ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    บรรเลงรักจากหัวใจ

    ลำดับตอนที่ #1 : เหตุการณ์ไม่คาดฝัน

    • อัปเดตล่าสุด 28 ธ.ค. 49


    ตอน 1
    "เหตุการณ์ไม่คาดฝัน"



    นางแบบสาวสวยหุ่นเพรียวที่เพียงงานเดินแบบงานแรกก็สามารถทำให้เธอกลายเป็นดาวเด่นประดับอยู่บนท็อปเท็นซูเปอร์โมเดลได้

    น้ำหนึ่งคือนางแบบสาวคนนั้น ในเวลาว่างเช่นนี้ เธอมักจะมาเดินช็อปปิ้งกับเพื่อนสาวเสมอ แต่วันนี้เพื่อนซี้ไม่ว่าง เธอจึงต้องเดินอยู่คนเดียวกลางห้างหรูย่านสยาม เมืองที่การจราจรและผู้คนคับคั่งตลอดทั้งวัน

    รวิช... ชายหนุ่มที่จัดว่าเป็นผู้ชายหน้าตาดี และได้รับการโหวตจากนิตยสารผู้หญิงว่าเป็นชายหนุ่มรูปงามที่มีคารมคมคายดีที่สุด แม้เขาจะเป็นคนที่หน้าตาดี แต่ก็มีนิสัยเจ้าชู้เฉกเช่นชายหัวงูทั่วไป

    "ไงเจน" รวิชพูดขึ้นและเดินเข้ามาสัมผัสบั้นท้ายของหญิงสาวพร้อมกับประทับรอยจูบลงบนปากบางอย่างรวดเร็วโดยนึกว่าเป็นแฟนสาว

    น้ำหนึ่งได้แต่นิ่งอื้งทำอะไรไม่ถูกนอกจากกรี๊ดเสียงดังลั่นห้างทันทีที่ริมฝีปากหนาผละออก

    รวิชเองก็ดูจะอึ้งไม่แพ้กันเมื่อพบว่าไม่ใช่แฟนสาวของตน "อุ้ย!! ขอโทษครับ" เขากล่าวขอโทษขอโพยเป็นการใหญ่ แต่แล้ว เขาก็ต้องชะงักไป เมื่อพบว่าหญิงสาวผู้นั้นคือน้ำหนึ่ง นางแบบที่กำลังฮอตสุดๆอยู่ในขณะนี้

    แม้น้ำหนึ่งจะเป็นนางแบบแถวหน้า แต่เธอก็มิได้มีปากจัดอย่างนางแบบรุ่นพี่อีกหลายๆคน ในความคิดของรวิช เธอออกจะดูเรียบร้อยเกินไปด้วยซ้ำกับอาชีพในวงการบันเทิงเช่นนี้

    "คุณ..." น้ำหนึ่งอ้าปากกำลังจะต่อว่าก็ถูกรวิชดึงให้เดินหนีออกจากบริเวณนั้น เพราะชายหนุ่มสังเกตได้ถึงการเป็นจุดสนใจ

    "โอ้โหแฮะ วันนี้ได้จูบกับนางแบบซะด้วย แจ๊คพ็อตๆ" รวิชหัวเราะร่วนเมื่ออยู่ในลิฟส์สองต่อสองกับนางแบบสาว

    "คุณมันแย่ที่สุด!!" น้ำหนึ่งถลึงตาใส่ชายหนุ่ม และยกมือขึ้นหมายจะทำร้าย

    "อ๊ะๆ อย่านะ ผมก็ขอโทษไปแล้วไง ถือซะว่าทำบุญทำทานแล้วกัน" ก่อนที่น้ำหนึ่งจะทันต่อว่าอะไร ประตูลิฟท์ก็เปิดออก น้ำหนึ่งรีบก้าวออกจากลิฟท์ด้วยความโมโหที่ไม่อาจทำอะไรชายหนุ่มได้ ตรงกันข้ามกับชายหนุ่มที่ยิ้มออกมาด้วยความพอใจกับเหตุการณ์ไม่คาดฝันเมื่อครู่

     

    "เป็นอะไรมาจ๊ะน้ำ" แพรัมภาผู้เป็นรูมเมทและเพื่อนรักคนเดียวของน้ำหนึ่งเอ่ยถามขึ้นเมื่อเห็นเพื่อนรักเปิดประตูเข้ามาในห้องด้วยสีหน้าบูดบึ้ง

    "เปล่าหรอกแพร" น้ำหนึ่งรู้สึกอับอายเกินกว่าจะเล่าเรื่องบัดสีบันเถลิงให้เพื่อนนางแบบฟัง "แล้ววันนี้แพรไม่ถ่ายแบบหรอ"

    "ไม่มีจะ วันนี้ฟรี" แพรัมภายิ้มให้กับวันหยุดที่หาได้ยากยิ่งกว่าน้ำมันเสียอีกเพราะตัวเธอนั้นนอกจากจะมีงานถ่ายแบบแล้ว ยังมีละครที่กำลัง on air ด้วย

    "โห ดีจังนะ เดี๋ยวน้ำต้องออกไปอีกแล้วเนี่ย"

    "เอาน่าๆ แล้วไว้ไปเที่ยวต่างจังหวัดกัน" แพรัมภาพูดจบก็หายเข้าไปในห้องตน

    น้ำหนึ่งและแพรัมภาเป็นเพื่อนรักกันมาตั้งแต่สมัยมัธยม เป็นเพราะหน้าตาที่สระสวยของคนทั้งคู่ ทำให้เธอทั้งสองก้าวเข้าสู่วงการบันเทิง โดยน้ำหนึ่งมีใบหน้าที่คมสวย ดวงตาโตสีน้ำตาลรับกับปากสีแดงอวบอิ่มและรูปร่างผอมเพรียว ส่วนแพรัมภาจะออกไปทางหมวยๆ หากแต่รูปร่างไม่ต่างกันเท่าไรนัก

    "น้ำ วันนี้แพรอาจกลับดึกหน่อยนะ แพรจะไปเฝ้าร้าน"

    'ร้าน' ที่แพรัมภาพูดถึง คือร้านอาหารที่แพรัมภาและน้ำหนึ่งร่วมทุนกันเปิด

    "จ้า" น้ำหนึ่งขานรับก่อนจะล้มตัวลงนอนบนโซฟาอย่างเหนื่อยอ่อน

     

    "หวัดดีค่ะพี่ติ๋ม" น้ำหนึ่งยกมือไหว้ 'ติ๋ม หนืดมณี' ช่างแต่งหน้ากระเทยไฮโซของวงการบันเทิงอย่างนอบน้อม

    "อ้าวน้องน้ำ ทำไมรีบมาจังล่ะคะ พี่นัดตั้ง 3 ทุ่ม" หนืดมณีก้มลงมองนาฬิกาสีแดงที่ดูขัดกับกางเกงขาเด๊ปสีเขียวและเสื้อยืดรัดติ้วสีเหลือง

    "พอดีน้ำว่างน่ะค่ะ"

    "งั้นแต่งหน้าเลยมั้ยคะ"

    "ค่ะ" น้ำหนึ่งตอบและนั่งลงบนเก้าอี้หน้าโต๊ะแต่งตัว

     

    ร่างสูงโปร่งกำลังกอดรัดฟัดนัวเนียอยู่กับสาวร่างบางหากแต่อวบอิ่มคนหนึ่ง

    "พอได้แล้วค่ะวิช เจนต้องไปถ่ายแบบต่อนะ" เจนจิราพยายามลุกขึ้นจากตักของชายหนุ่ม แต่เขาดึงเธอกลับลงมานั่งบนตักดังเดิม

    "อีกแปบนึงสิ" รวิชซุกลงกับอกขาวที่ปิดไว้ด้วยเพียงเสื้อสายเดี่ยวตัวเล็กๆเท่านั้น

    "พอได้แล้วค่ะวิช" หญิงสาวพยายามปราม แต่ชายหนุ่มกลับยิ่งรุกมากขึ้น ลิ้นหนาของเขาเริ่มลุกล้ำเข้าไปในปากอิ่มของเธอ และเธอก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี มือของเขาลูบไล้ไปตามความยามของเรียวขาสวย

    เมื่อเจนจิราเคลิบเคลิ้มตาม รวิชก็ผละออกและบอกให้เธอแต่งตัวให้เรียบร้อยเพื่อเตรียมตัวไปถ่ายแบบ

     

    "ดีจังเลยค่ะพี่ติ๋ม ถ่ายคู่จะได้ไม่ซ้ำซาก" เจนจิรายิ้มร่าเมื่อหนืดมณีบอกว่าการถ่ายแบบครั้งนี้จะมีเพื่อนนางแบบอีกคนมาถ่ายด้วย "ใครกันคะพี่ติ๋ม"

    "น้องน้ำค่ะ" พอหนืดมณีพูดจบ น้ำหนึ่งก็เดินออกมาจากห้องน้ำพอดี

    "พี่ติ๋มคะ ห้องน้ำใช้ไม่ได้หรอคะ" น้ำหนึ่งถามขึ้น "หวัดดีค่ะ" เธอหันไปทักทายเพื่อนนางแบบและยิ้มให้อย่างเป็นมิตร

    "ค่ะ ต้องลงไปชั้นล่างค่ะ" ทันทีที่หนืดมณีพูดจบ น้ำหนึ่งก็ส่งยิ้มหวานให้คนทั้งสองแล้วรีบวิ่งลงลิฟท์ไป

    "น้ำหนึ่งคนนี้ใช่มั้ยคะ" เจนจิราถามหนืดมณี

    "ใช่ค่ะน้องเจน"

    "น่ารักจังเลยค่ะ" เจนจิราเอ่ยปากชมอย่างจริงใจ

     

    รวิชที่พึ่งจอดรถเสร็จและเดินไปกดลิฟท์ เมื่อลิฟท์เปิดออก ชายหนุ่มก็โดนชนเข้าอย่างจัง

    "อุ๊ย!! ขอโทษค่ะ" เมื่อน้ำหนึ่งเงยหน้าขึ้นมองผู้เคราะห์ร้าย เธอก็ต้องตกใจเมื่อพบว่าเขาคือชายหนุ่มคนเมื่อตอนบ่าย

    "อ้าว คุณน่ะเอง นี่ติดใจผมขนาดตามมาถึงนี่เลยหรอเนี่ย" รวิชพูดจายียวนก่อนจะโอบเอวร่างบางที่มีเรี่ยวแรงเพียงน้อยนิดกลับเข้าไปในลิฟท์

    "คุณ!! ปล่อยฉันนะ" น้ำหนึ่งพยายามร้องเสียงดังให้คนช่วย แต่ลิฟท์ได้ปิดลงเสียก่อน

    "มาต่อเมื่อตอนบ่ายให้จบเถอะน่า" เขายิ้มกรุ้มกริ่มและผลักหญิงสาวไปติดกำแพงลิฟท์ พอดีกับประตูลิฟท์ที่เปิดออก เธอจึงผลักเขาออกได้สำเร็จและพุ่งออกจากลิฟท์ทันที

    "อ้าววิช เจนกำลังจะไปตามคุณอยู่พอดีเลยค่ะ" เจนจิรายิ้มหวานเดินควงรวิชเข้าไปในห้องถ่ายแบบ "คราวนี้ถ่ายแบบคู่แหละค่ะวิช เดี๋ยวเจนจะแนะนำให้รู้จัก"

     

    "น้ำคะ" เจนจิราสะกิดที่หัวไหล่น้ำหนึ่งเบาๆ

    "คะ?" น้ำหนึ่งหันมาหาเจนจิราก็สังเกตเห็นคนที่ยืนอยู่ข้างๆ

    "นี่น้ำค่ะวิช ส่วนนี่วิชค่ะน้ำ หวานใจเจนเอง" เจนจิราพูดเขินๆ แต่น้ำหนึ่งได้แต่ส่งยิ้มแห้งๆให้

    "ยินดีที่ได้รู้จักนะครับ... น้ำ" รวิชพูดอย่างสุภาพทำทีเป็นพึ่งรู้จักกัน หากแต่ดวงตาคมกลับจับจ้องอยู่ที่ใบหน้าสวยนั้นไม่วางตา

    "ชะเช่นกันค่ะ" น้ำหนึ่งตอบไปตามมรรยาท เพราะไม่คิดว่ารวิชจะเปลี่ยนไปเหมือนคนละคนขนาดนี้

    "น้องเจนน้องน้ำ เข้าฉากได้แล้วค่า" หนืดมณีตะโกนเรียกเสียงแหบ

    เจนจิราบรรจงหอมแก้มแฟนหนุ่มก่อนจะรีบเดินตามน้ำหนึ่งไป

     

    "เจนไปเปลี่ยนชุดแปบนึงนะคะวิช วิชรอเจนด้วยนะ" เจนจิรารีบวิ่งไปเปลี่ยนเสื้อผ้า ทีมงานคนอื่นก็ไปพักกันเตรียมถ่ายนางแบบคนอื่นต่อ ดังนั้นในห้องถ่ายจึงมีเพียงน้ำหนึ่งและรวิช

    "น้ำหนึ่ง คุณสวยถูกใจผมจริงๆ" รวิชเดินเข้ามาใกล้และก้มลงกระซิบที่ข้างหูน้ำหนึ่งเบาๆ

    คำพูดของรวิชทำให้เธอผงะไป เพราะเธอไม่เคยเจอผู้ชายเจ้าชู้ออกนอกหน้าขนาดนี้มาก่อน

    "วิชคะ ไปกันเถอะค่ะ" เจนจิราที่เปลี่ยนชุดเรียบร้อยแล้วเดินมาอยู่ข้างๆรวิช "ไปก่อนนะน้ำ" เธอยิ้มให้น้ำหนึ่งอย่างเป็นมิตรแล้วเดินควงรวิชลงลิฟท์ไป

    "ผู้ชายอะไรหัวงูเป็นบ้า" น้ำหนึ่งพูดพลางนึกถึงเหตุการณ์เมื่อตอนบ่ายที่ทำเอาเธอลมออกหูไม่หยุด

     

    รถเปิดประทุนคันสีดำที่มีนางแบบสาวสวยเป็นผู้ขับขี่ค่อยๆแล่นช้าลงและจอดลงที่ตรงหน้าร้าน 'Modern Restaurant'

    "น้ำ!!" แพรัมภาตะโกนเสียงดังแล้วก็ต้องหัวหดเมื่อทุกคนในร้านหันมามองเธอเป็นตาเดียว นักร้องบนเวทีกลายเป็นรูปปั้นที่ไม่มีใครสนใจในทันที

    "อะไรแพร พูดเบาๆก็ได้ เกรงใจลูกค้า"

    "แหะๆ จะบอกว่าดลโทรมาบอกว่ากำลังจะกลับมาล่ะ" ดลหรือนพดลที่แพรัมภาพูดถึงคือเพื่อนชายสมัยมัธยมที่สองสาวสนิท แต่ย้ายไปเรียนที่ต่างประเทศหลังจากจบมัธยม

    "จริงดิ!! เย้ๆๆ" น้ำหนึ่งอารมณ์ดีกับข่าวที่ได้รับฟังมา "คิดถึงจังเลยอ่ะ อยากเจอเร็วๆ"

    "เนอะ" แพรัมภาพยักหน้าเห็นด้วย

    "ไงจ๊าาาคนสวย" ลูกค้าชายขี้เมาคนหนึ่งพูดขึ้นข้างหลังสองสาว

    "ว้าย!!" แพรัมภาร้องเสียงหลงเมื่อชายคนดังกล่าวเอามือมาสัมผัสที่บั้นท้ายของเธอ ทั้งแพรัมภาและน้ำหนึ่งได้แต่ยืนนิ่งทำอะไรไม่ถูกเนื่องจากไม่ต้องการเสียลูกค้า

    "เฮ้ย!! คิดจะทำไรแฟนกู" เสียงของชายหนุ่มที่ฟังดูคุ้นหูดังขึ้น

    สีหน้าของรวิชที่ดูจริงจังทำให้ลูกค้าชายคนนั้นนั่งลงอย่างสงบเสงี่ยม

    "เป็นอะไรรึเปล่าคะ" เจนจิราถลาเข้ามาถามแพรัมภาด้วยความเป็นห่วง

    "ไม่เป็นไรค่ะ ขอบคุณค่ะ"

    "อาวเจน" น้ำหนึ่งพูดออกมาอย่างประหลาดใจ

    "น้ำ..." เจนจิราก็ดูประหลาดใจเช่นกัน "น้ำมาทานข้าวเหมือนกันหรอ"

    "อ๋อเปล่าจะ น้ำมาเฝ้าร้าน" น้ำหนึ่งยิ้มให้เจนจิราแล้วพาไปนั่งที่โต๊ะ "มื้อนี้ให้น้ำเลี้ยงนะเจน"

    "อย่าดีกว่าน้ำ"

    "ไม่เป็นไรหรอก ตอบแทนที่คุณวิชช่วยเพื่อนน้ำด้วยไง" เหตุการณ์เมื่อครู่ทำให้น้ำหนึ่งต้องยอมรับว่ารวิชก็มีความเป็นคนดีในระดับหนึ่ง

    "ก็ได้จ้ะ" เจนจิราทนแรงรบเร้าไม่ไหวจึงตอบตกลง

    "น้ำขอตัวก่อนนะคะ" เธอยิ้มหวานให้คนทั้งสองแล้วแยกตัวไปประจำเคาน์เตอร์แคชเชียร์ด้านใน

    "เจนสั่งอะไรไปก่อนนะ เดี๋ยวผมมา"

    "ค่ะ"

    รวิชรีบเดินตามน้ำหนึ่งจนทันที่มุมลับตาคนด้านหลังร้านและดึงมือเรียวไว้

    "อ้าวคุณวิช เมื่อกี้ขอบคุณมากนะคะ ที่ช่วยเพื่อนน้ำไว้" เธอพูดพร้อมกับค่อยๆดึงมือตัวเองออกย่างมีมรรยาท

    "ไม่เป็นไรครับ" รวิชพูดแล้วเดินเข้ามาใกล้หญิงสาว น้ำหนึ่งค่อยๆถอยหลังหนีจนติดกำแพง

    "ดะเดี๋ยวเจนก็รอนานหรอกค่ะ" น้ำหนึ่งพูดตะกุกตะกักเพราะตอนนี้ใบหน้าของเธอและเขาแทบจะติดกันอยู่แล้ว

    "ผมมาทวงค่าตอบแทน" รวิชพูดเสียงเรียบ

    "คุณจะเอ..อุบ..." เสียงของเธอหายลงไปพร้อมกับที่ชายหนุ่มบรรจงทาบริมฝีปากลงไปอย่างช่ำชองและสอดลิ้นหนาเข้าไปวนหาความหวานอย่างเชี่ยวชาญ

    มือทั้งสองข้างของเขาตรึงแขนเรียวที่กำลังต่อต้านไว้ ในขณะที่ปากก็เริ่มรุกรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ เธอไม่มีแรงพอจะผลักเขาออกห่าง เมื่อเห็นว่าหญิงสาวหยุดขัดขืนแล้ว เขาก็ค่อยๆปล่อยมือที่ตรึงเธอไว้ และเลื่อนเข้าไปในเสื้อเชิร์ตขาวที่ร่างบางสวมอยู่พร้อมกับเคล้าคลึงด้วยความพอใจ

    สติสัมปชัญญะของน้ำหนึ่งหายไปชั่วขณะ เธอรู้สึกตัวอีกทีก็ตอนรวิชเดินกลับไปหาเจนจิราแล้ว หัวใจของเธอเต้นรัวเร็วผิดจังหวะและหล่นตุบลงไปอยู่ที่พื้น ลมหายใจหอบถี่ สมองของเธอเบลอไม่สามารถสั่งการอะไรได้ เธอค่อยๆหอบสังขารที่หมดเรี่ยวแรงไปนั่งที่เคาน์เตอร์

    "น้ำ เป็นอะไรไปรึเปล่า" แพรัมภาถามด้วยความเป็นห่วงเมื่อสังเกตเห็นอาการเหม่อลอยของเพื่อนสาว

    "..."

    "น้ำ" แพรัมภาเขย่าตัวน้ำหนึ่งอย่างแรงจนแทบจะหล่นจากเก้าอี้

    "ห๊า..." น้ำหนึ่งสะดุ้งตกใจ

    น้ำหนึ่งหันมามองหน้าเพื่อนสาว พลันก็มีภาพที่ถูกรวิชล่วงเกินแทรกเข้ามาในหัว หยาดน้ำตาใสๆไหลออกมาจากดวงตาคู่สวย แพรัมภาตกใจที่จู่ๆเพื่อนสาวก็ปล่อยโฮออกมา เธอจึงพาน้ำหนึ่งเข้าไปในครัวหลังร้าน

    "น้ำ หยุดร้องไห้ก่อน บอกมาซิว่าน้ำเป็นอะไร"

    "...ฮึกๆ..."

    แพรัมภาค่อยๆโอบเพื่อนสาวให้ซบลงบนบ่าของตน "ใจเย็นๆก่อนน้ำ"

    "...ฮึกๆ...ฮือๆ..." แทนที่น้ำหนึ่งจะหยุดร้อง เธอกลับร้องออกมาหนักกว่าเดิม แพรัมภาจึงหยุดพูดและรอให้น้ำหนึ่งหยุดร้องไห้เอง

    เมื่อน้ำหนึ่งสงบสติได้ เธอก็เล่าให้เพื่อนสาวฟังโดยละเอียดว่าเธอประสบกับอะไรมาบ้าง

    "ต๊าย!!" แพรัมภาอุทานออกมา "คุณวิชอัศวินม้าขาวนี่ก็ใช้ย่อย ขโมยจูบแรกไปจากน้ำหนึ่งซะละ" แพรัมภาพยายามแซวเพื่อนเล่น แต่ดูเหมือนมันจะไม่ได้ผล

    "มันไม่ใช่เรื่องตลกเลยนะแพร"

    "โถน้ำ แพรขอโทษ ต่อไปก็ระวังหน่อยละกัน เพราะเท่าที่ฟังมา รู้สึกว่าคุณวิชจะหัวพญานาคซะด้วย"

    "อื้อ"

    "เก็บร้านแล้วกลับบ้านกันเถอะ"

    น้ำหนึ่งยิ้มให้แทนคำตอบ

     

    เวลาแสนดึกขนาดนี้ หลายๆบ้านคงปิดไฟหมดแล้ว แต่ไม่ใช่กับชายหนุ่มรูปร่างสูงโปร่งที่กำลังนอนกระสับกระส่ายคิดถึงเหตุการณ์เมื่อตอนกลางวันอยู่ นึกไปก็ขำไป นางแบบอะไรแค่จูบก็ยังไม่เป็น ชายหนุ่มแก้ปัญหาการนอนไม่หลับโดยเปิดมือถือดูรูปคู่ระหว่างเขากับนางแบบอีกหลายสิบคน ทุกคนล้วนแต่มีหน้าตาสระสวยไม่ต่างจากน้ำหนึ่งสักเท่าไหร่ แต่สิ่งที่ทำให้เขาสนใจน้ำหนึ่งเป็นพิเศษคงเป็นเพราะความบริสุทธิ์ผุดผ่องที่เห็นได้ชัดจากตัวของหญิงสาว เขากดโทรศัพท์ถึงเพื่อนก่อนจะกรอกเสียงลงไป

    "มึงรู้จักนางแบบเยอะใช่ป่ะวะ...จัดน้ำหนึ่งให้กูหน่อย...เออๆ...ขอบใจมากเว้ยเพื่อน" รวิชกดตัดสายและหลับไปด้วยความเป็นสุข

     

    เช้าวันต่อมา... รวิชกดโทรศัพท์ถึงน้ำหนึ่งที่พึ่งได้เบอร์มาจากเพื่อนสดๆเมื่อตอนเช้าตรู่นี่เอง

    "อรุณสวัสคร้าบบ"

    "ฮัลโหล" เสียงของน้ำหนึ่งงัวเงียต่างจากของรวิชที่ฟังดูสดชื่นเหลือเกิน "ใครคะ"

    "ผมไง จำไม่ได้หรอ"

    "เอ่อ... ไม่ได้อ่ะค่ะ" น้ำหนึ่งพูดพลางชัดตัวลุกขึ้นพิงหัวเตียง

    "ผมรวิชครับ"

    ทันทีที่รวิชแนะนำตัว น้ำหนึ่งก็เบิกตาโพลง "คุณ... คุณรู้เบอร์ฉันได้ยังไงน่ะ"

    "แหม... เบอร์สาวสวยแบบคุณผมจะไม่มีได้ไงล่ะครับ"

    "เอ๊ะคุณนี่" น้ำหนึ่งพูดออกมาด้วยความโมโหที่ไม่อาจทำอะไรชายหนุ่มได้ แค่ได้ยินเสียงเขามันก็ทำให้เธอโมโหลมแทบออกหูอยู่แล้ว

    "เที่ยงนี้ว่างมั้ยครับ"

    "ไม่ว่าง" น้ำหนึ่งตอบโกหกห้วนๆทั้งๆที่ตัวเองว่าง แต่ชายหนุ่มไม่ฟัง

    "เดี๋ยวพบกันครับ"

     

    "แพร วันนี้ไปสตูฯเป็นเพื่อนน้ำได้มั้ย"

    "ได้สิ ทำไมหรอ"

    "น้ำกลัวคุณวิช"

    คำตอบของเพื่อนสาวมีเหตุผลพอควร แพรัมภาจึงไปสตูดิโอเป็นเพื่อนนำหนึ่ง

    "อ้าวคุณน้องแพรมาด้วยหรอคะ" กระเทยสาวทักทายเสียงแหบ

    "ค่ะพี่ติ๋ม ฝากน้ำด้วยนะคะ" แพรัมภาฝากฝังเพื่อนสาวแล้วแยกตัวไปนั่งรอที่ห้องรับรอง

    "พี่ติ๋มคะ เดี๋ยวน้ำขอไปเข้าห้องน้ำแปบนะคะ"

    "แล้วรีบๆตามมานะคะคุณน้อง"

    "ค่ะ" น้ำหนึ่งตอบรับเป็นอย่างดีก่อนจะรีบเดินลงลิฟท์ เธอใช้ลิฟท์ที่อยู่ด้านหลังอาคารที่ปกติจะใช้หลบนักข่าว เนื่องจากกลัวว่าถ้าใช้ลิฟท์ตัวหน้าอาคารจะเจอกับชายหนุ่มหัวพญานาค

    ...ติ๊ง...G...

    ทันทีที่ลิฟท์เปิดออก เสียงชายหนุ่มที่ฟังดูคุ้นหูก็ดังขึ้น

    "โชคดีจังเลย เจอแต่เช้า" รวิชพูดสบายอารมณ์ แต่หญิงสาวในลิฟท์กลับมีอาการตื่นกลัว "คุณน้ำหนึ่งครับ แค่เจอผมทำไมต้องสั่นขนาดนั้นด้วยครับ" น้ำหนึ่งรีบกดปิดลิฟท์และกดขึ้นชั้นบน

    แต่ก่อนที่ลิฟท์จะปิด ชายหนุ่มยื่นแขนมาขวางไว้และแทรกตัวเข้ามาในลิฟท์ ทันทีที่ชายหนุ่มเข้ามา น้ำหนึ่งรับรู้เพียงว่าอันตรายพุ่งเข้าใส่เธออย่างจัง จะร้องให้ใครช่วยก็ไม่ได้เพราะแถวนี้ไม่ค่อยมีคนเดินผ่าน แถมยังเช้าเกินกว่าที่คนจะเข้ามาทำงานด้วย

    รวิชเบียดร่างระหงส์ติดผนังลิฟท์พร้อมกับกดลิฟท์ลงชั้นล่าง น้ำหนึ่งใช้แรงที่มีอยู่ผลักเขาออกห่าง ซึ่งก็ผลักออกไปได้แค่ไม่กี่ฟุต

    "คุณวิช ถอยออกไปนะ!!" คำพูดของเธอเหมือนยิ่งเชิญชวนให้เขาเข้าใกล้มากขึ้น

    รวิชตรึงมือทั้งสองข้างของหญิงสาวไว้ระดับไหล่แล้วยื่นใบหน้าเข้าไปใกล้จนเธอสัมผัสได้ถึงลมหายใจอุ่นๆของชายหนุ่ม

    "ถอยออกไปนะคุณวิช ไม่งั้นฉันจะร้องให้คนช่วย"

    "เอาซี่ ผมก็อยากรู้นัก ว่านางแบบสุดฮอตอย่างคุณกับคนธรรมดาๆอย่างผม ใครจะเสียหายมากกว่ากัน" รวิชไม่รอช้ารีบบดขยี้ริมฝีปากนั้น น้ำหนึ่งไม่รอช้าเช่นกัน เธอเข่าที่ท้องของชายหนุ่มอย่างแรงทำให้เธอหลุดจากการจับกุมและชายหนุ่มตัวงอเป็นกุ้ง

    น้ำหนึ่งวิ่งหนีไปขึ้นลิฟท์ด้านหน้าตัวอาคารก็พบกับเจนจิราพอดี

    "น้ำวิ่งหนีอะไรมาน่ะ"

    "...แฮ่กๆ...เปล่าจะ"

    "ดูซิ หน้าไม่ผ่องเลย ขึ้นไปให้พี่ติ๋มช่วยแต่งดีกว่า" เจนจิราพูดพลางพิจารณาใบหน้านวลของเพื่อนนางแบบอย่างพินิจพิเคราะห์แล้วดึงทิชชู่ออกมาซับเหงื่อให้น้ำหนึ่งพร้อมกับพาขึ้นลิฟท์ไป

    "โธ่เว้ย!! มาขัดจังหวะจริงๆ" รวิชสบถออกมาแล้วเดินกุมท้องขึ้นลิฟท์ตามไป

     

    "วิช!! มารับเจนหรอคะ" เจนจิราพูดอย่างดีใจเมื่อเห็นแฟนหนุ่มเดินเข้ามาในห้องถ่ายแบบ รวิชยิ้มให้เธอ เธอจึงยิ้มร่าวิ่งเข้าไปกอดชายหนุ่ม

    "เดี๋ยวผมนั่งรออยู่แถวนี้แหละ คุณตั้งใจทำงานเถอะ" รวิชพยายามแกะมือของหญิงสาวที่กำลังกอดรัดเขาอยู่ออก ในขณะเดียวกันสายตาคมก็สบกับสายตาคู่สวยของน้ำหนึ่งพอดี หญิงสาวรีบหลบสายตาคมแล้วหันไปจัดผมเผ้าตัวเองให้อยู่ทรง รวิชก้มลงจุมพิมที่หน้าผากของเจนจิรา เธอจึงยอมปล่อยเขาเป็นอิสระ

    ตลอดเวลาที่ถ่ายแบบ แม้น้ำหนึ่งจะตั้งใจทำงาน แต่เธอก็อดไม่ได้ที่จะชำเลืองมองชายหนุ่มเป็นระยะๆ และหลายครั้งที่เธอสบตากับเขาโดยบังเอิญ

    "เจนไปเปลี่ยนชุดแปบนึงนะคะวิช"

    น้ำหนึ่งกำลังจะเดินตามเจนจิราไป แต่รวิชดึงมือเธอไว้ โดยไม่ให้แฟนสาวเห็น

    "จะรีบไปไหนล่ะครับ" รวิชพูดเบาๆ

    "ฉันจะไปเปลี่ยนเสื้อผ้า" น้ำหนึ่งตอบห้วนๆ

    "แล้วทำไมตอนถ่ายแบบอยู่ต้องมองผมด้วยล่ะครับ" เขาถามพลางจ้องลึกเข้าไปในดวงตาสีน้ำตาลของหญิงสาว

    "ก็..." ก่อนที่น้ำหนึ่งจะตอบ รวิชก็ผลักเธอออกห่างตัวเพราะแฟนสาวเขาเดินออกมาจากห้องน้ำพอดี

    "เพื่อนเจนน่ารักจังเลยครับ" รวิชที่เล่นละครได้เก่งกว่าดาราพูดกับแฟนสาว

    "เจนก็ว่าอย่างนั้นแหละค่ะ" เจนจิรายิ้มให้อย่างเป็นมิตรพลางโบกมือลาเพื่อนนางแบบ

     

    "น้ำ!! ไปรับดลกัน" แพรัมภาเคาะประตูปลุกเพื่อนสาวแต่เช้าตรู่

    "หืม..." ดวงตาหยาดเยิ้มสะลึมสะลือยังคงปิดสนิทในขณะที่มือเรียวก็ควานหานาฬิกาปลุกบนหัวเตียง "ยัยแพร!! นี่มันพึ่ง 7 โมงเองนะ" น้ำหนึ่งพยายามตะโกนสุดเสียงแต่เสียงที่ออกมานั้นยังดังไม่ถึงครึ่งของเพื่อนสาว

    "ก็เราไปรอก่อนไง เดี๋ยวดลเค้ารอนาน"

    "อืมๆก็ได้" น้ำหนึ่งลุกจากเตียงไปอาบน้ำและเมื่อออกมาที่ห้องรับแขกพบแพรัมภานั่งคอยหน้าบานอยู่

     

    แพรัมภาที่คอยืดคอยาวชะเง้อหานพดลเดินคอตกกลับมานั่งลงข้างๆเพื่อนสาวที่นั่งสัปหงกอยู่

    "ดลเนี่ยช้าจัง"

    "เครื่องคง delay มั้ง"

    "อื้อ คงงั้นแหละ... เอ๊ะ!! นั่นดลนี่" แพรัมภาวิ่งเข้าไปกอดชายหนุ่มร่างสูงที่ลากกระเป๋าเดินทางมาด้วยความคิดถึง

    "แพรหรอ" ชายหนุ่มถาม

    "ใช่จ้า" แพรัมภายิ้มกว้างให้แล้วดึงนพดลมาหาเพื่อนสาวที่นั่งสัปหงกอยู่

    "น้ำ!! สวยขึ้นเป็นกองเลยนะเนี่ย" นพดลพูดอย่างตื่นตาตื่นใจ ทำให้หญิงสาวที่ยืนคอยืดคอยาวอยู่ตั้งนานซึมในทันใด ชายหนุ่มมาดขรึมแต่ขี้เล่นสังเกตเห็นจึงหันมายีหัวแพรัมภาเหมือนอย่างเด็กๆพร้อมทั้งเอ่ยปากชม "แพรก็น่ารักขึ้นเหมือนกันล่ะน่า" คำชมจากปากของหนุ่มมาดขรึมทำให้หญิงสาวยิ้มออก

    "ดลไปอยู่คอนโดกับแพรกับน้ำมั้ย เดี๋ยวแพรย้ายไปอยู่ห้องเดียวกับน้ำก็ได้"

    "ใช่ๆ ดลมาอยู่ด้วยกันสิ จะได้ไม่ต้องไปเช่าห้องอยู่" น้ำหนึ่งคะยั้นคะยอ

    "ก็ได้" นพดลยิ้มให้สองสาวแล้วทั้งสาวก็ช่วยกันขนสัมภาระกลับคอนโด

     

    ในขณะที่สามเกลอกำลังคุยกันอยู่อย่างออกรสนั้นก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้น

    "ค่า" น้ำหนึ่งวางแก้วน้ำแดงลงบนโต๊ะแล้วเดินไปเปิดประตูต้อนรับแขกผู้มาเยือน

    "สวัสดีครับ" รวิชส่งช่อกุหลาบแดงให้หญิงสาวและยิ้มออกมาด้วยความพอใจที่คนมาเปิดประตูคือน้ำหนึ่ง

    น้ำหนึ่งไม่รับและพยายามดันประตูให้ปิด แต่ชายหนุ่มกลับผลักเข้ามาอย่างสบายๆและใส่ช่อดอกไม้ลงในแจกันเปล่าที่วางอยู่บนเคาน์เตอร์

    "ใครน่ะน้ำ" แพรัมภาถามพร้อมกับหันมามอง "คุณวิช..."

    นพดลได้ยินชื่อคุ้นหูก็หันไปมองตาม "ไอ้วิช!!"

    "ไอ้ดล!!" รวิชอุทานออกมาด้วยความประหลาดใจไม่แพ้กัน

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×