล่อๆด้วย เฮ้ย....นี่ฉันกำลังคิดอะไรอยู่ว่ะเนี๊ย
“เฮ้ย แก้วแกได้สอบสัมภาษณ์ห้องไหนง่ะ” หยอยถามฉัน
“ห้อง18 อาคาร 1 นะ”
“คนล่ะห้อง คนล่ะตึกเลยง่ะ เอางี้เดี๋ยวถ้าแกสอบสัมภาษณ์เสร็จ เรานัดกันเจอตรงนี้แล้วกันนะ”
“อืม ได้ถ้าไม่เจอก็โทรหาแล้วกัน” ฉันพูดเสร็จก็แยกไปยังอาคารที่ฉันต้องสอบสัมภาษณ์ ในระหว่างที่ฉันเดินๆอยู่กำลังคิดว่า คณระกรรมการจะถามว่าอะไรบ้างน้า ทันใดนั้นฉันรู้สึกเหมือนเดินชนใครบางคน
“โอ๊ย”/ “....”
“นี่เดินยังไง ไม่เห็นเหรอว่าคนเดินอยู่นะ หัดมองบางสิ ตาก็ไม่ได้บอดนิ แล้วนี่เสื้อฉันเปียกหมดเลย” “ภัครพล” หรือ “พล” เดือนคณะวิทยาศาสตร์ปีที่แล้วพูดด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด
เฮ้ย นายนี่เป็นใครง่ะ จูจู่ก็มาว่าเราเป็นชุดๆเลย ฉันบ่นในใจโดยยังไม่ได้เห็นหน้า เพราะมัวแต่ก้มเก็บแฟ้มอยู่ หลังจากที่เก็บเสร็จก็เงยหน้าขึ้น โอ้โห้ ใครเนี๊ยหล่อชะมัด ตัวสูง ผิวขาว ดูดีไปหมดแต่.....
“นี่ยัยแว่น ไม่คิดจะขอโทษเลยเหรอ ขอโทษนะเป็นป่าว”
“นี่พี่เดินชนฉันก่อนนะ ฉันเดินมาของฉันดีๆและอีกอย่างฉันไม่ใช่ชื่อยัยแว่นด้วย” ความคิดของฉันเมื่อครู่นี่ดับวู๊บลง เพราะคำพูดที่ฟังไม่เข้าหูของรุ่นพี่คนนี้พูดใส่หน้าฉัน
“นี่ยัยแว่น เธอนั่นแหละที่เป็นคนผิด ดังนั้นเธอต้องขอโทษฉัน” รุ่นพี่คนนี้พูดด้วยน้ำเสียงที่ฟังๆดูเริ่มมีน้ำโหแล้ว
“ไม่ ฉันไม่ขอโทษ เพราะฉันไม่ได้เป็นคนผิด พี่เดินชนฉันเอง” ฉันพูดด้วยน้ำเสียงที่เด็ดขาดและเชิดหน้าใส่รุ่นพี่ขี๊เก๊ก ปากเสีย คนนี้ด้วย และทันใดนั้นฉันก็เพิ่งนึกขึ้นมาได้
“เฮ้ย กี่โมงแล้วเนี๊ย แย่แล้วอีก 10 นาที ไม่ทันแล้วววววววว” จากนั้นฉันก็รีบวิ่งออกไปจากเหตุการณ์นั้นอย่างรวดเร็ว
“นี่ยัยแว่น เดี๋ยวสิ เธอยังไม่ได้ขอโทษฉันเลย อย่าให้เจอนะ ยังไงเธอก็ต้องขอโทษฉัน โว๊ย เสื้อเปียกหมด” พลพูดด้วยน้ำเสียงที่เสียงดังและหงุดหงิด ฝากไว้ก่อนงานนี้ต้องมีเอาคืนแน่
ความคิดเห็น